Home / เมือง / Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+) / บทที่ 15 : แขนซ้ายของข้า

Share

บทที่ 15 : แขนซ้ายของข้า

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-05-16 03:39:31

ฝุ่นโขมงคละคลุ้งเร่ิมจางไป เจฟเฟอร์ไม่ถึงกับสลบแต่รู้สึกได้เลยว่าพวงแก้มเขาไม่ปกติแน่ มันเจ็บแปล๊บ ๆ แซมไปกับประกายไฟที่สปาร์คเป๊าะแป๊ะ ๆ อยู่ใต้ผิว ขบกรามซี๊ดริมฝีปากก่อนจะใช้มือที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวลูบลงไปยังใบหน้าที่เพิ่งโดนตบ

.

"ซี๊ดดดดด! เจ็บชิบหาย หมอยูมิโกะแกไปเอาแรงควายแบบนี้มาจากไหนฟะ อูยยย! "

"โอ๊ะ! แล้วนี่มัน! เชี้ย! กระเทาะออกมาเป็นกาบเลยแม่งเอ๊ย! หนังหน้ากู!"

.

"เป๊าะแป๊ะ ๆ ! , เปรี๊ยะ ๆ ! "

.

ฝ่ามือสั่นระริกภายหลังจากที่เจฟเฟอร์คลำไปโดนแผงโลหะกับเศษสายไฟที่อยู่ในหน้าตัวเองเข้า มันเสียหายหนักเอาการ! หน้าเขาแหว่งไปครึ่งซีก ผิวหนังหลุดร่อนแตกระแหงออกเป็นขุย ยิ่งพยายามจับยิ่งเจอแต่หลุมโบ๋ อย่าว่าแต่ใช้กระจกส่องเลย แค่นี้เจฟเฟอร์ก็รู้แล้วล่ะว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของตนได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว มิหนำซ้ำ! ลิ่มเลือดกับเศษน้ำมันหล่อลื่นที่ไหลซึมออกมา ยังไปเรียกแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างฝูงแมลงวัน ให้มาตอมใบหน้าเข้าให้อีก

.

"ไป! ชิ่ว! ไป! ฉันยังไม่ตายสักหน่อยเจ้าแมลงวันหัวเขียว คนเว๊ย! ไม่ใช่ศพฉันยังไม่เน่าโว๊ยเจ้าพวกบ้า! ไป! ชิ่ว! "

"แหนะ! ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ อย่านะเว่ยอย่าไชเข้ามาในหน้าฉัน แผลแตกระดับนี้จะซ่อมได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย ชิ่ว! ไป! "

.

โถเจฟเฟอร์ผู้หน้าสงสาร ด้วยความที่เขามีแขนอยู่ข้างเดียวอะไร ๆ ก็เลยยากไปหมด สุดท้ายก็เลยต้องตัดสินใจลุกขึ้น แล้วก็วิ่งหนีฝูงแมลงวันอันสกปรกแบบโคตรจะทุลักทุเล ล้มลุกคลุกคลานหน้าทิ่มดินไปหลายรอบ เรียกได้ว่าหมดกันกับสภาพสายลับเชิงสูงผู้เก่งกาจที่สุดของ Parallel

.

เขาเลือกที่จะวิ่งย้อนกลับไปทางเดิม ตามทางที่เพิ่งจะถูกฝ่ามืออรหันต์ตบจนปลิวละล่อง ในแง่ของการนำทางนั้นถือได้ว่าแรงอัดขนาดมหึมาที่ทำให้ผิวดินลึกลงเป็นร่องยาวหลายร้อยเมตรนี้ ได้ช่วยเขาเอาไว้มาก แต่กับคำถามที่ว่ามันคือพลังอะไร? หมอยูมิโกะทำได้ยังไง? และที่นี่คือที่ไหน? ยังคงเป็นปริศนาที่ทำให้เจ้าตัวต้องฉุดคิดอยู่ตลอด มันควรจะเป็นชั้น 4 ของอาคาร Parallel มิใช่เหรอ พื้นที่เหยียบอยู่ก็ควรจะเป็นแผ่นกระเบื้องหรือไม่ก็ปูนซิเมนต์หยาบ ๆ สิ ด้านบนเองก็ควรจะเป็นฝ้าเพดานที่มีหลอดไฟส่องสว่าง ไม่ใช่ดวงอาทิตย์ดวงเบ้อเร่อกับก้อนเมฆขาวปุกปุยเช่นนี้

.

"วุ๊ย! รำคาญจริงเว๊ย! ไอ้แมลงพวกนี้คนยิ่งต้องใช้สมาธิในการคิดอยู่"

.

"หึ่ง ๆ ๆ ๆ หึ่ง ๆ ๆ ๆ "

.

"พวกมึงจะตอมอะไรกูนักหนาห๊ะ! เดี๋ยวยิงแม่งทิ้งซะให้หมด!"

.

"แล้วดูสิร้อนชิบหาย! กอหญ้าแห้งกลิ้งหลุน ๆ นั่นอีก! พ้ืนที่ด้านหลังม่านเจลตึ๋งหนืดนี่มันยังไง จะว่าเป็นโฮโรแกรมสำหรับฝึกซ้อมการออกภาคสนาม ตัวเรา , ปิเก้ , เฟอร์นันโด ก็เคยใช้มาก่อนแล้ว มันไม่ใช่แบบนี้เลย! สิ่งที่เราสัมผัสอยู่นี้คือของจริงล้วน ๆ เล่นจริงเจ็บจริง! หน้าเละ ๆ ของเรานี่ไงคือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด"

.

