Share

บทที่ 4 คาไนน์

last update Last Updated: 2025-04-30 16:54:48

“เจ้าเป็นคนรักของข้า......” ธารานิ่งไปทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น แต่เพียงไม่นานอาการเหล่านั้นก็จางหายไป แม้ใจของเขานั้นจะไม่อยากเชื่อในสิ่งเหล่านี้ แต่คิดว่าคนตรงหน้าคงไม่โกหกและโกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟเพียงเพราะเขาเอาไข่มุกของอีกฝ่ายไปแน่

หากอีกคนบอกว่าเขาเป็นคนรักจนยอมมอบหัวใจให้ ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่นักที่อีกฝ่ายจะโกรธเขาถึงเพียงนี้ เพราะลองคิดในมุมกลับกัน หากเขาที่เป็นคนจดจำทุกอย่างได้ แต่กลับไม่สามารถออกไปตามหาคนรักได้ ทำได้เพียงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเนิ่นนานเกือบ 10 ปี เขาเองก็คงจะโกรธแค้นอีกฝ่ายมากเช่นกัน

“งั้นคุณช่วยเล่าเรื่องราวระหว่างเราให้ผมฟังได้ไหมครับ แลกกับไข่มุกเม็ดนี้” ธาราหยิบเอาไข่มุกเม็ดงามที่ตนทำตกไว้ขึ้นมาถือไว้กลางฝ่ามือ เงือกหนุ่มตรงหน้าเขามองจ้องมาทางเขาด้วยท่าทีนิ่งงัน เส้นผมสีไลท์เกรย์พลิ้วไปกับสายน้ำจนคล้ายกับว่ามันมีชีวิต เงือกหนุ่มหมุนตัวหันหลัง เอ่ยบอกด้วยเสียงเรียบนิ่งยากที่จะคาดเดา

“หัวใจของข้าคงไร้ค่าสำหรับเจ้าจริง..... มิเช่นนั้นเจ้าคงมิยอมปล่อยมันไปอย่างง่ายดายเช่นนี้” เงือกหนุ่มกล่าวก่อนจะตั้งท่าเตรียมว่ายน้ำจากไป ทำให้ธาราสะดุ้งตกใจ จนรีบว่ายน้ำตามไปแล้วจับแขนคว้าไว้ได้ทันก่อนที่อีกฝ่าจะทิ้งห่างไปไกล เงือกหนุ่มตนนั้นชะงัก หันกลับมามองหน้ากัน

“ได้โปรดเถอะครับ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรและทำไม ผมจำมันไม่ได้ และผมอยากที่จะรู้” ธาราเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ผิวเนื้อเนียนนุ่มที่สัมผัสได้ภายใต้ฝ่ามือ ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะแปลกใจไม่ได้ ว่าทำไมคนที่อยู่ใต้น้ำตลอดเวลาอย่างอีกฝ่ายนั้นถึงมีผิวที่เนียนนุ่มได้ขนาดนี้

เงือกหนุ่มเงียบเสียงไปนานจนธาราเริ่มท้อใจ เขาเกือบจะปล่อยมือออกและยอมรับความพ่ายแพ้เสียแล้ว หากอีกฝ่ายไม่เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

“ตามมา” ว่าพร้อมกับสะบัดหางไปมา แหวกว่ายอยู่กลางสายน้ำ มุ่งตรงไปที่ทิศทางหนึ่ง เงือกหนุ่มว่ายไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ก็ต้องหันกลับมาหาคนที่ว่ายตามหลังมา ก่อนจะไปหยุดลงที่ด้านข้าง แล้วจึงส่งมือให้จับกุม ธารามองฝ่ามือนั้นอย่างลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อมองคนที่อยู่ตรงข้ามที่กำลังจ้องมองมาเช่นกัน เขาก็ค่อยๆ วางมือของตนลงไป

เงือกหนุ่มจับกุมกระชับฝ่ามือนั้นไว้ แล้วว่ายนำไปพลาง พร้อมกับฉุดรั้งให้เขามาอยู่เคียงข้างกัน ธาราหันกลับไปมองที่ด้านหลังก็เห็นว่าตอนนี้พวกเขาออกมาไกลจากเกาะพอสมควร จนมันแทบจะเป็นน้ำลึกเกินต้านทาน เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาสามารถหายใจในน้ำได้ จึงไม่ส่งผลต่อเขาสักเท่าไหร่

จวบจนกระทั่งทั้งคู่มาหยุดลงที่ถ้ำใต้น้ำขนาดใหญ่ ธารามองคนที่อยู่ข้างกายอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่นัก หากเขาถูกอีกฝ่ายวงมาฆ่า ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าหากครอบครัวจะหาศพของเขาไม่เจอ

“เหตุใดจึงมองข้าเช่นนั้นกัน?” เงือกหนุ่มกล่าว ก่อนจะสะบัดหาง ว่ายเข้าไปภายใน ทันทีที่เข้าไปทำให้ธาราได้รู้ว่ามันไม่ได้มืดมิดอย่างที่คิด กลับกัน มันกลับส่องประกายเปล่งแสงระเรื่อสีม่วงและชมพูสลับกัน อีกทั้งยังมีแสงสีเขียวและสีฟ้าอีกด้วย ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะทอดมองด้วยความอัศจรรย์ใจไม่ได้

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำกวาดมองไปรอบๆ อย่างสนอกสนใจ เขาจึงได้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้มาจากคริสตัลหลากสี และพืชน้ำหลากชนิดที่ให้แสงสีแตกต่างกัน ทำให้ถ้ำแห่งนี้น่าอยู่เป็นอย่างมาก จนเขาไม่รู้ตัวเลยว่าถูกอีกฝ่ายดึงลากพาเข้ามาด้านใน จนกระทั่งมาหยุดลงที่ม่านสาหร่ายซึ่งมีดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ ขึ้นเต็มไปหมด จนเขาอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นแตะดอกไม้นั้นแผ่วเบา เหล่าดอกไม้จิ๋วพากับหุบหนียามแตะสัมผัส ทำให้เขาเผยรอยยิ้มออกมาบางเบา หากแต่มันก็ไม่อาจคลาดสายตาจากคนที่จับจ้องมาได้เลยแม้แต่น้อย

“ในยามนั้นเจ้าชอบที่นี่...... พวกเราอยู่ด้วยกัน.....” เงือกหนุ่มหันหน้ามาหา ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้เขาใจกระตุกไหววูบ

“เจ้าเรียกมันว่าเรือนหอ ข้านั้นไม่เข้าใจว่าเจ้าหมายความว่าอย่างไร แต่พวกเราชาวเงือกจะช่วยกันทำรังเมื่อยามที่ตกลงปลงใจ” เงือกหนุ่มว่ายเข้าไปภายใน ด้านในนั้นไม่ได้หรูหราเหมือนห้องโรงแรมสุดหรูที่เขาคิดว่ามันจะเป็น แต่มีแท่นหินที่มุมหนึ่งของถ้ำ ด้านบนนั้นมีสาหร่ายปูไว้จนทั่ว หากเมื่อไหร่ที่ได้เอนหลังเขาคงรู้สึกจั๊กจี้เหมือนยามที่นอนบนเตียงที่เต็มไปด้วยขนนกนุ่มนิ่ม นอกจากนี้แล้วเขายังเห็นอะไรบางอย่างที่วางกองไว้ด้านบนอยู่ข้างกันอีกด้วย

