"หยุดตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วางกำลังล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว!"
.
เห็นจะจริงถ้าหากว่านี่เป็นหนังไทยสมัย "จารุณี" แสดงเป็นพจมาน ตรงกันข้ามเมื่อประโยคแสนเชยดังกล่าวคงจะใช้กับสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ไม่ได้ ตำรวจห่าเหวอะไรล่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่ซอมบี้เชียงกงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เต็มไปหมด เจฟเฟอร์กับกลุ่มคนใช้่มีดคงสุดจะต้านทานแล้ว สังเกตได้จากการถอยร่นเอาหลังพิงกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มิหนำซ้ำกางเกงผ้ายืดเจ้ากรรมก็ดันมาพันควยพันหำจนเกือบจะล้มคะมำเสียหลัก
.
"โอ๊ย! เอ๊ย! อุ๊ย! เดี๋ยวก่อนเซ้! อย่าเพิ่งกูยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งบุกเข้ามาตอนนี้ไอ้พวกหุ่นสารเลว!"
สายลับหนุ่มขึ้นเสียงพลางกระโดดเหยง ๆ เซถลาออกจากตำแหน่ง สีข้างเขาครูดเข้ากับเศษตัวถังยานที่ลักพาตัวองค์หญิงนาตาชามา โดยสันนิษฐานคร่าว ๆ ได้ว่า ยานลำนี้น่าจะโดนยิงร่วงก่อนหน้า Gravitybike ของเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะไอร้อนจากเครื่องยนต์ยังคงอุ่น ๆ อยู่ ทำให้เจฟเฟอร์เกิดปิ้งไอเดียบางอย่างขึ้นมา ก่อนจะหลุบสายตาลงมามองลำควยกับลำขาทีี่พันกันอิรุงตุงนังของตนเอง แล้วก็บ่นขมุบขมิบ
.
"ชิ! ไอ้ควยระยำนี่ก็ช่างแข็งถึกแข็งทนเหลือเกิน กูใส่กางเกงไม่ได้โว๊ย! รีบอ่อนลงซักทีเซ้! กูอายชาวบ้านเขามีแต่ผู้ชายทั้งนั้น เดี๋ยวเขาก็หาว่ากูเป็นเกย์หรอก!"
ถ้าไม่เป็นออทิสติกก็คงจะวิกลจริตในเซลล์สมอง ใครจะเชื่อว่าเขาจะกล้าทำ ด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับกับอะไรหลาย ๆ อย่างที่มิอาจควบคุมได้ ควยยาวลำเขื่องจึงถูกกระดกขึ้นไปพาดใส่ตัวถังยานที่ระอุไปด้วยคลื่นความร้อน เสียง "ฉาดดด~" ดังลากยาว ราวกับเตาทำขนมโตเกียวที่เปลี่ยนหัวแก๊สมาใหม่ ไส้เค็มหรือหวานอันนี้ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าความแดงฉานของลำ ช่างละม้ายคล้ายกันกับฮอตด็อกที่แทรกอยู่ตรงกลางไม่มีผิด
.
"วู้ววว! อ่อนแล้วค่อย ๆ อ่อนลงแล้ว พวกคุณต้านพวกมันไว้ก่อนนะ ผมขอเวลาส่วนตัวแป๊บนึง ใส่กางเกงได้เมื่อไหร่ผมจะออกไปช่วยเลยรับรอง.. วู้ววว! อู้ววว~!"
เป่าปากหวีดหวิวสลับกับการหันไปสื่อสารกับพวกกลุ่มโจรลักพาตัวเป็นระยะ ด้วยความสัตย์จริงเจฟเฟอร์ไม่อยากจะเอาเปรียบหรอก แต่เป็นเพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าลูกตะกั่วจากปลายปืนทำอะไรซอมบี้เหล่านั้นไม่ได้ ลูกสมุนทั้ง 4 ก็แค่ตัวแถม แล้วคนที่เจฟเฟอร์โฟกัสจริง ๆ ก็มีแค่ไอ้คนใช้มีดที่อยู่ใต้หมวกไหมพรมเท่านั้น แต่เดี๋ยวก่อน
.
"ลูกพี่! ข้างบนระวัง!"
.
"อ๊ากกกก!"
"ปัง! ,ปัง! , ปัง! , ปัง! ๆ ๆ "
.
"โครมมม!"
.
ให้ตายเถอะจักรกลซอมบี้พวกนี้แม่งมีอยู่ทุกที่เลยรึไง ในระยะประมาณ 5 - 7 ช่วงตัวห่างจากจุดที่เจฟเฟอร์ยืนปิ้งควยอยู่ ไซบอร์กตัวหนึ่งก็ดันทะลึ่งกระโจนฝ่าเพื่อนฝูงขึ้นไปกลางอากาศ มันกระโดดได้สูงเกินกว่าแนวป้องกันใด ๆ ทำให้ลูกน้องพลปืนโดนกระซวกแทงจากมุมสูง "แคว๊ก! , จ้วง! , จึก! , จ้วง! , จึก ๆ ๆ !" หัวสมองเขาย่นยุบลงไปกองรวมกับฝ่าเท้า สันหลังโครงกระดูกแตกละเอียดราวกับโดนลูกตุ้มเหล็กทุบเข้าใส่ ตอกย้ำอย่างยิ่งยวดว่าปืนกลที่ถืออยู่ในมือก็แค่อาวุธที่ใช้กับคน มันฆ่าคนได้เป็นร้อย ๆ ในงานกาล่าดินเนอร์ก็จริง แต่ใช้ไม่ได้จริงในการยิงซอมบี้พวกนี้เลยสักนัด
.
