Home / วาย / [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ / ตอนที่ ๔ เสียงหวานจากเรือนไป๋หลาน

Share

ตอนที่ ๔ เสียงหวานจากเรือนไป๋หลาน

last update Last Updated: 2025-12-09 18:39:03

ตอนที่ ๔ เสียงหวานจากเรือนไป๋หลาน

เกี้ยวของซูเยี่ยนกลับมาถึงเรือนในที่สุด เขาก้าวออกมาช้า ๆ ด้วยความมาดมั่น เสียใจแต่กลับไม่มีน้ำตาสักหยด เพราะซูเยี่ยนผู้นี้บอกกับตัวเองไว้แล้วว่า หากท่านอ๋องอยากเห็นความอ่อนแอจากเขาเพื่อความสะใจ คนผู้นั้นก็จะไม่มีทางได้รับมัน

“ซูอิ้งซื่อ สำรับเสร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ขอบใจ”

คนตั้งครรภ์กินไปได้เพียงนิดก็เกิดอาการแน่นท้องขึ้นมาเสียแล้ว หากถามว่าทำไมช่างอิ่มง่ายดายนัก ซูเยี่ยนก็ตอบได้เพียงว่า ‘กินไม่ลง’

“ท่านกินน้ำแกงนี้เสียอีกหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ รากบัวชามนี้เป็นเครื่องบำรุงอย่างดี เป็นของล้ำค่าที่ท่านอ๋องสั่งให้ปรุงเพื่อท่าน”

“ข้าอิ่มแล้ว หากให้กินมากกว่านี้เกรงว่าจะอาเจียนออกมา”

“บ่าวแค่เป็นห่วง…เห็นพระชายารองกินน้อย มิได้มีเจตนาจะบังคับแต่อย่างใด โปรดอภัยให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้ารู้ เจ้าดูแลข้าอย่างดีเสมอมา ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าลำบากไปด้วย”

“อย่าพูดเช่นนั้นเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมยินดีปรนนิบัติท่านด้วยชีวิต…แต่ขอพูดอะไรบางอย่างได้หรือไม่ มีสิ่งหนึ่งที่ท่านน่าจะยังไม่รู้”

“เรื่องอะไรหรือ”

“ที่ท่านกล่าวเรื่องอนุนั้น บ่าวจึงอยากบอกความจริงว่าท่านอ๋องหาได้มีอนุท่านอื่นอีกพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าไม่ต้องทำถึงเช่นนี้หรอกสวี่เฟิง ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ เรื่องก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย”

“พ่ะย่ะค่ะ...เป็นกระหม่อมที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” เมื่อไม่อยากฟังสวี่เฟิงจึงไม่ขัดใจ

“เจ้าช่วยหยิบผ้าไหมกับเครื่องหอมให้ข้าที” ซูเยี่ยนไม่ชอบความอึดอัดเช่นนี้ เขาจึงถามหาเครื่องทำถุงหอมเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

“ได้พ่ะย่ะค่ะ แต่ท่านดื่มโอสถนี่เสียหน่อยเถิด”

“โอสถอะไรอย่างนั้นหรือ” หันไปถามพร้อมกับทำหน้าแปลกใจ

“ยาบำรุงครรภ์ของผู้ที่ใกล้คลอดพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องสั่งให้ต้มเพื่อท่าน”

“อย่างนั้นหรือ” กล่าวเพียงเท่านั้นแล้วจึงเอื้อมมือไปรับมากระดกรวดเดียวหมดถ้วย

“เหตุใดท่านผู้นั้นถึงได้วนเวียนรอบตัวยิ่งนัก ข้าชักสงสัยเสียแล้วสิว่าเจ้าเป็นบ่าวผู้ใดกันแน่”

“ขออภัยพระชายารอง บ่าวไม่อาจขัดคำสั่งท่านอ๋องได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ช่างเถอะ ข้าแค่สงสัย นอกจากท่านผู้นั้นจะเป็นเจ้าชีวิตของข้าแล้ว ยังเป็นเจ้าชีวิตของเจ้าด้วยหรือไม่ก็เท่านั้น....หากท่านอ๋องสั่งสิ่งใด เจ้าก็ทำตามเจตนาเขาเสียเถิด ข้าไม่เป็นไร”

