"มึงช่วยทำหน้าดีใจหน่อยได้ไหมวะ...นานๆ ทีจะได้เจอกันนะเว้ย" เมฆหนึ่งในเพื่อนสนิทของเรย์เอ่ยพูดขึ้นเมื่อเหลือบสายตาไปมองยังเพื่อนสนิทที่กำลังควงแก้วเหล้าราคาแพงไปมาแล้วนั่งมองมันด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ ออกมา ทว่าในความนิ่งพวกนั้นก็ทำให้เพื่อนสนิทอีกสองคนเดาไม่ยากเลยสักนิด
"..." มีเพียงแต่ความเงียบปกคลุมไร้ซึ่งคำตอบจากเจ้าของร่างเย็นชา
"ไอเรย์...มึงดูเปลี่ยนไปนะ" กระทั่งไทเกอร์ที่เป็นฝ่ายพูดเสริมขึ้นอีกคน เมื่อรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในตัวของเพื่อนสนิทที่สัมผัสได้แต่ความแข็งกระด้างเย็นชาในทุกคำพูดและการกระทำผิดกับเรย์ในสมัยก่อนที่ดูผ่อนคลายและอ่อนโยนมากกว่านี้
"..." ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของร่างเย็นชาก็เงียบอีกเช่นเคย สายตาคู่คมผละออกจากแก้วเหล้าแล้วเหลือบไปมองยังเพื่อนสนิทอีกสองคนที่กำลังจับจ้องมาที่เขาสีหน้าเรียบนิ่งไม่แพ้กัน
"อย่าเศร้านานดิวะ...แค่มึงดีดนิ้ว ผู้หญิงก็พร้อมเข้าหามึงอยู่แล้ว...มึงมีตัวเลือกมากมายเลยนะเว้ยไอเรย์!" เมฆเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังอย่างไม่ต้องการให้เพื่อนต้องจมปลักอยู่กับความเศร้าไปนานกว่านี้...แน่นอนว่ามันผ่านไปแล้วเกือบสองเดือน...สองเดือนที่เขาถูกปฏิเสธจากเธอ(คนนั้น)อย่างเป็นทางการ
แม้ตลอดเวลาที่อยู่ฝรั่งเศสเขาจะพยายามแทนที่เขา(คนนั้น)ของเธอมากแค่ไหน...สุดท้ายเขาก็ทำมันไม่สำเร็จ เธอไม่เคยเว้นพื้นที่ให้เขาได้เข้าไปอยู่ในหัวใจได้มากเกินกว่าคำว่าเพื่อนสนิทได้เลยสักนิดเดียว...
"เพียงขวัญไม่เหมือนคนอื่น..." ทันทีที่สิ้นเสียงของเพื่อนสนิท ริมฝีปากหยักได้รูปก็ช้อนสายตาตอบกลับไปทันทีก่อนที่แก้วเหล้าที่ถูกชงเข้มเป็นอย่างดีจะถูกกระดกดื่มกลืนลงคอในรวดเดียว
ปึก!
แก้วเหล้าราคาแพงถูกกระแทกวางลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงดังขึ้นทำให้พนักงานที่ทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มรีบคว้าแก้วมาทำหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว
"แต่เธอเลือกแล้วนะเว้ย...มึงก็ควรลืมเธอได้แล้ว" ไทเกอร์เอ่ยด้วยความหวังดี
"..." ใบหน้าคมคายชะงักนิ่งไปอีกครั้ง เขาพยายามแล้ว...เขาพยายามที่จะลืมเธอมาตลอดแต่การที่คนคนหนึ่งปักหลักความรู้สึกรักอยู่กับคนคนเดียวมาเป็นเวลาเกือบสิบสองปีมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำใจเลิกรักเธอได้
"มันไม่ง่ายเลย..." ปากหนักตอบกลับเสียงเบาแววตาวูบสั่นไหวทันทีที่ความรู้สึกโลดแล่นเข้ามาในโซนประสาทเขาไม่หยุด ภาพรอยยิ้มและการกระทำของหญิงสาวตัวเล็กที่เขามักจะอมยิ้มทุกครั้งที่ได้เห็นมัน แต่ตอนนี้รอยยิ้มนั้นกลับไม่ได้เป็นของเขาแล้ว...
