Share

บทที่7

last update Huling Na-update: 2025-12-22 13:22:48

 

บทที่7 เมา

คิงส์ยืนพิงรถเบนซ์สีดำสนิทเสื้อสูทพาดแขน กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมากดหาเธอ...

แต่หยุดไว้แค่นั้น

ภาพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนมันยังตามหลอกหลอนเขาอยู่

ภาพผู้หญิงคนนั้นในชุดเดรสสีขาวที่ไม่ใช่แค่สวย แต่สวยจนทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้องแต่เธอกลับเดินหนีเขาต่อหน้า

ต่อหน้าเขา

ต่อหน้าพนักงานทั้งร้าน

ต่อหน้าสายตาทั้งห้างที่มองเขาเป็นผู้ชายที่โดนเมียเท

หน้าเขา...แม่งโคตรแตก คิงส์กำมือถือแน่น ปลายนิ้วขาวขึ้นจนเห็นเส้นเลือด สักพักก็มีเสียงพูดขึ้น คำพูดของมือขวาคนสนิทที่ถามว่า

“วันนี้จะเข้าบ้านเลยไหมครับ หรือ”

“ไม่” เขาขัดทันที เสียงเย็นยะเยือก

“ไปคลับ”

ค่ำวันเดียวกัน ผับวีไอพีในโรงแรมหรู

เสียงเบสดังตึ้บๆ คลอด้วยกลิ่นไวน์แดงและซิการ์ฝรั่งเศสในห้อง VIP ส่วนตัว

คิงส์นั่งพิงโซฟาหนังสีดำ ข้างกายมีไวน์ขวดราคาเกินหลักแสน แต่เขากลับดื่มเหมือนน้ำเปล่า

“เอาอีก”

พนักงานชายหน้าเหวอ แต่ก็รีบรินไวน์ให้เพิ่ม

เขาจิบไวน์อีกครั้ง ดวงตาคมยังเหม่อมองไปไกล ในหัวมีแต่เสียงของเธอวนเวียน

“ไม่ค่ะ จะกลับเอง”

“ตามมาทำไม ไม่ว่างไม่ใช่หรอ”

แม่งเอ๊ยยยย!

คิงส์สบถในใจ สะบัดคอเหมือนอยากไล่ภาพนั้นออกไป

เขาหัวเราะเบา ๆ เหมือนคนบ้า

“ทำไมต้องโกรธวะเธอก็แค่เมียจำเป็นไม่ใช่เหรอ?”

“ก็แค่คนที่แต่งงานตามคำสั่งพ่อแม่...แล้วทำไมถึงรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าวะ”

เขาพูดกับตัวเองในห้องว่างๆ พนักงานกลั้นหายใจเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าแทรก

มือเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง แชทของเธอยังเปิดค้างไว้ ไม่มีข้อความใหม่ ไม่มีอะไรเลย เขากำลังจะพิมพ์ว่า “ถึงบ้านรึยัง”

แต่สุดท้าย...

เขาก็ลบทิ้ง

“ฟอร์มมันต้องมี...แต่แม่ง...โคตรเหนื่อยเลยว่ะ”

ด้านริน ขณะเดียวกันที่บ้าน

รินเดินเข้าบ้านเงียบๆ ถือถุงเสื้อผ้าเข้ามา เธอมองซ้ายขวา...เงียบ

“ยังไม่กลับบ้านเหรอ”

เธอกระซิบเบา ๆ เหมือนถามลม

รินไม่ได้โกรธ...แต่เสียใจ

เธอขึ้นห้อง อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอน เดินไปวางถุงเสื้อผ้าไว้ข้างเตียง หย่อนตัวลงบนโซฟาด้วยหัวใจหนักอึ้ง

สายตาเธอมองนาฬิกาบนผนัง

เวลาผ่านไปช้าเหมือนตั้งใจจะตอกย้ำว่า "เขาไม่กลับมา"

“ช่างเถอะ”

เธอเอ่ยกับตัวเองก่อนจะหลับตาพร้อมน้ำตาเม็ดสุดท้ายที่ไหลออกมาเงียบ ๆ

เสียงรถหรูแล่นมาจอดหน้าบ้านแบบรีบจัด ไฟหน้ารถยังไม่ดับดี ประตูก็เปิดพรวดออกมา

คิงส์ ในสภาพเมายับ หน้าตาแดงจัด เนกไทหลุด แขนเสื้อพับแบบไม่เป็นระเบียบ

เขาเดินตัวโงนเงนเข้าบ้าน เปิดประตูเข้ามาเสียงดัง

แกร๊กกก...ปัง!

