Share

จูปแรก Frist kiss

last update Last Updated: 2025-03-25 18:41:23

{Unna part}

พรุ่งนี้เป็นวันหยุดช่วงสุดสัปดาห์ ฉันจึงขอพ่อกับแม่ไปเที่ยวผับกับพี่อุลตร้า  ซึ่งเจ้าของที่นั่นเขาชื่อว่าพี่โจอี้ และมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าจุดของพวกเรา...ถึงแม้พี่โจอี้จะเปิดร้านเหล้าแต่เขาก็เป็นคนดี และมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับคนที่แย่กว่าเสมอ

พี่โจอี้มักจะนัดหมายลูกข่ายทุกคนที่อยู่ในทีม ให้มารวมตัวกันที่นี่เป็นประจำ เจ้าของผับจัดทำห้องพิเศษเอาไว้สำหรับใช้ประชุมเรื่องงาน เกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงทั้งหลาย ในการออกเหตุของจิตอาสากู้ภัยในแต่ละครั้ง อีกทั้งยังต้องการให้ทุกคนหลีกเลี่ยงอันตราย ในขณะที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น

หลังจบการประชุม ทุกคนต่างพากันแยกย้าย ส่วนฉันกับพี่ชายได้ชวนกันมานั่งฟังเพลงสบายๆ อยู่มุมหนึ่งของร้าน และหลังจากนั้นไม่นาน สายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีใบหน้าสะสวย แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ค่อนข้างจะเซ็กซี่ แถมยังหุ่นดีอีกต่างหาก และที่สำคัญมากไปกว่านั้น นางได้โบกมือเชิญชวนมาให้พี่ชายของฉัน...

และมันก็ได้ผลดี...              

“ เดี๋ยวพี่มานะ แกนั่งรอพี่ตรงนี้อย่าไปไหน..หรือจะให้พี่ไปส่งแกที่บ้านก่อนดีมั้ย? ”

“ พี่จะไปไหนก็ไปเถอะไป๊ ฉันจะนั่งฟังเพลงรอพี่อยู่ตรงนี้นี่แหละ ”

ฉันบอกเชิงออกปากไล่พี่ชายตัวดี และเขาก็ทิ้งน้องสาวอย่างฉันทันทีเลยเหมือนกัน   

แล้วมาทำเป็นพูดกรอกหูฉัน ว่าผู้ชายไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ คงจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะทำได้ ไม่ทันไรพี่ชายก็ลืมน้องของตัวเองเสียแล้ว

“ไง...ถูกพี่ชายทิ้งไปป้อสาว...”

ตองเก้าแกล้งแซว แล้วหย่อนก้นลงนั่งอย่างถือวิสาสะ ขณะเลื่อนสายตาไปมองพี่ชายของฉัน ที่กำลังนั่งอยู่ในวงล้อมของผู้หญิงเหล่านั้น

ฉันนั่งคอแข็งเกร็ง อีกทั้งยังแสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน ว่ามองไม่เห็นคนตัวใหญ่

“ ฉันลดตัวลงมาพูดด้วย เธอไม่มีสิทธิ์เมินฉันนะ ”

ตองเก้าเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง แต่สิ่งที่แสดงออกทางสีหน้า ดูก็รู้เลยว่าเขากำลังหงุดหงิด แล้วคิดเหรอว่าฉันจะสนใจ

“ ใครขอไม่ทราบ? แล้วเคยบอกหรือไงว่าอยากจะเสวนาด้วยน่ะ ”  

“ ไม่มีผู้หญิงคนไหน กล้าปฏิเสธฉัน ”

“ งั้นเหรอ.." ฉันลากเสียงยาวเชิงกวนกลับไปก่อนจะพูดต่อจากนั้นว่า "นายวิเศษมากหรือไงฮะ! ”

หมับ!