“นั่นเจ้าเรียกมันว่าหมอนและผ้าห่ม เจ้ามักจะบ่นว่าแท่นนอนของข้างแข็งเกินไปและหนาวเกินไปในยามค่ำคืน จึงหาสิ่งของเหล่านั้นเข้ามาเพิ่มเติม” ธาราขยับก้าวเข้าไปดูใกล้ๆ ก่อนจะพบว่ามันคือสาหร่ายที่ถักทอกันจนหนาแน่น เมื่อภายนอกจะดูเปื่อยยุ่ยไปบ้างแต่ก็ยังใช้งานได้ดี ขยับมาอีกนิดที่ถึงสิ่งที่เป็นประกายเงางามที่อีกฝ่ายบอกเขาว่ามันคือผ้าห่ม แต่เมื่อขยับเข้ามาดูใกล้ๆ ธาราก็ต้องชะงักนิ่งไปเมื่อมันคือ..... หนังปลา..... แม้ว่ามันจะดูหนากว่าหนังปลาทั่วไปก็ตาม ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ ปนไปกับความสยดสยอง ก่อนที่จะก้าวเดินไปรอบๆ เพื่อสำรวจอีกหน

ภายในถ้ำนี้ไม่มีสิ่งของอื่นใด นอกจากปะการังรูปร่างแปลกๆ ที่มีแง่งออกมาจนขึ้นสูงพอๆ กับตัวคน และเห็นว่ามันมีสร้อยมากมายแขวนเอาไว้อยู่ เมื่อหันกลับไปมองก็เข้าใจได้ว่าคงเป็นเครื่องประดับของอีกฝ่ายเป็นแน่ ขยับมาอีกนิดก็เป็นกองของใช้กระจุ๊กกระจิ๊กซึ่งมีทั้งแบบที่เขาเคยเห็นและรู้วิธีใช้ รวมถึงอันที่ไม่เคย เงือกหนุ่มว่ายตามมาหยุดอยู่ที่ด้านข้าง เอ่ยปากอธิบาย

“ตอนนั้นข้าไม่เข้าใจภาษาของพวกเจ้า เขาจึงใช้สิ่งเหล่านี้ช่วยสอนให้ข้า” ธาราขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าตนทำแบบนั้นไปทำไม หรือสอนชายตรงหน้าอย่างไร

“ผมอยู่ที่นี่จริงหรอ?” เงือกหนุ่มพยักหน้ารับ จับมือเขาว่ายไปที่ฝั่งหนึ่งซึ่งเขาเห็นว่ามันมีช่องขนาดใหญ่ แต่ไม่ถึงกับเป็นประตูเท่าไหร่นัก เมื่อลอดผ่านเข้าไปแล้วจึงเห็นว่ามีของหลายอย่างถูกแขวนเอาไว้

“นี่คือ....”

“สาหร่าย มันกินได้ นี่ก็เนื้อปลา เจ้าเรียกรูนี้ว่าห้องครัว ส่วนนั้นเจ้าเรียกว่าโต๊ะอาหาร” ครีบหูของเงือกหนุ่มขยับไหวไปมาพลางเอียงคอน้อยๆ ธาราอดคิดไม่ได้ว่ามันช่างเหมือนกับสุนัขตัวโตที่ทำหน้างุนงงมองเจ้านาย

“ข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เจ้าเรียกมันเช่นนี้” ว่าจบก็พาออกจากรูที่ว่า ไปที่ด้านในสุดของถ้ำ ห่างไกลจากห้องนอนของอีกฝ่ายมาพอสมควร และอยู่ต่ำกว่า

“ที่นี่เจ้าเรียกมันว่าห้องน้ำ ข้าไม่ค่อยเข้าใจนัก เพราะเราอยู่ในน้ำกันอยู่แล้ว ดังนั้นทั่วทุกที่จึงเป็นห้องน้ำของเจ้า” เงือกหนุ่มกล่าวโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด ต่างจากธาราที่แสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน

“ตอนที่ข้ากล่าวเช่นนั้น เจ้าก็ทำหน้าแบบนี้” เงือกหนุ่มชี้นิ้วมาที่ใบหน้าของเขา ยังทำให้ธาราแสดงสีหน้าปั้นยากเข้าไปใหญ่ เขาจะบอกได้อย่างไรว่าห้องน้ำที่เขาต้องใช้นั้นคือห้องสำหรับการขับถ่าย ถึงแม้ทุกที่จะเต็มไปด้วยน้ำ แต่ก็ใช้ว่าเขาจะขับถ่ายได้อย่างไร้ยางอายเสียเมื่อไหร่กัน

เพียงไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ออกจากห้องน้ำที่ว่า แล้วกลับไปที่ห้องนอนตามเดิม เงือกหนุ่มพาธารามานั่งลงบนแท่นหินนุ่ม ก่อนจะตามมาทรุดตัวนั่งลงข้างกัน หางยาวสวยของอีกฝ่ายนั้นระไปกับพื้นเล็กน้อย

“นอกจากนี้แล้วมีอะไรอีกบ้าง? จะว่าไป ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย” ธาราหันมองคนข้างกาย ซึ่งเงือกหนุ่มนั้นก็มองมาทางเขานิ่งงั้น ก่อนจะยกมือขึ้นสองข้างวางลงบนไหล่เขา แล้วจับกดลงไปอย่างรวดเร็ว

ตุ้บ!

“อึก!! ทำบ้าอะไรของคุณ!!!” ธาราร้องตวาดออกมาเสียงกร้าว เงยหน้าขึ้นมองคนที่คร่อมอยู่เหนือกาย เงือกหนุ่มนั้นใช้ฝ่ามือลูบไล้ใบหน้าของเขาแผ่วเบา

คาไนน์ นั่นคือชื่อของข้า” น้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง ดังขึ้นจากคนด้านบน ธาราชะงักไปให้กับสัมผัสนั้น มันทั้งอ่อนโยนและทะนุถนอมจนเขานึกอยากจะแนบฝ่ามือลงไป ฝ่ามือของเงือกหนุ่ม หรือชื่อที่อีกคนบอกเขานั้นก็คือคาไนน์ ยกขึ้นลูบไล้ไปทั่วแผงอกของธารา ปลายนิ้วนั้นลากผ่านผิวเนื้อ ทิ้งสัมผัสวาบหวามเอาไว้ให้ และอย่างไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยถ้อยคำใด ฝ่ามือของคาไนน์ก็จับขยุ้มเสื้อผ้าของเขาแล้วกระชากออกอย่างแรง

“อึก! บอกแล้วไงว่าอย่าฉีกเสื้อผ้า!!” ธาราชะงักไปทันทีที่พูดจบ รู้สึกราวกับว่าตัวเขาเคยพูดคำนี้เมื่อนานมาแล้ว แต่นั่นไม่อาจทำให้คาไนน์หยุดมือลงได้ ยังคงพยายามดึงทึ้งเสื้อผ้าของเขาออกไปจากตัว