ในห้องนอน ไฟเปิดสลัว ๆ มีเพียงโคมไฟหัวมุมส่องเงาให้เห็นว่ามีผู้หญิงคนนึงนอนขดตัวอยู่บนโซฟา

นั่นคือ ริน ที่ใส่เสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสั้น นอนหันหลังให้เขาแบบไม่สนใจใด ๆ

“กล้าดียังไงที่เดินหนีฉัน”

เธอไม่ขยับ ไม่แม้แต่จะหันมามอง

“ก็บอกเองไม่ว่างนี่คะ” รินตอบเบา ๆ แบบไม่หันหน้า

“รินก็เลยไม่อยากรบกวนพี่ไง”

คิงส์เดินเข้ามาใกล้ เอามือพิงพนักโซฟา มองเธอที่ยังคงไม่แม้แต่จะลืมตา

“รบกวนหรอ? หึ!”

เสียงเขาเริ่มดัง แต่สั่นนิด ๆ ด้วยความเมาและน้อยใจ

“ก็ดี!”

“แล้วพี่รู้สึกสนใจรินตอนไหนคะ? รินก็ไม่ได้ขอร้องพี่”

คำพูดของเธอเฉือนใจเขาเต็มๆ คิงส์เงียบไปครู่หนึ่งเหมือนโดนตบกลางหน้า แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้

“ก็เลยประชดด้วยการไม่กลับกับผัวเนี่ยนะ?”

“ดี!”

เธอลืมตา ลุกขึ้นมานั่งมองหน้าเขาตรงๆ เสียงรินเย็น แต่สายตามั่นคง

คิงส์กัดฟันแน่น กำลังจะตอบกลับแต่ตัวเขาเซจน

ล้มลงนั่งกับพื้นพรมข้างโซฟา หัวโน้มลงกับแขนพิงโซฟาใกล้ๆ ขาเธอ

รินไม่พูดอะไรอีก พยายามประคองร่างสูงใหญ่ของคิงส์ไปนอนบนเตียง

เช้าต่อมารินขยับตัวตื่นจากโซฟาที่เธอนอนประจำ ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อคืน เธอก็ยังไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยกับเขา

เธอเหลือบมองไปที่เตียง… คิงส์ยังคงนอนนิ่งในท่าเดิมจากเมื่อคืน

“ยังไม่ตื่นอีกหรอ?”

เธอบ่นพึมพำในลำคอเบา ๆ ก่อนจะถอนหายใจ

“จะว่าไป…เมื่อคืนพี่คิงส์ก็เมาหนักเหมือนกันน่ะ…”

รินไม่ได้ปลุกเขา เธอค่อย ๆ ลุกจากโซฟา เดินไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดสบาย ๆ กางเกงขาสั้นเสื้อยืดเรียบ ๆ

พอลงไปข้างล่าง ก็จัดการกินข้าวเช้า กินไปเปิดทีวีดูซีรีส์ ฟังเพลงไปเรื่อย ๆ ทำตัวชิลแบบไม่สนคนบนบ้าน

เวลาล่วงเลยจนสาย…

รินเริ่มรู้สึกแปลกใจเล็ก ๆ

“ปกติไม่นอนยาวขนาดนี้นี่…”

เธอวางแก้วน้ำในมือ แล้วเดินขึ้นบันไดอย่างใจเย็นเพื่อขึ้นไปดูสามีชั่วคราวของเธอ

ประตูห้องเปิดแง้มอยู่

รินผลักประตูเข้าไปช้า ๆ

ภาพตรงหน้าคือ คิงส์ยังนอนอยู่บนเตียง เสื้อเชิ้ตเมื่อคืนยังหลุดหลุยอยู่ครึ่งตัว ผมยุ่งเหมือนโดนฟ้าผ่า ใบหน้าแดงจัด

หน้าผากมีเหงื่อซึม

“...เฮ้ย หรือว่า?”

