Home / วาย / [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ / ตอนที่ ๕ เจ็บท้องคลอด

Share

ตอนที่ ๕ เจ็บท้องคลอด

last update Last Updated: 2025-12-09 18:39:35

ตอนที่ ๕ เจ็บท้องคลอด

กลางดึกสงัด ค่ำคืนนี้ช่างเงียบงันจนได้ยินเพียงเสียงลมพัดแผ่วผ่านผ้าม่าน เสียงหรีดเรไรที่มักค่ำร้องยามค่ำก็ยังเงียบหาย ร่างของซูเยี่ยนพลิกตัวอย่างอึดอัดบนเตียง ใบหน้าเขาชื้นเหงื่อ ฝ่ามือกำผ้าปูที่นอนแน่น อีกมือยกขึ้นลูบบริเวณหน้าท้อง ความเจ็บแปลบแล่นขึ้นมาจนเขาเผลอกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับเสียงคราง

“สวี่เฟิง...เข้ามาหาข้าที...” เสียงของเขาแผ่วเบาราวกระซิบ แต่ในยามเงียบงันเช่นนี้ เสียงนั้นชัดเจนพอที่จะดึงความสนใจจากด้านนอก

แอ๊ด...ประตูถูกผลักเปิดออก สวี่เฟิงรีบก้าวเข้ามาด้านในทันที

“พ่ะย่ะค่ะ” เขาขานรับเสียงหนักแน่น

“ช่วยข้าที ข้าปวดท้อง...” ซูเยี่ยนเอ่ยเสียงขาดห้วง ร่างบางก้มลงกุมหน้าท้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด สวี่เฟิงไม่รอช้า รีบประคองร่างเจ้านายของเขาขึ้นอย่างระมัดระวัง

“ตามหมอ! ใครอยู่ข้างนอกตามหมอมาเดี๋ยวนี้! ซูอิ้งซื่อเจ็บท้องใกล้คลอดแล้ว!” สวี่เฟิงตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน เสียงฝีเท้าของบ่าวด้านนอกดังวุ่นวายไปทั่ว ราวกับพวกเขาต่างรีบเร่งไปปฏิบัติหน้าที่

แต่สำหรับซูเยี่ยนเสียงเหล่านั้นไกลออกไปเรื่อย ๆ ทุกอย่างในโลกของเขามีเพียงความเจ็บปวดที่โถมเข้าใส่ หน้าท้องที่ปวดร้าวยิ่งทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้อง ร่างกายสั่นสะท้าน ฝ่ามือข้างหนึ่งจับที่ท้องแน่น ส่วนอีกข้างกำแขนของสวี่เฟิงไว้ราวกับยึดเหนี่ยว

“อดทนไว้พ่ะย่ะค่ะพระชายารอง หมอกำลังมา...” สวี่เฟิงกล่าวปลอบเสียงเบา ขณะประคองซูเยี่ยนให้อยู่ในท่าที่สบายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความเจ็บยังคงกัดกินซูเยี่ยนจนแทบลืมสติ แต่เขายังคงกัดฟันอดทนรอคอย

ท่ามกลางป่าทางทิศตะวันออก อากาศเย็นชื้นแผ่ซ่านไปทั่ว หุบเขาที่ทอดยาวล้อมรอบกลายเป็นจุดได้เปรียบสำหรับการศึก แม่ทัพใหญ่ทั้งสามต่างแยกย้ายกันออกไปตามแผนที่วางไว้

จ้าวอู่ฉีเป็นผู้นำทัพของตน ไล่ตีค่ายน้อยใหญ่ที่ตั้งกระจายอยู่รอบ ๆ เพื่อรวบกำลังปิดล้อมศัตรูให้แคบลงเรื่อย ๆ การศึกครานี้คงกินเวลายาวนานเช่นเคย แต่จ้าวอู่ฉีหาได้กังวลไม่ เขาเชื่อมั่นในแผนการและจังหวะที่เหมาะสม