แอ่งเลือดสีแดงเข้มหลากลงมาเป็นทาง ไหลแทรกซึมเข้าไปถึงใต้พื้นรองเท้าของเจฟเฟอร์ ทำให้เจ้าตัวต้องหยุดการกระทำอนาจารทุกอย่างลง แล้วก็เริ่มหันซ้ายแลขวา ให้ตายเถอะ! แต่ละคนนี่ยืนอึ้งเป็นตอไม้ ทุกคนต่างช็อคจนขยับตัวกันไม่ไหว พอไอ้หุ่นเชียงกงนั่นเห็นว่าได้ทีมันเลยแยกเขี้ยวออกกว้าง เปล่งแสงจากดวงตาให้แดงก่ำสว่างโพลง สลับกับการเอียงคอก็อก ๆ แก๊ก ๆ พลันเอี้ยวตัวลงไปหยิบเอาปืนกลที่เพิ่งกำพร้าเจ้าของเมื่อครู่ขึ้นมาถือ ดุจกำลังคิดกับตัวเองว่าเจฟเฟอร์จะต้องเป็นรายต่อไป
.
"หือ? นี่มึงคิดจะยิงกูงั้นเหรอ? หุ่นกระป๋องอย่างพวกมึงเนี่ยะนะยิงปืนเป็น?"
ตลกขำขันเย้ยหยันได้ไม่ถึงเสี้ยววิ เจฟเฟอร์ก็ต้องเปลี่ยนความคิด ดูได้จากไข่กับควยของเขาที่หดสั้นลงจุ๊ดจู๋ก็รู้ เมื่อจักรกลเดนตายตัวดังกล่าวอ้าปากกว้างจนเห็นคอหอย มันเขมือบเอาปืนกลทั้งกระบอกเข้าไป พลางเคี้ยวตุ้ย ๆ ๆ ราวกับ HK กระบอกนั้น เป็นขนมปังป็อกกี้ในกล่องกูลิโกะ
.
เหล็กแต่ละชิ้น น็อตแต่ละตัว หรือแม้แต่ขดลวดวงสปริง ล้วนแต่ถูกกลืนกินเข้าไป ทำให้สิ่งที่เห็นกลายเป็นภาพสะอิดสะเอียนชวนอ้วกของบรรดาอะไหล่ ที่หลากไหลไปมาเพื่อการสมานแผล พวกมันช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้แก่กันและกัน ผ่านไปไม่นานจากที่เคยก๊อก ๆ แก๊ก ๆ หุ่นโรบอทบุโรทั่งตัวนี้ ก็กลายสภาพมาเป็นหุ่นยนต์ที่ีมีความแข็งแรงพร้อมใช้
.
มันทรงพลังขึ้น คล่องแคล่วขึ้น แม้ภายนอกจะดูไม่เหมือนของใหม่ แต่ภายในบอกได้เลยว่า "เวรี้กู๊ดดด~!" แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่หุ่นยนต์จากชายขอบพวกนี้ ได้แสดงกระบวนการซ่อมแซมตัวเองให้พวกมนุษย์เห็น ทำเอาเจ้าคนใช้มีดกับบรรดาลูกน้องที่เหลืออยู่ถึงกับอึ้งกิมกี่ พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโลกพัฒนาไกลมาถึงขัั้นนี้แล้ว
.
ซึ่งผิดกับเจฟเฟอร์ ทันทีที่เห็นเบอร์หนึ่งแห่งองค์กรอย่างเขา ก็ถึงกับโพล่งบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาในจิตใจ
.
"หึ ๆ เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด กูว่าแล้วว่าสิ่งที่พวกมึงต้องการต้องเป็นอะไหล่ ภูเขาขยะพวกนี้คงไม่มีของที่ใช้ได้แล้วสินะ ถึงต้องมาดักชิงวิ่งราวสอยยานของชาวบ้าน"
.
"เสียดายที่ประเทศแถบเอเชียโดนนิวเคลียร์เล่นงานหมด ถ้าวันนี้โลกยังมีประเทศไทยอยู่นะ กูจะแนะนำให้พวกมึงไปที่นั่น ประเทศห่าอะไรวะ นำเข้าขยะอิเล็คทรอนิคเข้ามาในประเทศเพื่อขูดเอาทองแดงไปขาย แม่งมีแต่มลพิษทั้งนั้นไม่รู้มันคิดได้ยังไง! เฮ้อ!"
.
"ฟึบฟับ! , ฟึบฟับ! , แกร็ก!"
เสียงปลายนิ้วที่เคยพับเอาหัวยิงเลเซอร์ออกมาม้วนกลับ เมื่อรู้ดังนี้แล้วทุกอย่างก็ลงล็อคพอดี
.
เจฟเฟอร์รู้แล้วว่าทำไมก่อนหน้านี้ตนเองถึงเกือบโดนข่มขืน พวกมันไม่ได้จะทำมิดีมิร้ายเขา มันก็แค่ต้องการอะไหล่ไปซ่อมแซมตัวเอง "ซอมบี้โลหะ" คือลักษณะนามที่เราใช้เรียกจากสิ่งที่พบเห็น แต่เราเองก็ลืมความจริงข้อหนึ่งไปเหมือนกัน ว่าก่อนหน้านี้พวกมันทุกตัวก็คือหุ่นยนต์ดี ๆ ตัวหนึ่ง
.
แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ! ไม่มีทาง! เจฟเฟอร์ไม่มีวันให้พวกหุ่นกระป๋องรู้เป็นอันขาดว่าเขาเป็นอะไร จะให้พวกหุ่นรู้ได้ไงว่าในตัวเขานั้นเต็มไปด้วเครื่องยนต์กลไกที่ทันสมัยที่สุดในโลก มีหวังโดนรุมขย้ำเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกันพอดี สายลับหนุ่มก็เลยแสร้งทำเป็นกลัว เขาคว้ากางเกงผ้ายืดขึ้นมาใส่ ยกมือขึ้นประสานศีรษะ แล้วก็ปล่อยให้ไอ้หุ่นอัพเกรดใหม่ตัวนั้นไล่ต้อนจนจนมุมอย่างจงใจ พลางทรุดตัวลงนั่งพิงกับซากตัวถังยานเอาไว้
.
จังหวะที่กงเล็บของมันกำลังจะง้างขึ้นสุดวงแขน และจวนจะตะบันลงใส่กลางอกเขาอยู่รอมร่อ เดชะบุญที่จู่ ๆ ก็มีมีดบินปริศนาดวงหนึ่งพุ่งแหวกอากาศ ลอยวิบวับมาอย่างกับอาวุธลับของชอลิ้วเฮียง แล้วก็ปักเข้าใส่ที่สีข้างมันพอดี
.
"ฟับ ๆ , ฟับ ๆ , ฟับ ๆ , ฟับ ๆ "
.
"ซึบ!!!"
.
ด้ามมีดโผล่พ้นออกมาจากปากแผลเพียงเล็กน้อย น้ำมันหยดติ๋ง ๆ ฟันเฟืองแตกกระจาย เสี้ยวอึดใจต่อมาหางตาของเจฟเฟอร์ก็ได้พานพบเข้ากับเงาหรือกลุ่มควันอะไรสักอย่าง ที่เอ่อล้นขึ้นมารอบบริเวณ ลักษณะมันเหมือนกับสารละเหยสีดำทมิฬที่แทรกตัวพัวพันสรรพสิ่งจนมาจรดอยู่กับด้ามมีด อาณาเขตของมันยังขยายกว้างไปได้อีกด้วยการล่องลอยไปคลอเคลียรอบ ๆ บริเวณที่มีหุ่นยนต์ซอมบี้ตัวอื่น ๆ ยืนอยู่ ซึ่งมิใช่เพียงแต่ตัวที่โดนมีดแทงอยู่เบื้องหน้าเท่านั้น
.
"มันอะไรกันอีกว่ะเนี่ยะ? อย่างกับหมอกมรณะในหนังสยองขวัญอ่ะ?"
สายลับหนุ่มถึงกับหลุดปากอุทานออกมา เขายังคงนั่งจุ่มก้นลงกับพื้นและอิงแผ่นหลังพิงกับผนังยานอยู่เหมือนเดิม
.
กลิ่นเบนซินยังไม่หายเหม็นทุกอย่างก็ได้รับการเฉลย! ให้ตายเถอะ! เขาเพิ่งจะมารู้ซึ้งเอาตอนนี้นี่แหละว่าเพื่อนซี้อย่างปิเก้ต้องพบเจอกับอะไร มันคือมัจจุราชที่ใช้มดลูกร่วมกันกับเดอะแฟลช ไอ้บ้านี่คือปีศาจที่ติดเครื่องยนต์ 1,200 แรงม้าของรถฟอร์มูล่าไว้ที่ฝ่าเท้า เพราะแท้จริงแล้วไอ้เงาดำ ๆ หรือกลุ่มควันที่เจฟเฟอร์เอ่ยถึงเมื่อครู่ ก็คือเงาจากการเคลื่อนไหวของเจ้าคนใช้มีดนั่นเอง!
.
กระพริบตาทีเดียวด้ามมีดที่ปักคาอยู่ก็วาร์ปหาย พร้อม ๆ กับชะตากรรมของเจ้าหุ่นกระป๋องที่ขาดวิ่นออกเป็นแปดซีก! ร่างของมันพังครือลงมาอย่างกับโดมิโน่ สายไฟสปาร์คเข้ากับน้ำมันจนเกิดเป็นประกายไฟลุกท่วม ตามติดมาด้วยเสียงลงมีดในแบบเดียวกันที่ดังขึ้นอย่างถี่รัว เรียกได้ว่าเงามรณะนั่นพาดผ่านไปตรงไหน ซอมบี้โรบอทที่ยืนอยู่มีอันต้องลาโลกไปทั้งหมด
.
แม่งโครตเท่! โคตรเก๋! โคตรคลู! แต่ก็นับว่าน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย ที่มันทำได้แค่เที่ยวละ 10 ตัว ก่อนจะขึ้นตัวที่ 11 , 12 , 13 , 14 , 15 ไอ้ฆาตกรหมวกไหมพรม ก็เลยหันหน้ามาทางเจฟเฟอร์ พลางเอื้อมมือลงไปที่ข้อเท้าแล้วก็เขวี้ยงปืนพกขนาดจิ๋วให้กับเขา
.
"แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ เอ้านี่รับไปอย่าเอาเปรียบกันนักสิ สู้มัน! ทำเหมือนที่เอ็งเคยทำอ่ะ แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ "
.
"หมับ!"
.
"จะให้ผมยิงปืนงั้นเหรอ แต่กระสุนทำอะไรมันไม่ได้เลยนะคุณก็เห็นอยู่?"
เจฟเฟอร์ตอบพลางลุกขึ้นยืน ก่อนจะขยับกางเกงจัดระเบียบไข่หำให้ได้รับอิสระภาพ
.
"ทำควยแข็งใหม่ได้ไหม?"
.
"คุณเห็นด้วยเหรอ?!"
.
"ก็เออน่ะสิ.. เขาเห็นกันหมดทุกคนนั่นแหละ แฮ่ก ๆ ฮืด..ฮาดดด.. ไม่งั้นจะดึงเอ็งมาช่วยทำไมให้เสียเวลา ข้าต้องพักข้าใช้แรงมากเกินไป เร็วเข้า! จะทำอะไรก็รีบทำพวกมันระดมกำลังกันมาเพิ่มอีกแล้ว! ไม่ทำอะไรสักอย่างได้ตายโหงกันหมดแน่!"
.
ภายใต้เปลวเพลิงสีส้มอมเหลืองที่ลุกโชติช่วงขึ้นจากเศษซากหุ่นยนต์สนิมเขรอะ เจฟเฟอร์กำปืนกระบอกจิ๋วเอาไว้แน่น เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็เห็นแต่กองทัพโรบอทผีที่มีน้ำมันเครื่องยืดเป็นสายออกจากปาก มองไปข้าง ๆ ก็เห็นแต่คนหน้าตาโหด ๆ 4 คนถืออาวุธสงครามในชุดผู้ก่อการร้าย ยิ่งเป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย โครงหน้าที่ยื่นพ้นหมวกไหมพรมออกมา สร้างความสะอิดสะเอียนให้แก่เขามากเหลือเกิน
.
"อย่าว่าแต่ให้มีอารมณ์เลย เห็นของแบบนี้เข้าไป พากูไปปรึกษาหมอเรื่องการเสี่อมสมรรถภาพทางเพศยังจะดีซะกว่า! เหี้ยเอ๊ย! ลำกล้องปืนจิ๋วนี่ยังใหญ่กว่าควยกูตอนนี้อีก!"
ปล่อยผ่านแต่ด่าในใจ แถมยังเลือกที่จะตอบไอ้คนใช้มีดกลับไปอย่างสุภาพว่า
.
"มันแข็งไม่ได้ครับ ผมเองก็ต้องพักเหมือนคุณนั่นแหละ"
.
"ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรเอาปืนที่ให้ไปนั่นแหละยิง พยายามยิงสะกัดกั้นการเคลื่อนไหวของมันเอาไว้ อย่าให้มันกระโดดเข้ามาในแนวบังเกอร์ของเราได้อีก ข้าหายเหนื่อยเมื่อไหร่ข้าจะจัดการเชือดพวกมันเอง เอ็งน่ะไปยืนเป็นแนวหน้ากับคนอื่น ๆ โน่นข้าจะนั่งพัก"
.
"อะ.. อ่ะ.. ครับ! "
ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าตกลงปลงใจไปเป็นขี้ข้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันมันลงล็อคกับสิ่งที่เจฟเฟอร์คิดเอาไว้พอดี เขาต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นกลัวอยู่แล้ว ยังไงซะเขาก็จะยอมให้พวกมันรู้ไม่ได้เป็นอันขาด ว่าในตัวเขามีความเป็นหุ่นยนต์อยู่ครึ่งหนึ่ง อะไหล่ในตัวจะกลายเป็นของพวกซอมบี้โรบอทไม่ได้
.
ว่าแล้วจึงจัดแจงเดินอุ้ยอ้ายออกมายืนจังก้าร่วมกับแนวรบคนอื่น ๆ พลางสาดกระสุนจากปืนกระบอกจิ๋วใส่พวกมันอย่างไม่ยอมลดละ เสียงเป้งป้าง! เป้งป้าง! ดังต่อเนื่องรุนแรง ราวกับแมกกาซีนจะไม่มีวันหมด HK , อาร์ก้า , M16 ระดมยิงสนับสนุนเป็นแนวรบสามประสาน ที่สมัคสมานสามัคคีกัน จนมองเห็นหุ่นยนต์มากมายยืนดิ้นกระแด่ว ๆ ช็อคสปาร์ค ก้าวขึ้นหน้าไม่ไหว
.
แต่ก็ต้องย้ำกันอีกครั้งว่าที่ทำอยู่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีใครบอกได้ว่าไอ้คนใช้มีดจะต้องพักอีกนานไหม มันนั่งแผ่หลาหันหลังพิงผนังยานหอบแฮ่ก ๆ ณ ตำแหน่งเดียวกันกับที่เจฟเฟอร์เคยนั่งเป๊ะ ซึ่งหากมองจากด้านบนลงมาในรูปแบบเดียวกันกับการใช้ g****e map ส่องดูแล้วล่ะก็ เราจะเห็นเลยว่าพื้นที่ ๆ เจฟเฟอร์กับกลุ่มกองกำลังตั้งแนวรบอยู่นั้น มีลักษณะเหมือนกับไข่ดาวไม่มีผิด
.