“ เดี๋ยวก็รู้...มานี่เลย ”

ตองเก้าลุกขึ้นยืน พร้อมกับคว้าข้อมือแล้วดึงขึ้นมาจากเก้าอี้ และพยายามที่จะลากฉันออกไป

“ นายจะทำอะไร? นายจะพาฉันไปไหน? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!...พี่...อุ๊บ! อื้อๆ”

ฉันพยายามขัดขืนดิ้นรน และเรียกคนเป็นพี่ชายให้มาช่วย  แต่กลับถูกปิดปากด้วยฝ่ามือใหญ่ และถูกรวบเอวเอาไว้ พร้อมกับลากให้ตามกันออกไป ทางมุมมืดของร้านที่อยู่ด้านนอก บอกได้เลยว่าตอนนี้ ฉันกำลังกลัวตองเก้ามากที่สุด เพราะไม่สามารถจะหยุดเขาได้

ส่วนคนเป็นพี่ชายก็ไม่สนใจ หรือเป็นห่วงเป็นใยน้องสาว  เพราะเขากำลังเริงร่าอย่างมีความสุข อยู่กับพวกผู้หญิงเหล่านั้น โดยไม่รู้ว่าฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย  

ตองเก้าอาจจับฉันไปข่มขืน แล้วฆ่าให้ตายเพื่อปิดปาก  มันไม่มีอะไรยาก หากว่าเขาอยากจะทำอย่างนั้น...

พ่อจ๋าแม่จ๋า ได้โปรดช่วยอันนาด้วยเถอะ!

ตองเก้าอุ้มฉันพาดบ่าจนมาถึงรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งฉันทั้งทุบ ทั้งหยิก ทั้งตีเขาเท่าที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ แต่มันก็ไม่เป็นผล  จนเขาจับฉันยัดเข้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ ก่อนจะพาตัวเองตามเข้ามาจับยึดฉันไว้อีกที

“ ไปที่ซุ้ม ”

เขาสั่งคนขับ ที่สตาร์ทรถรออยู่เหมือนรู้กัน นี่แสดงว่าเขาตั้งใจมาจับตัวฉันอย่างนั้นเหรอ ทำไมตองเก้าถึงได้กล้าท้าทาย และทำตัวอยู่เหนือกฎหมายขนาดนั้นกันละ

“ ไอ้บ้า ไอ้สารเลว ฮื่อๆ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ”

ฉันทั้งทุบ ทั้งกัด ทั้งดึงสารพัดเท่าที่จะทำเขาได้ ส่วนเขาก็โวยวาย ขณะรวบข้อมือของฉันไพล่หลัง

“ยัยบ้าเอ้ย..หยุดกัดฉันสักทีสิวะ  โอ้ย! เจ็บนะโว๊ย!! ”

ฉันขัดขืนดิ้นรนจนหอบเหนื่อย ก่อนจะเริ่มหมดแรงลงไปเรื่อยๆ แต่ฉันก็ยังปากเก่ง ทั้งที่ในใจกำลังรู้สึกเกรงกลัว ภัยที่กำลังเกิดกับตัวนี่เหลือเกิน

“ ไอ้ชาติชั่ว ไอ้สารเลว ไอ้คนใจบาปหยาบคายใจทราม   ฮื่อๆ อย่าข่มขืน แล้วฆ่าฉันนะ! ”

ตองเก้าเกือบหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ฟัง ทั้งอย่างนั้นเขาก็ต้องรีบกลั้นมันเอาไว้ ก่อนจะโต้เธอกลับไปว่า

"แค่ฉันทิ้งสายตา ผู้หญิงที่สวยมากกว่าเธอตั้งหลายเท่า ก็แทบจะแก้ผ้าถ่างขารอให้ฉันเอา ตัวของเธอเท่านี้คงไม่พอให้ฉันขยี้ แล้วฉันก็ไม่เห็นว่าเธอจะมีอะไรที่เร้าใจฉันได้ นมก็แบนแต๊ดแต๋ยังกับฝาบ้าน แล้วไอ้นั่นมันก็น่าจะเล็กระจี๊ดเดียว คงไม่พอทำให้ฉันเสียวเหอะ!"

"ไอ้เหี้ยเก้า!ไอ้ปากหมา!"

“ ถ้าด่าฉันอีกคำนะ ฉันจะ…”

“ ไอ้..อื้อ ”

คำด่าต่อจากนั้นของฉันได้ถูกกลืนลงท้อง เมื่อริมฝีปากของฉันถูกครอบครองด้วยริมฝีปากของอีกคน จนทำให้สติสัมปชัญญะของฉัน ดับวูบลงไปในวินาทีนั้น...