“ข้าจะช่วยรื้อฟื้นความทรงจำให้เจ้า” คาไนน์พูดพร้อมกับโยนเสื้อนอนของเขาทิ้งไป จนมันไปกองอยู่ที่พื้นข้างเตียง ธาราละล่ำละลักร้องบอก

“ดะ เดี๋ยว! คุณจะทำอะไร!” ชายหนุ่มพยายามจับยึดกางเกงนอนของตนเอาไว้แน่น เมื่อเป็นยางยืด จึงไม่แปลกเลยแม้แต่น้อย ที่มันจะถูกฉุดกระชากจนแทบจะหลุดจากเอวเขาอยู่รอมร่อทำให้มองเห็นหน้าท้องที่เป็นซิกแพกได้อย่างชัดเจน แถมยังมีร่องวีไลท์ของร่างกาย กลุ่มขนสีดำสนิทที่ขึ้นอยู่บริเวณที่ต่ำลงไปด้านล่าง เรียกรั้งให้คาไนน์มองภาพตรงหน้าด้วยความกระหายอยาก จนบางสิ่งบางอย่างนั้นค่อยๆ โผล่ออกมาจากช่องทางเล็กแคบที่ปิดสนิทเมื่อยามก่อนหน้า

“ไว้ใจข้า....” คาไนน์พูดพลางกับปลดปล่อยกลางกายของตนให้อีกคนประจักษ์ ธาราตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นแล้วว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะทำอย่างไรกับตน

“ไว้ใจบ้าอะไร!!! เห็นๆ อยู่ว่านายกำลังจะเอาไอ้นั่นมาทิ่มฉัน!!!” ธาราร้องตวาดก้องออกมาเสียงดัง หมดแล้วซึ่งความสุภาพที่เคยมี เขาพยายามยกขาขึ้นถีบอีกฝ่าให้ถอยออกไป แต่นั่นกลับเป็นการกระทำที่ผิดพลาด เพราะทันทีที่เขายกขาขึ้นเตรียมถีบ อีกฝ่ายก็ดึงกางเกงออกไปจากกายเขาได้สมใจ จนกลายเป็นว่าเขาเปิดเปลือยร่างกายต่อหน้าเงือกหนุ่มที่มองมาด้วยความตาวาว

คาไนน์เอนตัวลงบนแผ่นอกของอีกฝ่าย ถูไถศีรษะไปมาคล้ายออดอ้อน แต่ถึงอย่างนั้นธาราก็นอนตัวเกร็งแน่น เมื่อส่วนปลายหัวป้านนั้นแตะสะกิดแผ่วเบาไปมาที่ช่องทางของเขาซึ่งปิดสนิทเหมือนร้องขอให้ยอมเปิดช่องทางตอบรับ ยิ่งทำให้ธาราหนีบขาเข้าหากันแน่น ไม่ยอมให้อีกคนลอดผ่านเข้ามาได้ดั่งใจ

“ข้าจะช่วยฟื้นฟูความทรงจำให้เจ้า” เมื่อสะกิดแล้วสะกิดอีกธาราก็ไม่มีท่าทียินยอมเปิดรับให้ เงือกหนุ่มจึงยื่นมือออกไปที่ด้านข้าง สัมผัสกับฟองน้ำนุ่มนิ่มและบีบมันจนเละคามือ เกิดเป็นเมือกใสอาบไล้ไปทั่ว ก่อนที่คาไนน์จะเอ่ยพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา

“ธาราบอกว่าต้องช่วยเบิกทาง” พยักหน้าให้กับตัวเองหงึกๆ สะบัดหางสวยไปมาด้วยความอารมณ์ดี

“ยะ หยุดนะ นายคิดจะเอาไอ้นั้นมาป้ายฉันรึไง!!!” ธาราร้องตะโกนออกมาอีกหน คาไนน์กะพริบตาปริบ เอียงคอมอง

“เมื่อคราก่อนนั้น เจ้าบอกข้าว่าเจ็บ จึงต้องหาตัวช่วย พวกเราถึงไปช่วยกันเก็บฟองน้ำมาใช้” คาไนน์มองไปที่ทิศทางหนึ่งซึ่งมีฟองน้ำวางกองไว้อย่างที่ว่าจริง และในครรลองสายตาก็เห็นว่าฟองน้ำที่ถูกบีบจนคายเมือกใสเมื่อครู่เริ่มคลายตัวและกลับคืนสภาพเดิม

“ไม่ต้องกลัว ข้าจะทะนุถนอมเจ้า” ธาราได้แต่นิ่งอึ้งอ้าปากค้าง นี่เขาเข้าใจว่าที่เป็นคนรักกันนั้นคือเขาต่างหากที่เป็นคนอยู่บน เพราะเงือกหนุ่มตรงหน้ามีใบหน้าที่งดงาม รูปร่างสูงโปร่งสง่างาม เส้นผมหยักศกสีไลท์เกรย์เหล่านั้นยิ่งขับเน้นให้หลงใหล ใครจะไปคาดคิดว่าจะเป็นเขาเองที่ถูกจับกิน!!!

“ตัวของเจ้าโตขึ้นมาก..... ตรงนี้ของเจ้าเองก็ใหญ่ขึ้นไม่น้อย” คาไนน์เงยหน้าขึ้นมองคนที่นอนตาเบิกกว้างมองตนอยู่ไม่ละไปไหน มือข้างหนึ่งของคาไนน์วางลงที่แผงอกสลับกับการบีบคลึงไปมา

“เจ้ามีน้ำนมให้ลูกของเราแล้วใช่หรือไม่.....” คาไนน์ยังคงนวดเฟ้นยอดอกของเขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม จนแลดูคล้ายกับยอดอกของสตรี ธารารู้สึกว่าตัวเองอยากจะวูบแล้วเป็นลมไปเสียให้ได้ ถ้าไม่ติดว่าหากเขาหลับไปแล้วอีกฝ่ายจะฉวยโอกาสขึ้นคร่อมกระแทกเขาได้สมใจ ดังนั้นแล้วสิ่งที่ทำได้นั่นก็คือ.....

“มะ ไม่ใช่แล้วโว้ยยยยย ใครจะยอมเป็นเมียนายกันห๊ะ!!!!”

ผลั๊วะ!!

