LOGINเขา...เจโรม ผู้ชายร้ายกาจที่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพ่อจากแผนการแก้แค้นของเธอ ส่วนเธอ...ศศิภัทร พยาบาลสาวผู้มาพร้อมกับแรงแค้นที่ฝังลึกจากเรื่องราวในอดีต เธอพร้อมจะเดินเกมทุกอย่างเพื่อให้คนตระกูลเดียวกับเขารู้จักคำว่า เจ็บปวด แต่เมื่อเกมเริ่ม แผนการก็พังทลาย เมื่อหัวใจกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ เขาจะทำอย่างไรเมื่อพบว่าความแค้นของเธอมีเหตุผล และเธอจะทำอย่างไรเมื่อแรงแค้นที่มีต่อเขา...กลายเป็น ความรัก
View More“คุณอนันต์กำลังจะแต่งงานในอีกสองเดือนข้างหน้าครับคุณเจโรม”
“คราวนี้เป็นใครอีกล่ะครับคุณสาธิต นางแบบหรือดาราที่ไหนกันล่ะ” เจโรมนักธุรกิจหนุ่มวัย 32 ปีถามพลางหัวเราะเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บิดาของเขาจะแต่งงาน ตั้งแต่หย่าขาดจากมารดาท่านก็แต่งงานอีกหลายครั้งและแต่ละครั้งก็จบลงในเวลาไม่นาน
“ไม่ใช่เลยครับ ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้ง” น้ำเสียงของคุณสาธิตจริงจังและดูเป็นกังวล
“ต่างยังไงครับ”
“ก็คนนี้ดูคุณท่านจริงจังมากว่าทุกครั้งนะครับ งานแต่งครั้งนี้จัดใหญ่มาก ท่านอยากประกาศให้ทุกคนรู้”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครครับ”
“เธอเป็นพยาบาล”
“พยาบาลเหรอครับ พ่อคงอยากได้คนดูแลหรือเปล่า” เจโรมยังมองโลกในแง่ดี
“ถ้าอยากให้เธอมาดูแลก็คงไม่แต่งงาน อ้อ...ผมลืมบอกคุณอีกอย่างหนึ่งครับ เธอคนนี้อายุแค่ยี่สิบห้าเองนะครับ”
“อะไรนะครับคุณสาธิต เธออายุเท่าไหร่นะครับ” เจโรมตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเขาจึงถามซ้ำอีกครั้ง
“เธออายุยี่สิบห้าครับ”
“ผมว่าครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ ครับ เธออายุน้อยกว่าผมอีกนะครับ แล้วจะมาเป็นแม่เลี้ยงผมได้ยังไง ผมคงต้องจัดการเรื่องนี้”
“ที่ผมโทรมาบอกก็เพราะอยากให้คุณช่วยพูดกับท่านหน่อยครับ ผมไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ยอมแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อนั้นมีเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า”
“ผมขอเคลียร์งานที่นี่สักสามวันนะแล้วจะกลับเมืองไทย”
“ให้ผมจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้ไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับคุณสาธิตเดี๋ยวผมให้เลขาของผมจัดการเอง”
“ได้ครับ”
“ระหว่างนี่คุณสาธิตช่วยไปสืบประวัติผู้หญิงคนนี้มาให้ละเอียดที่สุดด้วยนะครับ”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมส่งข้อมูลให้ทางเมลนะครับ”
“มีอะไรคืบหน้ารีบแจ้งผมด้วยนะครับคุณสาธิต”
เมื่อวางสายจากคุณสาธิตผู้ช่วยของบิดาแล้วเจโรมก็มีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของบิดาเลยแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป
ก่อนจะเดินทางไปหาบิดาเจโรมจัดการเคลียร์งานของตัวเองและสั่งงานผู้ช่วยไว้อย่างละเอียดเพราะเขาไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอยู่ที่เมืองไทยนานแค่ไหนแต่ก็คิดว่าจะต้องขัดขวางการแต่งงานของบิดาให้ได้
แล้วเรื่องที่เจโรมจะเดินทางกลับเมื่องไทยก็ถึงหูคุณมาเรียมารดาของวันนี้ท่านเลยโทรศัพท์มานัดให้ชายหนุ่มมาทานอาหารค่ำด้วยกัน
“เจโรมลูกจะไปเมืองไทยใช่ไหม” คุณมาเรียถามอย่างไม่อ้อมค้อม
“แม่รู้ได้ยังไงครับว่าผมจะไปเมืองไทย”
“แม่บังเอิญเจอผู้ช่วยของลูก เขาเลยบอกว่าช่วงนี้ลูกกำลังเคลียร์งานอย่างหนักเพื่อที่จะเตรียมไปที่ประเทศไทย มีอะไรที่นั่นหรือเปล่าหรือโรงแรมมีปัญหา” คุณมาเรียถามถึงธุรกิจของลูกชายที่มีโรงแรมอยู่หลายแห่งทั้งในเอเชียและยุโรป
“โรงแรมไม่มีปัญหาหรอกครับแม่ ทุกอย่างโอเคดีแต่ผมจะไปหาพ่อ”
“นึกยังไงจะไปหาพ่อละ ปกติไม่เห็นจะติดต่อกันเท่าไหร่มีอะไรหรือเปล่า” เธอแปลกใจเพราะเจโรมกับบิดาแทบจะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกัน
“พ่อจะแต่งงานใหม่ครับ”
“แม่ก็นึกว่าเรื่องสำคัญอะไร พ่อเขาจะแต่งงานใหม่ก็เรื่องของเขาสิ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยนะเจโรม เขาจะทำอะไรก็ปล่อยเขาไปเถอะ” คุณมาเรียพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“แม่ครับแต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกับทุกครั้งนะครับ”
“ไม่เหมือนยังไง ไหนลองบอกแม่มาหน่อยสิ”
“ก็ผู้หญิงที่พ่อจะแต่งงานด้วยเธอเพิ่งอายุยี่สิบห้าเองนะครับ อายุน้อยกว่าผมอีกนะ ผมว่าพ่อน่าจะโดนเธอหลอก”
“ช่างเขาเถอะเจโรมเขาอยากแต่งงานมีความสุขก็ปล่อยเขาไปเถอะ”
“ไม่ได้หรอกครับแม่ ที่ผ่านมาผมไม่เคยห้ามเลยนะถ้าพ่อจะแต่งงานกับใคร แต่ครั้งนี้ผมยอมรับไม่ได้จริงๆ ดูก็รู้ว่าผู้หญิงตั้งใจมาหลอก มีใครที่ไหนจะแต่งงานกับผู้ชายอายุคราวพ่อแบบนั้น ผมว่าเธอต้องมีจุดประสงค์บางอย่าง อาจจะหวังเงินของพ่อก็ได้” เจโรมจะไม่ยอมให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
“เขาจะยกให้ใครก็ช่างเขาเถอะ แล้วลูกคิดเหรอว่าไปห้ามแล้วพ่อจะฟังไหมล่ะ” มาเรียรู้นิสัยของอดีตสามีดีว่าเขาเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่ไปครั้งนี้ก็อยากจะไปเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นด้วย บางทีถ้าผมพูดกับพ่อแล้วไม่ยอม ผมอาจจะพูดกับเธอก็ได้”
“จะไม่คิดดูอีกทีเหรอเจโรม”
“ผมคิดดีแล้วครับแม่ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วผมจะจัดการเรื่องนี้เอง ยังไงพ่อก็ต้องไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้”
“แม่ไม่ได้ห่วงเลยว่าเขาแต่งงานกับใครหรือทำอะไรที่ไหนแม่กับเขาเลิกกันมายี่สิบกว่าปีแล้ว แม่จะเป็นห่วงแต่เจโรมนั่นแหละลูกมันจะเสียเวลาเปล่าๆ นะ”
