Share

บทที่ 3 คนหลอกลวง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-30 16:54:29

ธาราปัดเรื่องของนางเงือกออกไปจากหัวสมอง จัดการสะสางงานของตนต่อไป จนกระทั่งบ่ายแก่ชายหนุ่มก็ว่างจากภาระงานทั้งหมดของวัน แผ่นหลังกว้างเอนตัวพิงไปกับพนักพิงของเก้าอี้ตัวโต สะบัดศีรษะไปมาพลางยกมือนวดต้นคอของตน แล้วจึงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน มุ่งตรงกลับบ้านพัก จัดการอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ขับไล่ความเหนื่อยล้าและเปลี่ยนจากชุดสูททางการมาเป็นเสื้อเชิ้ตเนื้อบางที่เหมาะกับชายทะเล ด้านในสวมใส่เสื้อกล้ามเอาไว้ และกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้มและรองเท้าแตะเบาสบาย

สองเท้าก้าวเดินไปตามทางอย่างไม่รีบร้อนชมบรรยากาศในยามบ่ายแก่ที่แสงแดดและสายลมกำลังพอดี ชายหนุ่มก้าวเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ภูเขาสูงใหญ่ อันเป็นสถานที่ที่เขามาเยือนเมื่อเช้า ด้วยความสงสัยใคร่รู้สองขาจึงขยับก้าวเข้าไปใกล้ เดินสำรวจบริเวณโดยรอบจึงได้รู้ว่าภูเขาแห่งนี้มีถ้ำขนาดใหญ่ น้ำจากมหาสมุทรสามารถแทรกซึมผ่านเข้ามาได้ ดูจากที่มีคราบน้ำเกาะก็พอจะบอกได้ว่ามันสูงขนาดไหน

ธาราเดินสำรวจโดยรอบอีกเพียงชั่วครู่โดยไม่คิดจะเข้าไปดูด้านใน เขาไม่อยากสร้างเรื่องให้ตัวเองต้องได้รับอันตรายโดยการเดินเข้าไปในสถานที่ที่ไม่รู้จักและไม่มีคนนำทาง ดังนั้นแล้วชายหนุ่มจึงตั้งใจจะหันหลังกลับ แต่ในตอนนั้นเองที่เสียงบางอย่างจากทางด้านใน ทำให้เขาต้องหันกลับไปมอง

จ๋อม!

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองผิวน้ำที่กระเพื่อมไหว อย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดไฟฉายส่องดู เห็นเพียงน้ำทะเลที่สาดซัดเข้ามา และต้นเสียงที่เขาได้ยินนั้นคือส่วนที่อยู่ลึกเข้าได้ด้านใน เหมือนว่าภายในนั้นจะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นน้ำนิ่ง ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นผลึกสีใสส่องประกายระยิบระยับล้อกับแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือของเขา เกิดเป็นภาพงดงามจับตา แต่เมื่อกวาดสายตาดูแล้วพบว่าไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่ ธาราตั้งใจจะหันหลังกลับเดินออกจากถ้ำอีกครั้ง

ซ่า!!!

แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นดังใจหวัง เสียงของอะไรบางอย่างที่ตกกระทบกับผิวน้ำ เรียกรั้งให้เขาหันกลับไปสนใจมองอีกหน และอย่างไม่ทันรู้ตัว จู่ๆ เขาก็ถูกบางสิ่งซึ่งเปียกชื้นจับลากลงไปใต้น้ำด้วยความรวดเร็ว!!!

ตู้มมมมมมม

“!!!” ท่ามกลางสายน้ำที่พัดผ่านทำให้ธาราไม่อาจลืมตาขึ้นมองได้ รับรู้ได้ว่าตนถูกตัวอะไรสักอย่างลากลงมาใต้น้ำ ใช้กรงเล็บปัดป่ายไปทั่วจนเจ็บแสบไปหมดทั้งตัว

กึก!

บางสิ่งบางอย่างนั้นกัดลงที่ริมฝีปากของเขาอย่างรุนแรงจนได้กลิ่นคาวเลือดภายในโพรงปาก พร้อมๆ กับหยาดโลหิตที่ไหลซึมและจางหายไปกับผิวน้ำ ธาราพยายามที่จะลืมตามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าและสัตว์ร้ายที่ทำร้ายเขาจนบาดเจ็บ ท่ามกลางหยาดน้ำสีฟ้าครามที่มืดมิดและเย็นเฉียบ แต่สัตว์ร้ายตรงหน้าเขากลับเด่นชัดยิ่งกว่าสิ่งใด คล้ายกับกำลังส่องประกายอยู่ในความมืดมิดนี้ และสิ่งนั้นก็คือ เงือก......