"หึ่ง ๆ ๆ ๆ หึ่ง ๆ ๆ ๆ "

.

"เออ! ใช่! จ๊ะใช่! แมลงวันอย่างพวกมึงก็เป็นของจริงด้วย! พอใจรึยัง! ชิ!"

.

ระหว่างพรั่นพรึงกับตัวเองไปเรื่อย ๆ สองเท้ากับแขนหนึ่งข้างก็ประคองร่างอันอิดโรยเดินโซซัดโซเซตามทางมาจนกระทั่ง เริ่มสังเกตเห็นเงาตะคุ่มของหญิงสาวในชุดรัดรูปสีเหลืองอำพัน

.

"อ่ะนั่นไงเริ่มเห็นเงาลาง ๆ ของหมอยูมิโกะแล้ว ชะลอฝีเท้าหน่อยดีกว่าเรา เซ็ทระบบอาวุธไว้ด้วยก็ดีเผื่อหมอแกจะทำอะไรบ้า ๆ ใส่เราอีก"

.

"โหมดจู่โจม สวิทซ์ออน!"

.

สิ้นสุดคำสั่งควันดันขึ้นโขมง! ซ้ำร้ายเขม่าบางส่วนยังลอยลอดออกมาทางผิวหน้าที่แตกเป็นโพรง ในมุมมองบุคคลที่หนึ่งเจฟเฟอร์ไม่สามารถเปลี่ยนทุกอย่างเป็นสีแดงได้ ตรงกันข้ามหน้าจอสั่งการของเขากลับปรากฏแถบดำคาดเด่นขึ้นมากลางจอ พร้อมกับข้อความเตือนที่แจ้งให้ทราบว่า

.

"SYSTEM.. ERROR!!!"

.

"ตายโหงแล้วมึงเอ๊ย! เอาไงต่อดีวะทีนี้ คิดสิคิด! แต่เราไม่มีชอยต์ให้เลือกเลยอ่ะ จะกลับออกไปข้างนอกก็ไม่ได้ ต้องเป็นเพราะเราไปเผาม่านเจลของหมอแกแน่แกถึงได้เล่นงานเอาแบบนี้"

.

"เฮ้อ..!"

.

"เอาวะ! ทำใจดีสู้เสือดูสักตั้ง อธิบายเหตุผลให้หมอแกฟังดี ๆ บางทีอารมณ์แกอาจจะดีขึ้นก็ได้ เพราะถึงยังไงซะแขนซ้ายที่ขาดของเราก็มีแค่หมอยูมิโกะเท่านั้นที่มีสกิลพอที่จะช่วย งานนี้ยังไงก็ต้องพึ่งหมอว่ะ"

.

ชายหนุ่มรวบรวมความกล้า เขายืดตัวขึ้นแล้วเดินตรงเข้าไปหาหมอสาวอย่างสง่าผ่าเผยแบบไม่มีอะไรจะเสีย แม้ว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยกลุ่มควันโพยพุ่ง พวงแก้มจะกะเทาะแตกเป็นรูโบ๋ และเต็มไปด้วยฝูงแมลงวันตอนหึ่ง ๆ ก็ตามที

.

"หมอครับคือผมขอโทษ เรื่องม่านเจลผม.. ผะ...!"

.

"ชู่วววว! ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกค่ะ หมอรู้ทุกอย่างหมดแล้ว.."

.

"ได้ไงครับ ก็ในเมื่อผมเพิ่งเจอกับหมอ?!"

.

"เอ้าคุณเจฟเฟอร์! ก็ในเมื่อในนี้คือโลกของหมอ หมอย่อมต้องรู้ทุกอย่างสิแล้วหมอก็มีรีโมท มาสิมายืนทางนี้หมอจะทำให้ดู" , "ติ๊ด!"

.

หมอยูมิโกะกวักมือเรียกเจฟเฟอร์ให้มายืนข้าง ๆ ทั้งที่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรต่างกัน ตำแหน่งที่หมอสาวในชุดรัดรูปยืนอยู่ก็เป็นแค่เนินดินลูกรังกว้าง ๆ มีต้นไม้แห้ง ๆ งอกกระหยอมกระแหยมคล้ายกับจะตายมิตายแหล่ แต่ทว่าวินาทีที่เสียงรีโมทหยุดร้อง ความลับบางส่วนก็ได้ถูกเฉลยออกมา!

.

.

จู่ ๆ รอบจุดที่ทั้งสองยืนอยู่ก็เกิดการเคลื่อนไหววูบวาบ! ดินแห้ง ๆ แข็ง ๆ ดันกลายสภาพเป็นอะไรที่ยืดหยุ่นราวกับเยลลี่ ใช่แล้ว! คุณลักษณะเหมือนกับม่านเจลตึ๋งหนืดที่เจฟเฟอร์เพิ่งเผาทำลายไปเป๊ะ ๆ ต่างกันก็แค่สี ที่หนนี้เป็นแผ่นเจลสีน้ำตาลเข้มคล้ายกับสีของดินมากกว่า

.

