Share

ตอนที่11 เคสแปลก

last update Last Updated: 2025-06-14 11:21:06

วายุตรวจร่างกายชมชีวันคร่าวๆ เรียบร้อยก็ส่งต่อหญิงสาวมาที่ห้องทำงานของธีรภพ จิตแพทย์หนุ่มตี๋หน้าหยกราวกับพระเอกซีรีส์จีนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา

“เชิญนั่งก่อนครับคุณชมพู” มนตรามัจฉาเงยหน้ามองคนเป็นพี่ด้วยแววตาระแวงพอสมควร

ชื่นชีวาพยักหน้าให้น้องสาวนั่งลงตรงข้ามกับหมอหนุ่ม “ชมพูมีอะไรก็คุยกับคุณหมอได้ทั้งหมดเลยนะ เดี๋ยวพี่จะไปรอข้างนอก”

“ค่ะ”

“ฝากด้วยนะคะหมอภพ”

“ครับ”

เภสัชสาวออกจากห้องไปเรียบร้อย หมอหนุ่มก็หันมาสนใจหญิงสาวหน้าหวานที่กำลังนั่งทำหน้ากังวลอยู่ฝั่งตรงข้าม “ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนนะครับ ผมชื่อภพครับ”

“ฉันชื่อชมพูค่ะ แต่ว่า...” มนตรามัจฉาหยุดพูดกะทันหันเพราะจำได้ว่าชื่นชีวาให้เธอเข้าใจว่าเธอใช้ชื่อชมชีวัน

สีหน้าของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความกังวลทำให้หมอหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าเธอมีอะไรในใจเกี่ยวกับเรื่องชื่อของตัวเอง “มีอะไรพูดกับผมได้ทุกเรื่องเลยครับ คิดซะว่าผมเป็นเพื่อนของคุณคนนึงก็ได้ แล้วผมก็คิดว่าผมพร้อมจะเชื่อกับทุกอย่างที่คุณพูดด้วย”

“พูดได้ทุกเรื่องจริงเหรอคะ”

“ครับ คุณพูดออกมาได้ทั้งหมดเลยครับ” ธีรภพเริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นแววตาของหญิงสาวตรงข้ามเริ่มคลายความกังวล

“อันที่จริงฉันชื่อมนตรามัจฉาค่ะ นางไม้บอกกับฉันว่าฉันเป็นธิดาของเงือก”

“ครับ งั้นต่อไปนี้ผมจะเรียกคุณว่ามนตรานะครับ แต่ที่คุณกังวลตอนนี้ก็เพราะคนอื่นไม่เชื่อใช่ไหมครับ”

“ใช่ค่ะ แล้วฉันก็ได้ยินเสียงของคุณอัคคีด้วยนะคะ แต่ฉันไม่เห็นตัวของเขา”

“แล้วคุณมนตราได้ยินเสียงนั้นตอนไหนพอจะจำได้ไหมครับ”

“ตอนแรกที่ได้ยิน...”

หลังจากหญิงสาวเริ่มที่จะเปิดใจคุยกับจิตแพทย์หนุ่ม เธอก็เริ่มเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่อยู่ในใจอย่างไม่คิดปิดบัง ทางด้านธีรภพเองก็ดูจะสนใจเรื่องราวที่คนไข้ของเขาเล่าให้ฟังมากๆ เพราะน้อยครั้งนักที่จะเจอคนไข้ที่ใช้ชีวิตได้ปกติ แต่มีความเชื่อแปลกๆ นับว่าหากเขาสามารถรักษาให้หญิงสาวหายได้คงได้เป็นเคสกรณีศึกษาได้อีกหนึ่งเรื่อง

“กังวลเหรอครับ” ตั้งแต่ชื่นชีวาเข้าไปส่งชมชีวันในห้องของธีรภพ ผ่านไปจะเป็นชั่วโมงแล้วชื่นชีวาก็ยังนั่งไม่ติดเก้าอี้ ยังคงลุกเดินไปมาอยู่เป็นระยะ ทำไมเขาถึงจะดูไม่ออกว่าเภสัชสาวกำลังเครียด

