"หนูโตแล้วนะ อีกหน่อยก็จะเป็นคุณหมอ ถ้าเงียบอยู่แบบนี้จะคุยกับคนไข้ได้ยังไง"
"พีชจะกลับหอ" ประโยคแรกดังขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน
"แต่เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะ" เทนบอกพร้อมกับมองหน้ายิ้ม ๆ *เออ...พูดมาหน่อยก็ยังดี*
"พีชจะกลับหอค่ะ" ประโยคเดิมที่แสนเอาแต่ใจดังมาอีกครั้ง
"ลูกพีช..." "พีชอยากจะกลับหอค่ะ" คนตัวเล็กย้ำประโยคเดิมอีกรอบ
"เอาแต่ใจไม่เปลี่ยนนะเรานี่ ไหนว่าโตจนเป็นว่าที่คุณหมอแล้วไง หื้ม?" คนใจร้อนอย่างเทนพยายามพูดยาวและใจเย็นมากที่สุดพร้อมกับกดหอมแก้มป่อง ๆ อย่างมันเขี้ยว
"พีช...อื้อ" ประโยคต่อมาของร่างบางถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อปากหนาประกบจูบเก็บเสียงหวาน ๆ ห้วน ๆ นั้นแบบไม่บอกไม่กล่าว
"อื้อ..." กำปั้นน้อยทุบบ่าแกร่งหลายครั้ง ทั้งพยายามเบือนหน้าหนีแต่โดนมือใหญ่ประคองแก้มล็อคไว้ทั้ง 2 ข้าง แล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเมื่อเจ้าของตักถอนริมฝีปากออกพร้อมกับจ้องหน้าอย่างเอาเรื่องทันที "เฮือก!"
"เป็นยังไง วิญญาณกลับเข้าร่างหรือยัง ถ้ายังเฮียมีสเต็ป ต่อไปอีกนะ" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก
"นี่! ..." "หืม?" เทนครางในลำคอพรางมองนิ้วเรียวเล็กที่ยกขึ้นมาชี้หน้าตัวเอง "ถ้าคุยดี ๆ หนูจะไม่โดนแบบนี้ แต่หนูดื้อเอง หาเรื่องให้เฮียหมดความอดทนเองนะ"
"คนบ้า คนใจร้าย คนปากไม่ดี คน..." "มาอีกคนคราวนี้จะจูบให้ขาดใจตายเลย" เทนเอ่ยสวนพร้อมกับมองหน้านิ่งบ่งบอกให้รู้ว่าเขาจะทำแบบที่พูดจริง ๆ "เอาสิ จะคนอะไรก็ว่ามาเลย" ชายหนุ่มท้า พร้อมทั้งตั้งท่าจะจูบจริง ๆ ทำให้หญิงสาวรีบเม้มปากแน่นเบือนหน้าหนีแล้วทำท่าจะลงจากตัก มือใหญ่รีบรวบเอวเธอไว้ทันที
"ปล่อยนะ อ๊ะ!" คนตัวเล็กผลักอกแกร่งออกจากตัวอย่างแรงพร้อมกับแกะมือใหญ่ออกจากเอว ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นจึงจงใจกระชับแขนให้แน่นขึ้นแล้วจ้องหน้าล้อเลียน แกล้งให้เธอโมโหมากขึ้น
"เรียกเฮียก่อน..." ชายหนุ่มสั่งยิ้ม ๆ พร้อมกับรั้งเอวบางเข้าหาตัวในขณะที่อีกคนพยายามดันตัวออกห่างเต็มที่
"ไม่! ปล่อยพีชนะ คนบ้า คนฉวยโอกาส" ว่าพรางยกกำปั้นขึ้นทุบบ่าชายหนุ่มสุดแรง
"ทุบเก่งเหลือเกินนะมือเล็ก ๆ เนี่ย บอกว่าให้เรียกเฮียเทน ก่อน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับรวบมือเล็ก ๆ ข้างที่กำลังจะทุบตัวเองแล้วกระชับเอวบางให้แน่นขึ้น จนหน้าอกที่เกยชิดอกแกร่งดันพ้นเกาะอกขึ้นมาเกือบครึ่งเต้า
"อร๊าย...ปล่อยพีชเดี๋ยวนี้นะ" หญิงสาวอุทานตาโตรีบยกมืออีกข้างขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองอาย ๆ หน้าขาวใสของเธอแดงเรื่อลามลงไปถึงคออย่างรวดเร็ว แต่มันไปสะดุดตาชายหนุ่มตรงที่มีขอบซิลิโคนปิดจุกโผล่พ้นขอบเกาะอกขึ้นมาด้วย