“พระชายารอง….” สวี่เฟิงไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมาอีก เพราะเกรงว่าจะไปกระทบจิตใจของซูเยี่ยนเข้าจึงเงียบปากเสีย แล้วหันไปหยิบผ้าไหมสีเขียวอ่อนมาส่งให้แทน

“เจ้าจะไปทำอะไรก็ไปเถิด ข้าอยากอยู่ตามลำพัง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

หากนี่คือสิ่งที่สวรรค์กำหนด ข้าก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ปล่อยให้มันเป็นไปตามฟ้าลิขิตแล้วกัน

กลางดึกอันเงียบสงัด เสียงฝีเท้าค่อย ๆ เดินเข้ามาเหมือนเช่นเคย จ้าวอู่ฉีที่ไร้หน้ากากยืนมองซูเยี่ยนที่กำลังหลับใหลด้วยสายตาอ่อนโยน ร่างสูงเลิกผ้าห่มขึ้นแผ่วเบา ก่อนจะสอดตัวเข้าไปช้า ๆ ช่างน่าอายเสียจริง หากใครได้รู้คงขบขันเป็นแน่ เจี้ยนอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ต้องแอบย่องเข้ามาอิงแอบแนบชิดภรรยาของตนราวกับขโมย

มือแกร่งลูบไปที่หน้าท้องนูนเด่น ใช่ว่าอยากจะปล่อยปละละเลย หากแต่เมื่อปกติแล้วนั้น จะเข้าใกล้ซูเยี่ยนช่างยากเย็นเหลือเกิน จ้าวอู่ฉีพยายามหลีกเลี่ยงไม่ปะทะคารมกับซูเยี่ยน เพราะเกรงว่าจะกระทบถึงทารกในครรภ์

ท่านอ๋องส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่มีผ่านฝ่ามือ เผื่อสายใยจากพ่อจะส่งผลให้บุตรในท้องดลใจให้ซูเยี่ยนเลิกจงเกลียดจงชังตนเองเสียที

“อื้อ” เสียงหลุดลอดเบา ๆ จากคนหลับทำเอาจ้าวอู่ฉีชะงักมือ

“ท่านอ๋อง”

“ชู่...นอนเถิด ข้าไม่ได้จะกวนเจ้า” จ้าวอู่ฉีกล่าวเสียงนุ่มนวลขณะลูบหน้าท้องนูนเด่น ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาไปจูบที่ปานดอกหมู่ตานสีแดงเข้มตรงบริเวณหลังคอ ซึ่งเป็นปกติของเพศเกอ

“เยี่ยนเอ๋อร์ของข้า...ข้าทำผิดต่อเจ้ามากมายนัก สมควรแล้วที่เจ้าจะโกรธ แต่ข้าอยากให้เจ้าอดทน อีกไม่นานข้าจะบอกเจ้าทุกสิ่ง”

เสียงจ้าวอู่ฉีที่กำลังพูดออกมานั้นช่างนิ่มนวล คล้ายกับว่ากำลังขับกล่อมให้ซูเยี่ยนวางใจหลับใหลไปอีกครา น่าเสียดายแทนซูเยี่ยนยิ่งนัก เพราะหากรู้สึกตัวขึ้นมาสักนิด จะได้รู้ถึงความเอาใจใส่ของท่านอ๋องผู้เย็นชาที่กำลังมอบให้ตน

แต่จะว่าไปซูเยี่ยนผู้นี้ก็ดื้อดึงไม่น้อย เขาไม่วางทิฐิที่มีลงเสียบ้าง นั่นจึงทำให้ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความรักความเอาใส่ใจ อย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดได้รับมาก่อน แม้กระทั่งจางเหม่ยอิงเองก็ไม่เคยได้นอนกกกอดจ้าวอู่ฉีเช่นนี้

