รังสีอำมหิตแผ่ซ่านสยายไกลมาถึงคนนอก เบอร์แบโต้กับเจฟเฟอร์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ รับรู้ได้เลยว่าปิเก้กำลังแบกรับความกดดันอยู่มากแค่ไหน พวกเขาเหงื่อแตกซิก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่อยากจะคิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงแล้วถ้าเขาไม่มัวเถลไถลหาแขนข้างใหม่อยู่ เหตุการณ์สุดสยองทำนองนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับปิเก้เป็นแน่
.
"เชี้ยเอ๊ย! ถ้ากูใส่เกียร์หมาเร่งกระเด้าเย็ดผู้หญิงให้แตกเร็วกว่านี้นะมึงเอ๊ย ไอ้ปิเก้มึงคงไม่ตายกูพูดจริง ๆ กูขอโทษเพื่อน"
ส่ายหน้าไปมาปลดปลง จนเจฟเฟอร์ลืมไปเลยว่าทุกอย่างที่ฉายอยู่นั้นพุ่งออกมาจากตาของเขา
.
"เฮ๊ย! พี่เจฟ! ใจเย็นก่อนพี่! เส้นโฮโลแกรมมันแตกกระจายหมดแล้ว ผมเวียนหัวดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วพี่ก็อย่าโทษตัวเองไปเลย ความเสียใจของพี่ผมสิต้องเป็นคนแบกรับเอาไว้ ผมน่ะรับงานโดยตรงมาจากบอสเลยนะ"
เบอร์แบโต้พยายามพูดปลอบใจ แล้วทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์จากเครื่องฉายในม่านตาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เส้นลำแสงวูบไหวไปจังหวะหนึ่ง ตัดกลับมาหนนี้เจฟเฟอร์สังเกตเห็นเลยว่า ขณะนั่งคุกเข่าอยู่และกำลังจะถูกบ่วงเชือกไนล่อนกระชากคอขึ้นไป ปลายนิ้วชี้ของปิเก้ได้หักมุมลงมาแล้ว เขาเตรียมจะยิงเลเซอร์ใส่พวกมัน แต่ทำไมกัน! ทำไมปิเก้ถึงไม่ยอมลงมือ!?
.
เพื่อนสนิทรายนี้กลับเลือกที่จะหันหน้าไปทางขวาของตัวเองซะดื้อ ๆ เขาเปิดเปลือกตาเหลือบมองไปยังทิศที่ไม่มีใครยืนอยู่ ไม่มีโจร! ไม่มีใคร! มันคือพื้นที่ว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยกองซากศพ แล้วจู่ ๆ ก็ยักคิ้วขึ้นมา! ปิเก้พยักหน้าหงึก ๆ ประดุจว่านี่คือแผนการที่เจ้าตัวตั้งใจเตรียมเอาไว้
.
"บะ..บ้าน่ะ! นี่หรือว่ามึงตั้งใจให้กูเห็น?"
"ปิเก้.. มึงรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่ากูจะต้องยืนอยู่ตรงนี้!"
เสียงเจฟเฟอร์พูดกับเส้นโฮโลแกรม แน่นอนว่ามันเป็นไฟล์ที่ถูกบันทึกเอาไว้เพื่อนซี้ก็เลยตอบกลับมาไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เจฟเฟอร์มั่นใจว่าตัวเองคิดถูกก็คือ ณ องศานั้น ในระยะแบบนั้น ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ มันตรงกันกับมุมที่ปิเก้หันหน้ามาแบบพอดีเป๊ะ! กลายเป็นการสบตากันระหว่างสองคนจากสองโลก หนึ่งคือคนปกติอย่างเจฟเฟอร์ สองคือปิเก้เจ้าของเส้นโฮโลแกรมที่ปัจจุบันได้กลายเป็นศพไปแล้ว
.
ทำให้เบอร์แบโต้ต้องรีบเดินอ้อมกลับมาสมทบ เพราะนี่คือทักษะชั้นสูงที่เจ้าตัวอยากเห็นกับตามาตลอด การคิดข้ามช็อตล่วงหน้าเป็นสกิลที่ผู้มีประสบการณ์เท่านั้นถึงจะทำได้ เขาจึงเลือกที่จะยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเจฟเฟอร์ พยายามบันทึกทุกอย่างเอาไว้ในมุมมองที่ดีที่สุด แล้วก็เริ่มสังเกตเห็นว่าเส้นโฮโลแกรมของปิเก้เอง ก็เร่ิมจะแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ออกมาอีก
.