"หืม? นี่อย่าบอกนะว่าหนูไม่ใส่เสื้อชั้นในออกจากบ้าน?" ชายหนุ่มครางในลำคอพร้อมกับมองหน้าอย่างคาดโทษ *ฉิบ...ออกจากบ้านมายังไงวะเนี่ย กูจะบ้า*
"จะบ้าเหรอ ใส่เกาะอกใครเขาใส่เสื้อชั้นในกัน บอกให้ปล่อยพีชไงคนฉวยโอกาส" คนตัวเล็กแหวขึ้นมือหนึ่งจับเกาะอกของตัวเองไว้แน่นอีกมือถูกรวบไว้พยายามดึงยังไงก็ไม่หลุดทำให้เธอหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
"แค่เรียกชื่อเฮียมันลำบากมากขนาดนั้นหรือไงพิกกี้ ถ้าไม่เรียกก็อยู่บนตักแบบนี้ทั้งคืนนั้นแหละ ลองดูว่าใครจะทนทานมากกว่ากัน" ชายหนุ่มว่าพรางจ้องหน้าจริงจัง พร้อมทั้งกระชับแขนแกร่งรัดเอวเธอแรงขึ้นกว่าเดิม
หญิงสาวหยุดชะงักแล้วมองนิ่งอย่างใช้ความคิด ‘ทำไงดีวะเนี่ย ตอนเด็กเฮียเทนก็ขี้แกล้งตอนนี้ยังแกล้งอีก งือ...ถึงเนื้อถึงตัวเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมแถมยังขโมยจูบไปซึ่ง ๆ หน้าอีก พีชจะ 23 แล้วนะเว้ย ไม่ใช่ 3 ขวบ งือ...ถ้ารู้ว่ามาแล้วจะเจอพรที่ขอไม่จบแบบนี้ไม่มาหรอก ตาบ้ามือก็ใหญ่จับตรงไหนก็เจ็บไปหมด หรือพรยัยเวียนเทียนจะศักดิ์สิทธิ์กว่าเจ้าที่วะเนี่ย’ หญิงสาวคิดในใจพร้อมกับจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
"คิดอะไรอยู่" เสียงทุ้มเอ่ยถามหลังจากที่คนตัวเล็กจ้องหน้าเขาอยู่นานแต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา
"คิดว่าถ้าเอายาสลบช้างติดกระเป๋ามาด้วยก็คงดี" คนเสียงหวานหน้าบึ้งตอบพร้อมกับเบือนหน้าหนี
"อยากให้ปล่อยก็คุยกันดี ๆ ไม่ใช่เป็นเด็กดื้อพูดไม่เข้าใจแบบนี้" ชายหนุ่มว่าพรางปล่อยข้อมือหญิงสาวแล้วยกขึ้นลูบแก้มเธอเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งตัวตรงแล้วกอดเอวเธอไว้หลวม ๆ แต่สายตาไปปะทะกับภูเขาลูกย่อม ๆ ที่เบียดชิดกันในเกาะอกเข้า ถึงกับแอบกลืนน้ำลายลงคอฝืด ๆ "เสื้อนี่ไม่มีเงินซื้อตัวใหญ่กว่านี้หรือไง" *เฮ้อ...จะอดได้ถึงข้ามคืนมั้ยกู อันนี้ชุดมาเที่ยวหรือเตรียมมายั่วกันแน่วะ ...* ชายหนุ่มพรางถอนหายใจเบา ๆ
"แล้วจะมายุ่งอะไรกับเสื้อพีชคะ พีชจะใส่ตัวเล็กหรือใหญ่มันก็เรื่องของพีชคนอื่นไม่เกี่ยว" ว่าพร้อมกระชับมือที่จับเกาะอกไว้แน่น
"ใส่แบบนี้มันอันตรายไม่รู้หรือไง"
"ไม่เคยรู้ค่ะ เพิ่งรู้ตอนนี้นี่แหละ" เมื่อความกลัวจางหาย คำพูดและการต่อปากต่อคำของเธอจึงเริ่มยาวขึ้น
"ทีหลังอย่าใส่แบบนี้อีก" เสียงทุ้มเอ่ยสั่ง พร้อมกับมองหน้าดุ ๆ
"อยากใส่อะไรก็ใส่ค่ะ จะใส่จะถอดมันก็เรื่องของพีช แล้วพีชก็ไม่ได้ใส่มาให้ใครดุพีชนะ" คนตัวเล็กว่าพร้อมกับเชิดหน้าสวยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ มองดูแล้วน่ามันเขี้ยวเป็นที่สุด
