เข้าสู่ระบบทางด้านปลายฟ้า
ช่วงบ่ายแก่ ๆ ครอบครัวของน้าปลาดาวซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เป็นพ่อก็เดินทางมาถึง ค่ำนี้มีนัดรวมตัวกันเป็นครอบครัวใหญ่เพื่อรับประทานอาหารร่วมกัน ทุกคนจึงพากันมาที่ร้านอาหารริมชายหาดซึ่งเป็นธุรกิจของคุณปู่คุณย่า แต่ตอนนี้ได้น้าปลาดาวมาดูแลรับช่วงต่อ
ระหว่างที่รอผู้ใหญ่ทำอาหาร หนุ่มสาวที่กลับมาจากมหาวิทยาลัยก็พากันไปเดินเล่นและถ่ายรูปกันตรงแนวคลื่นของหาดทรายสีนวล ในยามที่ตะวันใกล้จะตกดิน
“พี่ปลายฟ้า นที มาถ่ายรูปกัน”
เสียงของมารีนซึ่งเป็นลูกสาวของปลาดาวเอ่ยชวนสองพี่น้อง พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องถ่ายรูป แล้วถ่ายภาพของตัวเองระหว่างรอสองคนนั้นมาเข้าเฟรม
แชะ! แชะ!
“พวกพี่ถ่ายรูปกันไปก่อนเลยนะ ผมขอไปคุยกับเพื่อนก่อน”
ถ่ายรูปได้สักสองสามรูปนทีก็ขอแยกตัวไปนั่งรอเพื่อโทรคุยกับเพื่อนสนิท ปล่อยให้พี่สาวทั้งสองคนที่ไม่เจอกันนานได้พูดคุยกันตามลำพัง
“ไปเรียนกรุงเทพฯ เป็นไงบ้าง มีหนุ่ม ๆ มาจีบบ้างไหม” ปลายฟ้าเอ่ยถาม
“หึ อย่าพูดถึงเลย คนพวกนั้นฉันไม่สนใจหรอก”
“เธอนี่นะ”
ปลายฟ้าส่ายหน้าให้คนที่เปรียบเสมือนน้องสาวที่คลานตามกันมาด้วยรอยยิ้ม มารีนเป็นคนเด็ดเดี่ยว เสแสร้งไม่เป็น แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็คือเป็นคนตรงไปตรงมา และจริงใจกับทุกคน
“ไม่รู้ล่ะ ไม่ถูกใจฉันก็ปฏิเสธหมด”
มารีนเอ่ยพลางไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ เธอไม่ชอบ ไม่อยากให้โอกาส ก็ไม่รู้จะพูดดีด้วยไปทำไม ถ้าคนมันฟังรู้ความ ปฏิเสธไปแค่ครั้งเดียวก็คงไม่กล้าเข้าหาอีก แต่กับบางคนก็หน้าทนเหลือเกิน ซื้อขนมมาให้บ้าง ซื้อน้ำมาให้บ้าง ทำอย่างกับเธอไม่มีปัญญาซื้อกินเอง
“ระวังเถอะจะขึ้นคาน”
“ว่าแต่พี่เถอะ อยู่ปีสามแล้ว ยังไม่มีแฟนสักคนเลยเหรอ”
“ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่มีแล้วมันทำให้เรารู้สึกแย่ ก็ไม่มีเลยดีกว่า”
ปลายฟ้าเผยรอยยิ้มราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร ทว่าในใจกลับนึกถึงคนที่เลิกกันไปได้ไม่นาน เรียกได้ว่าแผลใจยังคงสดใหม่ จึงไม่อยากเอ่ยถึงให้ช้ำหนัก
แต่แล้วแวบหนึ่งภาพที่อยู่ในหัวก็แปรเปลี่ยนเป็นคนเมื่อคืน ก่อนที่เสียงของลูกพี่ลูกน้องจะดังขึ้นทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์
“กอด ๆ นะพี่ปลายฟ้า เพราะแบบนี้ไงฉันถึงยังไม่อยากมีแฟน แม่งผู้ชายสมัยนี้มักจะชอบคิดว่าผู้หญิงอย่างเราน่ะเป็นของตาย”
“หึ ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก พี่มูฟออนเร็ว ไม่แน่ว่าในอนาคตพี่อาจจะทำให้ผู้ชายสักคนกลายเป็นของตายของพี่ก็ได้” ปลายฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงมาดมั่น เพราะไม่อยากให้มารีนเป็นกังวล