ปิเก้สะบัดหน้าไปมาอยู่ตลอดเวลา เขากระพริบตาถ่ีรัวเสมือนการรัวชัตเตอร์เพื่อเก็บภาพกลุ่มโจรทั้งหมดเอาไว้ในเมมโมรี่ แล้วก็ทำแบบนั้นอยู่ทุกเสี้ยวนาที แม้กระทั่งวินาทีที่โดนบ่วงเชือกไนล่อนกระชากหัวขึ้นไปเหนือพื้น เขาก็ยังไม่หยุด! เพื่อแลกกับภารกิจปิเก้สละได้แม้กระทั่งชีวิต! เจ้าตัวน่ะรู้ดีว่าแค่ยิงลำแสงออกไปตัวเองก็จะรอด แต่ทว่าถ้าหากทำแบบนั้นทีม parallel ก็จะไม่ได้อะไรเลย สู้ยอมตายไปซะแล้วบันทึกภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้ยังจะดีซะกว่า การหันหน้ามายักคิ้วให้กับเจฟเฟอร์จึงเป็นอะไรที่ใช้อธิบายความคิดบ้า ๆ ของปิเก้ได้ดีที่สุด
.
โชคร้ายที่เจฟเฟอร์ดันพูดออกมาว่า
.
"ถ้ากูทำอย่างมึงกูก็ปัญญาอ่อนแล้วล่ะ.."
.
"เอ๋.. แต่พี่เขาก็ยังบันทึกเหตุการณ์อยู่นะครับ ดูสิพี่เจฟพอโดนรั้งคอให้สูงขึ้นจรดเพดานแบบนี้ ภาพจากสายตาพี่ปิเก้ทำให้เราเห็นภาพเป็นมุมกว้างแบบเบิร์ดอายวิวเลย พวกเข็มกลัดควอทซ์นั่งคุกเข่าเป็นแถวหน้ากระดาน แล้วก็เล็กลงเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ เรื่อยยย.. ย.. ย"
"อ่ะ!"
.
"จึกกกก!"
"เฮือก!!!"
.
เสียงดังฟังชัดสัด ๆ ! เมื่อคมแหลมของแชนเดอร์เลียร์ปักเข้ากลางแผ่นหลังทะลุหน้าอก! ปลายเท้าปิเก้ดิ้นกระแด่ว ๆ ตัวเขาสะบัดกระเสือกกระสนเจ็บปวดทุรนทุราย ทำเอาภาพที่บันทึกไว้ถึงกับวูบไหวเกิดคลื่นแทรกยึกยือไปหลายสิบวิ แต่ครานั้นเจ้าตัวก็ยังไม่สิ้นใจ ภาพการไล่ปาดคอของเจ้าคนใช้มีดยังคงถูกถ่ายไว้จากมุมสูง แม้ว่าสีของเส้นโฮโลแกรมจะเริ่มแดงฉาดฉาน เลือดจะทำให้ทุกอย่างเลือนลาง จนสูญสลายหายไปพร้อมกับสติสตังของปิเก้แล้วก็ตามที
.
"โถพี่ปิเก้ผู้น่าสงสาร แกช่างเป็นรุ่นพี่ที่น่าศรัทธาเหลือเกินพี่เจฟ ขนาด.."
.
"ชู่วววว! เงียบก่อน เงี่ยหูฟังสิ เสียง! ฉันคิดว่าปิเก้มันคงจะชดเชยภาพที่จางไปด้วยเสียงที่ชัดเจนขึ้น ตั้งใจฟังให้ดีนะไอ้โต้อย่าให้ความพยายามของเพื่อนฉันต้องเสียเปล่า เข้าใจไหม!"
.
"ครับ! , อึก! , อึก!"
กดดันเสียจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงกลืนน้ำลายตัวเอง
.
.