เส้นผมหยักศกสีเงินเป็นประกายท่ามกลางความมืด ดวงตาสีฟ้าสดใสที่เรียวรีได้รูปรับกับดวงหน้า ใบหูที่กลายเป็นครีบยาว บริเวณโหนกแก้มมีไข่มุกฝั่งไว้ตลอดทั้งแนว และมีเกล็ดสีฟ้าเป็นประกายแวววาวที่ด้านล่าง ช่วงบนเป็นเหมือนกับมนุษย์ทั่วๆ ไป เพียงแต่มีเปลือกหอยและเส้นสายที่พาดไปมาบนลำตัว ทำให้เขารู้ว่าเงือกตนนี้เป็นผู้ชาย ที่ช่วงเอวด้านล่างแทนที่จะเป็นสะโพกเช่นเดียวกับมนุษย์ กลับกลายเป็นเกล็ดปลาสีฟ้าสดใสและครีบหางที่ยาวสลวยดุจปลาทองยามโบกสะบัดพัดพลิ้ว เพียงเท่านั้นก็ทำให้ธาราตกใจจนแทบสิ้นสติหลงลืมความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตนเองไปชั่วขณะ

สิ่งที่เขาเห็นนั้นก็คือนางเงือก..... ไม่สิ.... นายเงือก.....

นายเงือกตรงหน้าเขาแสดงใบหน้าและท่าทีโกรธขึ้ง มันทั้งดุร้ายและน่ากลัว ริมฝีปากนั้นขบเม้มเอาไว้แน่นก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง

“เจ้ามันคนหลอกลวง!!!! เอาหัวใจของข้าคืนมาเดี๋ยวนี้!!!!” ธาราเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงนั้น จนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติของตนเอง ชายหนุ่มชะงักไปอีกครั้ง ลองสูดลมหายใจอีกครั้งว่าสิ่งที่ตนคิดนั้นคือความจริงหรือไม่ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอย่างใจ นายเงือกตรงหน้าก็พุ่งเข้าใส่พร้อมกับใช้ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยกรงเล็บดึงกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมาจนขาดวิ่น

“เอาหัวใจของข้าคืนมา!!! เอาคืนมา!!!” สิ้นคำ กรงเล็บนั้นก็วาดลงบนแผ่นอกจนทำให้ธาราปวดแสบปวดร้อนและเจ็บไปหมด หยาดโลหิตไหลซึมออกมาเป็นทาง เขาก้มลงมองหน้าอกของตัวเองที่บัดนี้กลับกลายเป็นรอยแผลบาดลึก ยกฝ่ามือขึ้นกดบาดแผลเอาไว้ ร้องออกมาเพียงหนึ่งคำ

“เจ็บ......” เพียงเท่านั้นเขารู้สึกเหมือนสติใกล้จะดับวูบลง และนั่นทำให้เขาทันเห็นแววตาตื่นตระหนกของนายเงือกตนนั้นได้อย่างชัดเจน.......

ธาราตื่นขึ้นมาอีกครั้งบนเตียงกว้าง ดวงตาคมกล้าสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำกะพริบปรือปรอยพยายามปรับโฟกัสสายตาและเรียกสติของตน ความปวดแล่นจี๊ดขึ้นสู่สมองจนต้องยกมือขึ้นกุมขมับเอาไว้แน่น เขาไม่รู้ว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพามา แต่เขาเชื่อว่าตนเองนั้นไม่ได้ฝันไปแน่นอน ภาพของนายเงือกตัวนั้นยังคงติดตรึงไม่อาจสลัดออกไปจากหัวได้ อีกทั้งน้ำเสียงที่อีกฝ่ายขู่คำรามร้องถามหาบางสิ่งกับเขาอย่างเอาเป็นเอาตายทำให้เขาเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นคือความจริง

ธารายันตัวขึ้นนั่ง ตั้งใจจะลงไปดูด้านล่าง เผื่อว่าจะพบคนที่ช่วยตนเองเอาไว้ ในตอนที่กำลังจะขยับลงจากเตียงนั้นเอง ใครบางคนก็เปิดประตูเข้ามา ทำให้ธาราต้องหันหน้าไปมอง

“คุณธาราฟื้นแล้ว!!!” น้ามูนาร้องออกมาเสียงดัง พร้อมกับหมุนตัวหันหลัง วิ่งตึงตังลงไปจากชั้น 2 ของบ้านพักริมทะเล ธาราขมวดคิ้วเมื่อความรู้สึกปวดศีรษะย้อนกลับมาอีกครั้งเพราะเสียงร้องนั้น จนต้องยกมือขึ้นกุมขมับเอาไว้แน่นเพื่อบรรเทาอาการ และเพียงไม่นานนักก็มีใครบางคนเดินขึ้นมา ไม่ต้องเงยหน้าก็รู้เลยว่าคนๆ นั้นเป็นใคร

