Beranda / วาย / Merman บันทึกรักใต้มหานที / บทที่ 1 ไข่มุกเม็ดงาม

Share

บทที่ 1 ไข่มุกเม็ดงาม

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-30 16:53:50

“เชิญครับคุณธารา” ชายเจ้าของชื่อวัย 27 ปี ก้าวเท้าเดินตามคนที่เอ่ยเรียกตนไปอย่างไม่เร่งรีบเท่าไหร่นัก ดวงตาคมกล้าที่เป็นดำสนิทดุจท้องทะเลลึกล้ำกวาดมองไปทั่วบริเวณอย่างสนอกสนใจ ตอนนี้เขาอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กแถบทะเลอันดามัน เกาะแห่งนี้เป็นเกาะส่วนตัวของครอบครัวเขา ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงไข่มุกเม็ดงามที่จะถูกนำไปทำเป็นเครื่องประดับอันเป็นธุรกิจหลักของครอบครัว

“ตอนนี้หอยเพาะเลี้ยงของเราเติบโตได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยครับ” เสียงของชายผู้ซึ่งเป็นคนดูแลสถานที่แห่งนี้กล่าวขึ้น ก่อนจะยกกระชังที่เพาะเลี้ยงหอยมุกเอาไว้ขึ้นมาให้ดู ธาราย่อตัวลง ใช้มือหยิบคว้าหอยมุกเหล่านั้นขึ้นมาดูใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยถามออกไป

“หอยนี่กี่ปีแล้วครับ?”

“ครบปีพอดีครับ แต่ยังตัวเล็กมากเลย” ธาราพยักหน้ารับ ค่อยๆ วางหอยมุกลงช้าๆ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มของชายหนุ่มพลิ้วไหวตามแรงลมของทะเล ธาราสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วผ่อนออกช้าๆ กลิ่นอายทะเลลอยฟุ้งในอากาศทำให้หวนคิดถึงความรู้สึกที่เคยได้รับ ความโหยหาอันไร้ที่มาที่ไป......

“ผมขอไปดูศูนย์วิจัยหน่อยครับ”

“เชิญเลยครับ” ชายคนเดิมกล่าวพลางเดินนำไปที่แพเรือ เพราะเขาทำการเพาะเลี้ยงหอยมุก จึงต้องสร้างกระชังเลี้ยงไว้ให้ห่างจากเกาะสักหน่อย เพื่อเป็นการป้องกันเหล่ามนุษย์ที่ไร้จิตสำนึกมารบกวน

เกาะของเขานั้นเป็นเกาะขนาดเล็ก ตรงด้านหน้านั้นเป็นอควาเรียมเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่ตรงกลางจะเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนา ถัดมาที่ด้านหลังของเกาะเป็นบ้านพักส่วนตัวของครอบครัวที่ไม่อนุญาตให้คนภายนอกรุกล้ำเข้าไปได้ แม้ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ประจำเกาะก็ตาม เพราะครอบครัวของเขานั้นสร้างบ้านพักไว้ให้ ไม่ไกลจากศูนย์วิจัยเท่าไหร่นัก ส่วนที่ด้านข้าง ห่างออกไปเล็กน้อยจะเป็นสถานที่เพาะพันธุ์และบ่อเพาะเลี้ยง

เขาเคยประสบอุบัติเหตุพลัดตกเรือเมื่อ 7 ปีก่อน ในตอนนั้นเขาจำได้ว่าเขาเข้าร่วมงานเลี้ยงประมูลเครื่องประดับของครอบครัว เขาในฐานะบุตรชายที่บิดามารดาต้องการให้สานต่อธุรกิจจึงต้องเข้าร่วมด้วยอย่างช่วยไม่ได้ เขาเองก็จำไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่นัก รู้แต่เพียงว่าเขานั้นพลัดตกเรือ และครอบครัวของเขาก็ได้ช่วยไว้ โดยพบเขามาลอยติดเกาะอยู่ที่แห่งนี้นี่เอง

ในตอนแรกครอบครัวของเขาไม่ได้เป็นเจ้าของที่นี่ แต่เพราะในตอนนั้น ตอนที่ครอบครัวรับตัวเขากลับมารักษาที่กรุงเทพ พ่อและแม่ของเขาเล่าว่า เขาโวยวายยกใหญ่ ยังไงก็จะกลับมาที่เกาะนี้ให้ได้ จนพ่อและแม่ตกลงที่จะซื้อเกาะนี้เอาไว้ให้ แล้วสัญญาว่าจะพาเขากลับมา พร้อมกับบอกว่าวางแผนจะทำอะไรกับเกาะนี้บ้าง และนั่นทำให้เขาคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของและหมดสติไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็กลับกลายเป็นจำอะไรไม่ได้เลย........

นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตเมื่อ 7 ปีก่อน เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากจะกลับมาที่เกาะนี้นักหนา จนกระทั่งเขาหลงลืมเรื่องนี้ไปทุ่มเททั้งเวลาและชีวิตให้กับงานของบริษัท และกว่าที่เขาจะรู้ตัวก็กลับกลายเป็นว่าห้องของเขาเต็มไปด้วยเอกสารมากมายจนหาอะไรไม่เจอ ทำให้เขานั้นต้องทำการจัดห้องรื้อห้องเสียยกใหญ่และนั่นทำให้เขาได้พบกับบางสิ่ง......

บางสิ่งที่ทำให้บิดาของเขาตัดสินใจซื้อเกาะแห่งนี้และทำเป็นบ่อเพาะเลี้ยงหอยมุกขึ้นมา.....

“พ่อครับ พ่อพอจะจำของสิ่งนี้ได้ไหมครับ? ผมไม่รู้ว่าได้มันมาได้ยังไง” ธารายื่นของที่ว่าไปตรงหน้าของบิดา ไข่มุกสีฟ้าเป็นประกายแวววาวหยอกล้อกับแสงไฟจนเกิดประกายระยิบระยับขนาดเท่าหัวแม่มือถูกวางนิ่งอยู่ในกล่องไม้กำมะหยี่สีแดงสด ช่วยขับเน้นให้ไข่มุกเม็ดนั้นมีมูลค่ามีราคามากขึ้นไปอีกจนไม่อาจประมาณได้ ผู้เป็นบิดารับของในมือของบุตรชายไปถือไว้พร้อมรอยยิ้มบาง ก่อนจะเอ่ยบอกด้วยท่าทีที่หวนคำนึงถึงความหลัง

“ตอนนั้นที่ลูกหายไปในทะเล พ่อกับแม่ออกตามหาลูกนานนับปี จนกระทั่งไปเจอลูกอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่ง ตอนที่พาตัวลูกกลับมารักษาตัวที่กรุงเทพ ลูกกำไข่มุกเม็ดนี้ไว้ แน่นแถมยังไม่ยอมให้ใครแตะต้องมันอีกด้วย ไม่ว่าพ่อกับแม่จะขอดูมันมากเท่าไหร่ลูกก็ไม่ยอมให้เลย ตอนนอนก็กำมันเอาไว้ในมือ