ไอ้มือมีดปริศนายังคงไล่เชือดกรีดคอพวกควอทซ์ต่อไปเป็นรายที่ 3 , 4 , 5 กระทั่งถึงรายที่ 6 เจ้าหญิงนาตาชาก็ยอม! เธอทนไม่ไหวที่จะต้องมาเห็นคนอื่นตายแทนเธอ จึงได้ตัดสินใจกระชากหน้ากากสังเคราะห์ที่คลุมทับใบหน้าของตัวเองออก เธอทำโดยสุจริตใจโดยไม่ต้องง้อคมมีดจากไอ้ชั่วหน้าไหนมาปาดออกให้ด้วยซ้ำ
.
"ฉันเอง ฉันคือเจ้าหญิงนาตาชาแห่งอลาลัส! ฉันปลอมเป็นพ่อของฉัน เพราะงั้นหยุดทำร้ายคนอื่นได้แล้ว พวกเขาไม่เกี่ยวอะไรด้วย!"
.
มองไกล ๆ แบบผ่าน ๆ แล้ว เหมือนเธอจะเป็นคนที่มีบุคลิกห้าวหาญผิดมนุษย์มนา เธอดูมีความกล้าหาญเอามาก ๆ แม้ตัวจะเล็กสูงไม่ถึงไหล่ แต่ก็สะบัดแขนสะบัดไหล่ออกจากพวกโจรที่ตรงเข้ามาคุมตัวจนกระเด็นกระดอน มิหนำซ้ำยังลุกขึ้นยืนจังก้าได้ด้วยตัวเองอีกต่างหาก ซึ่งเป็นอะไรที่รกหูรกตาหัวหน้าโจรผู้ก่อการร้ายอย่างหมอนั่นซะเหลือเกิน
.
"โอ๊ะโอ! ช้าไปไหมอีดอก! มึงไม่ได้แหกตาดูเลยสินะว่าพวกกูฆ่าคนไปเป็นร้อยแล้วเหอะ กว่ามึงจะยอมแสดงตัวอีองค์หญิงเทพลีลาเอ๊ย! "
.
"ชิ!"
เธอเม้มปากขบริมฝีปากแน่น เลี่ยงที่จะมองไปทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นในสิ่งที่มันพูดถึง ก็เลยเลือกที่จะจ้องเขม็งเข้าไปในแววตาดุร้ายภายใต้หน้ากากไหมพรมของมันแทน
.
ไอ้มือมีดพูดไปพลางใช้สันมีดเคล้าคลึงโครงหน้าอันเรียวบางของเธอไปด้วย มันค่อย ๆ เลาะค่อย ๆ เขี่ยเอาเศษหนังเทียมที่ติดอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ ออก ซุ่มเสียงแม่งโรคจิตโคตร ๆ
.
"นังเด็กเมื่อวานซืนเอ๊ย! ตอแหลเอาหน้ากากพ่อมาใส่ โชว์แมนแต่งตัวเป็นผู้ชาย ที่แท้ก็แค่รักตัวกลัวตายใช่ไหมล่ะถึงยอมเปิดเผยตัวออกมา แต่ก็ช่างเถอะ! เจอตัวแล้วก็ดีเหมือนกัน จะได้จบเรื่องจบราวกันซะที"
.
"แกจะทำอะไรฉัน! ฉันแค่มาประชุม ไม่รู้เรื่องอะไรเลย!"
.
"หือ! องค์หญิงนี่ท่านคงไม่รู้ตัวเลยสินะ ว่าท่านมีค่ากับโลกใบนี้มากกว่าจะมางานประชุมต๊อกต๋อยแบบนี้ซะอีก เชิญมากับพวกเราดี ๆ เถอะ ผมสุภาพกับคุณมากแล้วนะอย่าให้ผมต้องสวมบทโหดอีกเลย อย่างน้อยองค์หญิงก็น่าจะเห็นใจดวงวิญญาณที่ต้องมาตายแทนท่านบ้าง"
.
