เรื่องราวความรักของสองหนุ่มลูกเจ้าของไร่ที่อยู่ข้างเคียงกัน พวกเขาทั้งสองเป็นเพื่อน และเริ่มชอบกันมาตั้งแต่เด็กจนแยกย้ายกันไปเรียนต่อ เมื่อได้เวลากลับมาช่วยดูแลกิจการไร่ของตัวเอง ความสนุก ความน่ารัก ความรัก จึงเกิดขึ้นกับพวกเขาอีกครั้ง
View Moreแดดอ่อนทอแสงแรกผ่านม่านเขาสูง ส่งกระทบหยาดน้ำค้างที่พร่างพราวบนยอดหญ้า ความชุ่มชื้นจากพื้นที่อุ้มน้ำฝนไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เริ่มคลายตัวออกเนื่องจากแสงแดดที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ บรรดาสัตว์ตามธรรมชาติน้อยใหญ่ ต่างดำรงชีวิตกันไปตาม วัฏจักรแห่งชีวิตบนพื้นที่ไร่ทั้งสองนี้
บ้านไร่จินตราและไร่กรุณาธรเป็นไร่ผลไม้ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มกลางหุบเขา ไร่ทั้งสองนี้มีลักษณะที่คล้ายกัน กล่าวคือ มีภูเขายืนตระหง่านอยู่ด้านหลัง มีลำธารเล็ก ๆ จากทิวเขาด้านหลังไหลผ่าน ลำธารแห่งนี้มีสายน้ำไหลไม่เคยขาดแม้ว่าจะเป็นฤดูแล้งก็ตาม
ในอดีตไร่ทั้งสองนี้มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง เกิดจากเพื่อนรักสองเกลอ ที่เข้ามาบุกเบิกทำไร่ผลไม้ โดยเลือกที่จะปลูกให้เหมาะสมตามสภาพอากาศที่เป็นอยู่ และได้ขยายพื้นที่ออกไปจนสุดเชิงเขาทั้งสองด้าน สุดลูกหูลูกตาเป็นคำกล่าวของชาวบ้านในหมู่บ้านเล็ก ๆ เชิงเขาด้านหลังที่อยู่ถัดจากไร่ทั้งสองไปไม่ไกลนัก
เพื่อนรักทั้งสองต่างมีครอบครัว ดำเนินการของตนเองให้อยู่รอดมาจนถึงรุ่นลูก และกำลังจะส่งต่อให้กับรุ่นหลานของพวกเขา
หลังจากเจเนอเรชันคุณปู่คุณตาผู้บุกเบิกผ่านพ้นไป เจเนอเรชันต่อมา ก็รับช่วงต่ออย่างสมศักดิ์ศรี ไร่ทั้งสองต่างถูกพัฒนา ทั้งสายพันธุ์พืชที่ให้ผลดกงาม เทคโนโลยีการดูแลดิน ลดการใช้สารเคมีในดิน และบางส่วนก็ไม่ใช้สารเคมีเลย
เจ้าของไร่ทั้งสองครอบครัวต่างไปมาหาสู่กันเป็นประจำ สืบเนื่องกันมาตั้งแต่รุ่นบุกเบิก แบ่งปันความรู้ใหม่ ๆ ช่วยเหลือกันยามเกิดเหตุวิกฤตให้ผ่านพ้นอยู่รอดมาได้จนถึงปัจจุบัน
‘หลิน’ นายหญิงของบ้านไร่จินตรา เธอสนิทสนมกับ ‘เฟื่องฟ้า’ นายหญิงของไร่กรุณาธรมาตั้งแต่แต่งงานเข้าเป็นสะใภ้ในบ้านไร่ จินตรา เธอเป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรที่มาประจำอยู่ในจังหวัด มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน
ไม่นาน เจเนอเรชันต่อมาก็เกิดขึ้น โดยทางไร่กรุณาธรได้ลูกสาวก่อน เฟื่องฟ้าให้ชื่อลูกของเธอว่า ‘ดาวเรือง’ เป็นการพ้องกับเธอที่ชื่อเป็นดอกไม้ จนผ่านไปอีกไม่กี่ปี ไร่ทั้งสองก็มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นอีก ไร่กรุณาธร ได้ลูกชายเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ‘ทานตะวัน’ ชื่อพ้องกับผู้เป็นแม่อีกเช่นเคย ส่วนบ้านไร่จินตรา ได้ลูกชายคนแรก ‘คชา’ หรือชื่อเล่น ‘ออโต้’ เป็นที่ยินดีของทั้งสองบ้านไร่ในเวลานั้น
เกือบทุกวันหยุดสุดสัปดาห์หากไม่มีธุระปะปังที่ใดทั้งสองบ้านมักจะผลัดกันมาเยี่ยมเยือน เพื่ือให้เด็ก ๆ ทั้งสองบ้านได้มาเล่นด้วยกัน ซึ่งต่อมาพบว่าลูกสาวของไร่กรุณาธรมีความเป็นผู้นำสูงสุดนั่น อาจจะเพราะเธอเป็นพี่สาวคนโตจึงมักบงการน้องทั้งสอง ให้ไปทำโน่นทำนี่ต้องอย่างนั้นอย่างนี้จนเด็กทั้งสองลงความเห็นกันว่าจะเรียกดาวเรืองว่า‘เจ้’ซึ่งดาวเรืองดูชอบกับฉายานี้ไม่น้อย
ดาวเรืองผู้เป็นพี่ใหญ่ มักจะพาน้องทั้งสองไปเล่นที่ท้ายไร่กรุณาธร เนื่องจากที่ท้ายไร่มีแก่งและหาดทรายขนาดเล็ก สามารถนั่งเล่นน้ำได้ หากเป็นฤดูฝน ก็จะเปลี่ยนที่นั่งเล่นไปเป็นแถบโรงเก็บเมล็ดพันธุ์ เพราะในฤดูฝนน้ำจากลำธารจะมีมากกว่าฤดูอื่นอาจเกิดน้ำป่าไหล หลากมาจนเป็นอันตรายได้
ลำธารดังกล่าวนี้ไหลทอดต่อไปที่ท้ายบ้านไร่จินตราแต่ไม่มีหาดให้ เล่นน้ำได้เหมือนไร่กรุณาธร
พอเริ่มเข้าเรียน
ดาวเรืองต้องเข้าเรียนก่อนทานตะวันผู้เป็นน้องและเพื่อนบ้านออโต้ เมื่อน้องทั้งสองเข้าเรียนตามหลังมา เธอจึงกลายเป็นติวเตอร์น้อย ๆ ให้กับน้องทั้งสองไปโดยปริยาย
ออโต้ลูกชายของบ้านไร่จินตรา มีอายุมากกว่าทานตะวัน น้องชายของเธอเพียงไม่กี่เดือนเรียกว่าอายุรุ่นเดียวกันเลยก็ว่าได้ แต่ความแตกต่างของทั้งสองคนนี้ กลับทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ แต่เพราะความที่ยังเป็นเด็ก จึงได้แต่เพียงแค่มองเวลาได้เห็นน้องสองคนง่องแง่งกัน เธอก็สุขใจอย่างประหลาด
ด้วยความรู้สึกแบบนี้เธอจึงยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เธอเป็นมันคืออาการของ ‘สาววาย’ สาวที่ชอบเห็นผู้ชายชอบกัน รักกัน ซึ่งกว่าเธอจะเข้าใจก็เริ่มเข้าสู่สังคมวัยรุ่นแล้ว
