์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก

์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก

last updateLast Updated : 2025-05-13
By:  Sweet_MoonUpdated just now
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
65Chapters
8views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

วันนั้นเป็นวันที่ฉันได้เจอกับเขา ‘คุณองศา โยคินวาณิชย์สกุล’ ผู้ชายที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่างทั้งที่เขาอันตราย ฉันก็พร้อมจะเดินไปกับเขา ทั้งที่เขาเป็นคนลึกลับ ฉันก็พร้อมที่จะเชื่อใจเขา...

View More

Chapter 1

Nevermind :: INTRO [100%]

Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก

คำเตือน :: เนื้อหาของนิยายเรื่องนี้มีตัวละครบุคคลที่สามมีอาการ PTSD อาการทางจิตเภทหลังจากประสบพบเจอกับ

เหตุการณ์สะเทือนใจ และนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงแค่เรื่องสมมุติและจินตนาการของผู้เขียน บางฉากอาจจะมีเนื้อหารุนแรง

โปรดใช้วิจารณญาณให้การอ่านนิยายเรื่องนี้

Because her life belongs to me.

There's no way she can escape from me...

INTRO

           “เรื่องส่งของเป็นไงบ้างนนท์”

“ผ่านไปได้ด้วยดีครับคุณองศา ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ดีมาก กูจะไปคาสิโนสักหน่อย ใกล้ได้เวลาต้อนรับแขกคนสำคัญละ”

‘องศา โยคินวาณิชย์สกุล’ นี่คือชื่อของผม อายุอานามก็ 32 ปีเต็มวันนี้ ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นวันเกิดที่ผมไม่ค่อยได้แคร์สักเท่าไหร่ ผมเกิดวันที่ 1 มกราคม 19xx ผมเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลโยคินฯ ที่เป็นถึงตระกูลร่ำรวยติดอันดับของประเทศ มีกิจการและธุรกิจมากมาย เมื่อก่อนพ่อของผมเป็นหัวหน้ามาเฟียมาก่อนและนั่นทำให้ผลพวงจากรุ่นพ่อมาสู่รุ่นผม

แน่นอนว่าผมทำงานบริษัทด้านธุรกิจนำรถเข้ามาจากต่างประเทศ ตามออร์เดอร์ที่คนรวยสั่งก็จัดมาให้... และธุรกิจอีกอย่างหนึ่งของผมคือ ‘คาสิโน’ ใช่ ธุรกิจนี้ทำเงินให้ผมมากมายมหาศาล ทว่าคาสิโนของผมพ่อไม่เคยเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมจะทำ เป็นการทำอย่างผิดกฎหมายและผมบอกพ่อว่า ‘ไม่ทำก็ได้ครับ’ ซะที่ไหนกันล่ะ ผมแอบเปิดแบบลับๆ โดยที่พ่อกับแม่ไม่รับรู้ ไม่เห็นและไม่ได้ยิน เพราะคาสิโนเป็นสิ่งเดียวทำให้ผมมีเงินมากมาย เพียงแค่ขายรถมันจะได้ค่า % สักเท่าไหร่กันเชียว

ผมออกจากบริษัทรถกระชับเสื้อสูทสีดำและปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวข้างในลงสองเม็ด เห็นถึงรอยสักตรงแผงอกลากยาวเป็นคำว่า ‘01.01.19xx’ ต่อท้ายด้วย ‘Ongsa Yokin Vanichsakul’ เป็นตัวภาษาอังกฤษแบบตวัด นอกจากรอยสักตรงแผงอกตรงแขนขวา หลังมือทั้งขวาซ้าย,แผ่นหลังและลำคอ บนร่างกายของผมมีแต่รอยสักทั้งนั้น แม้ว่าพ่อแม่จะรู้สึกเหมือนว่าผมเป็นพวกที่ไม่เหลือพื้นที่สำหรับให้เห็นเนื้อหนังมังสาก็ตามที เนื่องจากผมเป็นพวกที่ชื่นชอบรอยสักเอามากๆ เมื่อก่อนตอนเรียนมหาลัยก็สักอยู่แล้ว แต่ก็มาสักเพิ่มอีกเช่นตรงลำคอหรือท้ายทอย หน้าท้องมีรอยถูกมีดฟัน ไม่ขอบอกนะว่าผมได้มันมายังไง ออกมาถึงหน้าบริษัทผมก็ได้แต่ขมวดคิ้วเพราะเห็นผู้คนเดินไปมาเยอะพอควร

“ทำไมคนเยอะแบบนี้วะ?” หันไปถามนนท์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ผมเท้าเอวและมองคนที่เดินสวนผมไปเหมือนกับว่าเป็นเพียงอากาศธาตุ อีกส่วนก็มองด้วยสายตาที่หลงใหล

“น่าจะมีงานนะครับ ในห้าง” ด้วยเพราะบริษัทตั้งอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าและพวกร้านค้าที่เป็นแบบตึกล็อกตรงข้าม ก็อาจมีส่วนนะเพราะบริษัทที่ผมเข้ามาเป็นเพียงแค่โชว์รูมรถเท่านั้น ไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้น แต่รถในโชว์รูมรวมกันเป็นร้อยล้านจะบอกให้ ผมล้วงกระเป๋าหยิบสมาร์ทโฟนสุดหรูสีน้ำเงินด้านขึ้นมาต่อสายหาคนของตัวเองที่อยู่คาสิโนว่าให้ต้อนรับแขกคนสำคัญทีเนื่องจากผมคงไปไม่ทันแน่รถติดเป็นหางว่าวแบบนี้

“มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป”

“ครับคุณองศา” นนท์ลูกน้องคนสนิทและเป็นคนเดียวที่ผมมอบงานสำคัญให้ทำแทนเสมอ นนท์เป็นหนุ่มวัยยี่สิบห้าปี ผมเจอกับนนท์ได้ก็เพราะว่าหมอนั้นมันกำลังหางานทำอยู่ ไม่ใช่แค่คนธรรมดาแต่นนท์เก่งเรื่องการต่อสู้และเก่งเรื่องธุรกิจ แค่สอนงานไม่กี่วันก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม นนท์ถูกผมทดลองงานเป็นเวลาสองเดือนพอผ่านก็เลยทำงานกับผมนับตั้งแต่อายุยี่สิบ เป็นเวลาห้าปีที่อยู่ด้วยกัน นนท์เป็นคนซื่อตรงและซื่อสัตย์ เพราะแบบนี้ผมถึงได้ชอบ ชอบนี้หมายถึงทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดีเยี่ยมนะ ไม่ใช่อะไรอย่าคิดกันเยอะ

ผมคุยสายกับลูกน้องที่อยู่คาสิโนพลางหยิบบุหรี่ Marlboro Arctic Black คีบไว้ตรงมุมปากหยิบไฟแช็กในกระเป๋าเสื้อสูทเป็นแบบเติมแก๊สสีเงินที่สั่งทำพิเศษเพราะภาษาอังกฤษสลักคำว่าโยคินไว้สั้นๆ เมื่อคุยกับปลายสายเรียบร้อยผมก็ปลดล็อกรถ LOTUS ELISE SPORT 220 สีดำเงาตัดเทาราคาก็เกินยี่สิบล้าน ที่จริงผมมีรถที่ขับอีกเยอะจอดทิ้งไว้ที่คอนโดและเลือกใช้รถคันนี้เพราะมันมีแค่ไม่กี่คันในประเทศและมันอยู่ที่ผม

