LOGINแต่ละแผนกมีงานของตัวเอง แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังประตูห้องประชุม ห้องเก็บของ ไปจนถึงห้องทำงานของCEO คือเรื่องราวของ “เขาและเธอ” ที่ไม่มีใครกล้าบันทึกในรีพอร์ต เพราะที่นี่...เสียวกว่าออฟฟิศใดๆ ในมหานครที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งเชื้อชาติ และรสนิยมบนเตียง
View MoreONBOARDING
วันแรกของเธอควรจะมีแค่แฟ้มเอกสาร และระบบ Finger Scan แต่สิ่งแรกที่เขาขอให้เธอใช้…คือปาก
เวลา 8.40 น. ชั้น 11 สำนักงานใหญ่ L.U.S.T Laboratories
เสียงส้นสูงของเธอดังเบา ๆ บนพื้นกระเบื้องในโซนผู้บริหาร จีน่าเดินผ่านผนังกระจกใสที่เผยให้เห็นเส้นขอบฟ้าของเมืองในยามเช้า เธอเตรียมตัวมาอย่างดีสำหรับวันแรกในชุดสูทสีเทาอ่อนที่สั่งตัดพิเศษ
เลขาคนเก่าของ CEO เพิ่งลาออกไปเพราะต้องย้ายประเทศตามสามีที่เพิ่งแต่งงานกันไปเมื่อไม่นานนี้ และเธอ.. หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆที่เพิ่งเข้ามาทำงานในตำแหน่ง “Personal Executive Assistant” ก็ได้รับอีเมลจาก HR เรียกให้เข้าไปพบ “คุณมาร์ค” ก่อน 9 โมงเช้า
จีน่าก้าวเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง บรรยากาศด้านในเงียบเกินกว่าจะเป็นเพียงห้องทำงานธรรมดา แสงแดดที่ลอดม่านโปร่งสีขาวนั้นทอดเงาลงบนโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้ม เธอเดินตรงไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วนั่งลงช้าๆ
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นอย่างมั่นคง ราวกับเขาเฝ้ารอวินาทีนี้อยู่แล้ว ดวงตาสีเทาเข้มของเขาจับจ้องที่เธอโดยไม่กระพริบ"คุณจีน่า.." เขาเอ่ยช้า ๆ เสียงทุ้มเรียบแต่หนักแน่น
“ผมชอบคนที่มาตรงเวลา”
เธอยิ้มบาง ๆ พยายามควบคุมลมหายใจไม่ให้สั่น
"ฉันเชื่อว่าความประทับใจแรก เริ่มต้นจากเรื่องง่าย ๆ แบบนั้นค่ะ”
เขาพยักหน้าช้า ๆ แล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทีผ่อนคลาย
มือของเขาวางอยู่บนแฟ้มบางเล่มหนึ่ง ซึ่งถูกดันมาขอบโต๊ะ
“นี่คือโปรไฟล์ของคุณ…จาก HR” เขาวางมือบนแฟ้มโดยไม่เปิด
“แต่ผมไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นเขียนเกี่ยวกับคุณหรอก ที่ผมอยากรู้คือคุณจะ ‘ทำงานกับผม’ ได้แค่ไหน”
คำว่า “ทำงาน” ในประโยคนั้น ถูกเน้นเสียงแผ่วเบาไม่มากพอจะถือว่าไม่เหมาะสม แต่มากพอจะทำให้หัวเข่าของเธออ่อนแรงชั่วครู่
“เอาแล้ว..จีน่า วันแรกก็โดนเทสระบบซะแล้ว” หญิงสาวคิดในใจ
เธอไม่ตอบทันที แค่ยิ้มเล็กน้อยในแบบที่เธอมั่นใจว่าดูฉลาดกว่าอวดดี สายตาของเขายังตรึงอยู่บนใบหน้าเธอ ขณะเขาเปิดแฟ้มออกอย่างเชื่องช้า
“คุณเรียนจบด้านบริหาร...มีประสบการณ์จากบริษัทก่อนหน้า 3 ปี
คุณสมัครมาในตำแหน่งเลขาส่วนตัว” เขาเอ่ยเรียบ ๆก่อนจะเลื่อนสายตามาจบที่ริมฝีปากเธอ
“แต่อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งนี้?”
