คนสองคนที่เป็นเพื่อนกันมา20ปี และยังคงสถานะการเป็นเพื่อนไว้ จะทำยังไงกันดีหากอีกคนความรู้สึกเปลี่ยนไป หวานตาเริ่มมีความรัก จนทำให้ตัวเองห่างเหินจากเพื่อน จวบจนวันหนึ่ง ความรักที่ตัวเองทึกทักไปเองจบลง หวานตารู้สึกเคว้งคว้าง เธอหันมาปรึกษาเพื่อนlสนิท ภูมิเป็นที่ปรึกษาที่ดี เขาช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น แต่แล้ว...ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น ตอนที่ภูมิมีผู้หญิงมาสนใจนี่ล่ะ มันคืออะไรอีกหะ? หวานตาไม่ใคร่เข้าใจตัวเองนักหรอก เธอไม่พอใจอะไร? หากเพื่อนของเธอจะทดลองมีความรักบ้าง... แต่มันเป็นเพราะเธอ...รัก เพื่อนที่ยังคงเป็นเพื่อนอยู่นั่นเอง เธอจะจัดการอย่างไรกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ครั้นจะบอกภูมิตรงๆ เธอก็กลัวว่าความเป็นเพื่อนที่มีมายาวนานจะจบลง หากในอนาคต ไม่มีภูมิในชีวิต หวานตาแน่ใจ...เธอคงเฟลไปตลอดชีวิตเหมือนกัน เมื่อเพื่อนเริ่มมีผู้หญิงมาสนใจ หวานตาเริ่มเสียเซลฟ์ เธอไม่ใช่คนสำคัญอันดับหนึ่งของภูมิอีกต่อไปแล้ว เธอเลยรีบมูฟออนออกมาจากจุดที่เคยอยู่ประจำ เธอไม่อยากเป็นแค่เพื่อน...แต่อยากเป็นคนสำคัญของเขา
もっと見るบทนำ...
‘ไม่มีชีวิตใครบนโลกใบนี้ที่ไม่มีปัญหา ทุกคนต่างมีมุมมองที่น่าอิจฉา และน่าสงสารแตกต่างกันไป’
คนสองคนที่เป็นเพื่อนกันมา20ปี และยังคงสถานะการเป็นเพื่อนไว้ตลอด จะทำยังไงกันดีล่ะ?!! หากอีกคนความรู้สึกเปลี่ยนไป หวานตาเริ่มมีความรัก จนทำให้ตัวเองห่างเหินจากเพื่อนสนิท จวบจนวันหนึ่ง ความรักที่ตัวเองทึกทักไปเองจบลง...หวานตารู้สึกเคว้งคว้าง เธอเลยหันมาปรึกษาเพื่อนใกล้ตัว ภูมิเป็นที่ปรึกษาที่ดี เขาช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น แต่แล้ว...ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น ตอนที่ภูมิมีผู้หญิงมาสนใจนี่ล่ะ มันคืออะไรอีกหะ? หวานตาไม่ใคร่เข้าใจตัวเองนักหรอก เธอไม่พอใจอะไร? หากเพื่อนของเธอจะทดลองมีความรักบ้าง...มันไม่ใช่เพราะเธอแอนตี้ความรู้สึกแบบนั้นเพราะตัวเองไม่สมหวังหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะเธอ...รัก เพื่อนที่ยังคงเป็นเพื่อนอยู่นั่นเอง
เธอจะจัดการอย่างไรกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น
ครั้นจะบอกภูมิตรงๆ เธอก็กลัวว่าความเป็นเพื่อนที่มีมายาวนานจะจบลง
หากในอนาคต ไม่มีภูมิในชีวิต หวานตาแน่ใจ...เธอคงเฟลไปตลอดชีวิตเหมือนกัน
บทที่1.เรื่องมันเริ่มต้นที่นี่แหละ
หมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ มีพื้นที่เกือบ100ไร่ เป็นโครงการที่ก่อสร้างยาวนานเกือบ10ปี โครงการนี้เริ่มจากหมู่บ้านจัดสรรขนาดกลาง แต่เมื่อมีผู้คนให้ความสนใจมากขึ้น เจ้าของโครงการเลยค่อยๆ ขยับขยายเพิ่ม จนเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่เหมือนทุกวันนี้ ตัวเจ้าของโครงการเองก็พักอาศัยอยู่ให้หมู่บ้านแห่งนี้ด้วย เขารักและขอบคุณลูกบ้านทุกคนที่ทำให้โครงการบ้านจัดสรรของเขาเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นมาได้...