“เออ คุณคะ” เปิดประตูรถค้างไว้ผมก็หันไปมองร่างบอบบางของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมีใบหน้าที่สละสวย ดวงตากลมโตรับกับใบหน้าเรียว สีผิวซีดขาว ผมสีดำยาวปล่อยสยายกลางหลังสวมชุดนักศึกษาแบบเรียบร้อยสุดๆ เธอยื่นอะไรบางอย่างมาตรงหน้าผมและนั้นคือกระเป๋าเงินของผมเอง มีเงินอยู่หลายแสนทำตกตอนหยิบสมาร์ทโฟนแน่เลย “ของคุณค่ะ”

“รู้ได้ไงว่าของผม?”

“ฉันเห็นคุณทำมันตกเองกับตาไงคะ” คำพูดแสนเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้าที่เย็นชาไม่เข้ากับใบหน้าสวยๆ เลยแหะ ผมรับกระเป๋าเงินของตัวเองมาพลางทิ้งบุหรี่ลงบนพื้นและขยี้มันจนแหลก ควักเอาธนบัตรสีเทาสามใบส่งให้ “อะไรคะ?”

“เงิน เห็นเป็นอย่างอื่นหรือไง”

“แล้วให้ฉันทำไมคะ?” เกลียดผู้หญิงแบบนี้ชะมัด ผมยื่นเงินให้ผู้หญิงคนไหนก็รับไปหมด ทำไมเธอจะต้องมีคำถามด้วยไม่เข้าใจเลยว่ะ

“ตอบแทนที่เก็บกระเป๋าเงินมาคืนผม ในกระเป๋านี้มีเงินอยู่หลายแสน ถ้าคุณไม่เก็บมาให้มันก็คงหาย”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันช่วยไม่ได้ต้องการของตอบแทน ขอตัวนะคะ”

พูดจบก็เดินสวนผมไปซึ่งมือก็ยังคงถือเงินที่จะให้เธออยู่ สายตาตวัดไปมองแผ่นหลังบอบบางที่เดินหายไปจนลับตา ตัวเล็กแถมยังเตี้ยกว่าผมเยอะเลย สูงแค่หน้าอกยังไม่เลยหัวไหล่ด้วยซ้ำ ความหยิ่งผยองของผู้หญิงเนี่ย... น่าสนใจเป็นบ้า 

 ผมเบ้ปากและเก็บเงินลงกระเป๋าเงินตามเดิม ขึ้นรถขับไปอย่างรวดเร็วเพื่อตรงไปนอกเมืองไม่ไกลสักเท่าไหร่ ที่นั้นคือสถานที่ที่เป็นคาสิโนแบบว่าเพิ่งสร้างเสร็จได้มาปีหนึ่งล่ะ ที่อยู่นอกเมืองไม่ใช่อะไรนะ ไม่ได้กลัวเพียงแค่ว่าที่นั้นมันดูสงบดี ไม่มีคนพลุกพล่าน อีกอย่างด้านนอกผมทำแบบวินเทจมากติดป้ายคำว่า ‘Ongsa Casino’ ปกติคาสิโนจะจัดในโรงแรมซะส่วนใหญ่ ผมแค่อยากแปลกแยกอะนึกออกปะ จะให้ธุรกิจไปอยู่รวมกับที่อื่นมันก็ยังไงอยู่ แบบนั้นผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่

เดินตรงเข้ามาด้านในก็ยังคงคึกคักเป็นพิเศษเพราะมีแขกคนสำคัญมาที่นี่ด้วย ผมมองตรงไปยังโต๊ะเล่นที่กำลังโหวกเหวกโวยวายที่เล่นได้เหรียญคาสิโนที่จะแปลเป็นเงินได้อย่างมากมายมหาศาล รอยยิ้มของผมผุดขึ้นตรงมุมปาก พลางกวักมือเรียกผู้หญิงที่ทำงานที่นี่เกือบยี่สิบชีวิต บางส่วนเป็นเด็กเสิร์ฟ,นักเต้นรูดเสาหรือเด็กชงเหล้า ไม่มีเรื่องขายตัวในคาสิโนผมหรอกนะ... เชื่อหรือเปล่าล่ะ?

“สวัสดีค่ะคุณองศา”

“ไปเทกแคร์แขกคนสำคัญคนนั้นหน่อย” ผมชี้นิ้วไปยังชายวัยกลางคนอายุก็คงจะใกล้จัดงานแซยิดแล้วล่ะ “รู้นะว่าเธอต้องทำอะไร”

“รับทราบค่ะ” เธอฉีกยิ้มให้กับผมที่แต่งตัวยั่วยวนนุ่งน้อยห่มน้อย เธอเดินตามผมมาหาแขกคนนั้นที่เล่นและกินรอบวงอีกรอบ หึ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเสียจะหมดตัวขนาดไหน

“สวัสดีครับคุณกิตติ”

“อ้าว คุณองศา มาแล้วเหรอครับ?”

“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้มาต้อนรับคุณกิตติ พอดีผมติดงานด่วนน่ะครับ”

“ไม่ต้องซีเรียสเลย กิน!” ใบหน้าของผมเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มขณะมองกิตติที่เป็นนักการเมืองคนดัง ไม่สิ ต้องบอกว่าถึงจะไม่ได้ทำงานแล้วด้วยเพราะอายุแต่เรื่องอำนาจก็ยังคงมีอยู่ “ว่าแต่คุณองศามีธุระอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าครับ?”

“มีสิครับ”

“ถ้าเป็นเรื่องที่ทางนั้นจะตรวจสอบ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจัดการให้คุณองศาเรียบร้อยแล้ว”

“ดีมากเลยครับ ขอบคุณจริงๆ เลยนะครับ” ผมปรบมือพนมไว้กลางอก ขณะหันไปส่งซิกกับพนักงานที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘นกต่อ’ ที่ล้วงข้อมูลของคนๆ นั้นมาให้ผม เพื่อแบล็กเมล์ทำเรื่องที่มันไม่ดีมากเลยล่ะ บอกแค่นี้... เธอขยับมานั่งตักของกิตติที่ตกใจแต่พอมองไปที่หน้าอกของเธอคนนี้ก็หอบหายใจหนัก “งั้นช่วยดูแลคุณกิตติทีนะ”

“ได้เลยค่ะคุณองศา”

“ดูแลทุกซอกทุกมุมเลยนะ คุณกิตติคงอยากให้เด็กของผมดูแลใช่ไหมครับ?”

