Share

บทที่6

last update Last Updated: 2025-12-22 13:21:51

บทที่6 ชุด

วันเวลาผ่านไปรินนั่งจิบชาอยู่ที่โต๊ะเล็กมุมห้องอย่างเงียบ ๆ สีหน้าของเธอยังคงนิ่งและห่างเหินเหมือนทุกวันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันนั้น...เธอก็แทบจะไม่พูดกับคิงส์อีกเลย

เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ทำลายความเงียบของเช้านั้น รินวางแก้วชาลงแล้วลุกไปกดรับสาย

“รินลูก~” เสียงแม่ลิสา หวานแหลมดังมาตามสาย รินยิ้มบาง ๆ กดโหมดลูกสะใภ้ดีเด่นตามสัญชาตญาณทันที

“สวัสดีค่ะคุณแม่” เธอรับสายด้วยเสียงนุ่มนวล

“แม่โทรมาบอกว่าสัปดาห์หน้า ไทยแบงค์จะจัดงานเลี้ยงใหญ่กลางคืน ลูกต้องไปด้วยนะลูก แล้วพ่อแม่ของรินก็จะไปด้วยนะลูก พวกเขาบอกแม่ว่าจะใส่เต็มที่เลย!”

“ค่ะ...รินทราบแล้วค่ะ”

“แล้วลูกบอกคิงส์ด้วยนะ ให้พาไปเลือกชุดสวยที่สุด แพงที่สุดด้วยลูก แม่อยากให้รินสวยจนทุกคนตะลึง เข้าใจไหมจ๊ะ” ลิสาหัวเราะอย่างเอ็นดู เสียงของเธอฟังดูตื่นเต้นเหมือนแม่ที่กำลังเตรียมงานแต่งให้ลูกสาว

รินได้แต่ยิ้มบาง ๆ พลางตอบ “ค่ะคุณแม่ เดี๋ยวรินจะบอกพี่คิงส์นะคะ”

“แม่ฝากด้วยนะลูก แล้วเดี๋ยวไว้เจอกันที่งานนะจ๊ะ~ บ๊ายบาย”

“บ๊ายบายค่ะคุณแม่”

วางสายแล้ว รินก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกข้างในมันหลากหลาย… งานเลี้ยงหรูหรา คนมากมาย กล้องนับร้อยจับจ้อง และเธอต้องยืนเคียงข้างคิงส์ ผู้ชายที่แทบไม่มองหน้าเธอเลยในแต่ละวัน

แต่เธอก็รู้ว่าเธอทำอะไรได้บ้าง เธอก็ต้องไปยืนสวยๆ ข้างเขาเหมือนเป็นเมียที่มีความสุขอย่างไม่มีปัญหาอะไรเลยในชีวิต...

รินค่อย ๆ เดินขึ้นบันได มือบางจับราวบันไดแน่น เธอสูดหายใจเข้าเบา ๆ เหมือนต้องรวบรวมความกล้าอะไรบางอย่าง ก่อนจะยกมือเคาะประตูห้องนอนเบาๆ สองที แล้วเปิดเข้าไปช้าๆ

“พี่คิงส์...” เธอเรียกเสียงเบา

เขาหันมามองเพียงเสี้ยววินาที แล้วกลับไปจัดแขนเสื้อเชิ้ตสีเข้มของตัวเองต่อ หน้าตาขรึมขลังราวกับหุ่นหิน

“แม่โทรมาหาน่ะค่ะ แม่ลิสาบอกว่าให้รินไปเลือกชุดใส่ไปงานเลี้ยงของไทยแบงค์...แม่บอกว่าให้พี่พาไปเลือกด้วย” เธอพูดนุ่มนวล พยายามวางตัวให้ดีอย่างที่เคยทำเสมอ

เขาเงยหน้ามองผ่านกระจกเล็กน้อย แล้วสวนเสียงห้วนทันทีโดยไม่หันมามองตรง ๆ

“ฉันไม่ว่าง”