ยามเหม่า3จ้าวอู่ฉีขยับตัวช้า ๆ รุ่งเช้าช่างมาไวยิ่งนัก เขายังไม่อยากผละอ้อมกอดออกจากซูเยี่ยนเลยแม้แต่น้อย หากแต่ทำแบบนั้นไม่ได้ เป็นเพราะวันนี้เขาจะต้องไปทำภารกิจตามราชโองการ

“ข้าคงต้องไปก่อน อยู่ทางนี้ดูแลตัวเองให้ดี”

เสียงหอมแก้มนวลดังขึ้นฟอดใหญ่ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงอ่อนนุ่มกล่าวคำร่ำลา หากแต่ซูเยี่ยนยังคงหลับสนิท นั่นจึงทำให้ไม่ได้ยินถ้อยคำอ่อนโยน ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงแผ่วเบาแล้วคลุมผ้าให้อย่างอาทร

กินเวลาหลายวันกว่าแม่ทัพจ้าวอู่ฉีจะเดินทางมาถึงทิศตะวันออกแห่งแคว้นเป่ย พื้นที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสงครามและความตึงเครียด การศึกดำเนินไปอย่างดุเดือดยังไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้น พวกนอกด่านที่รุกรานยังไม่ถูกตัดรากถอนโคนเสียที แม้เพิ่งพ่ายแพ้ไปไม่นาน แต่กลับฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วจนผิดปกติ

เมื่อมาถึงค่ายบัญชาการกลาง จ้าวอู่ฉีก้าวลงจากหลังม้า ร่างสูงเดินตรงไปยังกระโจมใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางค่าย มือแกร่งเปิดผ้าคลุมกระโจม เผยให้เห็นแม่ทัพใหญ่อีกสองนายที่กำลังนั่งหารือกันอย่างเคร่งเครียด

“มาแล้วหรือ” แม่ทัพซูเสวียนแห่งทิศตะวันออกเงยหน้าขึ้นพลางเอ่ยทัก สีหน้าที่เหน็ดเหนื่อยจากการศึกยังคงแฝงด้วยความสง่างามในฐานะผู้มีประสบการณ์ แม้จะผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน แต่แววตานั้นยังคงเด็ดเดี่ยวไม่แปรเปลี่ยนเช่นเดียวกับวันที่เขาส่งบุตรชายคนเดียวออกจากจวนไปเป็นอนุภรรยาในจวนอ๋อง

จ้าวอู่ฉีพยักหน้ารับ

“ขอรับ” ท่าทีของเขายังคงนอบน้อมแม้จะมีศักดิ์สูงกว่า แต่จ้าวอู่ฉียังให้ความเคารพแก่แม่ทัพผู้นี้ ด้วยเห็นแก่ทั้งอายุ ประสบการณ์ และความสัมพันธ์ในฐานะพ่อตา

“แล้วแม่ทัพหยางเซี่ยแห่งทิศตะวันตกเล่า? เหตุใดยังมาไม่ถึงอีก” แม่ทัพฮ่าวเจี๋ยแห่งทิศใต้เอ่ยถาม สีหน้าของเขาฉายแววรำคาญใจอย่างชัดเจน

“อาจเพราะทิศตะวันตกเต็มไปด้วยหุบเขาและเส้นทางลำบากข้าคิดว่าอีกไม่นานแม่ทัพหยางคงมาถึง โปรดวางใจเถิด” จ้าวอู่ฉีตอบพลางเหลือบตามองแผนที่ที่กางอยู่กลางโต๊ะ

แม่ทัพฮ่าวเจี๋ยถอนหายใจอย่างไม่พอใจนัก ก่อนที่แม่ทัพซูเสวียนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“อย่าชักช้าไป เราควรเริ่มหารือกันก่อน ข้าเกรงว่าหากปล่อยไว้นานกว่านี้ทัพหน้าจะต้านทานไม่ไหว” น้ำเสียงของเขาแฝงความร้อนรน แต่แววตากลับเฉียบคม

การหารือเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความตึงเครียด ในกระโจมแผนที่และตำรายุทธพิชัยถูกกางออก แม่ทัพทั้งสามร่วมกันวางแผนอย่างละเอียด ซูเสวียนชี้นิ้วไปยังจุดหนึ่งในแผนที่ เสนอเส้นทางลับที่เขาคุ้นเคยในฐานะผู้ปกครองทิศตะวันออกมายาวนาน

“ข้าส่งคนไปสอดแนมเมื่อสองวันก่อน รายงานล่าสุดบอกว่าศัตรูกำลังรวมกำลังพลใหม่ในพื้นที่เชิงเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ หากเราสามารถเข้าตีได้เร็วพอ อาจตัดกำลังเสริมของพวกมันได้” ซูเสวียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“แต่การเข้าตีตรงนั้นจำเป็นต้องใช้กำลังทหารจำนวนมาก ทัพหลังของเราจะอ่อนแอลง หากศัตรูรู้ตัวและโจมตีสวนกลับ เราอาจเสียหายหนัก” ฮ่าวเจี๋ยแย้งด้วยน้ำเสียงขึงขัง

จ้าวอู่ฉีฟังทั้งสองฝ่ายอย่างเงียบ ๆ ก่อนเอ่ยขึ้น “หากต้องแบ่งกำลัง คงต้องใช้กองทหารม้าของข้าตีโอบ ศัตรูจะไม่ทันตั้งตัวและเราจะได้เปรียบในระยะเวลาอันสั้น”

ทั้งสามหารือกันอย่างต่อเนื่อง เสียงสนทนาเคร่งขรึมดังในกระโจม ขณะที่บ่าวรับใช้คอยส่งชาร้อนและเช็ดเหงื่ออย่างเงียบเชียบ การประชุมยืดเยื้อไปจนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นส้มแดงของตะวันรอน

แต่จนถึงเวลานี้ แม่ทัพหยางเซี่ยแห่งทิศตะวันตกก็ยังมาไม่ถึง ความล่าช้านี้ทำให้บรรยากาศในกระโจมยิ่งกดดัน ทว่าทั้งสามยังคงไม่แสดงความกังวลให้เห็น พวกเขาแยกย้ายกลับไปเตรียมการต่อ ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและเงาของความกังวลที่ค่อย ๆ แผ่ขยายอยู่ในใจทุกคน...

………………..

ที่เรือนไป๋หลานดวงจันทร์สาดแสงผ่านม่านบางเบา เผยให้เห็นสองร่างชายหญิงที่กกกอดกันแนบแน่นบนเตียงกว้าง กลิ่นกำยานหอมอ่อนอบอวลทั่วห้อง เสียงครางหวานของจางเหม่ยอิงแว่วลอดออกมาแผ่วเบา ทว่ากลับไร้ความหวาดกลัวว่าผู้ใดจะได้ยิน เพราะเรือนไป๋หลานแห่งนี้เป็นอาณาเขตส่วนตัวของนางโดยแท้ ไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้หากไม่ได้รับอนุญาต แม้แต่บ่าวรับใช้ที่รองมือรองเท้าของนางก็ยังไม่กล้าปริปากถึงสิ่งที่เห็น

แม้กระทั่งจ้าวอู่ฉีผู้เป็นสามี ก็ไม่เคยย่างกรายเข้ามาในเรือนแห่งนี้นับแต่คืนเข้าหอ เขาใช้ราชการลับเป็นข้ออ้าง ออกเดินทางไปรบที่นอกด้านครั้งแล้วครั้งเล่า ทิ้งให้นางเดียวดายอยู่กับเรือนที่งดงามแต่ไร้ชีวิตชีวา

หากแต่สำหรับจางเหม่ยอิงนั่นหาได้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะนางก็ไม่อยากตกเป็นเมียคนอัปลักษณ์เช่นเขา นางเป็นสตรีที่งดงามราวกับอัญมณีล้ำค่า แม้จะถูกละเลยแต่ความภาคภูมิใจในรูปโฉมของตนเองยังคงอยู่ นางก็เป็นเพียงสตรีคนหนึ่งที่มีความปรารถนาในชีวิตคู่ แต่เมื่อสามีไม่แม้แต่จะเหลียวแล จึงต้องหาทางออกในแบบของตนเอง หากจ้าวอู่ฉีคิดจะมองข้าม นางก็จะทำเช่นเดียวกันกับเขา

