ระหว่างที่สี่หนุ่มกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงโทรศัพท์หรูราคาแพงของมาเฟียต้วนก็ดังขึ้น
ครืนนน ครืนนน มือหนาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วกระตุกยกยิ้มก่อนจะพูดว่า "พวกมึงจะได้รู้ล่ะว่าเหยื่อคนใหม่ของกูเป็นใคร" ว่าจบ ก็กดรับสายแล้วเปิดลำโพงในโทรศัพท์เพื่อให้เหล่าเพื่อน ๆ ได้ฟังด้วย "ว่าไง ได้เรื่องไหม" (ได้ครับ) กฤษลูกน้องมือขวาตอบกลับมาในสาย "ว่ามา" มาเฟียหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม (เธอชื่อกอบัว พ่อทำงานบริษัทเล็ก ๆ ครอบครัวค่อนข้างจะมีปัญหาทางการเงิน...) "หึ" ตันติกรแค่นหัวเราะในลำคอด้วยใบหน้าที่ดูมีแผนการร้าย (...แม่ของเธอสุขภาพไม่ค่อยดีป่วยบ่อยมาก เธอจึงต้องทำงานหลังเลิกเรียนทุกวัน) "น่าสงสารน้องเขานะ พี่ยังจะ..." "อะไรที่กูอยากก็ต้องได้" มาเฟียหนุ่มแทรกพูดขึ้นก่อนที่อี้เฉินจะพูดจบ "ไอ้ชั่ว!" นั้นเป็นคำด่าที่ออกจากของศิลา "ไอ้เชี่ยต้วน!" ตามด้วยหมอคินน์ "ถ้าพวกมึงยังไม่หยุดด่า...กูยิงไส้แตกแน่" ว่าจบ ทั้งศิลา หมอคินน์ และอี้เฉินก็ส่ายหน้าเอือมระอา "พูดต่อ" มาเฟียหนุ่มไม่สนใจเพื่อนเลือกที่จะคุยกับคนในสายต่อ (ใคร ๆ ต่างก็กล่าวเรียกเธอว่า นางฟ้า) "นางฟ้างั้นเหรอ" ตันติกรยกยิ้มอย่างพึงพอใจในขณะที่ภาพใบหน้าหญิงสาวก็ลอยเข้ามา เขาคิดว่ามันเหมาะสมกับเธอจริง ๆ นั่นแหละ (ครับ เธอชอบช่วยเหลือคนมีจิตใจดี เรียบร้อย อ่อนหวาน...) "ไม่เหมาะกับมึงเลยว่ะไอ้ชั่ว" ศิลาแทรกพูดขึ้นทันที "มึงดีนักนิ มึงเองก็พอ ๆ กับกูนั้นแหละไอ้ประธานบ้ากี! เหอะ ๆ" มาเฟียสวนกลับแล้วกลั้วหัวเราะก่อนจะมองไปที่หมอคินน์ และอี้เฉิน "พวกมึงก็ด้วย ชั่วพอ ๆ กันนั้นแหละ...ไม่งั้นจะคบกันได้เหรอ" (ชายชราคนเมื่อวานไม่ใช่พ่อของเธอนะครับ) "อ้าว" ทุกคนต่างหันมามองที่อี้เฉินเพราะเป็นเขาที่สบถออกมา (เธอช่วยเขาไว้ขณะที่กำลังไปทำงาน) "แสนดีจริง ๆ" เป็นหมอคินน์ที่เอ่ยชื่นชม (ว่าแต่คุณต้วนให้ผมสืบเรื่องราวผู้หญิงคนนี้ทำไมครับ) "ก็เจ้านายมึงจะเอาเธอขึ้นเตียงยังไงล่ะ" ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่เป็นคนตอบแทน (เธอมีเจ้าของแล้วนะครับ) "มันเป็นใคร" มาเฟียหนุ่มกดเสียงทุ้มต่ำกล่าวถาม (เอ่อ...มันเป็นลูกชายของคนที่เคยทำงานให้เราครับ) กฤษกลับกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูกระอักกระอ่วน "กูไม่สนใจหรอกว่ามันจะเป็นใคร..เพราะยังไงกูจะต้องเอาเธอมาขึ้นเตียงให้ได้" มาเฟียหนุ่มส่งเสียงพุ่งตรงหนักแน่นยามประกาศให้คนรับรู้ "แต่น้องเขาเปรียบเสมือนนางฟ้าเลยนะแล้วพี่...