LOGINปลายนิ้วของเขาแตะลงบนผ้าบางที่เปียกชื้นจนเห็นบริเวณนั้นของเธอได้อย่างชัดเจน
“ระบบร้อนจัด"
"น่าจะถึงจุดพีคภายในไม่เกินห้านาที”
เขากระซิบแล้วดึงกางเกงในเธอลงด้วยมือข้างเดียว แนบแน่น ชำนาญ จากนั้นจูบเธออีกครั้งก่อนปล่อยให้มืออีกข้างแทรกเข้าไประหว่างต้นขากลางร่างเธอร้อนจัดจนเหมือนมีอะไรเต้นตุบ ๆ อยู่ภายใน
มาร์คถอดเข็มขัดออกอย่างเรียบนิ่ง เสียงหัวเข็มขัดโลหะกระทบกันเบา ๆ แต่กลับดังก้องในห้องที่ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะ จีน่านั่งอยู่บนขอบโต๊ะ หายใจหอบจนหน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมใต้เสื้อสายตาของเธอไล่ลงมาที่ปลายเสื้อเชิ้ตของเขาก่อนจะมาหยุดที่เป้ากางเกงที่เริ่มพองตัวขึ้นมาอย่างชัดเจน
“คุณยังไม่ผ่านทุกฟังก์ชัน”
เขาพูดเสียงนิ่ง
“เราจะเข้าสู่การเทสระบบช่องทางบนก่อน”
หญิงสาวรู้ว่าหมายถึงอะไรและเธอไม่ถอย ร่างบางค่อย ๆ เลื่อนตัวลงจากโต๊ะ หัวเข่าแตะพื้นพรมนุ่มเบา ๆ มือเรียวปลดกระดุมกางเกงเขาอย่างมั่นใจ ในขณะที่สายตายังไม่ละจากเขาแม้แต่นิด
พอกางเกงหลุดลง ท่อนเอ็นของเขาก็ผงาดขึ้นตรงหน้า ใหญ่ หนา และร้อน เส้นเลือดปูดแน่นราวกับพร้อมทะลุออกมาจากผิวหนัง มันยาวจนเธอเผลอกลืนน้ำลายอัตโนมัติ
“ไซส์ห้าสิบแปดตามบันทึกแพทย์ประจำบริษัท”
เขากล่าวเรียบ ๆ เหมือนกำลังรายงานข้อมูลทรัพย์สิน
“แต่การใช้งานจริง...ต้องมีปากที่ ‘รับได้’ ถึงจะนับว่าผ่าน QC”
จีน่าไม่ตอบ...เธอเพียงแค่แลบลิ้นแตะที่ปลายก่อนหนึ่งครั้ง เขาสูดลมหายใจเบา ๆ กับสัมผัสแรก จากนั้นเธอก็อมเข้าไปทีละน้อย ลึก ช้า เป็นจังหวะ จนกระทั่งเสียงเขาครางต่ำค่อย ๆ ดังขึ้น
“ระบบในช่องปาก...อบอุ่นดี”
เธอหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเร่งจังหวะใช้มือจับโคนไว้แน่นแล้วรูดขึ้น-ลง พร้อมกับดูดแรงขึ้นทีละระดับ น้ำลายเธอเริ่มไหลเปื้อนมุมปาก แต่เธอไม่สน เพราะเธอรู้ว่ากำลัง ‘ทำงาน’ กับวัตถุดิบระดับท็อปขององค์กรนี้
เขาวางมือบนศีรษะเธอ...ไม่กดแรง แต่คุมจังหวะ เสียงครางในลำคอของเขาเริ่มลึกขึ้น
“ดี…จับจังหวะได้ดี…แน่นดี”
เธอเร่งจังหวะอีกครั้ง ดูดหนักขึ้นและใช้ลิ้นวนรอบหัวหยักอย่างตั้งใจ มาร์คกระตุกสะโพกเล็กน้อย มือของเขาลงน้ำหนักมากขึ้นที่หลังศีรษะเธอ
“อีกนิดเดียว…” เขากระซิบ
แต่ก่อนที่เขาจะปลดปล่อย เขาดึงตัวเธอออกมา พร้อมเสียงหอบเบา ๆ เขาลุกขึ้นยืน แล้วพูดกับหญิงสาวขณะหายใจหอบถี่