“ให้มันได้อย่างนี่สิพี่สาว”
สองสาวเดินเลียบชายหาดทั้งขาไปขากลับก็นานเกือบชั่วโมง พอเดินมาถึงตรงที่นทีนั่งอยู่ก็แวะเรียกเขาด้วย เพื่อพากันกลับไปยังร้านอาหาร ป่านนี้พวกผู้ใหญ่คงรอกินมื้อเย็นกันแล้ว
หลังจากกินข้าวเสร็จ ครอบครัวของเธอก็พากันกลับเข้าบ้าน ปลายฟ้าเดินขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อเข้าห้องไปอาบน้ำ ก่อนจะขึ้นมานอนเล่นบนเตียง
ปลายนิ้วสไลด์หน้าจอเพื่อดูโพสต์ในแอปพลิเคชันสีฟ้า ก็พบกับภาพของคนรักเก่าสวีทหวานกับสาวมือที่สาม น้ำสีใสก็รื้นขึ้นทั้งสองหน่วยตา มือเล็กรีบกดปิดหน้าจอคว่ำโทรศัพท์ลงบนที่นอน เงยหน้าขึ้นมองฝ้าเพดาน สูดหายใจเข้าออกลึกเพื่อข่มกลั้นหยดน้ำตาไม่ให้ล่วงหล่น
เธอผิดอะไร?
เป็นคำถามที่ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้
เธอมีแค่เอเดน และก็คิดว่าเอเดนจะมีแค่เธอ แต่ทำไมถึงมีอีกคนเข้ามาแทรกกลาง
“ผู้ชายมักมาก ไม่รู้จักพอ”
และนี่ก็คือคำตอบที่เธอได้หลังจากข่มหยาดน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ นอนคุมโปงร้องไห้อยู่ภายใต้ผ้าห่มนานนับชั่วโมงจนรอบดวงตาบวมแดง ก่อนจะผล็อยหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตา
พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาเธอจะต้องเป็นคนใหม่ที่เข้มแข็ง และจะไม่เสียน้ำตาให้ไอ้คนที่ชื่อว่าเอเดนอีก
*****
หลายเดือนต่อมา
ในช่วงปิดเทอมใหญ่หลังจากกลับไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่า และอยู่ที่นั่นหนึ่งอาทิตย์ ปลายฟ้าก็กลับไปนอนที่คฤหาสน์ ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว บางวันก็นัดเพื่อนสนิทออกมาเจอกันบ้าง รอใกล้เปิดเทอมค่อยกลับไปนอนที่คอนโด เพราะต้องรอน้องชายที่จะเข้ามหาวิทยาลัยปีแรก ย้ายเข้าไปอยู่ที่คอนโดของเธอชั่วคราวไปก่อนในระหว่างทำกิจกรรมรับน้องตามความเห็นของพ่อแม่ ที่คุยกันไว้รอให้หาคอนโดแห่งใหม่แล้วค่อยให้นทีย้ายเข้าไปอยู่
“นที ปลายฟ้า ลงมากินข้าวได้แล้วลูก”
เสียงของน้ำค้าง แม่ของหนุ่มสาวทั้งสองเอ่ยเรียกลูกชายลูกสาวที่ยังอยู่บนห้องนอน
“มาแล้วค่ะ”
ปลายฟ้าก้าวลงบันไดมาด้วยใบหน้าสดใส เข้าไปหาพ่อแม่ และคุณตาที่ตอนนี้อยู่กันพร้อมหน้าที่ห้องอาหาร ตามมาด้วยนทีที่ลงมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง
“ตาฝากน้องด้วยนะปลายฟ้า”
คุณตาชยันต์เอ่ยกับหลานสาวคนโต ปลายฟ้าจะขึ้นปีสี่แล้ว แต่นทีเพิ่งจะเข้าเรียนปีหนึ่ง คนแก่จึงรู้สึกเป็นห่วงที่หลาน ๆ พากันออกไปอยู่ข้างนอกกันหมด
“ตาพูดผิดรึเปล่าครับ ผมน่าจะได้ดูแลพี่ปลายฟ้ามากกว่า”
