LOGINและแล้วก็มาถึงวันเปิดภาคเรียน ในช่วงนี้นทีมีกิจกรรมรับน้องของคณะวิศวกรรมศาสตร์ แล้วคงจะได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ กว่าจะกลับเข้าห้องก็หกโมงเย็นไปจนถึงสองทุ่ม
ส่วนปลายฟ้าเทอมนี้มีเรียนไม่มากแล้วเพราะเหลือเก็บอีกไม่กี่หน่วยกิต แล้วเดือนหน้าก็ต้องเดินทางไปฝึกงานโรงแรมที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลาสามเดือน
ดูเหมือนไม่มีเวลาให้คิดเรื่องอื่น เพราะตั้งใจจะคิดแค่เรื่องฝึกงานแล้วต่อด้วยโปรเจกต์จบ แต่แล้วขณะนั่งเล่นมือถืออยู่กับเพื่อนสนิทอย่างอันนาและซัมเมอร์ สายตาของเธอก็ชะงักเข้ากับภาพของหนุ่มหล่ออันคุ้นตาคนหนึ่งในแอปพลิเคชันสีฟ้า สวมใส่เสื้อช็อปสีเลือดหมูมีตราประทับคล้ายกับมหาวิทยาลัยของเธอไม่มีผิด
คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันจนเพื่อนสงสัย พากันชะเง้อคอแอบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่เปิดค้างเอาไว้ไม่เลื่อนผ่านสักที
“นี่ใครอะ”
“หล่อมาก”
อันนาและซัมเมอร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสนใจ เป็นดั่งที่เพื่อนรักทั้งสองว่า หนุ่มที่เห็นนั้นหล่อมาก แต่ประเด็นที่เธอสนใจคือเขาเรียนที่นี่อย่างนั้นหรือ
“ไม่รู้จัก ก็แค่เลื่อนเจอ”
จะให้เธอตอบว่าอย่างไรล่ะ ชื่อก็ไม่รู้จัก เจอกันแค่ครั้งเดียวก็ชวนเขากลับคอนโด จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
ไม่คิดว่ามันจะบังเอิญขนาดนี้ คิดว่าคงมีแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวที่ได้เจอเขา แล้วพลาดมีอะไรกัน คำพูดของเขายังย้ำเตือนเธออยู่เสมอ ‘อย่าไปวันไนต์กับผู้ชายคนอื่นอีก’
มันดูเหมือนว่าเธอมั่ว เธอง่าย กับใครก็ได้ แต่เธอก็พลาดมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาแค่คนเดียว
อันนาเลื่อนมือเข้ามาจับแขนของปลายฟ้าจนเผลอส่งเสียงร้องสะดุ้ง ก่อนที่จะเอ่ยถาม
“คิดอะไรอยู่”
“เปล่า ไม่ได้คิดอะไร”
“นึกว่ามีอะไรในกอไผ่กับคนในรูปซะอีก เห็นจ้องอยู่นาน” ซัมเมอร์เอ่ย
“จะบ้าเหรอ ฉันจะไปมีอะไรกับคนไม่รู้จักได้ยังไงล่ะ”
จู่ ๆ เธอก็เหมือนมีเลือดสูบฉีดบนใบหน้าจนรู้สึกร้อนผ่าว เอ่ยตอบเพื่อนอย่างไม่กล้าสบสายตา ดีที่ใกล้เวลาเข้าเรียนจึงฉวยโอกาสตัดบทสนทนาแล้วชวนเพื่อนเข้าตึกคณะแทน เนื่องจากพวกเธอกำลังนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟใกล้กับโรงอาหาร
*****
ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!