“การทดสอบระบบของคุณจะเสร็จสมบูรณ์หลังจากการ ‘รับระบบหลัก’ เท่านั้น...ถ้าผมยังไม่แตก ก็คือการเทสระบบยังไม่สมบูรณ์”
ร่างสูงพูดพลางจับแขนเธอดึงขึ้นมายืน เขาหันตัวเธอกลับ หันหลังชนโต๊ะแล้วดันสะโพกเธอขึ้นไปนั่งใหม่ กระโปรงถูกรูดขึ้นอย่างรวดเร็ว มือของเขาแทรกกลับไปตรงกลางตัวเธออีกครั้ง และพบกับความเปียกเยิ้มที่มากกว่าเดิม
“พร้อมรับระบบหลักแล้วล่ะ…”
เขากระซิบก่อนจะจับท่อนเอ็นแนบเข้าตรงกลางร่างเธอ หัวถูวนอยู่ที่ปากถ้ำร้อนระอุ และเปียกเยิ้ม
“ตอนนี้...” เขามองหน้าเธอ
“เราจะเริ่มต้น onboarding จริง ๆ แล้วนะจีน่า”
ท่อนเอ็นของมาร์คถูกรูดขึ้นช้า ๆ หัวหยักหนานั้นวนคลึงอยู่ที่ปากถ้ำของจีน่า เธอสะดุ้งเล็กน้อย เพราะปลายหัวร้อนผ่าวจนเหมือนแตะโดนแท่งไฟ ร่างกายของเธอตึงแน่นจากฤทธิ์แคปซูล ทุกอย่างไวเกินปกติ แม้แต่ลมหายใจของเขาก็เหมือนแรงพอจะปลุกให้ภายในเธอสั่น
“ถ้าคุณไม่พร้อม ผมจะหยุด”
เขากระซิบข้างหูน้ำเสียงจริงจัง แต่ส่วนหัวของเขากดเข้ามาในตัวเธอแล้วเกือบหนึ่งนิ้ว
“ม..ไม่ต้องหยุดค่ะ…” เสียงเธอสั่น
“ใส่ให้หมดเลยค่ะ คุณมาร์ค”
มาร์คไม่ได้รอช้า เขาดันเอวเข้ามาอย่างช้าๆ เข้ามาในร่องแน่น แรงดันจากสะโพกเขาทำให้ท่อนเอ็นหนานั้นค่อยๆ แทรกเข้ามาทีละนิด ช่องทางของจีน่าตอดรัดแน่นจากฤทธิ์ยา มันทั้งร้อน ทั้งแน่น จนเธอครางหลุดปาก
“อ๊าาา”
“แน่นไปหมดเลย…ตอดดีมาก”
เสียงเขาขาดห้วงจากความเสียว
“ระบบคุณต้านแรงได้ดีมาก…แต่ผมจะกระแทกเข้าไปให้หมด”
เขากระแทกเข้าไปอีกหนึ่งจังหวะ เธอสั่นทั้งตัว มือจิกไหล่เขาแน่น
ตอนนี้ท่อนเอ็นยาวใหญ่แทบทั้งลำเสียบเข้ามาจนมิดโคน เสียงเนื้อกระทบกัน ปั่ก...ปั่ก... ดังชัด น้ำจากร่องของเธอไหลย้อยลงมาตามต้นขาเรียว โต๊ะไม้ใต้ก้นสั่นไหวทุกครั้งที่เขากระแทก
“ฟังก์ชันการรับแรง...ผ่าน”
เขาพูดรอดฟันแล้วกระแทกเข้าไปอีกรัวๆ เสียงเนื้อกระแทกกันตอนนี้ไม่ใช่แค่ดัง แต่มันลั่นทั้งห้องทำงาน
“คะ...คุณมาร์ค... อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา”
เธอร้อง คราง สั่น จนแทบไม่เหลือฟอร์มเลขาคนใหม่ มือของเขาจับสะโพกเธอไว้แน่น ก่อนจะดึงเธอเข้าหา แล้วกระแทกสวนแบบเน้นๆ
“อย่าเพิ่งแตก จีน่า” เขากระซิบ
“เรายังเทสระบบกันไม่ครบ”
เขาดึงตัวเธอลงจากโต๊ะ แล้วจับพลิกหันหลัง จากนั้นดันเธอพิงขอบโต๊ะ มือสองข้างยันไว้ เอวของเขาประกบมาทางด้านหลัง พร้อมเสียบเข้าทีเดียวมิดด้าม
“อ๊าาาา!”