ระหว่างที่หญิงสูงศักดิ์กำลังนิ่งงันอยู่ในความอ้างว้างแห่งห้วงอารมณ์ ลูกน้องที่แสตนบายด์อยู่ด้านบนก็ได้หย่อนเชือกลงมา เจ้ามือมีดรีบพับเก็บมีดสั้นของมันเข้าฝัก พร้อมกับใช้ตัวเซฟตี้ยึดปลายเชือกเข้ากับร่างตัวเอง ก่อนจะดึงเอาตัวขององค์หญิงนาตาชาเข้ามากอดไว้ จัดแจงยึดนั่นยึดนี่เพื่อความปลอดภัยนิดหน่อย พลางส่งสัญญาณให้ดึงขึ้น! แล้วร่างทั้งสองก็โดนดึงขึ้นไปข้างบนผ่านทางรอยโบ๋ขนาดใหญ่ที่เคยพังถล่มลงมา
.
"หึ ๆ แค่นี้ก็จบ! ที่เหลือฆ่ามันซะ!!!"
.
"อย่านะไหนบอกจะไม่ทำร้ายใครอีกไง! อย่านะ..! ไม่นะ! กรี๊ดดดด!"
.
"ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง!"
.
เสียงปืนดังสนั่นลั่นบริเวณ แต่คราวนี้ต่างจากเดิมหน่อยตรงที่พวกควอทซ์ที่เหลืออยู่เร่ิมคิดที่จะสู้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องเกรงใจองค์หญิงนาตาชาอีกต่อไปแล้ว ใคร ๆ ก็ล้วนแต่อยากมีชีวิตแต่โชคร้ายไปนิด ตรงที่มีคนหนีรอดออกไปจากห้องโถงชโลมโลหิตนี้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น! เขาวิ่งกระหืดกระหอบออกไปทางประตูหลัง ในขณะที่คนอื่นที่เหลือนั้นโดนยิงตายหมด! องค์หญิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร แต่อย่างน้อยเธอก็ยังดีใจที่ยังพอมีพยานรู้เห็นเกี่ยวกับโศกนาฐกรรมในครั้งนี้อยู่
.
.
"ฟืดดดดด! , ฟับบบ! , ฟืดดดดด! , ฟับบบ!"
"serial number 14213 ปิเก้ เซอโลมองต์ จบการบันทึก!"
"ฝากคนที่เหลือช่วยรับช่วงต่อด้วยนะ.."
.
.
"ฟับ!"
"ซ่าาาาา! , ซู่! , ซ่าาาาา~!"
.
.
เจฟเฟอร์กับเบอร์แบโต้สองรุ่นพี่รุ่นน้องมองหน้ากันอะดรีนาลีนหลั่งไหล ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะประกบปากจูบกันหรือแตกในใส่กันอะไรเทือกนั้น แต่เป็นเพราะพวกเขากำลังรู้สึกถึงความตื่นเต้นสุด ๆ เพราะว่าภารกิจครั้งนี้ได้กลายเป็นงานที่มากว่าการหาข่าวธรรมดา ๆ ไปแล้ว
.
"แกตามองค์หญิงนะ! ส่วนฉันจะตามไอ้ควอทซ์ที่วิ่งหนีไป ต้องสืบให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและพวกมันต้องการอะไร?"
เจฟเฟอร์ตวาดเสียงดัง ท่าทางจริงจังรีบเร่ง
.
"ไม่พี่! พี่ตามองค์หญิงดีกว่า! พี่เก่งกว่าผม! ส่วนไอ้คนที่หนีไปได้ผมจะจัดการเอง ผมจะเอาศพพี่ปิเก้กลับไปที่ตึก parallel ก่อน เรื่องนี้ต้องดีลกับบอสแกจะได้สั่งการขั้นต่อไปได้ถูก"
.
"โอเค! ตามนั้น เช็คอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารไว้ตลอดล่ะ จะได้ติดต่อกันได้"
.
"ครับพี่เจฟ!"
.
แยกกันไปคนละทิศละทาง เบอร์แบโต้แบกร่างปิเก้พาดบ่าวิ่งโทง ๆ ฝ่าหนองน้ำแอ่งโลหิตออกไป ในขณะเดียวกันเจฟเฟอร์ก็ได้เข้าโหมด First- person อย่างฉับไว พลันงัดเอาอุปกรณ์ชนิดใหม่ออกมา!
.
"Jumper Foring!" , "Switch On!!!"
