12 Marry me?
วันนี้เป็นวันหยุดยาวของบริษัทฯ ทินกรพาแฟนเด็กของเขามาเที่ยวทะเล ซึ่งเขามีบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ติดทะเล บรรยากาศดีมากเหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อน ที่ตรงนี้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง ทั้งสองคนนั่งเครื่องบินมาใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงจากเมืองหลวงก็มาถึงที่หมายแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่า แดดกำลังร้อนได้ที่ คนทั้งคู่มานั่งรับลมทะเลที่ระเบียงกว้าง อาหารทะเลถูกวางเต็มโต๊ะ ส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน “อร่อยไหม?” มือใหญ่ลูบแก้มคนรักแผ่วเบาด้วยความเอ็นดู เมื่อเห็นอีกฝ่ายเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ่ย “อร่อยครับ แด๊ดไม่กินเหรอครับ?” “กินสิ หนูกินก่อนเลยเดี๋ยวแด๊ดแกะกุ้งให้” มือหนาหยิบกุ้งล็อฟเตอร์ขึ้นมาแกะให้คนเด็กกว่า ด้วยท่าทางอารมณ์ดี “กินเสร็จแล้วไปเดินเล่นแถวชายหาดกันไหมครับ ถ่ายรูปกัน” หลินเงยหน้าขึ้นถามร่างสูงที่หน้าตาดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “ได้สิ ตามใจหนูเลย” มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง คลำสิ่งของบางอย่างเอาไว้ตลอด ยังหาจังหวะดี ๆ ให้มันกับหลินไม่ได้ หลังจากรับประทานอาหารจนอิ่มท้อง ทั้งสองคนก็จูงมือกันมาเดินเล่นที่ชายหาด หลินสวมใส่พิธีการแต่งงานถูกจัดขึ้นในหนึ่งเดือนหลังจากที่ทั้งคู่กลับมาจากทริปพักผ่อนเล็ก ๆ หลินคุยกับทินกรว่าเราจัดกันง่าย ๆ แค่คนในครอบครัวดีไหม แต่มีหรือที่คุณแด๊ดจะยอม งานเล็ก ๆ ไม่ใช่สำหรับทินกร การแต่งงานของประธานบริษัทใหญ่จัดงานเล็ก ๆ ไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องเดียวที่เขาไม่ยอมตามใจหลิน “แด๊ดอยากจัดงานให้ใหญ่ คนจะได้รู้ว่าหนูเป็นของพี่ พี่อยากให้หลินมั่นใจ พี่จะมีแค่หนูคนเดียว จะควงหนูอย่างผ่าเผย” ถ้าให้พูดกันตามตรงคือ ทินกรค่อนข้างซีเรียสเรื่องนี้ เพราะตอนที่เขาและหลินยังอยู่ในความสัมพันธ์ที่คลุมเครือแบบนั้น เขาไม่ชอบใจมันเสียเลย จะบอกใครก็ไม่ได้ เพราะหลินเรียกตัวเองว่าเป็นเด็กเลี้ยงของเขา พอถึงคราวที่ได้สถานะชัดเจนก็อยากป่าวประกาศบอกให้โลกรู้ว่านี่คือคนรักของเขา คน ๆ นี้คือคู่ชีวิตของเขา สถานที่จัดงานคือโรงแรมหรูระดับห้าดาว ประดับตกแต่งสวยงาม บรรยากาศครึกครื้น ญาติและคนรู้จักมาร่วมงานกันอุ่นหนาฝาคลั่ง คนที่ปลื้มใจที่สุดคงหนีไม่พ้นแม่ของคู่เจ้าบ่าวทั้งสอง สีหน้าปีติยินดีเป็นที่สุด โดยเฉพาะแม่ของทินกรได้เห็นลูกแต่งงานเสียทีหลังจากที่พยายามเคี่ยวเข็นให้หาแฟนมานาน น