“โอ้ย!!!!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 5 คิดถึง..... NC+++

    “มะ ไม่ใช่แล้วโว้ยยยยย ใครจะยอมเป็นเมียนายกันห๊ะ!!!!”ผลั๊วะ!!“โอ้ย!!!!” เสียงร้องครวญครางของเงือกหนุ่มที่โดนฝ่ามือใหญ่ตบเข้าไปเต็มๆ บ้องหูจนทำให้ใบหน้าของคาไนน์สั่นสะเทือนและสะบัดหันไปอีกทางในทันที เงือกหนุ่มลู่หูลงอย่างเหงาหงอย พวงหางยาวระย้าสะบัดส่ายไปมาสองสามทีก่อนจะหยุดนิ่งลง ธารารู้สึกราวกับว่าตัวเองเห็นคนตรงหน้าเป็นสุนัขตัวโตที่แสดงท่าทีเหงาหงอย ไม่ใช่เงือกหนุ่มที่โมโหโกรธาเขาเมื่อวานเย็นจนกระทั่งกรีดกรงเล็บฝากรอยแผลไว้ที่อกของตน คาไนน์กล่าวด้วยเสียงอุบอิบ ช้อนสายตาขึ้นมอง"แต่มันจะช่วยทำให้เจ้าจดจำเรื่องราวได้มากขึ้น" "วิธีอื่นมีเยอะแยะไป ไม่เห็นต้องใช้วิธีนี้!!" ธาราร้องออกมาเสียงดัง ในขณะที่คาไนน์นั้นส่ายศีรษะไปมา"ไม่จริง หากเจ้าจำได้จริง เจ้าคงจะจำได้ตั้งแต่เห็นหน้าข้าหรือรังรักของเราแล้ว" ธารากะพริบตาปริบ อดที่จะเห็นด้วยไม่ได้ เมื่อเขาในตอนนี้ไม่มีภาพความทรงจำของเงือกหนุ่มตรงหน้าอยู่เลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ไม่ยินยอมให้ไอ้แท่งเนื้อที่ใหญ่โตนั่น มาแทงเข้าสู่ช่องทางของเขาเช่นกันดูสิ โดนตบหัวไปขนาดนั้นมันยังผงกหัวหงึกๆ ทักทายเขาอยู่เลย!!!"อึก! นะ นายจะทำอะไร" เสียงของธาราคล

    Last Updated : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 6 มีพระชายาโดยไม่ปรึกษาผู้ใด!!!!

    เย็น......หนาว......หายใจไม่ออก......เขาใกล้จะตายแล้ว.....ธารารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากนิทรา ดวงตาทรงแอลมอนด์เรียวเล็กปรือขึ้นมาช้าๆ ทัศนีย์ภาพที่ไม่คุ้นเคยทำให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันช้าๆ ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือพัดตกจากเรือสำราญและตกลงมาสู่ห้วงมหาสมุทรที่เย็นเฉียบจับขั้วหัวใจ ก่อนที่จะหมดสติไปเขารับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งพุ่งเข้าหาตน และมันอ้าปากกว้างเตรียมพร้อมสำหรับการกลืนกินชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นนั่ง รับรู้ได้ว่าลำคอแห้งผากและมีรสเค็มปร่ากระจายไปทั่วริมฝีปาก เขามองออกไปรอบตัวด้วยความไม่เข้าใจ เห็นเพียงเสียงรำไรและผนังที่เย็นเฉียบฉ่ำชื้น ในตอนนี้เขานั่งอยู่เพียงลำพังภายในถ้ำที่มืดมิด มีแสงสว่างสาดส่องอยู่ที่ปลายทางทำให้เขาต้องหรี่ตามองตอนนี้เขายังคงมึนงง สับสน ไม่รู้ว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แต่กระนั้นก็ยังยันตัวลุกขึ้นนั่งเพื่อที่จะได้ออกไปดูนอกถ้ำให้ชัดเจน ธารายันตัวลุกขึ้นยืน เดินไต่ไปตามผนังพร้อมๆ กับการห่อตัวเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายที่เปลือยเปล่ากึก!!ไม่มี.... เสื้อผ้า......ชายหนุ่มชะงักก่อนจะก้มลงมองที่ด้านล่างและลากไล้สายตาไปทั่วตัว ก่อนจะภาพร่างกายเปลือยเป

    Last Updated : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 7 ภรรยาโกรธเคือง

    คาไนน์โคลงศีรษะไปมาอย่างไม่สนใจเท่าไหร่นักให้กับคำพูดของเลโอ ก่อนจะจับดึงคนที่กำลังหลับใหลมาไว้ในอ้อมแขน มองดูแล้วว่าตรงนี้คงไม่เหมาะให้อีกฝ่ายอยู่อาศัย เอาไว้ให้คุ้นชินกันมากกว่านี้ค่อยพาลงมาที่ใต้บาดาลและพาไปพบกับบิดาของตน เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ไม่รอช้าที่จะมองหาเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุดและอุดมสมบูรณ์พร้อมสำหรับการอยู่อาศัย ที่สำคัญเกาะนั้นต้องร้างไร้ ปราศจากผู้คน และมีถ้ำอยู่ด้านล่างเพื่อให้เขาสามารถใช้ถ้ำเป็นทางขึ้นลงสู่ห้วงมหาสมุทรได้โดยง่ายธาราวนเวียนแหวกว่ายไปมา จนสุดท้ายแล้วคนที่นำทางให้ก็คือเลโอ เพราะอีกฝ่ายหนีออกมาเที่ยวเล่นอยู่บ่อยครั้ง ต่างจากเขาที่แทบไม่ได้ออกไปที่ใดเลย และเพราะแบบนั้นทำให้เขามาถึงเกาะแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากจุดที่อีกคนพลัดตกลงมามากนัก เขาพาคนในอ้อมแขนเอนนอนพิงลงที่โขดหินฝั่งหนึ่ง ลำตัวครึ่งล่างถูกแช่อยู่ในน้ำ“ข้าจะไปหาอาหารมาให้” คาไนน์พยักหน้ารับ ขณะที่ยันตัวขึ้นไปอยู่บนบกบริเวณที่เย็นและชื้นเพื่อคอยดูแลและอุ้มอีกคนขึ้นจากน้ำ ครีบยาวระย้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นขาแข็งแกร่ง ในคราแรกเขานั้นเดินล้มกลิ้งคว่ำคะมำไม่เป็นท่า แต่ก็ยังกัดฟันพยายามก้าวเดินไม่หยุด จนสามารถเดินเ

    Last Updated : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 8 เศษเสี้ยวความทรงจำ

    Thara Partธารายินยอมกล้ำกลืนสาหร่ายสีเขียวออกคล้ำเข้าปากอย่างจำใจ มันไม่ได้อร่อยเหมือนสาหร่ายทอดที่เขาเคยกินทั่วไป แต่มันเหมือนสาหร่ายที่อยู่ในซุปมิซโซะอาหารญี่ปุ่นแบบที่เขาเคยกินในบางครั้ง แต่ยังคงมีความเค็มปะแล่มของน้ำทะเลที่ช่วยให้สาหร่ายเส้นนี้มีรสชาติที่เค็มจัด แต่คนป่าตรงหน้านั้นกลับเคี้ยวกินเข้าปากโดยไม่แสดงอาการใดออกมา ทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงจะเคยชินกับอาหารแบบนี้ และเขาคงเลือกมากไม่ได้ เพราะอาการปวดท้องในตอนนี้เรียกร้องให้เขาหาบางสิ่งเข้ามาเติมเต็มในกระเพาะ ทำให้ต้องจำใจกล้ำกลืนสาหร่ายรสเค็มปี๋เข้าปากอย่างช่วยไม่ได้ ในตอนนั้นเองที่เขาได้มีโอกาสมองออกไปรอบๆ ถ้ำกว้างใหญ่จนไปสะดุดตาเข้ากับบางสิ่งที่มีสีสันคุ้นตา“นั่นมัน.....” เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบา เขาไม่ได้สนใจคนข้างกายที่หันมามองด้วยดวงตาใสแป๋ว แต่กลับก้าวเดินเข้าไปใกล้ที่จุดนั้นอย่างรวดเร็ว เขาทรุดตัวนั่งลงพร้อมกับจ้องมองตาวาว หันไปเอื้อมคว้ามาถือไว้ในมือ ก่อนจะหันไปถามคนที่นั่งมองตาแป๋วอยู่ที่เดิมไม่ละสายตา“ผมกินอันนี้แทนได้ไหม”“......”“..... งั้น.... ผมกินนะ...” เมื่อเขาไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกฝ่าย ริมฝีปากบางก็เม้

