ปลายนิ้วของเขาแตะลงบนผ้าบางที่เปียกชื้นจนเห็นบริเวณนั้นของเธอได้อย่างชัดเจน
“ระบบร้อนจัด"
"น่าจะถึงจุดพีคภายในไม่เกินห้านาที”
เขากระซิบแล้วดึงกางเกงในเธอลงด้วยมือข้างเดียว แนบแน่น ชำนาญ จากนั้นจูบเธออีกครั้งก่อนปล่อยให้มืออีกข้างแทรกเข้าไประหว่างต้นขากลางร่างเธอร้อนจัดจนเหมือนมีอะไรเต้นตุบ ๆ อยู่ภายใน
มาร์คถอดเข็มขัดออกอย่างเรียบนิ่ง เสียงหัวเข็มขัดโลหะกระทบกันเบา ๆ แต่กลับดังก้องในห้องที่ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะ จีน่านั่งอยู่บนขอบโต๊ะ หายใจหอบจนหน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมใต้เสื้อสายตาของเธอไล่ลงมาที่ปลายเสื้อเชิ้ตของเขาก่อนจะมาหยุดที่เป้ากางเกงที่เริ่มพองตัวขึ้นมาอย่างชัดเจน
“คุณยังไม่ผ่านทุกฟังก์ชัน”
เขาพูดเสียงนิ่ง
“เราจะเข้าสู่การเทสระบบช่องทางบนก่อน”
หญิงสาวรู้ว่าหมายถึงอะไรและเธอไม่ถอย ร่างบางค่อย ๆ เลื่อนตัวลงจากโต๊ะ หัวเข่าแตะพื้นพรมนุ่มเบา ๆ มือเรียวปลดกระดุมกางเกงเขาอย่างมั่นใจ ในขณะที่สายตายังไม่ละจากเขาแม้แต่นิด
พอกางเกงหลุดลง ท่อนเอ็นของเขาก็ผงาดขึ้นตรงหน้า ใหญ่ หนา และร้อน เส้นเลือดปูดแน่นราวกับพร้อมทะลุออกมาจากผิวหนัง มันยาวจนเธอเผลอกลืนน้ำลายอัตโนมัติ
“ไซส์ห้าสิบแปดตามบันทึกแพทย์ประจำบริษัท”
เขากล่าวเรียบ ๆ เหมือนกำลังรายงานข้อมูลทรัพย์สิน
“แต่การใช้งานจริง...ต้องมีปากที่ ‘รับได้’ ถึงจะนับว่าผ่าน QC”
จีน่าไม่ตอบ...เธอเพียงแค่แลบลิ้นแตะที่ปลายก่อนหนึ่งครั้ง เขาสูดลมหายใจเบา ๆ กับสัมผัสแรก จากนั้นเธอก็อมเข้าไปทีละน้อย ลึก ช้า เป็นจังหวะ จนกระทั่งเสียงเขาครางต่ำค่อย ๆ ดังขึ้น
“ระบบในช่องปาก...อบอุ่นดี”
เธอหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเร่งจังหวะใช้มือจับโคนไว้แน่นแล้วรูดขึ้น-ลง พร้อมกับดูดแรงขึ้นทีละระดับ น้ำลายเธอเริ่มไหลเปื้อนมุมปาก แต่เธอไม่สน เพราะเธอรู้ว่ากำลัง ‘ทำงาน’ กับวัตถุดิบระดับท็อปขององค์กรนี้
เขาวางมือบนศีรษะเธอ...ไม่กดแรง แต่คุมจังหวะ เสียงครางในลำคอของเขาเริ่มลึกขึ้น
“ดี…จับจังหวะได้ดี…แน่นดี”
เธอเร่งจังหวะอีกครั้ง ดูดหนักขึ้นและใช้ลิ้นวนรอบหัวหยักอย่างตั้งใจ มาร์คกระตุกสะโพกเล็กน้อย มือของเขาลงน้ำหนักมากขึ้นที่หลังศีรษะเธอ
“อีกนิดเดียว…” เขากระซิบ
แต่ก่อนที่เขาจะปลดปล่อย เขาดึงตัวเธอออกมา พร้อมเสียงหอบเบา ๆ เขาลุกขึ้นยืน แล้วพูดกับหญิงสาวขณะหายใจหอบถี่