อร้าย!....จูบแรกของฉัน มันต้องไม่ใช่กับผู้ชายคนนี้เซ่!

{End part}

                                               

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 2 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    [ตองเก้า...จากต้นไทรวอสองเปลี่ยน]ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองดังมาแต่ไกล แต่เป็นความรู้สึกที่คลับคล้ายกับกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น...แล้วผมก็พยายามฝืนที่จะลืมตา[ไอ้เก้า!...มึงมัวทำห่าอะไรอยู่วะ...ทำไมมึงถึงไม่พาน้องมันมาสักที..กูกับหลินนั่งรอพวกมึงมาชั่วโมงกว่าๆ อีกสิบห้านาทีถ้ามึงยังไม่มา หลินบอกว่าจะไปหาอันนาที่เต๊นแล้วนะเว้ย]เสียงของไอ้ต้น! ที่เป็นคนเรียกชื่อผมดังออกมาจากวิทยุสื่อสาร นั่นจึงทำให้ผมรีบหันไปคว้ามันมากดคีย์รับ"เออโทษทีว่ะ...อากาศกำลังดีมันเลยทำให้กูเผลอหลับไปพร้อมกับอันนา"[ มึงคิดว่ากูไม่รู้เลยงั้นสิ...ไอ้สันดาน ]"เออตามนั้น...ในเมื่อมึงรู้แล้วจะถามกูทำไม...บอกหลินด้วยว่าไม่ต้องมาเพราะกูกับอันนากำลังจะไป"ผมรีบตัดบทสนทนา ก่อนหันมองอันนาที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี"ไอ้ต้นมันเรียกวิทยุตามเราสองคนน่ะ" ผมบอกเจ้าของใบหน้าน่ารัก ก่อนก้มลงไปจุ๊บริมฝีปากของเธอทีหนึ่ง ซึ่งมันยังไม่น่าจะพอเพราะเมื่อผมผละออกมา อันนาก็รั้งต้นคอของผมให้ลงไปจูบกับเธออีกครั้งก่อนจะผละออก"ต่อกันไหม?...ฉันจะได้วิทยุบอกไอ้ต้นมันว่า ให้พาหลินไปเดินเที่ยวที่งานดนตรีกันก่อนไม่ต้องรอ""ขืนต่ออีกที ฉันคงได

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 1 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    วันสิ้นปี ณ.ที่เขาใหญ่{Unna part}เนื่องจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเราสองคนมากมาย จึงเป็นเหตุที่ทำให้การจัดกิจกรรม ของชมรมวิศวะไฟฟ้าคราวนั้นต้องถูกยกเลิกกลางคัน และหลังจากที่ทุกคนปรับความเข้าใจกันได้ ตองเก้าจึงจัดทริปเค้าดาวน์ที่เขาใหญ่เพราะเจ้าตัวเขาต้องการเอาใจฉันนั่นเองอยากรู้ใช่ไหมละ ว่าทำไมฉันถึงเลือกเค้าท์ดาวน์ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่แห่งนี้..นั่นเป็นเพราะที่นี่มีงานลานดนตรีที่ถูกจัดขึ้นทุกปี แต่ฉันไม่เคยมีโอกาสได้มาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้เลยสักครั้งซึ่งในบริเวณงานดังกล่าว จะมีพื้นที่ประมาณราวหนึ่งตารางกิโลเมตรเห็นจะได้ บริเวณด้านในจะประกอบไปด้วยเวทีต่าง ๆ ที่เอาไว้สำหรับให้นักร้องทั้งหลายขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตให้คนที่ตั้งใจมาในงานนี้ได้ฟัง ซึ่งแต่ละเวทีก็ยังแยกประเภทของดนตรีแต่ละแนวอย่างเช่น Jazz Pop Rock หรือลูกทุ่ง กระทั่งรำวงย้อนยุค รวมไปถึงการระเล่นต่างๆ อย่างมากมายที่นี่จึงเป็นเสมือนจุดศูนย์กลางให้คนที่มีดนตรีในหัวใจได้มารวมตัวกัน เพราะมีเหล่าบรรดาศิลปินในดวงใจหลากหลาย ที่เราจะได้เห็นพวกเขามารวมตัวกันที่นี่นั่นเองและจุดที่เราเข้าพักก็จะอยู่ใกล้กับสถานที่ที่จัดงานลานดนตรี ซึ่งฉ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ตีตราจอง (จบ)