จีน่าได้ยินคำถามและชะงักเล็กน้อยไม่ใช่เพราะคำถาม แต่เพราะแววตาเขาขณะถาม มันไม่ได้ต้องการคำตอบเชิงบริหารเลยแม้แต่น้อย
“เพราะฉันไม่ใช่แค่จัดการงานทุกอย่างได้เร็ว...แต่รับแรงกดดันได้ดีด้วย”
มาร์คยิ้มช้า ๆ ดวงตาเขายังนิ่ง แต่มีประกายบางอย่างพุ่งขึ้นมาชั่ววินาที เขาปิดแฟ้มลงดัง ปึ่ก แล้วดันมันไปด้านข้าง ท่าทางและสายตาของเขาที่มองมา ทำให้เธอรู้สึกสงสัยว่าเจ้านายของเธอจะทำอะไรต่อไป
“ดี คุณมีคุณสมบัติที่ผมอยากได้ครบตามที่ผมตั้งเอาไว้เลย"
เขาพูดอย่างพึงพอใจ ก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้
จีน่าเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่ที่ยืนเต็มความสูงด้านหลังโต๊ะ เขาเดินอ้อมมาทางเธอ เงียบจนเธอได้ยินเสียงรองเท้าหนังเบา ๆ ลากผ่านพรมข้างใต้ เขาเดินเข้ามาแล้วหยุดยืนตรงข้างเก้าอี้เธอ
“ผมอยากให้คุณทดลองอะไรบางอย่าง”
เสียงเขาเบา แต่หนักแน่น และใกล้เกินกว่าที่จะทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นปกติ เธอหันหน้าไปมองเขา แต่ก่อนจะถามอะไร เขาก็ชี้ไปยังลิ้นชักด้านข้างโต๊ะทำงานของเขา
“เปิดดู แล้วบอกผมว่าคุณเห็นอะไร”
มือของเธอสั่นน้อย ๆ แต่ยังคงควบคุมไว้ได้เธอลุกขึ้น เดินอ้อมโต๊ะไปยังลิ้นชักนั้น ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมันออก ด้านในลิ้นชักนั้นมีเพียงกล่องขาวด้านเล็ก ๆ ไม่มีป้าย ไม่มีฉลากและซองซิปใส่แคปซูล 2 เม็ด
“ของใหม่จากทีม R&D”
เสียงเขาดังขึ้นหลังเธอในระยะประชิด
“ยังไม่มีชื่อ ยังไม่เข้ากระบวนการจดทะเบียน…แต่กำลังจะกลายเป็นสินค้าตัวทำกำไรที่สุดของปีนี้”
“แล้วมันคืออะไรคะ?”
“Stimulation Capsule รุ่นทดลอง... ปลอดภัย แต่มีผลข้างเคียงด้านการรับความรู้สึก” เขาหยุดเล็กน้อย ก่อนพูดต่อ
“ทำให้ไวต่อสัมผัส...หายใจแรงนิดเดียวก็เสียวได้”
จีน่าหันกลับมามองเขาเต็มตา เขายืนชิดจนเธอได้กลิ่นน้ำหอม Smoky Citrus แบบผู้ชายเซ็กซี่ สุขุมและมีพลัง
“แล้วให้ฉันทำอะไรกับมันคะ?”
มาร์คยกมือขึ้น ใช้นิ้วเรียวยาวหยิบซองแคปซูลขึ้นมา แล้ววางมันลงบนโต๊ะด้านหน้าเธอ
จีน่าหยิบแคปซูลขึ้นมาพลิกดู ก่อนจะมองหน้าเขาอีกครั้ง
“คุณแน่ใจนะคะว่า...มันปลอดภัย?”