30 วิผ่านไปเจฟเฟอร์ก็ต้องตกตะลึงอีกที เมื่อคราวนี้หน้าจอคอนโซลสั่งการแล้วก็แป้นคีย์บอร์ดควบคุมต่าง ๆ ได้ค่อย ๆ กระเถิบตัวผุดขึ้นมาจากเบื้องล่าง โผทะยานแหวกก้อนเจลที่แผ่สยายอยู่เต็มพื้น รูปร่างมันคล้ายกับหน้าจอสำหรับดูภาพวงจรปิดตามห้างสรรพสินค้า ส่วนชุดคีย์บอร์ดเองก็เป็นระบบยิงแสงโฮโรแกรม เหมือนกันกับที่หมอยูมิโกะใช้อยู่ในโซนของชั้น 4 ส่วนหน้า ในโลกข้างนอก

.

"เอิ่ม! หน้าจอพวกนี้คืออะไรครับหมอ? ดูดิผุดขึ้นมาทั้งโต๊ะทำงานเลย?"

เจฟเฟอร์ถามด้วยความสงสัย พลางสืบเท้าเข้าไปดูภาพเคลื่อนไหวที่เด่นหลาอยู่บนนั้น จ๊วก.. จ๊าก.. จึก.. จัก!.. จึก! คือเสียงฝ่าเท้าที่จมบุ๋บลงไปในเจลกว่าครึ่งแข้ง ซึ่งก็เป็นความอยากรู้อยากเห็นเจ้ากรรมนี้เอง ที่ทำให้เจฟเฟอร์ลืมไปซะสนิทว่าตัวเองนั้นเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะเมือกเจลแบบนี้มาแล้ว

.

"จะดูเอาเอง.. หรือจะให้หมออธิบายล่ะคะคุณเจ้าหน้าที่?"

เจฟเฟอร์ทำหน้างงหลังได้ยินคำถาม แต่ถึงครานั้นเจ้าตัวก็ยังเดินหน้าต่อ

"หืม!.. เฮ่ย!"

"น่ะ.. นี่มันความทรงจำของผมนี่! ทุกอย่างเลยทั้งคำพูดท่าทางความคิด หมอ Drain มันออกไปจากหัวผมตั้งแต่เมื่อไหร่!"

.

"ไม่สำคัญหรอกค่ะ ก็คุณสลบไปตั้งกี่ที หมอจะให้ยูมิจังผู้ช่วย Drain ออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ถูกต้องไหมคะ?"

แพทย์หญิงหรี่ตากอดอก พลันจ้องเขม็งมาทางเจฟเฟอร์หมายจะเอาเรื่อง

.

"แต่กับสิ่งที่คุณคิดและทำหมอรับไม่ได้จริง ๆ ค่ะคุณเจฟเฟอร์ พวกคุณมันสารเลว! ทุกคนเลย! พวกภาคสนามทุก ๆ คน! หมอเห็นแล้วนะว่าเกิดอะไรขึ้นในโรงอาบน้ำ ไหนจะความคิดวิตถารที่คิดจะทำมิดีมิร้ายกับแคทเธอรีนร้านดอกไม้อีก แล้วก็กับยูมิจังผู้ช่วยหมอ! โอ๊ยเยอะแยะเต็มไปหมด! พวกคุณทำกับสตรีเพศอย่างเราได้ยังไงมิทราบ นั่นต่ำทรามและไร้ความเป็นสุภาพบุรุษที่สุด! เรื่องนี้ต้องถึงหูบอสคอยดู!"

.

"งั้นเหรอครับ! เพราะงั้นหมอก็เลยตบผมจนหน้าเป็นอย่างงี้อ่ะเหรอ!"

.

"แกร๊ก!" , "โอ๊ย!"

เจฟเฟอร์ขึ้นเสียงใส่บ้างเพื่อเป็นการตอบโต้ แต่ดันโกรธไปหน่อยก็เลยพลาดสะบัดคอแรงเกินไป

.

"หมอดูสภาพผมดิแมลงวันตอมหึ่ง ๆ เลย สายไฟแม่งขาดจนสปาร์คออกมาข้างนอก ควันก็ขึ้นโขมง! ทีแรกผมก็คิดว่าเป็นเพราะผมไปยิงทำลายผนังม่านเจลของหมอซะอีก ที่แท้สาเหตุก็เป็นเพราะเรื่องนี้นี่เอง"

.

"นั่นก็ส่วนหนึ่งค่ะแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ผนังนั่นเป็นสิ่งมีชีวิตเทียมสังเคราะห์ที่หมอสร้างขึ้นมาเช่นเดียวกับยูมิจังและนาริตะ จะต่างกันนิดหน่อยก็แค่ไม่มีกระดูกสันหลังแล้วก็ไม่มีร่างกายเหมือนมนุษย์ หมอดีดนิ้วเปร๊าะเดียวทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิมแล้ว ลองหันกลับไปดูสิ!"

.

จบประโยคเจฟเฟอร์ก็เลยรีบเอี้ยวตัวกลับไปมอง แล้วก็ได้พบกับความจริงอันน่าอัศจรรย์ที่ว่า ม่านเจลกำแพงกั้นนั้นได้เซ็ตตัวกลับคืนรูปร่างแล้ว สีแดงช้ำเลือดช้ำหนองของมันกลับมาทำงานเป็นปกติ รอยไหม้หรือร่องรอยความเสียหายถูกกลืนกินไปหมด มิหนำซ้ำการเต้นตุบ ๆ ของมันก็เหมือนจะรวดเร็วขึ้นจนน่าเกรงขาม

.