หึหึ" อี้เฉินพูดแล้วก็หัวเราะออกมา "คนอย่างมึงไม่คู่ควรกับนางฟ้าอย่างน้องเขาหรอก" หมอคินน์พูดขึ้นแล้วส่ายหัว "กูคิดเหมือนกันกับไอ้หมอคินน์ปล่อยน้องเขาไปเจอคนดี ๆ เถอะ" ศิลาพูดเสริมอีกคน "อีกอย่างผมไม่เห็นเลยว่ากอบัวจะสนใจพี่ ดูเขาจะกลัวพี่ซะมากกว่า" "พวกมึงฟังกูนะ...." มาเฟียหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มสีหน้าบ่งบอกถึงความอยากเอาชนะ "...กูจะเด็ดปีกนางฟ้ามาให้พวกมึงดู" . . . Korbua หลังจากพาชายชราเข้าห้องพักฟื้นผู้ป่วยที่หรูดูแพง กอบัวก็ฝากฝังพยาบาลให้ช่วยดูแลต่อเพราะเธอต้องรีบกลับไปทำงาน กอบัวนั่งรถมาถึงโรงแรมก็รีบเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเองทันที โดยไม่มีใครต่อว่าอะไรเธอสักคน เพราะต่างก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนที่ลำบากอยู่แล้วซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้งานเสียหายอะไรเลยสักครั้ง กอบัวรู้ว่าอะไรควรทำก่อนหรือหลัง ใคร ๆ จึงไม่เคยว่ากล่าวอะไรตัวหญิงสาว "ลุงคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง" รุ่นพี่สาวที่เห็นเหตุการณ์เดินมากล่าวถาม "ต้องแอดมิทน่ะค่ะ" "แล้วบัวจะมีเงินพอ..." กิ๊บยังพูดไม่จบประโยคกอบัวก็แทรกขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแฝงความดีใจ "พี่กิ๊บบัวเจอพี่อี้เฉินด้วยแหละ..." พูดจบก็โชว์กระเป๋าสะพายที่มีลายเซ็นของดาราหนุ่มชาวจีนให้รุ่นพี่สาวดู "....บัวไปขอลายเซ็นพี่เขามาด้วยแหละ" "งื้อ..อิจฉาจังทำไมพี่ไม่เจอบ้างนะจะกอดให้แน่นเลย คิกคิก" กิ๊บเอ่ยอย่างไม่จริงจังก่อนจะปิดปากหัวเราะชอบใจ "พี่อี้เฉินหล่อมาก ผิวขาว ตัวก็สูงบัวเท่าหน้าอกพี่เขาเอง..." เมื่อนึกถึงใบหน้าดาราที่ชื่นชอบกอบัวก็ยิ้มไม่หุบ "...พี่เขาดูเป็นกันเองมากและยังใจดีที่สุด" มือเรียวทั้งสองประสานกันไว้ที่หน้าด้วยใบหน้าชื่นชม "ค่าใช้จ่ายของลุงคนนั้นพี่อี้เฉินเป็นคนออกให้ทั้งหมด และยังให้ลุงพักฟื้นในห้องวีไอพีด้วย" "ว้าว..ทำไมใจดีแบบนี้คิดถูกแล้วล่ะที่เป็นติ่งถูกคน" "คิกคิก" กอบัวหัวเราะชอบอกชอบใจก่อนที่ใบหน้าของชายหนุ่มอีกคนลอยเข้ามาในหัวจึงทำให้เธอต้องหุบยิ้ม "เป็นอะไรเหรอบัว" "พี่อี้เฉินไม่น่าไปคบคนแบบนั้นเลย" กอบัวพึมพำเบา ๆ ราวกับกระซิบ "พูดว่าอะไรนะ" คนที่ได้ยินไม่ชัดถึงกล่าวถาม "พี่อี้เฉินไม่น่ามีเพื่อนที่..." สาวรุ่นน้องนึกถึงคำพูดและพฤติกรรมน่ารังเกียจของเพื่อนดาราหนุ่มก็ขนลุกขึ้นมา "...น่ารังเกียจมาก" "ยังไง" "พูดจาไม่ให้เกียรติบัวเลย" เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดูไม่พอใจเมื่อนึกถึงคำพูดของชายคนนั้น แต่ก็อดจะเถียงไม่ได้ว่าเขาเป็นคนมีใบหน้าที่หล่อเหลารูบร่างก็ดี แต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่มีมารยาท "อย่าไปสนใจคนแบบนั้นเลยนางฟ้าของพี่" กิ๊บเอื้อมมือมาลูบที่แขนของสาวรุ่นน้อง "บัวไม่สนใจอยู่แล้ว..