“ลุงบาซิม” ธาราเอ่ยปากทักพร้อมกับถามคำถามที่สงสัยตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างอดใจไว้ไม่อยู่

“ผมมาอยู่ที่ห้องนี้ได้ยังไงกันครับ”

“คุณธาราทานอาหารไปพลางๆ ก่อนนะครับ คุณหลับไปถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนเลยนะ” ธาราขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินดังนั้น ขณะที่สองมือก็รอรับอาหารจากน้ามูนามาถือไว้ด้วย

“เมื่อวานผมเอาอาหารเย็นมาให้ครับ แต่ว่าคุณธาราไม่อยู่ ผมเลยโทรไปหาแต่คุณไม่รับ จึงนั่งรออยู่ที่บ้านพัก แต่จนมืดแล้วคุณก็ยังไม่มา ผมเลยออกไปตามหาครับ เห็นคุณธารานอนอยู่บนโขดหินแถวๆ ถ้ำตรงปากน้ำ เลยเรียกคนมาช่วยกันพาคุณมานอนพัก แล้วตามหมอประจำเกาะมาดูอาการ เขาบอกว่าคุณไม่เป็นอะไรมากและปล่อยให้นอนพักฟื้นครับ สันนิษฐานกันว่าอาจจะไปเดินเล่นแถวโขดหินแล้วลื่นล้มหัวกระแทก แต่โชคดีที่แค่หมดสติแต่ไม่เป็นอะไรมาน่ะครับ แล้วคุณธาราไปทำอะไรอยู่แถวนั้นล่ะครับ” ลุงบาซิมเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้วหมุน ธาราเองก็นิ่งไปเช่นกัน เขาจะบอกคนตรงหน้าดีหรือไม่ว่าเขานั้นได้เจอกับนายเงือกตัวเป็นๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ออกตามหาจริงจังเลยแม้แต่น้อย ธาราเหลือบมองชายชราเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยปากออกไป

“พอดีเมื่อเช้าวันนั้นผมออกไปวิ่งกำลังกาย คิดว่าบริเวณนั้นร่มรื่นดีน่ะครับ เลยอยากเดินเข้าไปดูใกล้ๆ สุดท้ายก็ลื่นล้มอย่างที่คุณลุงว่า” ลุงบาซิมมองมาด้วยสายตาเป็นกังวล พยักหน้ารับ

“คุณธาราพักผ่อนเถอะครับ ตอนนี้ก็บ่ายกว่าแล้ว ออกไปทำงานตอนนี้คงไม่ไหว ถ้ายังไงเดี๋ยวตอนเย็นผมเอาอาหารเย็นมาเสิร์ฟให้นะครับ” ธาราพยักหน้ารับ ในตอนนั้นเองที่อดจะก้มมองดูแผงอกของตัวเองไม่ได้

“ตอนที่คุณลุงไปช่วยผมไว้ ผมมีบาดแผลที่อกไหมครับ?” ชายหนุ่มก้มหน้า ขมวดคิ้วถามไม่ต่างจากบาซิมเท่าไหร่นัก

“ไม่มีนะครับ คุณธารามีแผลที่อกหรอครับ จะให้ผมตามหมอไหมครับ”

“อ่า ไม่เป็นไรครับ ความรู้สึกเจ็บนิดหน่อยแต่ไม่มาก คิดว่าตอนลื่นล้มอกคงกระแทกโขดหินละมั้งครับ” บาซิมพยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวเดินออกจากห้องไปหลังจากที่ชายหนุ่มจัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว ธารายกมือขึ้นลูบรอยแผลเหล่านั้นแผ่วเบา ไร้รอยแผลใดปรากฏขึ้นกับร่างกายของเขา ราวกับว่าเรื่องราวเหล่านั้นไม่มีอยู่จริง

ธาราเอนตัวเตรียมที่จะนอนพักผ่อน แต่เพราะเรื่องของนายเงือกตัวนั้นยังคงกวนใจเขาอยู่ อีกฝ่ายทำเหมือนว่ารู้จักกับเขา เรียกร้องถามหาบางสิ่งจากเขา แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองรู้จักอีกฝ่ายได้อย่างไรและอะไรที่อีกฝ่ายนั้นต้องการ หากจะมีก็แต่เพียง.........

