หวานตาถามกลับเสียงขุ่น เธอใช้ช้อนหั่นเครปเค้กและยกใส่ปาก ของหวานจะช่วยให้ความหงุดหงิดของเธอลดลง
“เปล่า...แกฟังฉันก่อนหวาน!!” ชลดาถอนใจแรงๆ เธอกำลังจะพูด แต่หวานตาพูดขัดขึ้นมาก่อน
“เดี๋ยวค่อยคุย แฟนฉันมาแล้ว ให้ฉันเสร็จธุระกับเขาก่อน ฉันจะโทร. ไปให้แกฟุ้งได้เต็มที่”
“เดี๋ยว!! โธ่ยัยหวาน” ชลดาพยายามเรียกเพื่อน แต่สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไปเสียแล้ว หญิงสาวถอนใจแรงๆ เธอยังไม่ทันบอกเพื่อน ป่านนี้หวานตาจะเป็นเช่นไร หากครั้งนี้เรืองฤทธิ์ กำลังเดินทางมาบอกเลิกกับเพื่อนของเธอ
ข่าวซุบซิบลอยมาเข้าหู ชลดาพยายามหาข้อมูลประกอบเท่าที่ควานหามาได้...ถูกข่าวลือมีมูลความจริง ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ซื่อสัตย์เหมือนที่เขาพยายามแสดงออก มีหลายอย่างที่เขาปิดบังหวานตาไว้ อย่างเช่นเรื่อง ผู้หญิง...ไอ้หมอนั่นซุกกิ๊กไว้หลายคน แต่คนล่าสุดนี่ ทำให้ชลดาหวั่นๆ ผู้หญิงคนนั้นทุ่มเทมาก บางทีสิ่งที่หล่อนทำอาจจะทำให้เรืองฤทธิ์เปลี่ยนใจ ชลดาได้แต่ภาวนา เธอไม่ได้กลัวหวานตาผิดหวัง สิ่งที่เธอกลัวคือ...ผู้ชายคนนั้น จะมีลมหายใจกลับไปหรือไม่ เพราะหวานตาไม่ได้หวานสมชื่อ เธอค่อนข้างไปทางห้าว...และแรงมากด้วย
หวานตากดวางสาย เธอเงยหน้ายิ้มให้เรืองฤทธิ์ เขาเดินผ่านประตูเข้ามา สีหน้าดูไม่ดีเลย หญิงสาวพยายามคิดในแง่ดี เรืองฤทธิ์กำลังปรับตัวกับที่ทำงานใหม่ เขาอาจจะมีเรื่องวุ่นวายใจ ดังนั้นเขาเลยหายหน้าหายตาไปเกือบ2อาทิตย์
“สีหน้าดูไม่ดีเลยนะ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ?”
ทันทีที่แฟนหนุ่มทรุดนั่งฝั่งตรงข้าม หวานตาก็รีบถามทันที
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบทันที เขาใช้ปลายนิ้วดันกรอบแว่น พร้อมกับเสียงถอนใจที่แรงจนหวานตาได้ยิน
“งานยุ่งหน่ะ”
สีหน้าของเขาไม่ได้หมายความเช่นนั้น คนตรงหน้าเธอกำลังมีปัญหา
“ดื่มอะไรดีคะหวานจะได้สั่งให้” หวานตาไม่อยากกดดันให้เขาตอบ เธอเลยเปลี่ยนเรื่องพูด พยามยิ้มให้มากขึ้น เขาจะได้รู้สึกผ่อนคลาย
“ขอเบียร์ได้ไหม?” เป็นคำถามที่เรืองฤทธิ์ใช้ทดสอบหวานตา เขากำลังตัดสินใจบางอย่างอยู่
“ทำไมวันนี้อยากดื่มแต่หัววันเลยล่ะคะ?” หญิงสาวไม่ได้ห้าม เธอแค่สงสัยว่าอะไรทำให้เขานึกอยากดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นตรงศีรษะพอดี
“ผมมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” เรืองฤทธิ์ตอบเสียงแผ่ว
หากเลือกได้เขาไม่อยากทำแบบนี้เลย หวานตาเป็นผู้หญิงที่เขารู้สึกพิเศษด้วย แต่ข้อเสียของเธอคือหวานตามั่นใจในตัวเองเกินไป เป็นไปได้ยากที่เขาจะควบคุมเธอไว้ได้ ผู้หญิงหัวอ่อนคือผู้หญิงในอุดมคติของเรืองฤทธิ์ สำหรับหวานตาแล้ว เธอห่างไกลคำนั้นมาก แต่...นั่นแหละ ความรักกินไม่ได้
หากอยากให้ท้องอิ่ม เขาต้องเลือกผู้หญิงที่มีคุณสมบัติอย่างที่เขาต้องการ
และหวานตาไม่มีทางเป็นได้...เสียดายข้อเดียว เขากับเธอยังไม่ได้เกินเลยกันเลย ภายนอกหวานตาคล้ายๆ สาวเปรี้ยว เธอเป็นคนมีความมั่นใจสูง และค่อนข้างไม่ถือตัว...แต่นั่นไม่ร่วมเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์ชาย-หญิงด้วยนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่เรืองฤทธิ์ทำอะไรไม่ได้เลย หวานตาไม่เคยยอม ทุกครั้งที่เขาพยายามเข้าถึงเนื้อถึงตัวเธอ
ผู้หญิงตรงหน้าเขา หวงพรหมจรรย์ของหล่อนยิ่งชีพ
“อืม เรื่องงานเหรอ?”