เธอเดินเข้าไปใกล้ เอามือแตะหน้าผากของเขาเบา ๆ แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง

“ตัวร้อนมากก เป็นไข้แน่ๆ เลย!”

คิงส์ครางในลำคอเบา ๆ

“…อือ…”

รินเบะปากมองบนทันที

“เก่งนัก… ด่าคนอื่นได้เป็นชุด แต่พอป่วยก็นอนเดี้ยงอยู่นี่แหละ!”

เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูในห้องน้ำมา ชุบน้ำหมาดๆ ก่อนจะกลับมาวางแปะบนหน้าผากเขา เธอไม่ได้พูดอะไรอีก นอกจากมองเขาเงียบ ๆ ขณะที่เจ้าตัวยังครางงึมงำไม่ได้สติ

“…ริน…”

เสียงเขาพึมพำชื่อเธอออกมาจากปากเบาๆ รินชะงักไปชั่วขณะ แววตาสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง แล้วพูดกับตัวเอง

“อย่ามาอ่อนโยนตอนเมาเลยค่ะ รำคาญ”

คิงส์นอนอยู่บนเตียง ผิวหน้าซีดเซียว แต่ยังมีประกายชีวิตชัดเจนขึ้นบ้าง รินนั่งอยู่ปลายเตียง มืออ่อนโยนค่อยๆ เช็ดเหงื่อบนหน้าผากเขาด้วยผ้าชุบน้ำเย็น

“ดื่มหนักจนป่วยเลยหรอเนี่ย” เธอพูดเบา ๆ ด้วยเสียงนุ่ม แต่สายตาเต็มไปด้วยความห่วงใย

เธอเดินไปหยิบช้อนและชามข้าวต้มอุ่นๆ มาวางข้างเตียง พร้อมกับน้ำยาลดไข้และยาแก้ปวด

รินค่อยๆ ป้อนอาหารทีละคำ ช้าๆ อย่างระวังไม่ให้เขารู้สึกอึดอัด

“กินข้าวก่อนนะ จะได้มีแรงมาด่าริน”

คิงส์ลืมตาช้าๆ จ้องตารินด้วยแววตาที่เหมือนจะพูดอะไรหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็แค่พยักหน้าเบาๆ

รินยิ้มบางๆ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาเป็นชุดนอนผ้าฝ้ายเนื้อนุ่ม สีเทาอ่อน สะอาดหมดจด

เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง

รินนั่งอยู่ปลายเตียง โน้มหัวหนุนปลายเตียงรอดูคนป่วยว่าจะตื่นตอนไหน สายตาที่เคยมุ่งมั่นกลายเป็นเหนื่อยล้า เมื่อความเคร่งเครียดของเรื่องราวที่ผ่านมาไหลลึกลงในดวงตาเธอ แต่ในที่สุด ความเหนื่อยนั้นก็ทำให้เธอเผลอหลับไปอย่างเงียบๆ ศีรษะเธอล้มพับไปบนที่นอนมือยังคงกำผ้าชุบน้ำเย็นไว้

คิงส์เริ่มลืมตาอย่างช้าๆ

แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างสาดส่องใบหน้าของรินที่หลับสนิทข้างเตียง

เขาเหลือบมองใบหน้าที่เปราะบางและเหนื่อยล้าของเธอ

ริมฝีปากค่อยๆ ขยับขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง ๆ อย่างอบอุ่น

“ริน…” เขาพูดเสียงเบาแทบกระซิบ

รินตื่นพอดีและลืมตาขึ้นเห็นว่าคิงส์พยายามจะลุก เธอรีบลุกขึ้นไปพยุงเขา

“พี่เป็นไงบ้างค่ะ ยังปวดหัวไหม”

รินถามพลางเอื้อมมือไปสัมผัสหน้าผากเพื่อจับดูว่าไข้ลดหรือยัง

“ไข้ลดแล้ว พี่จะลุกไปไหนจะเข้าห้องน้ำหรอค่ะเดี๋ยวรินพาไป”

