“นับพี่มาแล้ว” เสียงของแพรววาที่ตะโกนอยู่หน้าบ้านทำเอานับดาวที่กำลังกินมื้อเย็นก่อนไปทำงานรีบตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากแล้วหยิบกระเป๋าสะพายข้างใบเก่า ๆ ขึ้นสะพายทันที
“นับดาวไปก่อนนะจ๊ะแม่จ๋า เลิกงานแล้วลูกสาวคนนี้จะรีบกลับบ้านทันทีเลยจ้ะ”
นับดาวบอกปรานีที่ยิ้มให้ลูกสาวด้วยความเอ็นดูก่อนที่ร่างบางจะวิ่งดุกดิกออกไปหาพี่สาวข้างบ้านคนสวยที่เปิดประตูรถรอเธออยู่ที่หน้าบ้าน แพรววาเรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกับที่นับดาวได้ทุนเรียนต่อ แต่ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงทำให้แพรววาเลือกที่จะทำงานพาร์ตไทม์ที่ผับของขุนพลช่วงปิดเทอมเพื่อหาเงินไว้ช่วยแบ่งเบาภาระของบิดามารดา
แพรววาขับรถยนต์มือสองคันเล็ก ๆ ที่เธอเก็บหอมรอบริบจนสามารถที่จะซื้อด้วยตัวเองได้มารับนับดาวทุกวัน สองสาวไปทำงานพร้อมกันและกลับด้วยกันทุกวัน เพราะแพรววารับปากแม่ปรานีเอาไว้แล้วว่าจะดูแลนับดาวให้ดีที่สุด
“อาทิตย์หน้าก็เปิดเทอมแล้วนะตื่นเต้นไหมเรา” แพรววาถามนับดาวที่ดวงตาทอเป็นประกายสุกใสเมื่อพูดถึงเรื่องเปิดเทอม นับดาวเลือกที่จะเรียนคณะบัญชี เพราะเป็นคณะที่เป็นที่ต้องการของตลาด เมื่อเรียนจบไปแล้วเธอก็อยากจะมีงานทำไว ๆ จะได้มีเงินส่งอ้อมใจกับเอื้ออารีน้อง ๆ ทั้งสองคนให้ได้เรียนสูง ๆ
“ตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะพี่แพรวจากเด็กมัธยมก้าวสู่นักศึกษามหาวิทยาลัยคิดทีไรก็อดตื่นเต้นไม่ได้ทุกที”
นับดาวบอกแพรววาถึงความรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อคิดว่าเธอกำลังจะได้เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วยรอยยิ้ม ทำเอาแพรววาอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามออกมาอย่างนึกเอ็นดูนับดาวเด็กสาวที่เธอรู้จักมาตั้งแต่เด็กไม่ได้ สาวน้อยช่างสดใสบริสุทธิ์เสียจนเธอหวังว่าโลกใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายหลากหลายประเภทจะไม่มีใครทำให้เด็กสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องคนนี้ต้องแปดเปื้อน
“อาทิตย์หน้ารู้กัน ปะไปทำงานกัน” พูดจบแพรววาก็ออกรถทันทีก่อนที่จะขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อเดินทางไปทำงาน นับดาวนั่งยิ้มพร้อมกับฮัมเพลงคลอกับเสียงวิทยุบนรถอย่างมีความสุข
ถึงเธอจะเกิดมาเป็นเด็กกำพร้าไร้พ่อขาดแม่ แต่ชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีมากแล้วสำหรับเธอ
Dark devil Pub
