LOGINHIDDEN PRAISE ON CLEAN FLOORSพื้นสะอาด แต่หน้าเธอเปื้อนรอยยิ้มเพราะคำหวานของเขา.. แต่หัวใจเขากลับไม่สะอาดเมื่อได้ยินเสียงเธอเรียกชื่อภาษาดอกไม้ที่ซ่อนอยู่ในมุมตึกที่ไม่มีใครเห็นทิ้งร่องรอยรักบนพื้นสะอาด ยามตึกไร้ผู้คนบนชั้น 7 ของ L.U.S.T Company บริษัทเวชภัณฑ์และอาหารเสริมชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดมาตรฐานระดับสากล แต่มีบางมุมที่สะอาดกว่านั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะมีแม่บ้านคนหนึ่งขยันถูทุกเช้า ขัดทุกซอกมุมจนไร้ฝุ่น จนแม้แต่เธอเอง... ก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูก “จ้อง” มากแค่ไหนเช้านี้ เดือน แม่บ้านวัยสี่สิบเก้า นั่งยองเช็ดขอบประตูกระจกทางเข้าชั้น พนักงานหลายคนเดินผ่านไปมาก็แค่พยักหน้าให้ แต่มีแค่คนเดียวที่ไม่เคยปล่อยให้เธอหลุดจากสายตาถัดจากประตูไม่กี่ก้าว สมชาย รปภ.วัยห้าสิบห้า นั่งเอนหลังที่โต๊ะยาม มือซุกในกระเป๋ากางเกง สมุดบันทึกรายชื่อ Visitor ที่มาติดต่อออฟฟิศเปิดค้างอยู่บนโต๊ะตามระเบียบ แต่ดวงตาเขากลับล็อกอยู่ที่รอยเหงื่อบนต้นคอ กับสะโพกกลมของแม่บ้านคนเดิมทุกวันคนอื่นคงมองว่าเธอเป็นแค่แม่บ้านธรรมดา แต่สำหรับสมชาย... เธอเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาลุกจากเก้าอี้ได้ง่ายกว่ายามเปิดประตูให้
หลังจากนั้น ต่างคนต่างกลับเข้าสู่หน้าที่ของตัวเอง สมชายกลับไปนั่งประจำจุดหน้าประตู ส่วนเดือนเดินวนเช็ดพื้นทั้งชั้น เงาของเธอกระทบกับแสงไฟหลอดฟลูออเรสเซนต์บนเพดานเป็นเงาซ้อน เธอไม่ได้มองกลับไปที่โต๊ะ รปภ. เลยแต่สมชายไม่ได้ละสายตาไปไหนเลยเช่นกัน จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน...เดือนพับไม้ถูพื้นเก็บเข้าถัง ใช้ผ้าแห้งเช็ดเหงื่อที่ซึมซับมาทั้งวัน ก่อนหันไปคว้าถุงน้ำยาที่สมชายวางทิ้งไว้หน้าห้องเก็บอุปกรณ์ในตอนบ่ายประตูห้องยังเปิดแง้มอยู่เล็กน้อยเดือนก้มมองพื้นหน้าห้องที่เพิ่งเช็ดไปเมื่อเช้า... เงาวับจนเห็นปลายเท้าตัวเอง“พี่สมชาย…”เธอพูดเบา ๆ เหมือนพูดกับตัวเอง แต่หันไปทางโต๊ะหน้าลิฟต์ ชายร่างสูงที่เพิ่งเก็บบัตร รปภ. เข้ากระเป๋าเสื้อ หันมาทางเธอช้า ๆเดือนยิ้มบาง เอ่ยด้วยเสียงที่เหมือนแค่ถามธรรมดา แต่ปลายเสียงมันละมุนกว่าปกติ“ช่วยมายกของเข้าในนี้หน่อยจ้ะพี่ ถุงมันหนัก…”สมชายไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่ลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงมาหาเธอ แล้วคว้าถุงในมือเธอไปถือแทน ท่าทางเหมือนเดิม ไม่มีคำพูด ไม่มีรอยยิ้ม มีแต่แววตา... ที่เดือนแกล้งทำเป็นไม่เห็นเหมือนทุกทีภายในห้องเก็บของแคบ ๆ มีเพียงแสงจากหลอดไฟเก่า
