Home / วาย / [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ / ตอนที่ ๖ เลื่อนขั้น

Share

ตอนที่ ๖ เลื่อนขั้น

last update Last Updated: 2025-12-09 18:40:21

ตอนที่ ๖ เลื่อนขั้น

ซูเยี่ยนทอดสายตามองบุตรชายตัวน้อยในอ้อมแขน ใบหน้าอ่อนโยนที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ยังคงแฝงร่องรอยของความอ่อนล้าจากการคลอดเมื่อเช้า เขาจำได้เพียงความเจ็บปวดที่แล่นริ้วและภาพเลือนรางของน้ำคร่ำที่ไหลออกมา ก่อนที่สติจะเลือนรางไปในความทรมาน ทว่าบัดนี้ เมื่อได้เห็นทารกตัวน้อยที่หลับใหลในอ้อมแขน ความเจ็บปวดเหล่านั้นกลับมลายในบัดดล

“เจ้าก้อนของแม่น่าชังยิ่งนัก...” ซูเยี่ยนพึมพำ น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความรักและอ่อนโยน เขาก้มลงบรรจงจูบกระหม่อมเล็ก ๆ ของบุตรชายด้วยความรักใคร่ ดวงตาที่คลอด้วยหยาดน้ำตาฉายแววเศร้าลึก ๆ

‘จงอดทน...เพื่อลูกของเจ้า’ ซูเยี่ยนบอกกับตนเองในใจ ความอ่อนล้าและความสิ้นหวังที่เกาะกินหัวใจค่อย ๆ ถูกกลบด้วยความรักที่เขามีให้ชีวิตน้อย ๆ ในอ้อมแขน

“ซูอิ้งซื่อเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ เจ็บมากหรือไม่?” เสียงของสวี่เฟิงดังขึ้นเรียกสติของเขากลับมา

“ข้าไม่เป็นไร” ซูเยี่ยนเอ่ยตอบเสียงแผ่ว

“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ นี่เป็นหน้าที่ของกระหม่อม” สวี่เฟิงตอบอย่างนอบน้อม แต่ดวงตาที่เหลือบมองนายเหนือหัวกลับแฝงความลังเล ราวกับมีบางอย่างต้องการจะกล่าว

ซูเยี่ยนมองท่าทีของสวี่เฟิงอย่างจับสังเกต

“เจ้ามีอะไรอีกหรือไม่”

สวี่เฟิงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะก้มศีรษะต่ำ

“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ...หากแต่กระหม่อมส่งข่าวไปหาท่านอ๋องแล้ว”

คำพูดนั้นทำให้หัวใจของซูเยี่ยนสะดุดไปชั่วขณะ ก่อนเขาจะพยักหน้าเบา ๆ

“ขอบใจ...เจ้าจะไปทำอะไรก็ไปเถิด”

“กระหม่อมจะไปเตรียมน้ำแกงให้นะพ่ะย่ะค่ะ” สวี่เฟิงกล่าวพร้อมค้อมศีรษะ จากนั้นก็เดินออกไปอย่างนอบน้อม

เมื่อความเงียบเข้ามาแทนที่อีกครั้ง ซูเยี่ยนพลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ริมฝีปากเม้มแน่นขณะมองใบหน้าของบุตรชายในอ้อมแขน ความคิดเดิม ๆ วนเวียนในหัว เขาไม่อยากให้จ้าวอู่ฉีรับรู้เรื่องราวของตนเองมากไปกว่านี้ รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้แต่อย่างน้อยแค่ชั่วขณะหนึ่งก็ยังดี เพราะเขากลัวว่าคนผู้นั้นจะมาชิงตัวลูกไป

หยาดน้ำตาไหลรินจากหางตา แล้วร่วงลงบนแก้มอย่างเงียบงัน ภาพของจ้าวอู่ฉีผุดขึ้นในใจ รอยยิ้มที่เคยมีให้เขานั้นเลือนหาย ยามนี้เหลือเพียงดวงตาแสนเย็นชา

