Home / เมือง / Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+) / บทที่ 57 : กล่องดำของปิเก้

Share

บทที่ 57 : กล่องดำของปิเก้

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-07-08 21:01:44

"พี่ปิเก้กำลังบอกใบ้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากบนนั้นใช่ไหมครับ? พี่เขาต้องการให้เราขึ้นไปสืบข้างบนใช่ไหมพี่เจฟ?"

เบอร์แบโต้ตวาดเสียงดุดัน ท่าทางเขาดูจริงจังจนออกนอกหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับสีหน้าสีตาของสายลับรุ่นพี่เป็นที่สุด

.

"โอ่ย! โอ่ย! โอ่ย! ๆ ไอ้โต้เอ๊ย! ไอ้โต้! นี่ตอนเด็ก ๆ แม่มึงบดแกลบให้แดกกับกาบมะพร้าวเหรอ สมองมึงถึงอุ้มน้ำได้ถึงเพียงนี้! มันใช่ซะที่ไหนล่ะเจ้าทึ่ม! ตอนนั้นปิเก้มันนอนแหงนหน้าอยู่ใช่ไหม?"

.

"ใช่ครับ.. พี่เขาหนุนตักผมอยู่?"

.

"ถ้างั้นก็ไม่ผิดหรอก! เพราะที่มันชี้น่ะไม่ใช่รูแหว่งโบ๋บนหลังคา หากแต่เป็นของที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างหน้าผากแกต่างหากล่ะเจ้างั่ง!"

.

ได้ยินเช่นนั้นมือหนาหยาบกร้านของเบอร์แบโต้ ก็รีบตะปบวนไปวนมาบนหน้าผากตัวเองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต

.

"หน้าผากผมมันมีอะไรเหรอครับพี่เจฟ ผมไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย?"

.

"เฮ้อ..! คืออย่างงี้สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ธรรมชาติของหน่วยภาคสนามอย่างเราน่ะ มันต้องพร้อมที่จะตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างลับ ๆ ผ่านทางชิบที่ฝังไว้ในสมอง พอเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ตามมาสบทบจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ภารกิจจะได้เดินหน้าต่อไปได้"

.

"เหมือนกล่องดำบนเครื่องบินน่ะเหรอครับ?"

.

"ใช่! เพราะงั้นเรามาดูกันดีกว่า ว่าสมมติฐานที่ฉันตั้งไว้นั้นถูกต้องรึเปล่า?"

.

พูดเสร็จเจฟเฟอร์ก็ได้ลากร่างอันไร้วิญญาณของเพื่อนลงมาวางนาบลงกับพื้น จริงอยู่ว่าด้วยวิธีนี้อาจทำให้เนื้อตัวของปิเก้เปื้อนเลือดที่ขังนอง แต่มันก็จำเป็น! เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ระบบก็จะไม่ครบวงจร เขาเริ่มดำเนินการต่อด้วยการเรียกชุดคำสั่งในหน้าจอมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First-person) ออกมา พลางปาดสายตาเลือกไปที่โหมด "Connect out put"

.

ทำเอาเบอร์แบโต้ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ถึงกับสะดุ้ง! เพราะหลังจากกดเลือกคำสั่งไปได้ไม่นานจู่ ๆ นิ้วชี้ข้างขวาของเจฟเฟอร์ก็พับหักลง! ซึ่งเป็นรูปแบบที่ต่างไปจากการยิงกระสุนเมื่อครั้งเก่าก่อน ตอนนั้นสิ่งที่ยื่นออกมาคือปลายกระบอกปืนเลเซอร์ทำลายล้าง แต่คราวนี้สิ่งที่ยื่นออกมากลับกลายเป็นนิ้วมือทั้งดุ้น! นิ้วชี้ของเจฟเฟอร์ห้อยระโยงระยางยืดออกมาพร้อมกับสาย HDMI ซึ่งเป็นสายสัญญาณที่คนในยุคนี้ใช้เชื่อมTV ต่อเข้ากับเครื่องเล่นดิจิตอลต่าง ๆ

.