เพราะลูกเอาแต่บอกว่าจะกลับไปที่เกาะนั้น พ่อเลยบอกว่าจะซื้อเกาะไว้ให้ และเพราะไข่มุกของลูกเม็ดนี้นี่แหละ ที่ทำให้พ่อตัดสินใจทำบ่อเพาะเลี้ยงหอยมุก แต่ไม่ว่ายังไงก็ทำไข่มุกที่มีลักษณะแบบนี้ไม่ได้สักที” พ่อของเขาตอบกลับมาพร้อมกับส่งมันคืนให้เขาไปพลาง

“ลูกหวงไข่มุกเม็ดนี้มาก พ่อกับแม่เลยตัดสินใจเก็บเอาไว้ให้ ไม่ยอมขายมันไป แม้ว่ามูลค่าของมันจะหลายสิบล้านก็เถอะ” ธารารับกล่องเก็บไข่มุกที่ว่านั้นคืนมา ครุ่นคิดไปมาว่าทำไมเขาถึงอยากจะกลับไปที่เกาะแห่งนั้นกัน จนป่านนี้เวลาล่วงเลยมาจนถึง 7 ปี แต่ความรู้สึกบางอย่างที่ขาดหายไปจากใจ อีกทั้งยังมีความอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างก็เป็นตัวผลักดันให้เขาตัดสินใจเก็บกระเป๋าเดินทาง และบอกกับบิดาว่าจะบินลงใต้ไปดูเกาะที่ว่าด้วยตาตัวเองสักครั้งหนึ่ง เพราะไม่มีใครที่จะหาคำตอบนี้ให้เขาได้ นอกจากตัวเขาเอง......

ธาราก้าวขายาวๆ เดินไปตามทิศทางที่มีป้ายบอกไว้ชัดเจน โดยมีชายชราเดินนำหน้าอยู่ไม่ห่าง คอยแนะนำส่วนต่างๆ ของเกาะแห่งนี้ให้เขาฟังไปพลาง จากตอนแรกที่คิดว่าจะไปดูศูนย์วิจัย กลับต้องเปลี่ยนแผนใหม่เมื่อมาถึงเกาะจริงๆ เพราะเขาคิดว่าเดินดูให้ทั่วในคราวเดียว จากด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง น่าจะย่นระยะเวลาได้มากกว่าและเสียเวลาเพียงครั้งเดียว

ดังนั้นแล้วธาราจึงแวะเข้าไปดูที่อควาเรียมก่อนเป็นอันดับแรก ทันทีที่ก้าวขาเข้าไป ก็รู้สึกราวกับตนเองตกอยู่ภายใต้ท้องทะเล เหล่าฝูงปลาทะเลตัวเล็กตัวน้อยแหวกว่ายอยู่ใต้ผิวน้ำ และนั่นทำให้เขารู้ว่าอควาเรียมของครอบครัวเขานั้นแตกต่างจากที่อื่น

นั่นก็เพราะอควาเรียมของครอบครัวเขามีทั้งปลาที่ถูกจับใส่ตู้โดยการซื้อพันธุ์ปลามาเพาะเลี้ยงอย่างถูกกฎหมาย และอื่นส่วนหนึ่งนั้นยื่นออกไปนอกเกาะ เป็นการมองดูสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่แหวกว่ายไปมาอย่างอิสระ ไม่มีตู้กระจกใส ไม่มีคนคอยให้อาหาร มันคือธรรมชาติของแท้ที่เราทำได้เพียงมองจากอุโมงค์แคบๆ นี้เท่านั้น ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเราจะได้เจอกับสิ่งมีชีวิตใด ถือเป็นความสนุกและความตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ ที่มอบให้กับนักท่องเที่ยว

ธารายืนอยู่ในอุโมงค์ที่ว่าเพียงลำพัง ชายชราที่เป็นผู้นำทางขยับออกไปยื่นห่างๆ ที่ด้านหลัง ซึ่งเขาทราบชื่อในภายหลังว่าชื่อบาซิม หลังจากเรียกว่าคุณลุงมาตลอดทริปการเดินทาง ชายหนุ่มกวาดสายตามองใต้ท้องทะเลด้วยความหลงใหล เขารู้สึกเงียบสงบเมื่อยืนอยู่ใต้สายน้ำ อันมีเพียงอุโมงค์กั้นบางเบา จนเกิดความคิดอยากจะลงไปแหวกว่ายขึ้นมาวูบหนึ่ง

ธาราหลุดหัวเราะและส่ายศีรษะไปมาแผ่วเบาให้กับความคิดนั้น หากเขาจะลงไปว่ายน้ำจริงก็ต้องสวมใส่สกูบาลงไปด้วย ไม่มีทางที่เขาจะลงไปแหวกว่ายโดยไร้อุปกรณ์ช่วยหายใจ คิดพลางขยับเท้าออกจากจุดที่ยืนอยู่ หมุนกายหันกลับไปหาลุงบาซิมเพื่อชมส่วนอื่นๆ ของอควาเรียม ซึ่งก็มีส่วนที่เป็นการแสดงสัตว์น้ำที่มีครูฝึกสอน และปลาชนิดต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในตู้ขนาดเล็กขนาดใหญ่กระจายกันไป นอกจากนี้ยังมีโดมอควาเรียมซึ่งเป็นปลาเลี้ยงมีคนให้อาหารและคอยเล่นกับฝูงปลาให้กับผู้ชมได้ดู

ธาราเดินออกจากอควาเรียมและมุ่งตรงไปที่ศูนย์วิจัย ระหว่างทางไปลุงบาซิมก็ชี้บอกถึงที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อาศัยอยู่ภายในเกาะแห่งนี้ว่าบ้านพักนั้นตั้งอยู่ที่ด้านข้าง ธาราทำเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อยเชิงรับรู้ ก่อนจะก้าวขาก้าวเดินต่อไป มุ่งตรงเข้าสู่ตัวอาคาร

เขาได้รับเสียงทักทายจากพนักงานที่กำลังทำหน้าที่ของตนอยู่ข้างใน ที่ส่วนหน้าของอาคารเปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้และมีช็อปสำหรับขายผลิตภัณฑ์จากไข่มุกซึ่งทำเป็นเครื่องประดับชนิดต่างๆ แต่ละชิ้นมีมูลค่ามหาศาลจนต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เซนเซอร์ และกล้องวงจรปิดกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ เรียกได้ว่ารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดขั้นสูงสุด นำของเข้ามาต้องมีการจดบันทึกและตรวจสอบ นำของออกไปก็จะเข้มงวดยิ่งกว่า ธาราพยักหน้าอย่างพึงพอใจในระบบการทำงานของที่นี่ ก็นะ แค่ไข่มุกเม็ดเดียวนั้นก็มีราคาเหยียบหมื่น หากคว้าต่างหูไปสักคู่ หรือกำไลไปสักวง คงจะสบายไปเป็นชาติ