ไม่สิ...มันไม่เคยเป็นของเขาตั้งแต่แรกเลยต่างหาก...
"เออๆ ช่างเถอะ เดี๋ยวมันก็ทำใจได้เองแหละ วันนี้มาเพื่อฉลองนะเว้ย!..." ทันทีที่ได้เห็นใบหน้าและน้ำเสียงที่ดูตัดพ้อ เมฆก็เอ่ยขึ้นอย่างเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับใช้เท้าสะกิดส่งสัญญาณไปยังเพื่อนอีกคน
"เออใช่...ฉลองเว้ย!" ไทเกอร์ก็รีบเปลี่ยนเรื่องทำตัวเข้าขาเป็นอย่างดีก่อนที่จะยกแก้วเหล้าขึ้นมาเตรียมจะกระทบเป็นสัญญาณในการเริ่มสังสรรค์
"ฉลองอะไรของพวกมึง?" กระทั่งใบหน้าคมคายหลุดยิ้มบางๆ ออกมาในการเปลี่ยนเรื่องของเพื่อนทั้งสองที่ดูไม่เนียนเลยสักนิด
"กะ ก็ฉลองที่เดือนนี้ร้านกูขายดีทะลุเป้าไง...ชนๆ อย่าถามมาก" เมฆเอ่ยตอบอย่างปัดๆ
"โคตรแถ...เออชน" ทว่ากลับทำให้อีกคนผุดรอยยิ้มบนใบหน้าได้มากกว่าเดิม
เคร้ง!
ก่อนที่แก้วเหล้าของทั้งสามจะถูกกระทบกันเสียงดังแล้วจัดการกระดกดื่มมันพร้อมกันจนหมดแก้วกันทั้งสามเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่โซนโต๊ะวีไอพี
"เออว่าแต่มึงไปร้านกูบ้างยัง...ไอเหี้x! บริษัทก็อยู่แค่ตรงข้ามแต่เสือกไม่ลงมาอุดหนุนเพื่อนบ้างเลย" เมฆปรายตาไปบอกยังประธานบริษัทที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างนึกเคือง
"เมื่อเช้ากูไปแล้ว มึงเหอะ ตั้งแต่เปิดเคยอยู่ติดร้านบ้างไหม?..." เรย์เอ่ยตอบ
"โทษทีวะ...ก็เมื่อเช้ากูไม่เข้าร้านนี่หว่า" เจ้าของร้านกาแฟยิ้มตอบอย่างแก้เขินที่ดันไปว่าเพื่อนทั้งที่ไม่ใช่ความจริง
"แล้ววันอื่นอะ?" ไทเกอร์เลิกคิ้วถามต่อ
"ก็ไม่เข้าเหมือนกัน"
"หึ!...ควxเถอะ" ซึ่งคำตอบของเมฆทำเอาเพื่อนอีกสองคนถึงกับสบถออกมาพร้อมกัน ก่อนที่จะส่ายหัวให้เจ้าของร้านกาแฟที่ดูจะไม่เหมือนเจ้าของร้านด้วยความเอือมระอา
"พนักงานกูดีเว้ย กูไว้ใจพนักงานกูให้ทำกันเองไง"
"ยัยขาสั้นนั้นอะนะ" เรย์เลิกคิ้วถามเสียงนิ่ง
"ใครวะ?...ยัยขาสั้น" สร้างความงุนงงให้เมฆและไทเกอร์ไม่น้อยที่ได้ยินคำถามที่หลุดออกจากปากของเพื่อนสนิท
"พนักงานมึงอะ...ที่ขาสั้นๆ ตัวเตี้ยๆ หน่อย" ชายหนุ่มก็เอ่ยอธิบายต่อซึ่งคนที่เขากำลังพูดถึงอยู่ก็คือ...