    Last Updated : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 9 ไปด้วยกัน

    ธารามองคนที่ขยับไปนั่งคุดคู้อยู่มุมถ้ำด้วยความเหนื่อยใจ เพราะอีกฝ่ายนั้นดันพูดขึ้นมาว่าจะขอทำซ้ำอีกรอบ ในคราวนี้เลยได้ฝ่ามือเขาฟาดเข้าที่หน้าเต็มๆ จนเกิดเป็นริ้วแดงบนแก้วขาวนวล และด้วยเพราะฝ่ายมือนี่แหละ ทำให้ไอ้เงือกบ้านั้นชะงัก และทำหน้าเศร้า น้ำตาหยดแหมะเป็นไข่มุกร่วงหล่นลงมา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงนั่งกอดอก มองจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ทำให้เจ้าเงือกชายแสนสวนค่อยๆ ว่ายน้ำ พาร่างตนเองไปทิ้งตัวลงกับพื้นถ้ำที่มุมหนึ่ง ตบหางปลาไปมาสลับกับการสะอื้นไห้ ตัดพ้อต่อว่าเขาด้วยความน้อยอกน้อยใจ“ฮึก ข้าได้ทิ่มไปคราเดียวเอง ฮึก เมื่อก่อนยังเยอะกว่านี้มากนัก ฮือ” พูดพร้อมสะอื้นไห้ ต่างจากคนฟังที่เส้นเลือดบนขมับเต้นตุ้บ นึกอยากจะเข้าไปดึงทึ้งเส้นผมมาตบๆ ให้หายบ้า แต่พอหันไปมองก็รู้สึกว่าตนเองเป็นคนหยาบช้า ที่ทำร้ายคนงามได้ลงคอ!“ผมจะกลับล่ะ” ธาราถอนหายใจเฮือก ก่อนจะผุดตัวลุกขึ้นยืนจากแท่นหิน สาหร่ายที่ปูไว้รองนอนตอนนี้ขาดกระจุยตามแรงดึงรั้งทั้งจากของเขาและของเจ้าเงือก แถมยังพักแข้งพันขาจนเขากระชากจนขาดกระจุย แล้วจึงเดินออกไปนอกถ้ำ หากแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้าออกไปดั่งใจอยาก อีกฝ่ายก็ถลาเข้ามากอดเขาเอาไว้แ

    Last Updated : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 10 คาไนน์กับการลงอ่างครั้งแรก.....

    หลังจากที่คาไนน์เอ่ยปากตกลง ยินยอมที่จะตามมาอยู่ด้วยกันบนบก คาไนน์ก็พาธาราว่ายน้ำมุ่งตรงมาที่ด้านบนผิวน้ำบริเวณเดียวกันกับแอ่งน้ำใต้ถ้ำที่เดียวกันกับตอนที่ถูกพาลงมา ธาราใช้สองมือเกาะโขดหินเอาไว้แน่น แล้วพาตนเองขึ้นจากน้ำได้ในที่สุด แต่เมื่อหันมองที่ข้างแล้วกลับว่างเปล่า ไม่มีเงือกบ้าที่ว่ายน้ำตามกันมาแต่อย่างใดดังนั้นธาราจึงหันไปมองคนที่พาเขามาถึงฝั่ง เห็นคนตัวเล็กนั้นพยายามเกาะโขดหินแล้วยันตัวขึ้นอย่างทุลักทุเล เหตุเพราะอีกฝ่ายไม่มีขาที่ใช้ยันหินหรือพยุงตัว แต่กลับมีครีบหางที่ปัดไปปัดมา คล้ายปลาที่ดิ้นแด่วๆ อยู่บนบก เมื่อธาราเห็นเช่นนั้นจึงสอดมือเข้าที่ช่วงรักแร้ของอีกคน พร้อมๆ กับยกตัวขึ้นให้พ้นน้ำ ก่อนจะวางลงที่โขดหิน ภาพที่เห็นตรงหน้า คือภาพที่ครีบหางค่อยๆ หลุดออกและสลายไป ก่อนจะกลับกลายเป็นขาขาวเรียวสวยปรากฏอยู่ตรงหน้าแทนธารากวาดสายตาสำรวจคนตรงหน้าอีกครั้งชัดๆ หากไม่เห็นว่าที่แผ่นอกนั้นเล็กบางและแบนราบ บวกกับอะไรบางอย่างที่หดตัวนุ่มนิ่มอยู่ที่กลางลำตัว เขาก็คงจะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงสาวไปแล้วแน่ๆ ใบหน้าที่งดงามจิ้มลิ้ม ดวงตาที่เป็นใบประกาย เส้นผมแผ่สยายยาวระไปกับผืนทราย ยังขับเน

    Last Updated : 2025-04-30
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 11 คาไนน์กับการสวมใส่กางเกง...... (ใน)

    “แล้วเลโอนี่ใคร? ทำไมเขาสอนอะไรคุณเยอะจัง?” ธาราถามด้วยความสงสัย ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินอีกฝ่ายพูดชื่อเลโอมาหลายครั้งแล้ว‘เลโอเป็นเพื่อนสนิทของข้า เขาชอบที่จะขึ้นบกมาเที่ยวเล่นบ่อยๆ แต่พอข้าขอบ้าง เขาก็บอกว่าเผ่ามนุษย์นั้นน่ากลัว เขาไม่อยากพาข้าไปเสี่ยง เลยไม่ยอมพาไปด้วยสักที’ คาไนน์ร้องบอก พร้อมกับตีหางแปะๆ ด้วยความแง่งอน“แล้วคุณไปรู้จักคำพวกนี้ได้ยังไง รู้หรอว่าหม้อต้มเป็นแบบไหน สุกเป็นยังไง ร้อนเป็นยังไง” ธารายังคงถามต่อเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงอยู่แต่ในน้ำที่เย็นจัด จนไม่รู้จักความร้อน หม้อต้ม หรือว่าไฟ จึงเป็นเรื่องแปลกที่เขาได้ยินอีกฝ่ายบอกว่าตนเองกำลังจะสุกทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นเองกับตา ธาราคิดพลางเปิดน้ำฝักบัว รินรดบนศีรษะให้ชุ่มน้ำ ก่อนจะบีบยาสระผมออกมาจัดการให้คนตัวเล็กกว่าที่ยังคงนั่งไม่รู้เรื่องรู้ราว‘รู้สิ เลโอเคยทำให้ดู เขาบอกว่าพวกมนุษย์จะชอบจับปลาไปต้มยำทำแกง แล้วก็ตั้งหม้อไฟ ต้มน้ำ แถมยังให้ข้าลองเอานิ้วจุ่มดูด้วย ตอนนั้นข้าไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร รู้เพียงข้าเจ็บและไม่สบายตัวเอาเสียเลย สุดท้ายเลโอก็บอกว่าความรู้ส

    Last Updated : 2025-05-01
  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 12 คาไนน์กับการกินข้าว......

