Share

2

Author: Plearn9
last update Last Updated: 2024-12-24 13:38:02

"มีอะไรครับพี่ฝน" ปูนปั้นถาม

"พอดีมีลูกค้ามาหลอกทานฟรีอีกแล้วค่ะ" น้ำฝนตอบ

"อีกแล้วเหรอครับ...แล้วครั้งนี้ยอดกี่พันล่ะครับ" ปูนปั้นถาม

"เห็นพี่เมย์บอกว่าเกือบสามหมื่นเลยค่ะ" น้ำฝนตก

"ฮะ!" ปูนปั้นร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับลุกขึ้นยืนทันที

"แล้วเขาไปหรือยังครับ...ได้ขอบัตรประชาชนไว้ไหม...รู้หรือเปล่าว่าเขาชื่ออะไร...มีใครโทรแจ้งตำรวจแล้วหรือยัง...ก่อนหน้านี้ทุกคนทำอะไรกันอยู่ครับทำไมไม่เห็นมีใครมาบอกผมเลยล่ะครับ" ปูนปั้นรัวคำถามออกไปด้วยความตื่นตกใจโดยที่ไม่เว้นช่องไฟให้น้ำฝนได้ตอบเลย

"คือเราพยายามขอบัตรประชาชนจากเขาแล้วนะคะแต่ว่าเขาบอกว่ามันอยู่บนรถไม่ได้พกลงมาด้วย อ่อ! แต่เหมือนเขาจะบอกว่าชื่อ เทียน..." ทันทีที่ได้ยินชื่อเทียนหมิงก็หยุดนิ่งทันทีแล้วหันมามองน้ำฝนด้วยความสนใจ

"เทียน...อะไรนะ เทียน~" น้ำฝนพยายามจะพูดออกมาแต่ก็พูดไม่ได้ มันเหมือนติดอยู่ที่ปากแต่พูดออกมาไม่ถูกเฉยๆ ตอนนี้ทั้งปูนปั้นและหมิงก็ต่างยืนลุ้นว่าเธอจะพูดว่าอะไรออกมา

"อ่อ เทียน เมธัส สักอย่างเนี่ยแหละค่ะ" น้ำฝนพูดจบหมิงก็ถอดถุงมือสำหรับล้างจานออกแล้วรีบเดินผ่านทั้งสองคนออกจากห้องครัวไปเลย ปูนปั้นเห็นหมิงรีบผิดปกติจึงจะตามออกไปดู

หน้าร้าน

"พี่เมย์ครับ ที่ลานจอดรถไม่มีรถอยู่เลยสักคันครับ" เฟิร์สพูด

"น่านไง ฉันกะไว้แล้วเชียวว่านายต้องเป็นพวกหลอกกินฟรี" เมย์พูดพร้อมชี้นิ้วใส่หน้าเทียนและด้วยความโมโหที่ถูกคนคนนี้พูดจาไม่ดีใส่หลายครั้งเทียนจึงปัดมือของเมย์ที่ชี้หน้าเขาอยู่ออกอย่างแรงจนเธอเจ็บ

"โอ๊ย!" พอพนักงานคนอื่นได้ยินเสียงเมย์ร้องก็ต่างพากันหันมามองที่เทียนเป็นตาเดียวกันแต่เทียนหาได้สนไม่ เขาหันขวับไปมองที่เฟิร์สด้วยสายตาที่น่ากลัวสุดๆ จนเด็กเสิร์ฟตัวน้อยขนลุกซู่ไปทั้งตัว

"เวกัสไม่มีทางทิ้งฉันแล้วกลับไปก่อนแน่นอน...บอกมา! ว่าแกโกหกใช่ไหม" เทียนถามด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก

"ผมไม่ได้โกหกนะครับ" เฟิร์สตอบแล้วรีบถอยออกไปยืนอยู่ข้างหลังเมย์

"ยะ อย่ามาทำตัวเป็นอันธพาลแถวนี้นะ" เมย์พูดด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ แล้วหันไปหาพนักงานสาวรุ่นน้องที่ยืนเกาะแขนเธออยู่

"ไปโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้เลย" เมย์พูด

"ค่ะ" เธอตอบแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปที่เคาน์เตอร์

"เดี๋ยวก่อนครับ" หมิงเอ่ยห้ามทันทีที่เดินมาถึงทำให้ทุกคนหยุดนิ่งแล้วหันไปสนใจที่เขาแทน เทียนพอเห็นเพื่อนสนิทวิ่งออกมาจากห้องครัวก็อึ้งไปพักนึง 

"ไอ้หมิง" เทียนอุทานออกมาเบาๆ ด้วยความตกใจและดีใจ หมิงรีบสาวเท้ายาวๆ มาหาเทียนแล้วจับแขนเพื่อนของเขาไว้ทันที

"เขาเป็นเพื่อนผมเอง...ไม่ต้องโทรแจ้งตำรวจหรอกครับ" หมิงพูด

"ฮะ!" ทุกคนร้องอุทานออกมาพร้อมกับด้วยสีหน้าที่ไม่เชื่อเท่าไหร่

"นี่เพื่อนพี่หมิงเหรอคะ" เมย์ถาม

"ครับ" หมิงตอบ

"ทำไมพี่หมิงถึงเลือกคบเพื่อนที่มีนิสัยเป็นพวกนักต้มตุ๋นแบบนี้ล่ะคะ" เมย์ถาม

"เธอว่าใคร ฮะ!" เทียนถามด้วยความไม่พอใจแต่หมิงก็รีบบีบแขนของเขาไว้เพื่อดึงสติ

"ไอ้เทียน!" หมิงดุเพื่อนทันทีที่เห็นว่าเขาเริ่มทำตัวไม่เหมาะสมกับผู้หญิงแล้ว

"มีอะไรกันครับ" พอเสียงนี้ดังขึ้นพนักงานทุกคนก็หยุดอยู่ในความสงบทันทีพร้อมกับแหวกทางให้เขาเดินออกมา ภาพของปูนปั้นที่กำลังเดินตรงมาหาเขาตัวเขาเองก็รู้สึกวูบวาบขึ้นมาแปลกๆ ใบหน้าขาวสวยบวกกับดวงตาสีฟ้ามันช่างทำให้เขาดูมีสเน่ห์มากจริงๆ 

หัวใจของเทียนมันรู้สึกสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก ร่างกายมันรู้สึกร้อนผ่าวเนื่องจากหัวใจเต้นเร็วผิดปกติจนเหงื่อไหลออกมาเต็มไปหมด ปูนปั้นเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าเทียนแล้วมองดูเหตุการณ์รอบๆ ว่ามีอะไรผิดปกติไหม

"ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าไม่พอใจกับการบริการของพนักงานตรงไหนหรือเปล่าครับ" ปูนปั้นถาม แต่ตอนนี้หูของเทียนมันอื้อจนไม่ได้ยินอะไรแล้ว

"คุณลูกค้าครับ...คุณลูกค้า" ปูนปั้นพยายามพูดคุยกับเขาแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมตอบแถมยังจ้องมองหน้าเขาอยู่ตลอดเลยด้วย 

"ไอ้เทียน~ไอ้เทียน!" 

"ฮะ!" หมิงเห็นว่าเทียนเงียบไปก็เลยช่วยเรียกเขาให้

"อ่อ ครับ" เทียนหันกลับไปหาปูนปั้นอีกครั้งหลังได้สติ

"พอดีลูกค้าท่านนี้ทานอาหารแล้วไม่ยอมชำระเงินค่ะ" เมย์พูด

"ผมขอบิลด้วยครับ" ปูนปั้นหันไปพูดกับเมย์พร้อมกัับยื่นมือไปขอบิลค่าอาหารจากเธอมาดู

"อาหารของลูกค้าทั้งหมด 16 รายการรวมเป็นเงินทั้งสิน 27,864 บาท" ปูนปั้นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเทียน

"ลูกค้าจะชำระเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตดีครับ" ปูนปั้นถามแล้วจ้องมองไปที่เทียนอย่างไม่มีความหวาดกลัวเลยสักนิด

"ผมก็อยากจ่ายนะครับแต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท" เทียนตอบ

"งั้นทางเราก็ต้องขออนุญาตเรียกตำรวจมานะครับ" ปูนปั้นพูดแล้วหันไปหาพนักงานที่ยืนอยู่ในเคาน์เตอร์เพื่อเป็นการส่งสัญญาณบอกให้เธอโทรแจ้งตำรวจได้เลย