รินชะงัก

“จะไปซื้ออะไรก็ไปเองสิ ไม่ต้องรอฉันทุกเรื่อง โตแล้วไม่ใช่เด็ก”

คำพูดของเขาเหมือนกระแทกใส่หน้าเธอเต็มแรง เธอได้แต่ยืนนิ่ง อึ้ง เจ็บแปลบในอก

เขาคว้ากระเป๋าเอกสาร เดินผ่านหน้าเธอโดยไม่แม้แต่จะชะลอฝีเท้า มือคว้าลูกบิดแล้วเปิดประตูออกไปอย่างไม่ไยดี

ปัง

เสียงประตูปิดลงเหมือนตอกย้ำ ว่าที่เธอหวังจะได้รับ...ไม่มีอยู่เลยตั้งแต่ต้น

รินยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น น้ำตารื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เธอกัดฟันแน่น กลั้นใจไม่ให้มันไหลออกมา ไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาแค่ไม่พาไปหรอกนะ..แต่เพราะในสายตาของเขา เธอไม่มีความสำคัญเลยต่างหาก

เธอยกมือปาดน้ำตาเร็วๆ แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก กำมือแน่น

“ไม่เป็นไรซื้อเองก็ได้” เธอกระซิบกับตัวเองเบาๆ แล้วหันกลับไป เตรียมพร้อมออกไปจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว

ช่วงบ่ายวันนั้น แดดอ่อนๆ รินแต่งตัวด้วยเดรสสั้นสีอ่อนเรียบหรู ผูกผมครึ่งหัวแบบสบาย ๆ แต่ยังดูดีไร้ที่ติ หน้าตาสวยหวานละมุน แต่งหน้าเบาๆ แค่พองาม แต่ก็พอจะสะกดสายตาใครหลายคนได้ในทันที

เธอเดินลงบันไดมาช้า ๆ กระเป๋าสะพายใบเล็กพาดไหล่ มือถือในมือเลื่อนไปมาพลางตรวจสอบรายการร้านที่อยากไป เธอจะไปห้างหรูย่านใจกลางเมือง เลือกชุดไปงานเลี้ยงอย่างที่แม่ลิสาบอกเอาไว้

เธอไม่ได้บอกใคร ไม่ได้คิดจะขอใครด้วยซ้ำเพราะเธอเข้าใจชัดแล้วว่าไม่มีใครอยากจะว่างเพื่อเธอ

เสียงรองเท้าส้นเตี้ยกระทบพื้นอย่างแผ่วเบา ขณะที่เธอเดินผ่านประตูรั้วบ้าน ปิดประตูอย่างสงบ และก้าวออกไปริมถนนเพื่อรอแท็กซี่ที่เรียกไว้

แต่ทันทีที่เธอเดินมาถึงโค้งหน้าหมู่บ้านรถยนต์หรูสีดำมันวาวที่คุ้นตาก็แล่นสวนทางเข้ามาพอดี

รถของคิงส์

เธอชะงักนิดหน่อย แค่ครู่เดียว แล้วก็เสสายตาไม่สนใจ ทำท่าจะเดินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ประตูหน้ารถฝั่งคนขับเลื่อนลง

คนขับส่วนตัวของคิงส์ยื่นหน้าออกมาถามน้ำเสียงสุภาพ “คุณรินจะออกไปไหนครับ?”

เธอหยุดเดิน แต่ไม่ได้เข้าไปหา ยืนนิ่ง ๆ พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า

“ไปเลือกชุดค่ะ จะไปงานเลี้ยงของไทยแบงค์ตามที่แม่ลิสาสั่งไว้”

คนขับชะงักเล็กน้อย หันไปมองเจ้านายในรถเหมือนรอคำสั่ง แต่คิงส์ที่นั่งนิ่งอยู่ด้านหลัง เพียงแค่เหลือบตามองผ่านกระจกรถเท่านั้น