“ค่ะ เข้าไปคุยกันตั้งนานแล้วนี่คะ บอกตามตรงนะคะว่าฉันกลัวชมพูกู่ไม่กลับ” เธอกลับมานั่งข้างวายุ สีหน้าของเธอแสดงออกถึงความอ่อนใจอย่างที่อีกฝ่ายเห็นได้ชัด ดีที่ได้พาชมชีวันมาหาหมอวันนี้ได้ ไม่เช่นนั้นคืนนี้เธอก็คงจะนอนไม่หลับ

“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับ”

“ก็คนไข้ส่วนมากที่ช็อคแล้วจำอะไรไม่ได้ อาการส่วนมากก็จะชอบเหม่อลอยหรือไม่ก็ใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้เลย แต่น้องสาวฉันใช้ชีวิตได้ปกติ ที่ไม่ปกติก็มีแค่ความจำ แถมสภาพร่างกายก็ยังปกติทุกอย่างอีก ฉันยอมรับว่าฉันเครียดกับอาการของชมพูจริงๆ ค่ะ จากคนที่แก่นแก้วจนฉันไม่เคยกังวลเรื่องการใช้ชีวิตของน้อง ตอนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วค่ะ”

“ผมยอมรับนะครับว่าเคสของคุณชมพูแปลกจริงๆ แต่ยังไงผมจะหาทางช่วยให้ได้ เพราะตอนนี้คุณชมพูก็เหมือนเป็นคนในครอบครัวของผมไปแล้วนะครับ” หมอหนุ่มยกมือแตะบ่าให้กำลังใจชื่นชีวา เขารู้ว่าเธอไม่ได้เป็นแค่พี่สาวของชมชีวัน ทว่าก็เป็นเหมือนแม่ของหญิงสาวด้วย

ความเจ็บป่วยของคนในครอบครัวทำให้เครียดแค่ไหนเขารู้ดี เพราะผ่านเหตุการณ์การสูญเสียหัวหน้าครอบครัวมาแล้ว ทั้งตอนนี้พี่ชายที่เป็นเสาหลักของบ้านก็ยังมาเจ็บหนักจนยังไม่สามารถออกจากห้อง ICU ได้อีก นับจากคนใกล้ตัวของชื่นชีวา เขาคิดว่าไม่น่าจะมีใครเข้าใจหญิงสาวเท่าเขาอีกแล้ว

“ไปหาหมอเขาว่าไงมั่งพี่ชบา” โชติรวีเข้ามาหาชื่นชีวาในห้องหลังจากเห็นพี่สาวกลับมาถึงบ้านได้พักใหญ่

“หมอภพกับหมอยุเห็นว่าอาการของชมพูเป็นเรื่องแปลก เธอไม่เหมือนคนไข้ความจำเสื่อมที่เกิดจากอาการช็อคคนอื่นๆ แล้วก็ไม่ใช่คนไข้ที่เป็นโรคหลายบุคลิกด้วย ตอนนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้ เพราะชมพูเพิ่งไปคุยกับหมอภพครั้งแรก หมอภพบอกว่าถ้าชมพูพูดอะไรก็ให้เออออเข้าใจตามนั้นไปก่อน ถ้าชมพูไม่ได้มีปัญหาในการเรียนรู้การใช้ชีวิตก็ไม่เป็นอะไร”

“เราเข้าใจพี่ชมพูก็จริง แต่คนอื่นล่ะ จะไม่คิดว่าพี่ชมพูบ้าเหรอ”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้อะไรจะเกิดก็ช่างมันเถอะ พี่เหนื่อยคิดแล้ว พี่คิดถ้าถ้าชมพูเข้าใจสิ่งที่เราสอนได้ง่าย อีกหน่อยก็กลับมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ เรื่องจำเรื่องราวเก่าๆ ได้หรือไม่ได้พี่ไม่ได้หวังอะไรมากแล้วล่ะ”