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านสยายไกลมาถึงคนนอก เบอร์แบโต้กับเจฟเฟอร์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ รับรู้ได้เลยว่าปิเก้กำลังแบกรับความกดดันอยู่มากแค่ไหน พวกเขาเหงื่อแตกซิก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่อยากจะคิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงแล้วถ้าเขาไม่มัวเถลไถลหาแขนข้างใหม่อยู่ เหตุการณ์สุดสยองทำนองนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับปิเก้เป็นแน่."เชี้ยเอ๊ย! ถ้ากูใส่เกียร์หมาเร่งกระเด้าเย็ดผู้หญิงให้แตกเร็วกว่านี้นะมึงเอ๊ย ไอ้ปิเก้มึงคงไม่ตายกูพูดจริง ๆ กูขอโทษเพื่อน"ส่ายหน้าไปมาปลดปลง จนเจฟเฟอร์ลืมไปเลยว่าทุกอย่างที่ฉายอยู่นั้นพุ่งออกมาจากตาของเขา."เฮ๊ย! พี่เจฟ! ใจเย็นก่อนพี่! เส้นโฮโลแกรมมันแตกกระจายหมดแล้ว ผมเวียนหัวดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วพี่ก็อย่าโทษตัวเองไปเลย ความเสียใจของพี่ผมสิต้องเป็นคนแบกรับเอาไว้ ผมน่ะรับงานโดยตรงมาจากบอสเลยนะ"เบอร์แบโต้พยายามพูดปลอบใจ แล้วทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์จากเครื่องฉายในม่านตาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เส้นลำแสงวูบไหวไปจังหวะหนึ่ง ตัดกลับมาหนนี้เจฟเฟอร์สังเกตเห็นเลยว่า ขณะนั่งคุกเข่าอยู่และกำลังจะถูกบ่วงเชือกไนล่อนกระชากคอขึ้นไป ปลายนิ้วชี้ของปิเก้ได้หักมุมลงมาแล้ว เขาเตร
"พี่ปิเก้กำลังบอกใบ้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากบนนั้นใช่ไหมครับ? พี่เขาต้องการให้เราขึ้นไปสืบข้างบนใช่ไหมพี่เจฟ?"เบอร์แบโต้ตวาดเสียงดุดัน ท่าทางเขาดูจริงจังจนออกนอกหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับสีหน้าสีตาของสายลับรุ่นพี่เป็นที่สุด."โอ่ย! โอ่ย! โอ่ย! ๆ ไอ้โต้เอ๊ย! ไอ้โต้! นี่ตอนเด็ก ๆ แม่มึงบดแกลบให้แดกกับกาบมะพร้าวเหรอ สมองมึงถึงอุ้มน้ำได้ถึงเพียงนี้! มันใช่ซะที่ไหนล่ะเจ้าทึ่ม! ตอนนั้นปิเก้มันนอนแหงนหน้าอยู่ใช่ไหม?"."ใช่ครับ.. พี่เขาหนุนตักผมอยู่?"."ถ้างั้นก็ไม่ผิดหรอก! เพราะที่มันชี้น่ะไม่ใช่รูแหว่งโบ๋บนหลังคา หากแต่เป็นของที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างหน้าผากแกต่างหากล่ะเจ้างั่ง!".ได้ยินเช่นนั้นมือหนาหยาบกร้านของเบอร์แบโต้ ก็รีบตะปบวนไปวนมาบนหน้าผากตัวเองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต."หน้าผากผมมันมีอะไรเหรอครับพี่เจฟ ผมไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย?"."เฮ้อ..! คืออย่างงี้สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ธรรมชาติของหน่วยภาคสนามอย่างเราน่ะ มันต้องพร้อมที่จะตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างลับ ๆ ผ่านทางชิบที่ฝังไว้ในส