ชายหนุ่มก้าวเท้าเดินตรงไปที่ห้องวิจัย ในห้องนี้มีแต่เหล่านักวิจัยหัวกะทิรวบรวมเอาไว้ มีทั้งทีมที่คิดสีใหม่ๆ ของไข่มุกเม็ดงาม ทีมที่ดูแลเรื่องการเพาะเลี้ยงและเร่งโต ทีมที่คิดค้นให้ไข่มุกออกมามีรูปแบบต่างๆ หอยมุกนั้นสร้างไข่มุกมาจากเม็ดทรายที่มีแพลงก์ตอนเกาะอยู่ เกิดเป็นการรบกวนหอยมุกให้ระคายเคือง จนต้องปล่อยสารออกมาเคลือบเม็ดทรายนั้นไว้จนก่อเกิดเป็นไข่มุกเม็ดงาม ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ไข่มุกยิ่งเม็ดใหญ่ขึ้นเท่านั้น และพวกเขาใช้หลักการเดียวกันนี้ในการสรรค์สร้างไข่มุกให้เกิดเป็นรูปแบบต่างๆ เช่นรูปหัวใจ ดวงดาวหรือดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว จึงทำให้ไข่มุกของบ้านเขานั้นเป็นที่นิยมมากกว่า ไหนจะสีต่างๆ ที่ผสมออกมาได้อีก ยิ่งเพิ่มมูลค่ามหาศาลเกินกว่าจะนับได้

“ผมทราบมาว่าการเพาะเลี้ยงหอยมุกเจริญเติบโตไม่ค่อยดีนัก ผมต้องการรายงานการเพาะเลี้ยงหอยมุกและงานวิจัยทั้งหมดที่พวกคุณเคยทำมา รบกวนรวบรวมและส่งให้ผมในวันพรุ่งนี้เช้าด้วยนะครับ” ชายหนุ่มสั่งการเสร็จก็ก้าวเท้าเดินออกจากห้องไป แต่ก่อนที่ร่างสูงจะพ้นออกจากห้องก็หมุนกายหันกลับมาอีกครั้ง เอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม

“ผมเข้าใจว่ามันออกจะกะทันหันไปสักหน่อย เอาเป็นว่ารวบรวมได้เท่าไหร่ ส่งส่วนนั้นมาให้ผมก่อน และผมต้องการทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ ยังไงก็รบกวนด้วยนะครับ”

“ครับ/ค่ะ” เสียงของทีมวิจัยตอบรับพร้อมกับเสียงเป่าปากและถอนหายใจด้วยความโล่งใจหลังจากคล้อยหลังของชายผู้เป็นเจ้านายของตน ธาราหลุดหัวเราะและส่ายศีรษะไปมา ถึงเขาจะเป็นคนบ้างานแต่ก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควรและเขาเป็นคนที่มีเหตุผลมากพอ การที่เขามาแบบกะทันหันและไม่ได้แจ้งพวกเขาไว้ก่อนถึงข้อมูลเหล่านั้น หากเขาไม่ขยายเวลาให้ ไม่แน่ว่าวันพรุ่งนี้ทีมงานของเขาก็ยังคงไม่ได้นอน

“เชิญครับคุณธารา” ชายหนุ่มพยักหน้ารับให้กับลุงบาซิมพลางก้าวเท้าเดินไปที่บ้านพักหลังหนึ่งที่แฝงตัวอยู่ในธรรมชาติร่มรื่น ฉากหลังนั้นเป็นท้องฟ้ากว้างสีฟ้าสดใส และเกลียวคลื่นพัดพาสาดซัดละอองน้ำกระทบเข้ากับชายฝั่ง ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อเขามาถึงก็พบว่าบ้านทั้งหลังถูกทำความสะอาดจนไร้ฝุ่น ข้าวของทุกชิ้นอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน กระเป๋าเสื้อผ้าของเขาก็วางตั้งอยู่ในห้องเรียบร้อย เปิดเครื่องปรับอากาศให้เสร็จสรรพ ชายหนุ่มค่อนข้างพอใจการทำงานของแม่บ้านที่นี่มากทีเดียวและเขาก็ได้รู้ว่าแม่บ้านที่เข้ามาจัดการตระเตรียมความพร้อมไว้ให้ชื่อน้ามูนา เป็นภรรยาของลุงบาซิมนั่นเอง ชายหนุ่มเอ่ยคำขอบคุณกับสองสามีภรรยาที่คอยอำนวยความสะดวกให้ ก่อนจะแยกจากกันเพื่อพักผ่อน โดยที่น้ามูนาแจ้งว่าจะนำมื้อเย็นมาส่งให้ตอนหกโมงเย็น

ธาราพยักหน้ารับเชิงรับรู้ เอ่ยขอบคุณอีกครั้งและปิดประตูลง ชายหนุ่มเดินเข้าไปภายในตัวบ้าน เดินขึ้นไปที่ชั้นสอง ลงมือจัดเสื้อผ้าของตนให้เข้าที่เข้าทาง เขาอาจจะต้องอยู่ที่นี่นานสัก 1 – 2 อาทิตย์ กว่างานของเขาจะเสร็จสิ้นลง คิดพลางจัดของไปพลาง

เมื่อจัดข้าวของส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย ล้างคราบเหงื่อคราบไคลและกลิ่นอายทะเลให้หมดไปจากตัว ชายหนุ่มขยับไปยืนอยู่ใต้ฝักบัว ปล่อยให้สายน้ำรินรดไหลตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ฝ่ามือใหญ่เสยเส้นผมของตนไปทางด้านหลังจนกระทั่งหยุดลงที่ลำคอแกร่ง ปลายนิ้วมือสัมผัสได้ถึงความเย็นชืดของบางสิ่ง ทำให้ปลายนิ้วมือนั้นลูบไล้ตามความเย็นนั้นจนกระทั่งมาหยุดลงที่ไข่มุกเม็ดงามสีฟ้าครามดุจสีของท้องทะเล

หลังจากที่เขาได้พบกับไข่มุกเม็ดนั้น เขาก็รับรู้ได้ว่ามันคือสิ่งที่มีค่ามหาศาล จึงตัดสินใจนำไปทำเป็นสร้อยและสวมใส่ติดตัวไว้แทน โดยใช้ทองเส้นเล็กถักทอเป็นเกลียวปลายแหลมทั้งบนและล่าง ที่ด้านในนั้นมีไข่มุกสีฟ้านั้นอยู่ภายในแลดูคล้ายกับเปลือกหอยที่ห่อหุ้มไข่มุกล้ำค่าเอาไว้ เพียงแต่สร้อยของเขานั้นทำมาจากทองคำแท้ตลอดทั้งเส้น ชายหนุ่มยืนกำจี้สร้อยนั้นชั่วครู่ คล้ายตกอยู่ในภวังค์แห่งห้วงคำนึง เพียงแต่ภาพในภวังค์นั้นช่างเลื่อนราง ไม่อาจบอกได้แน่ชัดว่าเขาคิดถึงสิ่งใด สิ่งที่รับรู้ได้คือคิดถึงเหลือคณาและความเศร้าสร้อยที่ปะปนมาจนทำให้ดวงตาคมกล้านั้นหม่นเศร้า

ธาราปล่อยมือออกจากสร้อยไข่มุกนั้น แล้วเริ่มต้นอาบน้ำให้ตนเองอย่างจริงจัง หลังจากนั้นจึงออกจากห้องน้ำ จัดการเช็ดผมให้พอแห้งหมาด ทิ้งตัวลงนอนพักผ่อนหลังจากเดินทางเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน ยังเหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงมื้อเย็น ชายหนุ่มคิดพลางหลับตาลงและปล่อยให้ตนจมลงสู่ห้วงนิทรา......