“ฮ่าๆ คุณองศาเนี่ย รู้ใจผมจริงๆ เลยนะครับ ผมจะดูแลให้ถึงสวรรค์ชั้นที่สิบเลยล่ะ ไม่ต้องห่วง”

รอยยิ้มของผมแปรเปลี่ยนเป็นสมเพชกับตาแก่หัวงู เมียก็มีแต่ก็มักจะชอบเลี้ยงเด็กๆ ไว้ดูเล่น ผมโน้มใบหน้าลงไปใกล้ข้างหูของพนักงานสาวพลางเอามือป้อง

“ล้วงมาให้หมด ฉันจะให้รางวัลเธออย่างงาม” ขยับใบหน้ามาสบตากับพนักงานสาวที่พยักหน้ารับว่าไม่ต้องห่วง เธอจะเอาทุกอย่างที่เป็นข้อมูลของกิตติมาให้ผม ซึ่งงานของผมก็เป็นแบบนี้ล่ะ ล้วงข้อมูลของคนใหญ่คนโตที่มาเล่นคาสิโนของผม เพราะมันปลอดภัยไม่มีใครเอาเรื่องนี้ไปปล่อยให้เสียชื่อ แต่ก็แลกมาด้วยความลับที่ผมต้องได้รู้ทั้งหมด

คาสิโนที่มีบางคนอยากจะเข้ามาตรวจสอบว่าเปิดแบบถูกกฎหมายหรือเปล่า? และที่นี่มีการค้าประเวณีไหม? คำตอบคือมีครบครัน ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพราะต้องการเงิน ใครๆ ก็อยากได้เงินกันทั้งนั้นแม้ว่าผมจะเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยก็ตามที ทว่าคาสิโนคือชีวิตของผม คือทุกอย่างและเป็นแหล่งทำเงินหนา ไหนจะเรื่องของการค้าอาวุธเถื่อนที่เป็นงานสำคัญผมก็เลยมักจะให้นนท์เป็นคนจัดการ ทว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการล้วงข้อมูลของคนใหญ่คนโต รวมถึงคนที่เข้ามาสืบเรื่องในคาสิโน คิดว่าจะทำอะไรคนอย่างองศาได้งั้นเหรอ? ฝันไปก่อนนะ

Rrr

ผมที่นอนอยู่บนเตียงชั้นบนของคาสิโน กำลังมองหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นพนักงานในคาสิโนโยกเอวเดินหน้าถอยหลัง โดยที่เสื้อผ้าของผมอยู่ครบบนตัว คว้าสมาร์ทโฟนที่อยู่บนเตียงมองปลายสายก็วางมือไปที่เอวเธอให้หยุดโยกสักแปบ

“อื้อ จะแตกแล้วนะคะ”

“งั้นก็เอามือปิดปากไว้ซะ อย่าให้เสียงครางหลุดเข้ามาในสาย” ผมบอกเธอที่พยักหน้ารับ มือที่ว่างก็เลื่อนไปบีบเค้นทรวงอกของเธอที่ทำตามคำสั่งของผมและเดินหน้าโยกเอวโดยที่ผมเองก็พร้อมจะไปถึงฝั่งด้วยเช่นกัน

(“ลูกอยู่ไหนองศา?”)

“อยู่ที่โชว์รูมรถครับ” กัดฟันตัวเองแน่นเอาสมาร์ทโฟนกดไว้กับเตียงนอนสักแปบ “ฮึ่ม...”

(“กลับมาบ้านหน่อยสิ แม่ทำกับข้าวเลี้ยงวันเกิดลูก”)

“ผมไม่ซีเรื่องวันเกิดนะครับ”

(“องศา”) แม่เค้นเสียงแข็งผมก็ทำได้เพียงกรอกตาไปมา (“แม่ให้เวลาลูกครึ่งชั่วโมงต้องถึงบ้าน... ตู๊ด”)

“เฮ้อ เร่งหน่อยฉันรีบ”

บอกหญิงสาวให้รีบทำให้เสร็จ เมื่อถึงจุดสุดยอดผมก็กระตุกเกร็งไม่ต่างจากเธอที่พาตัวเองออกจากท่อนเอ็นของผม เธอดึงถุงยางออกและแลบลิ้นเลียบนหัวบานหยักเพื่อเอาน้ำขาวขุ่นที่ยังคงรีดออกมาไม่หมด ริมฝีปากเล็กอ้าอมมาถึงแค่ครึ่งทางเพราะไซส์ถุงยางผมเป็นแบบใหญ่พิเศษ เพราะแบบนี้ปากเล็กๆ ถึงได้คับแน่นจนน้ำหูน้ำตาไหล เธอใช้มือชักรูดมันและดูดเลียส่วนปลาย

“พอแล้ว ไปทำงานได้”

“ค่ะ” เธอตอบทั้งที่น้ำขาวขุ่นยังอยู่ในปาก ลุกขึ้นแต่งตัวผมก็ดึงกางเกงขึ้นมาสวมใส่หยิบกุญแจรถลงบันไดมา

“ฝากด้วยนะ กูต้องรีบกลับบ้าน”

“ครับ” นนท์ค้อมศีรษะผมก็รีบออกจากคาสิโนขับรถไปตามทางที่เงียบสงัด คนอย่างองศาใครสั่งก็ไม่ได้... แต่พอเป็นคำสั่งของแม่ปุ๊บต้องรีบกุลีกุจอกลับทันที เฮ้อ ไม่เคยแพ้ใครแพ้แม่ตัวเองก็เอานะองศา

บ้านโยคินวาณิชย์สกุล

รถเลี้ยวเข้ามาภายในตัวบ้านหรือเปล่า? ใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้เรียกคฤหาสน์เถอะ รถจอดที่ทางเข้าบ้านตอนนี้ไฟในบ้านคือเปิดสว่างราวกับกำลังรอผมอยู่ ทั้งที่ปกติพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันสามทุ่มก็ปิดไฟนอนแล้ว ที่ยังคงไม่ปิดเพราะคงรอผมนั่นแหละ วันนี้เป็นวันเกิดแต่แม่ชอบทำแบบว่าผมเหมือนเด็กทั้งที่อายุสามสิบสอง ย้ำ! สามสิบสองแล้วนะ ผมถอนหายใจก่อนจะเดินไปทางขวามือซึ่งเป็นโซนห้องอาหาร ถึงได้เห็นว่ามีอาหารมากมายเรียงกันเยอะมาก หนำซ้ำยังมีเค้กก้อนโตตั้งอยู่ตรงกลาง พ่อกับแม่นั่งรอผม พอเห็นก็รีบยกมือไหว้ท่านทั้งสอง

“หายหัวไปเลยนะ คิดว่าย้ายไปอยู่คอนโดจะกลับมาหาบ้าง ไม่มีเลย” พ่อของผมชื่อศาวิทย์ เอ่ยปากบ่นผมทันทีที่นั่งเก้าอี้ตูดยังไม่ทันร้อน พ่อของผมมีอายุห้าสิบแปดส่วนแม่ก็ห้าสิบพอดีเป๊ะ

“งานผมเยอะ พ่อต้องเข้าใจนะ?”