ขออย่าได้มาเจอะมาเจอกันอีกเลย" วันต่อมา กอบัวตื่นขึ้นมาก็รีบจัดการตัวเองโดยการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะต้องไปมหาวิทยาลัย และวันนี้จอมทัพก็จะมารับเธอเหมือนเดิม หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย นักศึกษาสาวก็คว้ากระเป๋าและหนังสือลงมาจากห้อง "บัว..จอมทัพมารอลูกอยู่น่ะ" คนเป็นที่เดินสวนมาพอดีจึงบอกกล่าวให้ลูกสาวรู้ "ค่ะ...บัวไปก่อนนะแม่ดูแลตัวเองด้วยนะคะ อย่าทำงานหนักพักผ่อนเยอะ ๆ" เธอออกคำสั่งกับแม่ด้วยความเป็นห่วง "จ้ะ" คนเป็นแม่ตอบกลับสั้น ๆ เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวคนนี้ไม่เคยทำให้ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว จากนั้นกอบัวจึงเดินมาหาจอมทัพที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขก ชายหนุ่มส่วนสูงร้อยแปดสิบเห็นหญิงสาวที่สูงเพียงหน้าอกของเขากำลังเดินมาก็รีบลุกจากโซฟาแล้วก้าวขายาวเดินดักหน้าของเธอ "หาอะไรกินกันก่อนนะ" จอมทัพเอ่ยพร้อมกับคว้ากระเป๋า และหนังสือของกอบัวมาถือเอง "ได้สิ" เธอคลี่ยิ้มว่าให้กับชายหนุ่มที่มีสถานะแฟน "คุณแฟนอยากกินอะไรครับ" "โจ๊ก บัวอยากกินโจ๊ก" แฟนสาวบอกในสิ่งที่อยากจะกินทันที "งั้นไปกินที่ร้านหลังมอไหม ร้านนั้นอร่อย" จอมทัพบอกพิกัดร้านที่ทั้งสองไปกินกันอยู่บ่อยครั้ง "โอเค" ร้านโจ๊กหลังมหาวิทยาลัย ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังสั่งอาหารและเครื่องดื่มกันอยู่นั้น ดวงตากลมโตก็เหลือบไปเห็นเด็กหญิงแต่งตัวมอมแมมยืนมองตู้ใส่วัตถุดิบทำอาหารอยู่หน้าร้าน เธอจึงลุกจากเก้าอี้ "จะไปไหนเหรอบัว" จอมทัพเห็นแฟนสาวยืนขึ้นก็กล่าวถามทันที "บัวจะไป.." เธอมองไปที่เด็กหญิงทำให้แฟนหนุ่มรู้เลยว่าเธอจะทำอะไร "ฉันไปด้วย" ทั้งคู่จึงเดินมาหาเด็กหญิงด้วยกันแล้วสอบถาม จึงรู้ว่าเด็กหญิงหิวข้าวแต่ไม่มีเงินที่จะซื้อ อีกอย่างแม่ของเด็กก็ป่วยอยู่ด้วย แน่นอนว่ากอบัวต้องให้ความช่วยเหลืออยู่ เธอจึงซื้อโจ๊กให้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่พร้อมกับเงินจำนวนหนึ่งให้กับเด็กหญิง "ขอบคุณนะคะพี่นางฟ้าคนสวย" คำพูดของเด็กหญิงทำให้จอมทัพถึงกับคลี่ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจที่มีแฟนสาวที่สวยและใจดีราวกับนางฟ้าที่เด็กหญิงสาว "พี่นางฟ้าคนนี้เป็นแฟนพี่เอง" "งั้นพี่ก็เป็นเทวดาน่ะสิ" เด็กหญิงเอ่ยแล้วฉีกยิ้มกว้างสร้างความพึงพอใจให้ชายหนุ่มไม่น้อย "กลับบ้านเองได้ใช่ไหมคะ" กอบัวกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง "ได้ค่ะ บ้านหนูอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง" "อืม