"ดี ถ้าพูดไม่ฟังกันแบบนี้ ถ้าหนูใส่ เฮียจะถอดมันเอง" ว่าพร้อมกับรวบเกาะอกทางด้านหลังแล้วดึงลงทีเดียวถึงเอว เต้าอวบอิ่มคู่งามที่มีเพียงแค่ซิลิโคนปิดยอดอกเอาไว้ดีดเด้งออกมาสู้สายตาชายหนุ่มทันที
"อร๊าย...คนบ้า ฮือ" หญิงสาวอุทานอย่างตกใจรีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองแล้วงอตัวออกห่างจากชายหนุ่มทันที
"หึ! ก็น่ารักดีนี่นา จะว่าไปก็ถอดง่ายดีซะด้วย" คนตัวโตว่าพรางช้อนคางหญิงสาวขึ้นสบตายิ้ม ๆ "คราวนี้เชื่อเฮียหรือยังว่ามันไม่ปลอดภัยหรือว่าต้องให้สาธิตว่าไม่ปลอดภัยยังไง"
"บ้า! หันหน้าไปทางอื่นเลยนะ" คนพยายามดุออกคำสั่งอาย ๆ ขณะที่มือข้างหน้าหนึ่งเลื่อนลงไปดึงเกาะอกขึ้นมาปิดหน้าอกหน้าใจของตัวเอง *บ้าเอ้ย เห็นหมดเลย อายไม่รู้จะอายไปไหนแล้วเนี่ย*
"ทำไมเฮียต้องหัน แล้วทำไมเฮียต้องฟังหนู ในเมื่อหนูยังไม่ฟังเฮียเลย" ชายหนุ่มว่าพรางยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเลื่อนมือใหญ่จากปลายคางไปดึงเกาะอกลงอีกรอบแต่รอบนี้ตั้งใจมองและแกะมือบางออกจากเต้างามตรงหน้าพร้อมกับรวบข้อมือเธอไว้
"อื้อ...ปล่อยนะ คนบ้าโป๊หมดแล้ว" ลูกพีชว่าพรางก้มหน้าหลบสายตาหื่นกระหายของเจ้าของตัก หน้าเธอแดงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ มันทั้งน่ารัก น่ามองและปลุกสัญชาตญาณผู้ชายอย่างเทนได้มากทีเดียว
"โป๊สิ ก็หนูใส่มาแค่นี้เอง แล้วมันจะโป๊มากกว่านี้อีกนะ ถ้าเฮียดึงไอ้นี่ออก" ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ แล้วปล่อยข้อมือหญิงสาวเอื้อมมาดึงที่ปิดจุกของเธอออกจริง ๆ
"อร๊าย...เฮียเทนใจร้าย" ลูกพีชอุทานอย่างตกใจเผลอเรียกชื่อชายหนุ่มออกมาสียงดัง รีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกของตัวเองทั้ง 2 ข้างแล้วพยายามดิ้นลงจากตัก จนไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้สิ่งที่ปั้นท้ายของเธอนั่งทับอยู่เริ่มขยับขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว
"หึ! ทีนี้เชื่อหรือยังว่ามันอันตราย" เสียงทุ้มปนกระเส่าก้มลงพูดข้างหูจนเธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว
"พีช เชื่อแล้วค่ะว่าอันตราย ต่อไปพีชจะไม่มาแถวนี้อีก ถ้ารู้ว่าเฮียอยู่ที่นั่น พีชจะไม่ไปกับพวกเวียนเด็ดขาด ปล่อยพีชเดี๋ยวนี้เลยนะคนบ้า" หญิงสาวว่าพรางดึงเกาะอกขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองแล้วพยายามจะลุกลงจากตักให้ได้
"อย่าดื้อนะพิกกี้ ตอนนี้หนูต้องอยู่เฉย ๆ" ชายหนุ่มว่าเสียงห้วนทำเอาคนตัวเล็กหยุดชะงัก แต่ก็ยังพยายามแกะมือใหญ่ออกจากเอวตัวเองอยู่อย่างยากลำบาก
"ปล่อยพีชนะ คนบ้า คนลามก...