“ใช่ ฉันต้องเข้าใจสิ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกทำอะไรลับหลังฉันหรือเปล่า” เฮ้อ ยกมือขวาปิดหน้าตัวเอง

“ผมควรกลับดีกว่า ผมเริ่มง่วงแล้ว”

“นั่งลงเดี๋ยวนี้ องศา” น้ำเสียงเด็ดขาดของแม่ทำให้ฉันค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งตามเดิม “กินข้าวก่อน เอาไปอุ่นให้ที”

“ค่ะคุณท่าน” แม่บ้านเอาอาหารบนโต๊ะไปอุ่น ผมก็เลยจำใจต้องกินข้าวกับพ่อแม่และมันเป็นบรรยากาศที่เงียบสุดๆ มีเพียงเสียงช้อนกระทบกับจานเท่านั้น กระทั่งผมกินอิ่มจะรีบชิ่งแม่ก็รั้งผมไว้อีกรอบ

“ผมไม่เป่าเทียนนะแม่ ผมสามสิบสองแล้วนะครับ”

“รู้ จะเอาใส่กล่องให้ไปกินที่คอนโด”

แม่มองค้อนผมขณะที่เอากล่องใส่เค้กดันมาให้ผมที่ต้องรับมันไปด้วยใช่ไหม? พ่อไม่พูดอะไรก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องครัว ผมก็เลยลุกขึ้นเพื่อกลับห้องบ้าง ความสัมพันธ์ของผมกับพ่อแม่ ไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกนะ แย่ตลอดเวลาเจอหน้ากัน ผมถึงได้ไม่ค่อยกลับบ้านเพราะเหตุผลนี้ พ่อสงสัยว่าผมจะทำอะไรไม่ดีซึ่งมันจริง ถ้าหากพ่อรู้ผมไม่อยากจะคิดว่าตัวเองจะโดนอะไรบ้าง แค่คิดว่าอำนาจและบารมีของพ่อทำให้ธุรกิจของผมไปได้ดีมันก็แค่นั้นเอง อ่อ ไม่สิ นับตั้งแต่ผมเริ่มเข้าวงการสีเทาผมก็กลายเป็นคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น แม้แต่กฎหมายก็เหอะ 

รถของผมออกจากตัวบ้านที่ซอยบ้านค่อนข้างมืดนิดหน่อย แม้จะมีไฟตามทางก็เถอะ ผมเปิดกระจกรถและยื่นมือที่คีบบุหรี่สูบออกไปด้านนอก หันไปมองกล่องเค้กที่นั่งข้างคนขับก็ได้แต่ถอนหายใจหันกลับมามองทางอีกรอบก็ต้องรีบเหยียบเบรกทันทีที่เห็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถผม

เอี๊ยด!

“เหี้ยไรวะ” ด้วยความหงุดหงิดและโมโหที่จู่ๆ ก็วิ่งมาตัดหน้ารถเหมือนหมาวิ่งตัดหน้า ผมรีบลงจากรถกำลังจะหาเรื่องผู้หญิงคนนี้ที่สวมชุดนักศึกษา ผมเผ้ายุ่งเหยิง ก่อนที่เธอจะเงยใบหน้าขึ้นมาสบตากับผม แน่นอนว่าผมค่อนข้างแปลกใจที่เจอกับผู้หญิงคนนี้ ใช่ เธอคือคนที่เอากระเป๋าเงินมาคืนผม เธอคนนี้ที่แก้มแดงเถือก ดวงตาผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ไหนจะหัวเข่าที่เวลานี้ถลอกเป็นแผล “เธอ?”

“คะ คุณ” น้ำเสียงของเธอสั่นเทาพลางค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นมายืนหลบหลังผม การกระทำของเธอทำให้ผมค่อนข้างมึนงง กระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายวัยห้าสิบปีกับผู้หญิงรุ่นป้ารุ่นเดียวกัน มีเด็กผู้ชายที่สวมชุดนักเรียนน่าจะเรียนม.ปลาย กำลังกวาดสายตามองหาอะไรสักอย่าง ผมเสมองชายเสื้อสูทที่มือเล็กดึงกระตุกไว้อย่างแน่น

“นังแพร แกอยู่ไหนห๊า!” ผู้หญิงรุ่นป้าเท้าเอวมองหาคนที่ชื่อแพรและผมรู้... เธอคงจะชื่อแพร “นั่นไง มานี่เลยนะนังตัวดี กล้าดียังไงมาอ่อยผัวฉัน!”

“อ่อย?” สามคนนั้นเดินมาหยุดตรงหน้าผมและพยายามจะพาตัวเธอคนนี้ไป แต่เธอกลับยืนหลบหลังเธอที่บังเธอจนมิด “ถามจริง เธออ่อยไอ้แก่แบบนี้ได้ไง”

“ปะ เปล่า ฉันไม่ได้ทำ เขาต่างหาก...”

“ไอ้ห่านี่มึงเป็นใครวะ กล้าดียังไงมาด่ากูว่าแก่”

“ไม่ดูสภาพตัวเอง?” ผมเบ้ปากพลางไล่สายตามองผู้ชายคนนี้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าผัว แก่หัวหงอกแล้วเด็กรุ่นนี้จะไปอ่อยเนี่ยนะ “ก็ต้องตาบอดไม่ก็หูหนวก สภาพยังกับกระดูกเดินได้”

“ปากดีนะมึง ปล่อยนังแพรมา” ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผมจะต้องยุ่งหรือเสือกหรอกนะ ผมไม่เคยยุ่งเรื่องชาวบ้าน ทว่าเธอคนนี้กลับกำชายเสื้อสูทผมแน่น “ฉันบอกให้แกมานี่ ถ้าแกไม่มา อย่างหวังว่าฉันจะส่งเสียแกเรียนนะ”

“แพรก็ส่งตัวเองเรียน ป้าไม่ได้เกี่ยวสักหน่อย”

“อีนี่!”

“ความจริงมันไม่ใช่เรื่องของฉันเลยนะเนี่ย” ผมบ่นพลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นและทิ้งข้างตัว “ออกไปหาพวกเขา”

“ไม่” ใบหน้าสวยที่เจอเมื่อตอนสายของวันยังไม่มีรอยตบด้วยซ้ำไป ปากของเธอมีเลือดซึมแห้งกรัง “ได้โปรดค่ะ”

“อะไร?”

“แกจะไปกับเขาไม่ได้นะ ไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย” ผู้ชายแก่คนนี้รีบบอกเธอว่าอย่าไปกับผม

“แพรยอมไปกับเขาดีกว่าไปหาป้า” ตวาดเสียงดังจนสามคนนั้นนิ่งไป “ปล่อยแพรไปเถอะ แพรขอ”

“แกจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น จนกว่าแกจะเรียนจบหาเงินมาเลี้ยงดูฉันที่เลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็กนะ!”

“เฮ้อ ให้ตายสิวะ!” แผดเสียงดังลั่นซอยที่เงียบสงัด จนสามคนตรงหน้าตกใจไม่ต่างจากเธอคนนี้ “ฉันอันตรายมากกว่าพวกเขา เธอแน่ใจ”

“คือ...”