ร่างสูงของใครบางคนที่เดินควงกุญแจรถเข้ามาในผับเรียกสายตาสาว ๆ ที่มาหาความเบิกบานสำราญใจในค่ำคืนนี้ได้เป็นอย่างดี ใบหน้าหล่อร้ายที่ติดจะเย็นชาปรายตามองสาว ๆ ที่พากันเมียงมองมายังเขาอย่างเชิญชวนราวกับอากาศธาตุ ถึงเขาจะกินเงียบ กินดุก็จริง แต่ผู้หญิงทุกคนต้องจบความสัมพันธ์กับเขาแค่เพียงคืนเดียวเท่านั้น เพราะคนอย่างเขาไม่ชอบกินซ้ำและยังไม่พร้อมที่จะมีพันธนาการรักกับใครทั้งนั้น
“เดินเข้าผับมาทีสาว ๆ มองเต็มเลยว่ะ” ดาร์คอดที่จะแซวเก้าทัพไม่ได้เมื่อสายตาเชิญชวนจากทั่วทุกสารทิศต่างพุ่งเป้ามาที่เพื่อนรักที่หน้าตาดีราวกับเทพบุตรอย่างเพื่อนเขา ที่กำลังนั่งลงบนโซฟาพร้อมทั้งเบือนหน้าหนีสาว ๆ ที่ยกแก้วเหล้าอย่างเชิญชวนทำเอาสาว ๆ เหล่านั้นถึงกับส่งยิ้มเก้อ
“ขนาดหน้าตาดูไม่ค่อยเอนจอยแต่สาว ๆ ก็พร้อมจะเข้ามาจอยกับมันเพียบนับถือ ๆ จริง ๆ” พอร์ชก็เข้าร่วมวงแซวเก้าทัพอีกคนก่อนที่เก้าทัพจะยกเหล้าขึ้นมาเทใส่แก้วเพียว ๆ แล้วกระดกเหล้าขึ้นดื่มอย่างไม่รู้สึกรู้สากับรสชาติขมบาดคอของเหล้าเลยสักนิด
“เพียวแต่วันเชียวนะคุณชายเก้า” ดาร์คแซวเพื่อนยิ้ม ๆ อีกครั้งแต่เก้าทัพก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ได้ตอบโต้เพื่อนแต่อย่างใด
เขาชอบที่จะนั่งดื่มเงียบ ๆ เสียมากกว่า สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบ ๆ ก็เจอสาวสวยมากมายที่พากันทิ้งสายตาเพื่อชวนเชิญเขาให้ไปต่อในค่ำคืนนี้ มุมปากหนายกยิ้มเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะดึงสายตากลับมาหาเพื่อนทั้งสองคนที่นั่งจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“มองอะไรกันหนักหนาวะ” เก้าทัพว่าให้เพื่อนทั้งสองที่จ้องหน้าเขาไม่หยุดก่อนที่ทั้งสองคนจะยักไหล่น้อย ๆ พร้อมกันอย่างกวน ๆ
“มองคนหล่อไง” พอร์ชเป็นเจ้าของคำตอบนั้นก่อนที่เก้าทัพจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเพื่อนทั้งสองคน เขานั่งดื่มโดยที่ไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนาแต่อย่างใดก่อนที่มือจะคว้าโดนเพียงน้ำเย็นไร้ซึ่งน้ำแข็ง เขายกถังที่มีเพียงน้ำเปล่าบอกเพื่อนเพียงแค่นั้นพอร์ชก็เข้าใจในทันที
“นับจ๊ะเอาน้ำแข็งไปเสิร์ฟโต๊ะ VIP 5 ที”
คิวยื่นถังน้ำแข็งให้นับดาวที่รับมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะเดินไปโซนที่มีเสียงเพลงเปิดคลอเบา ๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบบรรยากาศของความวุ่นวาย เดินไปจนถึงโต๊ะก็รีบตรงดิ่งเข้าไปวางถังน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ผู้ชายรูปร่างดีที่หันหน้าออกไปอีกทางก่อนที่พยายามจะยื่นมือหยิบถังน้ำแข็งเปล่าที่อยู่ข้าง ๆ ผู้ชายคนนั้นที่พี่ ๆ ในโต๊ะไม่ยอมหยิบมายื่นให้เธอเพื่อนำกลับไปด้วย
