"ตอบมาก่อนแล้วจะเปิดให้" เทนว่าพรางใส่เกียร์ถอยหลังออกจากที่จอดหันหน้าออกถนนใหญ่
"เปิดประตูให้พีชเดี๋ยวนี้นะ" *ต้องเจอพีรดาการแสดงแล้วเฮียเทนนี่...หญิงสาวคิดในใจ* ออกคำสั่งเสียงสั่น ๆ พร้อมกับหยดน้ำตาไหลลงร่องแก้ม ทำเอาชายหนุ่มตกใจจอดรถทันที
"พีช...เฮีย" "ปล่อยพีชไปหาเพื่อนนะคะ พีชสัญญาพีชจะไม่มาที่นี่อีก นะคะ" เสียงปนสะอื้นของเธอน่าสงสารจับใจ จนคนได้ยินทำอะไรแทบไม่ถูก เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้กลัวขนาดนั้น แค่อยากรู้เหตุผลว่าทำไมถึงบอกเพื่อนว่าไม่รู้จักกัน ทั้ง ๆ ที่ดูออกว่าเธอจำเขาได้
"ฟังนะ (ว่าพรางประคองแก้มคนตรงหน้าสบตาสีหน้าจริงจัง) เฮียแค่ถาม ว่าทำไมหนูถึงบอกเพื่อนว่าเราไม่รู้จักกันทั้ง ๆ ที่เรารู้จักกัน แล้วเฮียก็รู้ว่าหนูจำเฮียได้"
"ค่ะ พีชรู้จัก พีชแค่เคยรู้จักค่ะ แต่ตอนนี้พีชไม่ได้อยากรู้จักแล้ว พีชกำลังพยายามผู้ชายใจร้ายคนนั้นอยู่ เข้าใจมั้ย" หญิงสาวว่าเสียงดังพร้อมกับจ้องหน้าทั้งน้ำตาความรู้สึกของเธอตอนนี้คือแทนที่จะดีใจที่ได้เจอหน้าเขาอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่อยากเจอ แต่อีกความรู้สึกคือน้อยใจที่วันที่เธอเสียใจที่สุดเมื่อ 6 ปีก่อนกลับเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุดและมีคนอื่นอยู่ข้าง ๆ ในขณะที่เธอไม่มีใคร
"พีช..." ชายหนุ่มรั้งร่างบางมากอดไว้แน่น ความรู้สึกผิดกับน้องข้างบ้านมาตลอดหลายปีประเดประดังเข้ามาจนเขาสับสน
"เฮียขอโทษ เฮียแค่..." "ปล่อยพีชไปเถอะ เราไม่เจอกันอีกก็ดีแล้ว พีชกำลังจะลืมได้แล้ว"
"พีช" "พีชจะกลับไปหาเพื่อนค่ะ ปลดล็อคประตูให้พีช นะคะ" เสียงห้วนออกคำสั่งพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
"ไม่ คืนนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง" ชายหนุ่มว่าพรางยกร่างบางจากเบาะข้างคนขับมานั่งตักตัวเองแล้วออกรถไปจากตรงนั้นทันที....
"เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ ปล่อยพีชลงนะเดี๋ยวนี้ พีชไม่ไปไหนกับคนแปลกหน้า" หญิงสาวว่าพรางพยายามดิ้นจะหนีลงจากตัก แต่ด้วยพื้นที่จำกัดและตอนนี้รถก็เลี้ยวออกถนนใหญ่ทำให้เธอไม่กล้าที่จะดิ้นหรือพยศอะไรมากมายนัก "บอกให้ปล่อยพีชลงไง" หญิงสาวตะคอกเสียงดุ ใช้หลังมือปาดน้ำตาเหมือนเด็ก พร้อมกับจ้องหน้าดุ ๆ ซึ่งในความคิดของเธอคือทำแบบนี้เรียกว่าดุที่สุดแล้ว แต่ในสายตาของเจ้าของตักนั้นดูยังไงก็คล้ายลูกแมว ไม่ได้มีความน่าเกรงกลัวอะไรเลย แต่กลับกัน ดูน่าหยอกน่าแกล้งเป็นที่สุด
"หนูว่าเฮียเป็นคนแปลกหน้างั้นเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับจ้องหน้ากลับ *แล้วดูทำหน้าเข้าแก้มป่อง ๆ นี่มันน่ากลัวตรงไหนกันวะ...ชายหนุ่มคิดในใจ* แล้วเบือนหน้าไปอมยิ้มอีกทางก่อนจะหันมาสบตากลมโตตรงหน้า
"…" หญิงสาวไม่ตอบแต่เบือนหน้าหนีทันที
"หึ! ถ้าแปลกจริงหนูไม่ชวนเพื่อนเปลี่ยนร้านตั้งแต่แรกหรอกจริงมั้ย" คำพูดของเทนทำเอาคนบนตักถึงกับเหลอ "เฮียบอกแล้วไงว่าคืนนี้เราต้องเคลียร์กัน" ชายหนุ่มพูดสบาย ๆ แล้วกดหัวหญิงสาวซบไหล่หลบโฟกัสกระจกหลังที่ตัวเองกำลังจะเลี้ยว
"ก็บอกว่าไม่เคลียร์ ปล่อยพีชลงเดี๋ยวนี้นะ" จากความกลัวกลายเป็นความกล้าออกคำสั่งเสียงดุ ที่มาพร้อมกับกำปั้นน้อย ๆ ทุบที่ไหล่หนาสุดแรงของเธอ จนคนโดนสะดุ้ง
"ถ้าไม่หยุดดิ้นเกิดชนใครตายขึ้นมาได้อายทั่วไทยแน่ ๆ นะพิกกี้ ที่ 2 ศพนั่งซ้อนกันแถมกลิ่นเหล้าให้หึ่งขนาดนี้ ไม่มีใครคิดว่านั่งเฉย ๆ หรอกนะ" ชายหนุ่มว่าเสียงดุทั้งยังเรียกชื่อที่ตัวเองชอบเรียกเธอมาตั้งแต่เด็ก ทำให้คนตัวเล็กชะงักไปทันที
ลูกพีชจำเป็นต้องหยุดเมื่อนึกได้ว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักของคนที่กำลังขับรถ แล้วหันหน้ามองกระจกด้านข้าง มือเล็กที่กำกำปั้นอยู่ ปล่อยตกลงมาที่ตักตัวเองแล้วปล่อยให้น้ำตาเม็ดเล็ก ๆ หยดลงร่องแก้มเงียบ ๆ สายตามองไฟข้างทางอย่างเลื่อนลอยและไม่รู้จุดหมายปลายทางที่ชายหนุ่มจะพาตัวเองไป *เฮียเทนบ้า ขนาดแกล้งร้องไห้ขนาดนี้ยังไม่ยอมปล่อยลงไปอีก แล้วจะพาไปไหนเนี่ย...งือ ยายเวียนนะยายเวียน ต้องเป็นแผนยายเวียนแน่ ๆ เลย ไม่งั้นไม่เจอเฮียเทนวันนี้หรอก แล้วผับทั่วกรุงเทพไม่ไป มาอะไรใกล้ ม.บี วะ...หญิงสาวคิดค่อนขอดเพื่อนในใจ* แล้วแอบถอนหายใจแรง ๆ เมื่อนึกว่าเรื่องนี้เพื่อนตัวเองต้องรู้เห็นเป็นแน่
เทนเหลือบมองคนบนตักที่นั่งนิ่งเหมือนตุ๊กตาเป็นพัก ๆ ก่อนจะถอนหายใจแล้วเลี้ยวรถอีกครั้ง และตอนนี้หญิงสาวก็ไม่เอ่ยหรือคัดค้านอะไรออกมาอีก
"พิกกี้..." "ชื่อลูกพีชค่ะ" ลูกพีชบอกชื่อตัวเองทันที
"ถ้าหนูยังเป็นแบบนี้อยู่ เฮียจะไม่ไปส่งหนูนะ" เทนเอ่ยขึ้นหวังจะให้เธอหันมาคุยกันดี ๆ "...."