ร่างสูงนั่งตระหง่านอยู่บนหลังอาชาศึก แผ่นหลังตรงสง่างาม ดาบเล่มใหญ่ที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทานให้ยังคงอยู่ในมือแน่น ส่วนด้านหลังของเขาคือคันธนูคู่ใจที่เคียงข้างมาในทุกสมรภูมิ สายลมเย็นพัดผ่านพลิ้ว อาภรณ์ที่เปื้อนคราบฝุ่นกลับยิ่งขับให้เขาดูทรงอำนาจ

สายตาคมดั่งเหยี่ยวจับจ้องลงไปยังเบื้องล่าง จากจุดที่เขายืนอยู่บนหน้าผาสูง สามารถมองเห็นค่ายศัตรูที่เงียบสงัด ร่างของเหล่าทหารที่พิงหลับอยู่ตามกระโจมปลดอาวุธไว้อย่างประมาท

จ้าวอู่ฉีไม่รีบร้อน ความนิ่งสงบของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นที่แฝงความอันตราย เงามืดของขุนเขาโอบล้อมพื้นที่ไว้ ราวกับเฝ้ารอให้เหยื่อเดินเข้าสู่กับดัก

เขาปล่อยให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปอย่างใจเย็น มือข้างหนึ่งลูบแผงคอของม้าเบา ๆ พลางครุ่นคิดถึงการลงมือในยามฟ้าสาง ทันทีที่แสงแรกของอรุณขึ้นมา ศัตรูจะไม่มีโอกาสตื่นจากนิทราเพื่อเตรียมตัวป้องกันตนเอง

ในความเงียบงัน เสียงลมพัดผ่านยอดไม้แว่วมาเบา ๆ เป็นดั่งเสียงกระซิบของป่าที่ขับขานเพลงแห่งความพินาศให้เหล่าศัตรูที่ยังไม่รู้ชะตากรรม จ้าวอู่ฉีกระตุกสายบังเหียนเบา ๆ ส่งสัญญาณให้ทหารที่รออยู่ด้านหลังเตรียมพร้อม

ดาบในมือถูกชักออกจากฝัก เสียงโลหะเสียดสีกับปลอกดาบดังแผ่วเบา แววตาคมกริบจ้องมองเบื้องล่างยังค่ายศัตรูที่ยังคงเงียบสงัด มีเพียงเปลวไฟจากกองไฟเล็ก ๆ ที่ริบหรี่ในยามค่ำ

“ลอบเข้าไปให้เงียบที่สุด หากข้าส่งสัญญาณ ค่อยบุกตีพร้อมกัน” เสียงทุ้มต่ำของเขาแผ่วเบา แต่กลับดังก้องในหัวใจของทหารทุกนาย พวกเขาพยักหน้ารับอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะแยกย้ายออกไปตามตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย

เงาร่างของเหล่าทหารแผ่กระจายไปทั่วค่ายศัตรู ดั่งเสือที่กำลังซุ่มรอโจมตีเหยื่อ ไฟในค่ายเริ่มมอดลงเรื่อย ๆ ทหารศัตรูบางคนพิงหลับอยู่หน้ากระโจม บางคนล้มตัวนอนด้วยความเหนื่อยล้า ท่ามกลางความเงียบงัน จ้าวอู่ฉีกดสายตาลงต่ำ มือหนึ่งกระชับคันธนูที่หยิบขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว

ลูกธนูดอกแรกถูกวางบนสาย เสียงสายธนูตึงแน่นก่อนจะปล่อยออกอย่างแม่นยำ ลูกธนูพุ่งทะลุอากาศและปักเข้าที่คอของทหารยามที่อยู่หน้ากระโจมอย่างไร้เสียง ร่างนั้นทรุดลงโดยไม่ทันร้องเตือน ทันใดนั้นเอง เสียงสัญญาณนกหวีดสั้น ๆ ดังขึ้นจากจ้าวอู่ฉี

“บุก!” เสียงสั่งการดังขึ้น พร้อมกับร่างของทหารฝ่ายเขาที่กรูกันออกมาจากเงามืด

แสงไฟสว่างวาบจากกระโจมหลายจุด ศัตรูบางคนสะดุ้งตื่นและรีบคว้าอาวุธ แต่ไม่ทันไร ทหารของจ้าวอู่ฉีก็บุกเข้าไปถึงกลางค่ายแล้ว ดาบและหอกพุ่งเข้าประชิด ทหารศัตรูที่ตั้งตัวไม่ทันถูกโค่นล้มอย่างรวดเร็ว เสียงอาวุธกระทบกันดังสะท้อนไปทั่วป่า

