"เธอแน่ใจเหรอที่เข้าหาฉันเพราะชอบ ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์" นารา เด็กมัธยมปลายปีสุดท้าย วัยใส น่ารัก อารมณ์ดี ขี้เล่น มองโลกในแง่ดีเสมอ บ้าคลั่งกับการอ่านนิยายจนได้มาพบเจอเขา ผู้ชายที่เหมือนกับชายในฝันของเธอ "หนูแค่อยากจะบอกว่าหนูชอบพี่ ชอบมานานแล้ว" เรย์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เคยแสนดี แต่กลับผิดหวังกับรักแรกที่ตามรักมาเกือบสิบปี จึงกลายเป็นหนุ่มเย็นชา มาดนิ่งยกเว้นกับเธอ(คนนั้น) และเขาก็ไม่เคยเปิดใจให้ใครอีกเลย... "เลิกยุ่งกับฉันสักที ฉันไม่มีทางชอบเด็กแบบเธอ"
View Moreตึกตึก
ตึกตึก
เสียงฝีเท้าเล็กของร่างบางมอปลายปีสุดท้ายรีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นสาวเท้าไปยังห้องเรียนของตัวเองในวันแรกของการเปิดภาคเรียนเทอมสุดท้ายของเธอ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะสอดส่องไปรอบๆ ห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลางเพื่อหาใครบางคนจนสายตามาหยุดอยู่ที่ร่างบางอีกคนที่มีรูปร่างไม่ต่างไปจากเธอ สองเท้าเรียวไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ที่ว่างข้างๆ ที่ถูกจับจองไว้สำหรับเธอทันที
"...ฟู่ววว! นึกว่าไม่ทันสะแล้ว" เจ้าของร่างบางใบหน้าน่ารักอย่างนาราลอบพ้นลมปากด้วยความโล่งอกที่มาได้ทันเวลาไม่ได้สายอย่างที่คิดไว้
"วันนี้ยายบัวให้ไปส่งขนมเหรอ?" เสียงเล็กของเพื่อนสนิทร่างบางอย่างข้าวฟ่างก็หันไปถามเพื่อนตัวเล็กที่นั่งเหนื่อยหอบข้างๆ เธอ
"แหะ!...เปล่าหรอก ตื่นสายน่ะ" ก่อนที่ใบหน้าเรียวจะยกยิ้มแห้งแก้เก้อตอบเพื่อนไปตามความจริง
"จริงๆ เลย อ่านนิยายมาอีกแล้วใช่ไหม!?" ข้าวฟ่างชี้หน้าถามเพื่อนอย่างรู้เท่าทันก่อนที่เจ้าของใบหน้าเรียวใสจะพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี
"หลับคาหนังสือเลย...ไม่ทันจะได้ตั้งนาฬิกาปลุก" นาราเอ่ยอธิบายถึงสาเหตุของการมาสายในวันนี้พร้อมกับยกยิ้มอย่างต่อเนื่องทำให้ข้าวฟ่างที่ได้ฟังถึงกับส่ายหัวให้เพื่อนตัวเล็กที่ดูชื่นชอบการอ่านนิยายเป็นที่สุดด้วยท่าทีเอือมระอาปนเอ็นดู
"เราพึ่งได้เล่มใหม่มาเลย พึ่งจะเริ่มอ่านเมื่อคืน^^..." นาราเอ่ยบอกเพื่อนอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ฉายรอยยิ้มที่มีความสุขพร้อมกับมือเรียวที่ยกหยิบหนังสือที่พกติดตัวไว้จากกระเป๋านักเรียนขึ้นมาให้เพื่อนได้ดู