“ผมว่ามันไม่เสียเวลาเลยครับแม่ ไปแล้วผมก็ถือโอกาสดูโรงแรมที่เมืองไทยแล้วก็พักผ่อนไปด้วย”
“แล้วจะไปนานแค่ไหนล่ะ”
“ยังไม่รู้เหมือนกันครับแต่คิดว่าคงใช้เวลาไม่นานแม่อยากได้อะไรที่เมืองไทยไหม”
“ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ”
“ครับแม่ ถ้าผมจัดการเรื่องพ่อเสร็จแล้วจะรีบกลับมา ผมฝากบอกพ่อด้วยนะครับแม่”
“ได้จ้ะ แม่จะบอกไรอัลให้นะ” มาเรียหมายถึงไรอัลสามีคนใหม่ที่แต่งงานกันมานานยี่สิบกว่าปีแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้นเจโรมและศศิภัทรก็ทานอาหารเช้าพร้อมกันจากนั้นเขาก็เตรียมตัวออกเดินทาง“ขอไปส่งคุณที่ท่าเรือได้ไหมคะ” ศศิภัทรยืนรอชายหนุ่มที่หน้าประตูเตรียมพร้อมจะเดินไปส่ง“แต่คุณต้องเดินกลับมาที่บ้านคนเดียวนะซีซี ไม่กลัวเหรอ”“นี่มันตอนกลางวันนะคะคุณเจโรม ซีซีไม่กลัวหรอกค่ะ”เจโรมยิ้มก่อนจะยื่นมือให้ศศิภัทรจับแล้วพากันเดินไปยังท่าเรือ“ผมจะรีบกลับมานะ”“ค่ะ”“ถึงแล้วจะโทรบอกได้ไหมคะ”“ได้สิ ผมจะโทรรายงานตลอดว่ากำลังจะทำอะไรดีไหม”“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่บอกว่าถึงแล้วก็พอ”“เป็นห่วงผมเหรอ”ศศิภัทรยิ้มให้แทนคำตอบแล้วเธอก็หยุดเดินเมื่อมาถึงท่าเรือ“ซีซี ดูแลตัวเองด้วยนะ”“ค่ะ คุณก็เหมือนกันนะคะ”“ผมไปล่ะ จะคิดถึงคุณนะ” เขาขยับเข้ามากอดแล้วหอบแก้มศศิภัทรทั้งสองข้าง“เดินทางปลอดภัยนะคะ”“ครับ ผมไปนะ ถ้าคุณถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกด้วยผมน่าจะยังอยู่บนเรือคุยคงไม่สะดวก”“ได้ค่ะ” หญิงสาวโบกมือให้กับเขาจากนั้นเธอก็ยืนรอจนกระทั่งเรือแล่นออกไปจากเกาะศศิภัทรเดินลัดเลาะตามชายหาดเมื่อมาถึงบ้านก็ไลน์บอกเจโรมจากนั้นหญิงสาวก็รีบเข้าห้องเพื่อเก็บของที่จำเป็นลงกระเป๋าเธอคิดจะใช้โอกาสนี้หนีไปจากที่นี่ก่อนท
เมื่อรู้ว่าจะมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกันอีกเพียงไม่กี่วันทั้งเจโรมได้ศศิภัทรก็เลิกจะเก็บความทรงจำและความรู้สึกดีๆ ไว้ เจโรมไม่พูดถึงเรื่องของเธอกับบิดาส่วนหญิงสาวก็ทำตัวน่ารักและ ไม่เคยทำให้เขารู้สึกลำบากใจเลยสักนิดความสัมพันธ์มันดีขึ้นแต่ในใจของทั้งสองกลับรู้สึกใจหาย“ซีซีคุณทำอะไรอยู่” เจโรมที่เพิ่งทำงานเสร็จเดินออกมาจากห้องทำงานก็เห็นหญิงสาวนั่งยิ้มอยู่กับโทรศัพท์อยู่บนโซฟาในห้องรับแขก“ซีซีคุยกับเพื่อนค่ะ คุณเจโรมทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ”“เสร็จแล้วว่าจะชวนเธอไปเดินเล่นอยากไปไหม”“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาววางโทรศัพท์ลงแล้วยิ้มก่อนจะจับมือของเจโรมที่ยื่นลงมาฉุดให้เธอลุกขึ้น ศศิภัทรรู้สึกอบอุ่นกับมือใหญ่ที่กุมมือเล็กของตนเองไว้ทั้งเดินลัดเลาะมาตามหาดทรายสีขาว เท้าเปล่าเหยียบลงบนผืนทรายให้คลื่นกระทบครั้งแล้วครั้งเล่า บรรยากาศราวกับคู่รักแต่ต่างก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้“ซีซีถ้าต้องอยู่ที่นี่คนเดียวคิดว่าอยู่ได้ไหม” เจโรมถามขึ้นเมื่อเดินมาได้สักพัก“อยู่คนเดียวเหรอคะแล้วคุณเจโรมจะไปไหน ซีซีไปด้วยได้หรือเปล่า” หญิงสาวคิดว่าถ้าต้องอยู่ที่นี่โดยที่เจโรมไม่อยู่ด้วยก็ต้องเหงาและว้าเหว่มากๆ“ผมมีธุระต้อง