หลายเดือนผ่านไป จ้าวอู่ฉีกลับมาจากศึกนอกด่านที่ยืดเยื้อยาวนาน ร่างสูงในชุดเกราะเกรอะกรังก้าวไปยังห้องหนังสือทันที หลังประตูปิดลง เขาถอดหน้ากากออก ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมรอบตัว ชายหนุ่มนั่งลงที่โต๊ะราวกับจมอยู่ในห้วงความคิด

“ท่านอ๋อง” เสียงของเยียนชิงบ่าวคนสนิทดังขึ้น ทำลายความเงียบในห้องหนังสือ จ้าวอู่ฉีลืมตาขึ้น สายตาคมกริบหันไปมองบ่าวของตน

“ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม น้ำเสียงนิ่งเรียบแต่แฝงความเคร่งขรึม

“พ่ะย่ะค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี...” เยียนชิงตอบ ก่อนจะชะงักเล็กน้อย ราวกับลังเลที่จะกล่าวต่อ

“มีเรื่องอะไร?” จ้าวอู่ฉีถามขึ้นทันที

เยียนชิงสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ซูอิ้งซื่อคลอดบุตรแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ดวงตาคมของจ้าวอู่ฉีเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกลับมานิ่งสงบ

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้เหตุใดถึงไม่มีใครบอกข้า?” น้ำเสียงของเขาแข็งขึ้นเล็กน้อย แฝงความไม่พอใจ

“ขออภัยท่านอ๋อง หากแต่จางหวางเฟยสั่งไว้ว่าจะแจ้งกับท่านเองพ่ะย่ะค่ะ” เยียนชิงกล่าวอย่างนอบน้อม ดวงตาหลุบต่ำ

จ้าวอู่ฉีแค่นหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เปื้อนความเหนื่อยล้าจากศึกยาวนาน

“มีเรื่องอะไรอีกหรือไม่?”

เยียนชิงไม่ได้ตอบในทันที หากแต่ก้าวไปหยิบซองจดหมายบางอย่างที่เตรียมไว้ ก่อนยื่นส่งให้เจ้านาย มือแกร่งรับซองนั้นมาอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะจัดการฉีกเปิดและกวาดสายตาอ่านเนื้อความด้านใน

ใบหน้าของจ้าวอู่ฉียังคงนิ่งเฉยตลอดการอ่าน แต่เมื่ออ่านจบตัวอักษรสุดท้าย เขาก็ขยำกระดาษแผ่นนั้นทิ้งอย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะโยนลงในตะเกียง เปลวเพลิงเผาไหม้จดหมายจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

“วันพรุ่งนี้เจ้าจงถ่ายทอดประกาศจากข้า ให้เลื่อนขั้นเยี่ยนเอ๋อร์เป็นหรูเหริน4” เสียงของจ้าวอู่ฉีเย็นเยียบ

“พ่ะย่ะค่ะ” เยียนชิงตอบรับโดยไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง

“อีกสองวันข้าจะเข้าเมืองหลวงเข้าเฝ้าฝ่าบาทด้วยตัวเอง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

จ้าวอู่ฉีปรายตามองเยียนชิงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยคำสุดท้าย “ออกไปได้แล้ว”

สิ้นคำสั่งเยียนชิงก้มศีรษะคารวะอย่างนอบน้อม ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องหนังสือ ประตูไม้บานหนักปิดลงอย่างเงียบงัน ทิ้งจ้าวอู่ฉีให้อยู่เพียงลำพังอีกครั้ง สายตาคู่คมทอดมองไปยังตะเกียงไฟที่ยังมีเปลวเพลิงไหววูบ มือข้างหนึ่งกำแน่นราวกับความคิดมากมายกำลังถาโถมอยู่ในใจ...