ดวงตาคมกล้าหันมองไปที่ด้านข้าง โต๊ะเล็กข้างเตียงนั้นเป็นสถานที่จัดเก็บไข่มุกล้ำค่าสีฟ้าคราม สีฟ้าที่เหมือนกับหางของเงือกตนนั้น เร็วเท่าความคิด ธาราหยิบเอาไข่มุกนั้นออกมาจากลิ้นชักพร้อมกับกระบอกไฟฉายที่ถือติดมือไปด้วย ลุกขึ้นจากเตียงทั้งชุดนอน ก้าวเดินมุ่งตรงไปที่ถ้ำใหญ่ซึ่งอยู่ที่สุดชายหาด

สองเท้าของธาราก้าวย่างไปอย่างมั่นคง เพราะความรีบร้อนเขาจึงไม่แม้แต่จะเปลี่ยนชุดให้ตนเอง ดังนั้นแล้วในยามนี้เขาจึงสวมใส่ชุดนอนผ้าซาตินสีน้ำเงินเข้ม ขัดกับสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เป็นหาดทรายสีขาว ท้องฟ้าสีครามและเกลียวคลื่นลมทะเล

ชายหนุ่มเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดลงที่ปากทางเข้าของถ้ำขนาดใหญ่ ใช้ไฟฉายในมือเป็นแสงนำทางแล้วจึงก้าวเท้าเข้าไปด้านใน ภายในนั้นเงียบสงบไร้สิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่ จนกระทั่งเขามาหยุดลงตรงที่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่คราวก่อนถูกฉุดกระชากลงไป

ธาราสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วจึงถอดรองเท้าออกที่ด้านข้าง เดินลงแอ่งน้ำนั้นทั้งชุดนอน แรกเริ่มที่ลงไปก็เหมือนว่าน้ำนั้นจะอยู่ที่บริเวณเอวของเขาเสียแล้ว บ่งบอกได้ว่าใต้น้ำนี้จะต้องลึกเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งแล้วลองดำดิ่งลงไปใต้น้ำดู

ในคราแรกธารายังไม่กล้าลืมตาขึ้นมองหรือว่าสูดลมหายใจ แต่เมื่อทำใจให้สงบและค่อยๆ ลองสูดลมหายใจเข้าทีละนิด ทำให้เขามั่นใจว่าตนสามารถหายใจใต้น้ำได้จริง จึงลองลืมตาในน้ำเป็นลำดับต่อมา ไร้ความระคายเคืองใดที่เกิดขึ้นกับดวงตา มันคล้ายกับว่าเขากำลังเดินอยู่บนหาดทรายขาวท่ามกลางอากาศที่แสนบริสุทธิ์ เพียงแต่เขาอยู่ภายในน้ำที่มืดมิดแห่งนี้ ธาราไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงทำแบบนี้ได้ ซึ่งมันอาจจะเกี่ยวข้องกับนายเงือกตนนั้นที่มาทวงคืนของบางอย่างจากเขา ของที่เขามั่นใจว่ามันคือสิ่งที่อีกคนตามหาและต้องการ

ธาราคิดพลางว่ายน้ำดำดิ่งลึกมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนว่าเขาจะพ้นออกมาจากถ้ำที่ว่านั้นเสียแล้ว รอบด้านนั้นเป็นน้ำลึกใต้ทะเล เหมือนกับอุโมงค์น้ำใต้ดิน ยิ่งลงลึกมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมองเห็นความสวยงามได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น บริเวณรอบกายตอนนี้ถูกตกแต่งไปด้วยปะการังหลากสี ปลาตัวเล็กหลากหลายชนิดแหวกว่ายกันเป็นกลุ่มก้อน และเข้ามารุมล้อมเขาอย่างสนอกสนใจ

ธาราว่ายน้ำต่อไปเรื่อยๆ คิดว่าหากตามหาจนเหนื่อยแล้วยังไม่พบกับเงือกตนนั้นเขาก็จะยอมกลับขึ้นไปด้านบนผิวน้ำ แล้วค่อยลงมาตามหาใหม่อีกหนในวันถัดไป ในตอนที่กำลังตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ที่หางตาเขาก็มองเห็นบางสิ่งที่พลิ้วไหวไปตามกระแสน้ำที่พัดหวน

สิ่งนั้นมีสีไลท์เกรย์ส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด ชายหนุ่มจึงไม่รอช้าที่จะขยับเข้าไปใกล้ในทันที และที่นั่นทำให้เขาได้เห็นกับนายเงือกตนนั้นที่นั่งพิงโขดหิน ปลายหางแนบลู่ไปกับพื้นทรายจนเม็ดทรายละเอียดขึ้นมากองอยู่บนปลายหาง เมื่อเห็นว่ามีใครสักคนมาอยู่ที่ด้านข้างก็หันมามองด้วยท่าทีอ่อนล้า พร้อมเอ่ยปากเรียก