"มะ.. มัน! มีชีวิต! มิน่าล่ะทำไมหมอถึงผ่านเข้ามาได้ง่าย ๆ ถ้างั้นพื้นดิน , ดวงอาทิตย์ , ท้องฟ้า , ก้อนเมฆ , อุณหภูมิ ฯลฯ โลกหลังม่านเจลนี้คืออะไรกันแน่หมอ?"

.

"หึ ๆ ก็บอกแล้วไงคะว่านี่คือโลกของหมอ อย่าว่าแต่สิ่งที่คุณพูดมาเลยคุณเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ แม้แต่แมลงวันที่ตอมหึ่ง ๆ อยู่บนผิวหน้าคุณนั่นก็ด้วย คุณไม่รู้สึกตัวเลยรึไงว่าผิวหนังกับอวัยวะเทียมของคุณกำลังถูกซ่อมแซมอยู่ ถ้าหมอเดาไม่ผิดคุณคิดที่จะทะลึ่งใช้อาวุธกับหมอใช่ไหม? ไม่งั้นควันพวกนั้นคงไม่เกิดขึ้นหรอก เสียใจด้วยนะคะจากที่จะรักษาได้ภายในสิบนาที ดูท่าทางคงต้องยืดออกไปเป็นชั่วโมงซะแล้ว.."

.

ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับสะดุ้ง! เพราะทันทีที่เจฟเฟอร์ลูบไล้ลงไปบนใบหน้าตัวเองอีกครั้ง เขาก็ได้พบว่าผิวหนังแผ่นใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนอันเดิมแล้วกว่าครึ่ง กลับกลายเป็นแมลงวันอันแสนสกปรกซะอีกที่เป็นคนรักษาพยาบาลตัวเขา ชายหนุ่มนิ่งเงียบโน้มคอลงต่ำ พยายามครุ่นคิดที่จะประติดประต่อเรื่องราวที่ยังสงสัยเข้าด้วยกัน

.

"ถ้างั้นเรี่ยวแรงมหาศาลของหมอเมื่อครู่ล่ะครับ มันเกิดจากอะไรผมคิดยังไงก็คิดไม่ออก?"

"เฮ้อ.. ให้ตายสิ! หมอขอพูดกับคุณตรง ๆ นะคุณเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ ว่าที่หมอทำไปน่ะเพราะจรรณยาบรรณล้วน ๆ หมอไม่อยากรักษาคุณด้วยซ้ำ พวกคุณมันเลว! มันทำร้ายผู้หญิง! แต่หมอก็เลือกปฏิบัติไม่ได้ เพราะในอีกบทบาทหนึ่งเจ้าหน้าที่ภาคสนามของ Parallel ก็คือคนที่ช่วยให้โลกนี้สงบสุข พวกคุณยับยั้งการเกิดสงคราม พ่อแม่หมอเองก็ตายในสงครามและหมอไม่อยากเห็นมันเกิดขึ้นอีก"

.

เธอชำเลืองสายตามายังเขา ก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาใกล้ ๆ และวางมือลงที่บาดแผลตรงแขนซ้ายที่ขาดวิ่น

.

"ถามว่าพลังแขนหมอมาจากไหนใช่ไหม? เห็นแก่คุณงามความดีของคุณหมอจะบอกความจริงให้รู้ก็ได้ สถานที่แห่งนี้คือห้องทดลองของหมอ ทุกอย่างในนี้คือสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์ที่หมอเพาะขึ้นจากเนื้อเยื่อในห้องแล็บ คุณเองก็เห็นยูมิจังกับนาริตะจังแล้วใช่ไหม?"

.

"เอิ่ม.. ใช่ครับ พวกเธอเหมือนคนจริง ๆ แถมยังมีอารมณ์ความรู้สึก"

.

"ถูก! แล้วคุณคิดว่าขนาดสิ่งมีชีิวิตซับซ้อนระดับนั้นหมอยังสร้างได้ แล้วประสาอะไรกับสิงสาราสัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวอย่างจุลินทรีย์ ทำไมหมอจะสร้างไม่ได้ถูกไหม?"

.

"นั่นสินะครับ งั้นหรือหมอกำลังจะบอกผมว่าหมอบังคับได้แม้กระทั่งจุลินทรีย์ที่มองไม่เห็น"

"ก็ตามนั้นแหละ ที่หมอตบคุณจนกระโหลกยุบกระเด็นไปเป็นกิโลได้น่ะ ไม่ใช่เพราะหมอหรอกแต่เป็นเพราะจุลินทรีย์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นล้าน ๆ ๆ ตัวต่างหากที่เป็นคนทำ!"

.

มันดูจริงเอามาก ๆ เจฟเฟอร์ได้ยินถึงกับเสียวแปร๊บขึ้นฉับพลัน หมอยูมิโกะไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นในพื้นทีี่ส่วนตัวของเธอตรงนี้ ถ้าเธอคิดจะฆ่าใครขึ้นมาแล้วล่ะก็ ไม่มีทางเลยที่คน ๆ นั้นจะรอดไปได้ ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มก็เลยพยายามหาทางเลี่ยงด้วยการลองชมเธอดู

.