"วิเวียนเรียนหมอ หนูเรียนคณะเดียวกับวิเวียนหรือเปล่า ทำไมวิเวียนไม่เห็นเคยเล่าให้เฮียฟังบ้างเลยว่าหนูก็อยู่กับวิเวียน" ชายหนุ่มพยายามชวนคุย ในขณะที่ตามองถนนเบื้องหน้า มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบผมคนบนตักเบา ๆ แล้วกดจมูกลงที่กลุ่มผมสวยของเธอเหมือนที่เคยทำตอนเด็กเวลาที่เธอร้องไห้ เขาจะใช้วิธีจุ๊บที่ผมแทนการพูดปลอบ (โอ๋ ไม่เป็นนั่นแหละ)
"ถ้าหนูไม่พูดกับเฮียตอนนี้ เฮียจะพาหนูไปคุยกันต่อที่คอนโดเฮียนะ" ชายหนุ่มขู่ขึ้นอีกประโยค แต่.... "...."
"ไม่กลัวที่จะไปคอนโดเฮียหรือไง?" ชายหนุ่มเอ่ยถามเหมือนลองเชิง
"...." *กลัวสิ ทำไมจะไม่กลัว* หญิงสาวคิดในใจแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
สิ่งที่ได้กลับมาจากหลายประโยคคำถามคือความเงียบทำให้เทนรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ขับรถตรงไปยังคอนโดของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
@คอนโดหรูกลางกรุง
รถเก๋งยุโรปสีดำวิ่งเข้ามาจอดที่ชั้นจอดรถใต้ดิน ชายหนุ่มดับเครื่องยนต์แล้วปลดล็อคประตูรถก่อนจะนั่งมองคนตัวเล็กที่นั่งเป็นตุ๊กตาบนตักตัวเองนิ่ง ๆ มือเล็ก ๆ ที่ประสานกันไว้บนตักข้างหนึ่งมีรอยแดงรอบข้อมือ หน้าสวยมีน้ำตาเม็ดเล็ก ๆ เกาะที่หางตา ขนตางอนเปียกชุ่ม ปากบางเบะคว่ำ หน้าบึ้งงออย่างเอาแต่ใจเหมือนตอนเด็กที่โดนขัดใจไม่มีผิด
"พีช...ลูกพีช หนู..." เทนเขย่าคนตัวเล็กเบา ๆ แต่ก็ไร้การตอบสนอง เธอทำตัวเหมือนสิ่งไร้ชีวิตที่ยังมีลมหายใจอยู่บนตัก ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กของเธอขึ้นมาสะพายเปิดประตูแล้วค่อย ๆ ก้าวขาลงจากรถ โดยที่ช้อนอุ้มร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม "เฮ้อ...บทจะเงียบก็เงียบซะกลัวใจเลยกู วิญญาณหล่นหายระหว่างทางหรือเปล่าวะเนี่ย" เทนเอ่ยขึ้นเสียงเบา เมื่อพาหญิงสาวออกมายืนด้านนอก แล้วอุ้มเดินเข้าลิฟต์กดขึ้นชั้นที่ตัวเองพัก
ภายในห้อง
เทนวางร่างเล็กลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างเบามือ แล้วนั่งยองลงกับพื้นเงยหน้าขึ้นมองหน้าหญิงสาวนิ่ง ๆ หน้าเศร้า ๆ ดวงตาเหม่อลอยของเธอ ทำให้เขาใจหายอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ แล้วช้อนหญิงสาวขึ้นมานั่งบนตัก ค่อย ๆ บรรจงเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้เบา ๆ
"ลูกพีช คุยกับเฮียหน่อยเถอะ หนูจะเงียบแบบนี้ไม่ได้นะ เฮียแค่อยากคุย ถ้าเงียบแล้วเราจะคุยกันได้ยังไง" เทนเอ่ยขอพร้อมกับจ้องหน้าคนตัวเล็กนิ่ง ๆ *แก้มป่อง ๆ นี่จะทำกูเตลิดให้ได้เลยแม่ง เอ๊ย!*
"หนูโตแล้วนะ อีกหน่อยก็จะเป็นคุณหมอ...