รินค่อยๆ พยุงคิงส์ลุกขึ้นไปห้องน้ำ

“พี่คิงส์ เดินช้าๆ นะ เดี๋ยวล้ม”

คิงส์ทำหน้าตายืดๆ แต่ก็ยอมให้รินช่วยเต็มที่

พอเสร็จธุระ รินก็พาเขากลับมานอนที่เตียง

“รอแป๊บนะ เดี๋ยวรินเอาผ้าขนหนูผืนใหม่มาเช็ดตัวให้”

เธอเดินไปหยิบผ้าขนหนูสะอาดมาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ

“พี่ช่วยถอดเสื้อผ้าออกก่อนนะ จะได้เช็ดตัวให้”

คิงส์หน้าซีดเล็กน้อย หันไปหลบสายตาริน

“...ไม่ต้องเขินหรอก รินเห็นของพี่หมดแล้วนะ”

รินพูดติดตลก พร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์

คิงส์แทบจะลุกเป็นไฟหน้าแดงเถือกหลบสายตา รู้สึกเขินจนพูดไม่ออก

“...พูดอะไรของเธอ...”

เขาพึมพำออกมาแต่ก็ยอมถอดเสื้อผ้าอย่างอายๆ

รินหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเอาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้เขา บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความเขินแบบน่ารักๆ ที่ชวนให้ยิ้มตาม

รินเช็ดตัวคิงส์เสร็จ เธอเดินมาที่เตียงมองหน้าเขาแล้วยิ้มบางๆ

“รินไปเอาข้าวก่อนนะ พี่กินข้าวแล้วก็ต้องกินยาด้วยล่ะ แล้วก็นอนพักเยอะๆ”

คิงส์มองตามด้วยสายตาเหนื่อยๆ แต่ก็พยักหน้าเบาๆ

“อือ”

รินหันหลังเดินออกจากห้องอย่างใจเย็นฝากความเป็นห่วงไว้ในสายตา

ประตูห้องค่อยๆ ปิดลงเบาๆ เหลือไว้แค่ความเงียบและความอ่อนโยนที่แผ่ซ่านในห้องนั้น

ไม่นานหลังจากนั้น รินเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับแม่บ้านอีกสามคน

มือหนึ่งถือถาดใส่ข้าวร้อนๆ กลิ่นหอมลอยแตะจมูก

อีกมือประคองแก้วน้ำผลไม้อย่างทะนุถนอม

แม่บ้านทั้งสามจัดวางของอย่างเรียบร้อย แล้วก็เดินออกไปเหลือเพียงสองคนในห้องอันเงียบสงบ

รินนั่งลงข้างเตียงเบาๆ ป้อนข้าวคำแรกเข้าปากคิงส์ เขารับไว้โดยไม่พูดอะไรแต่แววตาแสดงความขอบคุณเล็กๆ

เธอหยิบยาจากถาด ป้อนให้เขาอย่างระมัดระวัง

“กินยานะ พี่คิงส์” เสียงเธอนุ่มลงจนแทบจะกลายเป็นกระซิบ เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย คิงส์ก็ปิดตาลงนอนร่างกายที่เหนื่อยล้าเริ่มเข้าสู่การพักผ่อน

รินยังนั่งอยู่ข้างเตียง คอยเฝ้าดูจนแน่ใจว่าเขาหลับสนิทแล้ว ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วค่อยๆ เดินออกไปจากห้องด้วยหัวใจที่หนักแน่นและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน

 