………………

เสียงเอะอะโครมครามดังขึ้นภายในเรือนไป๋หลาน หลังจากที่เยียนชิงมารายงานเรื่องการเลื่อนขั้นซูเยี่ยนเป็นหรูเหริน จางเหม่ยอิงถึงกับโกรธเกรี้ยวในทันที นางทำร้ายข้าวของที่อยู่ภายในเสียจนเละเทะ ไม่เว้นแม้แต่แจกันราคาแพงที่ได้เป็นของกำนัล

“ซูเยี่ยน ข้าเกลียดเจ้ายิ่งนัก เจ้าต้องทำอะไรใส่จ้าวอู่ฉีเป็นแน่ ไอ้เกอจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นต้องใช้เสน่ห์ยั่วยวนจนจ้าวอู่ฉีไม่สนใจไยดีข้า ไม่คิดเหลียวแลข้าสักนิด...จ้าวอู่ฉีก็ช่างกระไร มันเอาแต่เดินเชิดหน้า แต่กลับเลื่อนขั้นให้มัน”

จางเหม่ยอิงพูดจาหยาบคายเพราะอารมณ์โกรธและน้อยใจประดังประเด

“โปรดระงับโทสะก่อนเพคะพระชายา หากท่านอ๋องรู้เข้าจะต้องโกรธเข้าเป็นแน่”

“ช่างคนอัปลักษณ์ผู้นั้นไปสิ จ้าวอู่ฉีไม่เคยเห็นข้าอยู่ในสายตาอยู่แล้ว เหตุใดข้าจะต้องสนใจด้วยเล่า”

จางเหม่ยอิงยังคงเกรี้ยวกราดเช่นเดิม

“อย่างนั้นหรือจางเหม่ยอิง!!!” เสียงของจ้าวอู่ฉีดังขึ้นโดยที่จางเหม่ยอิงไม่ทันได้ตั้งตัว นั่นจึงทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง

“ทะ...ท่านอ๋อง...” แม้ว่าจะเกรงกลัวแต่ความโกรธกลับมีมากกว่า นั่นจึงทำให้จางเหม่ยอิงกล่าวออกไปก่อนจะเชิดหน้าขึ้น

“ใช่เพคะ”

“เช่นนั้นเจ้าจะทำเช่นไรกัน ไม่พอใจหรือแล้วอย่างไรล่ะ” จ้าวอู่ฉีกล่าวอย่างไม่ยินดียินร้าย แล้วจึงนั่งลงจิบชาอย่างไม่ยี่หระเท่าไรนัก

“ท่านอ๋องเคยเห็นข้าอยู่ในสายตาบ้างหรือไม่...ตั้งแต่ท่านแต่งข้าเข้าจวน ท่านไม่แม้แต่จะย่างกรายเข้ามาหาข้าเลยสักครั้ง แถมท่านยังทูลขอพระราชทานสมรสซูเยี่ยนผู้นั้นอีก...ท่านร่วมหอกับมัน แต่ไม่สนใจข้าเลยสักนิด ทั้ง ๆ ที่ข้าส่งคนไปเชิญท่านหลายครา...เหตุใดกันเล่า ท่านบอกข้าทีว่าเพราะเหตุใดเพคะ” จางเหม่ยอิงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่น่าฟัง ทั้งยังแสดงกิริยาไม่น่ามอง ใบหน้างดงามแสร้งบีบน้ำตาเพื่อหวังให้จ้าวอู่ฉีเห็นใจ

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า จางเหม่ยอิง เจ้าได้อยู่สุขสบายในฐานะพระชายาเอกไม่ใช่สิ่งที่เจ้ากับบิดาปรารถนาหรอกหรือ หากการที่ข้าแต่งตั้งซูเยี่ยนเป็นชายารองจะทำให้เจ้าหยาบคายเช่นนี้ เจ้าก็ช่างหมิ่นเกียรติข้ายิ่งนัก”

จ้าวอู่ฉีกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ทว่าสายตาจ้องจางเหม่ยอิงราวกับจะฉีกออกเป็นชิ้น ๆ

“ที่หม่อมฉันทำไปเพราะรักท่านมากนะเพคะ โปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ”

เมื่อคิดได้ว่าเผลอทำผิดไป นางจึงอ่อนลงในทันที กายบางเดินเข้ามาใกล้หลังจากที่ยอบตัวสำนึกผิด

“ดี...หากเจ้ารักข้านักก็จงทำตามหน้าที่ของเจ้า อีก ๗ วันนับจากนี้จะต้องจัดการเลื่อนขั้นให้ซูอิ้งซื่อ” จ้าวอู่ฉีก็ยังยืนยันเช่นเดิม เขาไม่ได้เห็นใจชายาเอกของตนเลยสักนิด