เธอกรีดร้องไม่อายใคร ไม่มีพนักงานคนอื่นอยู่ชั้นนี้ และถ้ามีใครขึ้นมา ก็จะได้ยินแต่เสียงครางที่บอกว่าระบบของจีน่านั้น ไว ตอด และพร้อมรับทุกครั้งที่เขากระแทก
เขากระแทกจากข้างหลังแบบไม่ให้ตั้งตัว ร่างสูงเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้น แรงขึ้น หนักแน่นขึ้น ลึกขึ้นจนเธอต้องร้องเสียงดังเพราะทั้งเสียวและจุกจากการถูกกระแทกด้วยท่อนเอ็นของเขาไปพร้อมกัน
“ผมจะใส่จนคุณจำได้ว่าคุณเป็นทั้ง ‘เลขาของผม’ และ ‘สมบัติของแผนก R&D’”
เขากระซิบกับหลังคอขาวเนียนของเธอก่อนจะกัดเบา ๆ จนเธอเสียวซ่าน มือหนึ่งของเขาล้วงไปบีบหน้าอก อีกมือรูดติ่งเธอพร้อมๆ กับกระแทกเข้าลึกสุดลำ เสียงน้ำจากร่องเสียว เสียงเนื้อที่กระทบกัน และลมหายใจร้อนผ่าวทำให้ห้องทำงานที่ควรเป็นที่เซ็นสัญญากลายเป็นห้องที่เซ็น “การยอมเป็นของเขา” แบบไม่มีเอกสาร
“มาร์ค...มาร์ค…จะแตกแล้วค่ะ!”
เธอกรีดร้องสุดเสียง ร่างเธอกระตุกสองสามจังหวะ รัดเขาจนแทบขยับไม่ได้
“อย่าเพิ่งแตกก่อนผม” เขาครางต่ำ กัดฟันแน่น
“คุณจะต้องรับน้ำของผมไว้ให้หมด…นี่คือเทสระบบขั้นสุดท้าย”
เขาเร่งจังหวะอีกสามที แล้วกระแทกสุดลำ เสียงเนื้อกระทบ ปั่ก!!