โดยปกติแล้วตามบ้านเรือนทั่วไป บริเวณขั้วสัญญาณของสายจะผลิตขึ้นจากฉนวนที่ป้องกันการแกว่งของเคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ได้ภาพและเสียงที่ละเอียดคมชัด แต่กับองค์กรลับที่มีมวลมนุษย์ชาติเป็นเดิมพันอย่าง Parallel แล้วล่ะก็! บอกได้คำเดียวเลยว่าต้องไม่ธรรมดาเหมือนชาวบ้านเขา! ก็เลยเป็นเหตุให้ปล้องนิ้วข้อที่หนึ่งของเจฟเฟอร์ กลายสภาพมาเป็นแจ็คเชื่อมต่อสัญญาณอย่างที่เห็น

.

"ครืดดด ๆ , ครืดดด ๆ "

.

"โอเค.. ยาวประมาณนี้ก็น่าจะพอล่ะมั้ง"

.

เสียงเจ้าหน้าที่หนุ่มลากสายออกมาจากข้อต่อนิ้วมือ กะประมาณจากสายตาน่าจะราว ๆ 1-2 เมตรเห็นจะได้ เพราะศพของปิเก้เองก็ไม่ได้ห่างจากตัวเขาสักเท่าไหร่ จากนั้นจึงส่งแจ็คเชื่อม (ปลายนิ้วชี้) ให้กับเบอร์แบโต้เพื่อเอาไปเสียบเข้ากับช่องว่างบนหน้าผากของศพ

.

"อย่างกัยสาย Lan เลยพี่เจฟ! มันไม่เชยไปหน่อยเหรอพี่?"

.

"เออน่ะ! เอ็งก็ทำ ๆ ไปเหอะ ได้ยินแว่ว ๆ มาเหมือนกันว่าบอสสั่งให้พวกทีมพัฒนาทำเป็นระบบ wireless ออกมาแล้ว แต่ติดตรงงบประมาณที่หมดไปกับการซื้อเรือดำน้ำ กับรถไฟรางคู่ห่าเหวอะไรนี่แหละไม่เสร็จซะที! "

.

"งั้นเหรอครับเอาเป็นว่าเรื่องนี้โต้จะไม่ยุ่งล่ะกัน สรุปว่าค่อย ๆ แซะผิวตรงหน้าผากออกแบบนี้ แล้วก็แหวกตีนผมออกหน่อยนึง จะเห็นช่องสำหรับเสียบเป็นรูสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ จากนั้นก็เสียบเข้าไปตรง ๆ แบบนี้ใช่ไหมครับ , ฮึบ! "

.

"ซึบ!!!"

.

ร่างไร้วิญญาณกระตุกดิ้นกระแด่ว ๆ ขั้วสัญญาณที่ทำจากนิ้วมือเริ่มเรืองแสงสว่างโพลง ก่อนจะถ่ายทอดข้อมูลวิ่งมาตามสายส่งเข้าสู่ร่างกายเจฟเฟอร์ผ่านทางปลายนิ้ว มันแปลงตัวเองเป็นรหัสดิจิตอลซึมขึ้นไปถึงเยื้อหุ้มสมอง ทำให้เจฟเฟอร์สามารถประมวลผลออกมาเป็นฉากและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่ปิเก้ประสบพบเจอมาได้

.

แต่ก็ยังต้องใช้เวลาในการโหลด buffering อยู่ครู่ใหญ่ ระหว่างนั้นเปลือกตาของเจฟเฟอร์ก็เริ่มกระพริบติด ๆ ดับ ๆ ไปพร้อมกัน จนกระทั่งแล้วเสร็จ ภาพในความทรงจำของเพื่อนผู้วายชนม์ก็ถูกฉายออกมาผ่านทางเรติน่าในม่านตา! ดวงตา! คู่เดียวกันกับที่เคยใช้สร้างคริสต์ และ Emily ขึ้นมายัดเยียดความเป็นผัวให้มาแล้วนั่นแหละ!

.