"เดี๋ยวพี่จ่ายเอง" อยู่ดีๆ หมิงก็พูดขึ้นมาเพื่อห้ามไม่ให้พนักงานคนนั้นโทรแจ้งตำรวจเพราะถ้าเกิดปูนปั้นแจ้งความจับเทียนจริงๆ ร้านนี้คงได้เดือดร้อนแน่

"คุณเทียนครับ" เวกัสเดินเข้ามาในร้านแล้วเอ่ยเรียกเทียนทำให้้เจ้าตัวต้องรีบหันไปหาเขาทันที

"นี่คุณหายไปไหนมาเนี่ย!" เทียนเดินปรี่เข้ามาถามเอาความกับเวกัสจนเจ้าตัวต้องรีบก้มหัวสำนึกผิด

"ขอโทษครับ พอดีรถของเราจอดขวางทางเข้าออกอยู่ผมก็เลยต้องเอาไปจอดไว้อีกซอยนึง...ผมเห็นว่ามันดึกมากแล้วแต่คุณเทียนยังไม่กลับมาสักทีก็เลยออกมาดูที่ร้านน่ะครับว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า" เวกัสตอบ

"เดี๋ยวคุณนั่นแหละจะได้มีปัญหาหาแน่" เทียนพูดแล้วยื่นมือไปขอกระเป๋าสตางค์จากเวกัส

"กระเป๋าสตางค์ของผมละ" เทียนถาม

"อยู่นี่ครับ" เวกัสตอบแล้วรีบล้วงเอากระเป๋าสตางค์สุดหรูของเทียนออกมา 

"โอ๊ะ! คุณหมิงหนิครับ" เวกัสทักทายหมิงหลังจากที่เขามาตั้งนานแต่ไม่ทันได้สังเกตเห็นเขา หมิงพยักหน้าตอบเขาเพราะตอนนี้บรรยากาศไม่พร้อมพูดคุยสักเท่าไหร่ 

"ไปเอารถมาได้แล้วไป" เทียนพูด

"ครับ" เวกัสตอบแล้วก็รีบออกไปทันที เทียนค่อยๆ หันกลับมาหาทุกคนแล้วจ้องมองไปที่ปูนปั้นอีกครั้ง ปูนปั้นเองแม้ภายนอกจะดูสงบนิ่งแต่จริงๆ ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจกับผู้ชายคนนี้เท่าไหร่นัก เทียนเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบแบล็คการ์ดออกมาแล้วยื่นไปให้ปูนปั้น

"คิดเงินสองเท่าได้เลยนะครับ ถือซะว่าเป็นคำขอโทษจากผมที่ทำให้พวกคุณต้องเสียเวลา" เทียนพูด

"ไม่เป็นไรครับ" ปูนปั้นตอบแล้วรับบัตรเครดิตจากเทียนส่งให้เมย์ไปจัดการต่อ หลังจากจบเรื่องค่าอาหารกันไปหมิงก็ขออนุญาตปูนปั้นออกไปคุยกับเทียนสักครู่แล้วจะรีบกลับเข้ามาทำงานต่อซึ่งปูนปั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วก็บอกหมิงว่าไม่ต้องรีบคุยหรอกเพราะวันนี้เขานอกเหนือจากงานของตัวเองมาเยอะแล้ว

"สรุปที่มึงหายไปคือมึงมาทำงานที่นี่เหรอ" เทียนถาม ตอนนี้ทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่หน้าประตูร้าน

"เออ แต่กูไม่ได้หายไปนะเว้ย" หมิงตอบ

"ไม่ได้หายไปเหี้ยอะไร! กูติดต่อมึงไม่ได้กี่วันแล้วมึงรู้ป่ะ" เทียนพูด

"ก็กูไม่มีโทรศัพท์นี่หว่าแล้วกูจะรู้ได้ไงว่ามึงติดต่อมาอ่ะ" หมิงตอบ

"อะไรนะ!" เทียนถามออกไปทั้งๆ ที่เขาก็ได้ยินมันชัดเจน

"เออ~กูเอาไปฝากไว้แล้วอ่ะ" หมิงตอบ

(​​​​​​ฝากคือการเอาไปจำนำไว้)