26 ปีต่อมาแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาหนุ่มหล่อหน้าคม ใส่เสื้อโค้ทตัวใหญ่เดินเข้ามาในอะพาร์ตเมนต์สุดหรูกลางเมือง แล้วต้องหยุดชะงักมองไปที่โซนลอบบี้ ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วเปลี่ยนเป้าหมายทันทีที่เห็นหน้าคนรอ"แม่..." เสียงทุ้มเรียกคนเป็นแม่อย่างดีใจพร้อมก้าวขายาว ๆ เข้าไปสวมกอดแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างคิดถึง"หยุด...ครับลูก นี่เมียป๊าครับ" เสียงห้วนของหนุ่มใหญ่วัยเลยกลางคนที่นั่งมองอยู่ที่โซฟารับแขกของอะพาร์ตเมนต์ว่าขึ้นพร้อมกับมองหน้าลูกชายและภรรยาดุ ๆ "หวงเว่อร์ไปหรือเปล่าป๊า นี่ผม ทอย ลูกชายป๊าไง" ทอยหรือหมอทอย ศัลยแพทย์หนุ่มสุดหล่ออนาคตไกล วัย 25 ปี ผู้ได้รับทุนจากโรงพยาบาลดังในไทยมาศึกษาแพทย์เฉพาะทางที่นี่และเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลของโรงพยาบาลในเครือเดียวกัน พูดกับผู้เป็นพ่อพร้อมกับชี้หน้าตัวเองขำ ๆ "เข้าใจว่าลูก แต่แกจะ 26 แล้วนะ โตพอจะไม่หอมแก้มแม่แกแล้ว" ป๊าหรือพ่อเลี้ยงอุเทน ว่าให้ลูกชายที่ชอบทำตัวเหมือนเด็กตลอดเวลา แล้วเชิดหน้าไปทางอื่น"โอ๋...เด อิจฉาแม่ว่างั้น ฟอด! ฟอด! ให้ป๊า 2 หอมเลย" ลูกชายตัวดีรีบปล่อยแม่แล้วรวบกอดผู้เป็นพ่อจากทางด้านหลัง หอมที่แก้มพ่อแรง ๆ ทั้ง 2 ข้าง ทำเอา
3 ปีต่อมาหลังจากเรียนจบ ลูกพีชกลับมาเป็นหมอใช้ทุนมหาลัยที่โรงพยาบาลในจังหวัดบ้านเกิด เทนดีใจมากที่ภรรยาจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ว่าบริษัทส่งออกของเขายังอยู่ที่กรุงเทพและกำลังไปได้ดี แต่ก็มีลูกน้องที่ไว้ใจได้อย่างองอาจไปช่วยดูแลให้และมีโรมเป็นที่ปรึกษา โรงบ่มไวน์ของเทนเกือบแล้วเสร็จเหลือเพียงลงเครื่องจักรบางอย่างเกี่ยวกับการผลิต การขยายรีสอร์ตแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้นานนับปี และสิ่งหนึ่งที่ทำนอกเหนือจากโครงการที่วางไว้ช่วงแรกนั่นก็คือสวนดอกไม้เมืองหนาวที่เป็นความฝันของคุณทอรุ้งแม่ของลูกพีชแต่ทีแรก แต่ปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็คอินที่สวยงาม มีคู่บ่าวสาวหลายคู่มาขอเช่าเป็นสถานที่จัดงานแต่งกลางแจ้งที่แสนโรแมนติกหลายคู่ ด้านหลังที่เป็นเชิงเขาเทนปรับให้เป็นลานกางเต็นท์และลานกิจกรรมให้กลุ่มวัยรุ่นหรือหมู่คณะที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ได้เช่าทำกิจกรรมที่ใช้เสียงค่อนข้างดังและไม่รบกวนผู้มาพักรีสอร์ต ซึ่งถือว่าการบริหารงานของเทนประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่วนลูกพีชนั้นเป็นคุณหมอสุดสวยใจดีประจำแผนกเด็กของโรงพยาบาลประจำจังหวัด……….//……….@Ro me barเทนเดินหน้าเครียดเข้ามาในห้องทำงานของเพ