ดังสนั่น มาร์คปลดปล่อยเข้าไปเต็มแรง ขณะที่จีน่ากระตุกสะท้านน้ำขุ่นอุ่นพุ่งเข้าสู่ภายในเธอพร้อมแรงกระแทกสุดท้าย
ทั้งคู่หอบหายใจ ร่างของจีน่าฟุบแนบกับโต๊ะมือของเขายังโอบเธอไว้ก่อนจะกระซิบเบาๆ ข้างหู
“ขอต้อนรับเข้าสู่ L.U.S.T Lab คุณจีน่า คุณผ่านขั้นตอนการเทสระบบแล้ว ระบบของคุณตอบสนองได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้มาก”
เสียงหายใจของเธอยังดังเป็นจังหวะไม่สม่ำเสมอ
หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเหนื่อยล้า แต่ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ เป็นเพราะเธอเพิ่งผ่านบททดสอบที่ไม่เคยเจอจากบริษัทไหน
มาร์คยังยืนอยู่ด้านหลัง มือใหญ่ของเขายังวางอยู่บนสะโพกเธอเหมือนยังไม่อยากปล่อย เขาถอนท่อนเอ็นออกอย่างช้าๆ น้ำขาวขุ่นของเขาที่ไหลย้อนออกมาจากช่องทางของเธอ ไหลย้อยลงมาตามขา และหยดลงบนพื้นพรมเปียกจนเป็นวงเล็กๆ
เขาใช้ทิชชู่ในลิ้นชักหยิบออกมาเช็ดให้เธอเบาๆ โดยไม่พูดอะไร แต่มือของเขาอบอุ่น…มั่นคง อย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อยี่สิบนาทีก่อนเลย
หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้น เธอหน้ามืดนิดๆ แต่ยังประคองตัวเองไว้ได้ เธอพิงโต๊ะอยู่ข้างๆ เขา หอบหายใจช้าๆ แล้วหัวเราะเบาๆในลำคอ
“แบบนี้…ต้องทำกับทุกคนที่เข้าบริษัทไหมคะ?”
เขาเลื่อนสายตามามองเธอก่อนจะยกแก้วน้ำเย็นที่เตรียมไว้บนโต๊ะ ส่งให้ก่อนที่จะเทน้ำใส่แก้วของตัวเอง
“เฉพาะคนที่ผ่านการคัดเลือกพิเศษจากผม”
เขาตอบเรียบๆแล้ววางมือลงบนหลังเธอ ลูบเบาๆ ขึ้นลงช้าๆเหมือนเครื่องวัดชีพจรที่ไม่ใช่ดิจิทัล แต่คือปลายนิ้ว
เธอยกแก้วขึ้นจิบ รสเย็นนั้นทำให้เธอได้สติกลับมาเล็กน้อย ขณะเขาหยิบเสื้อสูทตัวบางของเธอขึ้นมาจากพื้น แล้วสลัดฝุ่นเบาๆ
“จะให้ใส่ชุดนี้เดินออกไปเลยเหรอคะ?” เธอยิ้มมุมปาก
“ไม่”
“ผมให้คุณพักอีก 10 นาที แล้วผมจะให้ฝ่ายบุคคลพาไปดูโต๊ะทำงานของคุณ”
“คุณยังให้ฉันเริ่มงานจริง ๆ เหรอคะ หลังจากที่เพิ่ง...”
“ผมเพิ่งทดสอบความสามารถคุณผ่านระบบภายใน”
เขาตัดบทก่อนจะเดินไปหยิบแท็บเล็ต เพื่อเตรียมเอกสารสัญญา
“ตอนนี้ก็ถึงเวลาทดสอบความสามารถด้านเอกสารและ Management”
“แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้...” เธอพูดขึ้นอีกครั้ง
เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตานิ่งสงบ แต่แฝงอะไรบางอย่างที่ทำให้ช่องท้องเธอสั่นวาบไปจนถึงท้องน้อย“เรื่องเมื่อกี้...คือโปรโตคอล S-Level Access” เขาพูดช้าๆ
“และมันจะเกิดขึ้นอีก ถ้าคุณยังรักษาผลการทดลองไว้ได้แบบวันนี้”
เขากดอะไรบางอย่างในแท็บเล็ต แล้วเดินกลับมาหาเธอ มาร์ควางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ แล้วกดหน้าจอสองสามครั้ง จากนั้นเสียงเครื่องพิมพ์ไร้สายก็ดังเบา ๆ จากมุมห้อง จีน่าหันไปมอง...กระดาษ A4 สีขาวถูกปล่อยออกมาทีละแผ่น เขาเดินไปหยิบมา แล้วยื่นให้เธอพร้อมปากกาแท่งเรียบสีดำด้าน
"สัญญาทดลองงาน 90 วัน"
"แต่ไม่ใช่แบบที่คุณเคยเห็นในบริษัทอื่น"
หญิงสาวรับกระดาษมา สายตากวาดผ่านเงื่อนไขในหน้าแรก บางอย่างมันดูเหมือนสัญญาปกติ เว้นเสียแต่...