    "ไม่ให้กลับ!...โอ๊ย!"ตองเก้าร้องเสียงดัง พลางทำหน้าแหยเพราะคงเจ็บแผลจากการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้กำลังแขนของตัวเองมากเกินไป"ฉันบอกนายแล้วเห็นมั้ยว่าอย่าขยับ!..." ว่าแล้วฉันก็ค่อยๆ ประคองร่างใหญ่ให้นอนลงไปที่เดิม"ฉันไม่กลับแล้วก็ได้... ฉันขอโทษความจริงฉันไม่น่ายั่วให้นายโกรธเลย...เจ็บมากมั้ย?""เจ็บมาก..." เจ้าตัวพูดว่าเจ็บแถมยังเบะปาก จนฉันอยากจะขำพรืดออกมาเมื่อเห็นหน้าตาของเขา"สามวันที่เราไม่ได้เห็นหน้ากัน ทำฉันคิดถึงเธอมาก...จูบหน้าผากฉันหน่อยได้ไหม?"ตองเก้ากำลังอ้อนฉันด้วยการใช้คำพูดหวานๆ และมันก็ทำให้ฉันใจอ่อนกับเขาอีกตามเคย"แค่หน้าผากเองเหรอ?" ฉันถามขณะโน้มหน้าลงจูบหน้าผากตามที่เขาร้องขอ จากนั้นจึงถามเขาต่อว่า"พอไหม?" แต่ฉันไม่ได้รอคำตอบอะไร เพราะฉันค่อยๆ จูบไล่จากหน้าผากลงมาจนถึงริมฝีปากของเขา แต่จูบแค่เพียงเบาๆ"เอาอีก..."เห็นไหมละ...ว่าพอเจ้าตัวได้คืบก็จะเอาศอก ฉันจึงได้บอกเขาออกไปว่า..."พอก่อนนะ เพราะตอนนี้ฉันมีเรื่องที่จะถามนาย.." ฉันว่าพลางหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม"เรื่องอะไร?"“แหวนของนะโม อยู่กับแม่นายใช่ไหม ฉันอยากขอเอาไปคืนให้เขา”“อยู่ที่เอวา เอวาอาสาว่าจะเ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ผู้หญิงสายรุก

    ฉันหยุดยืนอยู่หน้าห้องพิเศษของตองเก้าพลางสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนหันไปมองหน้าของนะโมเพื่อขอกำลังใจนะโมพยักหน้าให้พร้อมกับยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเชิงต้องการขออนุญาตคนที่อยู่ด้านใน แต่ฉันยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไป เมื่อคนที่อยู่ด้านในกลับเป็นฝ่ายเปิดออกให้เอง“อันนา!...อันนามาแล้วค่ะแม่”เอวาร้องลั่นราวกับดีใจนักหนาเมื่อเห็นว่าเป็นฉัน ก่อนหันไปบอกคนเป็นมารดาที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับบิดาของเธอเรายกมือขึ้นไหว้พวกท่านพร้อมกัน และเมื่อเห็นว่าท่านรับไหว้ฉันกับนะโมจึงเดินตามหลังเอวาไปนั่งด้วยกันที่โซฟา แต่ทว่า..อยู่คนละฝั่ง และฉันเป็นคนที่ได้นั่งอยู่ตรงกลางทุกคนในครอบครัวของตองเก้ารู้เรื่องราวของนะโมทุกอย่าง โดยผ่านการบอกเล่าจากฉันเมื่อสามวันที่ผ่านมา"เราใช่ไหมที่มีชื่อว่านะโม?..."แม่ของเอวาเลื่อนสายมาที่นะโมตอนถาม เพราะเมื่อสามวันก่อนตอนที่พวกเราอยู่โรงพยาบาล พวกท่านยังไม่ทันได้สังเกตใคร นอกฉันกับคนเป็นลูกชายของท่านเท่านั้น"ครับ.." นะโมตอบกลับสั้นๆ พอได้ยินอย่างนั้นท่านจึงได้พูดกับเขาในประโยคต่อไปอีกว่า"ครอบครัวของเราขอขอบใจเธอมากนะ ที่ได้ช่วยชีวิตลูกชายของเราไว้ แล้วยังพาเขามา

