Share

Merman บันทึกรักใต้มหานที
Merman บันทึกรักใต้มหานที
Penulis: มินิซ่าส์

Intro

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-30 16:53:28

 ชายคนหนึ่งกำลังเงยหน้าขึ้นมองเบื้องบนอย่างสนอกสนใจ เส้นผมหยักศกสีไลท์เกรย์พลิ้วไหวไปตามสายน้ำที่พัดหวน ข้างกายนั้นคือเพื่อนสนิทที่วนเวียนว่ายอยู่ข้างกัน พยายามดึงรั้งเขาให้ออกห่างจากพื้นผิวของธาราอย่างเกรงกลัว พร้อมเอ่ยปากเสียงดังกังวานอย่างไม่กลัวว่าใครจะได้ยิน

“กลับเถอะคาไนน์ ออกมาแบบนี้องค์โพไซพิโรธแน่”

“เดี๋ยวก่อนสิ เจ้าไม่ได้ยินหรือเลโอ เสียงนั้นน่าฟังจะตายไป” ชายหนุ่มเรือนผมยาวสลวยยื้อไว้ อย่างไรก็ไม่ยอมถอยห่างไป กลับตั้งใจจะแหวกว่ายเข้าใกล้อย่างสนอกสนใจสุดทน

“อย่าเข้าไป! พวกนั้นมีแต่พวกน่ากลัว!” เลโอยื้อเอาไว้อีกครั้ง ปลายหางนั้นสะบัดรัวเร็ว

คาไนน์ นั่นคือชื่อของเขา เขามีศักดิ์เป็นถึงองค์รัชทายาท เป็นบุตรชายคนเดียวขององค์โพไซ แต่เดิมพวกเขาไม่ได้อยู่อาศัยที่นี่ แต่เพราะที่เมืองเดิมนั้นเกิดเภทภัย ทำให้ไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไป เหตุเพราะมีมนุษย์นั้นไซร์แลเห็นถึงตัวตนของชนเผ่าเงือก…..

ใช่.... เขานั้นคือ เงือก ผู้เป็นจ้าวปกครองผืนน้ำใต้มหานที

เพราะในโบราณนานมาแต่เดิมถิ่นฐานเขาไม่ได้อยู่อาศัยที่แถบนี้ แต่อยู่ห่างไกลออกไปลึกลงไปใต้มหาสมุทรกว้างใหญ่ มีเมืองของชาวเงือกอยู่อาศัย จนกระทั่งเภทภัยเริ่มรุกราน เพราะในสมัยนั้นมีมนุษย์ออกเดินเรือกันเป็นจำนวนมาก แถมยังฆ่าล้างผลาญ ล้มล้างเผ่าพันธุ์ การต่อสู้นั้นบางครั้งก็เหนือขึ้นไปบนผิวน้ำ เสียงดังโครมครามจนชาวเงือกต้องออกมาสำรวจดู

และนั่นคือการกระทำที่ผิดมหันต์ เพราะนอกจากจะถูกพบเห็น ทั้งยังถูกจับเป็น บังคับขู่เข็ญให้เป็นภรรยา หรือแม้กระทั่งแลเนื้อเถือหนังออกมากลืนกิน ชาวเงือกลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วจนสุดท้ายต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน ไม่มีที่ไหนที่เขาจะอยู่ได้นาน ต้องย้ายฐานที่มั่นอยู่ร่ำไป ในทุกที่พวกเขาจะพบแต่สิ่งใหม่ แลเห็นแต่สิ่งน่าสนใจ ยิ่งทำให้คาไนน์อยากรู้อยากเห็นและอยากลอง และในครั้งนี้เขาก็กำลังสนใจอะไรบางอย่างที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำที่ด้านบน เจ้าสิ่งนั้นส่งเสียงรื่นหูน่าฟัง เขาจึงว่ายวนเวียนแถวนั้นอย่างสนอกสนใจอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

ที่ด้านบนของลำเรือ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง อายุราว 20 ปี กำลังเดินหน้ายุ่งอยู่ภายในงานเลี้ยงบนเรือสำราญขนาดใหญ่ ที่โคลงเคลงไปมาตามกระแสน้ำที่ซัดเซาะกระทบกัน

ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า ธารา มหานที บิดาและมารดาของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายเครื่องประดับอัญมณี ไล่ตั้งแต่ขุดเจาะเหมืองเพชรเหมืองพลอย รับซื้อจากพ่อค้าแม่ค้ารายใหญ่และรายย่อยไปจนถึงการเพาะเลี้ยงไข่มุกอันดามัน และในงานเลี้ยงนี้นั้นก็เป็นงานประมูลเครื่องประดับคอลเลคชั่นใหม่ของบริษัท ทำให้ชายหนุ่มไม่ใคร่จะชอบใจนักเพราะเบื่อหน่ายงานเหล่านี้เหลือเกินจะกล่าวถึง ผู้คนมากหน้าหลายตาที่เดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้มแต่กลับปิดซ่อนความจริงที่ต้องการไว้ภายใต้หน้ากากหนังมนุษย์ได้อย่างแนบเนียน

หลังจากที่ธาราหรือ ธาร ทำการทักทายแขกเหรื่อตามที่บิดามารดาลากตัวไปเสร็จก็หาทางปลีกตัวหลบเลี่ยงออกจากงาน เรียวขาเดินทอดน่องไปตามกราบเรือ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มระต้นคอพลิ้วไปตามกระแสลม ชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยจัดทรงไม่ให้ผมลงมาปิดหน้าปิดตา สูดลมหายใจเข้าปอดลึกล้ำจนได้กลิ่นน้ำทะเลลอยมาแตะจมูก

“หึหึ” ชายหนุ่มหัวเราะขบขันในลำคอ เมื่อคิดไปว่าตนเองนั้นอยู่กลางทะเล ได้กลิ่นกรุ่นของทะเลนั่นก็ถูกต้องแล้ว คิดพลางเดินไปชิดริมรั้ว เท้าแขนมองความมืดมิดตรงหน้าที่มีเกลียวคลื่นหมุนวนเป็นระยะ

ซ่า!

“อะไรน่ะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองบางอย่างที่อยู่ไกลๆ นั้นออกไป เห็นเป็นเงาของอะไรสักอย่างที่กลืนไปกับความมืดของทะเลสีดำ ชายหนุ่มเพ่งพิศมองจ้องอีกครั้งอย่างไม่ละสายตา

โครม!!! ตึง!!!

“กรี้ดดดด/ว๊ายยย”

ตู้มมมมมมมม

ในช่วงจังหวะนั้นเขารับรู้ได้ว่าตนกำลังลอยออกจากลำเรือเสียแล้ว เพราะบางสิ่งที่เขามองจดๆ จ้องๆ อยู่นั้นมันคือปลาขนาดใหญ่ที่เขาไม่รู้จักว่ามันคือปลาอะไร รู้แค่เพียงมันตัวใหญ่มหึมาจนเทียบเท่ากับวาฬตัวโต และเจ้าปลาตัวนั้นมันก็ว่ายชนเข้ากับใต้ท้องเรือจนเกิดเสียงดังสนั่น เรือโคลงเคลงไปมาเรียกให้เกิดเสียงกรีดร้อง และสุดท้ายก็เป็นเขาที่ตกลงสู่ห้วงมหาสมุทรที่ฉ่ำชื้นและเย็นเฉียบจับขั้วหัวใจ

สายน้ำโอบอุ้มเย็นฉ่ำแต่หนาวลึกถึงกระดูก ชายหนุ่มพยายามลืมตาและตะเกียกตะกายขึ้นสู่ผิวน้ำ หากแต่เพราะชุดสูทเรียบหรูดูแพงที่สวมใส่ทำให้อุ้มน้ำและตัวของเขากำลังจมลงเรื่อยๆ

“อึก!” เสียงอึกอักดังขึ้นภายในลำคอ สองมือปลดกระดุม ออกอย่างรวดเร็วและร้อนรน

“อึก! อั่ก!” ในครานี้เขารู้เลยว่าต้องสิ้นชีวิตแล้วเป็นแน่ เพราะความร้อนรนและความหนักของชุด ทำให้เขาไม่สามารถปลดมันออกได้โดยง่าย แล้วไหนจะยังเจ้าเพชฌฆาตตัวใหญ่ เจ้าฉลามวาฬตัวโตที่ชนเรือนั้นอ้าปากกว้าง เตรียมที่จะกลืนกินเขาลงท้อง!

จบแล้ว...... จบสิ้นชีวิตแล้ว......