“Subject agrees to participate in Level S research trials under internal protocol of L.U.S.T Laboratories Co.,Ltd.”
“All bodily reactions, fluids, and expressions during stimulation are considered company data.”
เธอเลิกคิ้ว แต่ไม่ได้ปฏิเสธ เธอเพิ่งเสร็จภายใต้เขา และเธอก็ไม่ได้เสียดายอะไรเลยสักนิด
"เซ็นตรงนี้"
เขาชี้ที่เส้นลายเซ็นด้านล่างแล้ววางมือแนบหลังเธอเบา ๆ
"และคุณจะได้สิทธิ์เข้าถึงห้องทดลองระดับลับของบริษัท"
จีน่ายิ้มมุมปาก
“ไม่มี NDA แนบมาด้วยเหรอคะ?”
“มี...แต่คุณเพิ่งกลืนข้อมูลไปทั้งเม็ดแล้ว” มาร์คกระซิบใกล้หูเธอ
"ตอนนี้คุณเป็นระบบของเราแล้วจีน่า ไม่ต้องทำ confidentiality agreement…เพราะปากคุณมันดีพอที่จะเก็บความลับอยู่แล้ว"
เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วหยิบปากกาขึ้นมือที่ยังสั่นเล็กน้อยจากอาฟเตอร์ช็อคในขั้นตอนเทสระบบ แต่ลายเซ็นของเธอ...มั่นคงพอๆ กับน้ำเสียงครางเมื่อยี่สิบนาทีก่อน... หมึกสีดำถูกจรดลงบนกระดาษ ตามด้วยเสียงกระซิบของมาร์คที่ดังขึ้นอีกครั้งข้างหูเธอ
“ขอต้อนรับเข้าสู่ L.U.S.T Lab อย่างเป็นทางการ...Subject Gina.”
HIDDEN PRAISE ON CLEAN FLOORSพื้นสะอาด แต่หน้าเธอเปื้อนรอยยิ้มเพราะคำหวานของเขา.. แต่หัวใจเขากลับไม่สะอาดเมื่อได้ยินเสียงเธอเรียกชื่อภาษาดอกไม้ที่ซ่อนอยู่ในมุมตึกที่ไม่มีใครเห็นทิ้งร่องรอยรักบนพื้นสะอาด ยามตึกไร้ผู้คนบนชั้น 7 ของ L.U.S.T Company บริษัทเวชภัณฑ์และอาหารเสริมชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดมาตรฐานระดับสากล แต่มีบางมุมที่สะอาดกว่านั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะมีแม่บ้านคนหนึ่งขยันถูทุกเช้า ขัดทุกซอกมุมจนไร้ฝุ่น จนแม้แต่เธอเอง... ก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูก “จ้อง” มากแค่ไหนเช้านี้ เดือน แม่บ้านวัยสี่สิบเก้า นั่งยองเช็ดขอบประตูกระจกทางเข้าชั้น พนักงานหลายคนเดินผ่านไปมาก็แค่พยักหน้าให้ แต่มีแค่คนเดียวที่ไม่เคยปล่อยให้เธอหลุดจากสายตาถัดจากประตูไม่กี่ก้าว สมชาย รปภ.วัยห้าสิบห้า นั่งเอนหลังที่โต๊ะยาม มือซุกในกระเป๋ากางเกง สมุดบันทึกรายชื่อ Visitor ที่มาติดต่อออฟฟิศเปิดค้างอยู่บนโต๊ะตามระเบียบ แต่ดวงตาเขากลับล็อกอยู่ที่รอยเหงื่อบนต้นคอ กับสะโพกกลมของแม่บ้านคนเดิมทุกวันคนอื่นคงมองว่าเธอเป็นแค่แม่บ้านธรรมดา แต่สำหรับสมชาย... เธอเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาลุกจากเก้าอี้ได้ง่ายกว่ายามเปิดประตูให้