กล่าวคือบริเวณที่มีซากยานปักคาพื้นอยู่คือโซนของไข่แดง ไอ้คนใช้มีดกับทีมงานรวมถึงเจฟเฟอร์อยู่กันตรงนี้ แล้วก็พยายามใช้ยานทั้งลำเป็นเกราะกำบังรักษาชีวิต ดังนั้นวงกลมรอบนอกซึ่งมีรัศมีมากกว่า 500 เมตรจึงเป็นโซนของไข่ขาว มีหุ่นยนต์อัดแน่นอยู่เต็มไปหมด ซึ่งแม้ว่าจะมีบางส่วนที่ถูกฤทธิ์มีดสั้นเฉือนสายสัญญาณจนดับดิ้นแดโดยไปบ้าง แต่ความจริงก็คือความจริง! พวกมันไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย จักรกลสังหารเหล่านี้มีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ มิหนำซ้ำยังขยายไข่ขาวกินพื้นที่ไข่แดงเข้ามาทุกขณะ
.
"ไม่ได้การณ์ลองเป็นอีหรอบนี้ไม่รอดชัวร์!"
.
"ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง!"
.
"ไอ้สัด! ไป ๆ มา ๆ แม้แต่กระสุนปืนมึงก็ยังแดกเข้าไปอัพเกรดตัวเองได้อีกนะ อีเหี้ยเอ๊ย! กูจะเอาอะไรไปสู้กับมึง! นี่แหน่ะ! ยิง! , ยิง! , ยิง! , นี่แหน่ะ! ๆ ๆ "
.
"ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! "
.
ไม่รู้ว่าจะเป็นบ้าหรือถูกฆ่าตายก่อน ยอมรับตามตรงว่านาทีนี้เจฟเฟอร์ของเราเองก็เริ่มมองหาทางหนีทีไล่แล้ว เขาเริ่มรู้สึกว่ากลยุทธ์การใช้ปืนนั้นโคตรจะไม่เวิร์ค ประกอบกับภารกิจหลักของเขาก็ไม่ใช่การเป็นลูกน้องของไอ้คนใช้มีดหัวไหมพรมนี่ซะหน่อย องค์หญิงนาตาชาธิดาแห่งอลาลัสต่างหากคือภารกิจ เพราะงั้นจังหวะที่พวกกองกำลังทั้งสามเผลอ เจฟเฟอร์จึงได้ตัดสินใจชิ่งหนีออกมาจากพื้นที่ไข่แดง
.
แล้วเข้าโหมดมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (Firstperson) เพื่อเรียกเอาแผ่น Jumper board ออกมาใช้ วิ่งไปพลางปามันออกไปกลางอากาศพร้อมกันถึง 13 แผ่นรวด โดยหมายมั่นปั้นมือว่าน่าจะมองเห็นนาตาชาได้จากบนที่สูง ทำเอาพวกซอมบี้บุโรทั่งที่ยืนดิ้นกระแด่ว ๆ อยู่บนภาคพื้น ถึงกับต้องแหงนหน้ามองตามกันเป็นพรวน แต่เจฟเฟอร์ก็ไม่สนใจ เขาตระหนักรู้แล้วว่าสถานการณ์ตอนนี้องค์หญิงนาตาชาเป็นอะไรที่สำคัญที่สุด สู้ปล่อยให้กลุ่มหุ่นยนต์ผีตายโหง สู้กับแก๊งค์โจรลักพาตัวจนฆ่ากันตายไปน่าจะเป็นกลวิธีที่ง่ายกว่า
.
"แกร็ก ๆ แกร็ก ๆ วืดดด!"
เสียงม่านตาคลี่ตัวออกเป็นใบพัด เพื่อใช้ออปติคอลซูมในการค้นหา
.
"ไหนวะ! ท่านอยู่ที่ไหนองค์หญิง? วิ่งย้อนกลับไปทางนั้นน่ากลัวสุด ๆ อ่ะ มีพวกมันอยู่เป็นกองทัพเลยเตือนแล้วก็ไม่ฟัง ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำลุ่มล่ามใส่ท่านสักหน่อย เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว บัดโถ่เอ๊ย!"
.
"แต่จะว่าไปยอร์คชินแถบชายแดนนี่ก็สมคำร่ำลือจริง ๆ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า โลกจะมีดินแดนเถื่อนที่เต็มไปด้วยหุ่นยนต์ที่ถูกทิ้งมากมายขนาดนี้ พวกมันก็เหมือนคน มันก็แค่หิว แค่ต้องการอะไหล่ไปต่อลมหายใจให้แก่ตัวเอง.. ก็เท่านั้น "
.
ส่ายหน้าเป่าลมปลดปลงชีวิต ยิ่งก้มลงไปก็ยิ่งเห็นพวกมันยั้วเยี้ยอยู่เต็มไปหมด ถ้าจะเรียกโซนตรงนี้ว่าเป็นไข่ขาวไข่ใบนี้ก็คงจะเริ่มไหม้แล้ว เพราะว่ามันแน่นมากจนไม่เห็นแสงสว่าง มีพวกมันล้อมกรอบอยู่เป็นแสน ๆ แล้วมั้งในตอนนี้ แต่ถึงกระนั้นยังไงซะเจฟเฟอร์ก็ต้องซูมภาพหานาตาชาต่อไปอยู่ดี
.