อยู่ ๆ ดาร์คก็นึกสนุกขึ้นมาแกล้งขัดขานับดาวเบา ๆ ทำเอานับดาวถึงกับเสียหลักล้มลงไปข้างหน้าเก้าทัพที่หันมาพอดี เขารีบรับร่างบางเอาไว้ด้วยความตกใจเมื่อใครบางคนโดนเพื่อนเขาแกล้งจนล้มลงมาใส่เขาที่รีบคว้าเอวบางมานั่งบนตักทันที กลิ่นแป้งเด็กที่แสนคุ้นเคยโชยมาเข้าจมูกทำเอาเก้าทัพถึงกับชะงักไปเล็กน้อย
“อะ เอ่อ ขะ ขอโทษค่ะขอโทษ นับดาวไม่ได้ตั้งใจ”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนขอโทษผู้ชายที่เธอกำลังนั่งอยู่บนตักอย่างรู้สึกผิดก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมอง ภายใต้ความมืดที่มีเพียงแสงสว่างจากไฟประดับดวงน้อย ๆ ดวงตากลมโตของนับดาวเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเมื่อผู้ชายที่เธอล้มลงมานั่งบนตักคือพี่เก้าทัพพี่ชายใจดี
เก้าทัพเองก็ดูจะตกใจไม่น้อยที่ผู้หญิงในอ้อมกอดของตัวเองคือนับดาว ทั้งสองคนต่างจ้องมองกันและกัน หนึ่งคนสายตาเต็มไปด้วยความคิดถึงคนึงหาอีกคนเต็มไปด้วยความแปลกใจ ดาร์คที่เห็นแบบนั้นถึงกับยิ้มออกมาน้อย ๆ กับจังหวะนัยน์ตาสื่อรักของหนุ่มสาวทั้งคู่
“อืม บางทีรับบทเป็นผีผลักนี่ก็ดีเหมือนกันนะ” ดาร์คพูดขึ้นมาลอย ๆ แต่มันกลับทำให้หนุ่มสาวทั้งคู่ได้สติเก้าทัพกระแอมไอออกมาอย่างเก้อ ๆ ในขณะที่นับดาวก้มหน้างุดด้วยความเขินอายก่อนที่จะค่อย ๆ ขยับตัวลงจากตักนุ่มที่เธอรู้สึกเสียดายความอบอุ่นนั้นไม่น้อย
“นับดาวขอโทษนะคะพี่เก้าทัพ เอ่อ นับดาวไม่ได้ตั้งใจอยู่ ๆ ก็สะดุดล้มลงไปก็เลย เอ่อ แหะ แหะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยบอกเก้าทัพที่แอบอมยิ้มเล็กน้อยส่วนดาร์คกับพอร์ชถึงกับมองหน้ากันอย่าง-งง ๆ ที่เก้าทัพรู้จักกับเด็กสาวหน้าตาน่ารักมากคนนี้
“ไม่เป็นไรครับ เพื่อนพี่มันแกล้งเราน่ะ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษเรา”
น้ำเสียงนุ่มละมุนตอบกลับนับดาวก่อนที่จะหันไปมองหน้าดาร์ค อย่างคาดโทษ แต่ดาร์คกลับไม่ได้สนใจเพื่อนเลยสักนิด เพราะตอนนี้เขารู้สึกตกใจเก้าทัพในโหมดที่กำลังตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เป็นผู้หญิง น้ำเสียงหวานละมุนที่ตอบสาวน้อยหน้าหวานคนนี้ก็ฟังดูจั๊กจี้หูชอบกลดาร์คไม่ชินเลยกับโหมดเสียงหวานรื่นหูของเพื่อน
“นับดาวทำงานที่นี่เหรอคะ” ประโยคคำถามที่แสนน่ารักแลดูสุภาพเรียบร้อยทำเอาพอร์ชที่กำลังกระดกเหล้ามองหนุ่มสาวทั้งคู่เงียบ ๆ ถึงกับเหล้าแทบพุ่งด้วยความระคายหู เมื่อเก้าทัพลงท้ายประโยคอย่างน่ารักกับน้องสาวคนสวยที่กำลังยืนยิ้มหวานให้เพื่อนของเขาอยู่