หลังจากนั้น ต่างคนต่างกลับเข้าสู่หน้าที่ของตัวเอง สมชายกลับไปนั่งประจำจุดหน้าประตู ส่วนเดือนเดินวนเช็ดพื้นทั้งชั้น เงาของเธอกระทบกับแสงไฟหลอดฟลูออเรสเซนต์บนเพดานเป็นเงาซ้อน เธอไม่ได้มองกลับไปที่โต๊ะ รปภ. เลยแต่สมชายไม่ได้ละสายตาไปไหนเลยเช่นกัน จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน...เดือนพับไม้ถูพื้นเก็บเข้าถัง ใช้ผ้าแห้งเช็ดเหงื่อที่ซึมซับมาทั้งวัน ก่อนหันไปคว้าถุงน้ำยาที่สมชายวางทิ้งไว้หน้าห้องเก็บอุปกรณ์ในตอนบ่ายประตูห้องยังเปิดแง้มอยู่เล็กน้อยเดือนก้มมองพื้นหน้าห้องที่เพิ่งเช็ดไปเมื่อเช้า... เงาวับจนเห็นปลายเท้าตัวเอง“พี่สมชาย…”เธอพูดเบา ๆ เหมือนพูดกับตัวเอง แต่หันไปทางโต๊ะหน้าลิฟต์ ชายร่างสูงที่เพิ่งเก็บบัตร รปภ. เข้ากระเป๋าเสื้อ หันมาทางเธอช้า ๆเดือนยิ้มบาง เอ่ยด้วยเสียงที่เหมือนแค่ถามธรรมดา แต่ปลายเสียงมันละมุนกว่าปกติ“ช่วยมายกของเข้าในนี้หน่อยจ้ะพี่ ถุงมันหนัก…”สมชายไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่ลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงมาหาเธอ แล้วคว้าถุงในมือเธอไปถือแทน ท่าทางเหมือนเดิม ไม่มีคำพูด ไม่มีรอยยิ้ม มีแต่แววตา... ที่เดือนแกล้งทำเป็นไม่เห็นเหมือนทุกทีภายในห้องเก็บของแคบ ๆ มีเพียงแสงจากหลอดไฟเก่า
มือเขาเลื่อนจากโช้คเกอร์ ลงมาที่ไหปลาร้า แล้วลากผ่านเนินอกฉันช้า ๆ แม้ยังอยู่ด้านนอกเสื้อเชิ้ต แต่แค่นี้ก็เหมือนฉันจะขาดใจอยู่แล้ว“แล้วตอนนี้...จะให้ผมทำตามที่คุณเคยพูดในกล้องรึเปล่าครับ”เสียงเขามันไม่ยั่วธรรมดา มันเหมือนปล่อยไฟฟ้าช็อตเส้นประสาทในสมองฉันจนร่างฉันเกือบล้มคาเก้าอี้ ฉันสั่นไปทั้งตัว มือข้างหนึ่งกำชายกระโปรง อีกมือกำขอบโต๊ะแน่นจนเล็บแทบจิกไม้“แล้ว…คุณเอเดนจะทำได้...เหมือนในคลิปนั่นเหรอคะ…”เขาหัวเราะในลำคอ เสียงต่ำแหบเหมือนสัตว์ที่กำลังอดกลั้น“จะให้ผมทำให้ลึกกว่านั้นก็ยังได้ครับ...