“ก่อนจะมาดูแลพี่ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ” ปลายฟ้าโต้กลับน้องชาย
พ่อกับแม่ได้แต่มองหน้ากันแล้วอมยิ้ม ส่ายหน้าไปมาให้กับลูกทั้งสอง ปลายฟ้ากับนทีรักใคร่กลมเกลียวมาตั้งแต่เด็ก มีอะไรก็แบ่งปันและช่วยเหลือกันมาตลอด พอโตขึ้นก็จะเถียงกันบ้างตามประสา
เช้านี้น้ำค้างและฉลามได้เข้าครัวด้วยกัน ตั้งใจทำอาหารเมนูโปรดที่ลูกทั้งสองคนชอบ เพราะกว่าลูก ๆ จะกลับมาบ้านก็คงอีกนาน เธอและสามีต่างก็เข้าใจว่าลูกโตกันแล้ว จึงไม่ได้บังคับอะไรมาก เพราะเข้าใจดีว่าช่วงวัยนี้ต้องการความเป็นส่วนตัว และอยากอยู่กับกลุ่มเพื่อน
หลังจากกินข้าวเสร็จพ่อแม่และคุณตา ก็เดินมาส่งทั้งสองคนที่โรงจอดรถ เฝ้ามองจนขับรถพ้นประตูรั้วถึงได้พากันกลับเข้าไปในบ้าน
นทีได้ขับรถอีกคันตามหลังรถของปลายฟ้าออกจากคฤหาสน์ มุ่งหน้าไปยังคอนโดหรูซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย
พอไปถึง นทีก็เดินตามพี่สาวไปอย่างเงียบ ๆ หลายเดือนมานี้ดูเหมือนเธอจะพูดน้อยลงและไม่ค่อยสดใสเหมือนแต่ก่อน จนเข้าไปในห้องพักสุดหรูที่มีหนึ่งห้องนอน ห้องน้ำในห้องนอน และด้านนอก พื้นที่ใช้สอยประมาณยี่สิบห้าตารางเมตร แต่ดีที่โซฟานั้นผลิตมาอย่างดี เป็นเบาะหนานุ่มนอนได้สบาย
“ช่วงนี้ขอยึดโซฟาพี่ก่อนนะ”
“อืม ตามสบาย แล้วนายจะใช้ห้องน้ำในห้องพี่หรือข้างนอกล่ะ”
“ข้างนอกนี่แหละ ไม่อยากรบกวนมาก”
นทีว่าพลางเอนหลังพิงพนักโซฟา ก่อนจะเห็นพี่สาวเดินหายเข้าไปน่าจะเป็นโซนห้องครัว แล้วออกมาพร้อมกับน้ำเย็นและแก้วหนึ่งใบ ตั้งวางไว้ให้ที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟา
“น้ำ”
“ขอบคุณครับ ว่าแต่อยู่คนเดียว ทีแรกนึกว่าจะอยู่กับแฟนซะอีก”
ราวกับว่าการทำใจตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาไม่เป็นผล ตอนนี้เหมือนมีหนามแหลมทิ่มแทงใจอีกครั้ง ก่อนที่ปลายฟ้าจะคลี่ยิ้มขึ้น
“ฟงแฟนอะไร ไม่มีสักหน่อย”
นทีก็แสร้งถามไปอย่างนั้น เพราะเมื่อช่วงปิดภาคเรียนที่หนึ่งตอนที่ไปนอนบ้านคุณปู่คุณย่า เขาได้ยินเสียงพี่สาวร้องไห้ในห้องนอน แล้วอีกวันก็เป็นเสียงคุยกับเพื่อนเพื่อปรับทุกข์ จึงรู้ว่าพี่สาวของเขาอกหัก แต่ไม่คิดว่าหลายเดือนมาแล้วเธอก็ยังไม่มีแฟนใหม่ สงสัยจะเฮิร์ตหนัก
หลังเรียนจบไอดินก็ได้ควงแฟนสาวที่เขารักมากเข้าร้านตัดชุดแต่งงาน และถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ทั้งสองเลือกวิวริมทะเล พร้อมกับรถคู่ใจของชายหนุ่มรถหรูเปิดประทุนสีแดงได้จอดอยู่บนถนนริมชายหาดซึ่งเป็นบ้านของคุณปู่คุณย่าของปลายฟ้า วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่ก็ยังมีสายลมพัดให้ความเย็นตลอดเวลาว่าที่เจ้าสาวอยู่ในชุดกระโปรงคอกว้างลายลูกไม้สีขาว