“ใช่ค่ะนับดาวมาทำงานพาร์ตไทม์ระหว่างที่รอเปิดเทอม” น้ำเสียงสดใสร่าเริงตอบเก้าทัพดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อเหลาที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเธออย่างมีความสุข หลังจากวันนั้นเธอก็รอคอยที่จะพบเจอเขาเสมอมาและสุดท้ายแล้ววันนี้เขาก็มา แต่ยังไม่ทันที่จะได้คุยกันต่อแพรววาที่มาเสิร์ฟเหล้าโต๊ะข้าง ๆ ก็เดินมาตามนับดาวที่กำลังยืนคุยกับเก้าทัพให้กลับไปทำงาน
“ถ้าอย่างนั้นนับดาวขอตัวก่อนนะคะ อ้อ ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะคะพี่เก้าทัพ” สาวน้อยจำใจบอกลาผู้ชายที่แอบซ่อนเอาไว้ลึกสุดของหัวใจด้วยความเสียดายก่อนที่เก้าทัพจะพยักหน้ารับช้า ๆ นับดาวยกมือโบกลาเก้าทัพพร้อมรอยยิ้มหวานก่อนที่จะเดินควงแขนแพรววาออกไปทันที
“ใครอะ รู้จักกันเหรอ” หลังจากที่นับดาวจากไปแล้วพอร์ชก็ขยับเข้ามาถามเพื่อนรักที่ยังคงยิ้มกว้างมองตามแผ่นหลังบอบบางของนับดาวด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่เก้าทัพจะยิ้มกว้างมากกว่าเดิมและหันมาพ่นคำหยาบใส่หน้าพอร์ชจนหน้าสั่น
“เสือก” คำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ ที่คนฟังถึงกับเบะปากด้วยความเซ็งแต่ถึงอย่างนั้นพอร์ชก็ไม่เซ้าซี้ เพราะถ้าหากเก้าทัพอยากเล่าพวกเขาไม่ต้องรบเร้าให้เสียเวลา เมื่อถึงเวลาเก้าทัพจะเปิดปากออกมาเองโดยที่ไม่ปิดบังพวกเขาเลยสักนิดและครั้งนี้ก็เช่นกันพวกเขาคงได้แต่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
เก้าทัพนั่งดื่มเงียบ ๆ อย่างอารมณ์ดี ใบหน้าหล่อประดับไปด้วยรอยยิ้มที่ดูจะเป็นภาพที่หายากมากสำหรับสาว ๆ ที่พากันมองผู้ชายใบหน้าหล่อเหลายิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์
เด็กสาวคนนั้นทำงานที่นี่แบบนี้เขาคงต้องมาเที่ยวที่นี่ทุกวันเสียแล้วสิ หึหึ
วันเวลาที่ผ่านไปเร็วราวกับเข็มนาฬิกาที่ไม่เคยหยุดเดินทำให้ตอนนี้กองทัพกับพราวฟ้าใกล้จะจบปีการศึกษาแล้วซึ่งสำหรับกองทัพเมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่หกเขาก็ต้องไปเรียนต่อในชั้นมัธยมต่อไปซึ่งยังไม่แน่ว่าจะได้เรียนที่ไหน ตอนนี้เก้าทัพกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าบิดาในห้องทำงาน