    หลังจากที่ธาราจัดการคาไนน์ให้สวมใส่เสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อยดี เขาก็โอบอุ้มคนตัวเล็กกว่าลงไปที่ห้องรับประทานอาหาร ดวงตาคมกล้าเหลือบมองเวลา ขณะนี้ล่วงเข้าวันใหม่ไปเล็กน้อย ทางที่ดี เขาควรจะรีบพาคนตัวเล็กไปทานอาหาร แทนที่จะกัดแทะเสื้อผ้าของเขาประทังชีวิตดังนั้นแล้วหลังจากที่พาคาไนน์มาถึง ก็จับให้อีกฝ่ายนั่งลงบนเก้าอี้ดีๆ ตรงหน้าของพวกเขามีกับข้าวพร้อมฝาครอบวางไว้อยู่ ธาราไม่รอช้าที่จะตักข้าวแล้วนำไปวางลงตรงหน้า พร้อมกับจัดเตรียมน้ำเปล่าให้คาไนน์ด้วย คนตัวเล็กได้แต่นั่งกะพริบตาปริบๆ เพราะยังใช้ขาไม่คล่อง ทำให้ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ดั่งใจอยาก จึงทำเพียงมองตามหลังภรรยาของตนไปมาเท่านั้น จวบจนกระทั่งธารามาทรุดตัวนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม พร้อมกับพยักหน้าส่งสัญญาณและเอ่ยบอกเป็นคำพูด“ทานได้ครับ” นั่นทำให้คาไนน์ดวงตาลุกวาวด้วยความหิวโหย จับคว้าจานเข้ามาใกล้ แล้วกัดเข้าไปเต็มคำกร๊วม!!!‘โอ้ย!!!’ เสียงร้องดังขึ้นภายในหัว ทำให้ธาราถึงกับต้องหรี่ตาเมื่อมันดังลั่นจนหูอื้ออึง จนเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องเบิกตากกว้าง ทะล

    Last Updated : 2025-05-02

Latest chapter

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 18 ความลับของเส้นขน (ผม)

    Kanine Partคาไนน์ยกปลายนิ้วไล้เกลี่ยผิวแก้มของผู้เป็นภรรยาอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้มกว้างที่มีให้กัน กับคนเพียงผู้เดียว ก่อนที่จะค่อยๆ กดแทรกกายของตนให้เข้าลึกที่สุดของช่องทางสีหวานฉ่ำ ลำกายนั้นขยับขยายขนาดเพิ่มเติมเต็มช่องวางภายในนั้นจนติดล็อกแน่นอยู่ภายใน ปิดกั้นหยาดน้ำสีขาวขุ่นไม่ให้ไหลออกจากร่างกายโปร่งบางที่ยังคงหลับใหลไม่รับรู้เรื่องราว ท่วงทำนองเสียงหวานเอ่ยดังผะแผ่วราวกับจะช่วยขับกล่อมให้นอนหลับฝันดี“ฝันดีนะ ภรรยาที่รักของข้า......” พูดแล้วก็เอนตัวซุกซบลงบนอกของคนที่อยู่ใต้ร่าง ศีรษะเล็กทุยนั้นขยับไปมาร้าวกับลูกแมวออดอ้อนเจ้าของ ธาราที่ยังคงติดอยู่ในห้องฝันขมวดคิ้วให้กบสัมผัสวาบหวามที่สอดแทรกเข้าลึกในกาย จนเมื่อสิ่งนั้นสงบนิ่ง เจ้าตัวก็ผ่อนลมหายใจแล้วจมลงสู่ห้องนิทราอีกหนคาไนน์ยังคงฮัมเพลงในลำคอด้วยความอารมณ์ดี ปลายนิ้วเขี่ยไล้ลูบวนที่ยอดอกสีเข้มของอีกฝ่ายอย่างสบายอกสบายใจ ความรู้สึกล้ำลึกปะปนไปกับความโหยหาที่ถวิลถึงเนื่องจากตอนนี้ทั้งธาราและคาไนน์พากันอพยพย้ายขึ้นมาอยู่อาศัยบนบก คาไนน์เองก็ยังคงมีความคิดถึงบ้านบ้างเป็นบางค

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 17 ห้วงฝัน

    ความรู้สึกร้อนรุ่มแผ่กระจายไปทั่วทั้งตัว ทำให้ธาราถึงกับขมวดคิ้วด้วยความรำคาญเล็กน้อย และนั่นทำให้ใครบางคนที่ปีนป่ายขยับมานั่งคร่อมทาบทับกันถึงกับหยุดชะงัก ดวงตากลมโตสดใสแวววาวเหลือบตาขึ้นมองด้วยความระมัดระวัง หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ลมหายใจที่สม่ำเสมอคงที่ก็ถูกปล่อยออกมา ทำให้คนที่ยังคงตื่นอยู่ลอบถอนหายใจแล้วปฏิบัติการขั้นถัดไปในทันที.....ธาราลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับความมืดมิดรอบด้าน ได้ยินเสียงคลื่นน้ำกระทบหาดทรายดังขึ้นอย่างชัดเจนสะท้อนก้องอยู่ในหู เขากวาดสายตามองออกไปรอบตัว กลับพบว่าตนเองตื่นขึ้นจากผืนทราย มิได้นอนอยู่บนเตียงและกกกอดใครอีกคนไว้ในอ้อมแขนแต่อย่างใด จนกระทั่งเขาปรับสายตาได้ จึงเห็นว่าสถานที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้คือถ้ำแห่งหนึ่ง......“ออกเสียงตามผมนะ กอไก่” สายตาของเขาหันไปยังทิศทางที่มาของเสียนั้น ก่อนจะพบกับภาพของเด็กชายคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น รูปร่างยังคงคล้ายกับเด็กมัธยมต้น แทนที่จะเป็นช่วงมหาลัยตามอายุ และใช่ คนๆ นั้น คือเขาเอง....“กอ...” เสียงของใครบางคนพยายามจะเลียนแบบสิ่งที่เขาพึ่งเอ่ยคำเมื่อครู่ ท