“ท่านอ๋อง…ท่านอ๋อง” จางเหม่ยอิงร้องเรียกขณะทรุดตัวลงกับพื้น ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวเพราะอารมณ์โกรธ แต่พอเห็นว่าจ้าวอู่ฉีออกไปแล้ว จึงลุกขึ้นมองด้วยสายตาเคียดแค้น

“ไอ้คนอัปลักษณ์ คอยดูเถิดว่าข้าจะเอาคืนเจ้าอย่างไร”

หลังจากก้าวเดินออกจากเรือนไป๋หลาน จ้าวอู่ฉีก็มุ่งตรงไปยังเรือนหลันฮวาทันที ร่างสูงหยุดอยู่ที่หน้าบานประตูหลังจากที่ไล่บ่าวรับใช้ออกไปให้พ้นทาง เขายืนฟังเสียงหวานของซูเยี่ยนที่กำลังขับกล่อม มุมปากจ้าวอู่ฉียกยิ้มบาง ๆ เมื่อคิดได้ว่าจะดีเพียงใดถ้าหากมารดาของบุตรชายจะลดทิฐิลง

เมื่อเห็นว่าเสียงซูเยี่ยนเงียบลงแล้วเขาจึงเปิดประตูเข้าไป จ้าวอู่ฉีกวาดสายตาไปทั่ว ก่อนจะพบว่าคนรักกำลังลุกขึ้นจากเตียง

“ซูเยี่ยนคารวะท่านอ๋อง” เขาลุกขึ้นกล่าวอย่างนอบน้อม

“ตามสบายเถิด...เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

“กระหม่อมสบายดี”

“อย่างนี้ก็ดีแล้ว บุตรชายของข้าเล่า”

“หลับแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หลังจากที่ซูเยี่ยนกล่าวจบ จ้าวอู่ฉีจึงเดินเข้าไปหา เขาดึงชายหนุ่มไปนั่งที่เตียง มือข้างหนึ่งก็โอบลาดไหล่แล้วไถ่ถาม

“จางเหม่ยอิงไม่ได้จัดเรือนให้ลูกข้าหรือ”

“....”

“เอาเถิด ข้าจะให้ชินเอ๋อร์จัดการ”

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” ซูเยี่ยนตอบราบเรียบ

“เหนื่อยมากหรือไม่”

“ไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่มีอะไรจะถามข้าบ้างเลยหรือ”

“ไม่มี” ซูเยี่ยนถามคำตอบคำหาได้ขัดขืน เขาปล่อยให้จ้าวอู่ฉีโอบกอด จับมือถือแขนตามใจ เพราะเหนื่อยเกินกว่าจะห้ามปราม

“เจ้านี่ช่างกระไร...ไม่คิดถึงข้าบางเลยสักครา” จ้าวอู่ฉีเลื่อนมือขึ้นไปจับใบหน้าหวานให้หันมามอง

“ขออภัยท่านอ๋อง” ซูเยี่ยนไม่อาจทนสบตา จึงเสหน้าออกไปอีกด้านเสีย

“เจ้าจำได้หรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ปรนนิบัติข้ามานานเท่าใดแล้ว” จ้าวอู่ฉีพูดเสียงกระซิบ แนบชิดแก้มนวลขณะใช้ปลายจมูกคลอเคลีย

“กระหม่อมจำได้ดี” ซูเยี่ยนกล่าวเพียงสั้น ๆ แล้วจึงลุกขึ้น ใช้มือปลดอาภรณ์ออกช้า ๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย

จ้าวอู่ฉีมองอย่างขัดใจในความเย็นชาของซูเยี่ยน หากเพราะความอยากรู้กลับมีมากกว่าว่าคนตรงหน้าจะทำอย่างไร จึงได้แต่นั่งมองดูซูเยี่ยนถอดตั้งแต่เสื้อคลุมตัวยาวสีขาวสะอาด ไปจนถึงปราการชิ้นสุดท้าย ร่างกายเปลือยเปล่าเดินเข้ามาหา พร้อมกับผลักร่างของจ้าวอู่ฉีนอนลง