คิดพลางสติเริ่มเลื่อนลอย เพราะจมลงมาลึกและขาดอากาศหายใจ แทนที่จะลอยขึ้นไป กลับจมดิ่งลงสู่ความมืดมิดมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่ความรู้สึกสุดท้ายกำลังจะดับวูบ ความนุ่มหยุ่นแต่เย็นชืดกลับแตะสัมผัสลงที่ริมฝีปาก บางอย่างลูบไล้ไปตามดวงหน้า และสติสุดท้ายของเขาก็ดับวูบไป.....

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 35 บันทึกรัก ใต้มหานที..... (END)

    “คิดสิ่งใดอยู่หรือ” ธาราก้มมองดูคนที่ยืนเกาะหลังของตนเป็นลูกหมีโคอาล่า ก่อนที่สองมือของเขาจะวางทาบทับกับมือเล็กที่กอดก่ายอยู่ด้านหลัง พร้อมตอบมือเล็กนั้นเบาๆ ส่งมอบความอบอุ่นให้กับคนที่ตนรัก“เรื่องของเรา.....” ธาราพูดพร้อมกับหันหลังกลับไปมองคนรัก คาไนน์ในตอนนี้ไม่แตกต่างจากเมื่อก่อนสักเท่าไหร่ เวลาไหลผ่านมาเนิ่นนานเกือบ 30 ปีแล้ว ที่พวกเขาตกลงจะอยู่อาศัยใช้ชีวิตร่วมกัน ตอนนี้บิดาและมารดาของเขาได้ลงไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกใต้บาดาล เหล่าเงือกมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่งมากขึ้นตามโครงการที่เขาวาดหวังไว้ แต่ที่อยู่นั้นอยู่ลึกลงไปหลายพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ใครค้นพบเมืองใต้น้ำได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับเผ่าเงือกที่หลบหลีกอยู่ใต้น้ำมาเนิ่นนานช่วงระหว่างที่เขาใช้ชีวิตอยู่บนบก เขาเร่งรัดโครงการสร้างเมืองใต้น้ำให้เหล่าเหงือกอย่างหนักหน่วง ทำให้ระยะเวลาที่คาดการไว้ 30 ถึง 50 ปี จบลงอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 25 ปีเท่านั้น อันเป็นผลจากเงินทุนมหาศาลและพันธสัญญาการก่อสร้าง ทำให้ทุกอย่างรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วจนคาดไม่ถึง เพราะการเร่ง

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 34 คลี่คลาย

    สิ่งที่พวกเขาหวังไว้เกิดขึ้นจริงในตอนเวลาเที่ยงวัน เนื่องจากพวกเขาปล่อยให้น้ามูนาและลุงบาซิมได้พูดคุยกันอย่างเต็มที่ ตอนที่พวกเขาแวะไปดูทั้งสองคนหลังทานอาหารเช้าเสร็จก็พบว่าทั้งสองได้ขยับขึ้นมานั่งที่ขอบสระแทน ปลายขาของน้ามูนายังคงเป็นครีบหางสีม่วงโดยมีลุงบาซิมนั่งอยู่ข้างๆ กัน ได้ยินเสียงของทั้งสองคนพูดคุยแว่วมาแผ่วเบา พวกเขาคาดว่าทั้งคู่คงมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกันอีกเยอะทีเดียวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นในช่วงบ่ายของวัน ทั้งสองก็กลับมาในบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าแดดเริ่มร้อนเกินไปและไม่ดีต่อน้ามูนาสักเท่าไหร่นัก และเพราะแบบนั้นทำให้เห็นสายตาของลุงบาซิมที่ลอบมองมายังบิดาของเขาสลับกับเลโอและคาไนน์มา ก่อนจะมาจบที่ผมและสายชลเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ“ผม.... ผมไม่เคยรู้อะไรเลย.... ไม่รู้ว่าพวกคุณเป็น.... แถมยังหน้ามืดตามัวอยากจะไล่ล่าพวกคุณอีกด้วย.... ผม... ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ” ลุงบาซิมยกมือขึ้นไหว้ขอโทษขอโพย แม้ว่าตนเองจะมีอายุมากที่สุดในกลุ่มคนเหล่านี้ก็ตาม หากแต่บิดาของเขาโบกมือไปมาคล้ายกับไม่เก็บมาถือโทษโกรธหรือคิดมากอะไรนัก&ldq