“เลโอ” ดวงตาสีฟ้าคู่งามนั้นชะงักไปชั่วครู่เมื่อพบว่าคนที่มาหยุดอยู่ด้านข้างไม่ใช่คนที่ตนเรียกหา และนั่นก็ทำให้ธาราเองชะงักไปเช่นกัน

“นายร้องไห้?” ธาราเอ่ยคำนั้นพลางก้มลงมองไข่มุกเม็ดงามที่ไหลออกจากดวงตาของนายเงือก ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีไลท์เกรย์ยกมือขึ้นปาดหยาดน้ำตาออกจากดวงตาช้าๆ มองจ้องคนตรงหน้านิ่งงัน ในดวงตานั้นมีประกายความกรุ่นโกรธปรากฏให้เห็น ธาราถอนหายใจจนเกิดเป็นฟองน้ำลอยละล่องขึ้นสู่ด้านบ่น แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งข้างๆ กัน เอนหลังพิงกับโขดหิน

“นายตามหาสิ่งนี้ใช่ไหม?” ถามพร้อมกับยื่นกล่องไม้ที่มีไข่มุกถูกกักเก็บอยู่ด้านใน เงือกหนุ่มตาวาวหมายจะเอื้อมคว้ามาไว้ในครอบครอง แต่เมื่อธาราชักมือกลับ เสียงตวาดกร้าวก็ดังออกมาทันที

“เอาหัวใจของข้าคืนมา!!!”

“ผมจะคืนก็ต่อเมื่อนายให้คำตอบที่น่าพอใจ” ใบหน้าของเงือกหนุ่มพลันขึ้นเกล็ดเป็นประกายสีฟ้าตามดวงหน้า บ่งบอกถึงความกรุ่นโกรธที่ปรากฏขึ้นได้เป็นอย่างดี หากแต่ธาราไม่สนใจ อย่างน้อยเขาก็แค่บาดเจ็บกลับไป อย่างมากเขาก็แค่ตายจากโลกนี้ไปเพียงเท่านั้นเอง ชายหนุ่มเหลือบมองคนข้างกายที่จ้องนิ่งมายังตนคล้ายกับอยากฉีกกระชากเนื้อเขาเป็นชิ้นๆ หากแต่เขาก็ไม่สนใจ แต่กลับถามคำถามออกไปแทน

“ทำไมเจ้าสิ่งนี้ถึงเรียกว่าหัวใจของคุณ?”

“เจ้า!!!!!” อย่างไม่ทันตั้งตัวเงือกหนุ่มก็พุ่งเข้าใส่เขาเต็มแรง จนตัวเซถลาล้มลงและมีเงือกหนุ่มตามมาคร่อมทับ ลำตัวที่มีขนาดพอๆ กันนั้น กดเขาไว้จนนอนราบไปกับผืนทรายจนมันฟุ้งขึ้นและทำให้มองเห็นภาพตรงหน้าได้ไม่ชัดเจนและพร่าเลือน จนเมื่อกระทั่งสายน้ำพาดพาเศษทรายเหล่านั้นไป เขาจึงเห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายในยามนี้มันเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ ความน้อยใจและผิดหวังปะปนกันไป ก่อนจะตะคอกออกมาสุดเสียงอย่างไม่อาจข่มกลั้นอารมณ์

“เจ้าจะบอกว่าหัวใจของข้าไร้ค่าสำหรับเจ้างั้นหรือ!!!! เจ้าจะบอกว่าหัวใจของข้าไม่มีค่าพอให้เจ้าจดจำเช่นนั้นใช่หรือไม่!!” สุ้มเสียงตวาดก้องพาให้กระแสน้ำพัดหวนอย่างรุนแรงจนราวกับคล้ายเกิดคลื่นใหญ่ใต้น้ำ เขาไม่รู้ว่าเพราะพลังอำนาจของเงือกตนนี้หรือไม่ที่สรรค์สร้างสิ่งเหล่านี้ แต่เขาต้องรีบเอ่ยปากออกไป ก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาสได้อธิบายเพราะถูกอีกฝ่ายควักหัวใจออกไปจากอก

ผมจำไม่ได้!!!! ผมไม่รู้ว่าคุณคือใครและทำไมหัวใจของคุณถึงมาอยู่กับผม!!” เงือกหนุ่มตรงหน้าชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด กระแสน้ำที่พัดโหมกระหน่ำเมื่อครู่พลันจางหายไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เงือกหนุ่มกะพริบตาปริบ เอ่ยด้วยความไม่แน่ใจ

“เจ้าว่าอะไรนะ......”