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่46 พิเศษ2

    บทที่46 ตอนพิเศษ2 NCแม้แดดในอาวีญงจะร้อนอบอ้าวในบางจุด แต่ลมเย็นจากแม่น้ำโรนที่ไหลเลียบเมืองเก่า ทำให้สายนี้ดูสดใสกว่าทุกวัน รินที่อุ้มกล้องขึ้นบ่าตัวเองอย่างคล่องแคล่วกำลังเดินอยู่บนสะพาน Pont Saint-Bénézet หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “สะพานอาวีญง” พร้อมเจ้าตัวเล็กฝาแฝดที่อยู่ในรถเข็นคู่กัน สีหน้าตื่นตาตื่นใจมองซ้ายขวาตลอดเวลา“ป๊าาา! ปลาาาา!”เสียงแฝดน้อยคนโตส่งเสียงใส ขณะที่ชี้นิ้วไปทางแม่น้ำเบื้องล่าง คิงส์เดินอยู่ข้างๆก้มลงมองลูกแล้วยิ้ม“เห็นปลาเหรอลูก”ส่วนริน... ไม่แม้แต่จะหันมอง เพราะเธอกำลังหมุนกล้องหามุม แสงย้อน เงาตก กระจกสะท้อน ครบทุกเทคนิค“ริน... เมมเต็มยังอะ กล้องน่ะ?” คิงส์ยิ้มกวนๆ เอามือดันหลังเธอเบาๆ“ยัง! กล้องนี้ 1TB เลยนะพี่! ยังไม่เต็มง่ายๆหรอก” เธอพูดพลางหันมายิ้มตาเป็นประกาย แล้วก็ก้มลงถ่ายลูกชายต่อ “ป๊าอุ้มลูกหน่อย อยากได้ภาพที่เห็นสะพานกับสองแสบข้างหน้า”“แสบเหรอเรา” คิงส์อุ้มลูกขึ้นสองข้าง “ถ้างั้นแสบสองชั้นเลยนะ ลูกใครวะเนี่ย หน้าเหมือนพ่อด้วยแฮะ”รินหัวเราะ ก่อนจะยกกล้องขึ้นมาอีกครั้ง แล้วคลิก... คลิก... คลิก… ไม่หยุดหลังจากเดินเที่ยวรอบเมืองเก่า ชมกำแ

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่45 พิเศษ1

    บทที่45 ตอนพิเศษพระอาทิตย์เพิ่งลาลับฟ้าไปไม่นาน เมื่อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของ “ราชันย์ อัครเวทิน” ล้อหมุนออกจากรันเวย์เป็นเส้นทางมุ่งหน้าสู่ปลายทางในฝันของภรรยาสุดที่รัก ปารีส ประเทศฝรั่งเศสในห้องโดยสารสุดหรูที่ตกแต่งด้วยสีครีมทองแบบคลาสสิก พร้อมเตียงนุ่มๆ และโซฟากว้าง มีเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กน้อยสองคนดังไม่ขาดช่วง“คิริน นั่นอะไรอะลูก?”รินถามเบาๆ พลางชี้ไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ของเครื่องบินที่เห็นเพียงทะเลและดวงดาวในยามค่ำคืน“...มืด!”คิรินตอบเสียงแหลม“มืดดดด~” ไคล์พูดตามแล้วหัวเราะออกมาคิงส์หัวเราะเบาๆ พลางหันไปบอกภรรยาที่ตอนนี้นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างลูก“รินอยากไปปารีสไม่ใช่เหรอ พี่ไม่เคยเห็นรินอยากไปที่ไหนขนาดนี้เลยนะ...”รินหันมามองเขาพร้อมยิ้มกว้างในแววตาวิบวับเหมือนเด็กได้ของขวัญ“รินเคยฝันไว้มาตั้งแต่สมัยเรียนค่ะ ว่าอยากมานั่งกินครัวซองต์ริมแม่น้ำแซน อยากเห็นหอไอเฟลด้วยตาตัวเอง แล้วก็...ถ้าได้มาพร้อมครอบครัว มันคงเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตเลย”คิงส์มองเธอนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมไปจับมือนุ่มของเธอมากุมไว้แน่น“งั้นทริปนี้ ทำให้เป็นที่พิเศษสุดเลยนะครับ... ไม่ใช่แค่