"ที่หายไปในร้านหนังสือเมื่อวานนี้ ก็เพราะเล่มนี้เลยใช่ไหม" ข้าวฟ่างเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กที่เมื่อวานทั้งสองคนพากันนัดไปเดินตลาดฉลองก่อนเปิดภาคเรียนโดยก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันกลับร่างบางก็ไม่ลืมที่จะแวะเข้าร้านหนังสือร้านประจำของเธอแล้วหายเข้าไปอยู่นานจนเพื่อนสนิทต้องเข้าไปตาม
"แหะ!...มันลดราคาพอดี เราเลยอดใจไม่ได้" ใบหน้าเรียวยิ้มแห้งตอบเพื่อนไป เธอเป็นคนที่ชื่นชอบการอ่านนิยายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะนิยายรักวัยใสที่ทำให้เธอสามารถมีความสุขสร้างรอยยิ้ม เปิดโลกอีกมุมหนึ่งได้อย่างแท้จริง โลกที่บางทีก็ไม่สามารถสัมผัสได้ในชีวิตจริง ตัวหนังสือเหล่านั้นก็มักที่จะทำให้สามารถลืมเรื่องราวความทุกข์ในโลกของความเป็นจริงได้แม้ว่าอาจจะเป็นได้แค่ช่วงสั้นๆ ก็ตาม
"LOVE IMAGINE ตามล่าหัวใจนายมาดนิ่ง" ข้าวฟ่างยื่นมือไปจับหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาดูก่อนที่ปากเรียวจะเปล่งอ่านชื่อหนังสือนิยายเล่มโปรดของเพื่อนสนิท
"พึ่งจะได้อ่านแค่หน้าแรกเอง แต่ก็หลับไปก่อน" นาราเอ่ย
"น่าสนใจดีแฮะ จบแล้วฉันขออ่านต่อด้วยนะ" ข้าวฟ่างตอบอย่างที่มักจะแชร์กันอ่านอยู่บ่อยๆ
"ได้อยู่แล้ว เราจะปิดปากเงียบไม่สปอยล์ข้าวเลย" ใบหน้าเรียวใสตอบกลับเพื่อนพลางยกมือเรียวขึ้นมาปิดปากตัวเอง
"ฮ่าๆ โอเค" ก่อนที่ทั้งสองคนจะหัวเราะร่าชอบใจไปกับท่าทางของเธอแล้วนั่งเรียนคาบแรกในวันเปิดเทอมกับชีวิตมอปลายเทอมสุดท้ายทันทีที่ครูเจ้าของคาบเดินเข้ามาด้วยท่าทีใจจดใจจ่อ แม้ว่าเธอจะชื่นชอบการอ่านนิยายมากแค่ไหนแต่เรื่องการเรียนเธอก็ไม่ได้คิดที่จะทิ้งมันไว้ข้างหลังเช่นเดียวกัน
.
กริ่งงงง!
เสียงกดกริ่งของโรงเรียนขนาดกลางดังขึ้นในคาบสุดท้ายของวันก่อนที่นักเรียนต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องดีใจเมื่อถึงเวลากลับบ้านที่ทุกคนต่างเฝ้ารอกันมาทั้งวัน
"เธอจะไปทำงานเลยใช่ไหม" ข้าวฟ่างหันมาถามร่างบางระหว่างที่เธอกำลังจัดกระเป๋าเตรียมจะแยกย้าย
"อื้ม...ไปทำเลย" เสียงใสตอบกลับเพื่อนสนิท
"งั้นฉันกลับก่อนนะ ขี้เกียจฟังพี่เคนบ่น" ข้างฟ่างตอบเพื่อนแล้วลุกขึ้นสะพายกระเป๋าตัวเองเตรียมจะออกไป
"หึ...โอเค แล้วเจอกัน~" ริมฝีปากบางตอบพร้อมกับหัวเราะไปกับประโยคของเพื่อน ซึ่งเคนที่ข้าวฟ่างหมายถึงก็คือพี่ชายของเธอเอง มือเรียวยกขึ้นมาโบกมือบายๆ เพื่อนสนิทด้วยท่าทางน่ารักก่อนที่เจ้าตัวจะรีบเร่งจัดกระเป๋าให้เสร็จแล้วลุกเดินออกจากห้องเรียนเป็นคนสุดท้าย