“ผมจำไม่ได้ว่าคุณเป็นใคร เราเคยรู้จักกันหรอ? แล้วทำไมไข่มุกหรือหัวใจของคุณถึงมาอยู่กับผม?” เงือกหนุ่มผละออกจากตัวของธารา ปลายหางนั้นโบกพัดไปมา ทรงตัวตั้งตรงอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่เย็นฉ่ำ ธารายันตัวลุกขึ้นเช่นกัน ขยับเข้ามายืนประชันหน้ากัน ก่อนจะอธิบายสาเหตุที่ทำให้ตนต้องมาอยู่ที่นี่

“เมื่อ 7 ปีก่อน ผมประสบอุบัติเหตุพลัดตกเรือสำราญขนาดใหญ่ พ่อกับพี่ชายเป็นคนช่วยผมกลับไปรักษา เขาบอกว่าตอนที่พากลับไปผมอาละวาดและกำไข่มุกเม็ดนี้เอาไว้แน่น พวกเขาคิดว่ามันสำคัญกับผมจึงเก็บเอาไว้ให้ แต่ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่กับผมได้ยังไง..... บางทีคุณอาจจะตอบคำถามของผมได้” ธาราเงยหน้าขึ้นมองจ้องนิ่งงัน ดวงตาคมกล้าสีน้ำตาลเข้มมองสบกับดวงตาสีฟ้าเรียวรีอย่างแน่วแน่และคาดหวัง

“เจ้า......” ริมฝีปากของเงือกหนุ่มนั้นเอ่ยขึ้นแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่ราวกับฟ้าผ่าลงที่กลางใจของธาราจนเขาชะงักนิ่งงัน

“เจ้าเป็นคนรักของข้า......”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 35 บันทึกรัก ใต้มหานที..... (END)

    “คิดสิ่งใดอยู่หรือ” ธาราก้มมองดูคนที่ยืนเกาะหลังของตนเป็นลูกหมีโคอาล่า ก่อนที่สองมือของเขาจะวางทาบทับกับมือเล็กที่กอดก่ายอยู่ด้านหลัง พร้อมตอบมือเล็กนั้นเบาๆ ส่งมอบความอบอุ่นให้กับคนที่ตนรัก“เรื่องของเรา.....” ธาราพูดพร้อมกับหันหลังกลับไปมองคนรัก คาไนน์ในตอนนี้ไม่แตกต่างจากเมื่อก่อนสักเท่าไหร่ เวลาไหลผ่านมาเนิ่นนานเกือบ 30 ปีแล้ว ที่พวกเขาตกลงจะอยู่อาศัยใช้ชีวิตร่วมกัน ตอนนี้บิดาและมารดาของเขาได้ลงไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกใต้บาดาล เหล่าเงือกมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่งมากขึ้นตามโครงการที่เขาวาดหวังไว้ แต่ที่อยู่นั้นอยู่ลึกลงไปหลายพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ใครค้นพบเมืองใต้น้ำได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับเผ่าเงือกที่หลบหลีกอยู่ใต้น้ำมาเนิ่นนานช่วงระหว่างที่เขาใช้ชีวิตอยู่บนบก เขาเร่งรัดโครงการสร้างเมืองใต้น้ำให้เหล่าเหงือกอย่างหนักหน่วง ทำให้ระยะเวลาที่คาดการไว้ 30 ถึง 50 ปี จบลงอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 25 ปีเท่านั้น อันเป็นผลจากเงินทุนมหาศาลและพันธสัญญาการก่อสร้าง ทำให้ทุกอย่างรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วจนคาดไม่ถึง เพราะการเร่ง

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 34 คลี่คลาย

    สิ่งที่พวกเขาหวังไว้เกิดขึ้นจริงในตอนเวลาเที่ยงวัน เนื่องจากพวกเขาปล่อยให้น้ามูนาและลุงบาซิมได้พูดคุยกันอย่างเต็มที่ ตอนที่พวกเขาแวะไปดูทั้งสองคนหลังทานอาหารเช้าเสร็จก็พบว่าทั้งสองได้ขยับขึ้นมานั่งที่ขอบสระแทน ปลายขาของน้ามูนายังคงเป็นครีบหางสีม่วงโดยมีลุงบาซิมนั่งอยู่ข้างๆ กัน ได้ยินเสียงของทั้งสองคนพูดคุยแว่วมาแผ่วเบา พวกเขาคาดว่าทั้งคู่คงมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกันอีกเยอะทีเดียวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นในช่วงบ่ายของวัน ทั้งสองก็กลับมาในบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าแดดเริ่มร้อนเกินไปและไม่ดีต่อน้ามูนาสักเท่าไหร่นัก และเพราะแบบนั้นทำให้เห็นสายตาของลุงบาซิมที่ลอบมองมายังบิดาของเขาสลับกับเลโอและคาไนน์มา ก่อนจะมาจบที่ผมและสายชลเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ“ผม.... ผมไม่เคยรู้อะไรเลย.... ไม่รู้ว่าพวกคุณเป็น.... แถมยังหน้ามืดตามัวอยากจะไล่ล่าพวกคุณอีกด้วย.... ผม... ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ” ลุงบาซิมยกมือขึ้นไหว้ขอโทษขอโพย แม้ว่าตนเองจะมีอายุมากที่สุดในกลุ่มคนเหล่านี้ก็ตาม หากแต่บิดาของเขาโบกมือไปมาคล้ายกับไม่เก็บมาถือโทษโกรธหรือคิดมากอะไรนัก&ldq