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 16 ศูนย์วิจัยใต้ดิน

    ตอนนี้ทั้งเขาและลุงบาซิมกำลังนั่งประจันหน้ากันในห้องทำงานส่วนตัวที่ศูนย์วิจัยในช่วงเย็นค่ำของวัน หลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะทำห้องวิจัยและนำเอามาปรึกษาพูดคุยกับอีกฝ่าย เขากลับได้รับคำตอบที่น่าตกใจยิ่งกว่า....“ครับ ที่ใต้อควาเรียมนั้นมีศูนย์วิจัยอยู่ก่อนแล้ว” ลุงบาซิมยืนยันหลังจากที่เขาเอ่ยถามซ้ำไปอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูตนเอง ก่อนที่ลุงบาซิมจะเล่าถึงความเป็นมาของห้องวิจัยนั้นด้วยตนเอง“คือตอนที่คุณท่านตัดสินใจซื้อเกาะนี้แล้วเพาะเลี้ยงหอยมุกขาย ท่านก็มีการสั่งให้ทำห้องวิจัยเอาไว้ใต้ศูนย์นิทรรศการอยู่ก่อนแล้วน่ะครับ และแน่นอนว่า....... ใช้เพื่อวิเคราะห์และสำรวจหาเหล่าเงือกเหมือนกัน” เพียงเท่านั้นหัวใจของธาราก็เย็นเหยียบขึ้นมาในทันที เขาเงยหน้ามองคนพูดนิ่งๆ อีกฝ่ายที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยเล่าเรื่องราวต่อโดยไม่ต้องเอ่ยปากแต่อย่างใด“ตอนนั้นท่านบอกว่า ตอนที่พบคุณธาราแล้วพาตัวกลับไปรับการรักษาที่กรุงเทพ คุณธาราพยายามดิ้นรนเป็นอย่างมาก พยายามที่จะกลับมาที่เกาะนี้ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไรมา คุณท่านบอกเพียงแค่ว่าคุณธารายืนกรานว่าเงือกมีอยู่จ

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 15 การแต่งงานของเหล่าเงือก

    ในที่สุดหลังจากที่ธาราขลุกอยู่กับคาไนน์ เพื่อให้อีกฝ่ายได้ฝึกพูด ฝึกเดิน และหัดการใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติทั่วไป ตอนนี้วันเวลาผ่านเลยไปหลายสัปดาห์แล้ว และธาราไม่อาจเกเรไม่ยอมทำงานทำการมากไปกว่านี้ได้ นั่นด้วยเพราะผู้เป็นบิดาและพี่ชาย มักจะโทรมาถามข่าวคราวอยู่เสมอซึ่งธาราได้แต่อึกอักในลำคอ เอ่ยตอบไม่เต็มเสียง จะให้เขาบอกครอบครัวได้อย่างไร ว่าหลังจากที่ลงมาดูงานยังไม่ถึงอาทิตย์ ก็เก็บเอาเงือกตนหนึ่งมาเลี้ยงดูเสียแล้ว ดังนั้นแล้วธาราจึงต้องจำใจปล่อยคาไนน์ไว้ที่บ้านพักเพียงลำพัง ส่วนตนเองนั้นก็เข้ามาทำงานตรวจเอกสารอยู่ที่ศูนย์วิจัย บางครั้งก็หอบงานกลับไปทำที่บ้านพักด้วยแม้ว่าบิดาและพี่ชายจะเร่งตามยิ้กๆ ให้เขากลับไปช่วยงานในกรุงเทพ หากแต่เขาก็ยังคงยืนกรานที่จะอยู่ต่อ ไม่ยินยอมเดินทางกลับแต่อย่างใด แถมยังบอกทิ้งท้ายเอาไว้ว่าเขาอาจจะย้ายมาอยู่ประจำการที่นี่เป็นการถาวร และหากมีเรื่องด่วนอะไรหรือจำเป็นจริงๆ ค่อยขึ้นเครื่องกลับไปจัดการ หลังจากจบคำบอกกล่าว คนทางบ้านก็พากันร้องโวยวาย หากแต่เจ้าตัวไม่คิดจะอยู่ฟัง กลับกดตัดสายทิ้งไปในทันที แล้วโยนโทรศัพท์ส่งๆ ไว้บนโต๊ะทำงานดว

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 14 ฝึกเดิน

    คาไนน์กำลังรู้สึกว่าตนเองถูกทรมาน.....นั่นก็เพราะว่าธาราบังคับขู่เข็ญให้เขาพยายามพูดออกเสียงให้ได้น่ะสิ!!!“ลองใหม่ครับ” ธาราในตอนนี้นั่งอยู่ข้างกัน มีปากกาอยู่ในมือและใช้มันชี้ไปที่แบบเรียนตัวอักษรอย่างใจเย็น“ตะ”“ตอเต่า”“ตะ” แรกเริ่มเดิมที ในคราแรกที่ธาราให้คาไนน์ลองออกเสียง อีกฝ่ายทำได้เพียงแค่เปล่าเสียง อื้อๆ อ่าๆ ออกมาเท่านั้น หากแต่พอเป็นคำพูดในหัวนั้นกลับพูดได้ลื่นไหล นั่นอาจจะเพราะภาษาที่เฉพาะของอีกฝ่าย ภาษาเงือกที่คาไนน์บอกว่าเราพูดคุยได้และเข้าใจกัน เพราะเขาเป็นภรรยาเงือก แต่ในเมื่อตอนนี้ขึ้นมาอยู่บนบก คาไนน์จะต้องอ่านออก เขียนได้ พูดได้ และต้องฝึกเดินให้ได้ด้วย“ลองใหม่ครับ ตอเต่า”“ตอตา” แม้มันจะดูยากไปสักหน่อย และต้องใช้ความอดทนไม่น้อย แต่ธาราคิดว่าอยู่เสมอว่าเขากำลังเลี้ยงเด็กเล็กที่อ่อนต่อโลกคนหนึ่ง ดังนั้นแล้วเขาจะต้องใจเย็นให้มาก เพื่อให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกกดดันจนเกินไปนัก ความคิดของเขาสะดุด เมื่อจู่ๆ คนที่นั่งอยู่ข้างกันก็ทิ้งตัวไปนอนแผ่หลาลงบนโต

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 13 สร้างสรรค์ปั้นแต่ง

    ในเช้าวันถัดมา ธาราก็จับคาไนน์ให้ไปอาบน้ำแปรงฟันและจับแต่งตัวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับมีสิ่งที่พิเศษแตกต่างจากเมื่อคืนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่องนั่นก็คือ....‘ภรรยา ข้าเจ็บ.....’“อดทนหน่อยสิ”‘งื้ออออออ’ เสียงร้องประท้วงแผ่วเบาดังขึ้นในลำคอของเงือกหนุ่ม ตอนนี้ทั้งคาไนน์และธารากำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เส้นผมสีเงินเป็นยวงของคาไนน์ถูกจับสางไปมาและจับแต่งทรงผม นั่นเพราะหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จ ธาราก็ตั้งใจจะพาคาไนน์ลงมาทานอาหารที่ด้านล่าง แต่เพราะผมที่ยาวจนเกินไปของคาไนน์ ทำให้ธาราเผลอเหยียบเข้าไปเต็มๆ เท้า จนคาไนน์หัวกระตุกหน้าหงายเงิบสุดท้ายธาราจึงตัดสินใจที่จะพาคาไนน์มานั่งลงที่หน้ากระจกเงา แล้วพยายามทำผมให้อีกฝ่ายเพื่อให้ผมไม่ยาวรุงรังเช่นแต่ก่อน และเพราะเขาเป็นผู้ชาย ยางมัดผมจึงไม่เคยได้ใช้งาน สุดท้ายก็ต้องลงไปขอยางมัดแกงจากห้องครัวกับน้ามูนา เพื่อเอามาทำผมให้อีกฝ่าย แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นอีก เมื่อธาราทำผมไม่เป็น แน่ล่ะ เขาจะไปเคยทำผมให้ใครได้ยังไง ในเมื่อชีวิตนี้เขาไม่เคยมีหญิงสาวข้างกาย จะไม่เคยทำผมให้

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 12 คาไนน์กับการกินข้าว......