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 33 ผู้มาเยือนในยามเช้า

    เช้าวันถัดมา ธาราเดินลงจากชั้นบนของบ้านมาพร้อมกับคาไนน์ และเขาก็ต้องงุนงงหนัก เมื่อบรรยากาศภายในห้องรับประทานอาหารเรียกได้ว่ามีความอึดอัดปกคลุมอยู่ทั่ว ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ทุกสายตาก็หันมามองเขาเป็นทางเดียวธาราได้แต่จูงมือของคาไนน์ให้เดินตามเข้าไปด้านใน จับคนตัวเล็กให้ทรุดตัวลงนั่ง ส่วนตนเองนั้นก็ตามลงไปติดๆ ทั้งๆ ที่คิ้วยังขมวดหมุน มองภาพตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ และทันทีที่เขานั่งเรียบร้อยแล้ว เสียงของใครคนหนึ่งก็ดึงขึ้นเรียกรั้งความสนใจของเขาได้ในทันที“คุณธารา มันมี... มันมีจริงๆ ด้วยครับ” ธาราหันไปมองอย่างสนใจ ก่อนที่ใครคนนั้นจะค่อยๆ ยื่นเกล็ดปลาสีน้ำเงินอมม่วงเป็นประกายส่งให้ ธารารับมันมาไว้ในมือ ก่อนจะก้มลงพิจารณา คาไนน์เองก็ชะโงกหน้ามาดูเช่นกัน และทันทีที่เห็นก็เงยหน้าขึ้นมองเขาหน้าตาตื่นในทันที ฝ่ามือใหญ่ถูกวางไว้บนศีรษะเล็กพร้อมกับลูบไปมาเชิงปลอบประโลม“นี่มัน....”“เกล็ดปลาครับ! ไม่สิ มันเป็นเกล็ดของนางเงือก!!” เสียงของชายคนนั้นเอ่ยบอกเสียงดังด้วยท่าทีตื่นเต้นปนกับความตื่นตระหนก ธารายื่นเกล็ดปลาส่งคืนให้ก่

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 32 เมืองของเหล่าเงือก

    “ว่าแต่ จริงๆ แล้ว ธารไม่ต้องตัดขาดจากโลกมนุษย์แบบนั้นก็ได้นี่” สายชลที่นั่งเงียบไปนานเอ่ยขึ้นราวกับนึกอะไรได้“เหมือนการ์ตูนที่เจ้าหญิงเงือกมาหลงรักกับเจ้าชายชาวมนุษย์ เจ้าหญิงเงือกก็ไม่ได้ตัดขาดกับโลกเงือกซะทีเดียวสักหน่อย แต่กลับสร้างบ้านติดทะเลแทน แล้วจะอยากขึ้นบกหรือลงน้ำก็สามารถทำได้ทั้งนั้นไม่ใช่หรอ” คำพูดนั้นของสายชลเรียกรั้งให้ทุกคนหันไปมองด้วยความสนใจ ธารายกมือขึ้นลูบปลายคางตามผู้เป็นพี่ชาย ก่อนจะเอ่ยบอกสิ่งที่อยู่ในใจตอนที่เขาได้ไปเห็นวัง.... ไม่ใช่สิ ถ้ำของเหล่าเงือก“ความจริง ผมอยากให้เหล่าเงือกมีสภาพแวดล้อมการเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้เหมือนกันนะ” คำพูดนั้นทำให้เหล่านายเงือกนั่งทำหน้างงใส่ ด้วยไม่คิดว่าความเป็นอยู่ของตนนั้นไม่ดีที่ตรงไหน ดังนั้นภาพที่เห็นคือเหล่าเงือกทั้ง 4 ตนต่างเอียงศีรษะด้วยความสงสัย หากแต่หันกันไปคนละทิศละทาง“แต่แบบนั้นจะอันตรายต่อพวกเรา ถ้าเจ้าคิดว่าทำแบบนั้นแล้วมันดีจริงละก็ พวกเราคงจะขึ้นมาอยู่บนบกและหาบ้านที่ติดกับชายทะเลแบบนั้นไปนานแล้ว” ในคราวนี้เป็นเลโอที่เอ่ยแย้งขึ้นมา ซึ่งพวกเ