“งั้นก็กลับไปกับพวกเขาซะ ฉันไม่ใช่ผู้ชายที่มานั่งเห็นอกเห็นใจคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากหรอกนะ” พูดจบก็สะบัดตัวจนร่างเล็กเซเกือบล้ม และนั่นทำให้สามคนนั้นรีบเข้ามากระชากลากถูเธอ ผมจึงเดินกลับไปที่รถของตัวเองเปิดประตูค้างไว้พลางมองภาพนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ปล่อยแพรนะ แพรไม่ไป!”

“แกโดนดีแน่ กล้าดียังไงไปขอร้องผู้ชายที่ไม่รู้จักให้ช่วย” ผู้หญิงรุ่นป้าจิกนิ้วลงศีรษะของเธอและลากไปกับพื้นที่เต็มไปด้วยหินลูกรัง ผมหรี่สายตามองชายรุ่นลุงที่มองเธอด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “โดนฉันขังลืมแน่ อ่อยผัวฉันได้ไง เขาเป็นลุงแกนะ!”

“ฮึก”

ตุ้บ

แม่งเอ๋ย! ทำไมกูจะต้องมาเห็นเหี้ยอะไรแบบนี้ด้วยวะ ผมทุบมือบนหลังคารถและเดินสาวเท้าไปหาร่างเล็กปัดมือของผู้หญิงคนนั้นออกจากศีรษะที่ดึงผมเธอจนหนังหัวแทบถลก เธอคนนี้รีบลุกขึ้นวิ่งอ้อมมาหลบด้านหลังผมอีกครั้ง

“นังแพร แกนี่มันร่านผู้ชายจริงๆ นะ”

“มานี่นะแพรวา!” ชายรุ่นลุงเดินสาวเท้ามาหวังจะคว้าตัวเธอ แต่ผมก็เอามือดันไหล่ของเขาที่เตี้ยกว่าผมเยอะให้เซถอยห่าง “มึงอย่าเสือกเรื่องชาวบ้านจะได้ไหมวะ ขับรถผ่านไปก็จบ”

“นั้นสินะ กูควรทำแบบนั้น” ผมกระตุกยิ้มมุมปาก “ปกติกูไม่ใช่คนที่ชอบเสือกเรื่องคนอื่นด้วยซ้ำ ต่อให้ใครจะตายต่อหน้าต่อตากูก็ไม่สน”

“แล้วมึงจะสนทำไม ปล่อยแพรมา ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”

“อ๋อ มึงขู่กู?” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ชายรุ่นลุงกับรุ่นเด็กเดินเข้ามาพร้อมจะเอาเรื่องผม “ฮะ ฮ่าๆ”

“!”

“จะฆ่ากู... ทำได้เหรอ?” สามคนนี้ตกใจกับเสียงหัวเราะของผมที่ฟังแล้วดูน่าพิศวงยิ่งนัก “คนอย่างกู ถ้าจะตายคงตายไปนานแล้ว ไม่มารอให้พวกสวะอย่างมึงมาขู่หรอกว่ะ”

“มึงจะเอาแบบนี้ใช่ปะ” เด็กรุ่นน้องทำท่าจะต่อยผมพร้อมรุ่นลุงที่เดินไปหยิบไม้แถวๆ นั้นมาหวังจะทำร้าย

“อย่าทำอะไรเขานะ!” หากแต่ว่าเสียงเล็กแหบพร่าด้านหลังก็ดังขึ้นก่อนที่พวกมันจะทำอะไรผม แพรวาเดินออกจากด้านหลังและหันมามองผมที่ขมวดคิ้วกับการกระทำของเธอ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังหัวชนฝาว่าจะไม่ยอมกลับไปกับคนพวกนี้ “แพรจะกลับก็ได้ แต่ห้ามทำร้ายเขานะคะ เขาก็แค่ผ่านทางมาเห็นเฉยๆ”

“...”

“ขอบคุณนะคะ ฉันไม่เป็นไร” ใบหน้าสวยที่โดนตบระบายยิ้มส่งมาให้ ผมมองสามคนนั้นที่รีบกระชากแขนเธอให้กลับไปด้วยกัน ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดดันทำให้ผมเอื้อมมือไปดึงข้อมือเธอไว้จนแพรวาหันมา “คะ คุณ”

“มึงไม่จบใช่ปะ” ชายรุ่นลุงปล่อยมือของแพรวาและนั่นทำให้ผมดึงเธอจนเซมาซบกับแผงอก มือซ้ายของผมเอื้อมไปด้านหลังและหยิบกระบอกปืนสีดำเงาจดจ่อไปยังหน้าผากของมันที่ตกใจกลัวจนทำไม้ในมือล่วงหล่น

“ดีเหมือนกัน ปืนกูไม่ได้ยิงใครมานานละ”

“ปืนปลอมสินะ คิดจะขู่กู...” ผมกระตุกยิ้มมุมปากพลางชูปืนขึ้นฟ้าจากนั้นก็ลั่นไก

ปัง

“!”

“ของปลอมสินะ งั้นอยากแดกสักลูกไหม? กูจะได้สนองให้” พวกมันสามคนรู้ว่าปืนในมือของผมเป็นของจริง ก็รีบวิ่งหนีหางจุกตูดจนลับตาไป ผมจึงมองคนที่อยู่ในอ้อมแขนเธอมองหน้าผมจากนั้นก็... “เฮ้ แพรวา”

“...”

“เหี้ยเอ๋ย! เป็นลมอีก”

เสือกเรื่องชาวบ้านไม่เข้าเรื่องเลยนะองศา แล้วทีนี้เอาไงต่อล่ะ? เธอหนีจากคนพวกนั้นมาเพื่อมาเจอคนอันตรายอย่างผม เธอคิดผิดมหันต์แล้วแบบนี้ก็อย่างที่สุภาษิตว่า ‘หนีเสือปะจระเข้’ มันเป็นอย่างนี้เองสินะ 