"น้องนาราเหรอ?..."
"ไม่รู้...คงใช่มั้ง" เจ้าของใบหน้าหล่อก็ตอบปัดๆ เพื่อนไป
"ไอสัส...มึงไปว่าน้องตุ๊กตาของกูแบบนั้นได้ไงวะ" ทันทีที่ได้ยินคำตอบจากเพื่อนสนิท ไทเกอร์ก็ใช้เสียงเข้มว่าเพื่อนทันที
"น้องตุ๊กตา?"
"เออดิวะ ตาโต ตัวเล็กๆ ผิวขาว ยิ่งถ้าได้ยิ้มนะ น่ารักชิบหาย" ไทเกอร์เอ่ยตอบ
"น่ารักตรงไหน..." ชายหนุ่มเอ่ยตอบเพื่อนอย่างไม่เห็นด้วย ซึ่งจากเมื่อเช้าที่เขาเห็นเด็กสาวตัวเล็กที่วิ่งมาตัดหน้าเพื่อต้องการจะมาส่งกาแฟ...เขาก็ไม่เห็นถึงความน่ารักเหมือนที่เพื่อนสนิทเอ่ยเลยสักนิด
"ดี!...กูจะได้ไม่มีคู่แข่ง" ไทเกอร์ที่ได้ยินดังนั้นก็ยกยิ้มอย่างพอใจเพราะทุกครั้งที่เขาไปร้านเสือร้ายกาจที่ไม่ต่างไปจากพี่ชายก็ไม่วายที่จะแหย่เธอเล่นๆ ทุกครั้งอย่างไม่จริงจังอะไรมาก
"พอมึงไอเสือ...น้องยังไม่ยี่สิบ อยากติดคุกเหรอไอสัส" ก่อนที่เมฆจะเป็นคนขัดขวางไว้เหมือนทุกครั้งที่เขาชอบปกป้องน้องพนักงานในร้านเพื่อให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของเสือร้ายกาจอย่างไทเกอร์ที่เป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง
"มึงขัดขวางเพราะมึงก็ชอบน้องด้วยใช่ไหมไอเมฆ...ไอเวร" ไทเกอร์ชี้หน้าด่าเพื่อนเล่นๆ ไปตามประสา
"หึ!...ไร้สาระ" ก่อนที่เรียวปากหนักจะส่ายหัวแล้วเลือกที่จะเลิกสนใจในประโยคสนทนาต่อไปของเพื่อนสนิททั้งสองที่กำลังพูดถึงเด็กขาสั้นที่เขาเป็นคนเริ่ม มือหนักเลื่อนไปหยิบแก้วเหล้ามากระดกดื่มอีกครั้งโดยที่ในหัวก็เอาแต่คิดถึงภาพใบหน้าของคนตัวเล็กที่กำลังกุมหัวใจเขาอยู่ในตอนนี้
"เมื่อไหร่ฉันจะเลิกรักเธอได้สักที...เพียงขวัญ"
เมี๊ยว ~"ริวจินอย่าทำพี่ครับ" นารารีบวางถ้วยที่อยู่ในมืออย่างไว เธอรีบวิ่งไปหาริวจินลูกชายคนเดียววัยสองขวบที่กำลังหยุมหัวแมวสุดห่วงของเธอจนขนแมวติดเต็มมือเล็ก"ฟู ฟู~" เด็กน้อยพูดไม่ชัดหัวเราะร่าพร้อมกับชี้ไปทางถ้วยฟูที่อยู่ในอ้อมกอดของนาราที่กำลังปลอบขวัญ"ทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ ถ้วยฟูเจ็บนะลูก" นารารีบเอ่ยอธิบาย"เจ็บ เจ็บ ฟูเจ็บ" ริวจินยื่นมือป้อม ๆ ไปลูบหัวเจ้าแมวขนเบา ๆ"ใช่ค่ะ ต้องลูบเบา ๆ แบบนี้นะ ไม่ดึงแรง ๆ แบบเมื่อกี้แล้วนะคะ""ลูบ ๆ" เด็กน้อยสองขวบพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนที่จะเลื่อนไปนั่งตักผู้เป็นแม่แล้วเล่นอยู่กับถ้วยฟู