โรงพยาบาลเอสองอาจเดินถือแฟ้มเอกสารยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยเข้ามาหาลูกพีชที่วอร์ดก่อนจะยื่นให้แล้วก้มหลบสายตาจับผิดที่ภรรยาเจ้านายมองมา "อะไรคะพี่องอาจ" หญิงสาวเอ่ยถามแต่ไม่ได้รับเอกสารมาดู"พ่อเลี้ยงไปดูบริษัทที่อังกฤษ 2 สัปดาห์ครับ" องอาจว่ายิ้ม ๆ "พีชรู้แล้วค่ะ""มีงานต้องเซ็นด่วนครับ แม่...เอ้อ คุณลูกพีช" องอาจว่าพลางเปิดเอกสารหน้าหน้าแรกยื่นให้ *เฮ้อ...ผัวให้เรียกแม่เลี้ยง เมียให้เรียกลูกพีช กูล่ะปวดหัว* องอาจคิดในใจ"ปกติพี่โรมเซ็นแทนเฮียไม่ใช่หรือคะ งานด่วนพีชไม่เคยเซ็นนะคะ แล้วพีชก็อ่านไม่เข้าใจด้วย" ลูกพีชว่าพลางมองหน้าองอาจงง ๆ เพราะปกติเอกสารด่วนที่บริษัทขนส่งของเทน จะเป็นโรมช่วยดูแลให้ถ้าเทนไม่อยู่ เธอไม่เคยยุ่งหรือวุ่นวายงานส่วนนั้นของเขาเลยซักครั้ง"คุณโรมไปต่างจังหวัดครับคุณลูกพีช พ่อเลี้ยงเลยบอกให้ผมเอามาให้คุณลูกพีชเซ็นแทนครับ ไม่ต้องอ่านให้เข้าใจหรอกครับ พ่อเลี้ยงอ่านมาแล้ว แค่ต้องเซ็นแค่นั้นครับ เซ็นเถอะครับผมจะได้กลับออฟฟิศแล้ว" องอาจตอบพร้อมกับคะยั้นคะยอยิ้ม ๆ "แปลก ๆ อีกแล้วนะคะพี่องอาจ ครั้งนี้พ่อเลี้ยงพี่องอาจให้มาเซ็นกี่ล้านอีกล่ะ พีชว่าพีชจะไปถอนชื่อออกจากบัญชีแ
"มันเป็นเงินส่วนแบ่งขายที่ทั้งหมดในกรุงเทพของย่าน่ะลูก จริง ๆ บ้านเกิดพ่ออยู่กรุงเทพช่วงที่พ่อกับอาเรียนมหาลัย ย่าเราป่วยบ่อย ๆ ปู่เลยชวนท่านมาอยู่บนดอยเพราะอากาศดีกว่า ท่านเลยขายที่ในกรุงเทพแล้วก็ชานเมืองทั้งหมด แล้วแบ่งให้พ่อกับอาคนละครึ่งให้บริหารจัดการกันเอง แล้วท่านก็กลับไปอยู่บนดอยบ้านเกิดของคุณปู่เงียบ ๆ ตรงนั้น กับญาติพี่น้อง พ่อกับอาแบ่งกันดูแลท่าน ตอนนั้นพ่อไม่รู้จะใช้ทำอะไรก็เก็บเป็นเงินฝากประจำไว้ พอแต่งงานแม่หนูก็จัดการบัญชีนี้เองทีแรกจะเปลี่ยนเป็นชื่อแม่เขาแต่เขาไม่ยอม แล้วมันก็รวมกับเงินหลายส่วนที่หาได้ตอนนั้นด้วย แต่พ่อก็ไม่รู้ยอดจริง ๆ หรอก จนแม่หนูเสีย ก่อนจดทะเบียนกับสิตาพ่อเลยเอาไปโอนให้อาไว้ดูแลปู่กับย่าห้าล้านแล้วปิดเรื่องบัญชีเป็นความลับ เพราะตอนนั้นพ่อโดนบังคับจดทะเบียน พ่อกลัวว่าถ้าสิตารู้เงินพวกนี้จะเปล่าประโยชน์ ส่วนซองนั่นเป็นของขวัญครบรอบชิ้นสุดท้ายของพ่อที่ให้แม่ แต่แม่เรายังไม่ได้เปิดดู ลูกลองเปิดดูสิ" หลวงพ่อพันทาว่ากับลูกสาวพร้อมกับยิ้มให้แล้วชำเลืองมองลูกเขยยิ้ม ๆ ท่านรู้จากแม่เลี้ยงอุ่นรักและเจ้าสัววินัยว่าเทนอยากได้ที่ข้างไร่ของแม่เลี้ยงทำเป็นโรงบ่มไ