12 Marry me? วันนี้เป็นวันหยุดยาวของบริษัทฯ ทินกรพาแฟนเด็กของเขามาเที่ยวทะเล ซึ่งเขามีบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ติดทะเล บรรยากาศดีมากเหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อน ที่ตรงนี้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง ทั้งสองคนนั่งเครื่องบินมาใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงจากเมืองหลวงก็มาถึงที่หมายแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่า แดดกำลังร้อนได้ที่ คนทั้งคู่มานั่งรับลมทะเลที่ระเบียงกว้าง อาหารทะเลถูกวางเต็มโต๊ะ ส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน “อร่อยไหม?” มือใหญ่ลูบแก้มคนรักแผ่วเบาด้วยความเอ็นดู เมื่อเห็นอีกฝ่ายเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ่ย “อร่อยครับ แด๊ดไม่กินเหรอครับ?” “กินสิ หนูกินก่อนเลยเดี๋ยวแด๊ดแกะกุ้งให้” มือหนาหยิบกุ้งล็อฟเตอร์ขึ้นมาแกะให้คนเด็กกว่า ด้วยท่าทางอารมณ์ดี “กินเสร็จแล้วไปเดินเล่นแถวชายหาดกันไหมครับ ถ่ายรูปกัน” หลินเงยหน้าขึ้นถามร่างสูงที่หน้าตาดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “ได้สิ ตามใจหนูเลย” มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง คลำสิ่งของบางอย่างเอาไว้ตลอด ยังหาจังหวะดี ๆ ให้มันกับหลินไม่ได้ หลังจากรับประทานอาหารจนอิ่มท้อง ทั้งสองคนก็จูงมือกันมาเดินเล่นที่ชายหาด หลินสวมใส่
Boyfriend family หลังจากผ่านเรื่องอะไรด้วยกันมา ทั้งเรื่องแฟนเก่าของทินกรที่มาตามตื๊อ หลินเองก็ยังต้องรับมือกับอธิปเช่นกัน แต่คนเหล่านี้ที่ผ่านเข้ามาก็เป็นเหมือนพายุลูกเล็กที่เข้ามาให้ชีวิตคู่ของหลินและทินกรมีรสชาติที่ต่างออกไปบ้าง พวกเขาทั้งคู่ยังคงรับมือมันได้ด้วยดีมีหึงหวงกันบ้าง แต่ก็ง้อกันด้วยการลากขึ้นเตียงเรื่องขุ่นข้องหมองใจมันก็หายไปโดยง่าย เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก มันผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วที่พวกเขาคบกันแบบมีสถานะ ฝ่ายทินกรก็หมั่นเปย์แฟนเด็กไม่เลิกคล้ายมันกลายเป็นนิสัยของเขาไปแล้ว ความรักทั้งคู่มันเริ่มสุกงอม จนคิดว่านี่คงถึงเวลาที่ควรจะพาอีกฝ่ายไปหาคนสำคัญ หรือแม้กระทั่งเพื่อนฝูงที่เคยบอกไว้แต่ไม่เคยนัดเจอกันได้เสียที ปล่อยเวลาล่วงเลยมากว่าครึ่งปีแล้ว มั่นใจว่ารู้จักกันมากพอแล้วเรียนรู้กันจนรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายแล้ว วันนี้จึงมาถึง วันที่หลินนัดเพื่อนซี้ตัวเองมารู้จักกับแฟนของเขา ฝั่งทินกรก็เช่นกัน ทั้งสองชวนเพื่อนสนิทให้มากินเลี้ยงด้วยกันที่ผับดังของทินกร โต๊ะถูกต่อเป็นโต๊ะใหญ่มีสมาชิกเป็นชายฉกรรจ์รวมกันกว่าสิบคนน
ร่างใหญ่ของพี่อาทิตย์โถมมาใส่ผม ปากเราประกบจูบกัน ลิ้นร้อนหยอกล้อกันไม่มีใครยอมใคร มือของเราผลัดกันปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย ความเย็นของแอร์เริ่มประทะกับผิวเนื้อเปลือยเปล่าของผม มันหนาวสะท้าน แต่ก็เพียงไม่นานเพราะร่างกายของผมมันก็เริ่มร้อนจากสัมผัสร้อนลวกของคุณแด๊ด “อ๊ะ” ปากหยักดูดดึงที่หน้าอกของผมเสียงดัง ลิ้นร้อนละเลงหยอกล้อส่วนอ่อนไหวกลางอกของผม มันเสียวจนตัวผมสั่น รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับมานั่งบนตักของเขาอีกแล้ว เรานั่งทับกันอยู่บนเก้าอี้ทำงานของเขา ร่างกายผมร้อนวูบวาบอย่างควบคุมไม่ได้ ตื่นเต้นกับสถานที่แปลกใหม่ มีเซ็กส์กันในห้องทำงานบริษัท มือใหญ่บีบขย้ำที่ก้นของผมจนขึ้นรอยมือจาง ๆ ด้วยที่เราทั้งสองเปลือยเปล่า มันยิ่งทำให้ก้นของผมมันเสียดสีกับความแข็งขืนตลอด ผมถูกนิ้วแกร่งสอดใส่เข้ามาเบิกทางทีเดียวถึงสองนิ้ว ช่องทางที่รัดแน่นผ่อนคลายได้ไม่ยาก เพราะคุณแด๊ดเขาเตรียมเจลหล่อลื่นเอาไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานด้วย.. ใช่ครับ ในนั้นมีถุงยางพร้อมเลยล่ะ เสียงเฉอะแฉะเริ่มดังให้ได้ยิน ข้างในผมมันเริ่มเสียดเสียว นิ้วที่ใส่เขามาจากสองก็กลายเป็นสา
พาร์ทหลิน หลังจากได้รับฟังเรื่องราวของคุณแด๊ด ผ่านมาเพียงแค่สามวันก็มีเรื่องให้ผมต้องหนักใจอีกรอบ ร่างสูงเพรียว ใบหน้าหล่อเหมือนนายแบบนิตยสารเดินตรงเข้ามายังโต๊ะที่ผมนั่งทำงานอยู่ “สวัสดีครับ ผมมาขอพบท่านประธานของคุณครับ” เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยแจ้งเหตุที่ตัวเองมาอย่างสุภาพ “ได้นัดไว้ล่วงหน้าไหมครับ?” ผมมองใบหน้าของเขาเล็กน้อย เป็นคนที่ดูดีมากจริง ๆ “ชื่ออิงค์ครับ ไม่ได้นัดล่วงหน้า” เขาส่งยิ้มมาให้ผม ถ้าเป็นผมในเมื่อก่อนคงหวั่นไหวให้กับรอยยิ้มของเขาแน่ คนอะไรยิ้มสวยชะมัด “สักครู่นะครับ” ผมหันไปบอกกับอีกฝ่ายแล้วยกหูโทรศัพท์หาพี่อาทิตย์ “ท่านประธานครับ มีคนมาของพบครับ ไม่ได้นัดล่วงหน้าครับ แจ้งว่าชื่ออิงค์” พี่อาทิตย์เงียบไปหลายวินาทีหลังจากที่ผมบอก “อืม ให้เขาเข้ามา หนูเข้ามาด้วยนะ” เสียงพี่อาทิตย์ฟังดูจริงจังชอบกลจนผมเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี “ครับ” “เชิญครับคุณอิงค์” ผมผายมือไปทางห้องประธานโดยมีผมเดินนำ “ไม่ต้องครับ ผมมีธุระจะคุยกับอาทิตย์แค่สองคน” เรียกชื่อเล่นซะด้
บทที่ 10 Old boyfriend เวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนหลังจากที่หลินเข้ามาทำงานที่บริษัทของทินกร คนแก่กว่าปฏิบัติต่อเขาอย่างคนพิเศษต่อหน้าคนอื่น ไม่คิดปิดบัง พออยู่มาสักพักลินเองก็เริ่มเคยชินกับสายตาของเหล่าพนักงานที่ชอบแอบมองพวกเขาแล้ว การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น (หรือเปล่า) หลินได้เรียนรู้ว่าการเป็นประธานบริษัทนี่มันช่างยุ่งเหลือเกิน ใครบอกว่าเป็นเจ้าคนนายคนมันสบายวะ? งานทุกอย่างก่อนถึงมือของทินกร เขาและเลขาส่วนตัวของทินกรจะช่วยกันคัดกรองอีกทีและช่วยสรุปให้ ถึงสรุปแล้วมันก็ยังเยอะอยู่ดี บางโปรเจคก็ไม่สามรถสรุปได้ต้องอ่านอย่างละเอียดอีกที ไหนจะต้องเข้าประชุมกับบอร์ดบริหาร และเข้าฟังการพรีเซ้นท์งานต่าง ๆ อีก หลินเองก็ไม่ได้ทำงานติดที่เพราะต้องตามทินกรออกไปพบบริษัทคู่ค้าเช่นกัน คุณเลขาเองก็ต้องตามไปด้วย เธอช่วยสอนงานให้กับหลินอย่างดี มีหลินเข้ามาก็ช่วยแบ่งภาระงานกันได้ไม่น้อย งานเลขานี่มันต้องจำรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก หลินเองก็พยายามทำมันให้ดีที่สุดเช่นกัน วันนี้เองท่านประธานบริษัทก็ต้องไปพบคู่ค้าเช่นเคย ภัตตราคารหรูถูกจองไว้อย่างดี จะมีก็แต่การเจรจาที่ไม่เป็นไปในทางเดียวกันเท่าไหร่น