"นี่มึงต้องใช้เงินมากขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ ก็ไหนมึงเพิ่งขายคอนโดไปเองหนิ" เทียนถาม

"ก็ไม่ได้จำเป็นต้องใช้เงินมากหรอกแต่ตอนนี้กูจำเป็นต้องเตรียมเงินสำรองเอาไว้มากๆ เผื่อเกิดเหตุฉุนเฉินขึ้นมอีกจะได้ไม่ลำบากไปหาหยิบยืมใครเขา  อีกอย่างนะเว้ย กูไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ ชีวิตกูตอนนี้วันๆ นึงนอกจากดูแลแม่ มาทำงานก็มีแค่นอนพักผ่อนแค่นั้นแหละ" หมิงตอบ

"มึงมีอะไรทำไมไม่บอกกูว่ะ" เทียนถาม หมิงถอนหายใจแล้วเงียบไป

"มึงคิดว่ากูจะไม่ช่วยมึงงั้นหรอ" เทียนถาม

"กูรู้เทียน กูรู้ว่ามึงไม่มีทางทิ้งกูอยู่แล้ว...แต่ถ้ามึงลองคิดในมุมของกูอ่ะมึงก็จะเข้าใจเองว่าการที่เราต้องเป็นภาระของเพื่อนอยู่บ่อยๆ มันรู้สึกแย่แค่ไหน" หมิงตอบ

"ที่ผ่านมากูไม่เคยมองว่ามึงเป็นภาระกูเลยนะ" เทียนพูด

"แต่กูรู้สึกแบบนั้นว่ะ..." หมิงหันไปมองหน้าเทียนแล้วตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ 

"มึงรู้ป่ะว่าตั้งแต่ที่เรารู้จักกันมาเกือบ 20 ปีเนี่ยกูแม่งเอาแต่พึ่งพามึงมาตลอดเลย" หมิงพูด 

(รู้จักกันมาตั้งแต่ ม.4 จนปัจจุบันอายุ 35 ปีแล้ว)

"ขนาดจะจีบสาวสักคนกูยังต้องให้มึงช่วยเป็นพ่อสื่อให้เลย กูไม่อยากเป็นแบบนั้นแล้วว่ะเทียน กูอยากลองยืนและเดินด้วยตัวเองดูสักครั้งต่อให้กูจะสะดุดล้มจนแขนขาหักกูก็ยังอยากลองทำมันด้วยตัวเองดู...มึงเข้าใจกูใช่ไหมว่ะ" หมิงหันไปถามเทียนด้วยรอยยิ้มที่ดูยังไงก็ไม่มีความสุขเอาซะเลย

"แต่มึงไม่ลืมใช่ไหมว่าไม่ว่ายังไงกูก็จะอยู่ตรงนี้ข้างๆ มึงเสมอ" เทียนถาม

"ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะถ้าวันไหนกูไปไม่รอดแล้วเดี๋ยวกูจะคลานเข่ากลับมาหามึงเอง โอเคป่ะ" หมิงตอบ

"ฮึ~ มึงนี่แม่งทำกูเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย" เทียนพูดแล้วต่อยเข้าไปที่หัวไหล่ของเพื่อนเบาๆ หนึ่งที

ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่นานแต่พวกเขากลับไม่รู้เลยว่าตลอดเวลาที่พวกเขาคุยกันอยู่นั้นปูนปั้นได้แอบมองดูพวกเขาจากข้างในร้านอยู่ตลอด

"เฮ้ย~ ว่าแต่น้องคนเมื่อกี้คือใครว่ะ" เทียนขยับเข้าไปใกล้หมิงแล้วกระซิบถามเบาๆ ทั้งที่ตรงนั้นมีพวกเขาอยู่กันแค่สองคน 

หมิงรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนตัวดีกำลังถามถึงใครอยู่และใช่แล้วเทียนชอบผู้ชาย เทียนคบกับผู้ชายมาตลอดและเมื่อกี้ตรงนั้นนอกจากตัวเขาเองกับเทียนก็มีผู้ชายอยู่อีกแค่สองคน จะบอกว่าเป็นเฟิร์สมันก็คงไม่ใช่เพราะเฟิร์สไม่ใช่ไทป์ของเทียนเลยสักนิดแต่สิ่งที่ทำให้หมิงรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยก็คือเทียนสนใจปูนปั้นซึ่งปูนปั้นเองก็อายุแค่ 23 ปีเท่านั้น เขาไม่ได้คิดว่าปูนปั้นปูนปั้นเด็กไปหรอกนะแต่เพราะปกติแล้วเทียนไม่ค่อยชอบยุ่งกับคนที่อายุน้อยกว่าเขามากเท่าไหร่นักยิ่งถ้าเกินห้าปีไปแล้วเขายิ่งไม่เอาเลยแต่นี่เขากับสนใจคนที่อายุห่างกันเป็นสิบปีเลยนะ 

"น้องเขาชื่อปูนปั้นเป็นเจ้าของร้านที่นี่" หมิงตอบ

"ฮะ! เชี่ย~ยังดูเด็กอยู่เลย...เห็นทุกคนเกรงใจกูก็นึกว่าเป็นผู้จัดการที่ไหนได้เป็นเจ้าของร้านเลยหรอว่ะ" เทียนพูด

"เออ แต่จริงๆ เจ้าของร้านคนปัจจุบันคือพี่สาวน้องเขาอ่ะแต่เห็นว่าไม่ค่อยสบายก็เลยให้น้องเขามาดูแลแทนก่อน" หมิงตอบ

"เหรอว่ะ" เทียนพูดแล้วหันเข้าไปมองในร้าน

"เอาจริงดิ เด็กมากเลยนะเว้ย" หมิงพูด

"เอาจริงไรงว่ะกูก็แค่ถามดูเฉยๆ" เทียนตอบ

"ปูนปั้นเป็นเด็กดีคนนึงเลยนะเว้ย ถ้ามึงไม่ได้ชอบเขาจริงจังล่ะกูว่าอย่าเริ่มเลยดีกว่า" หมิงพูด

อะไรเนี่ย~ นี่ไม่ใช่สเปคมึงไม่ใช่เหรอ" เทียนถามเพราะเห็นว่าเพื่อนดูเป็นใส่ใจเด็กคนนี้มากเป็นพิเศษ 

"ก็ไม่ได้ชอบน้องเขาแค่สงสารเฉยๆ" หมิงตอบ

"สงสาร...สงสารอะไรว่ะ" เทียนถาม หมิงมองตาเทียนแล้วถอนหายใจออกมา

"เอ่อ~คุณเทียนครับ" เวกัสเดินเข้ามาตามหลังจากที่รอเทียนอยู่บนรถมาสักพักแล้ว

"ว่าไง" เทียนหันไปถาม

"เมื่อกี้คุณซ่งโทรมาบอกว่าอยากให้ผมพาคุณเทียนไปพบเดี๋ยวนี้เลยครับ" เวกัสตอบ 

"คุณปู่โทรมาเหรอ" เทียนถาม

"ครับ" เวกัสตอบ

"คุณปู่โทรมาเองเลยเหรอ" เทียนถามย้ำอีกครั้งเพราะเวลานี้ปู่ของเขาควรหลับไปแล้วแต่ทำไมถึงได้โทรมาหาเขาล่ะ เทียนยกแขนขึ้นมาเพื่อดูเวลา

"คุณปู่โทรมาตอนตี 1 เนี่ยนะ" เทียนพูดออกมาลอยๆ

"เป็นคุณซ่งจริงๆ ครับ" เวกัสตอบ

"มึงรีบกลับไปเถอะเดี๋ยวกูก็ต้องเข้าไปทำงานต่อแล้วเหมือนกัน" หมิงพูดแล้วเดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ

"ก็ได้ งั้นเดี๋ยวไว้ว่างๆ กูมาหาใหม่นะ" เทียนตอบ

"เออ" หมิงตอบ

"เชิญครับคุณเทียน" เวกัสพูดแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้เทียน

"กูไปแล้วนะ" เทียนหันไปบอกกับหมิงก่อนจะเดินตามเวกัสไป

"โชคดีเว้ย" หมิงตอบแล้วโบกมือลาเทียน เขายืนส่งจนรถของเทียนขับออกไปก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้วเดินกลับเข้าไปในร้าน 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   จบ