ภาค พิสิทธิโยทินคือเจ้าของหมู่บ้านแห่งนี้ มันต่อยอดมาจาก พิสิทธิโยทินพร็อพเพอร์ตี้ที่เขาเป็นคนสร้างมาจากสองมือ จากคนที่มีฐานะปานกลาง เวลานี้ครอบครัวพิสิทธิโยทินกลายเป็นเศรษฐี มีสินทรัพย์100กว่าล้าน แต่สามี ภรรยาที่สร้างตัวมาจากกิจการก่อสร้าง ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ใจดีและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เคยรังเกียจความยากจน เพราะทั้งภาค และสายใจ เคยผ่านความลำเค็ญจุดนั่นมาก่อน
ภูมิเป็นบุตรชายคนเดียวของภาคและสายใจ เขาร่วมฟันฝ่าความลำเค็ญมาพร้อมกับบุพการีตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเป็นกอบเป็นกำ แม้แต่บ้านสักหลัง ภูมิจึงเป็นคนสมาถะไม่ฟุ้งเฟ้อ และชอบอวดรวยเหมือนบุตรเศรษฐีใหม่คนอื่นๆ ภูมิขึ้นรถประจำทางไปเรียนได้ เขาไม่เคยเรียกร้องที่จะขอมีรถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้เสื้อผ้าแบรนด์เนม ไม่นิยมเครื่องประดับหรู ใส่นาฬิกาเรือนละร้อยบาทได้...เพราะภูมิรู้ค่าของเงิน
ทุกบาททุกสตางค์ แลกมาจากหยาดเหงื่อของพ่อ แม่...เขาจึงเป็นเศรษฐีใหม่ที่ใช้ชีวิตสมถะที่สุด
ทวีทรัพย์ เกียรติขจร พ่อหม้ายเมียตาย เขาหอบบุตรสาวคนเดียวเข้ากรุง เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่หมู่บ้านจัดสรรที่ภาคเป็นเจ้าของ หวานตา คือบุตรสาวสุดสวาทของชายสูงวัยคนนั้น ทวีทรัพย์ฟูมฟักหวานตายิ่งกว่าไข่ในหิน เธอเลยเหมือนถูกจับให้อยู่ในกรอบ โชคดีที่ได้เพื่อนบ้านดีๆ แบบภูมิ หวานตาเลยไม่เตลิด เธอเข้าใจชีวิตมากขึ้นผ่านเพื่อนรุ่นเดียวกัน
“ตัวเองหน่ะเล่นอันนั้นไป เค้าจะเล่นอันนี้เอง” เสียงแหวแว๊ดของหวานตาดังขรม
จนบิดาของเด็กหญิงต้องยอมวางงานในมือและเดินมาดู “ทะเลาะอะไรกันอีกยัยหวาน นี่แกล้งตาภูมิอีกแล้วใช่ไหมหะ?”
เสียงแข็งๆ ใบหน้าดุๆ ของบิดาทำให้เด็กหญิงที่กำลังเริงร่ากับชัยชนะสีหน้าสลดลง
“เปล่านะคะคุณพ่อ หวานแค่ไม่อยากเล่นของพวกนั้น เลยยกให้ภูมิเล่น” เด็กหญิงแก้ต่างให้ตัวเอง ปรายตามองกองตุ๊กตาที่สวมกระโปรงฟูฟ่องในมือเพื่อนเล่นวัยเดียวกัน
“อ้าว! ทำไมล่ะ เราขอให้พ่อซื้อให้เองนี่นา ไม่ถึง3วันเลย เบื่อแล้วเหรอ?”