"ขอบคุณมากนะครับหมอ ทุกอย่างเลย ผมรู้แล้วล่ะครับว่าทำไมบอสถึงเลือกให้เด็กสาวชาวเอเชียที่เหลืออยู่น้อยนิดบนโลก มาทำงานเป็นแพทย์ประจำ Parallel ด้วยงานที่ต้องใช้ความรับผิดชอบสูงขนาดนี้หมอยูมิโกะเก่งมาก ๆ เลยนะครับ"

.

"นี่คิดว่าชมหมอแล้วหมอจะหายโกรธเรื่องที่พวกคุณโทรมหญิงในห้องอาบน้ำเหรอคะ บอกเลยค่ะว่าไม่มีทาง! เรื่องนี้ยังไงซะก็ต้องถึงหูบอสแน่ พวกเราสนิทกันจะตาย!คุณลืมไปแล้วรึไง?"

"เปล่าครับ.. ผมชมจริง ๆ ผมยอมรับชะตากรรมทุกอย่างแหละหมอ แต่ที่ผมชมหมอเนี่ยะเพราะตอนนี้ผมคิดว่าหน้าผมมันโอเคแล้ว ระบบจู่โจมก็หาย ERROR แล้วด้วย แมลงวันของหมอช่วยชีวิตผมเอาไว้เชียว"

.

"เอ๋.. งั้นเหรอนี่พวกเราคุยกันนานขนาดนั้นเชียว ถ้างั้นหมอขอสรุปรวบยอดเลยแล้วกันเกี่ยวกับเรื่องแขนซ้ายที่ขาดไปของคุณ"

.

"ตกลงหมอยังจะช่วยผมอยู่ใช่ไหมครับ? หายโกรธแล้วใช่ไหม?"

.

"อารมณ์ก็ส่วนอารมณ์ค่ะงานก็ส่วนงาน หน้าที่ของหมอคือช่วยรักษาเจ้าหน้าที่ทุกคนใน Parallel ในเมื่อคุณแขนขาดมาหมอก็ต้องรักษาให้ได้ ส่วนเรื่องความผิดของคุณกับพวกที่รุมโทรมหญิงนั้น ไว้ค่อยเคลียร์กันทีหลังหมอคิดว่าหมอมีวิธีเล่นงานคุณได้อยู่แล้ว"

.

"อะ...เอิ่ม ยังไงก็ได้ครับ สุดแต่ใจหมอจะไขว่คว้าเถอะ"

เจ้าหน้าที่หนุ่มหลุบตามามองต้นแขนที่ขาดหายไปของตัวเอง สลับกับการมองเข้าไปยังนัยน์ตาอันเล็กหยีเรียวยาวของหมอยูมิโกะ ที่คาดเดาไม่ได้ว่าเธอจะทำอะไรต่อจากนี้

.

"โอเคถ้างั้นหลบมาทางนี้แป๊บนึง ขอหมอใช้คีย์บอร์ดหน่อยรีโมทมันสัญญาณไปไม่ถึง"

.

"กร๊อก ๆ ๆ แกร๊ก ๆ ๆ "

นิ้วเรียวคีย์ข้อมูลบนโต๊ะสั่งการด้วยความรวดเร็ว แล้วทันทีที่เคาะปุ่นเอ็นเตอร์หน้าจอเล็ก ๆ 4 - 5 จอที่ฉายภาพความทรงจำสุดฉาวของเจฟเฟอร์อยู่ก็ดับ ฟับ!!! ลง

.

ตามติดมาด้วยแผ่นเจลบนพื้นที่เต้น ตุบ ๆ ๆ ๆ ด้วยความรุนแรง! การกระเพื่อมของมันถี่รัวราวกับหัวใจมนุษย์ที่กำลังสูบฉีดเลือดด้วยอัตราเร็วสูงสุด!

.

"ปู๊นนนนน!!!"

.

ควันเป็นสายพุ่งออกมาตามรอยแยกบนเนื้อเจล ความสูงของลำเขม่าสูงเหนือหัวเจฟเฟอร์ไปมากกว่าสามช่วงตัวเห็นจะได้ ซึ่งเป็นอะไรที่สูงมาก มิหนำซ้ำยังกระจายตัวพุ่งแบบนี้เป็นจุด ๆ ไปทั่วบริเวณ สลับกับการแผดเสียงโหยหวนอันแสนน่ากลัวเป็นพัก ๆ

.

"ปู๊นนนนน! , ปู๊นนนนน! , ปู๊นนนนน!"

.

สถานการณ์วิกฤตหนักเมื่อเท้าของเจฟเฟอร์ดันขวิดลอยพ้นจากพื้น! เขาเสียการทรงตัวยืนไม่อยู่เนื่องจากพื้นมันยุบยวบยาบขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ตลอดเวลา ใบหน้าคะมำลงไปไม่เจ็บเท่าไหร่แต่ไอ้เจลยางระยำนี่สิ ที่กำลังจะดูดเจฟเฟอร์ลงไปตายข้างล่างอีกเป็นครั้งที่สอง โชคดีที่หมอยูมิโกะสังเกตเห็นได้ทันเวลาพอดี ก็เลยโผลตัวลงมาจากด้านบนพร้อมกับฉุดรั้งมือเขาเอาไว้!

.

"หมับ!"

.

"อะไรเนี่ยะหมอ? หมอบินได้ด้วยเหรอ!? "

.