“จะกลับแล้วหรือเพคะ” จางเหม่ยอิงเอ่ยถาม พลางใช้มือเรียวปัดปอยผมของตนอย่างแผ่วเบา ขณะที่ชายผู้นั้นขยับตัวลุกขึ้นสวมอาภรณ์ ใบหน้าของนางประดับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ที่แฝงความยั่วยวน

“ใกล้รุ่งสางแล้ว” ชายผู้นั้นตอบเสียงเรียบ พลางขยับตัวจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่

“ท่านจะมาหาข้าอีกหรือไม่” จางเหม่ยอิงพลิกตัวนอนคว่ำ จ้องมองเขาราวกับกำลังหยอกล้อ น้ำเสียงหวานเจือความขบขันในที

ชายผู้นั้นชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาตอบด้วยรอยยิ้มจาง “เจ้ายังไม่หมดความต้องการอีกหรือ”

“ความต้องการของหม่อมฉันหาได้หมดง่าย ๆ ท่านเองก็รู้ไม่ใช่หรือเพคะ” นางหัวเราะเบา ๆ

“ย่อมรู้...” ชายผู้นั้นกล่าวตอบ น้ำเสียงแฝงความรู้ทัน

“ครานี้หากแผนของท่านสำเร็จ ท่านอย่าลืมมารับหม่อมฉันออกไปจากจวนแห่งนี้ตามสัญญานะเพคะ” จางเหม่ยอิงเอ่ยพลางจ้องเขาด้วยดวงตาคาดหวัง

“ข้าไม่ลืมเจ้าแน่นอน” น้ำเสียงของชายผู้นั้นเรียบนิ่งแต่แฝงความหนักแน่น

“ขอบใจเจ้ามากที่คอยเป็นหูเป็นตาให้ข้า”

“หม่อมฉันยินดีทำเพื่อท่านเสมอเพคะ...อ๋องโฉดอัปลักษณ์ผู้นั้นช่างหยามน้ำใจหม่อมฉันยิ่งนัก เพียงแค่เห็นหน้ากากน่ากลัวนั่น หม่อมฉันก็สะอิดสะเอียนจนไม่อยากเห็นหน้า” น้ำเสียงของนางแฝงความขมขื่น นางยอมแต่งงานกับจ้าวอู่ฉีก็เพราะบิดาต้องการอำนาจทางการทหารมาไว้ในมือ

“จ้าวอู่ฉีช่างโง่เขลา” ชายผู้นั้นกล่าว พลางหัวเราะในลำคอ “มีของล้ำค่าอยู่ในมือแท้ ๆ แต่กลับมองข้าม”

“คงมีแต่พระองค์กระมังที่เห็นคุณค่าของหม่อมฉัน” จางเหม่ยอิงยิ้มบาง ทว่าคำพูดนั้นเจือความน้อยใจ

“เจ้าอย่าน้อยใจไปเลย อีกไม่นานข้าจะมารับเจ้าออกไป เจ้าจะได้ตำแหน่งที่เจ้าต้องการอย่างแน่นอน”

ชายผู้นั้นกล่าวพลางยื่นมือไปแตะปลายคางของนางเบา ๆ

“เพคะ...หม่อมฉันจะรอ” จางเหม่ยอิงตอบรับน้ำเสียงแผ่วเบาทว่าน่าหลงใหล รอยยิ้มของนางเผยออกมาอีกครั้ง ราวกับผู้ที่มั่นใจในชัยชนะที่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม...