เมี๊ยว ~"ริวจินอย่าทำพี่ครับ" นารารีบวางถ้วยที่อยู่ในมืออย่างไว เธอรีบวิ่งไปหาริวจินลูกชายคนเดียววัยสองขวบที่กำลังหยุมหัวแมวสุดห่วงของเธอจนขนแมวติดเต็มมือเล็ก"ฟู ฟู~" เด็กน้อยพูดไม่ชัดหัวเราะร่าพร้อมกับชี้ไปทางถ้วยฟูที่อยู่ในอ้อมกอดของนาราที่กำลังปลอบขวัญ"ทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ ถ้วยฟูเจ็บนะลูก" นารารีบเอ่ยอธิบาย"เจ็บ เจ็บ ฟูเจ็บ" ริวจินยื่นมือป้อม ๆ ไปลูบหัวเจ้าแมวขนเบา ๆ"ใช่ค่ะ ต้องลูบเบา ๆ แบบนี้นะ ไม่ดึงแรง ๆ แบบเมื่อกี้แล้วนะคะ""ลูบ ๆ" เด็กน้อยสองขวบพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนที่จะเลื่อนไปนั่งตักผู้เป็นแม่แล้วเล่นอยู่กับถ้วยฟู โดยที่มีนาราคอยยิ้มให้กับความอ่อนโยนของลูกชายที่อธิบายไปครั้งเดียวก็สามารถเข้ากับแมวสุดรักของเธอได้เป็นอย่างดี"หม่ามี๊ค้าบ~" จนกระทั่งเจ้าของใบหน้าสวยที่ก้มมองลูกชายในตอนแรกต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของใครอีกคนที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนเรียกเธอเสียงดัง และคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก..."รันกลับมาแล้วค้าบ" ลูกชายคนโตวัยห้าขวบอย่างรันเวย์ที่โผล่เข้ากอดผู้เป็นแม่หลังจากที่กลับมาจากโรงเรียนโดยที่มีเรย์เป็นคนไปรับลูกชายถึงที่ด้วยตัวของเขาเอง"ไปโรงเรียนมาสนุกไหมครั
@Tiger_Groupผลั่ก!"การ์ดมึงมาทำไมเยอะแยะ วันนี้มีเรื่อง?" เรย์ที่ผลักประตูเข้ามาเอ่ยถามกับเพื่อนที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะ ก่อนที่เขาจะพาตัวเองไปนั่งที่ตรงข้ามเพื่อน"ก็มึงบอกให้กูช่วยเรื่องใหญ่ ที่ไหน คนของกูพร้อมแล้ว" ไทเกอร์เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาวางปากกาลงแล้วลุกขึ้นเตรียมถอดสูทของผู้บริหารสลัดคราบเป็นมาเฟียเพื่อช่วยปัญหาให้เพื่อน"มึงไม่ต้องไปหรอก" เรย์เอ่ยบอกทำให้มือหนาที่กำลังถอดสูทชะงัก หันกลับมามอง"เรื่องใหญ่กูจะไม่ไปได้ยังไง""กูขอการ์ดแปดเก้าคนก็พอ""??""มันไม่ใช่เรื่องของกู แต่เป็นเรื่องของลูกกู""ลูกมึง? ใครทำอะไรหลานกู ไอเฮี้ย...การ์ดแค่นั้นไม่พอ กูจะกระทืบมันด้วยตีนกูเอง" ผู้บริหารในคราบมาเฟียถอดสูททิ้งอย่างไม่ไยดี ดวงตาของเขาเริ่มแดงก่ำไม่มีความล้อเล่นเมื่อรู้ว่าปัญหาเกิดขึ้นกับหลานรักที่ยังไม่ลืมตาดูโลกของตัวเอง"ไม่มีใครทำอะไรหลานมึงหรอก มีแต่หลานมึงที่ทำกู" แต่แล้วประโยคของเรย์ก็ทำให้เพื่อนชะงักอีกรอบ เรย์เกือบหลุดขำกับท่าทางของไทเกอร์แต่ก็ดีใจอยู่ไม่น้อยที่เพื่อนเป็นห่วงลูกเขาขนาดนี้"ไอสัสเรย์...มึงพูดให้มันเคลียร์ดิ ตกลงใครทำอะไรหลานกู""หึ หลานมึงกำลังงอแ