ซึ่งสุดท้ายก็เจอจริง ๆ หล่อนวิ่งไวเหลือเชื่อ เพราะจุดที่พบนั้นอยู่ห่างจากจุดสังเกตการณ์ Jumper board ถึง 1 กิโลเมตร แล้วรู้ไหมว่าเจฟเฟอร์เห็นอะไรอีก เขามองทะลุข้ามผ่านหนังหัวของกลุ่มไซบอร์กไปเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าจ้องจนล้าลูกตาถึงได้ส่องเข้าไปถึงพื้นที่สุดท้ายบริเวณชายขอบของไข่ขาวได้ในที่สุด
.
"ไม่นะองค์หญิง! อย่าบอกนะว่าคุณกำลังโดนแบบที่ผมโดน!"
.
ยกทรงสีพาสเทลขาดวิ่นลอยละลิ่วออกมาก่อนเป็นอันดับแรก! ตามติดมาด้วยกางเกงในลายลูกไม้ที่ม้วนเกรียวเหวี่ยงสะบัดตามกันออกมาติด ๆ กลุ่มเศษเหล็กวิตถารเหล่านั้นมีกันจำนวนเท่าไหร่เจฟเฟอร์มองไม่เห็นชัด ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาหยุดชะงักกลับกลายเป็นเรียวขาคู่งามของเธอที่ถูกจับชูขึ้นพาดไหล่ ปลายเท้าที่งุ้มงอดั่งกะดอพุ่งเข้าเสียบ ขาที่สั่นดีดสะบัดพับ! ๆ ๆ น่าจะเป็นความทรมานที่ยากจะทานไหว
.
หล่อนถูกขึ้นคร่อม! ซ้ำร้ายที่ยังมีอีกตัวผู้ต้องการจะเป็นผัวจากส่วนบน ไอ้เดนจักรกลดังกล่าวมันเอาเสื้อตัวบางของเธอมาทำเป็นผ้าปิดตา พลางชะโงกหน้าลงมาไซร้ซอกคอนาตาชาด๊วบบ ๆ ๆ จนเธอดิ้นพล่านร่านไม่หยุด
.
.
ตัดภาพกลับมาอีกฟาก จะเห็นเจฟเฟอร์ยืนกัดกรามกำหมัดแน่นอยู่
.
"ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ทำ อธิบายก็ไม่เชื่อ เจอการข่มขืนของจริงเข้าไปเป็นไงล่ะคราวนี้!"
"เผอิญว่าผมค่อนข้างจะโรคจิตซะด้วยสิ! เอาเป็นว่าขอนั่งดูของแปลกอยู่ตรงนี้สักพักก่อนล่ะกัน แล้วเดี๋ยวจะตามเข้าไปช่วยทีหลังนะองค์หญิง หุ ๆ "
สืบเท้ากระท่อนกระแท่นเดินเข้าเมืองไปได้หน่อยเดียว องค์หญิงนาตาชาก็สัมผัสได้ถึงน้ำหนักของฝ่ามือขนาดใหญ่ที่วางลงบนหัวไหล่ตนเอง เรี่ยวแรงดังกล่าวรั้งตัวเธอไว้จนต้องไพล่หน้ากลับหลังมองหาต้นตอ."คุณ! คุณมาได้ไงอ่ะ! ทั้งที่เจ็บปางตายขนาดนั้น"เผลอแผดเสียงซะดังลั่นก่อนจะใช้นัยน์ตาเฉี่ยวชำเลืองมองกลับไปยังจุดที่เจฟเฟอร์ตกลงมา ตัวเขายืนอยู่ตรงนี้ก็จริงในขณะที่ ณ จุดเกิดเหตุดันมีร่างไหม้ ๆ ของพลเมืองอลาลัสคนหนึ่งนอนอยู่ทดแทน."ผมถ่ายทอดความเจ็บปวดให้คนอื่นได้น่ะครับ แต่ช่างมันเถอะ! องค์หญิงบอกผมมาก่อนดีกว่าว่าท่านกำลังจะไปไหน เรื่องราวเป็นมายังไงกันแน่ ทำไมท่านถึงถูกตามล่า?"."ฉันจะกลับไปที่วังพรบ.ฟรีเซ็กส์ได้ข้อสรุปแล้ว พวกฉันทำพลาดการปลอมตัวไปเจรจาล้มเหลว พวกมันถึงจะจับฉันไปเป็นเครื่องต่อรองในการปฏิวัติ การกลับวังจะทำให้ฉันปลอดภัย"."อืม.. ไม่ค่อยเข้าใจแฮะ แต่ผมว่าอย่าเพิ่งดีกว่า ดูทรงแล้วท่านพ่อของท่านคงจะไม่ปลื้มในส่ิงที่ท่านทำลงไปนะครับ ถึงได้ตั้งรางวัลนำจับลูกตัวเองเอาไว้! โน่นลองดูสิ!".เบื้องหลังม่านพลังทรงโค้งขนาดใหญ่ที่ปิดบังอาคารสถานของอลาลัสอันสาปสูญ ภายในนี้หากพูดไปคงยากที่จะเ