ยามเหม่า3 ช่วงเวลาประมาณ ๐๕.๐๐ น. - ๐๗.๐๐ น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๖ เคียงกันนับจากนี้

    ตอนที่ ๒๖ เคียงกันนับจากนี้ยามค่ำคืนในจวนอ๋องเงียบสงัด แต่ในใจของจ้าวอู่ฉีกลับเหมือนมีพายุโหมกระหน่ำ ร่างสูงเดินไปเดินมาหน้าห้องคลอดไม่หยุด เสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหินดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ทว่าในหัวกลับวุ่นวายเสียจนแทบฟังเสียงตนเองไม่ได้ เขาเงยหน้ามองประตูที่ปิดสนิท ใจจดจ่อกับเสียงที่เล็ดลอดออกมาเป็นระยะ ๆ“ท่านอ๋องโปรดวางใจ กระหม่อมเชื่อว่าชายารองจะต้องปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ” เยียนชิงเอ่ยปลอบเจ้านายของตนขณะยืนรออยู่ไม่ห่าง จ้าวอู่ฉีเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อย ทว่าแววตายังคงจับจ้องไปยังประตูด้วยความร้อนใจเสียงร้องเบา ๆ ของทารกดังลอดออกมาในที่สุด บรรยากาศที่เงียบงันเมื่อครู่พลันถูกทำลาย จ้าวอู่ฉีหยุดเดินในทันใด เขาขยับเข้าไปใกล้ประตูด้วยความตื่นเต้น เสียงของหมอตำแยดังแว่วออกมา“เป็นเด็กผู้หญิงเพคะ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก”ร่างสูงถอนหายใจออกมายาว ๆ ราวกับปลดปล่อยความกังวลที่กักเก็บไว้ก่อนหน้านี้ เขาหันมองเยียนชิงที่ยกยิ้มเล็กน้อยให้“ข้าจะเข้าไป”กลิ่นสมุนไพรและกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากห้องคลอดโชยออกมา จ้าวอู่ฉีก้าวเท้าเข้าไปด้วยท่าทีสุขุม ทว่าดวงตากลับเผยความอ่อนโยนที่หาได้ยาก มองซูเยี่ยนเอนตัวพิงหมอนอย

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๕ ลาจาก

    ตอนที่ ๒๕ ลาจากในพระราชวังหลวง หลังการปราบปรามกบฏที่เมืองหลวงสำเร็จลง จ้าวอู่ฉีและหลี่ตงจวินในชุดแม่ทัพเต็มยศเดินเข้าสู่ท้องพระโรง ใบหน้าของทั้งสองยังคงแสดงถึงความเหนื่อยล้าจากการศึกที่เพิ่งสิ้นสุด“กระหม่อมจ้าวอู่ฉีและหลี่ตงจวินน้อมถวายบังคมฝ่าบาท” ทั้งสองคุกเข่าลงพร้อมกัน ขณะที่ฮ่องเต้หลี่เซียวเหอทรงประทับบนบัลลังก์ทอง ดวงเนตรคมจับจ้องไปยังสองผู้ภักดี“ลุกขึ้นเถิด” สุรเสียงทรงพลังเอ่ยสั่ง แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่น “การศึกครั้งนี้จบลงแล้วหรือไม่?”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” หลี่ตงจวินรายงานพลางก้าวออกมาก้าวหนึ่ง “หลี่ชิงเจี๋ยและผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดถูกจับกุมแล้ว พร้อมหลักฐานที่พบระหว่างการปราบปราม”ฮ่องเต้พยักพระพักตร์เล็กน้อย ก่อนจะหันไปยังจ้าวอู่ฉี “แล้วผู้ที่เหลือเล่า?”“ฝ่าบาท กบฏที่เหลืออยู่ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น ไม่มีหลงเหลือที่จะก่อความวุ่นวายได้อีก” จ้าวอู่ฉีกล่าวเสียงเรียบแต่หนักแน่น “กระหม่อมได้ส่งตัวจางเหม่ยอิงให้คุกหลวงเพื่อใช้เป็นพยานตามพระบัญชา และได้ส่งมอบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายสินบนของกบฏแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หลี่เซียวเหอทรงนิ่งไปครู่หนึ่ง พระเนตรทอดมองไปยังทั