ศศิภัทรก้มหน้ามองแล้วใช้มือยันผนังไว้แน่น สะโพกสั่นเกร็งไปกับการปรนเปรอที่ไม่เคยได้รับแบบนี้มาก่อน เจโรมดูดรวบเกสรเสียวและกลีบเนื้อสาวเข้าปากราวกับอาหารจานโปรด ทำซ้ำไปทำมาไม่นานนักเธอก็กรีดร้องลั่นห้องน้ำ“หวานมากซีซี”เขากระซิบก่อนจะเงยหน้ามองศศิภัทรที่ตอนนี้ใบหน้าเธอแดงซ่านเพราะความสุขสมที่เขามอบให้ ชายหนุ่มค่อยๆ วางขาของหญิงสาวลงจากนั้นเขาจับมือเล็กๆ ของเธอให้จับไปบนท่อนเอ็นของเขา“เจโรม...มันใหญ่”“เดี๋ยวมันก็เล็กจับให้อีกนิดได้ไหม”เขาประคองมือเล็กแล้วจับให้เธอรูดท่อนเอ็นของตนเองขึ้นลงเบาๆ จนรู้สึกว่ามันแข็งชูชันอย่างเต็มที่“แบบนี้ใช่ไหม”“อ่า....ถูกแล้วซีซี ช้าๆ...อ้า...”ชายหนุ่มครางสะท้านเมื่อมือเล็กทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย“ชอบไหม”“ชอบมากแต่พอก่อนนะซีซี คุณใช้มือเก่งแล้ววันต่อไปผมจะใช้ผมจะสอนให้คุณใช้อย่างอื่น แต่วันนี้ขอเข้าไปในตัวคุณก่อนแล้วกันผมเสียวสุดจะทนแล้ว”ศศิภัทรเข้าใจดีว่าสิ่งที่เจโรมพูดนั้นมันหมายถึงอะไรและถ้าหากวันนั้นเขาให้เธอทำแบบนั้นจริงๆ เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า แต่หญิงสาวก็ไม่อยากจะคิดอะไรไปล่วงหน้าเพราะเรื่องมันยังไม่เกิด แต่สิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่
กลับมาจากภูเก็ตแล้วศศิภัทรก็เก็บของที่ซื้อมาเขาที่ เธอมองชุดว่ายน้ำก่อนจะตัดสินใจเลือกใส่ชุดสีขาวและรอเวลาให้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าก่อนสวมชุดคลุมแล้วเดินออกมาจากห้องก็เห็นเจโรมกำลังนั่งหน้าเครียดสายตาจ้องไปยังจอแท็ปเล็ต“จะไปเล่นน้ำแล้วเหรอซีซี”“ค่ะแดดไม่มีแล้ว”“แล้วรอผมหน่อยสิผมจะไปเล่นด้วย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะซีซีไปเล่นคนเดียวก็ได้คุณทำงานเถอะ”“ผมทำงานมาทั้งวันก็เครียดเหมือนกันนะ ได้ไปเล่นน้ำบ้างก็คงดีรอห้านาทีได้ไหมขอไปเปลี่ยนกางเกงก่อน”“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวนั่งรอในห้องรับแขกขณะที่เจโรมก็รีบเดินกลับไปเปลี่ยนกางเกงเขาเดินออกมาจากห้องแล้วสวมแค่กางเกงว่ายน้ำและมีผ้าเช็ดตัวพาดอยู่บนบ่า“คุณจะใส่กางเกงว่ายน้ำลงไปตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอคะ” หญิงสาวถามแต่สายตาหันมองไปทางอื่น“ทำไมล่ะนี่มันบ้านผม ชายหาดมันก็ส่วนตัวนะ ผมไม่เห็นต้องอายใครเลยหรือที่เพราะคุณกลัวว่าจะหลงเสน่ห์ผมกันล่ะ” เขาหัวเราะเมื่อเห็นหญิงสาวมองไปทางอื่นแต่ใบหน้านั้นแดงระเรื่อ“ไม่อายก็ตามใจค่ะ ไปกันเถอะซีซีอยากเล่นน้ำแล้ว”ทั้งสองคนพากันมาเล่นน้ำบริเวณชายหาดเสียงหัวเราะสดใสของศศิภัทรทำให้เจโรมรู้สึกสบายใจ เขาไม่เคยได้เล่นน้ำแบบนี้