จ้าวอู่ฉีควบม้าลงจากหน้าผา ฝีเท้าของม้าศึกกระแทกพื้นอย่างหนักแน่น เขากระโจนลงจากหลังม้าเมื่อเข้าถึงค่ายศัตรู ดาบในมือฟาดฟันอย่างแม่นยำ ทหารศัตรูที่พุ่งเข้ามาแต่ละคนล้มลงทีละราย สีหน้าของเขานิ่งสงบ แต่แววตากลับแฝงด้วยความดุดัน

เสียงกรีดร้องดังระงมในยามที่ค่ายถูกล้อม เสียงดาบและโลหะกระทบกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสงไฟจากคบเพลิงสาดส่องให้เห็นภาพการรบที่ดุเดือด ศัตรูเริ่มถูกกดดันจนหมดทางหนี

“เผากระโจมของพวกมัน อย่าให้เหลือร่องรอย” จ้าวอู่ฉีตะโกนสั่ง ทหารของเขารีบจุดไฟเผากระโจมทีละหลัง เปลวไฟลุกท่วมขึ้นท่ามกลางความวุ่นวาย

ในเวลาไม่นาน ค่ายศัตรูทั้งค่ายก็กลายเป็นเถ้าถ่าน เหลือเพียงเปลวไฟที่คุกรุ่นลอยขึ้นสู่ฟ้า ทหารของจ้าวอู่ฉีคุมเชลยที่ยังเหลืออยู่มาไว้กลางลานอย่างเป็นระเบียบ จ้าวอู่ฉีเช็ดเลือดที่ปลายดาบ ก่อนจะมองรอบค่ายด้วยสายตาเรียบเฉย

“กระจายกำลังค้นหา อย่าให้หลุดรอดแม้แต่คนเดียว” คำสั่งสุดท้ายของเขาดังขึ้นท่ามกลางแสงไฟที่ยังไม่มอดดับ ก่อนร่างสูงจะหมุนตัวเดินกลับไปยังม้าศึก ขณะเดียวกันนั้นเองลูกธนูพุ่งปักเข้าที่แขนซ้ายของจ้าวอู่ฉีอย่างแรง เลือดซึมผ่านชุดเกราะจนเห็นเป็นรอยชัดเจน แต่ใบหน้าหล่อเหลายังคงนิ่งสงบ รอยยิ้มเย็นปรากฏขึ้นที่มุมปาก คล้ายกับว่าความเจ็บปวดเล็กน้อยนี้ไม่อาจหยุดเขาได้ มือแกร่งจับปลายลูกธนูที่ปักลึก ก่อนจะหักมันออกอย่างไม่ลังเล ขณะที่สายตาคมยังคงจับจ้องไปข้างหน้า

“ตามข้ามา!” จ้าวอู่ฉีออกคำสั่งเสียงดัง พลางควบม้าพุ่งไปข้างหน้า เป้าหมายของเขาไม่ใช่ไพร่พลเล็ก ๆ ที่กระจัดกระจาย หากแต่เป็นแม่ทัพหยาง ผู้ที่เขารู้ดีว่าเป็นหัวใจสำคัญของการก่อกบฏครั้งนี้ อีกฝ่ายร่วมมือกับชาวนอกด่านหวังชิงบัลลังก์

เมื่อถึงลานโล่งที่เต็มไปด้วยซากศัตรูและควันไฟที่คุกกรุ่น สองแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่เผชิญหน้ากัน สายตาของพวกเขาสบประสานกันในความเงียบที่กดดัน

“เหตุใดจึงคิดกบฏด้วยเล่า แม่ทัพหยาง” จ้าวอู่ฉีเอ่ยถาม น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งแต่แฝงด้วยความผิดหวัง

แม่ทัพหยางหัวเราะในลำคอ ดวงตาที่เคยเปี่ยมด้วยเกียรติยศในสนามรบกลับเปลี่ยนเป็นความเย้ยหยัน

“หลี่เซียวเหอไม่เหมาะที่จะเป็นฮ่องเต้ คนผู้นั้นต่ำช้ายิ่งนัก”