เชื่อว่าเป็นใครก็ต้องตกใจเหมือนกับเจฟเฟอร์ ในมุมมองของเขา ๆ เห็นแสงระยิบระยับ ขยับยุกยิกส่องประกายอยู่รอบตัวหมอยูมิโกะราวกับเป็นออร่าของเทพเจ้า ซึ่งแน่นอนว่านั่นไม่ใช่เวทย์มนต์แต่อย่างใด หากแต่เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์บนชั้นบรรยากาศที่หมอแกเลี้ยงไว้ใช้งานซะมากกว่า

.

"ชู่ววววว! ช่วยหุบปากก่อนสักพักได้ไหมคะ ฮึบ! คือหมอไม่คิดว่าจะรั้งน้ำหนักตัวคุณได้ไหว ถ้าเห็นส่วนรางโผล่พ้นขึ้นมาจากเจลเมื่อไหร่รีบบอกหมอเลยนะ จะได้รีบวางคุณลง! ฮึบ! โอ๊ยหนักจัง! อดทนหน่อยนะเด็ก ๆ "

.

"รางห่ารางเหวอะไรวะ!?" คือสิ่งที่เจฟเฟอร์คิดแต่ไม่พูดออกมา เขายังคงเพ่งความสนใจไปที่ออร่าเปล่งประกายอันสวยงามที่อยู่รายรอบมากกว่า ลอยสูงจากพื้นประมาณ 3 เมตร เท่ากับตึก 2 ชั้นเห็นจะได้ แต่รู้อะไรไหม? เจฟเฟอร์แม่งไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองตัวเบาสบายขนาดนี้มาก่อนเลย นี่เขาเป็นประจำเดือนหรอ? เขาสวมผ้าอนามัยแบบมีปีกอยู่รึเปล่า?

.

เสี้ยววินาทีต่อมาเจลยางข้างล่างก็มีสภาพไม่ต่างจากขุมนรก มันเต้นตุบ ๆ ๆ จนเสียดสีกันและเกิดเป็นความร้อนระดับสูงขึ้น! เนื้อเจลเดือดปุด ๆ ชนิดที่ควันที่เคยพุ่งออกมานั้นสลายกลายเป็นหมอก นั่นจึงส่งผลให้ทัศนวิสัยแย่ลงก็เลยยิ่งทำให้คนจากด้านบนเพ่งมองลงมาลำบากมากขึ้น

.

.

หมอยูมิโกะกำลังมองหาอะไร? เจฟเฟอร์จะหล่นลงมาจมเจลลาวาตายไหม? แล้วแขนซ้ายเจ้ากรรมที่กำลังตามหาล่ะ ติดตามต่อได้ตอนหน้าจ่ะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 135 : He's come back (18+)

    ตะแคงแหย่เย็ดกลีบผกาอยู่ร่วมนาทีนารีก็รับสภาพ หนังหีตรงหลืบถ้ำขององค์หญิงโดนดุ้นมังกรลำเขื่องปลุกปล้ำจนช้ำแดงเป็นปื้น ไนฟ์ขยำรัดเต้านมนวลน้อยของเธอชอกช้ำเป็นรอยฝ่ามือ ไหนจะคมเขี้ยวที่ฝากเอาไว้บนไหล่ซึ่งเต็มไปด้วยการแทะเล็มโลมเลียนั่นอีก มันไม่นุ่มนวลเอาซะเลย มันไม่ใช่การทำรักที่เธอชอบ เธอไม่พร้อมและจนป่านนี้น้ำหล่อลื่นก็ไม่ฟดออกจากรูฉี่แม้แต่หยดเดียว!.นาตาชายังคงครางร้องเรียกชื่อเจฟเฟอร์อยู่ตลอดเวลา ถึงมันจะขาดห้วงจากการกระหน่ำอันบ้าระห่ำไปบ้าง แต่ก็สาสมแล้วที่เธอจะออกอาการดังกล่าว หญิงสาวเจ็บจนต้องหลับตาเอาไว้ ครั้นพอจะยกมือป่ายปัดไปทางไหน ก็ถูกไนฟ์ไล่แขนล็อคเอาไว้หมด กระทั่งอีกสามนาทีให้หลังท่าเย็ดแบบใหม่จึงถูกสภาปนา."เปลี่ยนท่านะ.."เขากระซิบบอก.ทำเป็นอ่อนโยนแต่ไอเหี้ยนี่คือโจรแห่งจุดซ่อนเร้น มันลักพาเยื้อพรหมจรรย์ที่เหลือติดอยู่นิดหน่อยไปโดยสิ้นเชิง ผ่านการพลิกตัวขององค์หญิงขึ้นสู่ด้านบน."พี่ไนฟ์.. พอเถอะ.. ไม่เอาอ่ะพี่.. ช่าเจ็บ..บ..บ.. โอ๊ยยย!"."ไม่เป็นไรหรอกน่านิดเดียวเอง.. เจ็บนิดเดียวแต่เสียวซาบซ่านไง.. เยสสสส!".ยอมฟังซะที่ไหนเสี้ยววินาทีที่ร่างบางนอนหลาอยู่ข้างบน

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 134 : ดื้อ (18+)