เสียงกดรหัสผ่านหน้าห้องดังขึ้นในช่วงเย็น แล้วเสียงปลดล็อกประตูก็ดังตาม เจ้าของห้องอย่างปลายฟ้าไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย เพราะคนที่รู้รหัสเข้าห้องเธอมีแค่น้องชายเพียงคนเดียว
“กลับมาแล้วเหรอ”
หญิงสาวนั่งดูซีรีส์บนหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ติดอยู่บนผนังห้องนั่งเล่น ก็เหลียวใบหน้าสวยหันไปทางประตู แต่แล้วดวงตาก็ต้องเบิกกว้างเมื่อความบังเอิญที่เธอพูดถึงเมื่อช่วงพักเที่ยงมันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เนื่องจากน้องชายที่คลานตามกันมาได้พาเพื่อนใหม่มาที่ห้องของเธอด้วย
“ครับ กลับมาแล้ว นี่ไอดิน เพื่อนของผมเอง”
“พะ เพื่อน”
น้ำเสียงตะกุกตะกักดังขึ้นแผ่วเบา พร้อมกับความรู้สึกหลากหลายที่ไหลเข้าสู่สมองด้วยความสับสน
นี่เธอทำอะไรลงไป
เขาเป็นเพื่อนของนที ก็แสดงว่าตอนนั้นหนุ่มหล่อตรงหน้าอายุเพียงสิบแปดปีอย่างนั้นเหรอ
ตายแล้วอีปลายฟ้า
ขาข้างหนึ่งเข้าคุกไปแล้ว นี่เธอจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ไหมเนี่ย
แล้วถ้าเด็กมันสมยอมล่ะ
ไม่สิ อายุสิบแปดไม่ได้เรียกว่าผู้เยาว์แล้วนี่ คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง
“สวัสดีครับ”
น้ำเสียงทุ้มและรอยยิ้มที่เผยขึ้นเล็กน้อยของเพื่อนน้องชายทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์ กระพริบตาสองสามทีเพื่อเรียกสติ ก่อนจะทักทายกลับ
“สวัสดี”
“โทษที ไม่ได้บอกก่อนว่าจะพาเพื่อนมาด้วย พอดีไอดินมันมาช่วยขนของน่ะ” น้องชายเอ่ย
“อ้อ อือ ก็ดี ช่วยกันจะได้เสร็จไว ๆ”
แล้วก็พากันออกไปจากห้องของเธอสักที
ปลายฟ้ารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยตอนนี้ ไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยซ้ำ ภาพเคลื่อนไหวในช่วงดึกของคืนนั้นปรากฏชัดในหัวของเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะผ่านมาแล้วเกินกว่าครึ่งปี ทำไมต้องมาทำให้เธอนึกถึงภาพน่าอายเหล่านั้นด้วย
ดีที่ว่าน้องชายของเธอเตรียมของลงกระเป๋าไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนของใช้บางส่วนที่อยู่ในกล่องก็หยิบออกมาใช้เท่าที่จำเป็น เลยไม่ต้องใช้เวลาเก็บของนาน
“มีแค่นี้แหละ” นทีเอ่ยกับเพื่อน ก่อนจะหันมาหาพี่สาว “ผมไปก่อนนะ”
“อืม อยู่คนเดียวก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”
“รู้แล้วน่า”
นทียิ้มให้พี่สาวก่อนจะพยักหน้าให้เพื่อน แล้วพากันเดินออกจากห้องไป
ปลายฟ้าเหลียวมองชายหนุ่มทั้งสองโดยเฉพาะแผ่นหลังของเขาคนนั้นที่ไม่มีท่าทีอะไรกับเธอเลย หรือว่าจะลืมเรื่องคืนนั้นไปแล้ว
เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ขนาดเพื่อนของน้องชายยังไม่ใส่ใจเรื่องนั้นเลย แล้วที่เขาบอกว่า ‘ถ้าเหงาหรืออยาก… เมื่อไหร่ก็ทักมา แล้วผมจะมาหา’ ก็คงจะพูดไปอย่างนั้น