ไม่มีคำพูด ไม่มีท่าทีจะออกมาหา

ไม่มีแม้แต่จะลดกระจกลงเอง

รินพยักหน้าให้คนขับน้อยๆ แล้วเธอก็ยิ้มบางๆ แล้วหมุนตัวเดินต่อไปที่ปากซอย

กระโปรงพลิ้วตามแรงลมบางเบา เสียงรองเท้าดังแผ่วๆ ไปตามถนนห่างออกไปเรื่อย ๆ จนสุดสายตา

ในรถ คิงส์ยังคงนั่งนิ่ง ดวงตาคมกริบมองตามร่างบางที่กำลังเดินออกไป ไหล่ของเขาตึงขึ้นนิดหน่อยโดยไม่รู้ตัว

เขาไม่พูดอะไรแต่กลับเอื้อมมือมาบีบพนักเท้าแขนแน่น

แววตาเย็นชาเหมือนเคย แต่ความร้อนรุ่มบางอย่างในอกมันเริ่มทำให้เขารำคาญตัวเองขึ้นมานิดๆ แล้ว

เสียงเครื่องยนต์ของแท็กซี่แล่นเรียบไปตามถนนในกรุงเทพฯ ย่านเมืองหลวงที่คึกคักตลอดเวลา รินนั่งสงบนิ่งอยู่ที่เบาะหลัง มือทั้งสองวางบนตัก สายตาเหม่อมองผ่านหน้าต่างออกไปข้างนอก รถวิ่งผ่านตึกสูง ร้านอาหาร คาเฟ่ และผู้คนมากมายที่ดูมีชีวิตชีวา

เธอยิ้มบาง ๆ กับตัวเอง... เป็นรอยยิ้มแบบที่ไม่มีใครเห็นก็ไม่เป็นไร

“ก็ดีเหมือนกัน...”

“จะได้ออกมาสูดอากาศบ้าง เดินเที่ยวบ้าง”

“อยู่แต่ในบ้านมาเป็นปีแล้วจะเหมือนผีเฝ้าคฤหาสน์อยู่ล่ะ”

เธอคิดประชดตัวเองในใจเบาๆ แล้วหัวเราะหึในลำคออย่างแผ่ว

“กลับค่ำหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกก็ไม่มีใครรออยู่แล้วนี่”

เสียงแตรรถดังเป็นระยะ ๆ ปะปนกับเสียงคลื่นวิทยุในรถที่เปิดอยู่เบา ๆ ขับกล่อมความเงียบในหัวใจของเธอไม่ให้มันเงียบจนเกินไปนัก

มือของเธอเลื่อนเปิดหน้าจอมือถือ ไล่ดูรายชื่อเพื่อนเก่า ๆ ที่ไม่ได้ติดต่อกันนาน แต่ก็ยังไม่ได้กดหาใคร

รถเคลื่อนเข้าใกล้ย่านห้างหรูใจกลางกรุงเทพฯรินสูดหายใจลึกๆ แล้วบอกตัวเองในใจ

“วันนี้จะเลือกชุดที่สวยที่สุดสวยกว่าผู้หญิงทุกคนในงาน”

“เผื่อจะทำให้บางคนรู้ตัวว่าเคยเมินของล้ำค่าแค่ไหน”

รถค่อย ๆ เลี้ยวเข้าไปจอดหน้าห้าง

เธอเปิดประตูลงจากรถอย่างสง่างาม แล้วก้าวเดินเข้าไปอย่างมั่นใจในแบบของเธอเอง

เสียงกระดิ่งประตูร้านหรูเบา ๆ ดังขึ้นเมื่อลูกค้าใหม่เดินเข้ามาร้านแฟชั่นระดับไฮเอนด์ที่เต็มไปด้วยชุดเดรสจากรันเวย์ของแบรนด์ระดับโลก

พนักงานประจำร้านที่แต่งตัวเนี้ยบทุกคนหันมาพร้อมกันทันทีที่เห็นรินก้าวเข้ามา

หญิงสาวในชุดเดรสลำลองเรียบหรู แต่งหน้าบางเบา แต่กลับดูสะดุดตากว่าผู้หญิงทุกคนในร้าน แววตาของเธอนิ่งเรียบ ทว่ามั่นใจ เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแน่ พนักงานรู้ทันทีโดยไม่ต้องมีใครบอก

“สวัสดีค่ะ คุณลูกค้า ต้องการหาชุดสำหรับงานพิเศษไหมคะ?”