"ที่นี่บรรยากาศดีมากเลยนะคะ" ดวงตากลมโตกวาดไปมองรอบๆ เกาะที่มีน้ำสีฟ้ากว้างใหญ่ วันนี้เป็นวันฮันนีมูนวันแรกที่ตกลงกันว่าจะมาเป็นบ้านบนเกาะส่วนตัวของเรย์ที่ซื้อไว้ โดยที่บนเกาะนี้มีแค่เขากับเธอเพียงสองคนเท่านั้น"ชอบไหม แด๊ดซื้อเพื่อหนูเลยนะ" ร่างสูงโปร่งเดินมากอดภรรยาสาวจากด้านหลัง เกยคางไว้บนไหล่มน ก่อนที่จะฝั่งจมูกไว้กับแก้มนุ่มนิ่มไปฟอดใหญ่"ชอบมากเลยค่ะ" มือบางเลื่อนไปกุมมือของเรย์ไว้อีกที หันไปหอมแก้มสากเป็นของขวัญตอบแทน"ทำไมถึงเลือกที่นี่เหรอคะ""เพราะแด๊ดรู้ว่าหนูชอบทะเล""แด๊ดรู้ด้วยเหรอคะ หนูไม่เคยบอกใครเลยนะคะ""เมียทั้งคน จะไม่รู้ได้ยังไงกัน หื้ม..." จมูกโด่งถูไถ่กับแก้มนิ่มอย่างหยอกล้อ ขณะที่อีกคนกลับยิ้มออกมาแก้มแทบแตกกับความดูแลเอาใจใส่ที่ยังคงเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด"แด๊ดดี้ขา...""หื้ม?""แด๊ดดี้ยังอยากมีเจ้าตัวเล็กอยู่ไหมคะ" คำถามของนาราทำให้ร่างสูงชะงักการกระทำ ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปมองเธออย่างรวดเร็ว"แด๊ดแล้วแต่หนูครับ ถ้ามีแล้วหนูต้องเจ็บ แด๊ดก็ไม่อยากมี" ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกกับเรย์ว่าการคลอดบุตรมันเจ็บมากสำหรับผู้หญิง นั้นจึงทำให้เรย์จำและยอมไม่มีเจ้าตัวเล็กดรกว่าใ
"ฮาโหลครับ" มือหนายกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู ขณะที่ดวงตาคมกวาดมองไปข้างหน้าเพื่อตรวจเช็คในสิ่งที่เขากำลังทำ(ทำไมเสียงดังจังเลยคะ แด๊ดไม่ว่างเหรอ?) ปลายสายเอ่ยขึ้นทำให้ร่างสูงรีบเดินออกจากที่ที่ทำให้เสียงดัง ก่อนที่จะเอ่ยอีกครั้ง"ว่างครับ แด๊ดว่างคุยกับหนูตลอด" เรย์รีบกรอกเสียงหวาน(แล้วแด๊ดอยู่ไหนคะ ทำไมดึกป่านนี้แล้วถึงยังไม่ถึงห้องอีกล่ะคะ)"อยู่โรงแรมครับ มาดูที่จัดงานแต่งของเรา" บรรยากาศรอบ ๆ ที่ประดับประดาด้วยของสวยงามมากมายใกล้เสร็จแล้วเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ซึ่งเกิดจากการวางแผนและดูงานของเรย์ที่ตั้งใจทำทั้งหมด(หื้ออ? ดึกป่านนี้เลย เกิดปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ) นาฬิกาบอกเวลาเป็นเที่ยงคืนแล้วทำให้นาราเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจและเป็นห่วง"เปล่าครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แด๊ดแค่ไม่อยากกลับคอนโด"(ทำไมล่ะคะ โหมงานหนักไม่ดีเลยนะคะ)"แด๊ดไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว แด๊ดคิดถึงหนู"(ฮ่าๆ ขนาดนั้นเลย~) คำตอบของเรย์ทำให้นาราถึงกับหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้ พึ่งจะผ่านไปแค่คืนเดียว ว่าที่เจ้าบ่าวก็ทนไม่ได้เสียแล้ว"ไม่ตลกเลยนะ หัวเราะมาก ๆ แด๊ดไปฉุดถึงบ้าน" เรย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาพยายามหาอย่า