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   พ้นขีดอันตราย

    เวลาแต่ละนาทีที่ผ่านไปทำให้ฉันรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน จากชั่วโมงหนึ่งกลายเป็นสองสามสี่ และในชั่วโมงที่ห้านั่นเองที่ฉันได้เห็นร่างของหมอใหญ่เปิดประตูออกมา แล้วบอกกับพวกเราทุกคนว่า“คนเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้วครับ”ทุกคนเฮโลลั่นโรงพยาบาลประสานเสียงกัน จนถูกคุณหมอดุเข้าให้นั่นแหละถึงได้พากันเบาเสียงลงฉันเห็นคนเป็นพี่ชายพลอยดีใจร่วมไปกับคนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของทั้งสองคน มันยังคงไม่จืดจางฉันคิดว่าอย่างนั้นพี่อุนเดินมาโอบไหล่ฉันเชิงให้กำลังใจ ขณะเดียวกันก็ดึงฉันเข้าไปกอด ก่อนจะผละออกมาพูดว่า“แกกลับไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ดูเสื้อผ้าของแกมีแต่เลือดอยู่เต็มไปหมด หมอบอกว่าไอ้เก้ามันพ้นขีดอันตรายแล้ว เราแค่รอให้มันฟื้นหมอถึงจะอนุญาตให้เราเข้าเยี่ยมมันได้"หลังจากที่พี่ชายบอกฉัน หลินซีก็เข้ามาพูดในทำนองเดียวกัน“ฉันก็คิดแบบพี่อุลนะ แกกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ มอมแมมเป็นลูกหมาเลย”ฉันรับฟัง แต่ยังไม่ขยับไปไหน เนื่องจากฉันกำลังสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาใครบางคน“หลิน... นะโมละเขาไปไหน แกเห็นเขาไหม?” ฉันเอ่ยถามเอากับเพื่อนสนิทเพราะคิดว่ามันน่าจะรู้ดี“นะโมกลับไปเอารถที่ห้าง

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   แหวนของใคร?

    เราสองคนช่วยกันพยุงตองเก้าให้นอนราบไปกับพื้นรถทางด้านหลัง และนะโมยังจับดูชีพจรของตองเก้าอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยที่เราสองคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลยนะโมเปิดกระเป๋าร่วมยาแล้วล้วงเอาผ้าก๊อต มาปิดปากแผลให้ตองเก้าที่ด้านหน้า จากนั้นเราจึงช่วยกันพลิกร่างหนาเพื่อทำแผลให้เขาที่ด้านหลังเจ้าตัวทำหน้าแหยทุกครั้งนั่นแหละแต่ทว่ากลับไม่มีเสียงร้อง ผิดกับฉันที่มีน้ำตาไหลนองออกมา โดยไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดไหลได้สักทีเมื่อปฐมพยายาบาลเบื้องต้นให้คนเจ็บเสร็จสรรพ ฉันจึงแจ้งทางศูนย์กลับไปว่า เราได้นำตองเก้าขึ้นรถกู้ชีพของเขาไปส่งโรงพยาบาลให้เอง โดยสั่งการให้ศูนย์ช่วยประสานกับทางโรงพยาบาลว่าให้เตรียมทุกอย่างไว้รอพอได้ยินเสียงฉัน พี่อุลจึงขึ้นความถี่เรียกขาน ทั้งอย่างนั้นเวลานี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็ช่างมันฉันไม่แคร์ เพราะฉันสนแค่คนที่อยู่ในอ้อมแขนของฉันในตอนนี้เท่านั้นเองนะโมให้ฉันเอาผ้าสะอาดที่มีในกระเป๋า กดทับบาดแผลของตองเก้าเอาไว้อีกชั้น เพื่อกันไม่ให้เลือดไหลออกมามาก จากนั้นเขาจึงใช้ผ้าด้ายดิบผืนใหญ่ที่มีไว้สำหรับห่อคนตาย แต่มันยังไม่ผ่านไช้งาน มาห่มให้ตองเก้าเพราะเราไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status