“การทดสอบระบบของคุณจะเสร็จสมบูรณ์หลังจากการ ‘รับระบบหลัก’ เท่านั้น...ถ้าผมยังไม่แตก ก็คือการเทสระบบยังไม่สมบูรณ์”
ร่างสูงพูดพลางจับแขนเธอดึงขึ้นมายืน เขาหันตัวเธอกลับ หันหลังชนโต๊ะแล้วดันสะโพกเธอขึ้นไปนั่งใหม่ กระโปรงถูกรูดขึ้นอย่างรวดเร็ว มือของเขาแทรกกลับไปตรงกลางตัวเธออีกครั้ง และพบกับความเปียกเยิ้มที่มากกว่าเดิม
“พร้อมรับระบบหลักแล้วล่ะ…”
เขากระซิบก่อนจะจับท่อนเอ็นแนบเข้าตรงกลางร่างเธอ หัวถูวนอยู่ที่ปากถ้ำร้อนระอุ และเปียกเยิ้ม
“ตอนนี้...” เขามองหน้าเธอ
“เราจะเริ่มต้น onboarding จริง ๆ แล้วนะจีน่า”
ท่อนเอ็นของมาร์คถูกรูดขึ้นช้า ๆ หัวหยักหนานั้นวนคลึงอยู่ที่ปากถ้ำของจีน่า เธอสะดุ้งเล็กน้อย เพราะปลายหัวร้อนผ่าวจนเหมือนแตะโดนแท่งไฟ ร่างกายของเธอตึงแน่นจากฤทธิ์แคปซูล ทุกอย่างไวเกินปกติ แม้แต่ลมหายใจของเขาก็เหมือนแรงพอจะปลุกให้ภายในเธอสั่น
“ถ้าคุณไม่พร้อม ผมจะหยุด”
เขากระซิบข้างหูน้ำเสียงจริงจัง แต่ส่วนหัวของเขากดเข้ามาในตัวเธอแล้วเกือบหนึ่งนิ้ว
“ม..ไม่ต้องหยุดค่ะ…” เสียงเธอสั่น
“ใส่ให้หมดเลยค่ะ คุณมาร์ค”
มาร์คไม่ได้รอช้า เขาดันเอวเข้ามาอย่างช้าๆ เข้ามาในร่องแน่น แรงดันจากสะโพกเขาทำให้ท่อนเอ็นหนานั้นค่อยๆ แทรกเข้ามาทีละนิด ช่องทางของจีน่าตอดรัดแน่นจากฤทธิ์ยา มันทั้งร้อน ทั้งแน่น จนเธอครางหลุดปาก
“อ๊าาา”
“แน่นไปหมดเลย…ตอดดีมาก”
เสียงเขาขาดห้วงจากความเสียว
“ระบบคุณต้านแรงได้ดีมาก…แต่ผมจะกระแทกเข้าไปให้หมด”
เขากระแทกเข้าไปอีกหนึ่งจังหวะ เธอสั่นทั้งตัว มือจิกไหล่เขาแน่น
ตอนนี้ท่อนเอ็นยาวใหญ่แทบทั้งลำเสียบเข้ามาจนมิดโคน เสียงเนื้อกระทบกัน ปั่ก...ปั่ก... ดังชัด น้ำจากร่องของเธอไหลย้อยลงมาตามต้นขาเรียว โต๊ะไม้ใต้ก้นสั่นไหวทุกครั้งที่เขากระแทก
“ฟังก์ชันการรับแรง...ผ่าน”
เขาพูดรอดฟันแล้วกระแทกเข้าไปอีกรัวๆ เสียงเนื้อกระแทกกันตอนนี้ไม่ใช่แค่ดัง แต่มันลั่นทั้งห้องทำงาน
“คะ...คุณมาร์ค... อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา”
เธอร้อง คราง สั่น จนแทบไม่เหลือฟอร์มเลขาคนใหม่ มือของเขาจับสะโพกเธอไว้แน่น ก่อนจะดึงเธอเข้าหา แล้วกระแทกสวนแบบเน้นๆ
“อย่าเพิ่งแตก จีน่า” เขากระซิบ
“เรายังเทสระบบกันไม่ครบ”
เขาดึงตัวเธอลงจากโต๊ะ แล้วจับพลิกหันหลัง จากนั้นดันเธอพิงขอบโต๊ะ มือสองข้างยันไว้ เอวของเขาประกบมาทางด้านหลัง พร้อมเสียบเข้าทีเดียวมิดด้าม
“อ๊าาาา!”