มือเขาเลื่อนจากโช้คเกอร์ ลงมาที่ไหปลาร้า แล้วลากผ่านเนินอกฉันช้า ๆ แม้ยังอยู่ด้านนอกเสื้อเชิ้ต แต่แค่นี้ก็เหมือนฉันจะขาดใจอยู่แล้ว“แล้วตอนนี้...จะให้ผมทำตามที่คุณเคยพูดในกล้องรึเปล่าครับ”เสียงเขามันไม่ยั่วธรรมดา มันเหมือนปล่อยไฟฟ้าช็อตเส้นประสาทในสมองฉันจนร่างฉันเกือบล้มคาเก้าอี้ ฉันสั่นไปทั้งตัว มือข้างหนึ่งกำชายกระโปรง อีกมือกำขอบโต๊ะแน่นจนเล็บแทบจิกไม้“แล้ว…คุณเอเดนจะทำได้...เหมือนในคลิปนั่นเหรอคะ…”เขาหัวเราะในลำคอ เสียงต่ำแหบเหมือนสัตว์ที่กำลังอดกลั้น“จะให้ผมทำให้ลึกกว่านั้นก็ยังได้ครับ...ถ้าคุณยอม”คำว่า “ยอม” ของเขาไม่ได้หมายถึงลายเซ็นอนุมัติจาก HR มันหมายถึงฉันต้องปลดเกราะ Erika ออกจากโลกออนไลน์ แล้วยกมันให้เขาในโลกจริงตอนนี้ ฉันจ้องหน้าเขา ใกล้จนมองเห็นแววตาสีเข้มที่ไม่มีความเป็นเด็กน้อยอยู่ในนั้นเลยแล้วฉันก็พยักหน้าเบา ๆ แต่ก่อนที่เขาจะจูบฉัน ฉันกระซิบตอบเสียงสั่น“ถ้าคุณทำได้ลึกกว่านั้น...ฉันก็จะยอมให้แค่คนเดียว...”เขาหลุดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา มือเขาประคองท้ายทอยฉันแล้วกดริมฝีปากตัวเองลงมาอย่างแรง จูบนี้มันไม่ใช่จูบของ HR สาว กับหนุ่มไอทีที่เข้ามาเช็คพอร์ต LAN แต่มันคือ
ฉันควรจะตั้งสติให้ได้สักห้าวินาทีก่อนเขาจะเปิดประตูเข้ามา แต่พอเอาเข้าจริง ก็สติหลุดทุกทีที่ได้กลิ่นนี้... เสียงบานประตู HR เปิดเหมือนเดิม กลิ่นชาเขียวผสมส้มแมนดารินตีขึ้นจมูกก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่มาให้เห็นหน้า แค่กลิ่นฉันก็รู้แล้วว่าวันนี้จะไม่จบแค่การซ่อมคอมธรรมดาแน่เอเดนเดินเข้ามาแบบนิ่ง ๆ แต่สายตาเขาไม่เคยนิ่งเลยสำหรับฉันเขามองจอคอมฉันที่ค้างอยู่เหมือนจะซ่อม แต่มืออีกข้างกลับวางบนพนักเก้าอี้ฉันแบบที่ไม่ได้ระวังเลยว่า หัวใจเจ้าของเก้าอี้มันจะเต้นแรงจนจะระเบิดอยู่แล้ว“HRIS ยังงอแงอยู่เหรอครับ?”ฉันพยายามเบือนหน้าหนี ไม่ให้เขาเห็นว่าฉันหน้าแดงไปจนถึงหู เหมือนคนเป็นไข้“ค่ะ มันค้างทั้งระบบ...เพนนีก็จะแพนิคอยู่แล้ว เพราะสลิปคุณจีน่าหาย ถ้าสลิปของคุณมาร์คหายอีกคน ฉันนี่แหละจะตายก่อนเพนนีอีก”เขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เหมือนเขารู้ว่า ฉันพูดประชดไปงั้นแหละ เพราะในหัวฉันตอนนี้ไม่ได้สนสลิปใครหายเลย... สนใจแต่คำเดียวในหัวว่า เขาดูคลิปฉันแล้วหรือยังเขาก้มตัวลงต่ำ สอดมือเข้าไปจัดสายไฟใต้โต๊ะ หัวเขาเกือบชิดต้นขาฉัน ลมหายใจเขาอุ่นจนฉันต้องขมิบขาตัวเองแน่นแบบไม่ให้เขาจับได้ว่าฉันกำลังเสียอาการ“อย