เขามาที่นี่เพื่อมาขอคำปรึกษาจากบิดาถึงเรื่องเรียนต่อของลูกชายตัวน้อยที่กำลังจะก้าวข้ามผ่านวัยเด็กไปสู่การเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มตัว“ผมอยากให้ลูกไปเรียนต่อมัธยมที่เมืองนอกพ่อมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ” เก้าทัพถามบิดาที่นั่งอยู่ตรงหน้าก่อนที่กฤษฎิ์จะมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความครุ่นคิด เพราะตัวเขาเองก็ส่งเก้าทัพไปเรียนต่อที่เมืองนอกเช่นกัน แต่เป็นการส่งไปเรียนหลังจากที่เก้าทัพเรียนจบปริญญาตรีที่เมืองไทยแล้ว แต่เก้าทัพกลับคิดต่างจากเขาคือให้ส่งเจ้ากองทัพไปตั้งแต่ยังเด็ก“ทนคิดถึงลูกไหวไหมล่ะ” คำถามของบิดาทำให้เก้าทัพถึงกับยิ้มออกมาน้อย ๆ เพราะคำถามแบบนี้นั่นก็หมายความว่าบิดาของเขาเห็นด้วยกับการที่เขาจะส่งกองทัพไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ“คิดถึงสิครับ คิดถึงมากด้วย แต่เก้าก็อยากให้พี่ทัพไปเรียนรู้การใช้ชีวิตของการเป็นเด็กวัยรุ่นไปจนถ
หลายปีต่อมาพราวฟ้าเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดีท่ามกลางความรักและความเอาใจใส่จากนับดาวและเก้าทัพที่ดูแลลูกสาวด้วยตัวเอง หลังจากพราวฟ้าอายุได้สองขวบ กองทัพก็ให้นับดาวกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อ ส่วนเขาก็รับหน้าที่เป็นพ่อบ้านเลี้ยงลูกสาวตัวน้อยที่กำลังซนและยิ้มเก่งอย่างมีความสุข โดยที่มีพี่แก้มใสรับอาสาช่วยเลี้ยงในบางวันที่เก้าทัพต้องไปตรวจดูงานที่กาสิโนที่เขาชอบเอาลูกสาวไปฝากพี่แก้มใสให้ช่วยเลี้ยงเป็นเพราะว่าเก้าทัพไม่อยากรบกวนบิดามารดากับคุณแม่ปรานีที่อายุมากแล้ว ถึงท่านทั้งสามคนจะบอกว่าไม่เป็นไรก็ตาม เพราะลูกสาวเขาซนมากถึงมากที่สุดสงสัยเขาคงปล่อยให้อยู่กับพี่แก้มใสมากเกินไปเลยค่อนข้างซนและดื้อมากทีเดียว“พี่ทัพอย่าลืมไปส่งน้องที่ห้องเรียนด้วยนะคะ” นับดาวกำชับกองทัพที่โตขึ้นเป็นหนุ่มหล่อวัยประถมหน้าตาดีจนเด็กสาวหลาย ๆ คนตกหลุมรักพากันซื้อขนมมาฝากแทบทุกวันที่กลับมาจากโรงเรียน กองทัพพยักหน้ารับคำสั่งของมารดาพร้อมกับจับมือเล็ก ๆ ของเด็กหญิงพราวฟ้ามากุมเอาไว้ ปีนี้พราวฟ้ากำลังจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ส่วนกองทัพก็กำลังจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่หกซึ่งเก้าทัพให้ลูกทั้งสองคนเรียนในรั้วโรงเรีย
เช้าวันหนึ่งนับดาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้า เพราะเมื่อคืนกว่าที่น้องพราวจะยอมเข้านอนเธอกับพี่เก้าทัพก็แทบจะหลับก่อนลูกสาวตัวน้อยเสียอีก เมื่อวานพราวฟ้านอนกลางวันตื่นอีกทีเกือบเย็นเลยทำให้ลูกสาวของเธอไม่ยอมหลับเสียทีส่วนกองทัพที่ตอนแรกเล่นกับน้องสาวอยู่ดี ๆ ก็นอนหลับคากองของเล่นจนเก้าทัพต้องอุ้มลูกชายไปส่งที่ห้องนอน“แอ๊ แอ๊ เก้า เก้า หม่ำ ๆ ๆ”เด็กหญิงพราวฟ้าในวัยสิบเดือนคลานซุกซนบนเตียงนอนใหญ่ไปมาอย่างอารมณ์ดี นี่ขนาดนอนดึกแล้วนะ แต่ลูกสาวเธอกลับตื่นแต่เช้าในขณะที่เธอเพิ่งลืมตาตื่น นับดาวฝืนร่างกายที่เหนื่อยล้าลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงข้าง ๆ ลูกสาวของเธอโดยมีพี่เก้าทัพที่กำลังหยอกล้อเล่นกับลูกสาวตัวน้อยอย่างอารมณ์ดี“ตื่นแล้วเหรอคะคนสวยของพี่เก้า” เก้าทัพเงยหน้าขึ้นมาแซวนับดาวที่ส่งยิ้มน้อย ๆ มาให้สองพ่อลูกก่อนที่เด็กหญิงพราวฟ้าจะค่อย ๆ คลานไปหามารดาที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ นับดาวที่เห็นเช่นนั้นรีบอุ้มลูกสาวขึ้นมาในอ้อมอกทันทีพร้อมกับกดจมูกลงบนแก้มป่องหอม ๆ ของลูกสาวอย่างแสนรักลูกสาวของเธอจ้ำม่ำเหลือเกิน“นับไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวพี่จะพาน้องพราวลงไปเล่นข้างล่างกับกองทัพรอพี่ทำม
โรงพยาบาล N“น้องพราวค้าบ” กองทัพร้องเรียกเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของมารดาพร้อมกับยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มเนียนนั้นอย่างรักใคร่ น้องสาวของเขาน่ารักมากแก้มป่อง ๆ เหมือนเขาเลย เด็กน้อยคิดในใจอย่างมีความสุขก่อนที่จะยื่นหน้าไปหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่“ดีใจไหมคะต่อไปพี่ทัพจะมีเพื่อนเล่นแล้วน้า” นับดาวถามลูกชายยิ้ม ๆ ในขณะที่กองทัพพยักหน้ารับคำมารดาด้วยความดีใจ เพราะต่อไปตนจะไม่ต้องเล่นของเล่นคนเดียวอีกแล้ว“พี่ทัพจะพาน้องพราวคนสวยไปเตะบอล ปั่นจักรยาน แล้วก็ขับรถแข่งด้วยกันนะค้าบ”กองทัพบอกเด็กหญิงตัวน้อยที่มองเขาด้วยดวงตากลมโตอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ชายบอกในขณะที่นับดาวกับเก้าทัพได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ให้กันเมื่อลูกชายตัวน้อยบอกว่าจะพาน้องสาวคนสวยไปเตะบอลแข่งรถ ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจกรรมของเด็กผู้ชายทั้งสิ้นโตขึ้นนี่โตไปลูกสาวของพวกเขาคงห้าวแบบแมน ๆ คุยกันน่าดูแกรก แอด“น้องพราวหลานป้า ป้าแก้มมาแล้วลูก” ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับน้ำเสียงสดใสของแก้มใสที่วิ่งดุกดิกเข้ามาหาหลานสาวตัวน้อยด้วยความดีใจ โดยที่มีรามสูรกับกอหญ้าลูกชายลูกสาวฝาแฝดที่เดินตามหลังเข้ามาพร้อมวายุผู้เป็นสามี“น่ารักน่าชังจังเ