“หึ” ท่านอ๋องแสยะยิ้มบางเบา ขณะมองซูเยี่ยนของตนขยับร่างบางขึ้นมาทาบทับ

ซูเยี่ยนมองสบตา ๆ ก่อนจะก้มลงใช้ริมฝีปากบางแตะบนริมฝีปากของจ้าวอู่ฉีเบา ๆ สองแขนแกร่งจึงโอบรัดคนด้านบนไว้ในอ้อมแขน

“พอเถิดซูเยี่ยน” กล่าวแนบชิดเสียจนริมฝีปากเฉียดกัน

“ไม่ถูกใจท่านหรือ” ซูเยี่ยนเอ่ยถาม ทว่ายังคงทำหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แต่ข้าไม่อยากฝืนใจเจ้า”

“การอุ่นเตียงเป็นหน้าที่ของกระหม่อม” เขาตอบอย่างไร้ความรู้สึก พลางสบตาจ้าวอู่ฉีอย่างไม่หลบเลี่ยง

“ข้าจะทำเช่นไรกับเจ้าดีนะเยี่ยนเอ๋อร์” กล่าวอย่างแผ่วเบาขณะมองสบตาถ่ายทอดความรู้สึก

“ท่านไม่ต้องทำ แค่ปล่อยข้าไปก็พอ” ซูเยี่ยนกล่าวออกมาด้วยสายตาว่างเปล่า

“ไม่ได้ ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้”

“ข้าทรมานเหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่าหลับหรือตื่นก็ไม่อยากมีลมหายใจเลยแม้แต่น้อย” ซูเยี่ยนกล่าวออกมาด้วยความบอบช้ำที่อัดอั้นสะสมแรมปี

“....” จ้าวอู่ฉีมองใบหน้าเจ็บปวด เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เงียบไป

“ท่านพี่ โปรดเมตตาเถิด” ซูเยี่ยนกล่าวออกมาพร้อมกับหยาดน้ำตา ขอร้องอย่างจำนน นั่นจึงทำให้จ้าวอู่ฉีชะงักงัน

ภายในเรือนตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่ว ๆ และก้อนสะอื้นจากเจ้าของเรือน จ้าวอู่ฉีมองสบตา มือข้างหนึ่งจับใบหน้าอย่างอ่อนโยน

“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้ารู้สึกเช่นนั้น” เขาเอ่ยเสียงนุ่มปลอบโยน มองใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาด้วยความรู้สึกผิดเกาะกินใจ “หยุดร้องเถิดคนดี”

กล่าวจบจ้าวอู่ฉีจึงพลิกร่างอีกฝ่ายลงด้านล่าง ก่อนตนเองจะเป็นฝ่ายทาบทับ มือแกร่งเช็ดน้ำตาให้แผ่วเบา “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่อีกไม่นานข้ามีบางอย่างจะบอกกับเจ้า”

“ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดท่านถึงบอกให้ข้าอดทน” ซูเยี่ยนเอ่ยถามทั้งน้ำตา

“วางทิฐิที่มีต่อข้า ลงแล้วเจ้าจะมองเห็น... ลองใช้หัวใจของเจ้า”

ซูเยี่ยนนิ่งงัน เขาหยุดร้องในที่สุด ดวงตากลมที่ยังคงมีคราบน้ำตาเงยขึ้นมองผู้พูด จ้าวอู่ฉียิ้มหวานละมุน แล้วจึงเคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาไปจูบบริเวณหน้าผากขาว ไล่ลงมาที่เปลือกตาทั้งสองข้าง ไม่เว้นแม้แต่ปลายจมูกโด่งรั้น ก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปากบาง

หรูเหริน4 ตำแหน่งพระชายารองของอ๋อง เป็นรองแค่หวางเฟย สามารถแต่งตั้งได้สองคน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๖ เคียงกันนับจากนี้