หลังจากทางอาหารค่ำแล้วเจโรมก็พาศศิภัทรมายังผับแห่งหนึ่งเขาเลือกโต๊ะที่ติดกระจกมองออกไปเห็นท้องทะเลกว้าง จากนั้นจึงสั่งเครื่องดื่มมาสองแก้วเสียงดนตรีคลาสสิกคลอเบาๆ ในบรรยากาศที่อบอุ่น เจโรมมองใบหน้าของศศิภัทรที่มองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย“ถ้าผมจะชวนคุณไปที่สิงคโปร์อยากไปไหม” เจโรมชวนคุยเรื่องที่ค้างอยู่เมื่อเห็นหญิงสาวเงียบไปนาน“น่าสนใจนะคะ แต่คิดว่าไม่ดีกว่าคะ” ศศิภัทรหันมาตอบก่อนจะมองออกด้านนอกต่อ“อ้าวทำไมล่ะ ยังเหลือเวลาอีกตั้งหลายวันเลยนะ”“ข้อแรกก็คือฉันไม่มีพาสปอร์ตส่วนอีกข้อหนึ่งก็คือฉันไม่อยากให้เราสองคนสนิทกันมากค่ะ”“ทำไมถึงไม่อยากสนิทกับผมล่ะหรือเพราะยังคิดเรื่องพ่อของผมอยู่”“เปล่าค่ะซีซีไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้วแต่ซีซีคิดว่าเราสองคนไม่ควรจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ถ้าพ่อคุณรู้คุณอาจจะมีปัญหากับพ่อได้”“เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกพ่อผมเป็นคนรักใครรักจริงแต่พอท่านตัดใจแล้วท่านก็คงไม่คิดอะไรเรื่องของเราหรอกมั้ง” เจโรมเองก็ไม่รู้ว่าถ้าบิดารู้ท่านจะโกรธเขาหรือเปล่า“เห็นไหมคุณยังไม่มั่นใจเลยว่าพ่อของคุณจะคิดอะไรไหม”“มันก็จริงอย่างที่คุณพูดนั่นแหละซีซี ผมไม่รู้เลยว่าพ่อจะโกรธผมมากแค
เจโรมเคลียร์งานตรงหน้าเสร็จหลังจากผ่านไปเกือบชั่วโมง พอเงยหน้าขึ้นมาก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนโซฟาตอนนี้หลับไปแล้วเขาเดินมาใกล้ๆ แล้วมองใบหน้าสวยของหญิงสาวก่อนจะยิ้ม ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันบนเกาะหลายวัน ศศิภัทรพยายามจะหนีและเขาก็รั้งเธอไว้เพราะไม่อยากให้เธอไปยุ่งวุ่นวายกับงานแต่งงานของบิดาแต่ลึกๆ ในใจเป็นตัวเขาเองมากกว่าที่อยากจะรั้งเธอไว้ใกล้ๆ เจโรมต้องส่ายศีรษะสลัดความคิดของตัวเองออกเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ตนเองกับศศิภัทรจะคบหากันถ้าบิดารู้ก็คงจะโกรธมากที่เขาทำให้ว่าที่เจ้าสาวของทานกลายมาเป็นภรรยาของเขาเจโรมหวังว่าบิดาจะเข้าใจว่าที่เขาทำทุกอย่างก็เพราะไม่อยากให้ท่านมีภรรยาอายุน้อยขนาดนี้“ซีซีตื่นได้แล้ว” ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆ ก่อนจะเรียกเธอเบาๆหญิงสาวก่อนจะขยี้ตาและตกใจรีบขยับหนีเมื่อเห็นว่าตอนนี้เจโรมนั่งใกล้เธอมาก“กลัวผมขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาถามแล้วหัวเราะ“ไม่ได้กลัวสักหน่อยก็แค่ตกใจ คุณทำงานเสร็จแล้วใช่ไหม”“เสร็จแล้วไปซื้อของกันดีกว่านะ จะไปล้างหน้าก่อนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะไปเลยก็ได้”เจโรมพาเธอมายังห้างสรรพสินค้าที่มีสินค
Comments