เสียงพนักงานสาวถามด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่ประจบเล็กๆ

รินยิ้มบาง “งานเลี้ยงกลางคืนค่ะ ขอที่ดูสวย เรียบ แต่แพงที่สุดในร้านเลยก็ได้”

พนักงานรีบพยักหน้าและพาเธอเดินตรงไปยังโซน VIPชุดที่ไม่ได้โชว์หน้าร้าน แต่ถูกแขวนอยู่ในห้องกระจกด้านใน

เธอมองไปรอบๆ จนสายตาหยุดลงที่ ชุดเดรสสีขาวไข่มุก ตัวหนึ่ง

ชุดเดรสยาวไหล่เฉียง ผ่าขาสูงโชว์เรียวขาแบบสง่างาม และดีเทลลูกไม้ที่เน้นส่วนเว้าโค้งของผู้หญิงได้อย่างละเมียดละไม

“ขอชุดนี้ค่ะ”

เธอพูดสั้นๆ

พนักงานรีบนำชุดให้เธอเข้าไปลองในห้องแต่งตัว พร้อมนำรองเท้าส้นสูงสีขาวแบบเรียบหรูมาด้วยคู่หนึ่ง เป็นหนังวาววับจากอิตาลี เสริมให้ชุดดูสมบูรณ์แบบ

ไม่กี่นาทีต่อมา ผ้าม่านห้องลองเสื้อผ้าเลื่อนออก

เสียงของพนักงานสองสามคนเงียบไปทันทีเมื่อเห็นรินในชุดนั้น

เธอก้าวออกมาช้าๆ ในเดรสสีขาวไข่มุกที่รับกับสีผิวเธอพอดี ผ่าขาด้านข้างทำให้การก้าวเดินของเธอสง่าราวกับนางพญา ชุดเข้ารูปโชว์เอวคอด หน้าอกอิ่ม และไหล่เนียนเรียบอย่างพอดีทุกส่วน

ผมยาวสลวย ของเธอถูกจัดไปด้านเดียว แววตาเธอสะท้อนแสงไฟภายในร้านจนดูวาววับ

“...สวยมากเลยค่ะคุณลูกค้า”

“คือ...ถ้าเดินเข้ามาในงานนี่ ไม่ต้องพูดอะไรเลย คนมองทั้งห้องแน่นอนค่ะ...”

รินมองตัวเองในกระจกเต็มตัว เธอไม่ได้ยิ้ม แต่เพราะแบบนั้นเองที่ทำให้เธอดู โคตรสวย

“เอาชุดนี้ค่ะ... กับรองเท้าคู่นั้นด้วย”

เสียงเธอราบเรียบแต่หนักแน่น

ขณะที่รินกำลังยืนส่องกระจกอยู่นั้น เสียงเปิดประตูหน้าร้านก็ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

เสียงส้นรองเท้าหนังราคาแพงก้าวช้าๆ เข้ามา พร้อมกลิ่นน้ำหอมผู้ชายแนวที่คุ้นเคยจนเธอจำได้ขึ้นใจ

พนักงานหน้าร้านหันขวับในทันที แววตาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“คุณคิงส์!! ยินดีต้อนรับค่ะ!!”