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 2 เกล็ดนางเงือก

    ธาราตื่นขึ้นมาอีกครั้งในยามเย็น เมื่อตื่นขึ้นแล้วก็พบว่าน้ามูนานำอาหารมาจัดขึ้นโต๊ะไว้ให้พร้อมฝาครอบแก้วสีใสที่ทำให้มองเห็นอาหารที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน ดังนั้นแล้วธาราจึงนั่งลงทานอาหารพร้อมกับหยิบเอาเอกสารที่วางอยู่คู่กันมาเปิดดูมีหลากหลายงานวิจัยและทฤษฎีระบุว่าเป็นเพราะอุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น ทำให้หอยมุกของเขาไม่เจริญเติบโต หรือบางงานวิจัยนั้นระบุว่าเพราะแพลงก์ตอนที่เป็นอาหารของหอยมุกนั้นไม่สามารถทนความร้อนของน้ำที่เปลี่ยนไป ทำให้หอยมุกเจริญเติบโตไม่ดี หรือบางทีก็อาจจะเป็นเพราะขยะพลาสติกที่มนุษย์นั้นทิ้งลงไปในทะเล หรือเพราะการเดินทางข้ามเกาะของนักท่องเที่ยวที่สนใจมาอควาเรียมก็อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุเช่นกันธาราคัดแยกงานวิจัยที่ตนคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ให้อยู่ที่อีกฝั่งหนึ่ง ส่วนอันที่ไม่เข้าตาก็แยกไว้อีกฝั่ง เพื่อนำงานวิจัยเหล่านั้นไปพูดคุยกับนักวิจัยแต่ละคนเพื่อผลักดันให้ค้นคว้าศึกษาต่อในวันรุ่งขึ้น ธารานั่งทานอาหารไปพลางอ่านเอกสารไปพลาง จนกองเอกสารตั้งใหญ่ค่อยๆ ลดลงตามลำดับ และมีเอกสารแยกกันสองฝั่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะต้องหยุดชะงักเมื่อหยิบเอางานวิจ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 3 คนหลอกลวง

    ธาราปัดเรื่องของนางเงือกออกไปจากหัวสมอง จัดการสะสางงานของตนต่อไป จนกระทั่งบ่ายแก่ชายหนุ่มก็ว่างจากภาระงานทั้งหมดของวัน แผ่นหลังกว้างเอนตัวพิงไปกับพนักพิงของเก้าอี้ตัวโต สะบัดศีรษะไปมาพลางยกมือนวดต้นคอของตน แล้วจึงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน มุ่งตรงกลับบ้านพัก จัดการอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ขับไล่ความเหนื่อยล้าและเปลี่ยนจากชุดสูททางการมาเป็นเสื้อเชิ้ตเนื้อบางที่เหมาะกับชายทะเล ด้านในสวมใส่เสื้อกล้ามเอาไว้ และกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้มและรองเท้าแตะเบาสบายสองเท้าก้าวเดินไปตามทางอย่างไม่รีบร้อนชมบรรยากาศในยามบ่ายแก่ที่แสงแดดและสายลมกำลังพอดี ชายหนุ่มก้าวเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ภูเขาสูงใหญ่ อันเป็นสถานที่ที่เขามาเยือนเมื่อเช้า ด้วยความสงสัยใคร่รู้สองขาจึงขยับก้าวเข้าไปใกล้ เดินสำรวจบริเวณโดยรอบจึงได้รู้ว่าภูเขาแห่งนี้มีถ้ำขนาดใหญ่ น้ำจากมหาสมุทรสามารถแทรกซึมผ่านเข้ามาได้ ดูจากที่มีคราบน้ำเกาะก็พอจะบอกได้ว่ามันสูงขนาดไหนธาราเดินสำรวจโดยรอบอีกเพียงชั่วครู่โดยไม่คิดจะเข้าไปดูด้านใน เขาไม่อยากสร้างเรื่องให้ตัวเองต้องได้รับอันตรายโดยการเดินเข้าไปในสถานที่ที่ไม่รู้จักและไม่มีคนนำทาง ดังนั้นแล้วช

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 4 คาไนน์

    “เจ้าเป็นคนรักของข้า......” ธารานิ่งไปทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น แต่เพียงไม่นานอาการเหล่านั้นก็จางหายไป แม้ใจของเขานั้นจะไม่อยากเชื่อในสิ่งเหล่านี้ แต่คิดว่าคนตรงหน้าคงไม่โกหกและโกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟเพียงเพราะเขาเอาไข่มุกของอีกฝ่ายไปแน่หากอีกคนบอกว่าเขาเป็นคนรักจนยอมมอบหัวใจให้ ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่นักที่อีกฝ่ายจะโกรธเขาถึงเพียงนี้ เพราะลองคิดในมุมกลับกัน หากเขาที่เป็นคนจดจำทุกอย่างได้ แต่กลับไม่สามารถออกไปตามหาคนรักได้ ทำได้เพียงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเนิ่นนานเกือบ 10 ปี เขาเองก็คงจะโกรธแค้นอีกฝ่ายมากเช่นกัน“งั้นคุณช่วยเล่าเรื่องราวระหว่างเราให้ผมฟังได้ไหมครับ แลกกับไข่มุกเม็ดนี้” ธาราหยิบเอาไข่มุกเม็ดงามที่ตนทำตกไว้ขึ้นมาถือไว้กลางฝ่ามือ เงือกหนุ่มตรงหน้าเขามองจ้องมาทางเขาด้วยท่าทีนิ่งงัน เส้นผมสีไลท์เกรย์พลิ้วไปกับสายน้ำจนคล้ายกับว่ามันมีชีวิต เงือกหนุ่มหมุนตัวหันหลัง เอ่ยบอกด้วยเสียงเรียบนิ่งยากที่จะคาดเดา“หัวใจของข้าคงไร้ค่าสำหรับเจ้าจริง..... มิเช่นนั้นเจ้าคงมิยอมปล่อยมันไปอย่างง่ายดายเช่นนี้” เงือกหนุ่มกล่าวก่อนจะตั้งท่าเตรียมว่ายน้ำจากไป ทำให้ธาราสะดุ้งตกใจ จนรีบว่ายน้ำตามไปแล้วจับแขน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 5 คิดถึง..... NC+++