งั้นรีบกลับบ้านเอาไปกินโจ๊กเถอะ" เห็นแล้วบ้านของเด็กน้อยอยู่ไม่ไกลและดูไม่น่าอันตรายจึงปล่อยให้เด็กกลับไปเพียงคนเดียว กอบัวกับจอมทัพจึงเข้ามาในร้านแล้วนั่งกินโจ๊กที่สั่งไว้ก่อนหน้าการมาของพ่อแม่มาเฟียต้วนมีจุดประสงค์ที่จะมาจัดการเรื่องงานแต่งให้ลูกชาย ซึ่งเขาเป็นคนขอร้องให้ทั้งสองเดินทางมา สู่ขอแฟนสาวตัวเล็กกับพ่อแม่ของเธอทั้งสองครอบครัวได้ปรึกษาหารือกันอย่างส่วนตัว แต่เป็นกันเองมาก ต่างเห็นชอบตรงกันว่าจะกำหนดพิธีมงคลสมรสอีกสองเดือนข้างหน้า ระหว่างที่ผู้ใหญ่ได้พูดคุยเรื่องการจัดเตรียมงาน กอบัวที่ยังคงมีอาการหน่วง ดิ่ง สีหน้าไม่สดใสเท่าที่ควร ทำให้มาเฟียหนุ่มเกิดความสงสัย จึงดึงเธอมาพูดคุยเป็นการส่วนตัวเพื่อถามไถ่ "เป็นอะไรหรือเปล่า พักนี้เธอแปลก ๆ ไปนะ" "ไม่มีอะไรคะ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงไม่แจ่มใส ซ้ำยังแฝงความมัวหมอง "ไม่มีอะไรจริง ๆ เหรอ...." มาเฟียต้วนกล่าวถามซ้ำให้แน่ใจ เพราะช่วงหลัง ๆ มานี้ เขารู้สึกว่าแฟนสาวตัวเล็ก คอยจะออกห่างจากเขาอยู่ตลอด "...โกรธอะไรพี่หรือเปล่า" และยังทำทีท่าราวกับรังเกียจเขายังไงยังนั้น "บัวรู้สึกว่า..." ใบหน้าสวยหวานแฝงไปด้วยความเศร้าก้มงุดลง แล้วเม้มปากทั้งสองเข้าหากันแน่น "...บัวไม่อยากแต่งงานกับพี่แล้ว" เธอถอนหายใจพรืดใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยความน้อยใจที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ "กอบัว..."
กอบัวลมหายใจหอบถี่ รู้สึกสมองขาวโพน และหวาบหวิวในช่องท้องหลังจากที่ได้ปลดปล่อยน้ำสีใสออกมา ขณะที่มาเฟียหนุ่มจับแท่งเนื้อร้อนรูดขึ้นลง พร้อมกับช้อนตามองเธอไปด้วย ความเร่าร้อนก่อตัวขึ้นภายในกาย ไม่รอช้าเขาจับปลายหัวหยักจ่อไปยังช่องรักคับแคบ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงกระเส่า"จะเอามันเข้าไปละนะ" พูดจบ มาเฟียหนุ่มในท่าคุกเข่าตรงกลางกายของหญิงสาว ก่อนจะค่อย ๆ เอาท่อนเอ็นที่มีขนาดเกินมาตรฐานสอดใส่ไปยังร่องแคบทีละนิด ทีละนิด จนสุดลำ "อะ..อื้อ" ปึก ปึก ปึก เอวสอบขยับอย่างช้า ๆ เนิบ ๆ "อ่า" เสียงหอบกระเส่าพานให้สมองเบลอไปหมด มาเฟียหนุ่มเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้น ปึก ปึก ปึก "อื้อ..อ๊ะ อ๊ะ" ความใหญ่โตกระแทกเข้ามาในร่องของหญิงสาวจนสุดความยาว ทำให้เธอครางสั่นเครือด้วยความกระสันเสียวปึก ปึก ปึก สะโพกสอบตอกอัดเข้ามาอย่างดุดัน ไปตามอารมณ์ดิบเถื่อน แต่ครั้งนี้มันไม่รุนแรงมากนัก หญิงสาวใต้ร่างไม่ได้ทักท้วงอะไร เขาจึงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก "โคตรเสียว..หึ้มมม" มาเฟียหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ความสุขสมซ้อนทับกับสัมผัสที่หวาบหวาม มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นเต้าอกอวบ พร้อมกับขยับสะโพกสอบอย่างรัว ๆ ปึก ปึ