เธอกรีดร้องไม่อายใคร ไม่มีพนักงานคนอื่นอยู่ชั้นนี้ และถ้ามีใครขึ้นมา ก็จะได้ยินแต่เสียงครางที่บอกว่าระบบของจีน่านั้น ไว ตอด และพร้อมรับทุกครั้งที่เขากระแทก
เขากระแทกจากข้างหลังแบบไม่ให้ตั้งตัว ร่างสูงเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้น แรงขึ้น หนักแน่นขึ้น ลึกขึ้นจนเธอต้องร้องเสียงดังเพราะทั้งเสียวและจุกจากการถูกกระแทกด้วยท่อนเอ็นของเขาไปพร้อมกัน
“ผมจะใส่จนคุณจำได้ว่าคุณเป็นทั้ง ‘เลขาของผม’ และ ‘สมบัติของแผนก R&D’”
เขากระซิบกับหลังคอขาวเนียนของเธอก่อนจะกัดเบา ๆ จนเธอเสียวซ่าน มือหนึ่งของเขาล้วงไปบีบหน้าอก อีกมือรูดติ่งเธอพร้อมๆ กับกระแทกเข้าลึกสุดลำ เสียงน้ำจากร่องเสียว เสียงเนื้อที่กระทบกัน และลมหายใจร้อนผ่าวทำให้ห้องทำงานที่ควรเป็นที่เซ็นสัญญากลายเป็นห้องที่เซ็น “การยอมเป็นของเขา” แบบไม่มีเอกสาร
“มาร์ค...มาร์ค…จะแตกแล้วค่ะ!”
เธอกรีดร้องสุดเสียง ร่างเธอกระตุกสองสามจังหวะ รัดเขาจนแทบขยับไม่ได้
“อย่าเพิ่งแตกก่อนผม” เขาครางต่ำ กัดฟันแน่น
“คุณจะต้องรับน้ำของผมไว้ให้หมด…นี่คือเทสระบบขั้นสุดท้าย”
เขาเร่งจังหวะอีกสามที แล้วกระแทกสุดลำ เสียงเนื้อกระทบ ปั่ก!!
ดังสนั่น มาร์คปลดปล่อยเข้าไปเต็มแรง ขณะที่จีน่ากระตุกสะท้านน้ำขุ่นอุ่นพุ่งเข้าสู่ภายในเธอพร้อมแรงกระแทกสุดท้าย
ทั้งคู่หอบหายใจ ร่างของจีน่าฟุบแนบกับโต๊ะมือของเขายังโอบเธอไว้ก่อนจะกระซิบเบาๆ ข้างหู
“ขอต้อนรับเข้าสู่ L.U.S.T Lab คุณจีน่า คุณผ่านขั้นตอนการเทสระบบแล้ว ระบบของคุณตอบสนองได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้มาก”
เสียงหายใจของเธอยังดังเป็นจังหวะไม่สม่ำเสมอ
หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเหนื่อยล้า แต่ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ เป็นเพราะเธอเพิ่งผ่านบททดสอบที่ไม่เคยเจอจากบริษัทไหน
มาร์คยังยืนอยู่ด้านหลัง มือใหญ่ของเขายังวางอยู่บนสะโพกเธอเหมือนยังไม่อยากปล่อย เขาถอนท่อนเอ็นออกอย่างช้าๆ น้ำขาวขุ่นของเขาที่ไหลย้อนออกมาจากช่องทางของเธอ ไหลย้อยลงมาตามขา และหยดลงบนพื้นพรมเปียกจนเป็นวงเล็กๆ
เขาใช้ทิชชู่ในลิ้นชักหยิบออกมาเช็ดให้เธอเบาๆ โดยไม่พูดอะไร แต่มือของเขาอบอุ่น…มั่นคง อย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อยี่สิบนาทีก่อนเลย
หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้น เธอหน้ามืดนิดๆ แต่ยังประคองตัวเองไว้ได้ เธอพิงโต๊ะอยู่ข้างๆ เขา หอบหายใจช้าๆ แล้วหัวเราะเบาๆในลำคอ
“แบบนี้…ต้องทำกับทุกคนที่เข้าบริษัทไหมคะ?”