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่44

    บทที่44 จบNC“พี่คิงส์…”“หืม?”รินถอนหายใจเบาๆ ขณะนั่งอยู่ปลายเตียง พูดกับคิงส์ที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดสบายๆ“รินว่าจะหาพี่เลี้ยงเพิ่มอีกคนค่ะ… เด็กแฝดเริ่มซนมากขึ้นทุกวัน พี่ๆ สามคนก็เหนื่อยกันน่าดู”คิงส์ที่กำลังนั่งพิงหัวเตียง หันมามองเธอด้วยสายตานิ่งๆ แต่เต็มไปด้วยความสนใจ ก่อนจะถามกลับเสียงทุ้ม“แค่พี่เลี้ยงเพิ่มเหรอ? ไม่มีอะไรอยากเพิ่มอีกแล้วเหรอครับ?”รินเงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วเงยหน้าสบตาเขา“…รินอยากมีลูกอีกค่ะ”คำพูดสั้นๆ นั้นทำให้หัวใจของราชันย์เต้นแรงขึ้นทันที เขาไม่พูดอะไรต่อ แต่ลุกขึ้นมายืนตรงหน้าเธอ ใช้ปลายนิ้วเชยคางภรรยาขึ้นอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาหนักแน่น ร้อนแรง และเต็มไปด้วยแรงปรารถนา“พูดเองนะ… งั้นก็อย่ามาห้ามพี่แล้วกัน”ทันทีที่พูดจบ เขาก็โน้มตัวลงจูบริมฝีปากของรินทันที จูบแรกนั้นแผ่วเบาและอ่อนโยน… ก่อนจะกลายเป็นจูบที่ดูดดื่มและดุดันขึ้นทุกวินาที ริมฝีปากของเขาทำงานอย่างแนบแน่น สลับกับเสียงหายใจที่เริ่มหนักและถี่ขึ้นทุกทีมือของคิงส์ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของภรรยา ขณะที่อีกมือหนึ่งเลื่อนมาเกาะเกี่ยวที่เอวบาง ก่อนจะดึงรินเข้ามาแนบชิดกับร่างกายของ

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่43

    บทที่43 ทำบุญเช้าวันอาทิตย์หลังงานวันเกิดของแฝดได้ไม่นาน…ท้องฟ้าในเช้าวันนั้นใสกว่าทุกวัน รินตื่นเช้ากว่าปกติ ทั้งที่เมื่อคืนเพิ่งนอนดึกหลังกล่อมเด็กแฝด ร่างบางในชุดเรียบสุภาพยืนเงียบๆ หน้ากระจก ดวงตากลมโตมองสะท้อนเงาตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มบางๆ กับตัวเอง“วันนี้รินจะพาลูกไปทำบุญให้พ่อกับแม่นะคะ”เสียงกระซิบเบาๆ ที่ไม่มีใครได้ยิน นอกจากตัวเธอเองไม่นานนัก ทั้งครอบครัวก็ออกเดินทาง รินพาคิงส์ ลูกแฝด พี่เลี้ยงทั้งสาม รวมถึงพ่อแม่สามีขึ้นรถไปยังวัดชื่อดังในย่านพระรามเก้า เธอเตรียมของทำบุญมาล่วงหน้าหลายวัน ทั้งของถวายสังฆทาน ชุดผ้าไตร เครื่องอัฐบริขาร รวมไปถึงอาหารเลี้ยงพระและทำทานแก่คนยากไร้ เรียกได้ว่าเป็นงานบุญใหญ่ที่ตั้งใจจัดขึ้นเพียงเพื่อพ่อแม่ของเธอที่ล่วงลับไปแล้วเมื่อถึงวัด ทุกคนแต่งกายเรียบสุภาพ รินอุ้มคิรินไว้ในอ้อมแขน ส่วนคิงส์ก็อุ้มไคล์เดินเคียงข้างกันเข้าไปในโบสถ์ บรรยากาศเงียบสงบ แสงแดดที่สาดผ่านลายไม้ของหน้าต่างบานใหญ่ทำให้ภาพภายในโบสถ์ยิ่งดูอบอุ่นศักดิ์สิทธิ์พิธีกรรมเริ่มต้นขึ้น พระสงฆ์เริ่มสวดมนต์ ท่ามกลางเสียงสวด รินก็ยกมือไหว้หลับตานิ่ง กุมมือลูกไว้ทั้งสองข้าง