“เหตุใดท่านถึงกล่าวเช่นนั้น หรือว่าท่านอยากขึ้นเป็นฮ่องเต้มากมายเพียงนี้?” จ้าวอู่ฉีถามกลับ น้ำเสียงของเขาเจือด้วยความเย้ยหยัน

“หุบปากเสีย จ้าวอู่ฉี!” แม่ทัพหยางคำราม “สุนัขรับใช้อย่างเจ้าจะรู้อะไร? ฮ่องเต้ผู้นั้นหลอกใช้เจ้า เจ้าก็ยังยอมโง่งมเชื่อฟัง!”

จ้าวอู่ฉีกระชับดาบในมือแน่น ก่อนเอ่ยเสียงเย็น “อย่างนั้นก็ช่วยทำให้ข้าหุบเสียสิ”

เสียงดาบกระทบกันดังกึกก้องไปทั่วลานรบ ทั้งสองคนที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายสมรภูมิ บัดนี้กลับต้องห้ำหั่นกันเอง ดาบของแม่ทัพหยางพุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างไม่ลังเลปลายดาบเฉือนผ่านแขนของจ้าวอู่ฉีจนเลือดสาดกระเซ็น แต่จ้าวอู่ฉีก็สวนกลับอย่างรวดเร็ว ดาบในมือฟาดเฉียดผ่านลำคอของอีกฝ่ายจนเกราะแตก

ม้าศึกทั้งสองตัววิ่งสวนไปมา เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดังกระหน่ำ ทั้งสองแม่ทัพพลิกตัวควบม้าสวนกันอีกครั้ง ดาบของจ้าวอู่ฉีพุ่งเข้าใส่เป้าหมายเต็มแรง แต่แม่ทัพหยางกลับใช้ดาบต้านไว้ได้ในนาทีสุดท้าย ก่อนจะฉวยโอกาสแทงดาบเข้าไปที่สีข้างของจ้าวอู่ฉี เลือดพุ่งกระจาย

ทั้งสองคนตกลงจากหลังม้าพร้อมกัน ร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ปลายดาบถูกปักลงพื้นเพื่อใช้ประคองตัว เลือดไหลอาบไปทั่วใบหน้าและร่างกาย แต่สายตาของพวกเขายังคงจ้องมองกันอย่างดุดัน

จ้าวอู่ฉีปาดเลือดที่มุมปาก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวที่ไม่ยอมแพ้ เช่นเดียวกับแม่ทัพหยางที่ยกปลายดาบขึ้นอีกครั้ง ทั้งสองพุ่งเข้าหากันโดยไม่มีคำพูดใด ดาบในมือเปล่งประกายแสงสุดท้ายของแสงจันทร์ เสียงโลหะกระทบกันดังกึกก้อง ดุจคำประกาศสุดท้ายของนักรบที่พร้อมจะสู้จนลมหายใจสุดท้าย

สองร่างของแม่ทัพล้มลงกองกับพื้น หากแต่เพียงไม่นานจ้าวอู่ฉีก็เป็นฝ่ายยืนหยัดขึ้นมาได้อีกครั้ง แม้ต้องพยายามพยุงตัวอย่างยิ่งก็ตาม สายตาคมมองสหายร่วมรบที่บัดนี้กลับกลายเป็นศัตรูนอนแน่นิ่งหมดลมหายใจ หลังจากที่เขาใช้ปลายดาบบั่นลำคอ

“เจ้าช่างโง่นักหยางเซี่ยที่ไปเชื่อเสนาบดีผู้นั้น” จ้าวอู่ฉีพูดเสียงแผ่ว แล้วจึงหันไปตะโกนสั่งไพร่พลอีกครั้ง

“ดันไปที่หน้าผา”

ยุทธวิธีนี้ได้ผลดียิ่งนัก แม่ทัพจ้าวอู่ฉีสั่งฟาดฟันดันทัพฝ่ายศัตรูหล่นถอยไปเรื่อย ๆ ไปจนถึงหน้าผาสูงชัน ฝ่ายศัตรูเพลี่ยงพล้ำ กว่าจะรู้ตัวก็สิ้นชีพไปเกือบหมดเสียแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๖ เคียงกันนับจากนี้