ตันติกรลากเก้าอี้มาแล้วนั่งลงข้างเตียงผู้ป่วย ก่อนจะเอื้อมไปคว้ามือเรียวเล็กของกอบัวมากุมไว้ "ฉันโคตรดีใจเลย ที่เธอไม่ได้จากฉันไปจริง ๆ" มาเฟียหนุ่มกล่าวพร้อมกับคลี่ยิ้มบาง ๆ แต่แสนอ่อนโยนผิดกับตัวตนของเขา"เพราะอะไรเหรอคะ..." หญิงสาวเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา"...หรือว่าเพราะบัวเป็นลูกน้องที่ไว้ใจของพี่" สิ้นเสียง มาเฟียหนุ่มก็มองใบหน้าสวยใสด้วยความรัก และเอ็นดู "เพราะว่าเธอคือ...." แอ๊ดดด ยังไม่ทันที่มาเฟียหนุ่มจะบอกความในใจ ก็มีคนเข้ามาขัดซะก่อน "สวัสดีค่ะพี่หมอคินน์" กอบัวเอ่ยทักพร้อมกับยิ้มหวานให้กับคนที่มาใหม่ "ไอ้หมอ!..." มาเฟียต้วนกัดฟันกรอด ขบกรามแน่นเมื่อเห็นหน้าคนบงการที่ทำให้เขาต้องโศกเศร้าเสียใจหมดอาลัยตายอยากถึงสองวัน"...มึงกับกูมีเรื่องที่ต้องคุยกัน!" เขาส่งแววตาเชือดเฉือนให้กับเพื่อนสนิท อย่างไม่จริงจังนัก เพราะยังไงแล้ว หมอคินน์ก็เป็นคนช่วยชีวิตกอบัวไว้"เหอะ เหอะ" หมอคินน์กลั้วหัวเราะก่อนที่จะบอกกล่าวเรื่องอาการของผู้ป่วยอย่างจริงจัง"พยาบาลบอกแล้วใช่มั้ยว่า อีกสองวันก็จะกลับบ้านได้""บอกแล้วค่ะ" หมอคินน์ผงกหัวรับ "ช่วงหนึ่งสัปดาห์แรก ต้องระวังอย่าเพิ่งยกขอ
ทุกคนมาถึงโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ซึ่งคณาธิปเพื่อนมาเฟียต้วนเป็นเจ้าของ ในขณะที่เอกสิทธิ์ และพิไล เดินนำหน้าพากฤษ และจอมทัพไปยังห้องพักฟื้นของลูกสาว ทั้งหมดก็ได้สวนทางกับหมอคินน์เข้าพอดี "หมอคินน์ครับ" หมอคินน์หยุดชะงักแล้วมองไปยังคนที่เรียกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง "ไอ้จอม มึงเข้าไปก่อน..." กฤษพูดกับจอมทัพประโยคแรกก่อนที่จะหันไปพูดกับหมอคินน์"...กูกับหมอคินน์มีเรื่องที่จะต้องคุยกัน" มือขวามีสีหน้าตึงเครียดแฝงความโกรธน้อย ๆ ในขณะที่เจ้าของโรงพยาบาลยืนส่ายหน้าแล้วพึมพำออกมาพอได้ยินว่า"เป็นลูกน้องที่รัก และซื่อสัตย์ดีจริง ๆ เหอะ เหอะ" พูดจบก็กลั้วหัวเราะเบา ๆ "ทำไมหมอคินน์ทำแบบนี้ล่ะครับ" เมื่อกฤษได้รู้เรื่องราวทุกอย่างจากปากเจ้าของโรงพยาบาลแล้ว ก็กล่าวถามทันทีอย่างไม่สบอารมณ์นัก "เอาหน่า..กูก็แค่อยากแกล้งมันเล่น ๆ เอง" "หมอคินน์รู้มั้ยว่าคุณต้วนเสียใจมากแค่ไหน ข้าวปลาก็ไม่กิน วัน ๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้องกับเจ้าแต้ม..เฮ้อ" กฤษบอกสถานการณ์เจ้านายตัวเองให้กับเพื่อนสนิทของเขาได้รับรู้อย่างเห็นอกเห็นใจ"กูขอโทษ..เอาละกูไม่แกล้งมันแล้วมึงรีบไปบอกเจ้านายของมึงเลยว่า กอบัวยังมีชีวิตอยู่...." หมอคิ