โดยที่มีนาราคอยยิ้มให้กับความอ่อนโยนของลูกชายที่อธิบายไปครั้งเดียวก็สามารถเข้ากับแมวสุดรักของเธอได้เป็นอย่างดี"หม่ามี๊ค้าบ~" จนกระทั่งเจ้าของใบหน้าสวยที่ก้มมองลูกชายในตอนแรกต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของใครอีกคนที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนเรียกเธอเสียงดัง และคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก..."รันกลับมาแล้วค้าบ" ลูกชายคนโตวัยห้าขวบอย่างรันเวย์ที่โผล่เข้ากอดผู้เป็นแม่หลังจากที่กลับมาจากโรงเรียนโดยที่มีเรย์เป็นคนไปรับลูกชายถึงที่ด้วยตัวของเขาเอง"ไปโรงเรียนมาสนุกไหมครั
@Tiger_Groupผลั่ก!"การ์ดมึงมาทำไมเยอะแยะ วันนี้มีเรื่อง?" เรย์ที่ผลักประตูเข้ามาเอ่ยถามกับเพื่อนที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะ ก่อนที่เขาจะพาตัวเองไปนั่งที่ตรงข้ามเพื่อน"ก็มึงบอกให้กูช่วยเรื่องใหญ่ ที่ไหน คนของกูพร้อมแล้ว" ไทเกอร์เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาวางปากกาลงแล้วลุกขึ้นเตรียมถอดสูทของผู้บริหารสลัดคราบเป็นมาเฟียเพื่อช่วยปัญหาให้เพื่อน"มึงไม่ต้องไปหรอก" เรย์เอ่ยบอกทำให้มือหนาที่กำลังถอดสูทชะงัก หันกลับมามอง"เรื่องใหญ่กูจะไม่ไปได้ยังไง""กูขอการ์ดแปดเก้าคนก็พอ""??""มันไม่ใช่เรื่องของกู แต่เป็นเรื่องของลูกกู""ลูกมึง? ใครทำอะไรหลานกู ไอเฮี้ย...การ์ดแค่นั้นไม่พอ กูจะกระทืบมันด้วยตีนกูเอง" ผู้บริหารในคราบมาเฟียถอดสูททิ้งอย่างไม่ไยดี ดวงตาของเขาเริ่มแดงก่ำไม่มีความล้อเล่นเมื่อรู้ว่าปัญหาเกิดขึ้นกับหลานรักที่ยังไม่ลืมตาดูโลกของตัวเอง"ไม่มีใครทำอะไรหลานมึงหรอก มีแต่หลานมึงที่ทำกู" แต่แล้วประโยคของเรย์ก็ทำให้เพื่อนชะงักอีกรอบ เรย์เกือบหลุดขำกับท่าทางของไทเกอร์แต่ก็ดีใจอยู่ไม่น้อยที่เพื่อนเป็นห่วงลูกเขาขนาดนี้"ไอสัสเรย์...มึงพูดให้มันเคลียร์ดิ ตกลงใครทำอะไรหลานกู""หึ หลานมึงกำลังงอแ
"ที่นี่บรรยากาศดีมากเลยนะคะ" ดวงตากลมโตกวาดไปมองรอบๆ เกาะที่มีน้ำสีฟ้ากว้างใหญ่ วันนี้เป็นวันฮันนีมูนวันแรกที่ตกลงกันว่าจะมาเป็นบ้านบนเกาะส่วนตัวของเรย์ที่ซื้อไว้ โดยที่บนเกาะนี้มีแค่เขากับเธอเพียงสองคนเท่านั้น"ชอบไหม แด๊ดซื้อเพื่อหนูเลยนะ" ร่างสูงโปร่งเดินมากอดภรรยาสาวจากด้านหลัง เกยคางไว้บนไหล่มน ก่อนที่จะฝั่งจมูกไว้กับแก้มนุ่มนิ่มไปฟอดใหญ่"ชอบมากเลยค่ะ" มือบางเลื่อนไปกุมมือของเรย์ไว้อีกที หันไปหอมแก้มสากเป็นของขวัญตอบแทน"ทำไมถึงเลือกที่นี่เหรอคะ""เพราะแด๊ดรู้ว่าหนูชอบทะเล""แด๊ดรู้ด้วยเหรอคะ หนูไม่เคยบอกใครเลยนะคะ""เมียทั้งคน จะไม่รู้ได้ยังไงกัน หื้ม..." จมูกโด่งถูไถ่กับแก้มนิ่มอย่างหยอกล้อ ขณะที่อีกคนกลับยิ้มออกมาแก้มแทบแตกกับความดูแลเอาใจใส่ที่ยังคงเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด"แด๊ดดี้ขา...""