ชายสูงวัยทรุดนั่งยองๆ มองเด็กชายวัยเดียวกันกับบุตรสาวแต่ขนาดตัวต่างกันเยอะ ภูมิผอมแกรน ผิวคลำ ในขณะที่หวานตาอวบจนเกือบถึงขั้นอ้วน สิ่งเดียวที่ทำให้บุตรสาวของท่านน่ามองคือดวงตากลมโต กับพวงแก้มยุ้ยๆ
“ของเล่นของภูมิน่าสนุกกว่านี่คะ” เด็กหญิงตอบเสียงอุบอิบ
เธอแย่งของเล่นมาจากเด็กชาย เมื่อตัวต่อเลโก้น่าสนุกกว่าการเล่นตุ๊กตาเป็นไหนๆ
“ไม่เป็นไรครับคุณลุง...ผมเล่นตุ๊กตาก็ได้” ภูมิไม่มีปัญหา ขอแค่มีเพื่อนเล่นก็พอ เขาชอบมองหวานตา เด็กหญิงมีความสดใส พลอยทำให้เขาสนุกไปด้วย
“เราหน่ะยัยหวาน รู้สึกชอบแกล้งเพื่อนคนนี้จังเลยนะ” ทวีทรัพย์ดุบุตรสาว
เท่าที่จับตามอง หวานตาชอบทำตัวข่มภูมิ ซึ่งเด็กชายก็ยอมลงให้ เขาไม่เคยขัดใจบุตรสาวของท่าน ทำตัวเหมือนเป็นลูกไล่ให้หวานตาชี้นำมาตลอด ทวีทรัพย์เกรงว่าจะไม่เหมาะ เขาคอยปรามหวานตา แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล หลายปีผ่านไปเด็กทั้งคู่ก็ยังเหมือนเดิม หวานตาหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนท่านเองก็คร้านที่จะกำหลาบ
“ภูมิอ่อนแอเองนี่คะ”
เด็กหญิงตอบเสียงใส แอบเบ้ปากให้กับคนที่ตัวเองพูดถึง
เด็กผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าเธอ ท่าทางอ่อนแอน่าแกล้ง เขาไม่เคยโกรธเธอเลยสักครั้ง ภูมิทำได้แค่ยิ้ม และยอมโอนอ่อนให้ หวานตาเลยทนคบ เพราะเพื่อนๆ คนอื่นให้ความสนิทสนมกับภูมิ แต่เธอเป็นลูกพี่เขา แสดงว่าตนเองเป็นหัวโจก
หวานตาอดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงความหลังตอนเป็นเด็ก
วันนี้เวลานี้เธอมีอายุ25ปีแล้ว มีงานทำและที่สำคัญมีแฟนแล้วด้วย วัยเด็กทั้งมีความสุข และสนุกจนในเวลาว่างๆ เธอก็เลยมานั่งรำลึกความหลัง ร้านกาแฟเล็กๆ บรรยากาศอบอุ่น มีแต่ต้นไม้กับดอกไม้ รอบตัวมีแต่กลิ่นหอมๆ แต่คนเป็นเจ้าของไม่ใช่ผู้หญิงรูปร่างบอบบางนะ เจ้าของร้านกาแฟนี้คือภูมิ บุตรชายคนเดียวของคุณภาคนั่นเอง
ชายร่างใหญ่ หุ่นเฟิร์มพอๆ กับนายแบบหนังสือปลุกใจ
ภูมิอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง เขาฝันมาตั้งแต่เด็ก ขนาดมีงานรัดตัว เขาก็ยังปลีกเวลามาเปิดร้านกาแฟแห่งนี้ เพื่อสนองกิเลสตัวเอง
‘Perfume coffee’
ชื่อร้านไม่ได้ตรงกับความหมายสักนิด เปิดร้านกาแฟ แต่ดันตั้งชื่อเหมือนร้านขายน้ำหอม
เธอเคยแย้งตั้งแต่ครั้งแรกที่ภูมิเปรยให้ฟัง พยายามท้วงหลายครั้ง เขาก็เอาแต่ยิ้ม หวานตาเลยคร้านที่จะคัดค้าน ร้านนี้เป็นของภูมิ ไม่ใช่ของเธอเสียหน่อย
“เฮียเธอไม่มาร้านวันนี้เหรอ?” สาวเสิร์ฟหน้าใส เป็นพนักงานในร้านเดินผ่าน หวานตาเลยถามหาตัวเจ้าของ
“เฮียงานยุ่งค่ะ วันนี้ไม่น่าเข้า”