“เปล่า!!” ชายหนุ่มตอบ เขารับแก้วกาแฟจากมือของสาวเสิร์ฟ มองเลยหัวไหล่ของหล่อนไป ใต้ต้นไม้ใหญ่เลยหน้าร้านกาแฟของภูมิไม่ถึง300เมตร มีรถยนต์สีดำ ยี่ห้อ Hyundai Grand Starex เป็นรถยนต์อเนกประสงค์มีเครื่องอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม เจ้าของคือสาวใหญ่วัย40อัฟ เธอยังคงความสวยไว้ด้วยฝีมือแพทย์ ที่สำคัญเรืองฤทธิ์กำลังคั่วเธออยู่ หากตกลงกับหวานตาได้ เขาจะมีทั้งหวานตาและม่านแก้วพร้อมกัน
หม้ายสาวไม่ได้ต้องการมีเขาออกหน้าออกตา สังคมของหล่อนคงไม่ยินดีกับการที่เธอจะมีสามีคราวลูก เธอต้องการเขาไว้เพื่อสนองตันหา ข้อเสนอของเธอทำให้เขาหนักใจ เพราะหวานตาคงไม่ยอม ครั้นจะปิดเธอไว้ สังคมเมืองกรุงก็ไม่ได้กว้างนัก บางทีเรื่องที่เขากำลังทำอาจจะเข้าหูหวานตาบ้างแล้วก็ได้ เมื่อเพื่อนสนิทของหวานตาเป็นคนกว้างขวางพอตัว
สิ่งที่เขาต้องทำคือการทำความเข้าใจกับหวานตา
แต่หากไม่ได้ เขาก็จำใจต้องเลิกกับเธอ
ถึงหวานตาจะมีทรัพย์สินไม่น้อยหากเขาแต่งงานกับเธอ เขาก็จะพลอยสบายไปด้วย แต่เรื่องนั้นมันไกลตัวเกินไป เธอยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงปลงใจกับเขาเลย สถานะของเขาก็แค่...แฟน
แต่โอกาสดีๆ ตรงหน้านี่สิ หากไม่คว้าไว้ เขาคงเสียดายแย่
หวานตากดปิดแล็ปท็อปตรงหน้า เธอรู้ด้วยตัวเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้คือเรื่องสำคัญแน่ๆ สัญชาตญาณบอกเธอเช่นนั้น ท่าทางเรืองฤทธิ์ดูเคร่งเครียด เขามีสีหน้าหมองๆ เหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง และนั่นน่าจะเกี่ยวข้องกับเธอ
เรืองฤทธิ์ยกมือขึ้นคลายปมเน็คไท เขารูดปมตรงคอให้เลื่อนต่ำลงมาเพื่อให้ความอึดอัดที่เกิดขึ้นทุเลาลง แววตาของหวานตายิ่งทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก เขาพยายามเรียบเรียงคำพูดที่คิดไว้ในใจคร่าวๆ
“ไม่ใช่เรื่องงาน แล้วเรื่องอะไรคะ หรือว่าเรื่องหวาน?”
หวานตาลองเสี่ยงเดาและดูเหมือนว่าเธอจะเดาถูก
เรืองฤทธิ์จ้องหน้าหวานตา เขาเม้มปากจนริมฝีปากเป็นเส้นตรง แววตาดำมืดขุ่นมัวจ้องหน้าเธอ ตอนที่พูดขึ้นมา “หวานจะทำยังไงหากวันนี้เราต้องเลิกกันครับ?”