“อืม... แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าถ้าพี่ชมพูบอกว่าเห็นผีอีกผมจะไม่อยู่ใกล้ แล้วก็อย่ามาว่าผมด้วย”

“แกจะอะไรนักหนากับเรื่องที่ชมพูเห็นผี นั่นพี่แกนะ”

“ก็ผมกลัวนี่”

“บางทีชมพูอาจจะไม่ได้เห็นจริงๆ ก็ได้” ชื่นชีวายังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเรื่องที่น้องสาวไปคุยกับนางไม้เป็นเรื่องจริง ไหนจะเรื่องที่ได้ยินเสียงของผู้ชายมาคุยด้วย นั่นเธอก็คิดว่าชมชีวันอาจจะหูแว่ว

“ไม่รู้ แต่ผมคิดว่าพี่ชมพูพูดจริง” คนที่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ สิ่งลี้ลับอย่างเขา ไม่มีสักนิดที่จะไม่เชื่อในสิ่งที่พี่สาวคนรองพูด

“เออ...เรื่องของแกเหอะ”

บทสนทนาของสองพี่น้องในห้อง มนตรามัจฉาได้ยินทุกอย่างเต็มสองรูหู เพราะเธอเดินออกจากห้องมาเพื่อจะเข้าไปคุยกับชื่นชีวา ทว่าพอได้ยินว่าคนเป็นพี่ไม่ได้คิดจะเชื่อคำพูดของเธอ เธอก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรแล้ว

หญิงสาวในเดรสชุดนอนสีชมพูปล่อยผมยาวสยายเดินหน้าละห้อยออกมาหน้าบ้าน ก่อนจะมองตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ “ท่านอยู่ฤาไม่ ท่านสาลิกา”

“ข้าอยู่ตรงนี้”

มนตรามัจฉาพอจะฉีกยิ้มได้เมื่อเห็นนางไม้แสนสวยปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับชายผมขาวเปลือยท่อนบนและนุ่งโจงกระเบนสีขาว

“ท่านเป็นใครกันฤา ข้าเคยเห็นท่านในบ้านหลังเล็กนั่น” มนตรามัจฉาจำได้ว่าวันแรกที่เธอเข้ามาในที่แห่งนี้เธอเห็นผู้ชายตรงหน้าในตอนที่ยกมือไหว้ศาลเจ้าที่ตามชื่นชีวา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่16 ความทรงจำเจ้าของร่าง

    เงือกสาวยืนปั้นหน้าให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่รู้ว่าวีรกรรมของเธอจะไปถึงหูองค์ราชาและราชินีผู้ปกครองเมืองนี้หรือยัง“ท่านมิควรทำเยี่ยงนี้เลยเจ้าหญิง หากท่านยังคงทำเรื่องมิสมควร ข้าจักต้องรายงานท่านเจ้าเมือง”เมื่อความผิดถูกละเว้นเงือกสาวก็พอจะยิ้มออก จากนั้นจึงรีบคุกเข่าคำนับองครักษ์หนุ่มเป็นการขอบคุณ “ข้าขออภัย ข้าจักไม่ทำอีก”ร่างของรณจักรปักษาสลายหายไปกับอากาศ ตัวของเจ้านาคทะเลก็ลงมากองกับพื้นชมชีวันค่อยๆ เงยหน้าเปิดตาทีละข้างเมื่อรู้ว่ารณจักรปักษาไม่อยู่แล้วก็ทิ้งตัวนั่งกับพื้นด้วยสีหน้าโล่งใจ ก่อนจะหันไปขมวดคิ้วใส่เจ้านาคทะเลที่นอนหงออยู่ตรงหน้า“ไปทำยังไงให้จับได้ล่ะสามน”“ก็ข้ามิรู้ว่าท่านรณจักร จักเห็นข้าด้วย ข้ากลัวแทบตายเจ้าหญิงยังมิวายบ่นข้าอีกฤา” สามนสะบัดหน้าหนีเจ้านายตน เขากลัวจนแทบหยุดหายใจเมื่อถูกรณจักรปักษาดึงหลังคอขณะที่กำลังปีนป่ายตามหาปักษิณสิงขร“ข้าปลอบเจ้าก็ได้” ชมชีวันอุ้มเจ้านาคทะเลตัวกลมมากอดปลอบ ด้วยรู้ว่าตัวเองอยากรู้อยากเห็นจนลืมใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนตัวน้อยไป“ชิ...”“อย่างอนข้านักเลยน่า ข้าขอโทษ แล้วได้เห็นว่าที่สวามีข้าฤาไม่”“แค่ข้าย่างกายเข