เขาเลื่อนสายตามามองเธอก่อนจะยกแก้วน้ำเย็นที่เตรียมไว้บนโต๊ะ ส่งให้ก่อนที่จะเทน้ำใส่แก้วของตัวเอง
“เฉพาะคนที่ผ่านการคัดเลือกพิเศษจากผม”
เขาตอบเรียบๆแล้ววางมือลงบนหลังเธอ ลูบเบาๆ ขึ้นลงช้าๆเหมือนเครื่องวัดชีพจรที่ไม่ใช่ดิจิทัล แต่คือปลายนิ้ว
เธอยกแก้วขึ้นจิบ รสเย็นนั้นทำให้เธอได้สติกลับมาเล็กน้อย ขณะเขาหยิบเสื้อสูทตัวบางของเธอขึ้นมาจากพื้น แล้วสลัดฝุ่นเบาๆ
“จะให้ใส่ชุดนี้เดินออกไปเลยเหรอคะ?” เธอยิ้มมุมปาก
“ไม่”
“ผมให้คุณพักอีก 10 นาที แล้วผมจะให้ฝ่ายบุคคลพาไปดูโต๊ะทำงานของคุณ”
“คุณยังให้ฉันเริ่มงานจริง ๆ เหรอคะ หลังจากที่เพิ่ง...”
“ผมเพิ่งทดสอบความสามารถคุณผ่านระบบภายใน”
เขาตัดบทก่อนจะเดินไปหยิบแท็บเล็ต เพื่อเตรียมเอกสารสัญญา
“ตอนนี้ก็ถึงเวลาทดสอบความสามารถด้านเอกสารและ Management”
“แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้...” เธอพูดขึ้นอีกครั้ง
เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตานิ่งสงบ แต่แฝงอะไรบางอย่างที่ทำให้ช่องท้องเธอสั่นวาบไปจนถึงท้องน้อย“เรื่องเมื่อกี้...คือโปรโตคอล S-Level Access” เขาพูดช้าๆ
“และมันจะเกิดขึ้นอีก ถ้าคุณยังรักษาผลการทดลองไว้ได้แบบวันนี้”
เขากดอะไรบางอย่างในแท็บเล็ต แล้วเดินกลับมาหาเธอ มาร์ควางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ แล้วกดหน้าจอสองสามครั้ง จากนั้นเสียงเครื่องพิมพ์ไร้สายก็ดังเบา ๆ จากมุมห้อง จีน่าหันไปมอง...กระดาษ A4 สีขาวถูกปล่อยออกมาทีละแผ่น เขาเดินไปหยิบมา แล้วยื่นให้เธอพร้อมปากกาแท่งเรียบสีดำด้าน
"สัญญาทดลองงาน 90 วัน"
"แต่ไม่ใช่แบบที่คุณเคยเห็นในบริษัทอื่น"
หญิงสาวรับกระดาษมา สายตากวาดผ่านเงื่อนไขในหน้าแรก บางอย่างมันดูเหมือนสัญญาปกติ เว้นเสียแต่...
“Subject agrees to participate in Level S research trials under internal protocol of L.U.S.T Laboratories Co.,Ltd.”
“All bodily reactions, fluids, and expressions during stimulation are considered company data.”
เธอเลิกคิ้ว แต่ไม่ได้ปฏิเสธ เธอเพิ่งเสร็จภายใต้เขา และเธอก็ไม่ได้เสียดายอะไรเลยสักนิด
"เซ็นตรงนี้"
เขาชี้ที่เส้นลายเซ็นด้านล่างแล้ววางมือแนบหลังเธอเบา ๆ
"และคุณจะได้สิทธิ์เข้าถึงห้องทดลองระดับลับของบริษัท"
จีน่ายิ้มมุมปาก
“ไม่มี NDA แนบมาด้วยเหรอคะ?”
“มี...แต่คุณเพิ่งกลืนข้อมูลไปทั้งเม็ดแล้ว” มาร์คกระซิบใกล้หูเธอ
"ตอนนี้คุณเป็นระบบของเราแล้วจีน่า ไม่ต้องทำ confidentiality agreement…เพราะปากคุณมันดีพอที่จะเก็บความลับอยู่แล้ว"
เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วหยิบปากกาขึ้นมือที่ยังสั่นเล็กน้อยจากอาฟเตอร์ช็อคในขั้นตอนเทสระบบ แต่ลายเซ็นของเธอ...มั่นคงพอๆ กับน้ำเสียงครางเมื่อยี่สิบนาทีก่อน... หมึกสีดำถูกจรดลงบนกระดาษ ตามด้วยเสียงกระซิบของมาร์คที่ดังขึ้นอีกครั้งข้างหูเธอ
“ขอต้อนรับเข้าสู่ L.U.S.T Lab อย่างเป็นทางการ...Subject Gina.”