ออโต้ มักวิ่งเล่นกับทานตะวันและลูกของคนงาน 2-3 คนเสมอ โดยเฉพาะการเล่น‘ผจญภัย’การเดินไปเล่นในไร่หรือไปเล่นน้ำที่ ลำธาร จะต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ใหญ่ก่อนในช่วงแรก แต่ต่อมา พอเริ่มโตขึ้น บรรดาพ่อแม่ก็อนุญาตให้เด็ก ๆ ไปเล่นกันไกล ๆ ได้ แต่ได้มีกำชับให้คนงานคอยสอดส่องดูแลอยู่ห่าง ๆ
<<<Z>>> <<<Z>>> <<<Z>>>/สวัสดีครับ//เฮ้ย ตะวัน จำเราได้รึเปล่า?//หึ ใคร?//ฟังนะ กู ชื่อ นิค//หยาบคาย ไอ้นิค//เอ๊า ผมชื่อนิคครับคุณทานตะวัน//เออ ค่อยดูมีการศึกษาหน่อย//ปากเหมือนเดิมนะมึง//เออ... มีอะไร//กูจะไปเที่ยวบ้านมึง//ตอนไหน อีก 2 ชั่วโมง//ห่ะ!?//เออ ๆ มาถูกเหรอ//ไร่มันดึง จีพีเอส. พามาได้ เดี๋ยวเจอกัน/นิค และเพื่อนสมัยเรียนกำลังเดินทางมาหาผมแบบเซอร์ไพรส์ ไม่ให้ผมได้ตั้งตัวตามนิสัยของนิคที่เป็นมาตั้งแต่เรียนแล้ว ผมต้องไปบอกแม่เฟื่องฟ้าก่อน เพราะพวกนี้มาคือยังไงก็คงค้างคืน แต่จะกี่คืนก็ไม่รู้พวกมัน“แม่ครับเพื่อนผมจะมาจากกรุงเทพฯ สามถึงสี่คน” ผมบอกแม่ที่ตอนนี้กำลังนั่งเคลียร์บิลอยู่ในห้องทำงาน“ค้างคืนไหมลูก” แม่ถาม“ค้างแหละแม่ แต่พวกอาหารอะไรนี่ เตรียมทันไหมครับ” ผมถามแม่เรื่องอาหาร เพราะปกติพวกเราก็กินอะไรไม่เยอะอยู่แล้ว แต่ถ้าพวกนี้มา ส
ไร่กรุณาธร ตั้งขึ้นโดยคุณปู่ของดาวเรืองและทานตะวัน ในยุคแรก หลังจากเรื่องการหาที่ดินเสร็จสิ้นลง เขากับเพื่อน (ปู่ของออโต้) เริ่มดำเนินการด้วยเงินของตัวเองที่ได้มาจากมรดกและการสนับสนุนจากพ่อแม่บางส่วน มาดำเนินการ เริ่มแรกมีบ้านเล็ก ๆ สำหรับเขาและเริ่มจ้างผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการขุดสระน้ำด้านหลังพร้อมติดตั้งระบบจ่ายน้ำเดินท่อเข้ามาที่บริเวณที่จะก่อสร้างแปลงปลูกต้นองุ่น ใช้พื้นที่กว้างถึง 1 ไร่ในช่วงแรก เพราะในพื้นที่ 1 ไร่ จะสามารถปลูกต้นองุ่นได้ราว ๆ 130-140 ต้น เป็นองุ่นสายพันธุ์ที่สามารถปลูกในประเทศไทย ทนร้อนได้ดี และจำหน่ายได้ราคาเขาวางแผนว่าจะจำหน่ายองุ่นออกไปให้เกิดรายได้ก่อน ขณะที่โครงการผลิตไวน์ของเขา เกิดปัญหาที่เขาคาดเดาไว้แล้ว นั่นคือเขาไม่ชำนาญในเรื่องนี้มากพอ ต้องมีอะไรอีกหลายอย่าง รวมถึงอุปสรรคมากมายก่อนจะทำให้เกิดโรงผลิตไวน์ได้ดังนั้นในช่วงแรก ๆ ไร่กรุณาธร ยังคงเป็นไร่ที่ปลูกองุ่นขายเพียงอย่างเดียว ส่วนตัวเขาเองก็ยังคงศึกษาการทำไวน์ เดินทางเข้าไปที่มหาวิทยาลัยบ่อยเพื่อหาอาจารย์ที่สอนมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ท้ายสุดก็ยังมิอาจสานฝัน