    “มะ ไม่ใช่แล้วโว้ยยยยย ใครจะยอมเป็นเมียนายกันห๊ะ!!!!”ผลั๊วะ!!“โอ้ย!!!!” เสียงร้องครวญครางของเงือกหนุ่มที่โดนฝ่ามือใหญ่ตบเข้าไปเต็มๆ บ้องหูจนทำให้ใบหน้าของคาไนน์สั่นสะเทือนและสะบัดหันไปอีกทางในทันที เงือกหนุ่มลู่หูลงอย่างเหงาหงอย พวงหางยาวระย้าสะบัดส่ายไปมาสองสามทีก่อนจะหยุดนิ่งลง ธารารู้สึกราวกับว่าตัวเองเห็นคนตรงหน้าเป็นสุนัขตัวโตที่แสดงท่าทีเหงาหงอย ไม่ใช่เงือกหนุ่มที่โมโหโกรธาเขาเมื่อวานเย็นจนกระทั่งกรีดกรงเล็บฝากรอยแผลไว้ที่อกของตน คาไนน์กล่าวด้วยเสียงอุบอิบ ช้อนสายตาขึ้นมอง"แต่มันจะช่วยทำให้เจ้าจดจำเรื่องราวได้มากขึ้น" "วิธีอื่นมีเยอะแยะไป ไม่เห็นต้องใช้วิธีนี้!!" ธาราร้องออกมาเสียงดัง ในขณะที่คาไนน์นั้นส่ายศีรษะไปมา"ไม่จริง หากเจ้าจำได้จริง เจ้าคงจะจำได้ตั้งแต่เห็นหน้าข้าหรือรังรักของเราแล้ว" ธารากะพริบตาปริบ อดที่จะเห็นด้วยไม่ได้ เมื่อเขาในตอนนี้ไม่มีภาพความทรงจำของเงือกหนุ่มตรงหน้าอยู่เลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ไม่ยินยอมให้ไอ้แท่งเนื้อที่ใหญ่โตนั่น มาแทงเข้าสู่ช่องทางของเขาเช่นกันดูสิ โดนตบหัวไปขนาดนั้นมันยังผงกหัวหงึกๆ ทักทายเขาอยู่เลย!!!"อึก! นะ นายจะทำอะไร" เสียงของธาราคล

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 6 มีพระชายาโดยไม่ปรึกษาผู้ใด!!!!

    เย็น......หนาว......หายใจไม่ออก......เขาใกล้จะตายแล้ว.....ธารารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากนิทรา ดวงตาทรงแอลมอนด์เรียวเล็กปรือขึ้นมาช้าๆ ทัศนีย์ภาพที่ไม่คุ้นเคยทำให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันช้าๆ ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือพัดตกจากเรือสำราญและตกลงมาสู่ห้วงมหาสมุทรที่เย็นเฉียบจับขั้วหัวใจ ก่อนที่จะหมดสติไปเขารับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งพุ่งเข้าหาตน และมันอ้าปากกว้างเตรียมพร้อมสำหรับการกลืนกินชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นนั่ง รับรู้ได้ว่าลำคอแห้งผากและมีรสเค็มปร่ากระจายไปทั่วริมฝีปาก เขามองออกไปรอบตัวด้วยความไม่เข้าใจ เห็นเพียงเสียงรำไรและผนังที่เย็นเฉียบฉ่ำชื้น ในตอนนี้เขานั่งอยู่เพียงลำพังภายในถ้ำที่มืดมิด มีแสงสว่างสาดส่องอยู่ที่ปลายทางทำให้เขาต้องหรี่ตามองตอนนี้เขายังคงมึนงง สับสน ไม่รู้ว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แต่กระนั้นก็ยังยันตัวลุกขึ้นนั่งเพื่อที่จะได้ออกไปดูนอกถ้ำให้ชัดเจน ธารายันตัวลุกขึ้นยืน เดินไต่ไปตามผนังพร้อมๆ กับการห่อตัวเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายที่เปลือยเปล่ากึก!!ไม่มี.... เสื้อผ้า......ชายหนุ่มชะงักก่อนจะก้มลงมองที่ด้านล่างและลากไล้สายตาไปทั่วตัว ก่อนจะภาพร่างกายเปลือยเป

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 7 ภรรยาโกรธเคือง

    คาไนน์โคลงศีรษะไปมาอย่างไม่สนใจเท่าไหร่นักให้กับคำพูดของเลโอ ก่อนจะจับดึงคนที่กำลังหลับใหลมาไว้ในอ้อมแขน มองดูแล้วว่าตรงนี้คงไม่เหมาะให้อีกฝ่ายอยู่อาศัย เอาไว้ให้คุ้นชินกันมากกว่านี้ค่อยพาลงมาที่ใต้บาดาลและพาไปพบกับบิดาของตน เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ไม่รอช้าที่จะมองหาเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุดและอุดมสมบูรณ์พร้อมสำหรับการอยู่อาศัย ที่สำคัญเกาะนั้นต้องร้างไร้ ปราศจากผู้คน และมีถ้ำอยู่ด้านล่างเพื่อให้เขาสามารถใช้ถ้ำเป็นทางขึ้นลงสู่ห้วงมหาสมุทรได้โดยง่ายธาราวนเวียนแหวกว่ายไปมา จนสุดท้ายแล้วคนที่นำทางให้ก็คือเลโอ เพราะอีกฝ่ายหนีออกมาเที่ยวเล่นอยู่บ่อยครั้ง ต่างจากเขาที่แทบไม่ได้ออกไปที่ใดเลย และเพราะแบบนั้นทำให้เขามาถึงเกาะแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากจุดที่อีกคนพลัดตกลงมามากนัก เขาพาคนในอ้อมแขนเอนนอนพิงลงที่โขดหินฝั่งหนึ่ง ลำตัวครึ่งล่างถูกแช่อยู่ในน้ำ“ข้าจะไปหาอาหารมาให้” คาไนน์พยักหน้ารับ ขณะที่ยันตัวขึ้นไปอยู่บนบกบริเวณที่เย็นและชื้นเพื่อคอยดูแลและอุ้มอีกคนขึ้นจากน้ำ ครีบยาวระย้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นขาแข็งแกร่ง ในคราแรกเขานั้นเดินล้มกลิ้งคว่ำคะมำไม่เป็นท่า แต่ก็ยังกัดฟันพยายามก้าวเดินไม่หยุด จนสามารถเดินเ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 8 เศษเสี้ยวความทรงจำ

    Thara Partธารายินยอมกล้ำกลืนสาหร่ายสีเขียวออกคล้ำเข้าปากอย่างจำใจ มันไม่ได้อร่อยเหมือนสาหร่ายทอดที่เขาเคยกินทั่วไป แต่มันเหมือนสาหร่ายที่อยู่ในซุปมิซโซะอาหารญี่ปุ่นแบบที่เขาเคยกินในบางครั้ง แต่ยังคงมีความเค็มปะแล่มของน้ำทะเลที่ช่วยให้สาหร่ายเส้นนี้มีรสชาติที่เค็มจัด แต่คนป่าตรงหน้านั้นกลับเคี้ยวกินเข้าปากโดยไม่แสดงอาการใดออกมา ทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงจะเคยชินกับอาหารแบบนี้ และเขาคงเลือกมากไม่ได้ เพราะอาการปวดท้องในตอนนี้เรียกร้องให้เขาหาบางสิ่งเข้ามาเติมเต็มในกระเพาะ ทำให้ต้องจำใจกล้ำกลืนสาหร่ายรสเค็มปี๋เข้าปากอย่างช่วยไม่ได้ ในตอนนั้นเองที่เขาได้มีโอกาสมองออกไปรอบๆ ถ้ำกว้างใหญ่จนไปสะดุดตาเข้ากับบางสิ่งที่มีสีสันคุ้นตา“นั่นมัน.....” เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบา เขาไม่ได้สนใจคนข้างกายที่หันมามองด้วยดวงตาใสแป๋ว แต่กลับก้าวเดินเข้าไปใกล้ที่จุดนั้นอย่างรวดเร็ว เขาทรุดตัวนั่งลงพร้อมกับจ้องมองตาวาว หันไปเอื้อมคว้ามาถือไว้ในมือ ก่อนจะหันไปถามคนที่นั่งมองตาแป๋วอยู่ที่เดิมไม่ละสายตา“ผมกินอันนี้แทนได้ไหม”“......”“..... งั้น.... ผมกินนะ...” เมื่อเขาไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกฝ่าย ริมฝีปากบางก็เม้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 9 ไปด้วยกัน