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่42

    บทที่42 สองแฝดเช้าแรกของวันเกิดครบรอบ 1 ขวบของแฝดน้อยในบ้านอัครเวทิน เรียกได้ว่าเริ่มต้นด้วยเสียงโหวกเหวกของเหล่าพี่เลี้ยงที่แทบจะวิ่งเป็นลมวนรอบบ้านกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดีนัก เพราะแฝดน้อยทั้งสอง ไคล์กับคิริน ดันตื่นเช้ากว่าปกติ แถมยังตื่นมาแบบโหมด “นักสำรวจ” เต็มกำลัง พลังงานทะลุปรอท!“ไม่เอาาา คิริน อย่าดึงผมพี่ไคล์!!” เสียงหวีดเบาๆ ของพี่เลี้ยงคนหนึ่งดังขึ้น ขณะพยายามแยกตัวน้อยที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันตั้งแต่ยังอยู่ในเตียงเด็ก!“แง๊งงงงงงงงง!!” ไคล์ก็ไม่ยอม แถมยังโวยเสียงดังแล้วหยิบตุ๊กตาหมีประจำกอดแน่นพลางชี้หน้าคนน้องอย่างเอาเรื่องคิรินไม่พูดพร่ำทำเพลง อ้าปากจะงับตุ๊กตาพี่ทันที นี่มันศึกย่อมๆ แต่เช้าเลยจ้าพี่เลี้ยงทั้งสามที่เพิ่งจะได้ยกแก้วกาแฟไปครึ่งเดียวพากันวิ่งวุ่นไปรวบตัวแฝดแยกออกจากกัน แล้วจู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากชั้นบน...“เสียงอะไรแต่เช้า หืม?” คิงส์เดินลงบันไดมาพร้อมรอยยิ้มกร้าวใจ หัวฟูหน่อยๆ เพราะเพิ่งตื่น“คุณพ่อขาาาา มาช่วยหน่อยค่า แฝดกำลังเปิดศึก!” พี่เลี้ยงคนหนึ่งตะโกนลั่น“โอเคๆ พ่อมาแล้วครับ ใครแกล้งใครก่อนเนี่ย หื้มม ไคล์? หรือคิริน?”สองแฝดหยุดเลยทันท

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่41

    บทที่41 ป๊ะป๊า ม๊ะม๊า...แม่เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปบรรยากาศภายในห้องทำงานส่วนตัวของประธานใหญ่ไทยแบงค์ยังคงอบอุ่นเหมือนเดิมโซฟาตัวใหญ่ในมุมห้องวางเบาะนุ่มสำหรับเจ้าตัวแฝดไว้เรียบร้อย พี่เลี้ยงสองคนกำลังสาละวนกับของเล่น เสียงกุ๊งกิ๊งของโมบายแขวนกับเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กๆ ดังแทรกเสียงเอกสารพลิกไปมาของคิงส์รินนั่งข้างสามี บนโต๊ะเล็กมีน้ำผลไม้กับขนมสำหรับเธอ และข้าวบดสำหรับลูก ๆ เธอกำลังหยิบช้อนป้อนแฝดคนโตอยู่ ขณะคิงส์อ่านเอกสารสำคัญบนตัก พร้อมๆ กับใช้มือลูบหัวลูกชายคนเล็กที่กำลังนั่งพิงหมอนอย่างสบายใจ“อ้าปากครับ…งั่ม~”รินป้อนข้าวแฝดคนโต ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ เมื่อลูกชายอ้าปากรับอย่างว่าง่าย“ดีมากเลยครับคนเก่งของแม่”คิงส์เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร ยิ้มมุมปาก“แฝดบ้านนี้กินเก่งเหมือนแม่แหง ๆ เลย”“อ้าว! ใครบอกคะ พี่ต่างหากที่กินเก่งจนลูกซึมซับ”ทันใดนั้นเอง...เสียงแผ่ว ๆ แต่ชัดเจนก็ดังขึ้นมาจากเจ้าตัวเล็กฝั่งซ้ายที่กำลังดูดนิ้วอยู่“ปะ…ป๊า…”รินกับคิงส์หันขวับมองหน้ากันทันที!“เมื่อกี้พี่ได้ยินใช่มั้ยคะ!? ลูกพูดว่า ‘ปะป๊า’ !!” รินเสียงตื่นเต้นจนมือไม้สั่นคิงส์แทบทำเอกสารหล่น รีบยื่นหน้าไปใกล้

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status