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 33 ผู้มาเยือนในยามเช้า

    เช้าวันถัดมา ธาราเดินลงจากชั้นบนของบ้านมาพร้อมกับคาไนน์ และเขาก็ต้องงุนงงหนัก เมื่อบรรยากาศภายในห้องรับประทานอาหารเรียกได้ว่ามีความอึดอัดปกคลุมอยู่ทั่ว ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ทุกสายตาก็หันมามองเขาเป็นทางเดียวธาราได้แต่จูงมือของคาไนน์ให้เดินตามเข้าไปด้านใน จับคนตัวเล็กให้ทรุดตัวลงนั่ง ส่วนตนเองนั้นก็ตามลงไปติดๆ ทั้งๆ ที่คิ้วยังขมวดหมุน มองภาพตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ และทันทีที่เขานั่งเรียบร้อยแล้ว เสียงของใครคนหนึ่งก็ดึงขึ้นเรียกรั้งความสนใจของเขาได้ในทันที“คุณธารา มันมี... มันมีจริงๆ ด้วยครับ” ธาราหันไปมองอย่างสนใจ ก่อนที่ใครคนนั้นจะค่อยๆ ยื่นเกล็ดปลาสีน้ำเงินอมม่วงเป็นประกายส่งให้ ธารารับมันมาไว้ในมือ ก่อนจะก้มลงพิจารณา คาไนน์เองก็ชะโงกหน้ามาดูเช่นกัน และทันทีที่เห็นก็เงยหน้าขึ้นมองเขาหน้าตาตื่นในทันที ฝ่ามือใหญ่ถูกวางไว้บนศีรษะเล็กพร้อมกับลูบไปมาเชิงปลอบประโลม“นี่มัน....”“เกล็ดปลาครับ! ไม่สิ มันเป็นเกล็ดของนางเงือก!!” เสียงของชายคนนั้นเอ่ยบอกเสียงดังด้วยท่าทีตื่นเต้นปนกับความตื่นตระหนก ธารายื่นเกล็ดปลาส่งคืนให้ก่

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 32 เมืองของเหล่าเงือก

    “ว่าแต่ จริงๆ แล้ว ธารไม่ต้องตัดขาดจากโลกมนุษย์แบบนั้นก็ได้นี่” สายชลที่นั่งเงียบไปนานเอ่ยขึ้นราวกับนึกอะไรได้“เหมือนการ์ตูนที่เจ้าหญิงเงือกมาหลงรักกับเจ้าชายชาวมนุษย์ เจ้าหญิงเงือกก็ไม่ได้ตัดขาดกับโลกเงือกซะทีเดียวสักหน่อย แต่กลับสร้างบ้านติดทะเลแทน แล้วจะอยากขึ้นบกหรือลงน้ำก็สามารถทำได้ทั้งนั้นไม่ใช่หรอ” คำพูดนั้นของสายชลเรียกรั้งให้ทุกคนหันไปมองด้วยความสนใจ ธารายกมือขึ้นลูบปลายคางตามผู้เป็นพี่ชาย ก่อนจะเอ่ยบอกสิ่งที่อยู่ในใจตอนที่เขาได้ไปเห็นวัง.... ไม่ใช่สิ ถ้ำของเหล่าเงือก“ความจริง ผมอยากให้เหล่าเงือกมีสภาพแวดล้อมการเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้เหมือนกันนะ” คำพูดนั้นทำให้เหล่านายเงือกนั่งทำหน้างงใส่ ด้วยไม่คิดว่าความเป็นอยู่ของตนนั้นไม่ดีที่ตรงไหน ดังนั้นภาพที่เห็นคือเหล่าเงือกทั้ง 4 ตนต่างเอียงศีรษะด้วยความสงสัย หากแต่หันกันไปคนละทิศละทาง“แต่แบบนั้นจะอันตรายต่อพวกเรา ถ้าเจ้าคิดว่าทำแบบนั้นแล้วมันดีจริงละก็ พวกเราคงจะขึ้นมาอยู่บนบกและหาบ้านที่ติดกับชายทะเลแบบนั้นไปนานแล้ว” ในคราวนี้เป็นเลโอที่เอ่ยแย้งขึ้นมา ซึ่งพวกเ