เทคนิคดังกล่าวได้สร้างความตระหนกตกใจ ให้แก่สายลับผู้อ่อนเยาว์อย่างมากโข เบอร์แบโต้ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เมื่อได้เห็นเส้นโฮโลแกรมสีฟ้าสร้างโมเดลจำลองเป็นสิ่งของ เป็นฉาก เป็นคน ฯลฯ ซ้อนทับลงกับแอ่งน้ำทะเลเลือดในที่เกิดเหตุ เจ้าตัวไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเจ้าหน้าที่ภาคสนามจะมีสกิลวิเศษแบบนี้ใช้ ก็เลยจ้องมองภาพเหตุการ์จำลองด้วยแววตาอันเป็นประกายระยิบระยับ ก่อนที่เจฟเฟอร์จะดับมันลงด้วยคำพูดห้วน ๆ สั้น ๆ ของเขา

.

"นี่เอ็งกำลังคิดว่าตัวเองน่าจะทำแบบนี้ได้ใช่ไหม?"

.

"อ่ะ.. เอ่อ.. ครับ"

.

"ผิดแล้วไอ้น้องเพราะนี่น่ะคือทักษะขั้นสูงสำหรับมือโปรเท่านั้น ตอนแรกที่บอสส่งเอ็งมาก็แค่ต้องการให้เอ็งมาหาข่าว เพราะฉะนั้นใช้แค่พวกมือใหม่อย่างเอ็งก็คงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว นี่ไม่ใช่ภารกิจสอดแนมหาข่าวอีกต่อไป! มันคืองานสืบสวนสอบสวนที่ต้องใช้ Skill เฉพาะ! มือโปรอย่างฉันถึงต้องถูกส่งมา โปรดทำความเข้าใจใหม่ด้วยนะ!"

.

เบอร์แบโต้ถึงกับหน้าถอดสี เขาก้มหน้าลงหงายฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมาดู ไม่พูดไม่จาสักคำแต่ก็รู้แหละว่าคงมีบางอย่างในใจแน่ ๆ

.

.

ตัดภาพกลับมาดูลีลาเส้นสายโฮโลแกรมกันบ้าง ตอนนี้มันได้ส่ายสะบัดยึกยือถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวแบบเดียวกันกับที่เจฟเฟอร์สันนิษฐานเอาไว้เป๊ะ! โดยเฉพาะไอ้คนใช้มีด! ภาพจำลองจากมุมมองของปิเก้แสดงให้เห็นเลยว่า ไอ้ปีศาจตนนี้มันไล่ปาดคอผู้คนที่อยู่ด้านล่างเพียงคนเดียวจนหมดห้องโถง ชนิดที่แม้แต่บอร์ดี้การ์ดมือดีก็ยังชักปืนยิงไม่ทัน

.

ในขณะที่พวกอีก 4 คนที่ถล่มหลังคาลงมาจากทางด้านบนก็กระหน่ำยิงสนับสนุน จนท้ายที่สุดพวกมันก็รวบตัวกลุ่มเข็มกลัดควอทซ์มานั่งคุกเข่าหน้ากระดานอยู่ตรงกลางห้องโถงได้นับสิบชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวล้วนแต่เป็นสิ่งที่เจฟเฟอร์ไม่ได้นิรนัยไปถึง และหนึ่งในนั้นก็ดันมีปิเก้ตอนที่ยังไม่ตายรวมอยู่ด้วย

.

"Change Vision!"

.

"Volume up เอาเสียงขึ้น!"

.

เสียงเจฟเฟอร์ออกคำสั่งเพื่อออกจากมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ต่อด้วยการปรับเสียงให้ชัดเจนขึ้น

.

"เรามาช่วยกันฟังเถอะ ว่าปิเก้เขาให้อะไรกับเราไว้บ้างก่อนที่เขาจะตาย"

.

"ครับพี่เจฟต่อให้ตอนนี้ผมจะยังทำแบบพวกพี่ไม่ได้ แต่ผมจะจดบันทึกทุกอย่างเอาไว้ให้ละเอียดเลยครับไม่ต้องเป็นห่วง พี่ปิเก้! ผมจะไปเด็ดหัวไอ้คนที่มันทำกับพี่ เอาเลือดมันมาล้างตีนพี่ให้ได้คอยดู!"