    ธารามองคนที่ขยับไปนั่งคุดคู้อยู่มุมถ้ำด้วยความเหนื่อยใจ เพราะอีกฝ่ายนั้นดันพูดขึ้นมาว่าจะขอทำซ้ำอีกรอบ ในคราวนี้เลยได้ฝ่ามือเขาฟาดเข้าที่หน้าเต็มๆ จนเกิดเป็นริ้วแดงบนแก้วขาวนวล และด้วยเพราะฝ่ายมือนี่แหละ ทำให้ไอ้เงือกบ้านั้นชะงัก และทำหน้าเศร้า น้ำตาหยดแหมะเป็นไข่มุกร่วงหล่นลงมา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงนั่งกอดอก มองจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ทำให้เจ้าเงือกชายแสนสวนค่อยๆ ว่ายน้ำ พาร่างตนเองไปทิ้งตัวลงกับพื้นถ้ำที่มุมหนึ่ง ตบหางปลาไปมาสลับกับการสะอื้นไห้ ตัดพ้อต่อว่าเขาด้วยความน้อยอกน้อยใจ“ฮึก ข้าได้ทิ่มไปคราเดียวเอง ฮึก เมื่อก่อนยังเยอะกว่านี้มากนัก ฮือ” พูดพร้อมสะอื้นไห้ ต่างจากคนฟังที่เส้นเลือดบนขมับเต้นตุ้บ นึกอยากจะเข้าไปดึงทึ้งเส้นผมมาตบๆ ให้หายบ้า แต่พอหันไปมองก็รู้สึกว่าตนเองเป็นคนหยาบช้า ที่ทำร้ายคนงามได้ลงคอ!“ผมจะกลับล่ะ” ธาราถอนหายใจเฮือก ก่อนจะผุดตัวลุกขึ้นยืนจากแท่นหิน สาหร่ายที่ปูไว้รองนอนตอนนี้ขาดกระจุยตามแรงดึงรั้งทั้งจากของเขาและของเจ้าเงือก แถมยังพักแข้งพันขาจนเขากระชากจนขาดกระจุย แล้วจึงเดินออกไปนอกถ้ำ หากแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้าออกไปดั่งใจอยาก อีกฝ่ายก็ถลาเข้ามากอดเขาเอาไว้แ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30

Bab terbaru

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 18 ความลับของเส้นขน (ผม)

    Kanine Partคาไนน์ยกปลายนิ้วไล้เกลี่ยผิวแก้มของผู้เป็นภรรยาอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้มกว้างที่มีให้กัน กับคนเพียงผู้เดียว ก่อนที่จะค่อยๆ กดแทรกกายของตนให้เข้าลึกที่สุดของช่องทางสีหวานฉ่ำ ลำกายนั้นขยับขยายขนาดเพิ่มเติมเต็มช่องวางภายในนั้นจนติดล็อกแน่นอยู่ภายใน ปิดกั้นหยาดน้ำสีขาวขุ่นไม่ให้ไหลออกจากร่างกายโปร่งบางที่ยังคงหลับใหลไม่รับรู้เรื่องราว ท่วงทำนองเสียงหวานเอ่ยดังผะแผ่วราวกับจะช่วยขับกล่อมให้นอนหลับฝันดี“ฝันดีนะ ภรรยาที่รักของข้า......” พูดแล้วก็เอนตัวซุกซบลงบนอกของคนที่อยู่ใต้ร่าง ศีรษะเล็กทุยนั้นขยับไปมาร้าวกับลูกแมวออดอ้อนเจ้าของ ธาราที่ยังคงติดอยู่ในห้องฝันขมวดคิ้วให้กบสัมผัสวาบหวามที่สอดแทรกเข้าลึกในกาย จนเมื่อสิ่งนั้นสงบนิ่ง เจ้าตัวก็ผ่อนลมหายใจแล้วจมลงสู่ห้องนิทราอีกหนคาไนน์ยังคงฮัมเพลงในลำคอด้วยความอารมณ์ดี ปลายนิ้วเขี่ยไล้ลูบวนที่ยอดอกสีเข้มของอีกฝ่ายอย่างสบายอกสบายใจ ความรู้สึกล้ำลึกปะปนไปกับความโหยหาที่ถวิลถึงเนื่องจากตอนนี้ทั้งธาราและคาไนน์พากันอพยพย้ายขึ้นมาอยู่อาศัยบนบก คาไนน์เองก็ยังคงมีความคิดถึงบ้านบ้างเป็นบางค

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 17 ห้วงฝัน

    ความรู้สึกร้อนรุ่มแผ่กระจายไปทั่วทั้งตัว ทำให้ธาราถึงกับขมวดคิ้วด้วยความรำคาญเล็กน้อย และนั่นทำให้ใครบางคนที่ปีนป่ายขยับมานั่งคร่อมทาบทับกันถึงกับหยุดชะงัก ดวงตากลมโตสดใสแวววาวเหลือบตาขึ้นมองด้วยความระมัดระวัง หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ลมหายใจที่สม่ำเสมอคงที่ก็ถูกปล่อยออกมา ทำให้คนที่ยังคงตื่นอยู่ลอบถอนหายใจแล้วปฏิบัติการขั้นถัดไปในทันที.....ธาราลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับความมืดมิดรอบด้าน ได้ยินเสียงคลื่นน้ำกระทบหาดทรายดังขึ้นอย่างชัดเจนสะท้อนก้องอยู่ในหู เขากวาดสายตามองออกไปรอบตัว กลับพบว่าตนเองตื่นขึ้นจากผืนทราย มิได้นอนอยู่บนเตียงและกกกอดใครอีกคนไว้ในอ้อมแขนแต่อย่างใด จนกระทั่งเขาปรับสายตาได้ จึงเห็นว่าสถานที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้คือถ้ำแห่งหนึ่ง......“ออกเสียงตามผมนะ กอไก่” สายตาของเขาหันไปยังทิศทางที่มาของเสียนั้น ก่อนจะพบกับภาพของเด็กชายคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น รูปร่างยังคงคล้ายกับเด็กมัธยมต้น แทนที่จะเป็นช่วงมหาลัยตามอายุ และใช่ คนๆ นั้น คือเขาเอง....“กอ...” เสียงของใครบางคนพยายามจะเลียนแบบสิ่งที่เขาพึ่งเอ่ยคำเมื่อครู่ ท