เธอก็ควรจะลืมและทำเหมือนไม่เคยรู้จักหรือพบเจอกันมาก่อน แบบที่เขากำลังทำอยู่
ลืมเรื่องผิดพลาดที่มันเกิดขึ้นมานานแล้วไปเสียที
หลังเรียนจบไอดินก็ได้ควงแฟนสาวที่เขารักมากเข้าร้านตัดชุดแต่งงาน และถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ทั้งสองเลือกวิวริมทะเล พร้อมกับรถคู่ใจของชายหนุ่มรถหรูเปิดประทุนสีแดงได้จอดอยู่บนถนนริมชายหาดซึ่งเป็นบ้านของคุณปู่คุณย่าของปลายฟ้า วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่ก็ยังมีสายลมพัดให้ความเย็นตลอดเวลาว่าที่เจ้าสาวอยู่ในชุดกระโปรงคอกว้างลายลูกไม้สีขาว แหวกช่วงล่างขึ้นมาถึงกลางหน้าขา สวมรองเท้าส้นสูงสีขาวเข้ากับชุด นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับที่มีว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อของเธอสวมชุดสูตสีดำ เสื้อเชิ้ตด้านในสีขาว เซ็ตผมเป็นทรงอย่างดูดี“เจ้าบ่าวโอบไหล่เจ้าสาวหน่อยครับ แล้วก็หันมองหน้ากัน”เสียงช่างภาพบอกให้ทั้งคู่ปรับเปลี่ยนท่วงท่า ก่อนจะกดชัตเตอร์เก็บภาพคู่รักหวานแหววหลายภาพ เพื่อเป็นหลักฐานว่าพวกเขานั้นรักกันมากแค่ไหน ผ่านท่าทางและแววตาที่ฉายออกมามองกันและกันแม่ของไอดินได้หาฤกษ์แต่งงานเอาไว้ ก็คืออีกสองเดือนข้างหน้า เนื่องจากลูกชายแสดงเจตนารมณ์มานานว่าถ้าเรียนจบแล้ว ให้ผู้เป็นแม่ไปสู่ขอว่าที่ลูกสะใภ้ทันทีพอใกล้จะถึงวันงาน ไอดินและปลายฟ้าก็ได้ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ เพื่อเป็นการดื่มสละโสดที่เลานจ์แห่งหนึ่ง โดยจองห้องวี
ในช่วงปิดภาคเรียนชั้นปีที่สาม ไอดินและปลายฟ้าก็ได้พากันมาพักผ่อนที่บ้านสวนผู้เป็นแม่ สถานที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมากในช่วงเย็นของวันปลายฟ้าก็ได้เข้าไปช่วยงานในครัว โดยที่แม่ของ แฟนหนุ่มรับหน้าที่ทำอาหาร ส่วนเธอก็คอยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่างกับข้าวที่ทำเสร็จก็ถูกนำไปจัดเรียงไว้บนโต๊ะอาหาร มีทั้งอาหารคาวหวานหลากหลายเมนู เพื่อต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้ที่เปิดใจคบกับลูกชายอันเป็นที่รัก และดูเหมือนความรักของหนุ่มสาวยังคงหวานไม่เคยเปลี่ยน“ไอดินตักน้ำชุบหยำให้หนูปลายฟ้าลองชิมดูสิลูก” กานดาเอ่ยกับลูกชายน้ำชุบหยำก็คือน้ำพริกกะปิที่ใส่กุ้งสด แม่ของชายหนุ่มตั้งใจทำสุดฝีมือ จึงอยากให้ไอดินใช้โอกาสนี้เอาใจด้วยการตักอาหารให้แฟนสาว“ครับแม่” เขาทำตามที่ผู้เป็นแม่บอกด้วยความเต็มใจ“แซ่บมากเลยค่ะคุณแม่”ปลายฟ้าตักอาหารเข้าปากพร้อมกับข้าวสวย รสชาติเผ็ดพอดี กุ้งก็หวานลงตัว เธอชอบรสชาติอาหารของแม่แฟนหนุ่มทุกเมนูเลยก็ว่าได้หนุ่มสาวต่างอมยิ้มหันจ้องมองกันสลับกับอาหารตรงหน้า โดยอยู่ในสายตาของกานดาตลอดเวลาโชคดีที่มีปลายฟ้าเข้ามาในชีวิตของไอดิน ลูกชายของเธอจึงแลดู