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่15 เหมือนแม่มากจริงๆ

    ชมชีวันมาถึงตำหนักของชลามัจฉาก็วิ่งไปรอบตำหนัก เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่เป็นที่อยู่หลับนอนเท่านั้น แต่หลังตำหนักมีรากไม้ขนาดใหญ่ขดโอบล้อมเกิดเป็นบ่อน้ำสีฟ้าสวยและรอบๆ ก็มีไม้ดอกหลากสีสันเป็นที่น่ามองอีกด้วย“ข้าชอบสระน้ำนี้เจ้าค่ะท่านน้า ข้ามาหาท่านบ่อยๆ ได้ไหมเจ้าคะ”“เรือนหอของเจ้าจักมีเช่นกัน หลังเจ้าร่วมหอกับท่านปักษิณสิงขร รากไม้จากตำหนักจักขยายรากเกิดเป็นบ่อน้ำให้เจ้าได้แหวกว่ายยามคะนึงหาเมืองเกิดที่จากมา”“แต่ข้าอยากมาที่นี่” ที่พูดออกไปเมื่อครู่เพียงต้องการหาข้ออ้างมาอยู่ใกล้ชลามัจฉาเท่านั้น“ตามใจเจ้าเถิด”“ท่านพี่อยากมาหาข้าใช่ฤาไม่เล่า” มีนามัจฉาอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ด้วยรู้ว่าญาติผู้พี่ต้องอยากพาเธอไปหาอะไรทำสนุกๆ เช่นครั้งที่เธอกลับไปเยี่ยมเยียนถึงมหาสมุทรกว้างใหญ่แน่นอน ที่นั่นเป็นถิ่นของมนตรามัจฉา แต่ที่นี่เป็นถิ่นของเธอ มีหลายอย่างเลยที่เธออยากให้มนตรามัจฉาไปพบไปเห็นเหมือนกับสิ่งที่เธอได้เห็นในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล“ให้จำเอาไว้ว่าเจ้าจักพาพี่เจ้าซนมิได้แล้วหนา” ชลามัจฉาเหมือนจะรู้ทันว่าลูกสาวของเธอกำลังคิดอะไรจึงต้องเอ่ยปากปรามเอาไว้ก่อน เพราะหลังจากนี้มนตราม