.

สิ้นสุดชุดคำพูดปลุกใจดังกล่าว สองพี่น้องต่างรุ่นก็เหมือนกับหลุดเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริง โครงข่ายโฮโลแกรมแผ่ขยายอาณาเขตปกคลุมไปทั่วรอบตัวพวกเขา เผยให้เห็นในสิ่งที่ปิเก้กำลังเผชิญเมื่อ 20 นาทีก่อน และถัดจากบรรทัดนี้ไปคือมุมมองของปิเก้ล้วน ๆ

.

.

มือหนาสีขาวซีดแบบคนยุโรปวางจมอยู่กับแอ่งเลือด วินาทีที่เงยหน้าขึ้นมาพานท้ายปืนด้ามเขื่องก็ได้ฟาดใส่กระพุ้งแก้มเข้าอย่างจัง! จนดวงหน้าคะมำลงใส่พื้น! เสียงดังจ๋อม! ในอึดใจเดียวกันเสียงเล็กแหลมของหนึ่งในคนร้ายก็แว่วขึ้นมา

.

"ไอ้นี่ไม่ใช่พวกควอทซ์! เก็บมันไว้ทำไมเชือดมันซะ!"

.

"แต่ที่กูเห็นล่าสุดไอ้หมอนี่มันยืนคุยอยู่กับพวกเข็มกลัดควอทซ์นี่หว่า พวกมันอาจจะสนิทกันก็ได้เราอาจจะได้อะไรจากมัน!"

.

ปิเก้โดนจิกผมกระชากหัวขึ้น! ดวงตาเขามองเห็นเพียงดวงหน้ารูปไข่ของโจรภายใต้หน้ากากไหมพรม กับดวงตาสีฟ้าเข้มของมัน การกระพริบตาย้ำ ๆ ของปิเก้ทำให้เจฟเฟอร์กับเบอร์แบโต้ที่จ้องดูเหตุการณ์อยู่ รู้ได้เลยว่าเพื่อนกำลังแคปภาพนิ่งของเจ้าคนร้ายคนนี้เอาไว้ มีไฟล์สกุล jpeg จำนวนมากเด้งขึ้นข้าง ๆ มันเด้งเข้ามาในเมมโมรี่ในทุก ๆ ครั้งที่ปิเก้กระพริบตาอย่างผิดจังหวะ

.

แต่ทำไปก็เท่านั้นเมื่อคนร้ายไม่รู้สึกเอะใจอะไรเลย มิหนำซ้ำยังเริ่มตะคอกใส่ปิเก้ด้วยการถามว่าใครคือเจ้าหญิง "นาตาชา" ธิดาแห่งอลาลัส คนที่อาณาจักรส่งมาเป็นตัวแทนในการเจรจากเรื่องผลประโยชน์ จากการตรากฏหมายในครั้งนี้

.

"กูไม่รู้โว่ย! หาเอาเองสิ! แล้วกูเป็นผู้ชายมึงดูไม่ออกรึไง! ไอ้ fuck!!!"

.

ปิเก้สบถตอบซึ่งก็แน่นอนว่าผลพวงจากการกวนส้นตีนในครั้งนี้ ต้องแลกมาด้วยการถูกเจ้าคนใช้มีดสาวหมัดใส่หน้าท้องไปสองสามเซ็ต! เอส! เอส! เอส! ๆ ๆ

.

"ปากดีนักนะมึง! ถ้ามันหาง่ายแบบนั้นพวกกูจะแยกพวกมึงออกจากกลุ่มมาทำไมวะ! ห๊ะ!"

"เอส! เอส! เอส! ๆ บอกมาใครคือเจ้าหญิงนาตาชา! ใคร! เอส! เอส! เอส! ๆ ๆ "

.

"ตุบตับ ๆ ๆ , ตุบตับ ๆ ๆ , ตุบตับ ๆ ๆ "

.