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 31 สินสอดให้ภรรยา

    หลังคำบอกของสายชล พวกเขาก็ตั้งใจที่จะมุ่งตรงกลับไปยังบ้านพักหลังน้อยบนเกาะ หากแต่คาไนน์ที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะจากองค์รัชทายาทไปเป็นองค์ราชาแทนแล้ว ร่ำร้องที่จะตามมาด้วย โดยให้เหตุผลว่ากลัวเขาจะเดินทางกลับมาที่ถ้ำแห่งนี้ไม่ถูก แต่ในความจริงนั้น เขาคิดว่าคาไนน์คงกลัวว่าเขาจะทิ้งอีกฝ่ายไปมากกว่าและแน่นอนว่าเพราะการที่คาไนน์ต้องการจะไปกับพวกเขาด้วย แต่ไม่สามารถทิ้งเหล่าเงือกแล้วไปเพียงลำพังได้ สุดท้ายแล้วกลุ่มของพวกเขาจาก 4 คน ก็เพิ่มขึ้นอีกเป็น 10 ได้ เพราะเหล่าชายฉกรรจ์ของฝูงเงือกต้องติดตามองค์ราชาเหมือนกับว่าเป็นองครักษ์ข้างกาย ทำให้พวกขบวนของพวกเขาในตอนขาไปกับขากลับแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งมาถึงปากถ้ำซึ่งคาไนน์ใช้เป็นทางเข้าออกระหว่างบนบกและโลกใต้น้ำ เหล่าเงือกก็ยืนยันว่าจะติดตามมาด้วย ไม่ยอมให้องค์ราชาของเงือกขึ้นมาเพียงลำพังโดยเด็ดขาด ทำให้คาไนน์งอแงใช้หางตีน้ำจนแตกกระจายเป็นวงกว้างธารามองภาพนั้นด้วยความเหนื่อยใจ เหล่าเงือกชายพยายามฉุดรั้งราชาของตนไม่ให้ขึ้นมาบนโลกมนุษย์ ส่วนตัวราชาที่ว่านั้นยื้อยุดกันไปมา จะขึ้นมากับเขาท่าเดียว สุดท้ายแล้วจึงยอมพบกันครึ่งท

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 30 คาไนน์เป็นราชา

    ธารายืนมองภาพของราชาตรงหน้านิ่งงัน ไม่แน่ใจว่าช่วงก่อนหน้านี้ราชาของเหล่าเงือกในความทรงจำของคาไนน์เป็นอย่างไร หากแต่บุคคลที่อยู่ตรงหน้าเขาในยามนี้แลดูคล้ายกับชายชราที่ใกล้ถึงฝั่งเต็มที มันดูอ้างว้างและโดดเดี่ยวเดียวดาย และดูแก่ลงไปหลายสิบปีจากคราแรกที่ได้พบหน้ากันธาราหันไปมองคาไนน์ที่คลายอ้อมกอดและหมุนกายหันมาเผชิญหน้ากับบิดาของตน เขาเห็นชัดว่าริมฝีปากของอีกฝ่ายนั้นขบเม้มเอาไว้แน่น ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเลื่อนหันมามองเขาที่ยืนอยู่ข้างกัน ก่อนถ้อยคำบางอย่างจะดังออกจากริมฝีปากบางราวกระซิบ[แต่ข้าหลงรักกับมนุษย์....] ถ้อยคำนั้นเรียกรั้งให้องค์โพไซหันมามอง คาไนน์ขยับมาจับมือของเขาเอาไว้แน่น เป็นการบ่งบอกว่าจะไม่ยอมแยกจากกัน ตอนนี้ความคิดในหัวของธาราตีกันจนวุ่นไปหมด เขาอยากที่จะอยู่กับคาไนน์ให้นานขึ้นอีกหน่อย อยากจะอยู่ด้วยกันไปนานๆ จนกว่าจะสิ้นอายุขัย หากแต่บิดาของคาไนน์ก็รออีกฝ่ายมาเนิ่นนานแล้วเช่นกัน เลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ เป็นเงือกเด็กพึ่งเกิดจนเติบใหญ่ ก็มักจะหวังให้บุตรของตนเข้ามาสืบทอดต่ำแหนง นับๆ ดูแล้ว ช่วงระยะเวลาที่รอคอยนั้นเขาจะเกิดและตายไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้.....

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status