    ร้องจนเสียงหลง กัดริมฝีปากครวญเสียงซีดจากในลำคอกึ่งสุขกึ่งสับสนอยู่ในภวังค์โลกีย์ องค์หญิงหลับตาเหยเก รอยย่นบนใบหน้าบ่งบอกว่าเธอกำลังเจ็บ! เธอเสียว! และเธอก็แสบ! แต่นั่นก็ยังไม่สู้คุณเจฟที่ป่านนี้คงจะสุกกลายเป็นส่วนผสมอันโอชะ อยู่ในหม้อต้มครีมใบเขื่องไปแล้ว.ในหัวเธอคิดถึงแต่เขาแต่ร่างกายกลับปฏิเสธ มันบอกกับเธอว่าเจฟเฟอร์ก็ห่วง แต่ดุ้นควยที่หน่วงหีอยู่ทางนี้ก็ฟินอยู่พอกัน ไนฟ์ที่เปลื้องผ้าล่อนจ้อนหมดแล้วนั้น ก็เลยถือวิสาสะแห่งการลังเลกระชากเธอซะสุดแรง มวลกายนวลนุ่มพลิกกลับด้านราวกับก้อนสำลีก้อนหนึ่ง หล่อนชันเข่าฟุบหน้าคาอยู่กับพนักโซฟา โดยมีแท่งควยอันเดิมปักคาอยู่ในร่อง."ซวบบบ!"."อ๊อยยย~!".แล้วไนฟ์ก็เย็ดต่อ!."ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! "."โอ๊ยยย.. ย.. ย.. ย.. อึ.. อึ.. อึ.. พี่ไนฟ์.. ช่าขอร้องล่ะ.. โอ๊ยยย!.. โอ๊ยยย!.. อ๊อยยย!""หยุด..ก่อน..น..น..น.. ได้ไหม.. ซีดดดดด.. ตอนนี้""คุณเจฟ.. เค้า..า..า..".นับเป็นการขอร้องที่โคตรจะผิดเวลา กับชั่วยามนี้ที่หัวหน้ากลุ่มอันเดอร์กราวน์ได้ถูกความเงี่ยนเข้าครอบงำจนหมดสิ้น พลังด้านมืดเขาเต็มเปี่ยม จะดาร์คไซต์ห

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 133 : เหมือนองค์หญิงจะโดน (18+)

    ซวยสุดซอยสะเทือนใจสุดขีด เมื่อองค์หญิงนาตาชามาถึงช้าเกินไป และคนที่มาถึงก่อนคือไนฟ์กับพรรคพวก ลับหลังจากการปรากฏตัวสุดอุบาทว์ เหล่าลูกสมุนบริวารก็ต่างพากันวาร์ปออกมาจากกระจกหน้าร้านอีกเป็นโขยง! มิหนำซ้ำแต่ละคนยังถือมีดสีม่วงเป็นอาวุธประจำกายไว้ติดมือตลอดเวลา เจอแบบนี้เข้าไปใครจะกล้าแหยม! องค์หญิงก็เลยต้องหลบฉากถอยออกมาตั้งหลักก่อน.เปิดทางให้ไนฟ์ตบเกียร์ห้าเดินหน้าทำตามแผนต่อไป ซึ่งเป้าหมายของเขาก็คือเชื้อพระวงศ์ลำดับที่สองอย่างองค์หญิงเจส เขาตั้งใจจะคาดคั้นเอาความให้ได้ว่า "ณ ปัจจุบันราชาเด็มบ้าบาไปมุดหัวอยู่ที่ไหน?" ทำไมเขากับพวกพลิกแผ่นดินหายังไงก็หาไม่เจอสักที พอถามใครก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นหรือยอมปริปาก.กวัดแกว่งปลายมีดขยิบตาหน่อยเดียว ประตูกระจกใสแจ๋วก็ถูกเดินผ่านไปได้โดยสะดวกโยธิน อิทธิฤทธิ์ของแร่มหัศจรรย์ได้เนรมิตม่านควันกลุ่มใหญ่ให้บดบังสายตาของพวกน้องหมาทั้งหลายเอาไว้ ทำให้ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเห่า กลุ่มอันเดอร์กราวน์คนแล้วคนเล่าจึงสามารถทะลุผ่านโซนกงขัง ที่เคยเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือด ระหว่างเจฟเฟอร์กับทหารจากรั้วพระราชวังไปได้แบบไม่ยี่หระอะไร.แล้วคิดเหรอว่าสีผมแดงแจ๋กับดวงห

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 132 : สปีดเร็วกว่านรก (13+)

    คลื่นอารมณ์โถมจิตใจ ร่างลอยลมชันฟ้าห้วงมหานภา พลพรรคกองกำลังติดอาวุธจากพื้นพสุธาผงาดง้ำยึดครองฟากฟ้า ม่วงมหากาฬเต็มไปหมด จะมองไปมุมไหนเมฆหมอกก็เจือจางความโอหังนี้ไว้ไม่ได้ จบลงแล้วกับการปิดบังตัวเอง ความโกลาหลเช่นนี้แหละที่พวกมันรอคอย การป้องกันอาณาจักรที่ลดทอนลง บวกกับพลเมืองที่สูญเสียกำลังใจหลงใหลในความเงี่ยน ก็เลยไม่มีเวลาไหนที่จะเหมาะแก่การบุกขึ้นไปช่วงชิงอำนาจไปมากกว่านี้อีกแล้ว!.คนตัวเท่ามดด้วยรูปลักษณ์ของกลุ่มควันมวลเมฆ มองปราดเดียวนาตาชาก็รู้ในทันทีว่านี่คือกลุ่มกบฎอันเดอร์กราวน์มิผิดเพี้ยน จังหวะการกระโจนโบยบินบนฟากฟ้า กลุ่มควันสีม่วงจากอาวุธมีด Pussy Recon วิบวาวตระการตา ก็มีแต่กลุ่มคนเหล่านี้เท่านั้นแหละที่จะทำได้.แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ประตูหน้าต่างของบ้านพลเรือน กลายเป็นประตูมิติอันสมบูรณ์แบบ เสี้ยวอึดใจจากที่ลอยอยู่บนฟ้าอยู่ดี ๆ จู่ ๆ พวกมันก็พากันวาร์ปลงมาโผล่ยังภาคพื้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ซะอย่างงั้น! นั่นอาจจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของอุปกรณ์พิเศษเฉกเช่นแผ่นการ์ดตัวอย่างดิน กับประตูโดเรม่อนที่พกพากันอยู่คนละอันสองอันก็เป็นได้.1 คนวาร์ป! 2 คนวาร์ป! 3 คนวาร์ป! , 4...! , 5...!