บ้านไร่จินตราเป็นหนึ่งในไม่กี่ไร่ที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดทั้งปี มีพืชผลมากมายที่ผลัดกันออกผลตามฤดูกาลและนอกฤดูกาลอัน เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์พืชใหม่ ๆ ที่ได้รับจากต่างประเทศและเครือข่ายทางธุรกิจที่มีอยู่ ในเรื่องของทำเลที่ตั้ง บ้านไร่จินตรา มีลักษณะที่ตั้งที่ดี ด้านหลังเป็นภูเขา มีลำธารธรรมชาติไหลผ่าน น้ำมาจากป่าบนเขา ด้านหน้าของไร่มีคลองชลประทานจากภาครัฐ มีถนนลาดยางอย่างดีจากอำเภอผ่านเข้าสู่ตัวหมู่บ้านที่อยู่ถัดไป ด้านข้างเป็นภูเขาที่ยาวต่อมาจากด้านหลังขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นไร่กัลยาณมิตรกันมีชื่อว่า “ไร่กรุณาธร” ที่ทำไร่ลักษณะคล้ายกันแต่มี พัฒนาการพันธุ์พืชที่เป็นของตัวเองและเน้นองุ่นเป็นหลัก เพราะมี โรงงานบ่มไวน์องุ่นเป็นของตัวเอง ขณะที่บ้านไร่จินตราจะเน้นพืชผลที่ส่งขายได้ตลอดทั้งปีปัจจุบันบ้านไร่จินตราอยู่ภายใต้การดูแลของคุณสมชายหรือที่ชาว หมู่บ้านเรียกว่า ‘น้าชาย’มีภรรยาชื่อหลิน และลูกชายชื่อคชา หรือน้องออโต้ เป็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่ช่วยกันบริหารไร่ มีลูกน้องที่ซื่อสัตย์ และบ้านไร่จินตราแห่งนี้ เป็นแหล่งอาชีพเล็ก ๆ ให้กับชาวหมู่บ้านแถบนั้นอีกด้วย
เรื่องราวของออโต้กับทานตะวัน ในทีแรกก็มีคนงานในไร่ทั้งสอง เอามาพูดคุยกันเรื่องที่ว่าผู้ชายรักผู้ชาย โดยเฉพาะไร่กรุณาธร แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นอันเงียบหายไปเพราะมีคนงานอีกกลุ่มที่เปิดตัวเป็น LGBTQIA+ อยู่แล้วสามคนช่วยจัดการ‘แก๊งนารีผล’แก๊งนี้เปิดตัวขึ้นหลังจากทราบข่าวว่าออโต้กับทานตะวันคบหากันจริง ๆ แถมสุดท้าย ดาวเรืองดึง ‘แก๊งนารีผล’ มาเป็นทีมงาน คิว.ซี. และทีมเลขาให้กับตัวเองด้วย“พวกนี้เก่ง แถมยังปลื้มพวกเธอทั้งสองคนด้วยนะจ๊ะ” เจ้ดาวเรืองบอกกับทานตะวันและออโต้“สงสัยต้องนัดพวกน้อง ๆ มากินมื้อพิเศษแล้วล่ะ” ออโต้ทำพูดเล่น แต่ดาวเรืองกลับจริงจังขึ้นมา“จะดีเหรอเจ้” ทานตะวันไม่แน่ใจ“ดีสิ พวกนี้กลายเป็นสมุนเจ้ไปเรียบร้อยแล้ว” ดาวเรืองกอดอกอวดให้พวกเขาฟัง ดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับดาวเรืองที่จะมีลูกน้องคอยช่วยดูแลงานในไร่ และเป็นเพื่อนสายวายเหมือนกับเธอ“แล้วแต่เจ้เลย” ทานตะวันส่ายหน้าระอากับพี่สาวตัวเอง“พวกนางฝากถามมาถึงด้วยนะ” ดาวเรืองพูดพลางยกหลักฐานในมือถืออวดทา