เสียงพนักงานแทบพร้อมใจกันกรี๊ดในใจ ชายหนุ่มในสูทสีเทาเข้มก้าวเข้ามาอย่างมั่นใจ สายตาคมกริบกวาดมองไปทั่วร้านจนสะดุดอยู่ที่เธอ

รินในชุดเดรสสีขาวไข่มุก ยืนอยู่หน้ากระจกด้วยท่าทางสง่างามแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

คิงส์ถึงกับชะงัก ทุกอย่างรอบตัวเขาชะงักไปชั่วครู่

ดวงตาเขานิ่ง จ้องเธอแบบลืมหายใจไปเสี้ยววินาที ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น ทำเหมือนไม่สะทกสะท้าน แล้วเดินเข้าไปใกล้

“จะไปงานทั้งที...เลือกดีนี่”

น้ำเสียงเขาราบเรียบ แต่หูแดงจัด

“ฉันจะจ่ายให้”

เขาเดินตรงไปเคาน์เตอร์ทันที

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดต่อ รินก็เอ่ยสวนเสียงนิ่ง

“ไม่ต้องค่ะ รินจ่ายไปแล้ว”

พนักงานที่รับชำระเงินแทบไม่กล้ามองหน้าคิงส์ แต่ก็พยักหน้าเบา ๆ

“คุณผู้หญิงชำระเรียบร้อยแล้วค่ะ…”

คิงส์หันขวับกลับมามองริน สีหน้าเขาไม่แฮปปี้

“งั้นก็กลับพร้อมกันเลย” เขาบอกแบบไม่ถามความเห็น

รินเดินเฉิดฉายผ่านหน้าเขาอย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่ค่ะ รินจะกลับเอง”

“หรือพี่ว่างแล้วเหรอ? ไหนบอกว่าไม่ว่างไงคะ?”

น้ำเสียงประชดประชันแบบเฉียบคม

“จะตามมาทำไม?”

คิงส์เม้มปากแน่น ร่างสูงยืนนิ่งอยู่กลางร้าน สายตาเขาเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลายที่ปะทุในอก เขาไม่ชอบที่เธอเดินหนี ไม่ชอบที่เธอไม่ง้อเขาและที่เขาไม่ชอบที่สุด...

เขาไม่ชอบที่เธอไม่แคร์เขาอีกแล้ว

“ริน!” เขาเรียกเสียงต่ำ

“กลับด้วยกัน ฉันจะไปส่ง”

“จะกลับเองค่ะ”

รินสวนแล้วเดินออกจากร้านทันที

คิงส์รีบสาวเท้าเดินตามออกไปด้านหน้า

“ริน หยุด!”

“ไม่ค่ะ”

เธอหันกลับมามองเขาแวบหนึ่ง แววตานิ่งเฉย เย็นชา แต่ในใจมันเจ็บชะมัด

“อย่าตามมาค่ะ ไหนบอกว่าไม่ว่าง ถ้ามันเป็นแค่หน้าที่ พี่ไม่ต้องฝืนค่ะ รินจัดการได้”

รินเดินหนีเขาอย่างรวดเร็วและรีบไปเรียกแท็กซี่ รถเคลื่อนออกจากหน้าห้างหรู ทิ้งคิงส์ไว้กับความรู้สึกที่เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่า... เขาโกรธที่เธอไม่ฟัง หรือโกรธที่เธอไม่ต้องการเขาอีกกันแน่

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่46 พิเศษ2

    บทที่46 ตอนพิเศษ2 NCแม้แดดในอาวีญงจะร้อนอบอ้าวในบางจุด แต่ลมเย็นจากแม่น้ำโรนที่ไหลเลียบเมืองเก่า ทำให้สายนี้ดูสดใสกว่าทุกวัน รินที่อุ้มกล้องขึ้นบ่าตัวเองอย่างคล่องแคล่วกำลังเดินอยู่บนสะพาน Pont Saint-Bénézet หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “สะพานอาวีญง” พร้อมเจ้าตัวเล็กฝาแฝดที่อยู่ในรถเข็นคู่กัน สีหน้าตื่นตาตื่นใจมองซ้ายขวาตลอดเวลา“ป๊าาา! ปลาาาา!”เสียงแฝดน้อยคนโตส่งเสียงใส ขณะที่ชี้นิ้วไปทางแม่น้ำเบื้องล่าง คิงส์เดินอยู่ข้างๆก้มลงมองลูกแล้วยิ้ม“เห็นปลาเหรอลูก”ส่วนริน... ไม่แม้แต่จะหันมอง เพราะเธอกำลังหมุนกล้องหามุม แสงย้อน เงาตก กระจกสะท้อน ครบทุกเทคนิค“ริน... เมมเต็มยังอะ กล้องน่ะ?” คิงส์ยิ้มกวนๆ เอามือดันหลังเธอเบาๆ“ยัง! กล้องนี้ 1TB เลยนะพี่! ยังไม่เต็มง่ายๆหรอก” เธอพูดพลางหันมายิ้มตาเป็นประกาย แล้วก็ก้มลงถ่ายลูกชายต่อ “ป๊าอุ้มลูกหน่อย อยากได้ภาพที่เห็นสะพานกับสองแสบข้างหน้า”“แสบเหรอเรา” คิงส์อุ้มลูกขึ้นสองข้าง “ถ้างั้นแสบสองชั้นเลยนะ ลูกใครวะเนี่ย หน้าเหมือนพ่อด้วยแฮะ”รินหัวเราะ ก่อนจะยกกล้องขึ้นมาอีกครั้ง แล้วคลิก... คลิก... คลิก… ไม่หยุดหลังจากเดินเที่ยวรอบเมืองเก่า ชมกำแ