มาร์คยกคิ้วเพียงเล็กน้อย
“คุณไม่ต้องกลัวอะไรหรอกคุณจีน่า สิ่งที่อยู่ในนั้น...ก็คือสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด ไม่มีสารเคมี ไม่สะสมหรือตกค้างในร่างกาย มีแค่สิ่งที่ร่างกายคุณ ‘อยากตอบสนอง’ อยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ตัว”
เธอมองเขาอย่างลังเลอีกครั้ง ก่อนจะกลืนมันลงไปในคำเดียว
แคปซูลลื่นคอ มีกลิ่นหอมเย็นจาง ๆ คล้ายมิ้นท์แต่ติดขมบางๆ ที่ปลายลิ้น
“แล้วมันจะ...เกิดอะไรขึ้นคะ”
เธอถามขณะยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“หมายถึง...อาการที่ควรจะรู้สึก หรือผลข้างเคียงที่ต้องระวัง…”
เขาไม่ได้ตอบทันที แต่มองเธอราวกับกำลังสแกน ไม่ใช่ด้วยเครื่องมือ แต่ด้วยสายตาที่คมกริบจนรู้สึกเหมือนถูกเปิดออกทีละชั้น
“ก่อนอื่น...”
เขาเดินกลับไปยังโต๊ะ หยิบแท็บเล็ตขึ้นมากดอะไรบางอย่าง แล้วหันกลับมาเธอ
“บริษัท L.U.S.T Lab เราเริ่มต้นจากเวชภัณฑ์ความงามทั่วไป วิตามิน คอลลาเจน อาหารเสริมผิว...คุณรู้อยู่แล้ว”
เธอพยักหน้าเบา ๆ
“แต่ในปีนี้...เราเข้าสู่ตลาดที่ใหญ่กว่าเดิมมาก”
เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกหนึ่งก้าว
“ตลาดของความปรารถนา”
เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใกล้จนเธอได้กลิ่นอายความเย็นของน้ำหอมผสมกับกลิ่นตัวผู้ชายที่ผ่านการควบคุมอาหาร และฟิตเนสมาเป็นอย่างดี กลิ่นหอมสะอาดและเซ็กซี่ของเขา และท่าทางที่เขาเข้ามายืนใกล้เธออย่างจงใจ ยิ่งทำให้เธอใจสั่น แม้ว่าแคปซูลที่เพิ่งกลืนเข้าไปจะยังไม่ทันออกฤทธิ์ก็ตาม
“สิ่งที่คุณกินเข้าไปเมื่อกี้ คือสูตรทดลองของแผนก Stimulation Tech ร่วมมือกับทีมวิจัยผลิตภัณฑ์”
เขายกมือขึ้น แตะหลังมือเธอเบา ๆ
“มันจะเร่งปฏิกิริยาของปลายประสาททุกจุดที่เกี่ยวข้องกับสัมผัสและแรงสั่นสะเทือน”
มือของเขาเลื่อนขึ้นมาแตะต้นแขนแผ่วเบา แต่น่าแปลก...ร่างกายเธอเหมือนตอบสนองมากกว่าปกติ เหมือนแรงสัมผัสเท่านี้...กลับสร้างแรงสะเทือนเล็ก ๆ ที่ไหลลงมาถึงหน้าท้อง
“มันจะไม่ทำให้คุณเพ้อ ไม่ทำให้คุณหมดสติ”
เขาพูดต่อ ขณะปลายนิ้วลากจากแขนไปจนถึงข้อศอก
“แต่มันจะทำให้คุณ...รับรู้ทุกการสัมผัสชัดเจนกว่าปกติ”
“แล้ว...คุณจะทดสอบระบบยังไงคะ?”
หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างสงสัย
เขาคลี่ยิ้มช้า ๆ แต่แฝงไว้ด้วยบางอย่างที่ทั้งมั่นใจและอันตรายนิดๆ
“เริ่มจากการสัมผัส...แล้วค่อยวัดว่าระบบคุณ ‘ไวแค่ไหน’”
เขากระซิบข้างหูหญิงสาว และเอื้อมมือไปแตะที่สะโพกเธอเบา ๆ
เธอสะดุ้ง แต่ไม่ถอยหนี กล้ามเนื้อของเธอเกร็งแน่นในแบบที่เธอไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหน โดยเฉพาะในวันแรกที่เพิ่งเจอกัน
“หายใจลึก ๆ จีน่า แล้วบอกผม...ว่าคุณเริ่มรู้สึกอะไรบ้างหรือยัง” เขาพูดด้วยเสียงนุ่ม และเซ็กซี่เกินกว่าที่จะเป็นโทนเสียงที่เจ้านายจะพูดกับเลขาแบบปกติ
มือของมาร์คไล้จากสะโพกขึ้นไปช้า ๆ แผ่นหลังของจีน่าสะท้อนแรงหายใจที่เริ่มไม่เป็นจังหวะ สารสกัดในแคปซูลดูเหมือนจะเริ่มออกฤทธิ์ เพราะแม้เพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านเนื้อผ้าบางเบา ก็ทำให้เธอขนลุกวาบตั้งแต่ต้นคอลงไปถึงปลายสันหลัง
“ไวดี...”
เขาพึมพำข้างหูหญิงสาว
“แสดงว่าระบบตอบสนองเริ่มทำงาน”
มืออีกข้างของเขาเอื้อมมากุมท้ายทอยเธอเบา ๆก่อนจะโน้มเธอเข้ามาใกล้โดยไม่เร่งร้อน ริมฝีปากของเขาแตะลงบนริมฝีปากเธอ ช้า นุ่ม และมั่นใจ แบบไม่ใช่จูบของคนแปลกหน้า แต่เหมือนเป็นจูบของคนที่รอจะ ‘ใช้’ เธอมานาน
จีน่าเผลอหลับตา ร่างกายเหมือนสั่นจากภายใน ยอดอกของเธอเริ่มแข็งตั้งแต่ยังไม่ได้ถอดเสื้อ และรู้สึกได้ชัดเจนว่าร่องกึ่งกลางใต้กระโปรงกำลังชื้นขึ้นทุกวินาที
ร่างสูงใหญ่ค่อย ๆ ดันเธอให้ถอยไปชนโต๊ะ จากนั้นจึงยกตัวเธอขึ้นนั่งบนขอบไม้เรียบ มาร์คใช้สองมือปลดกระดุมเสื้อเธอทีละเม็ด ช้า แต่เฉียบ สายตาเขาไม่ได้มองเสื้อ เขามองหน้าเธอ มองว่าเธอพร้อมรับการทดลองนี้แค่ไหน
“ผมจะไม่เร่งคุณนะจีน่า..”
เสียงเขาหนักแน่นแต่อบอุ่น
“แต่อาการคุณ...กำลังบอกว่าคุณต้องการให้ผมเร่ง”
เธอไม่ตอบ เพราะเธอกำลังหายใจหอบถี่ เพราะเป้ากางเกงในเปียกจนแนบสนิทกับร่องตรงกลางร่างกาย และเพราะมือของเขาเลื่อนลงมารูดกระโปรงเธอขึ้นเหนือสะโพก โดยที่เธอไม่ได้ห้าม
HIDDEN PRAISE ON CLEAN FLOORSพื้นสะอาด แต่หน้าเธอเปื้อนรอยยิ้มเพราะคำหวานของเขา.. แต่หัวใจเขากลับไม่สะอาดเมื่อได้ยินเสียงเธอเรียกชื่อภาษาดอกไม้ที่ซ่อนอยู่ในมุมตึกที่ไม่มีใครเห็นทิ้งร่องรอยรักบนพื้นสะอาด ยามตึกไร้ผู้คนบนชั้น 7 ของ L.U.S.T Company บริษัทเวชภัณฑ์และอาหารเสริมชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดมาตรฐานระดับสากล แต่มีบางมุมที่สะอาดกว่านั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะมีแม่บ้านคนหนึ่งขยันถูทุกเช้า ขัดทุกซอกมุมจนไร้ฝุ่น จนแม้แต่เธอเอง... ก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูก “จ้อง” มากแค่ไหนเช้านี้ เดือน แม่บ้านวัยสี่สิบเก้า นั่งยองเช็ดขอบประตูกระจกทางเข้าชั้น พนักงานหลายคนเดินผ่านไปมาก็แค่พยักหน้าให้ แต่มีแค่คนเดียวที่ไม่เคยปล่อยให้เธอหลุดจากสายตาถัดจากประตูไม่กี่ก้าว สมชาย รปภ.วัยห้าสิบห้า นั่งเอนหลังที่โต๊ะยาม มือซุกในกระเป๋ากางเกง สมุดบันทึกรายชื่อ Visitor ที่มาติดต่อออฟฟิศเปิดค้างอยู่บนโต๊ะตามระเบียบ แต่ดวงตาเขากลับล็อกอยู่ที่รอยเหงื่อบนต้นคอ กับสะโพกกลมของแม่บ้านคนเดิมทุกวันคนอื่นคงมองว่าเธอเป็นแค่แม่บ้านธรรมดา แต่สำหรับสมชาย... เธอเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาลุกจากเก้าอี้ได้ง่ายกว่ายามเปิดประตูให้
หลังจากนั้น ต่างคนต่างกลับเข้าสู่หน้าที่ของตัวเอง สมชายกลับไปนั่งประจำจุดหน้าประตู ส่วนเดือนเดินวนเช็ดพื้นทั้งชั้น เงาของเธอกระทบกับแสงไฟหลอดฟลูออเรสเซนต์บนเพดานเป็นเงาซ้อน เธอไม่ได้มองกลับไปที่โต๊ะ รปภ. เลยแต่สมชายไม่ได้ละสายตาไปไหนเลยเช่นกัน จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน...เดือนพับไม้ถูพื้นเก็บเข้าถัง ใช้ผ้าแห้งเช็ดเหงื่อที่ซึมซับมาทั้งวัน ก่อนหันไปคว้าถุงน้ำยาที่สมชายวางทิ้งไว้หน้าห้องเก็บอุปกรณ์ในตอนบ่ายประตูห้องยังเปิดแง้มอยู่เล็กน้อยเดือนก้มมองพื้นหน้าห้องที่เพิ่งเช็ดไปเมื่อเช้า... เงาวับจนเห็นปลายเท้าตัวเอง“พี่สมชาย…”เธอพูดเบา ๆ เหมือนพูดกับตัวเอง แต่หันไปทางโต๊ะหน้าลิฟต์ ชายร่างสูงที่เพิ่งเก็บบัตร รปภ. เข้ากระเป๋าเสื้อ หันมาทางเธอช้า ๆเดือนยิ้มบาง เอ่ยด้วยเสียงที่เหมือนแค่ถามธรรมดา แต่ปลายเสียงมันละมุนกว่าปกติ“ช่วยมายกของเข้าในนี้หน่อยจ้ะพี่ ถุงมันหนัก…”สมชายไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่ลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงมาหาเธอ แล้วคว้าถุงในมือเธอไปถือแทน ท่าทางเหมือนเดิม ไม่มีคำพูด ไม่มีรอยยิ้ม มีแต่แววตา... ที่เดือนแกล้งทำเป็นไม่เห็นเหมือนทุกทีภายในห้องเก็บของแคบ ๆ มีเพียงแสงจากหลอดไฟเก่า