หลังจากสอบเสร็จและปิดภาคเรียน ไอดินกับปลายฟ้าที่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วก็ต้องแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเองสองอาทิตย์ต่อมาหลังจากที่ไอดินกลับมานอนที่คฤหาสน์กานดาเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของสามี ยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะทำงานหลังใหญ่ อิทธิกรที่นั่งอยู่เก้าอี้ล้อเลื่อนสีดำขลับก็หยิบขึ้นมาเปิดดูสิ่งที่อยู่ในซอง แต่ก็ต้องขมวดคิ้วรีบเงยหน้ามองภรรยา“นี่มันอะไรกัน คุณจ้างนักสืบตามผมเหรอ”สิ่งที่อยู่ในซองคือภาพถ่ายของอิทธิกรกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า คงจะเป็นคนที่เขาอ้างว่าจ้างมาเอนเตอร์เทน แต่หารู้ไม่ว่าเธอไม่เคยเชื่อ นับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลครั้งล่าสุด กานดาก็ได้มีการติดต่อทนาย จ้างนักสืบ เพื่อหาหลักฐานเหล่านี้มาเป็นข้อต่อรอง“ฉันต้องการหย่า”“ไม่ ผมไม่หย่า ถ้าหย่ากันแล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”“ก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ ผู้หญิงพวกนั้นคงเฝ้ารอวันนี้อยู่ คุณจะได้พาเข้าบ้านหลังนี้ได้อย่างสบายใจ จะพามากี่คนก็แล้วแต่ ฉันไม่สนเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าคุณไม่ยอมฉันก็จะฟ้องหย่า รวมถึงฟ้องชู้ด้วย”“คุณกล้าทำแบบนี้กับผมได้ยังไงกานดา เมื่อก่อนครอบครัวคุณเป็นหนี้ตั้งกี่ล้าน พ่อแม่ผมสงสารถึงได้ยอมให้
ดูเหมือนว่าปลายฟ้าจะรับรู้สิ่งที่ไอดินกำลังคิด จึงเอ่ยอธิบาย“เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าจะทำให้ใครสักคนรัก เอาอกเอาใจ ดูแล และไม่จากฉันไปไหน แต่ฉันจะไม่ให้ความรักกลับคืนไปเด็ดขาด แต่แล้วพอนายเข้ามาก็ทำลายกฎที่ตั้งไว้ทุกข้อ นายเป็นของตายที่ฉันขาดไม่ได้ ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้วล่ะ ฉันอยากเปิดใจอีกสักครั้งแล้วลองคบกับนาย เรามาเป็นแฟนกันนะ”ปลายฟ้าเผยรอยยิ้มอย่างมีความหวังว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ หัวใจดวงน้อยก็เต้นตึกตักรอฟังคำตอบ“ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม”“อื้ม เรื่องแบบนี้ใครจะล้อเล่นกัน”ไอดินโผเข้าสวมกอดสาวรุ่นพี่ ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มดีอกดีใจ ก่อนจะผละอ้อมกอดออกจากกัน เลื่อนมือหนาขึ้นไปลูบพวงแก้มอมชมพูของเธอ“เป็นแฟนกันแล้วนะครับ งั้นผมเปิดตัวกับคนอื่นได้แล้วใช่ไหม”“อือ” เธอขานรับในลำคอพร้อมกับพยักหน้าด้วยรอยยิ้มหวานไอดินเชยปลายคางของเธอขึ้น ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบกับริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รีอย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการขอบคุณที่เธอยอมเปิดใจคบกัน เพียงชั่วครู่เขาก็ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง“ไม่เจอกันนาน คิดถึงผมไหม”“คิดถึงสิ อย่าหายไปแบบนี้อีกนะ”“ต่อไปจะไม่หายไปไหนแล้วครับ”ปลายฟ้ารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