*---------------------------*

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
65 Chapters
Nevermind :: INTRO [100%]
Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรักคำเตือน :: เนื้อหาของนิยายเรื่องนี้มีตัวละครบุคคลที่สามมีอาการ PTSD อาการทางจิตเภทหลังจากประสบพบเจอกับเหตุการณ์สะเทือนใจ และนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงแค่เรื่องสมมุติและจินตนาการของผู้เขียน บางฉากอาจจะมีเนื้อหารุนแรงโปรดใช้วิจารณญาณให้การอ่านนิยายเรื่องนี้Because her life belongs to me.There's no way she can escape from me...INTRO “เรื่องส่งของเป็นไงบ้างนนท์”“ผ่านไปได้ด้วยดีครับคุณองศา ไม่ต้องเป็นห่วง”“ดีมาก กูจะไปคาสิโนสักหน่อย ใกล้ได้เวลาต้อนรับแขกคนสำคัญละ”‘องศา โยคินวาณิชย์สกุล’ นี่คือชื่อของผม อายุอานามก็ 32 ปีเต็มวันนี้ ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นวันเกิดที่ผมไม่ค่อยได้แคร์สักเท่าไหร่ ผมเกิดวันที่ 1 มกราคม 19xx ผมเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลโยคินฯ ที่เป็นถึงตระกูลร่ำรวยติดอันดับของประเทศ มีกิจการและธุรกิจมากมาย เมื่อก่อนพ่อของผมเป็นหัวหน้ามาเฟียมาก่อนและนั่นทำให้ผลพวงจากรุ่นพ่อมาสู่รุ่นผมแน่นอนว่าผมทำงานบริษัทด้านธุรกิจนำรถเข้ามาจากต่างประเทศ ตามออร์เดอร์ที่คนรวยสั่งก็จัดมาให้... และธุรกิจอีกอย่างหนึ่งของผมคือ ‘คาสิโน’ ใช่ ธุรกิจนี้ทำเงินให้ผม
last updateLast Updated : 2025-05-11
Read more
Nevermind :: CHAPTER 1 แพรวา [100%]
Nevermind : 1แพรวา“เธอเป็นใครเหรอครับ?”“หิ้วมาจากข้างทางน่ะ”“แล้วไม่รู้จักเธอ หิ้วเธอมาเนี่ยนะครับ คุณองศาสติดีหรือเปล่า”“ใช่ กูสติไม่ดีหรอก ปกติไม่เคยเสือกเรื่องชาวบ้าน... แต่คราวนี้ดันอยากเสือกซะงั้น”น้ำเสียงพูดคุยดังเล็ดลอดเข้ามาในโสตประสาท ทำให้ดวงตาของฉันค่อยๆ เปิดขึ้นรับกับแสงแดดในยามเช้าหรือยามบ่ายก็ไม่แน่ใจ ฉันกระพริบตาเพื่อปรับแสงเสมองไปยังข้างเตียงที่มีร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนถึงข้อศอกและกางเกงสแล็คสีดำร่างกายแกร่งกำยำไปทุกสัดส่วนไหนจะท้ายทอยที่มีรอยสักรูปอะไรสักอย่างมองไม่ชัด ปลายเตียงเป็นกระจกเกือบทั้งหมดสูงติดเพดาน ฉันก็หันมองร่างสูงอีกครั้งและครั้งนี้ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่หล่อแบบดุๆ ผมสีดำขอเขาเสยขึ้นไปปล่อยเส้นผมปรกใบหน้าเล็กน้อยและมีผู้ชายอีกคนที่สวมชุดสูทสีดำทั้งตัว หน้าตาของเขาก็หล่อเหมือนกัน แต่... เขาคนนี้หล่อมากกว่า หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง“ตื่นแล้วสินะ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ฉันก็ชันตัวขึ้นนั่งถึงได้เห็นว่าตัวเองไม่ได้สวมชุดนักศึกษาอย่างที่มันควรจะเป็น แต่เป็นเสื้อเชิ้ตสีดำตัวใหญ่หัวเข่าที่เกิดจากล้มก่อนที่รถของเขาคนนี้จะชน เวลานี้ถูกทำแผล
last updateLast Updated : 2025-05-11
Read more
Nevermind :: CHAPTER 2 ผู้มีพระคุณ [100%]
Nevermind : 2ผู้มีพระคุณเช้านี้ฉันตื่นขึ้นมาก่อนคุณองศาที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงโดยเปลือยท่อนบนและสวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ผู้ชายรัดรูปสีดำ เมื่อคืนฉันรอคุณองศาถึงสามทุ่มกว่าเขาจะมาก็ต้องเอาอาหารที่ทำเข้าเวฟ นั่งกินด้วยกันคุณองศาเป็นพวกที่แบบว่าถ้าพูดก็คือพูดยาวมาก แต่พอไม่พูดก็เงียบแบบฉันต้องเป็นฝ่ายพูดนั่นแหละเขาถึงถามไถ่เรื่องส่วนตัวฉันเช่น ‘มีแฟนหรือยัง’ ‘เรียนเป็นไงบ้าง คณะอะไร’ เถือกๆ นี้“ทำอะไรแต่เช้า?” หันไปมองร่างสูงเดินงัวเงียมาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าขึ้นดื่ม มองแผงอกแกร่งมีแต่รอยสักไหนจะกางเกงบ็อกเซอร์รัดรูปนี่อีก รู้ไหมว่าไอ้นั้นนูนเด่นหราอยู่ภายใน “แพรวา”“อะ อ๋อ ทำข้าวต้มกุ้งค่ะ วันนี้ฉันจะไปเรียนแล้ว”“แทนตัวเองว่าแพรสิ”“คะ?” ดวงตาของฉันเบิกกว้างขึ้นมองร่างสูงใหญ่กำยำเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารทั้งที่ล้างหน้าแปรงฟันแต่ยังสะลึมสะลืออยู่เลย “คุณองศาว่าอะไรนะคะ”ฟังไม่ผิดใช่ปะแพรวา...“แทนตัวเองว่าแพร แทนคำว่าฉัน”“...” คุณองศาจิบกาแฟที่ฉันชงแบบกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลให้เขาใส่เอง แต่ก็ไม่ใส่นะ ใบหน้าหล่อเหลาผละจากแก้วกาแฟมองฉันที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงใดๆ“เร็วสิแพรวา” เออ คือแทนตัวเองด้วยช
last updateLast Updated : 2025-05-12
Read more
Nevermind :: CHAPTER 3 องศา [100%]