Part ทานตะวันหลังจากที่ตกลงกับออโต้เป็นแฟนกัน ชีวิตไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมมากนอกจากตัวติดกันมากขึ้นกว่าเดิม ในทีแรกผมก็มีความกังวลอยู่นิดหน่อย เพราะนี่ไม่ใช่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น พัทยา ภูเก็ต ที่จะมีผู้ชายกับผู้ชายเดินจับมือกันได้อย่างไม่ต้องเกรงสายตาใคร ซึ่งผมกับออโต้ก็ไม่มีโมเมนต์นั้นอยู่แล้ว‘ไม่ได้แคร์ แต่เกรงใจพ่อแม่ครับ’ดังนั้นการไปไหนมาไหนของเรา ก็ดูออกแหละว่าไม่ใช่เพื่อน แต่มันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร จริงนะหลัง ๆ มาออโต้แทบไม่ได้กลับบ้านเลย! นอกจากผมจะไปค้างที่บ้านเขา ในภายหลังจึงต้องตกลงกันว่าเราจะสลับวัน จันทร์ - อังคารอยู่บ้านผม พุธ - พฤหัสบดี อยู่บ้านออโต้ ศุกร์-เสาร์อยู่บ้าน ส่วนวันอาทิตย์ ก็ดูความเหมาะสมกันครับแม้จะตกลงกันอย่างนี้ แต่สุดท้าย ออโต้ก็มักจะนอนที่ห้องผมซะส่วนมากสืบจากลูกน้องของเจ้ดาวเรือง ‘แก๊งนารีผล’ ตูน แองจี้ และแจ๋ม ซึ่งเป็นคนงานวัยรุ่นในหมู่บ้านที่ถัดจากไร่ไป ได้ขอรูปผมกับออโต้ไปลงในเพจหมู่บ้าน ปร
แต่แล้วคนที่พูดกลับกลายเป็นน้าชายซะงั้น“น้าคิดว่าน้าไม่โอเค หากออโต้จะชอบผู้ชาย...คนอื่นนะ” น้าชายตัดจบง่าย ๆ“สำหรับน้า ก็คงเหมือนกับน้าชาย แต่น้ามีข้อแม้นะ เดี๋ยวจะบอกให้ ขอฟังความเห็นของเพื่อนบ้านก่อน” น้าหลินขยิบตามาให้ลูกชายตัวเอง ผมรับรู้ได้ว่ามันเป็นเรื่องดีแหละผมหันไปมองพ่อแม่ของผมเอง นี่แหละที่ทำให้ผมรู้สึกกระวนกระวายใจหมับ!!ผมสะดุ้งจนแม้แต่เจ้ดาวเรืองหันต้องหันมามองออโต้คว้ามือผมมาจับไว้ผมมองหน้าออโต้ เขานิ่งมาก กลายเป็นผมซะเองที่เสียอาการ“ออโต้ น้าถามหน่อย คิดยังไงกับเจ้าทานตะวันลูกของน้า” พ่อมงคลของผมเอาแล้วไงครับ สไตล์การถามที่ลูกได้รับการถ่ายทอดมาอย่างเต็ม ๆ นี่แหละพ่อมงคล ไม่ค่อยพูด แต่พอพูดก็ตรง ๆ แบบนี้เลยออโต้กำมือผมแน่นขึ้น เออ! ลืมไปเลยว่าเรานั่งจับมือกันอยู่ ฉิบ... ชักมือออกตอนนี้คงไม่ดีแน่ ปล่อยไว้ก่อน“ผม... ผมชอบทานตะวันมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ”“...”เงียบ“กรี๊ดดดดด อุ๊บ อุ๊บ หนูบอกแล้ว” เจ้ดาวเรืองเผลอกรี๊ด
Comments