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่45 พิเศษ1

    บทที่45 ตอนพิเศษพระอาทิตย์เพิ่งลาลับฟ้าไปไม่นาน เมื่อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของ “ราชันย์ อัครเวทิน” ล้อหมุนออกจากรันเวย์เป็นเส้นทางมุ่งหน้าสู่ปลายทางในฝันของภรรยาสุดที่รัก ปารีส ประเทศฝรั่งเศสในห้องโดยสารสุดหรูที่ตกแต่งด้วยสีครีมทองแบบคลาสสิก พร้อมเตียงนุ่มๆ และโซฟากว้าง มีเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กน้อยสองคนดังไม่ขาดช่วง“คิริน นั่นอะไรอะลูก?”รินถามเบาๆ พลางชี้ไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ของเครื่องบินที่เห็นเพียงทะเลและดวงดาวในยามค่ำคืน“...มืด!”คิรินตอบเสียงแหลม“มืดดดด~” ไคล์พูดตามแล้วหัวเราะออกมาคิงส์หัวเราะเบาๆ พลางหันไปบอกภรรยาที่ตอนนี้นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างลูก“รินอยากไปปารีสไม่ใช่เหรอ พี่ไม่เคยเห็นรินอยากไปที่ไหนขนาดนี้เลยนะ...”รินหันมามองเขาพร้อมยิ้มกว้างในแววตาวิบวับเหมือนเด็กได้ของขวัญ“รินเคยฝันไว้มาตั้งแต่สมัยเรียนค่ะ ว่าอยากมานั่งกินครัวซองต์ริมแม่น้ำแซน อยากเห็นหอไอเฟลด้วยตาตัวเอง แล้วก็...ถ้าได้มาพร้อมครอบครัว มันคงเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตเลย”คิงส์มองเธอนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมไปจับมือนุ่มของเธอมากุมไว้แน่น“งั้นทริปนี้ ทำให้เป็นที่พิเศษสุดเลยนะครับ... ไม่ใช่แค่