    ตอนที่ ๒๖ เคียงกันนับจากนี้ยามค่ำคืนในจวนอ๋องเงียบสงัด แต่ในใจของจ้าวอู่ฉีกลับเหมือนมีพายุโหมกระหน่ำ ร่างสูงเดินไปเดินมาหน้าห้องคลอดไม่หยุด เสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหินดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ทว่าในหัวกลับวุ่นวายเสียจนแทบฟังเสียงตนเองไม่ได้ เขาเงยหน้ามองประตูที่ปิดสนิท ใจจดจ่อกับเสียงที่เล็ดลอดออกมาเป็นระยะ ๆ“ท่านอ๋องโปรดวางใจ กระหม่อมเชื่อว่าชายารองจะต้องปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ” เยียนชิงเอ่ยปลอบเจ้านายของตนขณะยืนรออยู่ไม่ห่าง จ้าวอู่ฉีเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อย ทว่าแววตายังคงจับจ้องไปยังประตูด้วยความร้อนใจเสียงร้องเบา ๆ ของทารกดังลอดออกมาในที่สุด บรรยากาศที่เงียบงันเมื่อครู่พลันถูกทำลาย จ้าวอู่ฉีหยุดเดินในทันใด เขาขยับเข้าไปใกล้ประตูด้วยความตื่นเต้น เสียงของหมอตำแยดังแว่วออกมา“เป็นเด็กผู้หญิงเพคะ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก”ร่างสูงถอนหายใจออกมายาว ๆ ราวกับปลดปล่อยความกังวลที่กักเก็บไว้ก่อนหน้านี้ เขาหันมองเยียนชิงที่ยกยิ้มเล็กน้อยให้“ข้าจะเข้าไป”กลิ่นสมุนไพรและกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากห้องคลอดโชยออกมา จ้าวอู่ฉีก้าวเท้าเข้าไปด้วยท่าทีสุขุม ทว่าดวงตากลับเผยความอ่อนโยนที่หาได้ยาก มองซูเยี่ยนเอนตัวพิงหมอนอย

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๕ ลาจาก

    ตอนที่ ๒๕ ลาจากในพระราชวังหลวง หลังการปราบปรามกบฏที่เมืองหลวงสำเร็จลง จ้าวอู่ฉีและหลี่ตงจวินในชุดแม่ทัพเต็มยศเดินเข้าสู่ท้องพระโรง ใบหน้าของทั้งสองยังคงแสดงถึงความเหนื่อยล้าจากการศึกที่เพิ่งสิ้นสุด“กระหม่อมจ้าวอู่ฉีและหลี่ตงจวินน้อมถวายบังคมฝ่าบาท” ทั้งสองคุกเข่าลงพร้อมกัน ขณะที่ฮ่องเต้หลี่เซียวเหอทรงประทับบนบัลลังก์ทอง ดวงเนตรคมจับจ้องไปยังสองผู้ภักดี“ลุกขึ้นเถิด” สุรเสียงทรงพลังเอ่ยสั่ง แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่น “การศึกครั้งนี้จบลงแล้วหรือไม่?”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” หลี่ตงจวินรายงานพลางก้าวออกมาก้าวหนึ่ง “หลี่ชิงเจี๋ยและผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดถูกจับกุมแล้ว พร้อมหลักฐานที่พบระหว่างการปราบปราม”ฮ่องเต้พยักพระพักตร์เล็กน้อย ก่อนจะหันไปยังจ้าวอู่ฉี “แล้วผู้ที่เหลือเล่า?”“ฝ่าบาท กบฏที่เหลืออยู่ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น ไม่มีหลงเหลือที่จะก่อความวุ่นวายได้อีก” จ้าวอู่ฉีกล่าวเสียงเรียบแต่หนักแน่น “กระหม่อมได้ส่งตัวจางเหม่ยอิงให้คุกหลวงเพื่อใช้เป็นพยานตามพระบัญชา และได้ส่งมอบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายสินบนของกบฏแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หลี่เซียวเหอทรงนิ่งไปครู่หนึ่ง พระเนตรทอดมองไปยังทั