พุ่งตรงดิ่งทะยานจากความสูงประมาณภูเขา 2 ลูกขี่คอกัน ด้วยความสูงที่ไม่มากเท่าไหร่เจฟเฟอร์เลยเหลือเวลาอยู่น้อยนิด แผ่นหลังองค์หญิงสยายกว้าง ในชุดหมีที่ห่อหุ้มเนื้อตัวไว้เพียงหลวม ๆ การสะบัดพือของมันรีบรัดจนเห็นสัดส่วนโค้งรัดตวัดร่องตูด อกเป็นอกเอวเป็นเอว ครั้นมีแต่จะลอยลับตาฉีกหนีทิ้งห่างออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งเจฟเฟอร์ไม่มีวันยอม.เป็นห่วงเธอจับใจเหมือนร่างกายมีแรงดึงดูด สายลับหนุ่มถวิลหาองค์หญิงนาตาชาโดยไม่ทราบสาเหตุ เขารีบม้วนตัวงอเข่าทำตัวเป็นก้อนกลม ก่อนจะพลิกเอาปมเชือกที่มัดแขนไว้ตวัดมาอยู่ด้านหน้า เจตนาใช้ฟันแก้ปมกลางอากาศแล้วก็ทำให้ร่างกายต้านลมให้น้อยที่สุด!."ฟู่~! , ฟิ้ววว~! , ฟู่~ ฟิ้ววว~!"สายลมเกรี้ยวกราดตรงเข้าเล่นงานจากทั่วทุกสารทิศ แต่เขาก็หาได้ใส่ใจ สายลับหนุ่มยังคงผงกหัวงึก ๆ ก้มปากลงกัดแทะเชือกออกจากข้อมือ ด้วยท่าทางละม้ายคล้ายกับคนป่วยโรคจิตที่คิดจะโม๊คควยตัวเองแต่เสือกหำสั้น.แล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจหรือเพราะแพ้ฝุ่นผง PM 2.5 บนชั้นบรรยากาศก็มิอาจทราบ สมองถึงสั่งให้ฮัมเพลงขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ฮัมไม่ฮัมเปล่าจาก "ฮัม" แปลงเป็น "หำ" แถมยังใส่ทำนองเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้อันเป็
บนยานฟาลคอน ดีเซ็มเบอร์ (ลำสำรอง) ที่ไอ้มือมีดหัวไหมพรมเรียกมา องค์หญิงนาตาชาอกภูเขาไฟกับเจฟเฟอร์ถูกควบคุมตัวอยู่บนนั้น ทั้งสองถูกจับมัดมือหันหลังพิงกันบั้นท้ายแนบชิดสนิทพื้น ดีอย่างที่เชือกมันหมดก็เลยไม่เหลืออะไรเอาไว้มัดปาก เปิดโอกาสให้เจฟเฟอร์พร่ำเพ้อถึงโลกที่เจ้าตัวรู้ออกมา."โลกมีเนื้อที่ 510,100,000 ตร.กม. เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่สามจากดวงอาทิตย์ กำเนิดเมื่อ 4,500 ล้านปีก่อน มีอันตรกิริยาเชิงโน้มถ่วงกับวัตถุอื่นในอวกาศโดยเฉพาะดวงจันทร์ ซึ่งเป็นดาวบริวารถาวรเพียงหนึ่งเดียว ปฏิกิรยาฟิชชั่นจากกัมมันตรังสีแผ้วถางทุกสรรพสิ่ง อันเป็นจุดจบของสงครามไปพร้อมกับวงศ์ทนงพงเผ่าชีวิต เพราะงั้นสิ่งที่หมอนั่นพูดถึง? อลาลัสอันเดอร์กราวน์? นอกจากยอร์คชินแล้ว.. หรือว่าโลกจะยังมีพื้นที่ให้มีชีวิตอยู่อีก! ตกลงมันไม่ใช่แค่ข่าวลือใช่ไหม? ".จัดเป็นการกระแอมกระซิบกระซาบที่ยืดยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ สายลับหนุุ่มนั่งบ่นด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นลุกลี้ลุกลนต่างจากทุกครั้ง เขาตื่นเต้นจริงจังซะยิ่งกว่าตอนโดนโรบ็อทซอมบี้บนกองขยะรุมทึ้งชิงอะไหล่ซะอีก พลางกระทุ้งข้อศอกตุบ ๆ ใส่เอวองค์หญิงไปสองสามทีให้เธอตอบกลับ.แต
แล้วเขาก็เร่ิมเล่าออกไม้ออกมือราวกับจราจรตำรวจ ผู้โบกรถหน้าโรงเรียนกลางแดดรุมร้อน ทุกถ้อยคำที่สื่อสารนำพาความสนใจให้ก่อเกิดในหมู่ผู้ฟังได้อย่างเหลือเชื่อ ทุกคนต่างนิ่งงัน สงบ และตกใจหน้าถอดสี ขนมเค้กที่แบ่งไว้ในจานถึงกับร่วงหล่นออกจากมือเอ็มม่า แคทเธอรีนต้องเดินกลับเข้าไปเปิดไฟให้สว่างโพลง พลางปิดเพลงจิงเกอร์เบลลงด้วยเหตุผลที่ว่า แต่นี้ต่อไปคงไม่มีใครเหลืออารมณ์พอจะปาร์ตี้อีกแล้ว แม้กระทั่งบอสประมุขสาวแห่งองค์กรผู้อยู่ในจุดสูงสุด."คุณอย่าพูดเป็นเล่นน่ะ! เหตุการณ์ไม่น่าจะบานปลายขนาดนั้น แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์รึเปล่าเบอร์แบโต้ แหล่งข่าวอาจจะบิดเบือนก็ได้นะ?"บอสทำเสียงเข้มใส่ พลางยกตัวเองขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะจ้องเขม็งเข้าไปถึงลูกนัยน์ตาของสายลับฝึกหัด."