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่44

    บทที่44 จบNC“พี่คิงส์…”“หืม?”รินถอนหายใจเบาๆ ขณะนั่งอยู่ปลายเตียง พูดกับคิงส์ที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดสบายๆ“รินว่าจะหาพี่เลี้ยงเพิ่มอีกคนค่ะ… เด็กแฝดเริ่มซนมากขึ้นทุกวัน พี่ๆ สามคนก็เหนื่อยกันน่าดู”คิงส์ที่กำลังนั่งพิงหัวเตียง หันมามองเธอด้วยสายตานิ่งๆ แต่เต็มไปด้วยความสนใจ ก่อนจะถามกลับเสียงทุ้ม“แค่พี่เลี้ยงเพิ่มเหรอ? ไม่มีอะไรอยากเพิ่มอีกแล้วเหรอครับ?”รินเงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วเงยหน้าสบตาเขา“…รินอยากมีลูกอีกค่ะ”คำพูดสั้นๆ นั้นทำให้หัวใจของราชันย์เต้นแรงขึ้นทันที เขาไม่พูดอะไรต่อ แต่ลุกขึ้นมายืนตรงหน้าเธอ ใช้ปลายนิ้วเชยคางภรรยาขึ้นอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาหนักแน่น ร้อนแรง และเต็มไปด้วยแรงปรารถนา“พูดเองนะ… งั้นก็อย่ามาห้ามพี่แล้วกัน”ทันทีที่พูดจบ เขาก็โน้มตัวลงจูบริมฝีปากของรินทันที จูบแรกนั้นแผ่วเบาและอ่อนโยน… ก่อนจะกลายเป็นจูบที่ดูดดื่มและดุดันขึ้นทุกวินาที ริมฝีปากของเขาทำงานอย่างแนบแน่น สลับกับเสียงหายใจที่เริ่มหนักและถี่ขึ้นทุกทีมือของคิงส์ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของภรรยา ขณะที่อีกมือหนึ่งเลื่อนมาเกาะเกี่ยวที่เอวบาง ก่อนจะดึงรินเข้ามาแนบชิดกับร่างกายของ

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่43

    บทที่43 ทำบุญเช้าวันอาทิตย์หลังงานวันเกิดของแฝดได้ไม่นาน…ท้องฟ้าในเช้าวันนั้นใสกว่าทุกวัน รินตื่นเช้ากว่าปกติ ทั้งที่เมื่อคืนเพิ่งนอนดึกหลังกล่อมเด็กแฝด ร่างบางในชุดเรียบสุภาพยืนเงียบๆ หน้ากระจก ดวงตากลมโตมองสะท้อนเงาตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มบางๆ กับตัวเอง“วันนี้รินจะพาลูกไปทำบุญให้พ่อกับแม่นะคะ”เสียงกระซิบเบาๆ ที่ไม่มีใครได้ยิน นอกจากตัวเธอเองไม่นานนัก ทั้งครอบครัวก็ออกเดินทาง รินพาคิงส์ ลูกแฝด พี่เลี้ยงทั้งสาม รวมถึงพ่อแม่สามีขึ้นรถไปยังวัดชื่อดังในย่านพระรามเก้า เธอเตรียมของทำบุญมาล่วงหน้าหลายวัน ทั้งของถวายสังฆทาน ชุดผ้าไตร เครื่องอัฐบริขาร รวมไปถึงอาหารเลี้ยงพระและทำทานแก่คนยากไร้ เรียกได้ว่าเป็นงานบุญใหญ่ที่ตั้งใจจัดขึ้นเพียงเพื่อพ่อแม่ของเธอที่ล่วงลับไปแล้วเมื่อถึงวัด ทุกคนแต่งกายเรียบสุภาพ รินอุ้มคิรินไว้ในอ้อมแขน ส่วนคิงส์ก็อุ้มไคล์เดินเคียงข้างกันเข้าไปในโบสถ์ บรรยากาศเงียบสงบ แสงแดดที่สาดผ่านลายไม้ของหน้าต่างบานใหญ่ทำให้ภาพภายในโบสถ์ยิ่งดูอบอุ่นศักดิ์สิทธิ์พิธีกรรมเริ่มต้นขึ้น พระสงฆ์เริ่มสวดมนต์ ท่ามกลางเสียงสวด รินก็ยกมือไหว้หลับตานิ่ง กุมมือลูกไว้ทั้งสองข้าง