    ตอนที่ ๒๖ เคียงกันนับจากนี้ยามค่ำคืนในจวนอ๋องเงียบสงัด แต่ในใจของจ้าวอู่ฉีกลับเหมือนมีพายุโหมกระหน่ำ ร่างสูงเดินไปเดินมาหน้าห้องคลอดไม่หยุด เสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหินดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ทว่าในหัวกลับวุ่นวายเสียจนแทบฟังเสียงตนเองไม่ได้ เขาเงยหน้ามองประตูที่ปิดสนิท ใจจดจ่อกับเสียงที่เล็ดลอดออกมาเป็นระยะ ๆ“ท่านอ๋องโปรดวางใจ กระหม่อมเชื่อว่าชายารองจะต้องปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ” เยียนชิงเอ่ยปลอบเจ้านายของตนขณะยืนรออยู่ไม่ห่าง จ้าวอู่ฉีเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อย ทว่าแววตายังคงจับจ้องไปยังประตูด้วยความร้อนใจเสียงร้องเบา ๆ ของทารกดังลอดออกมาในที่สุด บรรยากาศที่เงียบงันเมื่อครู่พลันถูกทำลาย จ้าวอู่ฉีหยุดเดินในทันใด เขาขยับเข้าไปใกล้ประตูด้วยความตื่นเต้น เสียงของหมอตำแยดังแว่วออกมา“เป็นเด็กผู้หญิงเพคะ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก”ร่างสูงถอนหายใจออกมายาว ๆ ราวกับปลดปล่อยความกังวลที่กักเก็บไว้ก่อนหน้านี้ เขาหันมองเยียนชิงที่ยกยิ้มเล็กน้อยให้“ข้าจะเข้าไป”กลิ่นสมุนไพรและกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากห้องคลอดโชยออกมา จ้าวอู่ฉีก้าวเท้าเข้าไปด้วยท่าทีสุขุม ทว่าดวงตากลับเผยความอ่อนโยนที่หาได้ยาก มองซูเยี่ยนเอนตัวพิงหมอนอย

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๕ ลาจาก

    ตอนที่ ๒๕ ลาจากในพระราชวังหลวง หลังการปราบปรามกบฏที่เมืองหลวงสำเร็จลง จ้าวอู่ฉีและหลี่ตงจวินในชุดแม่ทัพเต็มยศเดินเข้าสู่ท้องพระโรง ใบหน้าของทั้งสองยังคงแสดงถึงความเหนื่อยล้าจากการศึกที่เพิ่งสิ้นสุด“กระหม่อมจ้าวอู่ฉีและหลี่ตงจวินน้อมถวายบังคมฝ่าบาท” ทั้งสองคุกเข่าลงพร้อมกัน ขณะที่ฮ่องเต้หลี่เซียวเหอทรงประทับบนบัลลังก์ทอง ดวงเนตรคมจับจ้องไปยังสองผู้ภักดี“ลุกขึ้นเถิด” สุรเสียงทรงพลังเอ่ยสั่ง แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่น “การศึกครั้งนี้จบลงแล้วหรือไม่?”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” หลี่ตงจวินรายงานพลางก้าวออกมาก้าวหนึ่ง “หลี่ชิงเจี๋ยและผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดถูกจับกุมแล้ว พร้อมหลักฐานที่พบระหว่างการปราบปราม”ฮ่องเต้พยักพระพักตร์เล็กน้อย ก่อนจะหันไปยังจ้าวอู่ฉี “แล้วผู้ที่เหลือเล่า?”“ฝ่าบาท กบฏที่เหลืออยู่ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น ไม่มีหลงเหลือที่จะก่อความวุ่นวายได้อีก” จ้าวอู่ฉีกล่าวเสียงเรียบแต่หนักแน่น “กระหม่อมได้ส่งตัวจางเหม่ยอิงให้คุกหลวงเพื่อใช้เป็นพยานตามพระบัญชา และได้ส่งมอบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายสินบนของกบฏแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หลี่เซียวเหอทรงนิ่งไปครู่หนึ่ง พระเนตรทอดมองไปยังทั