ถ้ามีแต่ "ตับ ๆ ๆ ๆ" เหมือนตอนเอากันจะไม่ว่าเลย แต่นี่เสือกมีคำว่า "ตุบ ๆ ๆ ๆ" มาฟิจเจอริ่งด้วย ชีวิตก็มีแต่จะมอดม้วยมรณากันสิคราวนี้ ไอ้บ้านั่นสาวหมัดใส่ไม่ยั้งในขณะที่ปิเก้เองก็ถึงกับกระอักเลือดออกมา ทว่าครานั้นเจ้าตัวก็ยังเลือกที่จะกวนตีนต่อไปเพื่อประวิงเวลา เหมือนมีแผนจะทำอะไรสักอย่าง

.

"ก็กูบอกว่ากูไม่รู้! กูไม่รู้จริง ๆ มึงจะต่อยอะไรกูนักหนา! อั๊ก! , อั๊ก! , โอ๊ยยยย!!! , โอ๊ยยยย!!!"

.

"ดี! งั้นก็ดี! มึงรอกูแป๊บ!"

.

ไอ้คนใช้มีดยกมุมปากขึ้นกว้าง มันยิ้มปากฉีกอยู่ใต้หน้ากากไหมพรม พลันเดินเลี่ยงไปหาเหยื่อรายอื่นที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ปิเก้ ก่อนจะควักเอามีดสั้นด้ามทองอร่ามคู่ใจออกมา แล้วเสียบแทงจึก! เข้าใส่เหยื่อควอทซ์ผู้โชคร้ายที่บริเวณใต้คาง มันค่อย ๆ ลากมีดเลาะเอาหนังหน้าของเหยื่อออก ค่อย ๆ แซะ ค่อย ๆ เล็ม ในขณะที่แววตาก็หลืบหันมาด้านข้างจดจ้องมาทางปิเก้ตลอดเวลาจนน่าขนลุก สุดท้ายผิวหนังทั้งยวงก็หลุดออกมาเป็นหน้ากาก เผยให้เห็นความจริงว่าข้างในมันเป็นคนละคนกัน!

.

"คราวนี้มึงเห็นรึยังล่ะว่าทำไมกูถึงต้องถาม ก็เพราะพวกมึงแต่ละคนมันไว้ใจไม่ได้ไงไอ้สัด!"

"เอาเชือกมา!!!"

.

ผายมือออกกว้างกระดิกนิ้วดุ๊กดิ๊ก! ไอ้มือมีดที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าสั่งให้ลูกน้องเอาปลายเชือกที่ใช้โรยตัวลงมา ๆ ส่งให้กับมัน มันรีบซะจนไม่มีเวลาจะต่อปากต่อคำอะไรอีกแล้ว "ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู" คิดได้ดังนั้น จึงจัดแจงมัดปลายเชือกเป็นบ่วง แล้วก็เอาไปพันรอบคอเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเอาไว้ สะบัดมือส่งซิกแค่ครั้งเดียว ชายเข็มกลัดควอทซ์ผู้ถูกถลกหนังหน้าก็โดนเชือกไนล่อนกระชากร่างขึ้นไป! ห้อยโตงเตง! ดิ้นพับ ๆ ๆ ! อกทะลุเสียบคาอยู่กับส่วนแหลมของแชนเดอร์เลียร์อย่างสยดสยอง!

.

ศพแรกผ่านไป.. ศพสอง... ศพสามจะเป็นใคร? ถ้ามิใช่ปิเก้! ด้วยเหตุผลแห่งความกวนส้นตีนและอยู่ใกล้สุด บ่วงบาศแบบเดียวกันเลยพันเข้าที่รอบคอของเขา เขาตายแน่ ๆ ดูได้จากสภาพศพ แต่จะตายในเหตุการณ์นี้เลยไหม? จะทิ้งอะไรไว้ให้แกะรอยเพิ่มเติมอีกรึเปล่า? โปรดติดตามตอนต่อไป!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 57 : กล่องดำของปิเก้