สะบัดลำตัวสะดีดสะดิ้งหวิดหวิวเสียวสะท้าน ทันทีที่ภาพเสมือนโดนตัดสัญญาณ เจฟเฟอร์ก็รีบดึงสติกลับมาที่ตัวเอง เดชะบุญที่เขาไม่ได้ไปไหนไกลจากเบอร์แบโต้นัก จากตรงนี้ในชุดรัดรูปที่ใช้สำหรับทำภารกิจโดยเฉพาะ เจฟเฟอร์ยังคงมองเห็นเจ้าหน้าที่รุ่นน้องได้อย่างชัดเจน."โถ่เอ๊ย! ไอ้โต้ ดูสิดูมันทำ! ทำอย่างกับคนไม่เคยฝึกมา รื้อสถานที่เกิดเหตุกระจุยกระจาย ถุงมือก็ไม่ใส่ หลักฐานสำคัญหายหมดแล้วมั้งน่ะ! "."น่าเสียดายที่บอสรู้ตัวเร็วไปหน่อย ไม่งั้นเราคงได้ข้อมูลมามากกว่านี้ ดอกลาเวนเดอร์สดดอกหนึ่งราคาเฉียด 500 เหรียญ ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะกล้าปาเข้าใส่เราได้! ชูู่ววววว! ถึงที่ส่งไปจะเป็นแค่ภาพ visual ระบบ wireless ก็เถอะ แต่มันก็เสียวท้องน้อยดีเหมือนกันแฮะ.. วู้วววว!".วนมือเป็นวงบนพุงตัวเองวูบวาบ สายลับหนุ่มเป่าปากพ่นลมหายใจพรู อย่างที่เราทราบว่านวัตกรรมของ Parallel นั้นมีมากมายหลายชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้านี่ "เครื่องฉายภาพระยะไกลระบบ wireless " มันเป็นอุปกรณ์ย่อยที่ถูกติดตั้งเข้ามาใหม่ เพียงแค่กลับด้านหัวเข็มขัดนิดเดียว จากอุปกรณ์แปลงร่างก็จะกลายเป็นเครื่องส่งสัญญาณในทันที เดชะบุญที่โลกยุคนี้เป็น
บรรยากาศมาคุแผ่สยายปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ เงียบจนได้ยินเสียงเข็มหล่น เงียบซะจนได้ยินเสียงแอร์ดังครือ ๆ ครือ ๆ เจฟเฟอร์หน้าซีดเป็นไก่ต้ม เขาทำได้เพียงคุกเข่่าแล้วก็ก้มหน้าลงปลดปลงกับบานประตูอันเว้าแหว่ง กูไม่น่าพังมึงเข้ามาเลย!."ว่าไงล่ะ! จะเงียบทำไมมิทราบไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันถามเหรอ ว่าคุณเสียมารยาทเข้ามาที่นี่ทำไม!"บอสสาวแห่งองค์กรตวาดเสียงเข้มดุดัน และระหว่างที่เจฟเฟอร์กำลังจะอ้าปากตอบ."อ่ะ.. เอิ่ม คือผมจะเอา.. า.. า.."."หยุด! อย่าเพิ่งพูดอะไร ส่งหัวเข็มขัดคุณมาก่อน!"."หัวเข็มขัด! บอสจะเอาคืนเหรอครับ งั้นก็หมายความว่า.. ห๊ะ! นี่อย่าบอกนะว่า! บอสจะไล่ผมออก! ด้วยเรื่องแค่นี้เนี่ยะนะ! ไม่ครับบอสไม่ ไม่ ไม่ ๆ ๆ ไม่มีทาง! ยังไงผมก็ไม่ออก ออกไปผมจะเอาไรแดก!"."ใครอนุญาตให้เงยหน้ามิทราบคุณเจ้าหน้าที่ ฉันบอกว่าส่งมาก็คือส่งมาไง! ทำไมต้องให้ย้ำ!".กัดกรามกรอด ๆ ฝืนใจเจ็บทน ต้องก้มหัวให้ผู้หญิงแล้วยังต้องมาโดนปลดออกจากตำแหน่ง เพราะความจังไรของตัวเองอีก รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั้น ถึงจะไม่อยากทำแต่สุดท้ายก็ต้องยอมปลดหัวเข็มขัด ที่มีตราสัญลักษณ์เครื่องหมายเท่ากับ (=) แห่งองค์กร Parallel ค