    หลังจากที่ธาราจัดการคาไนน์ให้สวมใส่เสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อยดี เขาก็โอบอุ้มคนตัวเล็กกว่าลงไปที่ห้องรับประทานอาหาร ดวงตาคมกล้าเหลือบมองเวลา ขณะนี้ล่วงเข้าวันใหม่ไปเล็กน้อย ทางที่ดี เขาควรจะรีบพาคนตัวเล็กไปทานอาหาร แทนที่จะกัดแทะเสื้อผ้าของเขาประทังชีวิตดังนั้นแล้วหลังจากที่พาคาไนน์มาถึง ก็จับให้อีกฝ่ายนั่งลงบนเก้าอี้ดีๆ ตรงหน้าของพวกเขามีกับข้าวพร้อมฝาครอบวางไว้อยู่ ธาราไม่รอช้าที่จะตักข้าวแล้วนำไปวางลงตรงหน้า พร้อมกับจัดเตรียมน้ำเปล่าให้คาไนน์ด้วย คนตัวเล็กได้แต่นั่งกะพริบตาปริบๆ เพราะยังใช้ขาไม่คล่อง ทำให้ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ดั่งใจอยาก จึงทำเพียงมองตามหลังภรรยาของตนไปมาเท่านั้น จวบจนกระทั่งธารามาทรุดตัวนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม พร้อมกับพยักหน้าส่งสัญญาณและเอ่ยบอกเป็นคำพูด“ทานได้ครับ” นั่นทำให้คาไนน์ดวงตาลุกวาวด้วยความหิวโหย จับคว้าจานเข้ามาใกล้ แล้วกัดเข้าไปเต็มคำกร๊วม!!!‘โอ้ย!!!’ เสียงร้องดังขึ้นภายในหัว ทำให้ธาราถึงกับต้องหรี่ตาเมื่อมันดังลั่นจนหูอื้ออึง จนเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องเบิกตากกว้าง ทะล

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 11 คาไนน์กับการสวมใส่กางเกง...... (ใน)

    “แล้วเลโอนี่ใคร? ทำไมเขาสอนอะไรคุณเยอะจัง?” ธาราถามด้วยความสงสัย ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินอีกฝ่ายพูดชื่อเลโอมาหลายครั้งแล้ว‘เลโอเป็นเพื่อนสนิทของข้า เขาชอบที่จะขึ้นบกมาเที่ยวเล่นบ่อยๆ แต่พอข้าขอบ้าง เขาก็บอกว่าเผ่ามนุษย์นั้นน่ากลัว เขาไม่อยากพาข้าไปเสี่ยง เลยไม่ยอมพาไปด้วยสักที’ คาไนน์ร้องบอก พร้อมกับตีหางแปะๆ ด้วยความแง่งอน“แล้วคุณไปรู้จักคำพวกนี้ได้ยังไง รู้หรอว่าหม้อต้มเป็นแบบไหน สุกเป็นยังไง ร้อนเป็นยังไง” ธารายังคงถามต่อเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงอยู่แต่ในน้ำที่เย็นจัด จนไม่รู้จักความร้อน หม้อต้ม หรือว่าไฟ จึงเป็นเรื่องแปลกที่เขาได้ยินอีกฝ่ายบอกว่าตนเองกำลังจะสุกทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นเองกับตา ธาราคิดพลางเปิดน้ำฝักบัว รินรดบนศีรษะให้ชุ่มน้ำ ก่อนจะบีบยาสระผมออกมาจัดการให้คนตัวเล็กกว่าที่ยังคงนั่งไม่รู้เรื่องรู้ราว‘รู้สิ เลโอเคยทำให้ดู เขาบอกว่าพวกมนุษย์จะชอบจับปลาไปต้มยำทำแกง แล้วก็ตั้งหม้อไฟ ต้มน้ำ แถมยังให้ข้าลองเอานิ้วจุ่มดูด้วย ตอนนั้นข้าไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร รู้เพียงข้าเจ็บและไม่สบายตัวเอาเสียเลย สุดท้ายเลโอก็บอกว่าความรู้ส

  • Merman บันทึกรักใต้มหานที   บทที่ 10 คาไนน์กับการลงอ่างครั้งแรก.....

    หลังจากที่คาไนน์เอ่ยปากตกลง ยินยอมที่จะตามมาอยู่ด้วยกันบนบก คาไนน์ก็พาธาราว่ายน้ำมุ่งตรงมาที่ด้านบนผิวน้ำบริเวณเดียวกันกับแอ่งน้ำใต้ถ้ำที่เดียวกันกับตอนที่ถูกพาลงมา ธาราใช้สองมือเกาะโขดหินเอาไว้แน่น แล้วพาตนเองขึ้นจากน้ำได้ในที่สุด แต่เมื่อหันมองที่ข้างแล้วกลับว่างเปล่า ไม่มีเงือกบ้าที่ว่ายน้ำตามกันมาแต่อย่างใดดังนั้นธาราจึงหันไปมองคนที่พาเขามาถึงฝั่ง เห็นคนตัวเล็กนั้นพยายามเกาะโขดหินแล้วยันตัวขึ้นอย่างทุลักทุเล เหตุเพราะอีกฝ่ายไม่มีขาที่ใช้ยันหินหรือพยุงตัว แต่กลับมีครีบหางที่ปัดไปปัดมา คล้ายปลาที่ดิ้นแด่วๆ อยู่บนบก เมื่อธาราเห็นเช่นนั้นจึงสอดมือเข้าที่ช่วงรักแร้ของอีกคน พร้อมๆ กับยกตัวขึ้นให้พ้นน้ำ ก่อนจะวางลงที่โขดหิน ภาพที่เห็นตรงหน้า คือภาพที่ครีบหางค่อยๆ หลุดออกและสลายไป ก่อนจะกลับกลายเป็นขาขาวเรียวสวยปรากฏอยู่ตรงหน้าแทนธารากวาดสายตาสำรวจคนตรงหน้าอีกครั้งชัดๆ หากไม่เห็นว่าที่แผ่นอกนั้นเล็กบางและแบนราบ บวกกับอะไรบางอย่างที่หดตัวนุ่มนิ่มอยู่ที่กลางลำตัว เขาก็คงจะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงสาวไปแล้วแน่ๆ ใบหน้าที่งดงามจิ้มลิ้ม ดวงตาที่เป็นใบประกาย เส้นผมแผ่สยายยาวระไปกับผืนทราย ยังขับเน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status