ไม่ผิดแน่ครับผมจะโกหกทำไม! ป่านนี้พี่เจฟเฟอร์จะเป็นไงบ้างไม่รู้! แกเป็นคนกำชับให้รีบเอาเรื่องนี้มาบอกกับบอสก่อน แล้วผมก็ติดต่อพี่แกไม่ได้อีกเลยตั้งแต่นั้น คือยังไม่เข้าใจหรอกครับว่าพวกมันจับองค์หญิงแห่งอลาลัสไปทำไม แต่ดูจากที่พวกมันฆ่าพี่ปิเก้กับทุกคนในงานจนเกลี้ยงแล้ว บางทีการที่ท่านนายกจัสตินหนีรอดมาได้ อาจจะเป็นความตั้งใจของมัน!"."เ
ก้อนความคิดถูก Drain ด้วยฝ่ามือฉันใด ครั้นจะพุ่งกลับคืนเข้าไปย่อมทำได้ฉันนั้น ท่ามกลางมวลมหาประชากรอสุจินับพันล้าน เบอร์แบโต้แฝงตัวรวมอยู่ในนั้นอย่างแนบเนียน มันถึงเวลาแล้วที่ดวงจิตของเขาจะกลับเข้าร่าง ช่วงจังหวะที่ซอยยิกปู้ยี่ปู้ยำกลีบผงาของชะเอมซะจนขาดกระเจิง น้ำรักของเธอไหลเยิ้ม น้ำตาไหลพับพรากสิโรราบให้กับความเสียว สาวเจ้าไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียว ว่าเบอร์แบโต้ได้ฉวยโอกาสพุ่งออกจากร่างพี่แฟรงค์ผ่านทางปลายควย!.โคตรอุบาทว์แต่แม่งเป็นเรื่องจริง! ในทิศบูรพา 32 องศา 70 ลิบดาตะวันออก ลำควยใหญ่โค้งชักออกจากร่องเสียวเด็กสาวอย่างรวดเร็ว พลันหักหัวไปทางหน้าต่างที่มีผ้าม่านโบกไสว ใช่แล้ว! นี่คือสิ่งที่เบอร์แบโต้วางแผนเอาไว้ทั้งหมด เขาใช้สองมือกระชับลำควย กัดฟันถลึงตามองไปที่เป้าหมาย แล้วก็.. ชัก ๆ ๆ ชัก ๆ ๆ ชัก ๆ ๆ ชัก! ชัก! จนน้ำกามปริมาณ 1.25 ลิตรพุ่งเป็นสายสะบัดจากฟูกเตียงโผทะยานแหวกผ่านผ้าม่าน ไปเปรอะแหมะ! เข้ากับร่างเปล่าของตัวเอง ที่พาดคางไว้กับวงกบหน้าต่างหน้าห้องได้เป็นผลสำเร็จ.ในมุมมองที่เล็กพอ ๆ กับจุลินทรีย์ หากส่องกล้องลงไปจะเห็นเลยว่าในมวลอสุจิเหล่านั้น เบอร์แบโต้กำลังออกแรงจ้
ความสงสัยใคร่รู้ทำให้เด็กสาวไฮสคูลเยื้องย่างลงจากเตียง แม้จะเขินอายอยู่บ้างแต่ก็ได้ฝ่ามือทั้งสองข้างปิดบังจุดสงวนทั้งส่วนบนและส่วนล่างเอาไว้ ชะเอมค่อย ๆ ย่องตามรอยอสุจิที่แห้งกรังอยู่กับพื้นไป จวบจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ตำแหน่งใกล้กันกับประตูทางออก ข้างกันคือหน้าต่างบานเกร็ดที่กระจกแตกละเอียด! ผ้าม่านกระพือ! มิหนำซ้ำบนพื้นก็ยังมีเศษกระจกแหลมคมหล่นอยู่เกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ใจเธอถึงไพร่คิด."เอ๋.. เราลืมความรู้สึกแบบนี้ไปได้ยังไง? ความเคลือบแคงในใจนี้เคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อนแล้วนี่ อย่างน้อยก็ก่อนที่พี่แฟรงค์จะอุ้มเราไปปล้ำ?".ว่าแล้วก็ผินหน้าหันกลับไปเช็คฝ่ายชายดูซะหน่อย เธอพบว่าพี่เขายังคงนอนตะแคงข้างหันหลังให้เธอ แล้วก็นิ่งอยู่แบบนั้นมานานมากแล้ว."ขออย่าให้เกิดเรื่องแย่ ๆ หรือมีคนเห็นเลย เราพลาดเองแหละที่กระสันเกินงาม หึ! พี่แฟรงค์นะพี่แฟรงค์ พี่เองก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับเรื่องนี้เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ใช้กำลังกระชากตัวเอมไปที่เตียงแล้วล่ะก็?"."แล้วดูสิ! ยังทำเป็นนอนนิ่งแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกนะ! ได้เอมเป็นเมียแล้วแท้ ๆ ".แววตาสวยหรี่เล็กลงยู่ยี่ภาพลาง ๆ ของเขาจากระยะ