ถ้าคุณยอม”คำว่า “ยอม” ของเขาไม่ได้หมายถึงลายเซ็นอนุมัติจาก HR มันหมายถึงฉันต้องปลดเกราะ Erika ออกจากโลกออนไลน์ แล้วยกมันให้เขาในโลกจริงตอนนี้ ฉันจ้องหน้าเขา ใกล้จนมองเห็นแววตาสีเข้มที่ไม่มีความเป็นเด็กน้อยอยู่ในนั้นเลยแล้วฉันก็พยักหน้าเบา ๆ แต่ก่อนที่เขาจะจูบฉัน ฉันกระซิบตอบเสียงสั่น“ถ้าคุณทำได้ลึกกว่านั้น...ฉันก็จะยอมให้แค่คนเดียว...”เขาหลุดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา มือเขาประคองท้ายทอยฉันแล้วกดริมฝีปากตัวเองลงมาอย่างแรง จูบนี้มันไม่ใช่จูบของ HR สาว กับหนุ่มไอทีที่เข้ามาเช็คพอร์ต LAN แต่มันคือ
ฉันควรจะตั้งสติให้ได้สักห้าวินาทีก่อนเขาจะเปิดประตูเข้ามา แต่พอเอาเข้าจริง ก็สติหลุดทุกทีที่ได้กลิ่นนี้... เสียงบานประตู HR เปิดเหมือนเดิม กลิ่นชาเขียวผสมส้มแมนดารินตีขึ้นจมูกก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่มาให้เห็นหน้า แค่กลิ่นฉันก็รู้แล้วว่าวันนี้จะไม่จบแค่การซ่อมคอมธรรมดาแน่เอเดนเดินเข้ามาแบบนิ่ง ๆ แต่สายตาเขาไม่เคยนิ่งเลยสำหรับฉันเขามองจอคอมฉันที่ค้างอยู่เหมือนจะซ่อม แต่มืออีกข้างกลับวางบนพนักเก้าอี้ฉันแบบที่ไม่ได้ระวังเลยว่า หัวใจเจ้าของเก้าอี้มันจะเต้นแรงจนจะระเบิดอยู่แล้ว“HRIS ยังงอแงอยู่เหรอครับ?”ฉันพยายามเบือนหน้าหนี ไม่ให้เขาเห็นว่าฉันหน้าแดงไปจนถึงหู เหมือนคนเป็นไข้“ค่ะ มันค้างทั้งระบบ...เพนนีก็จะแพนิคอยู่แล้ว เพราะสลิปคุณจีน่าหาย ถ้าสลิปของคุณมาร์คหายอีกคน ฉันนี่แหละจะตายก่อนเพนนีอีก”เขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เหมือนเขารู้ว่า ฉันพูดประชดไปงั้นแหละ เพราะในหัวฉันตอนนี้ไม่ได้สนสลิปใครหายเลย... สนใจแต่คำเดียวในหัวว่า เขาดูคลิปฉันแล้วหรือยังเขาก้มตัวลงต่ำ สอดมือเข้าไปจัดสายไฟใต้โต๊ะ หัวเขาเกือบชิดต้นขาฉัน ลมหายใจเขาอุ่นจนฉันต้องขมิบขาตัวเองแน่นแบบไม่ให้เขาจับได้ว่าฉันกำลังเสียอาการ“อย