เธอกระชากมือออกในจังหวะที่ผมเกร็งแทบจะถึงจุด พริบตานั้นผมแทบทรุดลงกับพื้น ร่างกายเหมือนถูกสาปให้ค้างเติ่งกลางคลื่น“ถ้านายยังอยากเก็บตำแหน่งนี้ไว้...” เธอเชิดหน้าขึ้น“ก็จงเรียนรู้ที่จะ ควบคุมตัวเอง...เหมือนที่ฉันควบคุมนายได้ทุกวินาทีตอนนี้”ผมได้แต่นั่งนิ่ง หายใจหอบ ไม่กล้าขยับแม้แต่เพียงปลายนิ้ว เพราะต่อให้ผมแข็งขนาดไหน...แต่เธอต่างหากที่ ‘แข็งกว่า’"ถอดกางเกงลง"เสียงเธอนุ่ม...แต่ทรงอำนาจกว่าประโยคคำสั่งจากนายใหญ่คนไหนที่ผมเคยเจอในชีวิต ผมชะงักไปชั่วครู่ กำลังประมวลว่าเธอพูดเล่น...หรือทดสอบ"ถ้าช้ากว่านี้อีกนิด ฉันจะนับเป็นข้อเสียใน performance review ปลายไตรมาส"ผมแทบไม่ได้คิดอะไรต่อ หัวสมองว่างเปล่าเพราะเลือดไปกองที่ปลายลำทั้งหมด มือของผมปลดเข็มขัดออกอย่างว่าง่าย กางเกงสแล็คสีดำไถลลงมากองที่ข้อเท้าแท่งเนื้อของผมกระเด้งออกมาจนสุด สีชมพูเข้ม เส้นเลือดปูดแน่น ปลายบาน มันยืนตรงราวกับต้องการประกาศความภักดีต่อเธอ ผมเห็นเธอเลิกคิ้วเล็กน้อย...ก่อนจะยิ้มมุมปาก"นายต้องการมันมากใช่ไหม?"เสียงของเธอนุ่ม แต่มีพลัง เธอแตะปลายหัวเบา ๆ ด้วยนิ้วชี้ แล้วเปลี่ยนเป็นใช้นิ้วเท้าเขี่ยเบา ๆ ที่โคนแท่
“คุณยังเชื่อใน ‘ตัวเลข’ อยู่ไหมคะเรย์?”เสียงเธอดังเบา ๆ ข้างใบหู ผมหายใจขัดเล็กน้อย...ผมกลัวเธอนะแต่ผมก็อยากให้เธอพูดต่อ อยากให้เธอเข้าใกล้อีก อยากให้เธอกระซิบอะไรอีก ความรู้สึกทั้งหมดมันย้อนแย้ง เหมือนโดนเหยียบคอแต่กลับอยากอยู่ใต้ส้นรองเท้านั้นอีกหน่อย"ผม..."ผมพยายามเปล่งเสียง แต่ลำคอกลับแห้งผาก ริมฝีปากแทบไม่ขยับ"ครับ? คุณยังเชื่อแบบนั้นใช่ไหม?"เธอถามกลับ พร้อมวางมือเบา ๆ บนพนักเก้าอี้หลังผม ไม่แตะตัว ไม่ล่วงล้ำ แต่ความรู้สึกมันเหมือนถูก “จ้อง” ทุกความลับที่ซ่อนอยู่ในใจใช่... เธอรู้ว่าผมรู้สึกยังไง เธอรู้ว่าผม ‘กลัว’ และเธอก็รู้ว่า ‘ความกลัว’ นั้นมันกลายร่างเป็นความต้องการไปแล้วคุณซันนี่ยืนอยู่ข้างเก้าอี้ของผม เงาของเธอทาบทับลงมาบนร่าง ทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกคุมคามในทุกมิติ เธอเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาของเธอคมกริบแต่กลับมีประกายบางอย่างที่ทำให้ผมไม่สามารถละสายตาได้"คุณพยายามจะเอาชนะฉันด้วยตรรกะ เรย์"เธอพูดเสียงกระซิบข้างใบหูของผม ลมหายใจอุ่นๆ ของเธอทำให้ผมขนลุกซู่"แต่บางครั้ง...การยอมรับว่ามีบางสิ่งที่ 'เหนือกว่า' ตรรกะของคุณ...ก็เป็นส่วนหนึ่งของ 'ความก้าวหน้า' ที่แท้จริง"มือ