26 ปีต่อมาแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาหนุ่มหล่อหน้าคม ใส่เสื้อโค้ทตัวใหญ่เดินเข้ามาในอะพาร์ตเมนต์สุดหรูกลางเมือง แล้วต้องหยุดชะงักมองไปที่โซนลอบบี้ ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วเปลี่ยนเป้าหมายทันทีที่เห็นหน้าคนรอ"แม่..." เสียงทุ้มเรียกคนเป็นแม่อย่างดีใจพร้อมก้าวขายาว ๆ เข้าไปสวมกอดแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างคิดถึง"หยุด...ครับลูก นี่เมียป๊าครับ" เสียงห้วนของหนุ่มใหญ่วัยเลยกลางคนที่นั่งมองอยู่ที่โซฟารับแขกของอะพาร์ตเมนต์ว่าขึ้นพร้อมกับมองหน้าลูกชายและภรรยาดุ ๆ "หวงเว่อร์ไปหรือเปล่าป๊า นี่ผม ทอย ลูกชายป๊าไง" ทอยหรือหมอทอย ศัลยแพทย์หนุ่มสุดหล่ออนาคตไกล วัย 25 ปี ผู้ได้รับทุนจากโรงพยาบาลดังในไทยมาศึกษาแพทย์เฉพาะทางที่นี่และเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลของโรงพยาบาลในเครือเดียวกัน พูดกับผู้เป็นพ่อพร้อมกับชี้หน้าตัวเองขำ ๆ "เข้าใจว่าลูก แต่แกจะ 26 แล้วนะ โตพอจะไม่หอมแก้มแม่แกแล้ว" ป๊าหรือพ่อเลี้ยงอุเทน ว่าให้ลูกชายที่ชอบทำตัวเหมือนเด็กตลอดเวลา แล้วเชิดหน้าไปทางอื่น"โอ๋...เด อิจฉาแม่ว่างั้น ฟอด! ฟอด! ให้ป๊า 2 หอมเลย" ลูกชายตัวดีรีบปล่อยแม่แล้วรวบกอดผู้เป็นพ่อจากทางด้านหลัง หอมที่แก้มพ่อแรง ๆ ทั้ง 2 ข้าง ทำเอา
3 ปีต่อมาหลังจากเรียนจบ ลูกพีชกลับมาเป็นหมอใช้ทุนมหาลัยที่โรงพยาบาลในจังหวัดบ้านเกิด เทนดีใจมากที่ภรรยาจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ว่าบริษัทส่งออกของเขายังอยู่ที่กรุงเทพและกำลังไปได้ดี แต่ก็มีลูกน้องที่ไว้ใจได้อย่างองอาจไปช่วยดูแลให้และมีโรมเป็นที่ปรึกษา โรงบ่มไวน์ของเทนเกือบแล้วเสร็จเหลือเพียงลงเครื่องจักรบางอย่างเกี่ยวกับการผลิต การขยายรีสอร์ตแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้นานนับปี และสิ่งหนึ่งที่ทำนอกเหนือจากโครงการที่วางไว้ช่วงแรกนั่นก็คือสวนดอกไม้เมืองหนาวที่เป็นความฝันของคุณทอรุ้งแม่ของลูกพีชแต่ทีแรก แต่ปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็คอินที่สวยงาม มีคู่บ่าวสาวหลายคู่มาขอเช่าเป็นสถานที่จัดงานแต่งกลางแจ้งที่แสนโรแมนติกหลายคู่ ด้านหลังที่เป็นเชิงเขาเทนปรับให้เป็นลานกางเต็นท์และลานกิจกรรมให้กลุ่มวัยรุ่นหรือหมู่คณะที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ได้เช่าทำกิจกรรมที่ใช้เสียงค่อนข้างดังและไม่รบกวนผู้มาพักรีสอร์ต ซึ่งถือว่าการบริหารงานของเทนประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่วนลูกพีชนั้นเป็นคุณหมอสุดสวยใจดีประจำแผนกเด็กของโรงพยาบาลประจำจังหวัด……….//……….@Ro me barเทนเดินหน้าเครียดเข้ามาในห้องทำงานของเพ