    "พี่ปิเก้กำลังบอกใบ้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากบนนั้นใช่ไหมครับ? พี่เขาต้องการให้เราขึ้นไปสืบข้างบนใช่ไหมพี่เจฟ?"เบอร์แบโต้ตวาดเสียงดุดัน ท่าทางเขาดูจริงจังจนออกนอกหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับสีหน้าสีตาของสายลับรุ่นพี่เป็นที่สุด."โอ่ย! โอ่ย! โอ่ย! ๆ ไอ้โต้เอ๊ย! ไอ้โต้! นี่ตอนเด็ก ๆ แม่มึงบดแกลบให้แดกกับกาบมะพร้าวเหรอ สมองมึงถึงอุ้มน้ำได้ถึงเพียงนี้! มันใช่ซะที่ไหนล่ะเจ้าทึ่ม! ตอนนั้นปิเก้มันนอนแหงนหน้าอยู่ใช่ไหม?"."ใช่ครับ.. พี่เขาหนุนตักผมอยู่?"."ถ้างั้นก็ไม่ผิดหรอก! เพราะที่มันชี้น่ะไม่ใช่รูแหว่งโบ๋บนหลังคา หากแต่เป็นของที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างหน้าผากแกต่างหากล่ะเจ้างั่ง!".ได้ยินเช่นนั้นมือหนาหยาบกร้านของเบอร์แบโต้ ก็รีบตะปบวนไปวนมาบนหน้าผากตัวเองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต."หน้าผากผมมันมีอะไรเหรอครับพี่เจฟ ผมไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย?"."เฮ้อ..! คืออย่างงี้สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ธรรมชาติของหน่วยภาคสนามอย่างเราน่ะ มันต้องพร้อมที่จะตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างลับ ๆ ผ่านทางชิบที่ฝังไว้ในส

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 56 : ถ้าน้องไม่ไหว ก็ปล่อยให้พี่

    สะบัดลำตัวสะดีดสะดิ้งหวิดหวิวเสียวสะท้าน ทันทีที่ภาพเสมือนโดนตัดสัญญาณ เจฟเฟอร์ก็รีบดึงสติกลับมาที่ตัวเอง เดชะบุญที่เขาไม่ได้ไปไหนไกลจากเบอร์แบโต้นัก จากตรงนี้ในชุดรัดรูปที่ใช้สำหรับทำภารกิจโดยเฉพาะ เจฟเฟอร์ยังคงมองเห็นเจ้าหน้าที่รุ่นน้องได้อย่างชัดเจน."โถ่เอ๊ย! ไอ้โต้ ดูสิดูมันทำ! ทำอย่างกับคนไม่เคยฝึกมา รื้อสถานที่เกิดเหตุกระจุยกระจาย ถุงมือก็ไม่ใส่ หลักฐานสำคัญหายหมดแล้วมั้งน่ะ! "."น่าเสียดายที่บอสรู้ตัวเร็วไปหน่อย ไม่งั้นเราคงได้ข้อมูลมามากกว่านี้ ดอกลาเวนเดอร์สดดอกหนึ่งราคาเฉียด 500 เหรียญ ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะกล้าปาเข้าใส่เราได้! ชูู่ววววว! ถึงที่ส่งไปจะเป็นแค่ภาพ visual ระบบ wireless ก็เถอะ แต่มันก็เสียวท้องน้อยดีเหมือนกันแฮะ.. วู้วววว!".วนมือเป็นวงบนพุงตัวเองวูบวาบ สายลับหนุ่มเป่าปากพ่นลมหายใจพรู อย่างที่เราทราบว่านวัตกรรมของ Parallel นั้นมีมากมายหลายชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้านี่ "เครื่องฉายภาพระยะไกลระบบ wireless " มันเป็นอุปกรณ์ย่อยที่ถูกติดตั้งเข้ามาใหม่ เพียงแค่กลับด้านหัวเข็มขัดนิดเดียว จากอุปกรณ์แปลงร่างก็จะกลายเป็นเครื่องส่งสัญญาณในทันที เดชะบุญที่โลกยุคนี้เป็น