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๔ กลับคืน

    ตอนที่ ๒๔ กลับคืนในเช้าวันต่อมาหลังจากการสอบสวนที่คุกหลวง จ้าวอู่ฉีเร่งมุ่งหน้าไปยังพระราชวังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาก้าวเท้าผ่านประตูวังหลวงอันยิ่งใหญ่ ขันทีในพระราชวังนำทางเขาไปยังพระตำหนักที่เงียบสงบที่ห้องด้านใน หลี่เซียวเหอกำลังตรวจฎีกา หยวนกงกงเข้ามารายงานว่าจ้าวอู่ฉีมาขอเข้าเฝ้า เขาจึงพยักหน้าอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามา“ถวายบังคมฝ่าบาท” จ้าวอู่ฉีคุกเข่าลงเบื้องหน้าบัลลังก์ทอง เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ลุกขึ้นเถิด เจี้ยนอ๋อง” หลี่เซียวเหอเอ่ยโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากฎีกาในพระหัตถ์จ้าวอู่ฉียืนขึ้นอย่างนอบน้อม ก่อนจะรายงานถึงความคืบหน้าของการสอบสวน “กระหม่อมได้นำตัวจางเหม่ยอิงและเว่ยจงเข้าสอบสวนเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ แม้ได้ข้อมูลบางส่วน แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่กระจ่าง หากกระหม่อมขอพระบรมราชานุญาตให้เพิ่มแรงกดดันเพื่อขยายผล”หลี่เซียวเหอเงยพระพักตร์ขึ้น สายพระเนตรคมกริบจ้องตรงมาที่เขา “เจ้าคิดว่ายังมีใครอยู่เบื้องหลังอีกหรือ”“กระหม่อมเชื่อว่ามีพ่ะย่ะค่ะ หลันซิงเฉินไม่อาจทำเรื่องใหญ่เช่นนี้เพียงลำพังได้”“ดี เช่นนั้นข้าจะให้ราชองครักษ์เสื้อแพรเพิ่มกำลังสนับสนุนเจ้าสำหรับเรื่องนี้”“ข

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๓ ลอบโจมตี

    ตอนที่ ๒๓ ลอบโจมตีทางด้านหลี่ตงจวินหลังจากมื้ออาหารค่ำเสร็จสิ้น เขาเอ่ยชวนไป๋ซือเฟิงไปเดินเล่นในลานสวนด้านหลังเรือนใหญ่ แสงจันทร์ส่องกระทบใบหน้าเรียวของไป๋ซือเฟิงที่เต็มไปด้วยความสงบนิ่ง แต่ฝีเท้าของเขากลับเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด หลี่ตงจวินชะลอฝีเท้าตาม สายตามองหน้าท้องที่นูนใหญ่ของอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง“เดินไหวหรือไม่” หลี่ตงจวินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไหวขอรับ ข้าเพียงแค่...แปลกใจ ทำไมที่นี่ถึงได้ใหญ่โตนัก” เขาเงยหน้ามองไปรอบ ๆ ลานสวนที่ตกแต่งอย่างประณีต มีต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายหลี่ตงจวินหยุดเดินก่อนจะหันมามองไป๋ซือเฟิงด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย “ความจริง...ข้าไม่ได้บอกเจ้าทั้งหมด ข้าขอโทษที่ต้องโกหก”“ท่านหมายความว่าอย่างไร” ไป๋ซือเฟิงชะงักเท้า สายตาจับจ้องหลี่ตงจวิน“ข้าไม่ใช่เพียงชาวบ้านธรรมดาอย่างที่เคยบอกเจ้า” หลี่ตงจวินสูดลมหายใจลึก ก่อนจะกล่าวต่อ “ข้าชื่อหลี่ตงจวิน ข้าเป็นชินอ๋อง”ไป๋ซือเฟิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “เช่นนั้นเอง คิดไว้แล้วว่าท่านต้องไม่ธรรมดา กระหม่อมเสียมารยาทกับท่านแล้ว”“ไม่ต้องมากพิธี เจ้าไม่โกรธข้าก็ดีแล้ว เจ้ารู้เมื่อไรหรือ”