Nevermind : 3องศา:: Ongsa Talk ::เพียะ“แม่งเอ๋ย” ผมสบถออกมาอย่างหงุดหงิดขณะมองหญิงสาวที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นหลังจากโดนมือของผมตบเข้าไปที่แก้มอย่างแรง “แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครมันตัดหน้ากูขายอาวุธวะ!”“...”“กูอยากจะบ้าตาย สั่งงานใครแม่งก็ไม่ได้เรื่องสักคน”หันไปคว้าวิสกี้กระดกดื่มจนเกือบจะหมดขวด ด้วยเพราะอารมณ์กำลังขึ้น ตวัดสายตามองไปยังร่างเล็กที่ตอนนี้นั่งเอามือกุมแก้มตัวเอง ผมก็สั่งให้นนท์หิ้วหล่อนออกไปก่อนที่ผมจะบีบคอตายซะก่อน จังหวะนั้นก็มีร่างบอบบางเดินแทรกเข้ามาหาผม“เรื่องคุณกิตติ ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะคุณองศา”“อืม”“เขาจัดการไม่ให้พวกตำรวจเข้ามาตรวจที่นี่ อาจจะรั้งไว้ได้สักปีสองปี หลังจากนั้นเขาก็น่าจะไม่มีผลประโยชน์อะไรแล้ว” ใช่ หล่อนพูดถูก แต่ก็ทำให้ยืดเวลาตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่นี่ได้ล่ะนะ ความจริงผมมีแผนสำรองเสมอฉะนั้นถ้าหากกิตติทำไม่ได้อย่างที่ตัวรับปากกับผมไว้ก็คงจะได้เห็นดีกันแน่“แก่จะลงโลงอยู่แล้ว อำนาจก็คงไปต่อไม่ได้”“ค่ะ แต่ฉันสืบมารู้อย่างหนึ่งนะคะ”“เรื่อง?” มองพนักงานสาวคนนี้ที่ทำหน้าที่เป็นนกต่อที่ดีให้กับผมมานานนับปีแล้วล่ะ เธอทำมันสำเร็จเสมอ ยกเว้นก็แต่คนอื่นน
last updateLast Updated : 2025-05-12
Read more
Nevermind :: CHAPTER 4 องศา Part.2 [100%]
Nevermind : 4องศา (Part. 2) เวลา 20.20 น.Rrrสมาร์ทโฟนของผมดังครืดบนลิ้นชักหัวเตียง จำต้องควานหากว่าจะเจอผมก็กดรับสายทั้งที่หลับตาอยู่ “ใคร”(“คุณองศาคะ แพรเองนะ”)“...” ชื่อนี้ทำให้เปลือกตาเปิดขึ้นทันทีโดยอัตโนมัติ พลิกตัวมองไปยังผนังปลายเตียงเหนือทีวีจอยักษ์เวลาก็ปาไปเกือบสองทุ่มครึ่งแล้ว “ไหนบอกว่าเลิกเย็นๆ ไง”(“คือว่าเลิกติวตั้งแต่หกโมงแล้วค่ะ”)“ทำไมเพิ่งโทรมา” ผมเอ่ยเสียงแข็งพลางลุกขึ้นนั่งยีเส้นผมตัวเอง “เหลวไหลใหญ่แล้วนะแพรวา”(“เปล่านะคะ แพรโทรคุณองศาแล้วค่ะ โทรหาหลายสาย... แต่คุณองศาไม่รับ”) คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน จำต้องเอาสมาร์ทโฟนออกจากหูมองข้อความที่แพรวาโทรเข้ามาเกือบยี่สิบสาย ผมก็ถอนหายใจออกมา (“แพรขอโทษค่ะ”)“รอฉันยี่สิบนาที”(“ถ้าคุณองศาไม่สะดวก ไม่เป็นไรนะคะ นิวบอกว่าจะมาส่งแพรเองค่ะ”)“บอกว่าไม่ต้องไง” เค้นเสียงใส่ปลายสายจนเงียบ “ให้รอก็ต้องรอ”(“ค่ะ”)วางสายผมก็ลุกจากเตียงเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้ตื่นเต็มที่ หยิบเสื้อเชิ้ตสีดำปลายเตียงมาสวมแบบลวกๆ หยิบกุญแจรถพร้อมสมาร์ทโฟนยัดลงกระเป๋ากางเกง เปิดประตูห้องออกมาก็ต้องตกใจเล็กน้อยที่มีถุงแบรนด์เนมมากมายกองอ
last updateLast Updated : 2025-05-12
Read more
Nevermind :: CHAPTER 5 ยิ่งอยู่ด้วยกัน ยิ่งสบายใจ [100%]
Nevermind : 5ยิ่งอยู่ด้วยกัน ยิ่งสบายใจดวงตาของฉันเปิดขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว เวลานี้หกโมงครึ่งแน่นอนว่าแสงแดดยังคงไม่ส่องแสงทะลุผ้าม่านมาปลุก ด้วยเพราะนอนตะแคงข้างหันหลังให้คุณองศา ฉันถึงได้รับรู้ว่าท่อนแขนหนักๆ มีลวดลายรอยสักที่สวยงามพาดมาตรงเอว มึนงงไม่น้อยปกติเราสองคนนอนเว้นระยะกันค่อนข้างห่าง เอี้ยวใบหน้าไปด้านหลังก็ต้องตกใจหลายร้อยเท่าเมื่อใบหน้าหล่อเหลาหนุนหมอนใบเดียวกับฉัน ดวงตาคมหลับลงทำให้เห็นแพขนตารับกับดวงตา ไล่มาถึงสันจมูกที่โด่งและมาหยุดที่ริมฝีปากแดงคล้ำของเขา นั้นทำให้ความรู้สึกบางอย่างก่อเกิดขึ้นมาทันทีฉันคิดบ้าอะไร?... ทำไมมองปากคุณองศาแล้วอยากสัมผัสจังทันเท่าความคิดฉันก็พลิกตัวหันหน้าเข้าหากันและกัน ฝ่ามือของฉันวางบนแก้มสากที่มีหนวดขึ้นรำไร เวลาคุณองศาหลับดูน่ารักมากๆ เลย ต่างจากตอนตื่นที่ดูดุ น่าเกรงขาม รอยยิ้มของฉันผุดขึ้นขณะที่นิ้วโป้งมาแตะบนริมฝีปากของเขา ความร้อนระอุจากริมฝีปากคุณองศาทำให้ฉันค่อยๆ ลูบไล้ไปมาหมับ“!” ตกใจอีกครั้งที่ฝ่ามือหนาคว้าข้อมือฉันให้หยุดลูบริมฝีปากเขา“ใครให้เธอลูบปากฉัน” น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยทั้งที่ยังหลับตาอยู่ นั่นเป็นผลให้ฉันดึงข
last updateLast Updated : 2025-05-12
Read more
Nevermind :: CHAPTER 6 ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? [100%]
Nevermind : 6ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายแล้วล่ะ หลังจากสอบเสร็จก็ปิดเทอมเป็นเวลาสองเดือนกว่านิดๆ ระหว่างนั้นฉันอ่านหนังสือแบบโต้รุ่งมากเลย จนคุณองศาต้องบอกว่าให้ฉันพักผ่อนบ้าง แต่ปากบอกให้พักผ่อนก็ซื้อของบำรุงมาให้ฉันกินเยอะมาก ทั้งวิตามินและยาบำรุงร่างกายต่างๆ มีอยู่วันหนึ่งที่คุณองศากลับมาจากคาสิโนและนั่งมองฉันอ่านหนังสือ แบบนั่งมองฉันอ่านหนังสือตาไม่กระพริบ ฉันบอกให้เขาไปนอนเขาก็ไม่ไป หาว่าฉันดื้อเขาน่ะดื้อที่สุดแล้ว“ย้ายออกมาอยู่กับเอมกับฉันก็ได้นะแพร”“แพรอยู่กับเขาก็ไม่เห็นเป็นอะไร ไม่ได้โดนทำร้ายด้วยซ้ำ นายใจเย็นหน่อยสิ”“ใจเย็นบ้าไร! วันก่อนไม่เห็นเหรอว่าแก้มแพรแดง ไม่โดนมันตบหรือไง”“จะให้ฉันบอกกี่รอบนิว ว่าคุณองศาไม่ได้ตบฉัน”“งั้นทำไมไม่บอกความจริง ถ้าเขาไม่ได้ตบเธอน่ะ”ฉันถอนหายใจมองนิวที่เอาแต่คาดคั้นและเอาแต่บอกให้ฉันย้ายออกจากคอนโดของคุณองศา ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้เนื่องจากฉันให้สัญญากับคุณองศาไว้แล้วว่าจะอยู่กับเขาตลอดไป มอบชีวิตของฉันให้กับเขา ฉะนั้นเขาจะทำอะไรกับฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง เช่นเรื่องทำงานก็ยังไม่เห็นเขาพูดอะไร ราวกับให้ฉันได้ใช้ช