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 55 : เบาะแสที่สาปสูญ

    บรรยากาศมาคุแผ่สยายปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ เงียบจนได้ยินเสียงเข็มหล่น เงียบซะจนได้ยินเสียงแอร์ดังครือ ๆ ครือ ๆ เจฟเฟอร์หน้าซีดเป็นไก่ต้ม เขาทำได้เพียงคุกเข่่าแล้วก็ก้มหน้าลงปลดปลงกับบานประตูอันเว้าแหว่ง กูไม่น่าพังมึงเข้ามาเลย!."ว่าไงล่ะ! จะเงียบทำไมมิทราบไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันถามเหรอ ว่าคุณเสียมารยาทเข้ามาที่นี่ทำไม!"บอสสาวแห่งองค์กรตวาดเสียงเข้มดุดัน และระหว่างที่เจฟเฟอร์กำลังจะอ้าปากตอบ."อ่ะ.. เอิ่ม คือผมจะเอา.. า.. า.."."หยุด! อย่าเพิ่งพูดอะไร ส่งหัวเข็มขัดคุณมาก่อน!"."หัวเข็มขัด! บอสจะเอาคืนเหรอครับ งั้นก็หมายความว่า.. ห๊ะ! นี่อย่าบอกนะว่า! บอสจะไล่ผมออก! ด้วยเรื่องแค่นี้เนี่ยะนะ! ไม่ครับบอสไม่ ไม่ ไม่ ๆ ๆ ไม่มีทาง! ยังไงผมก็ไม่ออก ออกไปผมจะเอาไรแดก!"."ใครอนุญาตให้เงยหน้ามิทราบคุณเจ้าหน้าที่ ฉันบอกว่าส่งมาก็คือส่งมาไง! ทำไมต้องให้ย้ำ!".กัดกรามกรอด ๆ ฝืนใจเจ็บทน ต้องก้มหัวให้ผู้หญิงแล้วยังต้องมาโดนปลดออกจากตำแหน่ง เพราะความจังไรของตัวเองอีก รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั้น ถึงจะไม่อยากทำแต่สุดท้ายก็ต้องยอมปลดหัวเข็มขัด ที่มีตราสัญลักษณ์เครื่องหมายเท่ากับ (=) แห่งองค์กร Parallel ค

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 54 : ครูปรีชา

    "ฟึบฟับ! ๆ , ฟึบฟับ ๆ , โฉ้งเฉ้ง ๆ ๆ !".อย่าว่าแต่ไอร่อนแมนเลย ชั่วยามนี้ทรานฟอร์เมอร์แม่งก็มา เมื่อขากลคู่งามดับไอพ่นลงแล้วแลนด์ดิ้งลงสู่พื้นพรมเปอร์เซียในห้องบอส ผืนพรมราคาแพงยุบบุ๋มลงตามน้ำหนักตัวที่มากโข แต่ครานั้นเจฟเฟอร์ก็ยังอุตส่าห์โพสต์ท่าตะแคงข้าง โชว์ให้เห็นถึงอะไหล่ชิ้นงามที่กำลังสับเปลี่ยนตัวเองกลับคืนรูปลักษณ์."เอิ่ม.. ผมต้องขอประทานโทษด้วยครับบอส คือว่าผมเผลอตัวเผลอใจไปหน่อย มันอดใจไม่ไหวจริง ๆ ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย แฮะๆ"."แบบว่าขาข้างใหม่มันยังไม่ชินน่ะครับ เผลอ ปริ๊ด! แค่นิดเดียว ไม่คิดว่าขามันจะสั่นซะจนพุ่งใส่ประตูพังเป็นแถบแบบนี้ ต้องขอโทษคุณผู้หญิงด้ว.. ย.. ย!".เจฟเฟอร์ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะจิต ณ ตอนนี้ที่ไฟฉุกเฉินตรงมุมห้องสว่างโล่ขึ้นมา ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้เห็นหน้านวลนางที่อุปทานว่าเป็นแบร็ควิโดว์แบบจะ ๆ เป็นครั้งแรก."เอ็มม่า!""เธอคือเอ็มม่าแผนกการเงิน ที่อยู่ประจำชั้น 3 นี่นา!?""ไอ้หย๋า! นี่อย่าบอกนะว่าคุณโดดงานมาเอากับบอส! หึ๊ยยย! แรดชุปแป้งทอดชะมัด!".โดนตะคอกใส่แบบนั้น เป็นใครก็ต้องสวนกลับ!."หยุดปากพล่อยเดี๋ยวนี้นะคุณเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์! มันไม่