โรงพยาบาลเอสองอาจเดินถือแฟ้มเอกสารยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยเข้ามาหาลูกพีชที่วอร์ดก่อนจะยื่นให้แล้วก้มหลบสายตาจับผิดที่ภรรยาเจ้านายมองมา "อะไรคะพี่องอาจ" หญิงสาวเอ่ยถามแต่ไม่ได้รับเอกสารมาดู"พ่อเลี้ยงไปดูบริษัทที่อังกฤษ 2 สัปดาห์ครับ" องอาจว่ายิ้ม ๆ "พีชรู้แล้วค่ะ""มีงานต้องเซ็นด่วนครับ แม่...เอ้อ คุณลูกพีช" องอาจว่าพลางเปิดเอกสารหน้าหน้าแรกยื่นให้ *เฮ้อ...ผัวให้เรียกแม่เลี้ยง เมียให้เรียกลูกพีช กูล่ะปวดหัว* องอาจคิดในใจ"ปกติพี่โรมเซ็นแทนเฮียไม่ใช่หรือคะ งานด่วนพีชไม่เคยเซ็นนะคะ แล้วพีชก็อ่านไม่เข้าใจด้วย" ลูกพีชว่าพลางมองหน้าองอาจงง ๆ เพราะปกติเอกสารด่วนที่บริษัทขนส่งของเทน จะเป็นโรมช่วยดูแลให้ถ้าเทนไม่อยู่ เธอไม่เคยยุ่งหรือวุ่นวายงานส่วนนั้นของเขาเลยซักครั้ง"คุณโรมไปต่างจังหวัดครับคุณลูกพีช พ่อเลี้ยงเลยบอกให้ผมเอามาให้คุณลูกพีชเซ็นแทนครับ ไม่ต้องอ่านให้เข้าใจหรอกครับ พ่อเลี้ยงอ่านมาแล้ว แค่ต้องเซ็นแค่นั้นครับ เซ็นเถอะครับผมจะได้กลับออฟฟิศแล้ว" องอาจตอบพร้อมกับคะยั้นคะยอยิ้ม ๆ "แปลก ๆ อีกแล้วนะคะพี่องอาจ ครั้งนี้พ่อเลี้ยงพี่องอาจให้มาเซ็นกี่ล้านอีกล่ะ พีชว่าพีชจะไปถอนชื่อออกจากบัญชีแ
"มันเป็นเงินส่วนแบ่งขายที่ทั้งหมดในกรุงเทพของย่าน่ะลูก จริง ๆ บ้านเกิดพ่ออยู่กรุงเทพช่วงที่พ่อกับอาเรียนมหาลัย ย่าเราป่วยบ่อย ๆ ปู่เลยชวนท่านมาอยู่บนดอยเพราะอากาศดีกว่า ท่านเลยขายที่ในกรุงเทพแล้วก็ชานเมืองทั้งหมด แล้วแบ่งให้พ่อกับอาคนละครึ่งให้บริหารจัดการกันเอง แล้วท่านก็กลับไปอยู่บนดอยบ้านเกิดของคุณปู่เงียบ ๆ ตรงนั้น กับญาติพี่น้อง พ่อกับอาแบ่งกันดูแลท่าน ตอนนั้นพ่อไม่รู้จะใช้ทำอะไรก็เก็บเป็นเงินฝากประจำไว้ พอแต่งงานแม่หนูก็จัดการบัญชีนี้เองทีแรกจะเปลี่ยนเป็นชื่อแม่เขาแต่เขาไม่ยอม แล้วมันก็รวมกับเงินหลายส่วนที่หาได้ตอนนั้นด้วย แต่พ่อก็ไม่รู้ยอดจริง ๆ หรอก จนแม่หนูเสีย ก่อนจดทะเบียนกับสิตาพ่อเลยเอาไปโอนให้อาไว้ดูแลปู่กับย่าห้าล้านแล้วปิดเรื่องบัญชีเป็นความลับ เพราะตอนนั้นพ่อโดนบังคับจดทะเบียน พ่อกลัวว่าถ้าสิตารู้เงินพวกนี้จะเปล่าประโยชน์ ส่วนซองนั่นเป็นของขวัญครบรอบชิ้นสุดท้ายของพ่อที่ให้แม่ แต่แม่เรายังไม่ได้เปิดดู ลูกลองเปิดดูสิ" หลวงพ่อพันทาว่ากับลูกสาวพร้อมกับยิ้มให้แล้วชำเลืองมองลูกเขยยิ้ม ๆ ท่านรู้จากแม่เลี้ยงอุ่นรักและเจ้าสัววินัยว่าเทนอยากได้ที่ข้างไร่ของแม่เลี้ยงทำเป็นโรงบ่มไ