last updateLast Updated : 2025-05-12
Read more
Nevermind :: CHAPTER 7 ธิปก [100%]
Nevermind : 7ธิปก“เป็นอะไรหรือเปล่าแพร”“เปล่า แค่มึนหัวนิดหน่อย”“อ้าว พักก่อนไหม ฉันบอกพี่วันให้”ส่ายหน้าไปมาเพื่อบอกมุกว่าอย่าไปบอกพี่วันเลย ฉันน่ะหยุดงานไปเมื่อวานหนึ่งวันเต็มเลยนะ ฉะนั้นฉันต้องรวบรวมสติของตัวเองให้กลับมาสนใจเค้กตรงหน้าเพื่อตกแต่งสำหรับส่งให้ลูกค้าที่จองเค้กวันเกิด เมื่อเช้าตื่นมาก็ไม่เห็นคุณองศาเลย ราวกับว่าเขาไม่ได้กลับมาที่ห้อง และนั่นทำให้สมองของฉันประมวลเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยากจะตบหน้าตัวเองสักพันครั้งแพรวา!เธอไปอ่อยเขาแบบนั้นได้ยังไงกันอะ คุณองศาคือผู้มีพระคุณนะ ไม่ควรทำกับเขาเหมือนเขาเป็นคนอื่นเลย ทั้งที่เขามองฉันเหมือนน้องสาวคนหนึ่งซึ่งสถานะนี้ฉันไม่สมควรได้รับมันด้วยซ้ำ แต่คุณองศาก็เลือกที่จะมองฉันเป็นใครในสายตาของเขา เพราะแบบนี้ฉันก็เลยรีบพาตัวเองมาทำงานตั้งแต่เช้าโดยที่มาคนเดียวนะ คนของคุณองศายังไม่ตื่นด้วยซ้ำไม่กล้าไปสู้หน้าเขาเลยบอกแค่นี้... จะมองหน้าเขายังไงไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิด“ออกมาหน้าร้านหน่อย ไม่มีใครต้อนรับลูกค้าเลย”“ค่ะๆ แพรจะไปเอง” ฉันวางมือจากตกแต่งหน้าเค้กเพราะมุกเกี่ยงให้ฉันออกไป ตัวเองจะได้ตกแต่งหน้าเค้กไง ฉันออกมาอยู่ตรงหน้าเคาน์
last updateLast Updated : 2025-05-12
Read more
Nevermind :: CHAPTER 8 แค่จูบเท่านั้น [100%]
Nevermind : 8แค่จูบเท่านั้นคืนนี้ฉันเอาแต่นอนกระสับกระส่ายจนเวลาล่วงเลยมาเกือบตีสอง หันไปมองร่างสูงที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงและหลับไปแล้วซึ่งคุณองศากลับมาค่อนข้างดึกมาก มารู้อีกทีคือเขามานอนข้างเตียงเป็นที่เรียบร้อย เหงื่อตามร่างกายของฉันผุดขึ้นมาโดยอัตโนมัติพร้อมท้องที่เกิดอาการหน่วงขึ้นมาเสียดื้อๆ ฉันลุกขึ้นนั่งทั้งที่แอร์ก็เย็นจนร้อนๆ หนาวๆ มองชุดนอนที่เป็นแบบชุดเย็บลูกไม้ตรงหน้าอกทั้งสองเนื้อผ้าซาตินสีแดงที่เป็นสีโปรดของคุณองศา มือหนึ่งกุมหน้าท้องตรงเข้าห้องน้ำและพอนั่งลงเท่านั้นล่ะ ฉันถึงได้รู้ว่าไอ้อาการที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่ ลุกเข้าไปห้องแต่งตัวเปิดลิ้นชักหาอะไรบางอย่างซึ่งจำได้ว่าฉันซื้อมาด้วยนี่นาแต่ตอนนี้มันเหลือเพียงแค่ซองเปล่าเท่านั้นตายห่า... ทำยังไงดีล่ะเนี่ยออกจากห้องแต่งตัวมาถึงเตียงนอนมองฝั่งที่นอนของฉันไม่ได้เลอะก็โล่งใจกลัวว่าจะต้องซักมันออกยากซะด้วย ทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าบนพื้นพรม วางมือบนท่อนแขนแกร่งและเขย่าไปมาเบาๆ แต่คุณองศาก็ไม่ตื่น“คุณองศาคะ” ฉันเอ่ยเรียกเขาก็ยังคงนิ่ง เขย่าตัวเขาเป็นผลเมื่อเปลือกตาลืมขึ้นมองหน้าฉัน“แพรวา”“คุณองศา”“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เ
last updateLast Updated : 2025-05-12
Read more
Nevermind :: CHAPTER 9 หายไป [100%]
Nevermind : 9หายไปหลายวันผ่านไป คุณองศาไม่ได้กลับมาที่ห้องเลย แน่นอนว่าความว่างเปล่าที่ฉันต้องประสบพบเจอมันเหมือนกับว่าฉันวนไปอยู่ในห้องที่เป็นบ้านป้า ไร้ซึ่งเสียงและความสุขที่เคยก่อเกิดขึ้น หากแต่ต่างกันตรงที่ว่าห้องของคุณองศานั้นปลอดภัยทำให้ฉันนอนหลับได้อย่างเต็มที่ ครัวที่ปกติฉันจะต้องทำอาหารเพื่อให้คุณองศากินในตอนเช้า ทุกอย่างในครัวดูสะอาดมาก รวมไปถึงของสดในตู้เย็นก็แทบจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว ฉันถามเรื่องเขากับคุณนนท์ก็ให้เหตุผลว่าคุณองศาทำงานที่คาสิโนและบริษัทรถทุกวัน ไม่รู้ว่าที่ทำแบบนี้... ไม่อยากเจอหน้าฉันหรือเปล่า?ฉันน่ะทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงเลย แต่ถึงตัวจะหายไปก็สั่งให้คุณนนท์ซื้อกับข้าวมาให้ฉันหรือไม่ก็ซื้อของสดเข้ามา ฉันไม่ทำกินเลยไง ถึงได้เน่าและก็ทิ้งไป หายไปก็แทนที่จะบอกกันสักหน่อย ทำแบบนี้ฉันก็รู้สึกผิดกับเรื่องนั้นน่ะสิและเพราะคุณองศาไม่อยู่ ฉันก็เลยมีเวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของคุณธาม นั่นทำให้ฉันรู้ว่าทำไมชีวิตของเขาถึงได้กลัวความมืด พ่อกับแม่ที่เขาหมายถึงตอนที่หวาดกลัวมันเลวร้ายสำหรับเขาในวัยสิบขวบ เหมือนกับฉันเลย... เหมือนกับที่ฉันต้องทนเห็นบ้านไฟไหม้ไปต่อหน้าต่
last updateLast Updated : 2025-05-12
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status