3 วันต่อมา งานหมั้นเล็ก ๆ ที่แสนอบอุ่นของเทนกับลูกพีช ถูกจัดขึ้นที่บ้านหลังเดิมของลูกพีชที่อยู่ติดกับบ้านของเทน ลูกพีชอยู่ในชุดไทยล้านนาสีงาช้างปักทองแท้ทั้งชุดเกล้าผมมวยสูงปักปิ่นทองฝังเพชร สวมเครื่องประดับเพียงแค่สร้อยคอสีเงินเส้นเล็กที่เทนซื้อให้เท่านั้นซึ่งดูแล้วไม่ลงตัวยิ่งนัก"สวยมากเลยลูก เสียดายนะที่ชุดเครื่องหมั้นเครื่องแต่งของตระกูลเรามันหายไปพร้อมกับตู้เซฟนั่น ไม่งั้นหนูจะสวยมากกว่านี้" คุณยายกล่าวกับหลานสาวอย่างชื่นชมแต่เสียงเศร้าในตอนท้าย เมื่อนึกถึงเครื่องประดับตกทอดประจำตระกูล ที่คุณทอรุ้งแม่ของหญิงสาวเคยใส่ในวันหมั้นและวันแต่งงาน และท่านก็ให้เธอเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟเล็กที่เธอเอามาจากบ้าน ที่หายไปหลายปีแล้วตั้งแต่เธอเสีย"อย่าคิดให้เศร้าเลยค่ะยาย วันนี้วันดีไม่ใช่หรือคะ คิดซะว่าพีชไม่มีวาสนาก็ได้ค่ะ" หญิงสาวว่ายิ้ม ๆ แล้วมองบรรดาเพื่อนสาวที่เดินยิ้มเข้ามาหาในห้อง"งามแต้งามว่า...จ่ะ แม่เลี้ยง ไม่น่าเชื่อเลยน้า...ว่าพรยายเวียนจะศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ นี่ขนาดเป่าครั้งเดียวนะ ถ้าเป่าครบ 3 ครั้งเฮียเทนทั้งรักทั้งหลงแน่นอน" อันดาว่าขึ้นพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้วิเวียนที่เดินตามเข้
สัปดาห์ต่อมาข่าวการจับกุมบ่อนการพนันรายใหญ่ในภาคเหนือเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ เพราะเจ้าของบ่อนที่แท้จริงเป็นถึงนักการเมืองใหญ่ใจบุญที่ผู้คนนับถือกันทั่วทั้งภาคเหนือ สิตาโดนจับกุมได้ที่บ้านของพันทาในเวลาต่อมาขณะที่กำลังจะหลบหนี เธอโดนแจ้งข้อหาหลายคดี ทั้งปัจจุบันและคดีที่สร้างไว้ในอดีต พันทาถูกกันตัวเป็นพยานและเป็นผู้เสียหาย เพราะเขามีหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหลายอย่าง ศาลสั่งให้การสมรสของพันทาและสิตาเป็นโมฆะตั้งแต่เริ่มต้น เพราะพันทาทำไปเพราะถูกข่มขู่บังคับไม่ได้สมัครใจ และที่เขาดีใจมากคือทรัพย์สินหลายอย่างในบ้านที่สิตาขายไปก่อนหน้านั้นและเขาแอบถ่ายใบเสร็จเก็บไว้ ภรรยาของนายบ่อนให้คนตามซื้อหามาคืนให้เกือบครบ พันทาเข้าไปกราบแทบเท้าขอบคุณอย่างซาบซึ้ง เพราะของบางอย่างเป็นสิ่งที่ภรรยาเขารักมากและมีคุณค่าทางจิตใจมาก เมื่อคดีจบพันทาได้เข้าไปกราบลาเจ้าสัววินัยกับแม่เลี้ยงอุ่นรักที่บ้าน ขออโหสิกรรมสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และลาสิกขาโดยตั้งใจจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้ภรรยาไม่มีกำหนดสึก เจ้าสัววินัยและแม่เลี้ยงต่างยินดีในสิ่งที่พันทาตัดสินใจ พันทาฝากลูกสาวไว้กับท่านทั้ง 2 ก่อนกราบลาอีกครั้งแล้วไป