    17:45 น.ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์) ปูนปั้นใช้มือเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายทั้งที่ยังไม่ลืมตา"ฮัลโหลลล~""ทำไมเสียงเป็นงั้นอ่ะนี่ยังไม่ตื่นอีกเหรอปูน คนอื่นเขามารวมตัวกันแล้วนะ" เอมม่าพูด"ตื่นแล้ว" "เสียงยังงัวเงียอยู่เลย เนี่ยพี่ให้ทางรีสอร์ทเขาจัดโต๊ะให้หน้าหาดแล้วกำลังจะตั้งเตาเลย รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมากินด้วยกันนะ" "รู้แล้ววว เดี๋ยวตายไปนะ""เร็ว ๆ เข้าล่ะ ช้าหมดอดกินนะ" "คร้าบบบ" ปูนปั้นลุกจากเตียงทั้งที่ยังคงง่วงอยู่เพราะก่อนหน้านี้เขาทานยาแก้เมาเรือไป เขาเดินไปหยิบผ้าขนหนูและขอใช้เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำจากนั้นก็ออกมาใส่เสื้อผ้าด้านนอก เขาหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสั้นสีขาวมาใส่จากนั้นก็ประทินผิวฉีดน้ำหอมนิดหน่อยก็พร้อมออกไปเจอกับทุกคนแล้ว บรรยากาศตอนเย็นเงียบสงบต่างจากตอนกลางวันมากและช่วงดีที่รีสอร์ทมีพื้นที่หน้าหาดเป็นของตัวเองมันเลยพื้นความเป็นส่วนตัวได้เป็นพิเศษ ปูนปั้นก้าวเท้าออกจากบ้านพักเสียงคลื่นทะเลซัดเข้าหาฝั่งดังแผ่ว ๆ ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน มีเพียงแสงจันทร์สลัว ๆ ที่ส่องนำทางให้เขาเดินไปตามหาดทรายขาวนุ่มเท้าในใจได้แต่คิดว่าถ้ามีเทียนอยู่ท

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   87 วาเลนไทน์

    14 กุมภาพันธ์บรรยากาศการเดินทางไปเกาะราชาช่างเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะของเหล่าพนักงานของร้าน Happy Time แม้ว่าวันนี้จะไม่ได้มาครบทุกคนเพราะบางคนอยากใช้เวลากับคนรักของตนแต่บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วดังตลอดทาง บ้างก็พากันชี้นกชี้ไม้เอ่ยชมความงามของท้องทะเลไม่ขาดปาก ความใสของน้ำทะเลที่ไล่เฉดสีฟ้าครามและเขียวมรกตเหมาะกับการถ่ายรูปเก็บไว้มาก ๆ เมื่อมาถึงเกาะทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมที่ตัวเองอยากทำแล้วนั่งรวมตัวกันอีกทีช่วงเย็นเพื่อไปทานอาหารด้วยกันส่วนปูนปั้นขอแยกกับไปนอนพักก่อนเพราะเขาบอกกับทุกคนว่ารู้สึกเมาเรือตอนแรกเอมม่าก็ว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อแต่เขาก็ปฏิเสธเพราะไมาอยสกให้พี่สาวหมดสนุก ปูนพักเดินเข้ามาในห้องพักด้วยความรู้สึกเหงา เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นรูปตัวเองกับเทียนที่ตั้งอยู่บนหน้าจอก็ยิ่งทำให้คิดถึงเข้าไปใหญ่ ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์เข้า)ปูนปั้นยิ้มออกมาทันทีที่เห็นว่าเทียนวิดีโอคอลมาหาเขา เขารีบกดรับด้วยความดีใจ ภาพขอเทียนที่อยู่ในชุดสูทสีดำ background ด้านหลังเป็นห้องสีขาวและชั้นเอกสารมากมาย