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๔ กลับคืน

    ตอนที่ ๒๔ กลับคืนในเช้าวันต่อมาหลังจากการสอบสวนที่คุกหลวง จ้าวอู่ฉีเร่งมุ่งหน้าไปยังพระราชวังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาก้าวเท้าผ่านประตูวังหลวงอันยิ่งใหญ่ ขันทีในพระราชวังนำทางเขาไปยังพระตำหนักที่เงียบสงบที่ห้องด้านใน หลี่เซียวเหอกำลังตรวจฎีกา หยวนกงกงเข้ามารายงานว่าจ้าวอู่ฉีมาขอเข้าเฝ้า เขาจึงพยักหน้าอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามา“ถวายบังคมฝ่าบาท” จ้าวอู่ฉีคุกเข่าลงเบื้องหน้าบัลลังก์ทอง เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ลุกขึ้นเถิด เจี้ยนอ๋อง” หลี่เซียวเหอเอ่ยโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากฎีกาในพระหัตถ์จ้าวอู่ฉียืนขึ้นอย่างนอบน้อม ก่อนจะรายงานถึงความคืบหน้าของการสอบสวน “กระหม่อมได้นำตัวจางเหม่ยอิงและเว่ยจงเข้าสอบสวนเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ แม้ได้ข้อมูลบางส่วน แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่กระจ่าง หากกระหม่อมขอพระบรมราชานุญาตให้เพิ่มแรงกดดันเพื่อขยายผล”หลี่เซียวเหอเงยพระพักตร์ขึ้น สายพระเนตรคมกริบจ้องตรงมาที่เขา “เจ้าคิดว่ายังมีใครอยู่เบื้องหลังอีกหรือ”“กระหม่อมเชื่อว่ามีพ่ะย่ะค่ะ หลันซิงเฉินไม่อาจทำเรื่องใหญ่เช่นนี้เพียงลำพังได้”“ดี เช่นนั้นข้าจะให้ราชองครักษ์เสื้อแพรเพิ่มกำลังสนับสนุนเจ้าสำหรับเรื่องนี้”“ข

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๓ ลอบโจมตี

    ตอนที่ ๒๓ ลอบโจมตีทางด้านหลี่ตงจวินหลังจากมื้ออาหารค่ำเสร็จสิ้น เขาเอ่ยชวนไป๋ซือเฟิงไปเดินเล่นในลานสวนด้านหลังเรือนใหญ่ แสงจันทร์ส่องกระทบใบหน้าเรียวของไป๋ซือเฟิงที่เต็มไปด้วยความสงบนิ่ง แต่ฝีเท้าของเขากลับเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด หลี่ตงจวินชะลอฝีเท้าตาม สายตามองหน้าท้องที่นูนใหญ่ของอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง“เดินไหวหรือไม่” หลี่ตงจวินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไหวขอรับ ข้าเพียงแค่...แปลกใจ ทำไมที่นี่ถึงได้ใหญ่โตนัก” เขาเงยหน้ามองไปรอบ ๆ ลานสวนที่ตกแต่งอย่างประณีต มีต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายหลี่ตงจวินหยุดเดินก่อนจะหันมามองไป๋ซือเฟิงด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย “ความจริง...ข้าไม่ได้บอกเจ้าทั้งหมด ข้าขอโทษที่ต้องโกหก”“ท่านหมายความว่าอย่างไร” ไป๋ซือเฟิงชะงักเท้า สายตาจับจ้องหลี่ตงจวิน“ข้าไม่ใช่เพียงชาวบ้านธรรมดาอย่างที่เคยบอกเจ้า” หลี่ตงจวินสูดลมหายใจลึก ก่อนจะกล่าวต่อ “ข้าชื่อหลี่ตงจวิน ข้าเป็นชินอ๋อง”ไป๋ซือเฟิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “เช่นนั้นเอง คิดไว้แล้วว่าท่านต้องไม่ธรรมดา กระหม่อมเสียมารยาทกับท่านแล้ว”“ไม่ต้องมากพิธี เจ้าไม่โกรธข้าก็ดีแล้ว เจ้ารู้เมื่อไรหรือ”