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่14 เรียกให้ไปเข้าเฝ้า

    “พวกคุณ เอ่อ... พวกท่านเข้ามาในหอนอนของข้าได้ยังไง ข้ามิได้อนุญาตให้ใครเข้ามา” ชมชีวันจำได้ว่าทั้งสองเป็นนางรับใช้ของอชินีพารา ไม่เพียงแค่หน้าตาที่ไม่เป็นมิตร ทว่าสายตายังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นที่เจอกันคราแรกก็ยังเหมือนเดิม“ราชินีมีรับสั่งให้เจ้าหญิงเข้าเฝ้าในเพลานี้เจ้าค่ะ”“มีเหตุอันใดฤา”“มิทราบได้ พวกข้ามาเชิญเจ้าหญิงตามคำสั่งเท่านั้น จงไปกับพวกเราโดยดีเถิดเจ้าค่ะ”“เอ่อ...อืม” ชมชีวันรีบเดินตามทั้งสองไปแต่โดยดี เสียงเอ่ยเชิญของนางรับใช้นั้นแข็งไร้หางเสียงปานการออกคำสั่ง หากเธอคิดขัดขืนมีหวังอาจจะถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดหลังหักได้ ทว่าเรื่องที่ทำให้เธอร้อนๆ หนาวๆ มากกว่าความโหดของสายตานางรับใช้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ราชินีของเมืองนี้ให้ไปเข้าเฝ้า ไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร ทว่าก็ภาวนาในใจว่าอย่าให้เป็นเรื่องที่สามนถูกจับได้ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของเงือกสาวได้เลื่องลือเป็นที่เสียหายแน่ชมชีวันเดินก้มหน้าก้มตาตามนางรับใช้ทั้งสองมาพักใหญ่ จนกระทั่งเข้ามาถึงตำหนักใหญ่ที่อชินีพาราประทับอยู่ ในโถงใหญ่แห่งนี้แม้จะไม่ได้ต่างจากที่ที่เธอพักอาศัยมากนัก ทว่าที่แห่งนี้มีผ้าไหมสีประดับเป็นม่านตัดกับ

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่13 มหาอำนาจของป่าใหญ่

    ณ ใจกลางผืนป่ากว้างใหญ่อันเขียวขจีที่มีแม่น้ำสายใหญ่รายล้อมรอบเมือง เมื่อมีสายน้ำก็ย่อมมีชีวิต ที่นี่จึงเป็นเมืองที่เหล่าสรรพสัตว์อาศัยอยู่กันมากที่สุด พื้นที่แห่งนี้เรียกว่าเมืองปักษิณพารา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ราวกับต้นไม้ที่แกะสลักให้มีช่องว่างใหญ่โตพอที่จะให้สรรพสัตว์ได้ใช้อาศัยอยู่ได้อย่างสบายหลายแห่ง มีเจ้าเมืองปกครองนามว่า นครินทร์คีรีผู้เป็นราชานกยักษ์ ร่วมกับราชินีอชินีพาราผู้เป็นบุตรีของอดีตเจ้าเมืองพยัคฆาอาณาเขตการปกครองของเมืองปักษิณพารากว้างใหญ่ไพศาล เพราะเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรมากมายที่ชุบเลี้ยงชีวิตของเหล่าสรรพสัตว์ในป่าใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระอิศวรและครุฑชั้นปกครองได้ช่วยกันสร้าง จึงเป็นที่น่าเกรงขามกับสรรพสัตว์ทุกเผ่า เรียกได้ว่าเป็นเมืองนี้เป็นมหาอำนาจของป่าใหญ่นี้ก็ว่าได้เงือกสาวสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดกระโปรงสั้นเหนือเข่ามีเข็มขัดที่ทำจากไข่มุกคาดเอวให้เห็นทรวดทรงเดินเข้ามานั่งหน้ามุ่ยตรงข้ามกับเจ้านาคทะเลตัวน้อยที่กำลังสวาปามปลาดิบอย่างเอร็ดอร่อยต่อหน้าของเธอ“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เลยสามน สัตว์หลายตนที่นี่ด