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๔ กลับคืน

    ตอนที่ ๒๔ กลับคืนในเช้าวันต่อมาหลังจากการสอบสวนที่คุกหลวง จ้าวอู่ฉีเร่งมุ่งหน้าไปยังพระราชวังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาก้าวเท้าผ่านประตูวังหลวงอันยิ่งใหญ่ ขันทีในพระราชวังนำทางเขาไปยังพระตำหนักที่เงียบสงบที่ห้องด้านใน หลี่เซียวเหอกำลังตรวจฎีกา หยวนกงกงเข้ามารายงานว่าจ้าวอู่ฉีมาขอเข้าเฝ้า เขาจึงพยักหน้าอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามา“ถวายบังคมฝ่าบาท” จ้าวอู่ฉีคุกเข่าลงเบื้องหน้าบัลลังก์ทอง เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ลุกขึ้นเถิด เจี้ยนอ๋อง” หลี่เซียวเหอเอ่ยโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากฎีกาในพระหัตถ์จ้าวอู่ฉียืนขึ้นอย่างนอบน้อม ก่อนจะรายงานถึงความคืบหน้าของการสอบสวน “กระหม่อมได้นำตัวจางเหม่ยอิงและเว่ยจงเข้าสอบสวนเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ แม้ได้ข้อมูลบางส่วน แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่กระจ่าง หากกระหม่อมขอพระบรมราชานุญาตให้เพิ่มแรงกดดันเพื่อขยายผล”หลี่เซียวเหอเงยพระพักตร์ขึ้น สายพระเนตรคมกริบจ้องตรงมาที่เขา “เจ้าคิดว่ายังมีใครอยู่เบื้องหลังอีกหรือ”“กระหม่อมเชื่อว่ามีพ่ะย่ะค่ะ หลันซิงเฉินไม่อาจทำเรื่องใหญ่เช่นนี้เพียงลำพังได้”“ดี เช่นนั้นข้าจะให้ราชองครักษ์เสื้อแพรเพิ่มกำลังสนับสนุนเจ้าสำหรับเรื่องนี้”“ข

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๓ ลอบโจมตี

    ตอนที่ ๒๓ ลอบโจมตีทางด้านหลี่ตงจวินหลังจากมื้ออาหารค่ำเสร็จสิ้น เขาเอ่ยชวนไป๋ซือเฟิงไปเดินเล่นในลานสวนด้านหลังเรือนใหญ่ แสงจันทร์ส่องกระทบใบหน้าเรียวของไป๋ซือเฟิงที่เต็มไปด้วยความสงบนิ่ง แต่ฝีเท้าของเขากลับเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด หลี่ตงจวินชะลอฝีเท้าตาม สายตามองหน้าท้องที่นูนใหญ่ของอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง“เดินไหวหรือไม่” หลี่ตงจวินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไหวขอรับ ข้าเพียงแค่...แปลกใจ ทำไมที่นี่ถึงได้ใหญ่โตนัก” เขาเงยหน้ามองไปรอบ ๆ ลานสวนที่ตกแต่งอย่างประณีต มีต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายหลี่ตงจวินหยุดเดินก่อนจะหันมามองไป๋ซือเฟิงด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย “ความจริง...ข้าไม่ได้บอกเจ้าทั้งหมด ข้าขอโทษที่ต้องโกหก”“ท่านหมายความว่าอย่างไร” ไป๋ซือเฟิงชะงักเท้า สายตาจับจ้องหลี่ตงจวิน“ข้าไม่ใช่เพียงชาวบ้านธรรมดาอย่างที่เคยบอกเจ้า” หลี่ตงจวินสูดลมหายใจลึก ก่อนจะกล่าวต่อ “ข้าชื่อหลี่ตงจวิน ข้าเป็นชินอ๋อง”ไป๋ซือเฟิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “เช่นนั้นเอง คิดไว้แล้วว่าท่านต้องไม่ธรรมดา กระหม่อมเสียมารยาทกับท่านแล้ว”“ไม่ต้องมากพิธี เจ้าไม่โกรธข้าก็ดีแล้ว เจ้ารู้เมื่อไรหรือ”