DATA SUBMISSIONผมเคยคิดว่าผมเข้าใจความหมายของ ‘อำนาจ’จนกระทั่งเธอหันมามองเฉย ๆ แล้วผมต้องคุกเข่า... โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรผมเคยคิดว่าห้องประชุมคือสถานที่สำหรับถกเถียงแต่ตอนนี้มันเหมือนห้องลงโทษ…ที่ผมกลายเป็นผู้ต้องหาแม้แอร์ในห้องจะเย็นจนทำให้ผมขนลุก แต่ฝ่ามือของผมกลับมีเหงื่อซึม…นิ้วที่เคยพิมพ์โค้ดอย่างมั่นคง เริ่มสั่น... คนที่อยู่ตรงข้ามผม คือ Chief Innovation Officer (CIO) หญิงสาวที่คนทั้งออฟฟิศเรียกว่า ‘Queen of Vision’ แต่ผมเรียกเธอในใจว่า ‘นางพญางูขาว’ สำหรับผมแล้วเธอคือ ภัยพิบัติที่มาในรูปแบบของคนสวยที่ถือข้อมูลในแท็บเล็ตเหมือนถือมีดผ่าตัด"ผมยืนยันในผลวิเคราะห์เดิมครับคุณซันนี่"ผมเอ่ยเสียงเรียบ มั่นคงเหมือนบล็อกข้อมูลที่ผมใช้สร้างระบบความปลอดภัย"โปรเจกต์ 'Quantum Leap' ที่คุณเสนอ มีอัตราความล้มเหลวสูงถึง 78% ถ้าอิงจากฐานข้อมูลผู้บริโภคและเทรนด์ตลาดในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา"ผมเลื่อนแท็บเล็ตที่แสดงกราฟสีแดงฉานไปข้างหน้า มือเธอไม่ได้เอื้อมมาแตะ…แค่เหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมรอยยิ้มของเธอมาอย่างแผ่วเบา แต่ชัดเจน เหมือนไฟที่ไหม้ช้า ๆ ในห้องเก็บเอกสาร
เขายังพยายามพูดเป็นวิทยาศาสตร์ ทั้งที่เสียงหายใจของเขาเองเริ่มผิดจังหวะ และเธอรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิฝ่ามือของเขาที่ร้อนจัดจนน่ากลัว ร้อนจนรู้สึกเหมือนเขาฝังพลังงานบางอย่างลงในร่างกายเธอ“พี่เจมส์...มัน...มันรู้สึกไปหมดเลยค่ะ”“นั่นแหละสิ่งที่เราต้องการ” เขาพึมพำเสียงต่ำ“ชัดเจนทุกประสาทสัมผัส จดจำทุกแรงกระแทก ทุกเสียงคราง... ทุกครั้งที่พี่อยู่ในตัวมีนา”ดร.เจมส์ก้มลง ใช้ปลายลิ้นแตะเบา ๆ ที่ยอดติ่งที่ยังไม่เคยถูกใครสัมผัสมาก่อน มีนาสะดุ้งเฮือก ร่างกายเกร็งแน่น เสียงครางหลุดลอดออกมาทันทีแบบไม่ตั้งใจ“อ๊ะ...พะ...พี่เจมส์...” เธอเรียกชื่อเขาอย่างไม่รู้ตัว“ชู่ว์...” เขาผละหน้าขึ้นมาเล็กน้อย“ทุกเสียงคือ data นะครับ อย่ากลั้นไว้”แล้วเขาก็ซุกหน้ากลับลงไป ลิ้นเขาทำงานร่วมกับสองนิ้วที่แย้มกลีบออกอย่างเบามือเพื่อให้การตรวจสอบแม่นยำที่สุด เสียงดูด ลาก ลิ้นแตะอย่างมีจังหวะ ทำให้ต้นขาของมีนาสั่นจนเธอต้องจิกผ้าปูเตียงแน่น“อื๊อออออ...มะ...ไม่ไหว...”เขายังไม่หยุด จนกระทั่งเธอกระตุกเบา ๆ เป็นรอบแรก ร่างกายเหมือนถูกดูดพลังออกไปชั่วขณะ ดร.เจมส์ค่อย ๆ ผละตัวออก แล้วเลื่อนตัวขึ้นมายืนเต็มความสูง แล้วปลด