หื้ม?""แด๊ดดี้ยังอยากมีเจ้าตัวเล็กอยู่ไหมคะ" คำถามของนาราทำให้ร่างสูงชะงักการกระทำ ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปมองเธออย่างรวดเร็ว"แด๊ดแล้วแต่หนูครับ ถ้ามีแล้วหนูต้องเจ็บ แด๊ดก็ไม่อยากมี" ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกกับเรย์ว่าการคลอดบุตรมันเจ็บมากสำหรับผู้หญิง นั้นจึงทำให้เรย์จำและยอมไม่มีเจ้าตัวเล็กดรกว่าใ
"ฮาโหลครับ" มือหนายกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู ขณะที่ดวงตาคมกวาดมองไปข้างหน้าเพื่อตรวจเช็คในสิ่งที่เขากำลังทำ(ทำไมเสียงดังจังเลยคะ แด๊ดไม่ว่างเหรอ?) ปลายสายเอ่ยขึ้นทำให้ร่างสูงรีบเดินออกจากที่ที่ทำให้เสียงดัง ก่อนที่จะเอ่ยอีกครั้ง"ว่างครับ แด๊ดว่างคุยกับหนูตลอด" เรย์รีบกรอกเสียงหวาน(แล้วแด๊ดอยู่ไหนคะ ทำไมดึกป่านนี้แล้วถึงยังไม่ถึงห้องอีกล่ะคะ)"อยู่โรงแรมครับ มาดูที่จัดงานแต่งของเรา" บรรยากาศรอบ ๆ ที่ประดับประดาด้วยของสวยงามมากมายใกล้เสร็จแล้วเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ซึ่งเกิดจากการวางแผนและดูงานของเรย์ที่ตั้งใจทำทั้งหมด(หื้ออ? ดึกป่านนี้เลย เกิดปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ) นาฬิกาบอกเวลาเป็นเที่ยงคืนแล้วทำให้นาราเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจและเป็นห่วง"เปล่าครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แด๊ดแค่ไม่อยากกลับคอนโด"(ทำไมล่ะคะ โหมงานหนักไม่ดีเลยนะคะ)"แด๊ดไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว แด๊ดคิดถึงหนู"(ฮ่าๆ ขนาดนั้นเลย~) คำตอบของเรย์ทำให้นาราถึงกับหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้ พึ่งจะผ่านไปแค่คืนเดียว ว่าที่เจ้าบ่าวก็ทนไม่ได้เสียแล้ว"ไม่ตลกเลยนะ หัวเราะมาก ๆ แด๊ดไปฉุดถึงบ้าน" เรย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาพยายามหาอย่า