"ไอเสือ!...มึงอย่าเทน้ำหนักลงมาฝั่งกูเยอะดิ เห็นไหมจะล้มอยู่แล้วเนี่ย""ก็ตัวแม่งหนักชิบหาย กูจะล้มแล้ว""แม่ง...ไม่น่ามอมมันเลย ความลับก็ไม่รู้ เสือกต้องแบกกลับบ้านอีก""กูไม่น่าเชื่อมึงแต่แรกไอสัส" เสียงทุ้มของเพื่อนสนิทสองคนที่กำลังถกเถียงกันถึงเพื่อนอีกคนที่สลบคอพับในร้านเหล้าหรูหราด้วยฝีมือการมอมเพื่ออยากรู้ความลับของคนปากแข็งที่ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังเลยสักอย่าง แต่แล้วแผนก็ต้องพังทลายเพียงเพราะคนปากแข็งดื่มหนักเกินจนภาพตัดไม่ทันจะเอ่ยปากคายความลับที่อยู่ข้างใน ฝีเท้าหนักเดินโซเซแบกปีกเพื่อนคนละข้างด้วยท่าทีทุลักทุเลกดรหัสเข้าไปข้างในห้องคอนโดหรูชั้นสูงสุด"ฟู่ววว ถึงสักที" ก่อนที่จะจัดการโยนร่างตัวโตแสนหนักอึ้งทิ้งลงบนเตียงนุ่มพร้อมกับพ่นลมหายใจไล่ความเหน็ดเหนื่อย"เอาไงต่อ กลับเลยไหม" เมฆเอ่ยกับไทเกอร์ ปรายตามองสภาพเพื่อนที่นอนหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเกินขนาด"หาผ้าเช็ดมันหน่อยก็ดี รู้สึกผิดอยู่นิดนึง" ไทเกอร์เอ่ยตอบ เขาเป็นคนทำให้เรย์ตกอยู่ในสภาพนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะดูแลเพื่อนสนิทลบล้างความผิด"เออๆ เดี๋ยวกูไปหาผ้าก่อน" ว่าจบเท้าหนักของเมฆก็เดินหมุนตัวออกจากห้
สามปีผ่านไป"บัณฑิตยิ้มหน่อยครับ" เสียงของชายหนึ่งในนั้นพูดขึ้น ก่อนที่จะใช้กล้องถ่ายรูปส่องไปทางคนตัวเล็กน่ารักที่อยู่ในชุดครุยยืนอยู่หน้าซุ้มถ่ายรูปพร้อมกับดอกไม้ชาอโตหนึ่งช่อและตุ๊กตาหมีหนึ่งตัว"ค่ะ" นารายิ้มหวานตามคำบอก เปลี่ยนท่าทางสองสามท่าเพื่อให้ช่างภาพที่เรย์จ้างได้ทำงานอย่างเต็มที่"แปปหนึ่งนะคะ" นาราเอ่ยกับช่างภาพคนเดิม ก่อนที่จะเดินเร็วๆ เข้าไปหาผู้เป็นยายและน้าที่ยืนยิ้มให้เธออยู่อีกฝั่ง รวมไปถึงอรที่มาร่วมแสดงความยินดีกับแฟนของลูกชายด้วย บรรยากาศของวันงานรับปริญญาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความภาคภูมิใจของคนในครอบครัวรวมไปถึงตัวเธอเอง จึงอยากจะเก็บภาพความทรงจำเหล่านี้ไว้เพื่อจะได้ย้อนกลับมาดูว่ามันช่างมีความสุขมากแค่ไหน"ถ่ายรูปกันค่ะ" นาราเดินไปอยู่ระหว่างกลางของยายบัว อร และเพลงพิณ ก่อนที่จะให้ทั้งสามมองไปทางกล้องถ่ายรูปแล้วฉีกยิ้มหวานอย่างมีความสุขเป็นที่สุด ในที่สุดมันก็มีวันนี้สักที วันที่เธอได้ทำตามความฝันและภูมิใจในตัวเองมากที่สุด"ยินดีด้วยนะลูก หนูเก่งมากเลย" อรเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ยื่นกล่องของขวัญแทนใจให้แฟนลูกด้วยความยินดีปรีดา"ขอบคุณค่ะคุณน้า""เรียนจบแล้วนะเอ็ง โตเ
Comments