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   86

    กุ๊กไก่และธูปเดินเที่ยวภายในงานอย่างตื่นเต้น พวกเขาพากันแวะซื้อของอร่อยกินนตลอด ผลัดกันป้อนไปมาจนตอนพุงกางกันไปแล้ว "ไม่เคยมาเลยอ่ะ ตอนแรกนึกว่าจะเงียบไม่คึกครื้นแบบในกรุงเทพแต่ที่ไหนได้คนเยอะแยะไปหมดเลย ของกินก็อร่อยมากด้วย" กุ๊กไก่มองไปรอบ ๆ งานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"ผมถึงได้บอกไงว่าพี่ควรออกจากกรุงเทพมาเที่ยวที่อื่นบ้าง จะได้รู้ว่าที่ประเทศไทยอ่ะไม่ได้มีดีแค่ในกรุงเทพนะ" "จ้า รู้แล้วจ้าพ่อคูณณณ~" สีหน้าติดรำคาญของกุ๊กไก่เป็นสิ่งที่ธูปได้เห็นเป็นประจำทุกวันแต่เขากลับไม่เคยรู้สึกไม่โอเคเลยกลับกันเขาดันรู้สึกชอบมันด้วยซ้ำเพราะมันทำให้กุ๊กไก่ดูน่ารักขึ้นมากต่างจากตอนทำงานที่เขามันจะชอบทำหน้าบึ้งตึงเหมือนไร้อารมณ์จนดูน่ากลัวอยู่ตลอดเวลา นี่ถ้าไม่ได้มาลองสัมผัสกับตัวเองเขาคงไม่มีทางเชื่อหรอกว่าคนอย่างกุ๊กไก่จะมีมุมน่ารัก ๆ แบบนี้ด้วยเหมือนกัน "เฮ้ย! เสื้อผ้าร้านนู้นสวยมากเลยอ่ะ ไปดูกันไหม" กุ๊กไก่ชี้ไปที่ร้านเสื้อม่อฮ่อม"เอาสิ" กุ๊กไก่เดินนำธูปไปที่ร้านเสื้อผ้า"สวัสดีเจ้า บะฮู้ว่าลูกค้าเป๋นตี้สนใจ๋ชุดไหนเจ้า" แม่ค้าสอบถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะมาก ๆ"อันนี้คือชุดม่อฮ่อมใช่ไหมครับ" กุ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   85

    มาถึงห้องพักทั้งคู่ก็รีบอาบน้ำชำระร่างกายแล้วขึ้นนอนบนเตียงพักผ่อนจากความเหนื่อยล้ากันอย่างจริงจัง รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ดึกมาแล้ว ธูปค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนมีคนกำลังทำอะไรกับร่างกายเขาอยู่และภาพตรงหน้าที่เขาเห็นก็คือกุ๊กไก่กำลังทายาและนวดขาให้เขา"พี่ทำอะไรอ่ะ" "ตื่นแล้วเหรอ""อืม""ฉันเห็นนายเดินมาตั้งไกลแถมยังแบกของหนัก ๆ อีกด้วยเลยคิดว่านายคงปวดร้าวไปทั้งตัว""พี่เองก็เดินมาไกลเท่ากับผมนั้นแหละ""แต่ฉันก็ยังสบายกว่านายเยอะ...ทายาเสร็จแล้วก็ไปล้างหน้าเถอะ ฉันสั่งข้าวเอาไว้ให้แล้วจะได้มากินพร้อมกัน" กุ๊กไก่ตอบแล้วก็ลุกออกไป ธูปสังเกตเห็นสีหน้าของกุ๊กไก่แปลกไปไม่ค่อยสดใสร่าเริงเลยรู้สึกเป็นห่วง"ไม่สบายหรือเปล่า" กุ๊กไก่ส่ายหัวตอบแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำใส่แก้ว ธูปไม่ถามอะไรมากเขาลุกไปล้างหน้าแล้วมานั่งที่โต๊ะเพื่อทานอาหารพร้อมกันกับกุ๊กไก่"อร่อยนะเนี่ย" ธูปพูดเสียงแจ๋วแต่กุ๊กไก่กลับไม่ตอบอะไรเลย เขาก้มหน้าก้มตาทานข้าวของตัวเองอย่างเงียบ ๆ จนธูปไม่สบายใจ เขาวางช้อนลงแล้วมองไปที่กุ๊กไป่ชัด ๆ"พี่เป็นอะไร""เปล่า""เปล่าแล้วทำไมไม่คุยกับผม""ฉันแค่เหนื่อยเฉย ๆ""งั