แหวกช่วงล่างขึ้นมาถึงกลางหน้าขา สวมรองเท้าส้นสูงสีขาวเข้ากับชุด นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับที่มีว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อของเธอสวมชุดสูตสีดำ เสื้อเชิ้ตด้านในสีขาว เซ็ตผมเป็นทรงอย่างดูดี“เจ้าบ่าวโอบไหล่เจ้าสาวหน่อยครับ แล้วก็หันมองหน้ากัน”เสียงช่างภาพบอกให้ทั้งคู่ปรับเปลี่ยนท่วงท่า ก่อนจะกดชัตเตอร์เก็บภาพคู่รักหวานแหววหลายภาพ เพื่อเป็นหลักฐานว่าพวกเขานั้นรักกันมากแค่ไหน ผ่านท่าทางและแววตาที่ฉายออกมามองกันและกันแม่ของไอดินได้หาฤกษ์แต่งงานเอาไว้ ก็คืออีกสองเดือนข้างหน้า เนื่องจากลูกชายแสดงเจตนารมณ์มานานว่าถ้าเรียนจบแล้ว ให้ผู้เป็นแม่ไปสู่ขอว่าที่ลูกสะใภ้ทันทีพอใกล้จะถึงวันงาน ไอดินและปลายฟ้าก็ได้ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ เพื่อเป็นการดื่มสละโสดที่เลานจ์แห่งหนึ่ง โดยจองห้องวี
ในช่วงปิดภาคเรียนชั้นปีที่สาม ไอดินและปลายฟ้าก็ได้พากันมาพักผ่อนที่บ้านสวนผู้เป็นแม่ สถานที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมากในช่วงเย็นของวันปลายฟ้าก็ได้เข้าไปช่วยงานในครัว โดยที่แม่ของ แฟนหนุ่มรับหน้าที่ทำอาหาร ส่วนเธอก็คอยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่างกับข้าวที่ทำเสร็จก็ถูกนำไปจัดเรียงไว้บนโต๊ะอาหาร มีทั้งอาหารคาวหวานหลากหลายเมนู เพื่อต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้ที่เปิดใจคบกับลูกชายอันเป็นที่รัก และดูเหมือนความรักของหนุ่มสาวยังคงหวานไม่เคยเปลี่ยน“ไอดินตักน้ำชุบหยำให้หนูปลายฟ้าลองชิมดูสิลูก” กานดาเอ่ยกับลูกชายน้ำชุบหยำก็คือน้ำพริกกะปิที่ใส่กุ้งสด แม่ของชายหนุ่มตั้งใจทำสุดฝีมือ จึงอยากให้ไอดินใช้โอกาสนี้เอาใจด้วยการตักอาหารให้แฟนสาว“ครับแม่” เขาทำตามที่ผู้เป็นแม่บอกด้วยความเต็มใจ“แซ่บมากเลยค่ะคุณแม่”ปลายฟ้าตักอาหารเข้าปากพร้อมกับข้าวสวย รสชาติเผ็ดพอดี กุ้งก็หวานลงตัว เธอชอบรสชาติอาหารของแม่แฟนหนุ่มทุกเมนูเลยก็ว่าได้หนุ่มสาวต่างอมยิ้มหันจ้องมองกันสลับกับอาหารตรงหน้า โดยอยู่ในสายตาของกานดาตลอดเวลาโชคดีที่มีปลายฟ้าเข้ามาในชีวิตของไอดิน ลูกชายของเธอจึงแลดู
หลังจากสอบเสร็จและปิดภาคเรียน ไอดินกับปลายฟ้าที่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วก็ต้องแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเองสองอาทิตย์ต่อมาหลังจากที่ไอดินกลับมานอนที่คฤหาสน์กานดาเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของสามี ยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะทำงานหลังใหญ่ อิทธิกรที่นั่งอยู่เก้าอี้ล้อเลื่อนสีดำขลับก็หยิบขึ้นมาเปิดดูสิ่งที่อยู่ในซอง แต่ก็ต้องขมวดคิ้วรีบเงยหน้ามองภรรยา“นี่มันอะไรกัน คุณจ้างนักสืบตามผมเหรอ”สิ่งที่อยู่ในซองคือภาพถ่ายของอิทธิกรกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า คงจะเป็นคนที่เขาอ้างว่าจ้างมาเอนเตอร์เทน แต่หารู้ไม่ว่าเธอไม่เคยเชื่อ นับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลครั้งล่าสุด กานดาก็ได้มีการติดต่อทนาย จ้างนักสืบ เพื่อหาหลักฐานเหล่านี้มาเป็นข้อต่อรอง“ฉันต้องการหย่า”“ไม่ ผมไม่หย่า ถ้าหย่ากันแล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”“ก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ ผู้หญิงพวกนั้นคงเฝ้ารอวันนี้อยู่ คุณจะได้พาเข้าบ้านหลังนี้ได้อย่างสบายใจ จะพามากี่คนก็แล้วแต่ ฉันไม่สนเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าคุณไม่ยอมฉันก็จะฟ้องหย่า รวมถึงฟ้องชู้ด้วย”“คุณกล้าทำแบบนี้กับผมได้ยังไงกานดา เมื่อก่อนครอบครัวคุณเป็นหนี้ตั้งกี่ล้าน พ่อแม่ผมสงสารถึงได้ยอมให้
ดูเหมือนว่าปลายฟ้าจะรับรู้สิ่งที่ไอดินกำลังคิด จึงเอ่ยอธิบาย“เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าจะทำให้ใครสักคนรัก เอาอกเอาใจ ดูแล และไม่จากฉันไปไหน แต่ฉันจะไม่ให้ความรักกลับคืนไปเด็ดขาด แต่แล้วพอนายเข้ามาก็ทำลายกฎที่ตั้งไว้ทุกข้อ นายเป็นของตายที่ฉันขาดไม่ได้ ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้วล่ะ ฉันอยากเปิดใจอีกสักครั้งแล้วลองคบกับนาย เรามาเป็นแฟนกันนะ”ปลายฟ้าเผยรอยยิ้มอย่างมีความหวังว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ หัวใจดวงน้อยก็เต้นตึกตักรอฟังคำตอบ“ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม”“อื้ม เรื่องแบบนี้ใครจะล้อเล่นกัน”ไอดินโผเข้าสวมกอดสาวรุ่นพี่ ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มดีอกดีใจ ก่อนจะผละอ้อมกอดออกจากกัน เลื่อนมือหนาขึ้นไปลูบพวงแก้มอมชมพูของเธอ“เป็นแฟนกันแล้วนะครับ งั้นผมเปิดตัวกับคนอื่นได้แล้วใช่ไหม”“อือ” เธอขานรับในลำคอพร้อมกับพยักหน้าด้วยรอยยิ้มหวานไอดินเชยปลายคางของเธอขึ้น ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบกับริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รีอย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการขอบคุณที่เธอยอมเปิดใจคบกัน เพียงชั่วครู่เขาก็ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง“ไม่เจอกันนาน คิดถึงผมไหม”“คิดถึงสิ อย่าหายไปแบบนี้อีกนะ”“ต่อไปจะไม่หายไปไหนแล้วครับ”ปลายฟ้ารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