"ไอเสือ!...มึงอย่าเทน้ำหนักลงมาฝั่งกูเยอะดิ เห็นไหมจะล้มอยู่แล้วเนี่ย""ก็ตัวแม่งหนักชิบหาย กูจะล้มแล้ว""แม่ง...ไม่น่ามอมมันเลย ความลับก็ไม่รู้ เสือกต้องแบกกลับบ้านอีก""กูไม่น่าเชื่อมึงแต่แรกไอสัส" เสียงทุ้มของเพื่อนสนิทสองคนที่กำลังถกเถียงกันถึงเพื่อนอีกคนที่สลบคอพับในร้านเหล้าหรูหราด้วยฝีมือการมอมเพื่ออยากรู้ความลับของคนปากแข็งที่ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังเลยสักอย่าง แต่แล้วแผนก็ต้องพังทลายเพียงเพราะคนปากแข็งดื่มหนักเกินจนภาพตัดไม่ทันจะเอ่ยปากคายความลับที่อยู่ข้างใน ฝีเท้าหนักเดินโซเซแบกปีกเพื่อนคนละข้างด้วยท่าทีทุลักทุเลกดรหัสเข้าไปข้างในห้องคอนโดหรูชั้นสูงสุด"ฟู่ววว ถึงสักที" ก่อนที่จะจัดการโยนร่างตัวโตแสนหนักอึ้งทิ้งลงบนเตียงนุ่มพร้อมกับพ่นลมหายใจไล่ความเหน็ดเหนื่อย"เอาไงต่อ กลับเลยไหม" เมฆเอ่ยกับไทเกอร์ ปรายตามองสภาพเพื่อนที่นอนหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเกินขนาด"หาผ้าเช็ดมันหน่อยก็ดี รู้สึกผิดอยู่นิดนึง" ไทเกอร์เอ่ยตอบ เขาเป็นคนทำให้เรย์ตกอยู่ในสภาพนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะดูแลเพื่อนสนิทลบล้างความผิด"เออๆ เดี๋ยวกูไปหาผ้าก่อน" ว่าจบเท้าหนักของเมฆก็เดินหมุนตัวออกจากห้
สามปีผ่านไป"บัณฑิตยิ้มหน่อยครับ" เสียงของชายหนึ่งในนั้นพูดขึ้น ก่อนที่จะใช้กล้องถ่ายรูปส่องไปทางคนตัวเล็กน่ารักที่อยู่ในชุดครุยยืนอยู่หน้าซุ้มถ่ายรูปพร้อมกับดอกไม้ชาอโตหนึ่งช่อและตุ๊กตาหมีหนึ่งตัว"ค่ะ" นารายิ้มหวานตามคำบอก เปลี่ยนท่าทางสองสามท่าเพื่อให้ช่างภาพที่เรย์จ้างได้ทำงานอย่างเต็มที่"แปปหนึ่งนะคะ" นาราเอ่ยกับช่างภาพคนเดิม ก่อนที่จะเดินเร็วๆ เข้าไปหาผู้เป็นยายและน้าที่ยืนยิ้มให้เธออยู่อีกฝั่ง รวมไปถึงอรที่มาร่วมแสดงความยินดีกับแฟนของลูกชายด้วย บรรยากาศของวันงานรับปริญญาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความภาคภูมิใจของคนในครอบครัวรวมไปถึงตัวเธอเอง จึงอยากจะเก็บภาพความทรงจำเหล่านี้ไว้เพื่อจะได้ย้อนกลับมาดูว่ามันช่างมีความสุขมากแค่ไหน"ถ่ายรูปกันค่ะ" นาราเดินไปอยู่ระหว่างกลางของยายบัว อร และเพลงพิณ ก่อนที่จะให้ทั้งสามมองไปทางกล้องถ่ายรูปแล้วฉีกยิ้มหวานอย่างมีความสุขเป็นที่สุด ในที่สุดมันก็มีวันนี้สักที วันที่เธอได้ทำตามความฝันและภูมิใจในตัวเองมากที่สุด"ยินดีด้วยนะลูก หนูเก่งมากเลย" อรเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ยื่นกล่องของขวัญแทนใจให้แฟนลูกด้วยความยินดีปรีดา"ขอบคุณค่ะคุณน้า""เรียนจบแล้วนะเอ็ง โตเ