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 131 : ขอความช่วยเหลือ

    ตัดภาพกลับออกมาที่ฟากฝั่งขององค์หญิงนาตาชา เธอหย่อนตัวลงบนพื้นพรมด้านล่างผ่านทางตะแกรงท่อระบายอากาศ ที่เธอใช้ฝ่าตีนกระทุ้งถีบ ใจจริงอยากจะจ้วงเท้าออกวิ่งแทบขาดใจแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเกรงว่าพวกทหารหญิงจะไหวตัวทัน ก็เลยทำได้เพียงกระหยิบย่องแบบช้า ๆ ไปพลางก่อน ซ้ำร้ายเมื่อออกไปทางประตูปกติก็ไม่ได้! กลับไปห้องพี่โซเฟียก็ไม่เข้าท่า! เนื่องจากปากท่อโดยสารอันเก่ามันเชื่อมต่อกับแนวท่อตรงตีนเขาศาลเจ้า ซึ่งไม่ตรงกับพิกัดที่เธอต้องการจะไป.ย่องไปคิดไปก้านสมองนี่ระบมพอ ๆ กับส้นตีนที่รองรับน้ำหนักตัว กระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหัวมุมห้องโถง ณ ที่ตรงนี้ยังมีร่างของทหารหญิงคนหนึ่งนอนพิงกำแพงอยู่ เธอคือผู้โชคร้ายที่โดนเจฟเฟอร์สับท้ายทอยจนสลบไปเมื่อหลายตอนก่อน เพียงแต่ว่าหนนี้กลับดูแปลกตาไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด.องค์หญิงมองเห็นแอ่งเลือดที่ซึมเปรอะอยู่บนพรม พอโผตัวเข้าไปดูใกล้ ๆ แล้วสัมผัสเนื้อตัวอีกเล็กน้อย ศีรษะของศพก็หักพับลงไปด้านหลังอย่างสยดสยอง! เหลือไว้แต่ละอองเลือดที่แผดพุ่งเฉียดหน้าไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด! บาดแผลลึกฉกรรจ์มาก! แค่ดูโดยไม่ต้องสันนิษฐานก็รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของเจฟเฟอร์ที่ทำไว้ แล้วก็ไ

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 130 : ชอยด์ที่ต้องเลือก (13+)

    ข้างล่างวิ่งกันโกลาหล ต่างคนต่างลุกออกจากเตียงตกอกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นมันสัตว์ประหลาดรึยังไง? กลับหัวห้อยอาจจะใช่ แต่สิ่งที่ยึดไว้ไม่ใช่ใยแต่เป็นควย! ทอดสายตาลงไปนาตาชามองเห็นพ่อตัวเองชี้ไม้ชี้มือสั่งคนนั้นคนนี้ให้จัดการกับเจฟเฟอร์ ซึ่งเธอไม่มีวันยอมเป็นอันขาด เธอก็เลยออกแรงกำลำควยของเขาด้วยสองมือน้อย ๆ ที่แรงกว่าเก่า!."งึด! , งึด! , งึด! , งึด!"."อ๊ากกก!".เจ็บสิถึงร้องลั่นเก่งแค่ไหนอุปกรณ์อาวุธครบมือยังไง ขึ้นชื่อว่าผู้ชายแล้วอะไหล่ตรงเป้ากางเกงนี่แหละแพงที่สุด จริงอยู่ว่าถ้าอ่านมาแต่แรกจะรู้ว่าควยอันนี้เคยถูกหมอยูมิโกะโมดิฟายด์มาแล้วหนหนึ่ง มันถูกผสมทังสเตนคาร์ไบน์ , เหล็ก , และแมงกานิส จนสามารถใช้รับมือกับดาบ "คาตานะ" ประจำกายของหมอมาแล้ว.แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน ม่านไหมลุกชันเกรียวเข้าไปถึงรูตูด จวนจะได้จูบกันอยู่แล้วอารมณ์ก็เลยค้าง น็อตนับพันขันดุ้นกับไข่ให้ชิดติดกันแนบสนิท มันดูดีสุด ๆ โคตรเท่โคตรคูล แต่กลับเป็นความสมมาตรในพาร์ทของการขยายออกข้างนี่แหละที่มีปัญหา เมื่ออำนาจแห่งรักทำให้น้ำเมือกหล่อลื่นซึมออกมาจากปลายควยมากกว่าปกติ มันรินรดเปรอะใส่มือองค์หญิงจนทำให้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status