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่42

    บทที่42 สองแฝดเช้าแรกของวันเกิดครบรอบ 1 ขวบของแฝดน้อยในบ้านอัครเวทิน เรียกได้ว่าเริ่มต้นด้วยเสียงโหวกเหวกของเหล่าพี่เลี้ยงที่แทบจะวิ่งเป็นลมวนรอบบ้านกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดีนัก เพราะแฝดน้อยทั้งสอง ไคล์กับคิริน ดันตื่นเช้ากว่าปกติ แถมยังตื่นมาแบบโหมด “นักสำรวจ” เต็มกำลัง พลังงานทะลุปรอท!“ไม่เอาาา คิริน อย่าดึงผมพี่ไคล์!!” เสียงหวีดเบาๆ ของพี่เลี้ยงคนหนึ่งดังขึ้น ขณะพยายามแยกตัวน้อยที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันตั้งแต่ยังอยู่ในเตียงเด็ก!“แง๊งงงงงงงงง!!” ไคล์ก็ไม่ยอม แถมยังโวยเสียงดังแล้วหยิบตุ๊กตาหมีประจำกอดแน่นพลางชี้หน้าคนน้องอย่างเอาเรื่องคิรินไม่พูดพร่ำทำเพลง อ้าปากจะงับตุ๊กตาพี่ทันที นี่มันศึกย่อมๆ แต่เช้าเลยจ้าพี่เลี้ยงทั้งสามที่เพิ่งจะได้ยกแก้วกาแฟไปครึ่งเดียวพากันวิ่งวุ่นไปรวบตัวแฝดแยกออกจากกัน แล้วจู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากชั้นบน...“เสียงอะไรแต่เช้า หืม?” คิงส์เดินลงบันไดมาพร้อมรอยยิ้มกร้าวใจ หัวฟูหน่อยๆ เพราะเพิ่งตื่น“คุณพ่อขาาาา มาช่วยหน่อยค่า แฝดกำลังเปิดศึก!” พี่เลี้ยงคนหนึ่งตะโกนลั่น“โอเคๆ พ่อมาแล้วครับ ใครแกล้งใครก่อนเนี่ย หื้มม ไคล์? หรือคิริน?”สองแฝดหยุดเลยทันท

  • KingLinเมียจำเป็น   บทที่41

    บทที่41 ป๊ะป๊า ม๊ะม๊า...แม่เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปบรรยากาศภายในห้องทำงานส่วนตัวของประธานใหญ่ไทยแบงค์ยังคงอบอุ่นเหมือนเดิมโซฟาตัวใหญ่ในมุมห้องวางเบาะนุ่มสำหรับเจ้าตัวแฝดไว้เรียบร้อย พี่เลี้ยงสองคนกำลังสาละวนกับของเล่น เสียงกุ๊งกิ๊งของโมบายแขวนกับเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กๆ ดังแทรกเสียงเอกสารพลิกไปมาของคิงส์รินนั่งข้างสามี บนโต๊ะเล็กมีน้ำผลไม้กับขนมสำหรับเธอ และข้าวบดสำหรับลูก ๆ เธอกำลังหยิบช้อนป้อนแฝดคนโตอยู่ ขณะคิงส์อ่านเอกสารสำคัญบนตัก พร้อมๆ กับใช้มือลูบหัวลูกชายคนเล็กที่กำลังนั่งพิงหมอนอย่างสบายใจ“อ้าปากครับ…งั่ม~”รินป้อนข้าวแฝดคนโต ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ เมื่อลูกชายอ้าปากรับอย่างว่าง่าย“ดีมากเลยครับคนเก่งของแม่”คิงส์เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร ยิ้มมุมปาก“แฝดบ้านนี้กินเก่งเหมือนแม่แหง ๆ เลย”“อ้าว! ใครบอกคะ พี่ต่างหากที่กินเก่งจนลูกซึมซับ”ทันใดนั้นเอง...เสียงแผ่ว ๆ แต่ชัดเจนก็ดังขึ้นมาจากเจ้าตัวเล็กฝั่งซ้ายที่กำลังดูดนิ้วอยู่“ปะ…ป๊า…”รินกับคิงส์หันขวับมองหน้ากันทันที!“เมื่อกี้พี่ได้ยินใช่มั้ยคะ!? ลูกพูดว่า ‘ปะป๊า’ !!” รินเสียงตื่นเต้นจนมือไม้สั่นคิงส์แทบทำเอกสารหล่น รีบยื่นหน้าไปใกล้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status