สุดสัปดาห์ของอาทิตย์ต่อมาคืนนี้สามสาวชวนกันไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง จึงนัดกันใส่ชุดกระโปรงทรงสั้นแบบเซ็กซีไว้อวดผิวขาว ๆ ปลายฟ้าจึงหยิบเสื้อหนังสายเดี่ยว มีสายห้อยคอ แต่งดีเทลผูกสายด้านหน้าขึ้นไปมัดตรงหน้าอก สวมคู่กระโปรงยีนส์สีสนิม และรองเท้าส้นสูงสีดำรถของเธอขับเข้าไปจอดที่ลานจอดรถ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอันนาเพื่อบอกว่ามาถึงแล้ว“ฮัลโหล พวกแกอยู่ไหนกัน”(เดินเข้าประตูมาแล้วเลี้ยวซ้าย พวกฉันนั่งอยู่โต๊ะริมผนัง ถ้านับจากที่แกเดินมาก็ประมาณโต๊ะที่เจ็ด)“ฮะ อะไรนะ”ปลายฟ้าถามย้ำอีกครั้งขณะก้าวเดินไปยังทางเข้า เนื่องจากด้านในเสียงเพลงค่อนข้างดัง ทำให้ได้ยินไม่ค่อยถนัด(เดินเข้ามาเลี้ยวซ้าย นับมาโต๊ะที่เจ็ด)“โต๊ะที่เจ็ด โอเค”หญิงสาวเข้าประตูไปก็เลี้ยวไปยังทางเดินด้านซ้ายมือ ก่อนจะนับจำนวนโต๊ะตามที่เพื่อนบอก ก็เจอกับเพื่อนรักทั้งสองที่สั่งเหล้าเอาไว้รอแล้ว“เซ็กซีมากจ้า หนุ่ม ๆ มองตอนแกเดินเข้ามากันเป็นแถว”ซัมเมอร์เอ่ยแซวเพื่อนรัก ไม่ว่าจะเป็นชุดแบบไหน ปลายฟ้าก็เอาอยู่ทั้งนั้น“มาถึงกันนานรึยัง”“ก็ถึงก่อนหน้าแกสักสิบนาทีนี่เอง” อันนาตอบระหว่างนั่งอยู่ก็มีหนุ่มหล่อทั้งวัยเรียนและว
ปลายฟ้าสะดุ้งตื่นก่อนนาฬิกาปลุกจะดังประมาณสิบห้านาที ในขณะที่ดวงตายังคงปิดอยู่ ริมฝีปากสวยก็เผยรอยยิ้มเล็กน้อยต้อนรับเช้าวันใหม่ มือเล็กกระชับผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเนื่องจากยังอยู่ในสภาพเปลือยกาย พอตะแคงข้างวาดวงแขนคล้ายจะกอดคนที่นอนด้วยกัน ทว่ากลับพบแต่ความว่างเปล่าจึงลืมตาขึ้นแต่ก็ไม่พบใครหญิงสาวไม่ได้ร้องเรียก เขาเป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร อยากมาก็มา จะไปก็ไป ผิดแต่ครั้งนี้เธอแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะนอนด้วยกันจนถึงเช้าอาบน้ำเสร็จ เธอก็ออกมาแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา ก่อนจะมาหาอะไรในครัวทำแบบง่าย ๆ สำหรับมื้อเช้า หลังจากนั้นก็ออกจากคอนโดเพื่อไปเรียน“เป็นอะไร ดูเหม่อ ๆ”ซัมเมอร์เอ่ยขึ้นขณะที่กำลังฟังอาจารย์สอน แต่ว่าเพื่อนรักดูใจลอยเหมือนไม่มีสมาธิเรียน“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”แม้ปากจะปฏิเสธ ทว่าในสมองที่ไม่สามารถเปิดรับสิ่งที่อาจารย์อธิบาย กลับเผลอคิดเรื่องอย่างอื่นเขาเป็นอะไรหรือเปล่า คิดมากเรื่องทางบ้านเหรอ ถึงได้ออกจากห้องไปโดยไม่บอกเธอสักคำ และไม่รู้ว่าวันนี้มาเรียนไหมทางด้านไอดินหลังจากเขาตื่นอยู่บนโซฟาที่ห้องเพื่อน ก็ขอตัวกลับคอนโดตนเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าประมาณสิบโมงก็ไ