"ไม่นึกเลยว่าพี่ต้วนจะเป็นถึงขนาดนี้" ระหว่างที่กฤษพามาเฟียต้วนออกไปท่ามกลางสายตาทั้งสามหนุ่มที่ยังคงจ้องมองแผ่นหลังของเขา ต่างรู้สึกหลากหลายอารมณ์ อี้เฉินก็กล่าวขึ้นอย่างเห็นอกเห็นใจเพื่อนรุ่นพี่"จะสงสาร หรือสมน้ำหน้ามันดีนะ" ศิลาเอ่ยพร้อมกับส่ายหน้า ทว่านัยน์ตายังคงมีความเป็นห่วงมาเฟียเพื่อนสนิทอยู่ไม่น้อย"หึ" หมอคินน์แค่นหัวเราะแล้วยกยิ้มมุมปากด้วยใบหน้าราวกับมีอะไรในใจ แต่ทั้งศิลา และอี้เฉินต่างไม่ได้สังเกต "ไอ้หมอมึงติดต่อวัดหรือยัง" ศิลากล่าวถาม"เออ แล้วทางครอบครัวกอบัวรู้เรื่องหรือยังว่า..." อี้เฉินยังพูดไปจบประโยคก็มีเสียงฝีเท้าที่สวมใส่รองเท้าส้นเตี้ยวิ่งเข้ามาพร้อมกับร้องเรียกหมอคินน์"คุณหมอคะ คนไข้ฟื้นแล้วนะคะ" "อืม เดี๋ยวผมตามไป" หมอคินน์ตอบรับ ท่ามกลางสายตาของศิลา และอี้เฉินที่จ้องมองเขาอย่างมึนงง"ไอ้หมอแล้วเรื่องกอบัว..""พี่จะทิ้งไว้แบบนี้งั้นเหรอ" ดาราหนุ่มชาวจีนแทรกพูดขึ้นพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "พวกมึงตามกูมา" พูดจบ เจ้าของโรงพยาบาลก็ก้าวขาเดินนำหน้าสองหนุ่มไปยังห้องพักฟื้นผู้ป่วยวีไอพีทันที พอประตูห้องเปิดออก ทั้งประธานบริษัท และดาราหนุ่มชาวจีนต่างดวงต
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักวิ่งพาร่างหญิงสาวที่หมดสติ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดเข้ามาในโรงพยาบาลชื่อดัง พร้อมกับตะโกนร้องเรียก เพื่อนหมอเจ้าของโรงพยาบาลราวกับคนเสียสติ"ไอ้หมอ! ไอ้หมอโว้ย ช่วยเมียกูด้วย" มาเฟียหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้หลุดปากเปลี่ยนสรรพนามให้เธอไปแล้ว"ไอ้ต้วน!" หมอคินน์ที่เพิ่งออกจากห้องตรวจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทที่มีสีหน้าแตกตื่น จึงรีบวิ่งเข้าไปแล้วสำรวจบาดแผลร่างเล็กที่อยู่บนแขนของมาเฟียต้วน "ทำไม น้อง..." "มึงช่วยเมียกูด้วย" หมอคินน์คลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปสั่งพยาบาลให้เตรียมห้องผ่าตัด แล้วให้บุรุษพยาบาลนำรถมาเอาร่างหญิงสาวไปยังห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน "ไอ้หมอ กูฝากกอบัวด้วย" ก่อนที่หมอคินน์จะเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด มาเฟียตัวนก็คว้าแขนเขาไว้ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำ "อืม" ทางด้านหมอเจ้าของโรงพยาบาลตอบกลับสั้น ๆ แล้วก้าวขาเดินเข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็ว มาเฟียหนุ่มเดินย้ำก้าวนั่งไม่ติดเก้าอี้ แววตามีความหวั่นวิตกมองผ่านกระจกเล็กเข้าไปในห้องผ่าตัด เขาแสดงออกได้ชัดว่าเป็นห่วงหญิงสาวเป็นอย่างมาก เวลาล่วงเลยมาร่วมสองชั่วโมงก็ยังไม่มีทีท่าว่าหมอคิน