HR CONFIDENTIALหนุ่มไอทีมา “ซ่อมคอม” แต่สิ่งที่เขาค้นพบ…ไม่ใช่แค่บั๊ก หรือปลั๊กหลุดมันคือไฟล์ลับในร่างของ HRที่เขาต้องใช้มือ “ล้วง” เพื่อเข้าถึงระบบถ้าจะมีอะไรที่ฉันเกลียดพอๆกับวันประชุม ก็เช้าวันจันทร์นี่แหละตั้งแต่ฉันสแกนนิ้วเข้าออฟฟิศมา สิ่งแรกที่ฉันเห็นบนหน้าจอคืออีเมลแจ้งลาออกของเด็กใหม่สองคน กับ แฟ้ม onboarding ที่ใครสักคนเอามาวางไว้ผิดโต๊ะ แถมเจ้าของแฟ้มก็ชิ่งลาพักร้อนไปแล้วเรียบร้อย ฉันก็รู้ทันทีเลย ว่าวันนี้ฉันต้องจบด้วยยาพารา 2 เม็ด น้ำเปล่า 1 ขวด และจิตวิญญาณที่อยากวาร์ปกลับไปนอนใต้ผ้าห่มเอาแล้วไง.. ยังไม่ทันจะลุกไปหยิบกาแฟ เสียงปริ๊นเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะด้านซ้าย ก็ดังแกร๊กๆ เหมือนพร้อมลาโลกเต็มที เหมือนหายใจเฮือกสุดท้ายในชีวิต ถ้าสภาพ Printer คือคน มันคงตะโกนว่า “พี่ลิซ...ปล่อยหนูไปเถอะค่ะ หนูจะตายแล้วววว แง...”แต่ฉันยังไม่ทันจะไปกู้ชีพมันได้ ก็เจอสิ่งที่ร้ายแรงกว่าคือหน้าจอ HRIS ของฉันมันประกาศลาโลกไปแล้วค่ะหน้าจอขาวโล่ง มีแค่ไอคอนหมุนติ้วที่โชว์ให้รู้ว่า “ยูจะทำอะไรไม่ได้อีกแล้วจ้ะลิซ”ฉันเคาะคีย์บอร์ดรัวๆ พยายามจะให้มันกลับมาใช้งานได้ปกติ แต่ท่าทางคอมพิวเตอร์ของฉันจ
เธอกระชากมือออกในจังหวะที่ผมเกร็งแทบจะถึงจุด พริบตานั้นผมแทบทรุดลงกับพื้น ร่างกายเหมือนถูกสาปให้ค้างเติ่งกลางคลื่น“ถ้านายยังอยากเก็บตำแหน่งนี้ไว้...” เธอเชิดหน้าขึ้น“ก็จงเรียนรู้ที่จะ ควบคุมตัวเอง...เหมือนที่ฉันควบคุมนายได้ทุกวินาทีตอนนี้”ผมได้แต่นั่งนิ่ง หายใจหอบ ไม่กล้าขยับแม้แต่เพียงปลายนิ้ว เพราะต่อให้ผมแข็งขนาดไหน...แต่เธอต่างหากที่ ‘แข็งกว่า’"ถอดกางเกงลง"เสียงเธอนุ่ม...แต่ทรงอำนาจกว่าประโยคคำสั่งจากนายใหญ่คนไหนที่ผมเคยเจอในชีวิต ผมชะงักไปชั่วครู่ กำลังประมวลว่าเธอพูดเล่น...หรือทดสอบ"ถ้าช้ากว่านี้อีกนิด ฉันจะนับเป็นข้อเสียใน performance review ปลายไตรมาส"ผมแทบไม่ได้คิดอะไรต่อ หัวสมองว่างเปล่าเพราะเลือดไปกองที่ปลายลำทั้งหมด มือของผมปลดเข็มขัดออกอย่างว่าง่าย กางเกงสแล็คสีดำไถลลงมากองที่ข้อเท้าแท่งเนื้อของผมกระเด้งออกมาจนสุด สีชมพูเข้ม เส้นเลือดปูดแน่น ปลายบาน มันยืนตรงราวกับต้องการประกาศความภักดีต่อเธอ ผมเห็นเธอเลิกคิ้วเล็กน้อย...ก่อนจะยิ้มมุมปาก"นายต้องการมันมากใช่ไหม?"เสียงของเธอนุ่ม แต่มีพลัง เธอแตะปลายหัวเบา ๆ ด้วยนิ้วชี้ แล้วเปลี่ยนเป็นใช้นิ้วเท้าเขี่ยเบา ๆ ที่โคนแท่