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 16 ศูนย์วิจัยใต้ดิน

    ตอนนี้ทั้งเขาและลุงบาซิมกำลังนั่งประจันหน้ากันในห้องทำงานส่วนตัวที่ศูนย์วิจัยในช่วงเย็นค่ำของวัน หลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะทำห้องวิจัยและนำเอามาปรึกษาพูดคุยกับอีกฝ่าย เขากลับได้รับคำตอบที่น่าตกใจยิ่งกว่า....“ครับ ที่ใต้อควาเรียมนั้นมีศูนย์วิจัยอยู่ก่อนแล้ว” ลุงบาซิมยืนยันหลังจากที่เขาเอ่ยถามซ้ำไปอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูตนเอง ก่อนที่ลุงบาซิมจะเล่าถึงความเป็นมาของห้องวิจัยนั้นด้วยตนเอง“คือตอนที่คุณท่านตัดสินใจซื้อเกาะนี้แล้วเพาะเลี้ยงหอยมุกขาย ท่านก็มีการสั่งให้ทำห้องวิจัยเอาไว้ใต้ศูนย์นิทรรศการอยู่ก่อนแล้วน่ะครับ และแน่นอนว่า....... ใช้เพื่อวิเคราะห์และสำรวจหาเหล่าเงือกเหมือนกัน” เพียงเท่านั้นหัวใจของธาราก็เย็นเหยียบขึ้นมาในทันที เขาเงยหน้ามองคนพูดนิ่งๆ อีกฝ่ายที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยเล่าเรื่องราวต่อโดยไม่ต้องเอ่ยปากแต่อย่างใด“ตอนนั้นท่านบอกว่า ตอนที่พบคุณธาราแล้วพาตัวกลับไปรับการรักษาที่กรุงเทพ คุณธาราพยายามดิ้นรนเป็นอย่างมาก พยายามที่จะกลับมาที่เกาะนี้ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไรมา คุณท่านบอกเพียงแค่ว่าคุณธารายืนกรานว่าเงือกมีอยู่จ

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 15 การแต่งงานของเหล่าเงือก

    ในที่สุดหลังจากที่ธาราขลุกอยู่กับคาไนน์ เพื่อให้อีกฝ่ายได้ฝึกพูด ฝึกเดิน และหัดการใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติทั่วไป ตอนนี้วันเวลาผ่านเลยไปหลายสัปดาห์แล้ว และธาราไม่อาจเกเรไม่ยอมทำงานทำการมากไปกว่านี้ได้ นั่นด้วยเพราะผู้เป็นบิดาและพี่ชาย มักจะโทรมาถามข่าวคราวอยู่เสมอซึ่งธาราได้แต่อึกอักในลำคอ เอ่ยตอบไม่เต็มเสียง จะให้เขาบอกครอบครัวได้อย่างไร ว่าหลังจากที่ลงมาดูงานยังไม่ถึงอาทิตย์ ก็เก็บเอาเงือกตนหนึ่งมาเลี้ยงดูเสียแล้ว ดังนั้นแล้วธาราจึงต้องจำใจปล่อยคาไนน์ไว้ที่บ้านพักเพียงลำพัง ส่วนตนเองนั้นก็เข้ามาทำงานตรวจเอกสารอยู่ที่ศูนย์วิจัย บางครั้งก็หอบงานกลับไปทำที่บ้านพักด้วยแม้ว่าบิดาและพี่ชายจะเร่งตามยิ้กๆ ให้เขากลับไปช่วยงานในกรุงเทพ หากแต่เขาก็ยังคงยืนกรานที่จะอยู่ต่อ ไม่ยินยอมเดินทางกลับแต่อย่างใด แถมยังบอกทิ้งท้ายเอาไว้ว่าเขาอาจจะย้ายมาอยู่ประจำการที่นี่เป็นการถาวร และหากมีเรื่องด่วนอะไรหรือจำเป็นจริงๆ ค่อยขึ้นเครื่องกลับไปจัดการ หลังจากจบคำบอกกล่าว คนทางบ้านก็พากันร้องโวยวาย หากแต่เจ้าตัวไม่คิดจะอยู่ฟัง กลับกดตัดสายทิ้งไปในทันที แล้วโยนโทรศัพท์ส่งๆ ไว้บนโต๊ะทำงานดว

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 14 ฝึกเดิน

    คาไนน์กำลังรู้สึกว่าตนเองถูกทรมาน.....นั่นก็เพราะว่าธาราบังคับขู่เข็ญให้เขาพยายามพูดออกเสียงให้ได้น่ะสิ!!!“ลองใหม่ครับ” ธาราในตอนนี้นั่งอยู่ข้างกัน มีปากกาอยู่ในมือและใช้มันชี้ไปที่แบบเรียนตัวอักษรอย่างใจเย็น“ตะ”“ตอเต่า”“ตะ” แรกเริ่มเดิมที ในคราแรกที่ธาราให้คาไนน์ลองออกเสียง อีกฝ่ายทำได้เพียงแค่เปล่าเสียง อื้อๆ อ่าๆ ออกมาเท่านั้น หากแต่พอเป็นคำพูดในหัวนั้นกลับพูดได้ลื่นไหล นั่นอาจจะเพราะภาษาที่เฉพาะของอีกฝ่าย ภาษาเงือกที่คาไนน์บอกว่าเราพูดคุยได้และเข้าใจกัน เพราะเขาเป็นภรรยาเงือก แต่ในเมื่อตอนนี้ขึ้นมาอยู่บนบก คาไนน์จะต้องอ่านออก เขียนได้ พูดได้ และต้องฝึกเดินให้ได้ด้วย“ลองใหม่ครับ ตอเต่า”“ตอตา” แม้มันจะดูยากไปสักหน่อย และต้องใช้ความอดทนไม่น้อย แต่ธาราคิดว่าอยู่เสมอว่าเขากำลังเลี้ยงเด็กเล็กที่อ่อนต่อโลกคนหนึ่ง ดังนั้นแล้วเขาจะต้องใจเย็นให้มาก เพื่อให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกกดดันจนเกินไปนัก ความคิดของเขาสะดุด เมื่อจู่ๆ คนที่นั่งอยู่ข้างกันก็ทิ้งตัวไปนอนแผ่หลาลงบนโต

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 13 สร้างสรรค์ปั้นแต่ง

    ในเช้าวันถัดมา ธาราก็จับคาไนน์ให้ไปอาบน้ำแปรงฟันและจับแต่งตัวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับมีสิ่งที่พิเศษแตกต่างจากเมื่อคืนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่องนั่นก็คือ....‘ภรรยา ข้าเจ็บ.....’“อดทนหน่อยสิ”‘งื้ออออออ’ เสียงร้องประท้วงแผ่วเบาดังขึ้นในลำคอของเงือกหนุ่ม ตอนนี้ทั้งคาไนน์และธารากำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เส้นผมสีเงินเป็นยวงของคาไนน์ถูกจับสางไปมาและจับแต่งทรงผม นั่นเพราะหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จ ธาราก็ตั้งใจจะพาคาไนน์ลงมาทานอาหารที่ด้านล่าง แต่เพราะผมที่ยาวจนเกินไปของคาไนน์ ทำให้ธาราเผลอเหยียบเข้าไปเต็มๆ เท้า จนคาไนน์หัวกระตุกหน้าหงายเงิบสุดท้ายธาราจึงตัดสินใจที่จะพาคาไนน์มานั่งลงที่หน้ากระจกเงา แล้วพยายามทำผมให้อีกฝ่ายเพื่อให้ผมไม่ยาวรุงรังเช่นแต่ก่อน และเพราะเขาเป็นผู้ชาย ยางมัดผมจึงไม่เคยได้ใช้งาน สุดท้ายก็ต้องลงไปขอยางมัดแกงจากห้องครัวกับน้ามูนา เพื่อเอามาทำผมให้อีกฝ่าย แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นอีก เมื่อธาราทำผมไม่เป็น แน่ล่ะ เขาจะไปเคยทำผมให้ใครได้ยังไง ในเมื่อชีวิตนี้เขาไม่เคยมีหญิงสาวข้างกาย จะไม่เคยทำผมให้

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 12 คาไนน์กับการกินข้าว......