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 31 สินสอดให้ภรรยา

    หลังคำบอกของสายชล พวกเขาก็ตั้งใจที่จะมุ่งตรงกลับไปยังบ้านพักหลังน้อยบนเกาะ หากแต่คาไนน์ที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะจากองค์รัชทายาทไปเป็นองค์ราชาแทนแล้ว ร่ำร้องที่จะตามมาด้วย โดยให้เหตุผลว่ากลัวเขาจะเดินทางกลับมาที่ถ้ำแห่งนี้ไม่ถูก แต่ในความจริงนั้น เขาคิดว่าคาไนน์คงกลัวว่าเขาจะทิ้งอีกฝ่ายไปมากกว่าและแน่นอนว่าเพราะการที่คาไนน์ต้องการจะไปกับพวกเขาด้วย แต่ไม่สามารถทิ้งเหล่าเงือกแล้วไปเพียงลำพังได้ สุดท้ายแล้วกลุ่มของพวกเขาจาก 4 คน ก็เพิ่มขึ้นอีกเป็น 10 ได้ เพราะเหล่าชายฉกรรจ์ของฝูงเงือกต้องติดตามองค์ราชาเหมือนกับว่าเป็นองครักษ์ข้างกาย ทำให้พวกขบวนของพวกเขาในตอนขาไปกับขากลับแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งมาถึงปากถ้ำซึ่งคาไนน์ใช้เป็นทางเข้าออกระหว่างบนบกและโลกใต้น้ำ เหล่าเงือกก็ยืนยันว่าจะติดตามมาด้วย ไม่ยอมให้องค์ราชาของเงือกขึ้นมาเพียงลำพังโดยเด็ดขาด ทำให้คาไนน์งอแงใช้หางตีน้ำจนแตกกระจายเป็นวงกว้างธารามองภาพนั้นด้วยความเหนื่อยใจ เหล่าเงือกชายพยายามฉุดรั้งราชาของตนไม่ให้ขึ้นมาบนโลกมนุษย์ ส่วนตัวราชาที่ว่านั้นยื้อยุดกันไปมา จะขึ้นมากับเขาท่าเดียว สุดท้ายแล้วจึงยอมพบกันครึ่งท

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 30 คาไนน์เป็นราชา

    ธารายืนมองภาพของราชาตรงหน้านิ่งงัน ไม่แน่ใจว่าช่วงก่อนหน้านี้ราชาของเหล่าเงือกในความทรงจำของคาไนน์เป็นอย่างไร หากแต่บุคคลที่อยู่ตรงหน้าเขาในยามนี้แลดูคล้ายกับชายชราที่ใกล้ถึงฝั่งเต็มที มันดูอ้างว้างและโดดเดี่ยวเดียวดาย และดูแก่ลงไปหลายสิบปีจากคราแรกที่ได้พบหน้ากันธาราหันไปมองคาไนน์ที่คลายอ้อมกอดและหมุนกายหันมาเผชิญหน้ากับบิดาของตน เขาเห็นชัดว่าริมฝีปากของอีกฝ่ายนั้นขบเม้มเอาไว้แน่น ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเลื่อนหันมามองเขาที่ยืนอยู่ข้างกัน ก่อนถ้อยคำบางอย่างจะดังออกจากริมฝีปากบางราวกระซิบ[แต่ข้าหลงรักกับมนุษย์....] ถ้อยคำนั้นเรียกรั้งให้องค์โพไซหันมามอง คาไนน์ขยับมาจับมือของเขาเอาไว้แน่น เป็นการบ่งบอกว่าจะไม่ยอมแยกจากกัน ตอนนี้ความคิดในหัวของธาราตีกันจนวุ่นไปหมด เขาอยากที่จะอยู่กับคาไนน์ให้นานขึ้นอีกหน่อย อยากจะอยู่ด้วยกันไปนานๆ จนกว่าจะสิ้นอายุขัย หากแต่บิดาของคาไนน์ก็รออีกฝ่ายมาเนิ่นนานแล้วเช่นกัน เลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ เป็นเงือกเด็กพึ่งเกิดจนเติบใหญ่ ก็มักจะหวังให้บุตรของตนเข้ามาสืบทอดต่ำแหนง นับๆ ดูแล้ว ช่วงระยะเวลาที่รอคอยนั้นเขาจะเกิดและตายไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้.....

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status