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๒ แสงจันทร์รำไร

    ตอนที่ ๒๒ แสงจันทร์รำไรกลางดึกยามฟ้ามืดสนิท จ้าวอู่ฉีลืมตาตื่นขึ้นมาในกระโจมที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงลมพัดผ่าน เขารู้สึกอึดอัดจากความคิดมากมายที่วนเวียนอยู่ในหัว จึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อสงบจิตใจหมู่ดาวส่องประกายเหนือท้องฟ้า แต่ใจของเขากลับหนักอึ้ง เสียงใบไม้เสียดสีกันในความมืดช่างเงียบงันราวกับปิดบังบางสิ่ง จ้าวอู่ฉีเดินเรื่อยเปื่อยไปยังแนวป่าริมค่าย ทว่าก้าวเท้าไปไม่กี่ก้าว เขาก็ต้องหยุดชะงักร่างในชุดเรียบง่ายของชายคนหนึ่งปรากฏอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เส้นผมยาวสยายพลิ้วไหวในสายลม เมื่อเดินไปมองใกล้ ๆ จ้าวอู่ฉีแทบจะหยุดหายใจ ดวงตาของเขาเบิกโพลง“ซูเยี่ยน...” เสียงเรียกนั้นหลุดออกมาโดยไม่ทันคิดบุรุษผู้นั้นหันมาพลางยกมือลูบหน้าท้องของตนเอง แววตาที่มองกลับมานั้นเต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความระแวงทว่าจ้าวอู่ฉีไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายหนีไป เขาพุ่งเข้าไปหาพร้อมกับโอบกอดร่างนั้นไว้แน่น ความอบอุ่นจากอ้อมกอดทำให้เขาแทบจะหลั่งน้ำตาออกมา “ซูเยี่ยน... เจ้ากลับมาแล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าต้องรอด ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่จากไป...”“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!” เสียงตะโกนของอีกฝ่ายดังขึ้น เขาพย

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๑ ภรรยาข้า

    ตอนที่ ๒๑ ภรรยาข้าไป๋หลี่จวินซึ่งได้รับคำสั่งให้สืบสวนความเคลื่อนไหวในเหลียวหนิง เดินทางมาถึงท่าเรือตระกูลหม่าในยามสาย ท่ามกลางความคึกคักของพ่อค้าและคนงานที่ขนส่งสินค้า ไม่มีใครทันสังเกตว่ามีคนผู้หนึ่งเฝ้ามองด้วยสายตาเฉียบคม“ข่าวว่าตระกูลหม่าเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนสินค้าต้องห้าม เจ้าแน่ใจหรือ” ไป๋หลี่จวินถามคนสนิท ขณะยืนมองกิจกรรมที่เกิดขึ้น“ขอรับนายท่าน ข้าได้รับรายงานจากหน่วยสืบข่าวลับ ว่า ตระกูลหม่านอกจากจะทำการค้าถูกต้อง ยังใช้ท่าเรือนี้เพื่อส่งสินค้าที่มิได้แจ้งแก่ทางการอีกด้วย”ไป๋หลี่จวินพยักหน้าเล็กน้อย “เช่นนั้น เจ้านำกำลังบางส่วนล้อมทางออกท่าเรือไว้ อย่าให้มีผู้ใดหลบหนีได้ ข้าจะเข้าไปดูด้วยตนเอง”เมื่อเดินเข้าไปยังท่าเรือ ไป๋หลี่จวินแสร้งทำทีเป็นพ่อค้าผู้หนึ่งปะปนไปกับฝูงชน ทว่าดวงตาของเขากลับมองไปยังหมู่ตึกที่ตั้งอยู่ด้านใน“นายท่าน นั่นคือที่เก็บของของตระกูลหม่าขอรับ” คนสนิทกระซิบเบา ๆไป๋หลี่จวินพยักหน้า เขาก้าวเข้าไปใกล้หมู่ตึกโดยมิได้แสดงตน ทันใดนั้น เขาก็เห็นชายสองคนกำลังลากเกวียนบรรทุกหีบไม้ขนาดใหญ่ที่ปิดผนึกแน่นหนา“หยุด!” เสียงของไป๋หลี่จวินดังขึ้น ทำให้ชายทั้งส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status