สุดสัปดาห์ของอาทิตย์ต่อมาคืนนี้สามสาวชวนกันไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง จึงนัดกันใส่ชุดกระโปรงทรงสั้นแบบเซ็กซีไว้อวดผิวขาว ๆ ปลายฟ้าจึงหยิบเสื้อหนังสายเดี่ยว มีสายห้อยคอ แต่งดีเทลผูกสายด้านหน้าขึ้นไปมัดตรงหน้าอก สวมคู่กระโปรงยีนส์สีสนิม และรองเท้าส้นสูงสีดำรถของเธอขับเข้าไปจอดที่ลานจอดรถ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอันนาเพื่อบอกว่ามาถึงแล้ว“ฮัลโหล พวกแกอยู่ไหนกัน”(เดินเข้าประตูมาแล้วเลี้ยวซ้าย พวกฉันนั่งอยู่โต๊ะริมผนัง ถ้านับจากที่แกเดินมาก็ประมาณโต๊ะที่เจ็ด)“ฮะ อะไรนะ”ปลายฟ้าถามย้ำอีกครั้งขณะก้าวเดินไปยังทางเข้า เนื่องจากด้านในเสียงเพลงค่อนข้างดัง ทำให้ได้ยินไม่ค่อยถนัด(เดินเข้ามาเลี้ยวซ้าย นับมาโต๊ะที่เจ็ด)“โต๊ะที่เจ็ด โอเค”หญิงสาวเข้าประตูไปก็เลี้ยวไปยังทางเดินด้านซ้ายมือ ก่อนจะนับจำนวนโต๊ะตามที่เพื่อนบอก ก็เจอกับเพื่อนรักทั้งสองที่สั่งเหล้าเอาไว้รอแล้ว“เซ็กซีมากจ้า หนุ่ม ๆ มองตอนแกเดินเข้ามากันเป็นแถว”ซัมเมอร์เอ่ยแซวเพื่อนรัก ไม่ว่าจะเป็นชุดแบบไหน ปลายฟ้าก็เอาอยู่ทั้งนั้น“มาถึงกันนานรึยัง”“ก็ถึงก่อนหน้าแกสักสิบนาทีนี่เอง” อันนาตอบระหว่างนั่งอยู่ก็มีหนุ่มหล่อทั้งวัยเรียนและว
ปลายฟ้าสะดุ้งตื่นก่อนนาฬิกาปลุกจะดังประมาณสิบห้านาที ในขณะที่ดวงตายังคงปิดอยู่ ริมฝีปากสวยก็เผยรอยยิ้มเล็กน้อยต้อนรับเช้าวันใหม่ มือเล็กกระชับผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเนื่องจากยังอยู่ในสภาพเปลือยกาย พอตะแคงข้างวาดวงแขนคล้ายจะกอดคนที่นอนด้วยกัน ทว่ากลับพบแต่ความว่างเปล่าจึงลืมตาขึ้นแต่ก็ไม่พบใครหญิงสาวไม่ได้ร้องเรียก เขาเป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร อยากมาก็มา จะไปก็ไป ผิดแต่ครั้งนี้เธอแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะนอนด้วยกันจนถึงเช้าอาบน้ำเสร็จ เธอก็ออกมาแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา ก่อนจะมาหาอะไรในครัวทำแบบง่าย ๆ สำหรับมื้อเช้า หลังจากนั้นก็ออกจากคอนโดเพื่อไปเรียน“เป็นอะไร ดูเหม่อ ๆ”ซัมเมอร์เอ่ยขึ้นขณะที่กำลังฟังอาจารย์สอน แต่ว่าเพื่อนรักดูใจลอยเหมือนไม่มีสมาธิเรียน“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”แม้ปากจะปฏิเสธ ทว่าในสมองที่ไม่สามารถเปิดรับสิ่งที่อาจารย์อธิบาย กลับเผลอคิดเรื่องอย่างอื่นเขาเป็นอะไรหรือเปล่า คิดมากเรื่องทางบ้านเหรอ ถึงได้ออกจากห้องไปโดยไม่บอกเธอสักคำ และไม่รู้ว่าวันนี้มาเรียนไหมทางด้านไอดินหลังจากเขาตื่นอยู่บนโซฟาที่ห้องเพื่อน ก็ขอตัวกลับคอนโดตนเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าประมาณสิบโมงก็ไ



![My Engineerรักร้ายนายจอมโหด [ต้าร์พินอิน]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