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๒ แสงจันทร์รำไร

    ตอนที่ ๒๒ แสงจันทร์รำไรกลางดึกยามฟ้ามืดสนิท จ้าวอู่ฉีลืมตาตื่นขึ้นมาในกระโจมที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงลมพัดผ่าน เขารู้สึกอึดอัดจากความคิดมากมายที่วนเวียนอยู่ในหัว จึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อสงบจิตใจหมู่ดาวส่องประกายเหนือท้องฟ้า แต่ใจของเขากลับหนักอึ้ง เสียงใบไม้เสียดสีกันในความมืดช่างเงียบงันราวกับปิดบังบางสิ่ง จ้าวอู่ฉีเดินเรื่อยเปื่อยไปยังแนวป่าริมค่าย ทว่าก้าวเท้าไปไม่กี่ก้าว เขาก็ต้องหยุดชะงักร่างในชุดเรียบง่ายของชายคนหนึ่งปรากฏอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เส้นผมยาวสยายพลิ้วไหวในสายลม เมื่อเดินไปมองใกล้ ๆ จ้าวอู่ฉีแทบจะหยุดหายใจ ดวงตาของเขาเบิกโพลง“ซูเยี่ยน...” เสียงเรียกนั้นหลุดออกมาโดยไม่ทันคิดบุรุษผู้นั้นหันมาพลางยกมือลูบหน้าท้องของตนเอง แววตาที่มองกลับมานั้นเต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความระแวงทว่าจ้าวอู่ฉีไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายหนีไป เขาพุ่งเข้าไปหาพร้อมกับโอบกอดร่างนั้นไว้แน่น ความอบอุ่นจากอ้อมกอดทำให้เขาแทบจะหลั่งน้ำตาออกมา “ซูเยี่ยน... เจ้ากลับมาแล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าต้องรอด ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่จากไป...”“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!” เสียงตะโกนของอีกฝ่ายดังขึ้น เขาพย

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๑ ภรรยาข้า

    ตอนที่ ๒๑ ภรรยาข้าไป๋หลี่จวินซึ่งได้รับคำสั่งให้สืบสวนความเคลื่อนไหวในเหลียวหนิง เดินทางมาถึงท่าเรือตระกูลหม่าในยามสาย ท่ามกลางความคึกคักของพ่อค้าและคนงานที่ขนส่งสินค้า ไม่มีใครทันสังเกตว่ามีคนผู้หนึ่งเฝ้ามองด้วยสายตาเฉียบคม“ข่าวว่าตระกูลหม่าเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนสินค้าต้องห้าม เจ้าแน่ใจหรือ” ไป๋หลี่จวินถามคนสนิท ขณะยืนมองกิจกรรมที่เกิดขึ้น“ขอรับนายท่าน ข้าได้รับรายงานจากหน่วยสืบข่าวลับ ว่า ตระกูลหม่านอกจากจะทำการค้าถูกต้อง ยังใช้ท่าเรือนี้เพื่อส่งสินค้าที่มิได้แจ้งแก่ทางการอีกด้วย”ไป๋หลี่จวินพยักหน้าเล็กน้อย “เช่นนั้น เจ้านำกำลังบางส่วนล้อมทางออกท่าเรือไว้ อย่าให้มีผู้ใดหลบหนีได้ ข้าจะเข้าไปดูด้วยตนเอง”เมื่อเดินเข้าไปยังท่าเรือ ไป๋หลี่จวินแสร้งทำทีเป็นพ่อค้าผู้หนึ่งปะปนไปกับฝูงชน ทว่าดวงตาของเขากลับมองไปยังหมู่ตึกที่ตั้งอยู่ด้านใน“นายท่าน นั่นคือที่เก็บของของตระกูลหม่าขอรับ” คนสนิทกระซิบเบา ๆไป๋หลี่จวินพยักหน้า เขาก้าวเข้าไปใกล้หมู่ตึกโดยมิได้แสดงตน ทันใดนั้น เขาก็เห็นชายสองคนกำลังลากเกวียนบรรทุกหีบไม้ขนาดใหญ่ที่ปิดผนึกแน่นหนา“หยุด!” เสียงของไป๋หลี่จวินดังขึ้น ทำให้ชายทั้งส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status