3 วันต่อมา งานหมั้นเล็ก ๆ ที่แสนอบอุ่นของเทนกับลูกพีช ถูกจัดขึ้นที่บ้านหลังเดิมของลูกพีชที่อยู่ติดกับบ้านของเทน ลูกพีชอยู่ในชุดไทยล้านนาสีงาช้างปักทองแท้ทั้งชุดเกล้าผมมวยสูงปักปิ่นทองฝังเพชร สวมเครื่องประดับเพียงแค่สร้อยคอสีเงินเส้นเล็กที่เทนซื้อให้เท่านั้นซึ่งดูแล้วไม่ลงตัวยิ่งนัก"สวยมากเลยลูก เสียดายนะที่ชุดเครื่องหมั้นเครื่องแต่งของตระกูลเรามันหายไปพร้อมกับตู้เซฟนั่น ไม่งั้นหนูจะสวยมากกว่านี้" คุณยายกล่าวกับหลานสาวอย่างชื่นชมแต่เสียงเศร้าในตอนท้าย เมื่อนึกถึงเครื่องประดับตกทอดประจำตระกูล ที่คุณทอรุ้งแม่ของหญิงสาวเคยใส่ในวันหมั้นและวันแต่งงาน และท่านก็ให้เธอเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟเล็กที่เธอเอามาจากบ้าน ที่หายไปหลายปีแล้วตั้งแต่เธอเสีย"อย่าคิดให้เศร้าเลยค่ะยาย วันนี้วันดีไม่ใช่หรือคะ คิดซะว่าพีชไม่มีวาสนาก็ได้ค่ะ" หญิงสาวว่ายิ้ม ๆ แล้วมองบรรดาเพื่อนสาวที่เดินยิ้มเข้ามาหาในห้อง"งามแต้งามว่า...จ่ะ แม่เลี้ยง ไม่น่าเชื่อเลยน้า...ว่าพรยายเวียนจะศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ นี่ขนาดเป่าครั้งเดียวนะ ถ้าเป่าครบ 3 ครั้งเฮียเทนทั้งรักทั้งหลงแน่นอน" อันดาว่าขึ้นพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้วิเวียนที่เดินตามเข้
สัปดาห์ต่อมาข่าวการจับกุมบ่อนการพนันรายใหญ่ในภาคเหนือเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ เพราะเจ้าของบ่อนที่แท้จริงเป็นถึงนักการเมืองใหญ่ใจบุญที่ผู้คนนับถือกันทั่วทั้งภาคเหนือ สิตาโดนจับกุมได้ที่บ้านของพันทาในเวลาต่อมาขณะที่กำลังจะหลบหนี เธอโดนแจ้งข้อหาหลายคดี ทั้งปัจจุบันและคดีที่สร้างไว้ในอดีต พันทาถูกกันตัวเป็นพยานและเป็นผู้เสียหาย เพราะเขามีหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหลายอย่าง ศาลสั่งให้การสมรสของพันทาและสิตาเป็นโมฆะตั้งแต่เริ่มต้น เพราะพันทาทำไปเพราะถูกข่มขู่บังคับไม่ได้สมัครใจ และที่เขาดีใจมากคือทรัพย์สินหลายอย่างในบ้านที่สิตาขายไปก่อนหน้านั้นและเขาแอบถ่ายใบเสร็จเก็บไว้ ภรรยาของนายบ่อนให้คนตามซื้อหามาคืนให้เกือบครบ พันทาเข้าไปกราบแทบเท้าขอบคุณอย่างซาบซึ้ง เพราะของบางอย่างเป็นสิ่งที่ภรรยาเขารักมากและมีคุณค่าทางจิตใจมาก เมื่อคดีจบพันทาได้เข้าไปกราบลาเจ้าสัววินัยกับแม่เลี้ยงอุ่นรักที่บ้าน ขออโหสิกรรมสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และลาสิกขาโดยตั้งใจจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้ภรรยาไม่มีกำหนดสึก เจ้าสัววินัยและแม่เลี้ยงต่างยินดีในสิ่งที่พันทาตัดสินใจ พันทาฝากลูกสาวไว้กับท่านทั้ง 2 ก่อนกราบลาอีกครั้งแล้วไป