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่12 เรียกทุกอย่างว่าผี

    “ข้าเป็นเจ้าที่” ชายผู้มีหนวดเคราและเรือนผมสีดอกเลาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุม“ท่านศร เป็นเจ้าที่ที่นี่ก่อนที่ข้ามาอยู่ในต้นไม้นี้เสียอีก” สาลิกาเอ่ยชื่อของท่านเจ้าที่ที่แสนใจดีที่อนุญาตให้วิญญาณที่ไม่มีที่ไปอย่างเธอมาอาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่เมื่อแปดสิบกว่าปีก่อน“อย่าไปบอกคนอื่นว่าเห็นข้าล่ะ เดี๋ยวพวกเขาจักพาลกลัว” ท่านศรเอ่ยย้ำกับเงือกสาวเพราะเขาพอจะรับรู้ได้ว่าสองพี่น้องกลัวแค่ไหนเมื่อได้ยินมนตรามัจฉาบอกว่าคุยกับนางไม้ได้“ทำไมฤาท่าน” มนตรามัจฉายังคงมีสีหน้าฉงน สิ่งที่เธอเห็นและพูดออกไปเป็นความจริงทั้งนั้น ทำไมคนอื่นถึงต้องกลัว“สิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ผู้คนเหล่านั้นเรียกทุกอย่างว่าผี”“พวกท่านก็ถูกผู้คนเรียกเช่นนั้นฤา”“จะเรียกว่าเจ้าที่ นางไม้ หรือวิญญาณก็มิต่างจากความหมายนั้น”“มิน่า วีถึงได้มีอาการกลัว พี่ชบาก็เรียกสิ่งที่ข้าเห็นว่าผี พวกเขาทำเหมือนเข้าใจข้า แต่สุดท้ายก็มิใช่” พูดมาถึงตรงหน้าสีหน้าของหญิงสาวก็ห่อเหี่ยวลง“เจ้าอย่าถือโทษโกรธใครที่ไม่เชื่อเจ้าเลย โลกมนุษย์นี้ ผู้คนจักเชื่อทุกอย่างที่ตาของพวกเขามองเห็น ส่วนเจ้าที่มองเห็นพวกข้าก็เพราะพวกข้าอยากให้เห็นเท่านั้น เจ้าจงใช้ชี

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่11 เคสแปลก

    วายุตรวจร่างกายชมชีวันคร่าวๆ เรียบร้อยก็ส่งต่อหญิงสาวมาที่ห้องทำงานของธีรภพ จิตแพทย์หนุ่มตี๋หน้าหยกราวกับพระเอกซีรีส์จีนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา“เชิญนั่งก่อนครับคุณชมพู” มนตรามัจฉาเงยหน้ามองคนเป็นพี่ด้วยแววตาระแวงพอสมควรชื่นชีวาพยักหน้าให้น้องสาวนั่งลงตรงข้ามกับหมอหนุ่ม “ชมพูมีอะไรก็คุยกับคุณหมอได้ทั้งหมดเลยนะ เดี๋ยวพี่จะไปรอข้างนอก”“ค่ะ”“ฝากด้วยนะคะหมอภพ”“ครับ”เภสัชสาวออกจากห้องไปเรียบร้อย หมอหนุ่มก็หันมาสนใจหญิงสาวหน้าหวานที่กำลังนั่งทำหน้ากังวลอยู่ฝั่งตรงข้าม “ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนนะครับ ผมชื่อภพครับ”“ฉันชื่อชมพูค่ะ แต่ว่า...” มนตรามัจฉาหยุดพูดกะทันหันเพราะจำได้ว่าชื่นชีวาให้เธอเข้าใจว่าเธอใช้ชื่อชมชีวันสีหน้าของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความกังวลทำให้หมอหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าเธอมีอะไรในใจเกี่ยวกับเรื่องชื่อของตัวเอง “มีอะไรพูดกับผมได้ทุกเรื่องเลยครับ คิดซะว่าผมเป็นเพื่อนของคุณคนนึงก็ได้ แล้วผมก็คิดว่าผมพร้อมจะเชื่อกับทุกอย่างที่คุณพูดด้วย”“พูดได้ทุกเรื่องจริงเหรอคะ”“ครับ คุณพูดออกมาได้ทั้งหมดเลยครับ” ธีรภพเริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นแววตาของหญิงสาวตรงข้ามเริ่มคลายความกังวล“อั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status