มือเขาเลื่อนจากโช้คเกอร์ ลงมาที่ไหปลาร้า แล้วลากผ่านเนินอกฉันช้า ๆ แม้ยังอยู่ด้านนอกเสื้อเชิ้ต แต่แค่นี้ก็เหมือนฉันจะขาดใจอยู่แล้ว“แล้วตอนนี้...จะให้ผมทำตามที่คุณเคยพูดในกล้องรึเปล่าครับ”เสียงเขามันไม่ยั่วธรรมดา มันเหมือนปล่อยไฟฟ้าช็อตเส้นประสาทในสมองฉันจนร่างฉันเกือบล้มคาเก้าอี้ ฉันสั่นไปทั้งตัว มือข้างหนึ่งกำชายกระโปรง อีกมือกำขอบโต๊ะแน่นจนเล็บแทบจิกไม้“แล้ว…คุณเอเดนจะทำได้...เหมือนในคลิปนั่นเหรอคะ…”เขาหัวเราะในลำคอ เสียงต่ำแหบเหมือนสัตว์ที่กำลังอดกลั้น“จะให้ผมทำให้ลึกกว่านั้นก็ยังได้ครับ...ถ้าคุณยอม”คำว่า “ยอม” ของเขาไม่ได้หมายถึงลายเซ็นอนุมัติจาก HR มันหมายถึงฉันต้องปลดเกราะ Erika ออกจากโลกออนไลน์ แล้วยกมันให้เขาในโลกจริงตอนนี้ ฉันจ้องหน้าเขา ใกล้จนมองเห็นแววตาสีเข้มที่ไม่มีความเป็นเด็กน้อยอยู่ในนั้นเลยแล้วฉันก็พยักหน้าเบา ๆ แต่ก่อนที่เขาจะจูบฉัน ฉันกระซิบตอบเสียงสั่น“ถ้าคุณทำได้ลึกกว่านั้น...ฉันก็จะยอมให้แค่คนเดียว...”เขาหลุดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา มือเขาประคองท้ายทอยฉันแล้วกดริมฝีปากตัวเองลงมาอย่างแรง จูบนี้มันไม่ใช่จูบของ HR สาว กับหนุ่มไอทีที่เข้ามาเช็คพอร์ต LAN แต่มันคือ
ฉันควรจะตั้งสติให้ได้สักห้าวินาทีก่อนเขาจะเปิดประตูเข้ามา แต่พอเอาเข้าจริง ก็สติหลุดทุกทีที่ได้กลิ่นนี้... เสียงบานประตู HR เปิดเหมือนเดิม กลิ่นชาเขียวผสมส้มแมนดารินตีขึ้นจมูกก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่มาให้เห็นหน้า แค่กลิ่นฉันก็รู้แล้วว่าวันนี้จะไม่จบแค่การซ่อมคอมธรรมดาแน่เอเดนเดินเข้ามาแบบนิ่ง ๆ แต่สายตาเขาไม่เคยนิ่งเลยสำหรับฉันเขามองจอคอมฉันที่ค้างอยู่เหมือนจะซ่อม แต่มืออีกข้างกลับวางบนพนักเก้าอี้ฉันแบบที่ไม่ได้ระวังเลยว่า หัวใจเจ้าของเก้าอี้มันจะเต้นแรงจนจะระเบิดอยู่แล้ว“HRIS ยังงอแงอยู่เหรอครับ?”ฉันพยายามเบือนหน้าหนี ไม่ให้เขาเห็นว่าฉันหน้าแดงไปจนถึงหู เหมือนคนเป็นไข้“ค่ะ มันค้างทั้งระบบ...เพนนีก็จะแพนิคอยู่แล้ว เพราะสลิปคุณจีน่าหาย ถ้าสลิปของคุณมาร์คหายอีกคน ฉันนี่แหละจะตายก่อนเพนนีอีก”เขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เหมือนเขารู้ว่า ฉันพูดประชดไปงั้นแหละ เพราะในหัวฉันตอนนี้ไม่ได้สนสลิปใครหายเลย... สนใจแต่คำเดียวในหัวว่า เขาดูคลิปฉันแล้วหรือยังเขาก้มตัวลงต่ำ สอดมือเข้าไปจัดสายไฟใต้โต๊ะ หัวเขาเกือบชิดต้นขาฉัน ลมหายใจเขาอุ่นจนฉันต้องขมิบขาตัวเองแน่นแบบไม่ให้เขาจับได้ว่าฉันกำลังเสียอาการ“อย