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๒ แสงจันทร์รำไร

    ตอนที่ ๒๒ แสงจันทร์รำไรกลางดึกยามฟ้ามืดสนิท จ้าวอู่ฉีลืมตาตื่นขึ้นมาในกระโจมที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงลมพัดผ่าน เขารู้สึกอึดอัดจากความคิดมากมายที่วนเวียนอยู่ในหัว จึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อสงบจิตใจหมู่ดาวส่องประกายเหนือท้องฟ้า แต่ใจของเขากลับหนักอึ้ง เสียงใบไม้เสียดสีกันในความมืดช่างเงียบงันราวกับปิดบังบางสิ่ง จ้าวอู่ฉีเดินเรื่อยเปื่อยไปยังแนวป่าริมค่าย ทว่าก้าวเท้าไปไม่กี่ก้าว เขาก็ต้องหยุดชะงักร่างในชุดเรียบง่ายของชายคนหนึ่งปรากฏอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เส้นผมยาวสยายพลิ้วไหวในสายลม เมื่อเดินไปมองใกล้ ๆ จ้าวอู่ฉีแทบจะหยุดหายใจ ดวงตาของเขาเบิกโพลง“ซูเยี่ยน...” เสียงเรียกนั้นหลุดออกมาโดยไม่ทันคิดบุรุษผู้นั้นหันมาพลางยกมือลูบหน้าท้องของตนเอง แววตาที่มองกลับมานั้นเต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความระแวงทว่าจ้าวอู่ฉีไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายหนีไป เขาพุ่งเข้าไปหาพร้อมกับโอบกอดร่างนั้นไว้แน่น ความอบอุ่นจากอ้อมกอดทำให้เขาแทบจะหลั่งน้ำตาออกมา “ซูเยี่ยน... เจ้ากลับมาแล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าต้องรอด ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่จากไป...”“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!” เสียงตะโกนของอีกฝ่ายดังขึ้น เขาพย

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๑ ภรรยาข้า

    ตอนที่ ๒๑ ภรรยาข้าไป๋หลี่จวินซึ่งได้รับคำสั่งให้สืบสวนความเคลื่อนไหวในเหลียวหนิง เดินทางมาถึงท่าเรือตระกูลหม่าในยามสาย ท่ามกลางความคึกคักของพ่อค้าและคนงานที่ขนส่งสินค้า ไม่มีใครทันสังเกตว่ามีคนผู้หนึ่งเฝ้ามองด้วยสายตาเฉียบคม“ข่าวว่าตระกูลหม่าเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนสินค้าต้องห้าม เจ้าแน่ใจหรือ” ไป๋หลี่จวินถามคนสนิท ขณะยืนมองกิจกรรมที่เกิดขึ้น“ขอรับนายท่าน ข้าได้รับรายงานจากหน่วยสืบข่าวลับ ว่า ตระกูลหม่านอกจากจะทำการค้าถูกต้อง ยังใช้ท่าเรือนี้เพื่อส่งสินค้าที่มิได้แจ้งแก่ทางการอีกด้วย”ไป๋หลี่จวินพยักหน้าเล็กน้อย “เช่นนั้น เจ้านำกำลังบางส่วนล้อมทางออกท่าเรือไว้ อย่าให้มีผู้ใดหลบหนีได้ ข้าจะเข้าไปดูด้วยตนเอง”เมื่อเดินเข้าไปยังท่าเรือ ไป๋หลี่จวินแสร้งทำทีเป็นพ่อค้าผู้หนึ่งปะปนไปกับฝูงชน ทว่าดวงตาของเขากลับมองไปยังหมู่ตึกที่ตั้งอยู่ด้านใน“นายท่าน นั่นคือที่เก็บของของตระกูลหม่าขอรับ” คนสนิทกระซิบเบา ๆไป๋หลี่จวินพยักหน้า เขาก้าวเข้าไปใกล้หมู่ตึกโดยมิได้แสดงตน ทันใดนั้น เขาก็เห็นชายสองคนกำลังลากเกวียนบรรทุกหีบไม้ขนาดใหญ่ที่ปิดผนึกแน่นหนา“หยุด!” เสียงของไป๋หลี่จวินดังขึ้น ทำให้ชายทั้งส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status