"ฟึบฟับ! ๆ , ฟึบฟับ ๆ , โฉ้งเฉ้ง ๆ ๆ !".อย่าว่าแต่ไอร่อนแมนเลย ชั่วยามนี้ทรานฟอร์เมอร์แม่งก็มา เมื่อขากลคู่งามดับไอพ่นลงแล้วแลนด์ดิ้งลงสู่พื้นพรมเปอร์เซียในห้องบอส ผืนพรมราคาแพงยุบบุ๋มลงตามน้ำหนักตัวที่มากโข แต่ครานั้นเจฟเฟอร์ก็ยังอุตส่าห์โพสต์ท่าตะแคงข้าง โชว์ให้เห็นถึงอะไหล่ชิ้นงามที่กำลังสับเปลี่ยนตัวเองกลับคืนรูปลักษณ์."เอิ่ม.. ผมต้องขอประทานโทษด้วยครับบอส คือว่าผมเผลอตัวเผลอใจไปหน่อย มันอดใจไม่ไหวจริง ๆ ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย แฮะๆ"."แบบว่าขาข้างใหม่มันยังไม่ชินน่ะครับ เผลอ ปริ๊ด! แค่นิดเดียว ไม่คิดว่าขามันจะสั่นซะจนพุ่งใส่ประตูพังเป็นแถบแบบนี้ ต้องขอโทษคุณผู้หญิงด้ว.. ย.. ย!".เจฟเฟอร์ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะจิต ณ ตอนนี้ที่ไฟฉุกเฉินตรงมุมห้องสว่างโล่ขึ้นมา ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้เห็นหน้านวลนางที่อุปทานว่าเป็นแบร็ควิโดว์แบบจะ ๆ เป็นครั้งแรก."เอ็มม่า!""เธอคือเอ็มม่าแผนกการเงิน ที่อยู่ประจำชั้น 3 นี่นา!?""ไอ้หย๋า! นี่อย่าบอกนะว่าคุณโดดงานมาเอากับบอส! หึ๊ยยย! แรดชุปแป้งทอดชะมัด!".โดนตะคอกใส่แบบนั้น เป็นใครก็ต้องสวนกลับ!."หยุดปากพล่อยเดี๋ยวนี้นะคุณเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์! มันไม่
คุ้มไหมกับการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย คุ้มไหมกับเวลาที่เสียไปให้แก่แขนข้างหนึ่ง เพื่อเอามาแลกกับการทำอะไรที่ต่ำทรามเช่นนี้."นี่กูจำเป็นต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอวะ? แม่งเอ๊ย! มันกระจอกเกินไปรึเปล่าวะไอ้เจฟ?".มือซ้ายข้างใหม่ที่เพิ่งได้รับการปลูกถ่ายมาสั่นพับ ๆ เจฟเฟอร์กำลังช่างใจอย่างหนักว่าจะใช้มือข้างนี้ชักว่าวให้แก่ลำควยที่แข็งโด่ขึ้นมาดีไหม เพราะต่อให้เขาจะเป็นคนสถุลหื่นกามยังไง มือข้างใหม่ก็ควรจะนำไปใช้ในภารกิจช่วยโลกไม่ใช่เอามาช่วยตัวเอง."ถ้าแกมีชีวิตแกคงเกลียดฉัน เอาเป็นว่าฉันจะไม่ทำล่ะกัน ตราบใดที่ใจแข็งพอเชื่อว่าไม่นานลำควยก็จะสงบ มันคงอ่อนตัวลงไปเองโดยไม่ต้องง้อการชักว่าว".เคยได้ยินแต่สำนวนที่ว่า "รออย่างมีความหวัง" มาตอนนี้เจฟเฟอร์กับกำลัง "รออย่างมีความเงี่่ยน" อย่าว่าแต่มือเลย นาทีนี้แม้แต่ขาข้างใหม่ก็ยังโรมรันร้องครือครางเอี๊ยด.. อ๊าดดด.. ไม่ต่างจากมอเตอร์ไซต์ 250 cc ของวาเลนติโน่ รอสซี่ ที่เตรียมจะออกตัวจากกริดสตาร์ท มันจวนจะปะทุอยู่รำไร.ก็อย่างที่บอกแหละว่าก่อนหน้านี้ ขาเจ้ากรรมนั้นเคยเดินโทง ๆ ไปหาช่อดอกลาเวนเดอร์เองมาแล้ว กับครั้งนี้เองก็ด้วย! กลไกกับชุดฟันเพืองของม