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   84

    ธูปกับกุ๊กไก่นั่งกันอยู่คนละฝั่ง ซึ่งระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกันกุ๊กไก่ยังคงทำหน้าบูดบึ้งไม่คุยกับธูปสักคำส่วนธูปก็เอาแต่จ้องเขาเหมือนอยากจะชวนคุยแต่ก็ไม่กล้า "เลิกจ้องฉันสักทีได้ป่ะ" กุ๊กไก่ทนไม่ไหวหันมาดุธูป "นี่พี่โกรธผมเหรอ" "ฉันไม่ได้โกรธ" "เห็นอยู่ว่าโกรธ" กุ๊กไก่ถอนหายใจแล้วกอดอกหันหน้าไปมองทางวิวทางด้านนอกแทน "ผมขอโทษ...ผมไม่ได้อยากให้เราทะเลาะกันจริง ๆ แต่ที่ผมพูดแบบนั้นก็เพราะว่า-" "เพราะว่านายเบื่อที่ฉันเรื่องมากและก็ขี้งกใช่ไหมล่ะ...ขอโทษนะที่ฉันทำให้ทริปของนายมันพังแบบเนี่ย" "ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผมแค่อยากให้เราได้มาถึงที่พักไว ๆ จะได้พักผ่อนแล้วก็หาอะไรอร่อย ๆ กินกัน ตั้งแต่เช้าพวกเรายังไม่ได้กินอะไรกันเลยแถมตอนที่พวกเราเดินหารถมันก็ร้อนมาก ๆ ผมเห็นเหงื่อพี่แตกเต็มตัวไปหมดเกินพี่เป็นลมขึ้นมาผมคงรู้สึกผิดที่พาพี่มาลำบากแบบนี้" น้ำเสียงที่ฟังดูเสียใจของธูปทำให้กุ๊กไก่เย็นลงทันที เขาหันกลับมาหาธูปมองดูใบหน้าที่กำลังฉายแววเศร้าอยู่ "ช่างมันเถอะ ฉันเอง...ฉันเองก็เรื่องมากจริง ๆ นั่นแหละ" "ผมรู้นะว่าพี่ไม่ได้เรื่องมากหรอกแต่พี่แค่เกรงใจผม พี่กลัวว่าผมจะต้องจ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   83

    ปูนปั้นตื่นขึ้นมาหลังได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ตัวเองตั้งไว้ก่อนนอนเพราะกลัวว่าจะลุกไม่ทันนัดของดาริน เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาปิดเสียงกลัวมันจะดังรบกวนเทียน เขามองดูเทียนที่นอนถอดเสื้อแล้วก้มลงไปจุ๊บที่แก้มของเขาจากนั้นก็ลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขอลงจากเตียงเทียนก็ดึงเขาลงมากอดไว้ในอกซะแล้ว"แกล้งหลับเหรอ" "เปล่าซะหน่อยแต่พอดีมีคนมาขโมยจุ๊บเลยตื่น""ตื่นแล้วก็ปล่อยผมต้องไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำบุญกับแม่อีก""ไปตั้ง 7 โมงค่อยอาบก็ได้หรอก""ไม่ได้เดี๋ยวไม่ทัน""ก็พี่อยากกอดหนูหนิหน่า" "พอเลย! จะมาอยากกอดอะไร" ปูนปั้นว่าแล้วเอามือไปจับที่เป้าของเทียน"เนี่ย! แข็งแต่เช้าเลยไม่ต้องมาอ้างว่าอยากกอดหรอก""เอ้า~ อ้างที่ไหนก็พี่อยากจริง ๆ""พอ ๆ ๆ ปล่อยเลยจะไปอาบน้ำ" ปูนปั้นว่าแล้วแกะมือของเทียนออกจากตัวเองจากนั้นก็ลุกขึ้นออกจากเตียง"นอนไปเลยแล้วก็เก็บกระเป๋าผมไปใส่รถด้วยหลังจากทำบุญเสร็จจะได้กลับคอนโดกัน""สั่งเป็นแม่เลยนะ รู้เปล่าทุกคนที่นี่ไม่มีใครกล้าออกคำสั่งพี่เลยนะ""ก็ลองดู! ถ้าผมกลับมาแล้วลุงยังไม่จัดการให้เสร็จวันนี้ก็เตรียมกลับไปส่งผมที่บ้านได้เลย""โห่~ ดุจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status