คำพูดนั้นเล่นเอาเธอชะงักไปครึ่งจังหวะ ไม่ใช่แค่เพราะความหมายของมัน แต่เพราะสายตาเขาขณะพูดมันออกมา“งั้น...เริ่มเลยไหมคะ”“เริ่มเลยครับ เดี๋ยวพี่จะอธิบายไปด้วย”ดร.เจมส์หยด Sense Enhancer ลงใต้ลิ้นเธออย่างระวัง“มันจะเริ่มทำงานภายใน 40 วินาที ช่วงนี้มีนานั่งนิ่ง ๆก่อนนะครับ”เธอพยักหน้า พลางสูดลมหายใจลึก สัมผัสแรกคือความเย็นวาบราวกับมิ้นต์แรง ๆ ตามมาด้วยความรู้สึกชาเบา ๆ และในที่สุด...ความไวประสาทเริ่มก่อตัวขึ้นที่ริมฝีปาก ลามไปถึงต้นคอเขาหยิบ Bio-Vibration Patch ออกมาจากกล่องแยก แผ่นแปะขนาดเล็กเท่าเหรียญสิบ แต่ปล่อยคลื่นไฟฟ้าระดับนาโนที่ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันเฉพาะ“พี่จะติดตรงบั้นเอว และต้นขานะครับ”“...ค่ะ”มือเขาแนบเบา ๆ ตรงช่วงเอวด้านหลังของเธอ อุณหภูมิจากฝ่ามือที่อุ่นแต่ไม่หยาบ ทำให้เธอเผลอขนลุกวาบทั้งแผ่นหลัง พอแผ่นแปะชิ้นแรกแนบผิว...เธอสะดุ้งนิด ๆ“วาบเลยอะ...”“แสดงว่าร่างกายเริ่มตอบสนองแล้ว ดีมาก”กลิ่นหอมบางอย่างจาก Aroma-Stimulator ค่อย ๆ กระจายทั่วห้อง มันไม่ฉุน ไม่หวาน แต่มีกลิ่นคล้ายฟีโรโมนของผู้ชายเวลาพึ่งอาบน้ำเสร็จ ผสมกลิ่นหนังแท้บาง ๆ กับกลิ่นของหนังสือเก่า“พี่เจมส์
INTERNSHIP : Hands-On Trainingเธอคิดว่านี่คือการฝึกงานธรรมดา แต่การทดลองครั้งแรกของเธอ...ไม่ใช่ในห้องแล็บมันเริ่มจากการถูก “สัมผัส” และจบลงที่การ “เปิดโลก”ในแบบที่ตำราไม่เคยสอนL.U.S.T Lab คือชื่อที่ใคร ๆ ในสายเภสัชและโภชนาการต่างรู้จักกันดี บริษัทนี้คือผู้นำด้านเวชภัณฑ์เพื่อความงาม วิตามิน คอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงผิว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีหน้าตาเรียบหรูสะอาดตา วางขายตามร้านขายยา และห้างสรรพสินค้าทั่วไปและนี่คือเหตุผลที่ ‘มีนา’ เด็กสาวเรียบร้อยจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยชั้นนำ เลือกที่นี่เป็นสถานที่ฝึกงาน เธอหวังว่าประสบการณ์ในบริษัทนี้จะเป็นใบเบิกทางที่ดีให้กับอนาคตการทำงานในสาย Biotech หลังเรียนจบ เธอไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าความมั่นคง สถานที่ทำงานดี ๆ และประวัติการฝึกงานที่ดูน่าเชื่อถือในเรซูเม่ แต่มีนาไม่รู้เลยว่า “ความงาม” ที่แท้จริงของบริษัทนี้ ไม่ได้อยู่แค่ในสารสกัดจากส้มยูสุ หรือวิตามินซีโมเลกุลใหม่...แต่มันซ่อนอยู่ในห้องลับชั้นใต้ดิน ที่ไม่มีใครเข้าถึงได้ ถ้าไม่ถูก “เลือก” และเธอ... ถูกเลือกแล้วกึก... กึก... กึก...เสียงรองเท้าส้นเตี้ยของมีนาเดินไปตามพื้นกระเบื้