ชายหนุ่มตัดสินใจถาม
หญิงสาวตัวแข็งทื่อ เธอค่อยๆ เอนตัวพิงพนักเก้าอี้หรี่เปลือกตาลง ยกมือขึ้นกอดอกและค่อยๆ กวาดตามองชายตรงหน้าซ้ำอีกครั้ง
หวานตาไม่ได้มีท่าทีตกใจ เหมือนที่เรืองฤทธิ์คาดไว้ สีหน้าของเธอทำให้ชายหนุ่มเริ่มผวา ท่าทางนิ่งๆ เย็นๆ ของหวานตานี่คือต้นกำเนิดพายุดีๆ นี่เอง เขารู้ดีเพราะทำความเข้าใจกับอุปนิสัยส่วนตัวของเธอมาเป็นอย่างดี หวานตาเป็นสาวอินดี้ และเมื่อไหร่ที่เธอแผลงฤทธิ์ นั่นหมายถึงไม่ใครก็ใครต้องแหลกกันไปข้าง
“ทำไม?” เป็นคำถามที่สั้นเสียจนเรืองฤทธิ์ตอบไม่ถูก
หญิงสาวตวัดปลายขาขึ้นมาไขว้กัน เธอคลายมือที่กอดอกไว้ เลื่อนไปวางไว้ที่หัวเข่าแทน พยายามปรามตัวเองให้ใจเย็นๆ เรืองฤทธิ์ต้องมีเหตุผล ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่พูดออกมา
“ถ้าผมบอกว่า ผมเจอคนที่เหมาะกับผมมากกว่าหวานแล้วล่ะครับ”
ชายหนุ่มพยายามทำใจให้สงบ เขาผวากับแววตาของผู้หญิงตรงหน้าเหมือนกัน
หวานตาสูดลมหายใจลึกๆ เธอนับหนึ่งถึงสิบ แล้วก็เริ่มต้นนับใหม่ เป็นการลดอุณหภูมิความโกรธให้ลดลงที่ได้ผลชะงัด ครั้งหนึ่งเธอเคยวีนแตกเพราะเก็บอารมณ์โกรธไว้ไม่อยู่ และครั้งนั้นทำให้เธอพลาดโอกาสดีๆ ภูมิเตือนเธอ เขาสอนให้เธอนับเลขในใจ หลังจากวันนั้น เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นครูของเธอ ภูมิชี้ให้เห็นความผิดพลาด หากเธอควบคุมอารมณ์ได้ เหตุการณ์จะไม่บานปลายเลย นับจากนั้นเธอก็ใช้วิธีของภูมิ เธอจะนับเลขในใจทุกครั้งที่ความโกรธปะทุขึ้นมาในใจ
“1 2 3...” เรืองฤทธิ์เอียงหูฟัง เขาได้ยินเสียงหวานตาพึมพำบางอย่างออกมา
“ครอบครัวผมไม่ได้รวย บ้านเรามีรายจ่ายเยอะแยะ ผมต้องแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่ ผมคงไม่มีเงินมาสู่ขอหวาน หากวันหนึ่งในอนาคตเราต้องแต่งงานกัน”
เหตุผลแสนดีที่ฟังแล้วเหมือนกับว่าเรืองฤทธิ์กำลังตัดพ้อเธอ เขาคงไม่มีปัญญาหอบเงินล้านมาขอเธอแน่ แต่หวานตารู้ว่าไม่ใช่
“ไม่ใช่เหตุผลที่เราต้องเลิกกันนี่คะ หวานยังไม่ได้เร่งรัดให้เราแต่งงานกันเสียหน่อย”
หญิงสาวแย้ง เธอใจเย็นที่สุดแล้วนะ
“ผม...”
หลังนับเลขในใจวนไปวนมาเกือบร้อยรอบ หวานตาใจเย็นขึ้น เธอวาดปลายเท้าลงวางที่พื้น และถามเรืองฤทธิ์ตรงๆ
“คุณเจอคนใหม่ที่ดีกว่าหวานใช่ไหมคะ... หวานเข้าใจแบบนี้ถูกไหม?”
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอเขาฉวยแก้วกาแฟมาจิบ และเกือบสำลักเมื่อ…
“เธอเป็นใคร? ใช่ผู้หญิงในรถยนต์สีดำที่จอดอยู่โคนต้นไม้ตรงนู้นไหมคะ?”
แค๊กๆ ชายหนุ่มวางแก้วบนโต๊ะ ยกมือตบอก รีบล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดคราบกาแฟที่กระเด็นออกมาจากปากและเปื้อนบนอกเสื้อตัวเอง
“ทำไมไม่ให้เธอเข้ามาพูดกับหวานเองเลยล่ะคะ?”