เวลาผ่านมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้อายุครรภ์ของนับดาวก็ใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้วทั้งเก้าทัพและเด็กชายกองทัพต่างนั่งนับวันและตั้งตารอคอยลูกสาวและน้องสาวตัวน้อยที่จะออกมาลืมตาดูโลกในไม่ช้า โดยที่เก้าทัพไม่ได้ให้นับดาวอัลตราซาวนด์ เพราะเก้าทัพอยากลุ้นว่าเพศของลูกที่เขามีความมั่นใจมากว่าต้องเป็นลูกสาวอย่างแน่นอนจะถูกเหมือนที่เขาคาดเดาไหม“พี่จะรีบไปรีบกลับนะคะ”เก้าทัพก้มลงจูบหน้าผากมนของนับดาวอย่างแสนรักก่อนที่จะก้มลงจูบแก้มลูกชายตัวน้อยที่พองลมแก้มป่องรอให้ผู้เป็นบิดาหอมฟอดใหญ่อย่างรู้งาน เพราะไม่ว่าเก้าทัพจะไปไหนเด็กน้อยมักจะให้บิดาหอมแก้มก่อนไปเสมอจนติดเป็นนิสัย หากวันไหนที่บิดาลืมเด็กน้อยก็จะคิดค่าปรับเป็นของเล่นราคาแพงอยู่บ่อยครั้ง“พี่ทัพครับดูแลแม่นับดี ๆ นะครับ ถ้าแม่นับปวดท้องจะคลอดน้องต้องรีบโทรรายงานพ่อเก้าทันทีเลยนะครับ” เก้าทัพไม่ลืมที่จะย้ำลูกชายตัวน้อยที่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจในสิ่งที่บิดาบอกก่อนที่เก้าทัพจะเดินไปขึ้นรถที่มีฮารุสตาร์ตรออยู่แล้ว รถแล่นออกจากหน้าบ้านไปโดยที่มีรอยยิ้มหวานของนับดาวยิ้มส่งตามเก้าทัพไปอย่างมีความสุข“ไปกันครับพี่ทัพ วันนี้เรามาทำขนมบัวลอยไข่หวานรอพ่อเก้ากั
หลายวันต่อมา“เมียจ๋าวันนี้เราไปเดินเที่ยวเล่นที่สวนสนุกกันดีไหมคะ อยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนเลย ช่วงนี้อากาศดี พี่อยากพานับออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกบ้านบ้าง”หลังจากที่ทานมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้วเก้าทัพก็เอ่ยปากชวนนับดาวไปเดินเที่ยวเล่นที่สวนสนุกตามแผนขอแต่งงานที่เขาได้วางเอาไว้ นับดาวเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย เพราะเธอไม่ได้ออกจากบ้านนานมากแทบจะเรียกได้ว่าตั้งแต่รู้ตัวว่าท้องเธอก็มีแต่กินกับนอนอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลยจะมีก็แค่ออกไปเดินเล่นรับลมเย็น ๆ ที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ บ้านในบางวันเท่านั้นไม่ก็เดินเล่นในสวนหย่อมหน้าบ้าน แต่วันนี้พี่เก้าทัพกลับชวนเธอไปเดินเที่ยวเล่นที่สวนสนุกมันเลยทำให้นับดาวเกิดอาการแปลกใจเล็กน้อย“นับอย่างไรก็ได้ค่ะ พี่เก้าอยากไปไหนนับก็พร้อมจะไปกับพี่เก้าเสมอ”นับดาวบอกเก้าทัพด้วยสายตาและรอยยิ้มที่อ่อนโยนก่อนที่เก้าทัพจะก้มหน้าลงมาจูบหน้าผากนับดาวเบา ๆ อย่างแสนรัก แต่คนที่นั่งข้าง ๆ กลับกอดอกมองพ่อกับแม่ที่กำลังแสดงความรักกันต่อหน้าต่อตาอย่างไม่เกรงใจตัวเองอย่างงอน ๆ“พ่อเก้าหอมพี่ทัพด้วยสิค้าบ หอมแม่นับคนเดียวได้ไงพี่ทัพก็อยากโดนห