    หลังจากที่ธาราจัดการคาไนน์ให้สวมใส่เสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อยดี เขาก็โอบอุ้มคนตัวเล็กกว่าลงไปที่ห้องรับประทานอาหาร ดวงตาคมกล้าเหลือบมองเวลา ขณะนี้ล่วงเข้าวันใหม่ไปเล็กน้อย ทางที่ดี เขาควรจะรีบพาคนตัวเล็กไปทานอาหาร แทนที่จะกัดแทะเสื้อผ้าของเขาประทังชีวิตดังนั้นแล้วหลังจากที่พาคาไนน์มาถึง ก็จับให้อีกฝ่ายนั่งลงบนเก้าอี้ดีๆ ตรงหน้าของพวกเขามีกับข้าวพร้อมฝาครอบวางไว้อยู่ ธาราไม่รอช้าที่จะตักข้าวแล้วนำไปวางลงตรงหน้า พร้อมกับจัดเตรียมน้ำเปล่าให้คาไนน์ด้วย คนตัวเล็กได้แต่นั่งกะพริบตาปริบๆ เพราะยังใช้ขาไม่คล่อง ทำให้ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ดั่งใจอยาก จึงทำเพียงมองตามหลังภรรยาของตนไปมาเท่านั้น จวบจนกระทั่งธารามาทรุดตัวนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม พร้อมกับพยักหน้าส่งสัญญาณและเอ่ยบอกเป็นคำพูด“ทานได้ครับ” นั่นทำให้คาไนน์ดวงตาลุกวาวด้วยความหิวโหย จับคว้าจานเข้ามาใกล้ แล้วกัดเข้าไปเต็มคำกร๊วม!!!‘โอ้ย!!!’ เสียงร้องดังขึ้นภายในหัว ทำให้ธาราถึงกับต้องหรี่ตาเมื่อมันดังลั่นจนหูอื้ออึง จนเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องเบิกตากกว้าง ทะล

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 11 คาไนน์กับการสวมใส่กางเกง...... (ใน)

    “แล้วเลโอนี่ใคร? ทำไมเขาสอนอะไรคุณเยอะจัง?” ธาราถามด้วยความสงสัย ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินอีกฝ่ายพูดชื่อเลโอมาหลายครั้งแล้ว‘เลโอเป็นเพื่อนสนิทของข้า เขาชอบที่จะขึ้นบกมาเที่ยวเล่นบ่อยๆ แต่พอข้าขอบ้าง เขาก็บอกว่าเผ่ามนุษย์นั้นน่ากลัว เขาไม่อยากพาข้าไปเสี่ยง เลยไม่ยอมพาไปด้วยสักที’ คาไนน์ร้องบอก พร้อมกับตีหางแปะๆ ด้วยความแง่งอน“แล้วคุณไปรู้จักคำพวกนี้ได้ยังไง รู้หรอว่าหม้อต้มเป็นแบบไหน สุกเป็นยังไง ร้อนเป็นยังไง” ธารายังคงถามต่อเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงอยู่แต่ในน้ำที่เย็นจัด จนไม่รู้จักความร้อน หม้อต้ม หรือว่าไฟ จึงเป็นเรื่องแปลกที่เขาได้ยินอีกฝ่ายบอกว่าตนเองกำลังจะสุกทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นเองกับตา ธาราคิดพลางเปิดน้ำฝักบัว รินรดบนศีรษะให้ชุ่มน้ำ ก่อนจะบีบยาสระผมออกมาจัดการให้คนตัวเล็กกว่าที่ยังคงนั่งไม่รู้เรื่องรู้ราว‘รู้สิ เลโอเคยทำให้ดู เขาบอกว่าพวกมนุษย์จะชอบจับปลาไปต้มยำทำแกง แล้วก็ตั้งหม้อไฟ ต้มน้ำ แถมยังให้ข้าลองเอานิ้วจุ่มดูด้วย ตอนนั้นข้าไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร รู้เพียงข้าเจ็บและไม่สบายตัวเอาเสียเลย สุดท้ายเลโอก็บอกว่าความรู้ส

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 10 คาไนน์กับการลงอ่างครั้งแรก.....

    หลังจากที่คาไนน์เอ่ยปากตกลง ยินยอมที่จะตามมาอยู่ด้วยกันบนบก คาไนน์ก็พาธาราว่ายน้ำมุ่งตรงมาที่ด้านบนผิวน้ำบริเวณเดียวกันกับแอ่งน้ำใต้ถ้ำที่เดียวกันกับตอนที่ถูกพาลงมา ธาราใช้สองมือเกาะโขดหินเอาไว้แน่น แล้วพาตนเองขึ้นจากน้ำได้ในที่สุด แต่เมื่อหันมองที่ข้างแล้วกลับว่างเปล่า ไม่มีเงือกบ้าที่ว่ายน้ำตามกันมาแต่อย่างใดดังนั้นธาราจึงหันไปมองคนที่พาเขามาถึงฝั่ง เห็นคนตัวเล็กนั้นพยายามเกาะโขดหินแล้วยันตัวขึ้นอย่างทุลักทุเล เหตุเพราะอีกฝ่ายไม่มีขาที่ใช้ยันหินหรือพยุงตัว แต่กลับมีครีบหางที่ปัดไปปัดมา คล้ายปลาที่ดิ้นแด่วๆ อยู่บนบก เมื่อธาราเห็นเช่นนั้นจึงสอดมือเข้าที่ช่วงรักแร้ของอีกคน พร้อมๆ กับยกตัวขึ้นให้พ้นน้ำ ก่อนจะวางลงที่โขดหิน ภาพที่เห็นตรงหน้า คือภาพที่ครีบหางค่อยๆ หลุดออกและสลายไป ก่อนจะกลับกลายเป็นขาขาวเรียวสวยปรากฏอยู่ตรงหน้าแทนธารากวาดสายตาสำรวจคนตรงหน้าอีกครั้งชัดๆ หากไม่เห็นว่าที่แผ่นอกนั้นเล็กบางและแบนราบ บวกกับอะไรบางอย่างที่หดตัวนุ่มนิ่มอยู่ที่กลางลำตัว เขาก็คงจะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงสาวไปแล้วแน่ๆ ใบหน้าที่งดงามจิ้มลิ้ม ดวงตาที่เป็นใบประกาย เส้นผมแผ่สยายยาวระไปกับผืนทราย ยังขับเน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status