HR CONFIDENTIALหนุ่มไอทีมา “ซ่อมคอม” แต่สิ่งที่เขาค้นพบ…ไม่ใช่แค่บั๊ก หรือปลั๊กหลุดมันคือไฟล์ลับในร่างของ HRที่เขาต้องใช้มือ “ล้วง” เพื่อเข้าถึงระบบถ้าจะมีอะไรที่ฉันเกลียดพอๆกับวันประชุม ก็เช้าวันจันทร์นี่แหละตั้งแต่ฉันสแกนนิ้วเข้าออฟฟิศมา สิ่งแรกที่ฉันเห็นบนหน้าจอคืออีเมลแจ้งลาออกของเด็กใหม่สองคน กับ แฟ้ม onboarding ที่ใครสักคนเอามาวางไว้ผิดโต๊ะ แถมเจ้าของแฟ้มก็ชิ่งลาพักร้อนไปแล้วเรียบร้อย ฉันก็รู้ทันทีเลย ว่าวันนี้ฉันต้องจบด้วยยาพารา 2 เม็ด น้ำเปล่า 1 ขวด และจิตวิญญาณที่อยากวาร์ปกลับไปนอนใต้ผ้าห่มเอาแล้วไง.. ยังไม่ทันจะลุกไปหยิบกาแฟ เสียงปริ๊นเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะด้านซ้าย ก็ดังแกร๊กๆ เหมือนพร้อมลาโลกเต็มที เหมือนหายใจเฮือกสุดท้ายในชีวิต ถ้าสภาพ Printer คือคน มันคงตะโกนว่า “พี่ลิซ...ปล่อยหนูไปเถอะค่ะ หนูจะตายแล้วววว แง...”แต่ฉันยังไม่ทันจะไปกู้ชีพมันได้ ก็เจอสิ่งที่ร้ายแรงกว่าคือหน้าจอ HRIS ของฉันมันประกาศลาโลกไปแล้วค่ะหน้าจอขาวโล่ง มีแค่ไอคอนหมุนติ้วที่โชว์ให้รู้ว่า “ยูจะทำอะไรไม่ได้อีกแล้วจ้ะลิซ”ฉันเคาะคีย์บอร์ดรัวๆ พยายามจะให้มันกลับมาใช้งานได้ปกติ แต่ท่าทางคอมพิวเตอร์ของฉันจ
เธอกระชากมือออกในจังหวะที่ผมเกร็งแทบจะถึงจุด พริบตานั้นผมแทบทรุดลงกับพื้น ร่างกายเหมือนถูกสาปให้ค้างเติ่งกลางคลื่น“ถ้านายยังอยากเก็บตำแหน่งนี้ไว้...” เธอเชิดหน้าขึ้น“ก็จงเรียนรู้ที่จะ ควบคุมตัวเอง...เหมือนที่ฉันควบคุมนายได้ทุกวินาทีตอนนี้”ผมได้แต่นั่งนิ่ง หายใจหอบ ไม่กล้าขยับแม้แต่เพียงปลายนิ้ว เพราะต่อให้ผมแข็งขนาดไหน...แต่เธอต่างหากที่ ‘แข็งกว่า’"ถอดกางเกงลง"เสียงเธอนุ่ม...แต่ทรงอำนาจกว่าประโยคคำสั่งจากนายใหญ่คนไหนที่ผมเคยเจอในชีวิต ผมชะงักไปชั่วครู่ กำลังประมวลว่าเธอพูดเล่น...หรือทดสอบ"ถ้าช้ากว่านี้อีกนิด ฉันจะนับเป็นข้อเสียใน performance review ปลายไตรมาส"ผมแทบไม่ได้คิดอะไรต่อ หัวสมองว่างเปล่าเพราะเลือดไปกองที่ปลายลำทั้งหมด มือของผมปลดเข็มขัดออกอย่างว่าง่าย กางเกงสแล็คสีดำไถลลงมากองที่ข้อเท้าแท่งเนื้อของผมกระเด้งออกมาจนสุด สีชมพูเข้ม เส้นเลือดปูดแน่น ปลายบาน มันยืนตรงราวกับต้องการประกาศความภักดีต่อเธอ ผมเห็นเธอเลิกคิ้วเล็กน้อย...ก่อนจะยิ้มมุมปาก"นายต้องการมันมากใช่ไหม?"เสียงของเธอนุ่ม แต่มีพลัง เธอแตะปลายหัวเบา ๆ ด้วยนิ้วชี้ แล้วเปลี่ยนเป็นใช้นิ้วเท้าเขี่ยเบา ๆ ที่โคนแท่