หญิงสาวชะโงกหน้าเข้าไปมองด้านใน เศษซากขวดเหล้าเปล่าหล่นเกลื่อน ไม่เหมือนกับที่เธอสร้างภาพไว้ในใจ พื้นห้องระเกะระกะไปด้วยขยะและเศษบุหรี่ เธอเงยหน้ามองหมายเลขห้องซ้ำอีกครั้ง คนระเบียบจัดและไม่สูบบุหรี่อย่างภูมิ พอเปลี่ยนที่ เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอ “ไม่หรอกน่า...” หวานตาพึมพำพยายามคิดในแง่ดี เธอชะเง้อมองเข้าไปด้านในอีกครั้ง เริ่มไม่แน่ใจว่าตัวองตัดสินใจผิดหรือเปล่า... สายตาหวานตาสะดุดเข้ากับกระโปรงผ้าสีหวาน มันกองอยู่ที่พื้น ด้านข้างมีชั้นในผู้หญิงหล่นอยู่ใกล้ๆ หวานตากำมือแน่น กัดริมฝีปากล่างจนชา เธอสูดลมหายใจลึกๆ หมุนตัวเดินหนี เธอไม่ควรมาเพื่อรับรู้อีกด้านหนึ่งของภูมิเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หวานตาคิดว่าตัวเองตัดสินใจพลาด เธอควรรอให้เขากลับไป ไม่ใช่วิ่งโร่มาเจอความจริงที่น่ากลัว หวานตาหยุดเดิน เธอไม่เคยวิ่งหนีปัญหานี่นา ห
ไหนๆ ก็คันปากอยากหาเรื่องกัดใครสักคนแล้ว ไซม่อนนี่น่าจะเหมาะสุดสำหรับการลับฝีปากของเธอ ชลดาหัวเราะกิ๊ก “ไหมล่ะ พูดอะไรไม่พ้นตัวเอง ดีนะที่ชลขอดูผลตรวจเลือดก่อนแต่งงาน ไม่งั้นชลคงระแวงตัวเองจนตาย ชลกลัวเป็นเอดส์ค่ะ” “หวังว่าธามโตมาจะไม่ปากเสียเหมือนพ่อหรอกนะ” หลานชายของเธอจะต้องไม่สืบสานสันดานจากบิดาแย่ๆ อย่างไซม่อน หวานตาพยายามสอนให้ธามมองเห็นความไม่ดีในตัวบิดา ซึ่งหลานชายไม่ค่อยคล้อยตามเท่าไหร่ ธามติดพ่อมากกว่าแม่ คงเพราะไซม่อนมีเวลาดูแลลูกมากกว่าชลดานั่นเอง เขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการเลี้ยงบุตรชายเกือบทั้งหมดนี่ รายละเอียดเกี่ยวกับหอพักทวีทรัพย์รับหน้าที่จัดหามาให้ บิดายัดใส่มือก่อนขึ้นเครื่องไม่กี่นาที ตอนแรกหวานตาก็หวั่นๆ เธอจะต้องมาคลำหาทางเอาเองที่ลอนดอนเสียก็ไม่รู้ พอได้ที่อยู่ภูมิมาเลยโล่งใจไปหนึ่งเปราะ อย่างน้อยก็ช่วยร่นระยะเวลาในการเจอหน้าภูมิ
“คุณภูมิกินแต่อาหารจืดๆ เลยไม่รู้ว่าบนโลกใบนี้มีอาหารรสอื่นที่อร่อยมากกว่าสิ่งที่คุณเคยลิ้มรสมาค่ะ” “ผมเป็นคนรักสุขภาพครับ อะไรที่ก่อผลร้ายกับตัวเอง ผมเลยไม่อยากเอาตัวเข้าไปเสี่ยง” “คุณกำลังบอกโรซี่เหรอคะ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้น่ากลัวหรอกค่ะ ลองสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ” “ผมไม่ชอบลองอะไรที่ไม่มีประโยชน์ครับ เสียพลังงานเปล่าๆ แต่ไม่ได้คุณค่าอะไรกลับมาเลย” แค่นี้คงทำให้โรสิตาสำนึกได้บ้าง ในฐานะเพื่อนมนุษย์เขาก็ไม่อยากทำลายน้ำใจหล่อนมากนัก แต่ภูมิไม่รู้ มนุษย์บางคนก็ดื้อด้านเกินกว่าที่จะขุดรากที่หยั่งลึกได้ เหมือนโรสิตา หล่อนถลำลงไปในวังวนที่อยากไถ่ถอนตัวเองคืน คำปรามาสของภูมิเลยก่อให้เกิดความไม่พอใจ และหล่อนจะไม่มีวันถอย จนกว่าจะสยบภูมิให้ศิโรราบได้&nbs
มันเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับภูมิ แต่กลับเป็นเรื่องน่าสนุกของคนรอบตัว ภูมิรู้มีสายตาหลายคู่คอยสอดส่อง และรอดูบทสรุปเรื่องวุ่นวายในชีวิตเขา มีทั้งคนชื่นชมที่เขายึดมั่นในตัวเอง จนไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งลวงล่อที่โรสิตาพยายามสร้าง ชายหนุ่มถอนหายใจ หยุดปั่นจักรยาน เขาเหวี่ยงปลายเท้าลงยืนบนพื้น อิงจักรยานไว้กับพนักเก้าอี้เหล็กที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ “คิดถึงหวานจัง” เสียงพึมพำแผ่วหวิวปนเปไปด้วยความคิดถึง เวลาต่างกันหากเช้าที่ลอนดอน ที่ประเทศไทยคงดึกเอาการ หลายครั้งที่ภูมิห้ามใจตัวเองไว้ ไม่ติดต่อหาหวานตานอกจากเวลาที่กำหนด เขาอยากเห็นหน้า อยากได้ยินเสียง และก็เริ่มเห็นด้วยกับความคิดหวานตา ทั้งเขาและเธอต้องอดทน การจากกันครั้งนี้แค่ชั่วคราว ไม่ใช่ตลอดไป หากจะมีคนตะบะแตก ไม่หวานตาก็เขา
ริมฝีปากล่างถูกกัด มือหมุนปากกาในมือไปมา เรื่องนี้เธอควรมีตัวช่วย หากเก็บเงียบไว้แบบนี้คงอกระเบิดตาย ก่อนที่ภูมิจะกลับมา...เช้าวันใหม่... หวานตาแบกหน้าตาโทรมๆ ของตัวเองไปหาชลดาถึงบ้าน ชลดากับไซม่อนกำลังยุ่งกับการเลี้ยงบุตรชายวัยสามเดือนที่กำลังซนได้ที่ ขนาดเคลื่อนไหวเองไม่ได้ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วลั่นบ้าน พ่อแม่มือใหม่ที่กำลังหลงลูกชายเลยพากันหยุดงานเลี้ยงลูก หวานตาเพิ่งรู้ไซม่อนไม่ใช่นักข่าวกระจอกๆ เขามีเงินเก็บจากการเทรดหุ้น ไม่ทำงานสักสองสามปียังได้ นับว่าชลดาตาแหลม ได้สามีเงินถุงเงินถังไว้ดูแล ไซม่อนเลิกอาชีพเป็นนักข่าวแล้ว เขาเขียนบทความให้สำนักข่าวของเพื่อนสนิทเขาแทน มีรายได้พอเลี้ยงตัวได้ ไซม่อนเลยกลายเป็นพ่อที่เลี้ยงลูกชายเต็มตัว คงเพราะชลดาไม่สามารถวางมือจากการเป็นบรรณาธิการหนังสือแฟชั่นได้นั่นเอง ชลดาเลยเป็นฝ่ายที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่เพราะหลงลูก หมู
สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ถูกยื่นมาให้ภูมิคว้าเอาไว้ ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่รู้ เขาส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง “ทำไมคะ คุณไม่ชอบฉันเหรอ” ธรรมดาการปฏิเสธแบบสุภาพ จะทำให้ผู้หญิงมียางอายยอมถอย แต่สำหรับโรซี่แล้ว เธอเลยขีดจำกัดแบบนั้น เธอใช้ชีวิตในต่างแดนเกินหกปี ผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน ไม่เคยสะดุดตาใครเท่าผู้ชายตรงหน้า เขาดูละมุนน่าครอบครองจนห้ามใจไม่ได้เลย ภูมิแอบผ่อนลมหายใจ เขายอมให้โรสิตาเดินข้ามเส้นแบ่งที่ตัวเองกำหนดไว้ เพราะคิดว่าคุยภาษาเดียวกันแล้วจะรู้เรื่อง เขาแน่ใจว่าโรซสิตารู้ เขาไม่ใช่ผู้ชายโสด ถึงจะยังไม่แต่งงาน แต่ภูมิแน่ใจตัวเอง เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากหวานตาแน่ๆ “คุณกับผมมาจากถิ่นเดียวกัน ทำไมผมจะไม่ชอบคุณล่ะ” “มากกว่าชอบได้ไหมคะ โรซี่ไม่ถือ” โรสิตากระแซะต่อ
コメント