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 53 : เปลือกห่อหุ้ม 48 มม. (18+)

    คุ้มไหมกับการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย คุ้มไหมกับเวลาที่เสียไปให้แก่แขนข้างหนึ่ง เพื่อเอามาแลกกับการทำอะไรที่ต่ำทรามเช่นนี้."นี่กูจำเป็นต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอวะ? แม่งเอ๊ย! มันกระจอกเกินไปรึเปล่าวะไอ้เจฟ?".มือซ้ายข้างใหม่ที่เพิ่งได้รับการปลูกถ่ายมาสั่นพับ ๆ เจฟเฟอร์กำลังช่างใจอย่างหนักว่าจะใช้มือข้างนี้ชักว่าวให้แก่ลำควยที่แข็งโด่ขึ้นมาดีไหม เพราะต่อให้เขาจะเป็นคนสถุลหื่นกามยังไง มือข้างใหม่ก็ควรจะนำไปใช้ในภารกิจช่วยโลกไม่ใช่เอามาช่วยตัวเอง."ถ้าแกมีชีวิตแกคงเกลียดฉัน เอาเป็นว่าฉันจะไม่ทำล่ะกัน ตราบใดที่ใจแข็งพอเชื่อว่าไม่นานลำควยก็จะสงบ มันคงอ่อนตัวลงไปเองโดยไม่ต้องง้อการชักว่าว".เคยได้ยินแต่สำนวนที่ว่า "รออย่างมีความหวัง" มาตอนนี้เจฟเฟอร์กับกำลัง "รออย่างมีความเงี่่ยน" อย่าว่าแต่มือเลย นาทีนี้แม้แต่ขาข้างใหม่ก็ยังโรมรันร้องครือครางเอี๊ยด.. อ๊าดดด.. ไม่ต่างจากมอเตอร์ไซต์ 250 cc ของวาเลนติโน่ รอสซี่ ที่เตรียมจะออกตัวจากกริดสตาร์ท มันจวนจะปะทุอยู่รำไร.ก็อย่างที่บอกแหละว่าก่อนหน้านี้ ขาเจ้ากรรมนั้นเคยเดินโทง ๆ ไปหาช่อดอกลาเวนเดอร์เองมาแล้ว กับครั้งนี้เองก็ด้วย! กลไกกับชุดฟันเพืองของม

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 52 : ห้องของบอส (18+)

    เปลือกตาหนักอึ้งเริ่มเคล่ือนเปิดกว้าง พรายแสงเจิดจ้าจากหลอดไฟเพดานคือสักขีพยานสำหรับการตื่นตัว บนเตียงผ่าตัดในห้องพยาบาลชั้น 4 ในที่สุดเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ก็วกกลับคืนสู่โลกภายนอกได้สำเร็จ พร้อมกับแขนและขาข้างใหม่ที่ทั้งสวยงามและวาววับ ไม่มีแล้วกับไอ้ด้วนแขนกุด นาทีนี้มีแต่เจ้าหน้าที่ภาคสนามที่พร้อมจะทำภารกิจทุกชนิด แบบใส่สุดไม่หยุดสุดสัปดาห์.แต่ก็แปลกตรงที่สิ่งแรกที่เจ้าตัวเลือกทำ กลับมิใช่การก้าวเท้าลงจากเตียงผ่าตัดแล้วขยับเขยื้อนยืดเส้นยืดสาย เหมือนกับที่ผู้ช่วยนาริตะทำกับร่างกายของออเจ้าดาวิกา เขากลับเลือกที่จะถามหมอยูมิโกะขึ้นว่า."ดอกไม้ผมอยู่ไหน?"พลางหันซ้ายแลขวา สอดส่ายสายตาลอกแลก."ดอกไม้?! ดอกอะไรของคุณคะ หมอไม่เห็นรู้เรื่อง หรือว่าสมองคุณผิดปกติเพราะได้รับรังสีจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มันปวดตรงไหนรึเปล่าเอ่ย?"

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status