หญิงสาวชะโงกหน้าเข้าไปมองด้านใน เศษซากขวดเหล้าเปล่าหล่นเกลื่อน ไม่เหมือนกับที่เธอสร้างภาพไว้ในใจ พื้นห้องระเกะระกะไปด้วยขยะและเศษบุหรี่ เธอเงยหน้ามองหมายเลขห้องซ้ำอีกครั้ง คนระเบียบจัดและไม่สูบบุหรี่อย่างภูมิ พอเปลี่ยนที่ เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอ “ไม่หรอกน่า...” หวานตาพึมพำพยายามคิดในแง่ดี เธอชะเง้อมองเข้าไปด้านในอีกครั้ง เริ่มไม่แน่ใจว่าตัวองตัดสินใจผิดหรือเปล่า... สายตาหวานตาสะดุดเข้ากับกระโปรงผ้าสีหวาน มันกองอยู่ที่พื้น ด้านข้างมีชั้นในผู้หญิงหล่นอยู่ใกล้ๆ หวานตากำมือแน่น กัดริมฝีปากล่างจนชา เธอสูดลมหายใจลึกๆ หมุนตัวเดินหนี เธอไม่ควรมาเพื่อรับรู้อีกด้านหนึ่งของภูมิเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หวานตาคิดว่าตัวเองตัดสินใจพลาด เธอควรรอให้เขากลับไป ไม่ใช่วิ่งโร่มาเจอความจริงที่น่ากลัว หวานตาหยุดเดิน เธอไม่เคยวิ่งหนีปัญหานี่นา ห
ไหนๆ ก็คันปากอยากหาเรื่องกัดใครสักคนแล้ว ไซม่อนนี่น่าจะเหมาะสุดสำหรับการลับฝีปากของเธอ ชลดาหัวเราะกิ๊ก “ไหมล่ะ พูดอะไรไม่พ้นตัวเอง ดีนะที่ชลขอดูผลตรวจเลือดก่อนแต่งงาน ไม่งั้นชลคงระแวงตัวเองจนตาย ชลกลัวเป็นเอดส์ค่ะ” “หวังว่าธามโตมาจะไม่ปากเสียเหมือนพ่อหรอกนะ” หลานชายของเธอจะต้องไม่สืบสานสันดานจากบิดาแย่ๆ อย่างไซม่อน หวานตาพยายามสอนให้ธามมองเห็นความไม่ดีในตัวบิดา ซึ่งหลานชายไม่ค่อยคล้อยตามเท่าไหร่ ธามติดพ่อมากกว่าแม่ คงเพราะไซม่อนมีเวลาดูแลลูกมากกว่าชลดานั่นเอง เขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการเลี้ยงบุตรชายเกือบทั้งหมดนี่ รายละเอียดเกี่ยวกับหอพักทวีทรัพย์รับหน้าที่จัดหามาให้ บิดายัดใส่มือก่อนขึ้นเครื่องไม่กี่นาที ตอนแรกหวานตาก็หวั่นๆ เธอจะต้องมาคลำหาทางเอาเองที่ลอนดอนเสียก็ไม่รู้ พอได้ที่อยู่ภูมิมาเลยโล่งใจไปหนึ่งเปราะ อย่างน้อยก็ช่วยร่นระยะเวลาในการเจอหน้าภูมิ
“คุณภูมิกินแต่อาหารจืดๆ เลยไม่รู้ว่าบนโลกใบนี้มีอาหารรสอื่นที่อร่อยมากกว่าสิ่งที่คุณเคยลิ้มรสมาค่ะ” “ผมเป็นคนรักสุขภาพครับ อะไรที่ก่อผลร้ายกับตัวเอง ผมเลยไม่อยากเอาตัวเข้าไปเสี่ยง” “คุณกำลังบอกโรซี่เหรอคะ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้น่ากลัวหรอกค่ะ ลองสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ” “ผมไม่ชอบลองอะไรที่ไม่มีประโยชน์ครับ เสียพลังงานเปล่าๆ แต่ไม่ได้คุณค่าอะไรกลับมาเลย” แค่นี้คงทำให้โรสิตาสำนึกได้บ้าง ในฐานะเพื่อนมนุษย์เขาก็ไม่อยากทำลายน้ำใจหล่อนมากนัก แต่ภูมิไม่รู้ มนุษย์บางคนก็ดื้อด้านเกินกว่าที่จะขุดรากที่หยั่งลึกได้ เหมือนโรสิตา หล่อนถลำลงไปในวังวนที่อยากไถ่ถอนตัวเองคืน คำปรามาสของภูมิเลยก่อให้เกิดความไม่พอใจ และหล่อนจะไม่มีวันถอย จนกว่าจะสยบภูมิให้ศิโรราบได้&nbs
มันเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับภูมิ แต่กลับเป็นเรื่องน่าสนุกของคนรอบตัว ภูมิรู้มีสายตาหลายคู่คอยสอดส่อง และรอดูบทสรุปเรื่องวุ่นวายในชีวิตเขา มีทั้งคนชื่นชมที่เขายึดมั่นในตัวเอง จนไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งลวงล่อที่โรสิตาพยายามสร้าง ชายหนุ่มถอนหายใจ หยุดปั่นจักรยาน เขาเหวี่ยงปลายเท้าลงยืนบนพื้น อิงจักรยานไว้กับพนักเก้าอี้เหล็กที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ “คิดถึงหวานจัง” เสียงพึมพำแผ่วหวิวปนเปไปด้วยความคิดถึง เวลาต่างกันหากเช้าที่ลอนดอน ที่ประเทศไทยคงดึกเอาการ หลายครั้งที่ภูมิห้ามใจตัวเองไว้ ไม่ติดต่อหาหวานตานอกจากเวลาที่กำหนด เขาอยากเห็นหน้า อยากได้ยินเสียง และก็เริ่มเห็นด้วยกับความคิดหวานตา ทั้งเขาและเธอต้องอดทน การจากกันครั้งนี้แค่ชั่วคราว ไม่ใช่ตลอดไป หากจะมีคนตะบะแตก ไม่หวานตาก็เขา
ริมฝีปากล่างถูกกัด มือหมุนปากกาในมือไปมา เรื่องนี้เธอควรมีตัวช่วย หากเก็บเงียบไว้แบบนี้คงอกระเบิดตาย ก่อนที่ภูมิจะกลับมา...เช้าวันใหม่... หวานตาแบกหน้าตาโทรมๆ ของตัวเองไปหาชลดาถึงบ้าน ชลดากับไซม่อนกำลังยุ่งกับการเลี้ยงบุตรชายวัยสามเดือนที่กำลังซนได้ที่ ขนาดเคลื่อนไหวเองไม่ได้ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วลั่นบ้าน พ่อแม่มือใหม่ที่กำลังหลงลูกชายเลยพากันหยุดงานเลี้ยงลูก หวานตาเพิ่งรู้ไซม่อนไม่ใช่นักข่าวกระจอกๆ เขามีเงินเก็บจากการเทรดหุ้น ไม่ทำงานสักสองสามปียังได้ นับว่าชลดาตาแหลม ได้สามีเงินถุงเงินถังไว้ดูแล ไซม่อนเลิกอาชีพเป็นนักข่าวแล้ว เขาเขียนบทความให้สำนักข่าวของเพื่อนสนิทเขาแทน มีรายได้พอเลี้ยงตัวได้ ไซม่อนเลยกลายเป็นพ่อที่เลี้ยงลูกชายเต็มตัว คงเพราะชลดาไม่สามารถวางมือจากการเป็นบรรณาธิการหนังสือแฟชั่นได้นั่นเอง ชลดาเลยเป็นฝ่ายที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่เพราะหลงลูก หมู
สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ถูกยื่นมาให้ภูมิคว้าเอาไว้ ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่รู้ เขาส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง “ทำไมคะ คุณไม่ชอบฉันเหรอ” ธรรมดาการปฏิเสธแบบสุภาพ จะทำให้ผู้หญิงมียางอายยอมถอย แต่สำหรับโรซี่แล้ว เธอเลยขีดจำกัดแบบนั้น เธอใช้ชีวิตในต่างแดนเกินหกปี ผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน ไม่เคยสะดุดตาใครเท่าผู้ชายตรงหน้า เขาดูละมุนน่าครอบครองจนห้ามใจไม่ได้เลย ภูมิแอบผ่อนลมหายใจ เขายอมให้โรสิตาเดินข้ามเส้นแบ่งที่ตัวเองกำหนดไว้ เพราะคิดว่าคุยภาษาเดียวกันแล้วจะรู้เรื่อง เขาแน่ใจว่าโรซสิตารู้ เขาไม่ใช่ผู้ชายโสด ถึงจะยังไม่แต่งงาน แต่ภูมิแน่ใจตัวเอง เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากหวานตาแน่ๆ “คุณกับผมมาจากถิ่นเดียวกัน ทำไมผมจะไม่ชอบคุณล่ะ” “มากกว่าชอบได้ไหมคะ โรซี่ไม่ถือ” โรสิตากระแซะต่อ