Share

3

Author: Plearn9
last update Last Updated: 2024-12-24 13:38:36

ทันทีที่เทียนก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ก็มีบอดี้การ์ดวัยรุ่นคนนึงรีบเดินตรงมาหาเขา 

"คุณท่านรออยู่ข้างบนครับคุณเทียน" พายุพูด

"ทำไมคุณปู่ถึงเรียกให้ฉันมาหาตอนนี้ล่ะ" เทียนถาม

"พอดีคุณท่านกำลังจะบินไปฮ่องกงคืนนี้ครับเลยอยากจะพบคุณเทียนก่อน" พายุตอบ

"บินตอนเนี่ยนะ" เทียนถาม

"อีก 2 ชั่วโมงครับ" พายุตอบ

"บอกฉันมาสิว่านี่มันเรื่องอะไรกัน" เทียนถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะบรรยากาศในบ้านตอนนี้มันดูตึงผิดปกติ

"สายของเรารายงานด่วนเข้ามาครับว่าพบตัวการที่แอบลักลอบขโมยข้อมูลคอนเนคชั่นของเราแล้ว" พายุตอบ

"ก็แค่หนอนบ่อนไส้ตัวเดียวคุณปู่ต้องไปจัดการด้วยตัวเองเลยหรอ" เทียนถาม

"เหมือนว่า...จะไม่ได้เป็นแค่หนอนบ่อนไส้ธรรมดานะครับ" พายุตอบออกมาอย่างไม่เต็มเสียง เทียนมองไปที่พายุด้วยความสับสนแต่ก็ไม่กล้าถามออกไปเพราะสีหน้าของพายุดูลำบากใจที่จะตอบคำถามเขาพอสมควร

"คุณเทียนครับ" จู่ๆ ก็ก็มีเสียงทุ้มต่ำของชายคนนึงเอ่ยเรียกเทียนจากบนบันได พอเขาเงยหน้าขึ้นไปพบกับวิสุทธิ์ชายวัย 50 ปีที่มีหน้าที่ดูแลข้างกายของคุณซ่ง

"คุณท่านรออยู่รีบขึ้นไปเถอะครับ" วิสุทธิ์พูด

"รู้แล้ว" เทียนตอบแล้วก็รีบวิ่งขึ้นไปพบคุณซ่งปู่ของเขาทันที

ก๊อกๆๆ

"คุณปู่ครับ" เทียนพูด

"เข้ามาสิ" คุณซ่งตอบ เทียนเปิดประตูเข้าไปในห้องทันทีที่ได้รับอนุญาตและเขาก็ได้พบกับปู่ที่กำลังนั่งรออยู่พอดี

"มา มานั่งใกล้ปู่นี่" คุณซ่งพูดแล้วใช้มือแตะโซฟาเบาๆ เพื่อบอกให้หลานชายสุดที่รักมานั่งด้วยกัน

"คุณปู่มีเรื่องอะไรสำคัญจะคุยกับผมหรอครับ" เทียนถาม

"ปู่หาตัวคนที่มันขโมยข้อมูลของเราได้แล้วนะ"  คุณซ่งตอบ 

"ใครเหรอครับ" เทียนถามออกไปแล้วนั่งรอลุ้นคำตอบด้วยความตื่นเต้น สีหน้าของคุณซ่งนิ่งไปทันที

"เมฆ" คำตอบของปู่เหมือนสายฟ้าผ่าลงกลางใจเทียน 

"มันจะเป็นไปได้ยังไงครับคุณปู่ เมฆเนี่ยนะ" เทียนถามออกไปด้วยสายตาสั่นไหว

"ปู่รับรู้เรื่องนี้มาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ เลยส่งคนไปจับตาดูมันไว้ก่อน...และสุดท้ายปู่ก็ได้รับข่าวด่วนจากสายของเราเรื่องมันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง" คุณซ่งตอบ เทียนทิ้งตัวลงไปผิงที่โซฟาอย่างคนหมดแรง เขารักและเอ็นดูเมฆเหมือนน้องชายแท้ๆ คนนึงเพราะเมฆอายุเท่ากับธูปน้องชายของเขาเลยทำให้เมฆมาเที่ยวเล่นกับธูปที่บ้านของเขาบ่อยๆ พอได้เจอบ่อยก็เกิดความรักความเอ็นดู แม้เมฆจะมีนิสัยดื้อรั้นและไม่เอาอ่าวอยู่บ้างแต่ก็เป็นน้องชายที่น่ารักของเขามาตลอด ใครพูดอะไรก็ไม่ฟังแต่ถ้าเขาเป็นคำออกคำสั่งเมฆก็จะไม่เกี่ยงเลยสักนิด วันนี้การที่ปู่บอกว่าเมฆคือคนร้ายที่ทำลายตระกูลมันเลยกลายเป็นเหมือนไฟที่กำลังแผดเผาหัวใจของเขาอยู่ตอนนี้

"ปู่จะทำยังไงครับ" เทียนถามด้วยความเป็นห่วง

"ก็ต้องดูว่ามันจะตอบคำถามปู่ยังไง" คุณซ่งตอบ

"ไม่ฆ่าใช่ไหมครับ" เทียนถาม คุณซ่งหันไปมองหน้าหลานชายที่กำลังใช้สายตาอ้อนวอนเขาอยู่ ปกคิแล้วเทียนไม่ใช่คนอ่อนไหวง่ายแบบนี้หรอกนะ ไม่ว่าปู่หรือพ่อของเขาจะสั่งเก็บใครเขาก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว

"มันก็เป็นหลายปู่คนนึงนะ ถ้ามันยอมรับผิดทุกอย่างแล้วกลับมาอยู่ที่บ้านขังตัวเองไว้ไม่เข้ามาก้าวก่ายธุรกิจของครอบครัวอีก ปู่ก็จะให้โอกาสมันได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขอีกครั้ง" คุณซ่งตอบ

"งั้นปู่ให้ผมไปด้วยนะครับ ผมเชื่อว่าเมฆต้องฟังที่ผมพูดแน่ๆ" เทียนพูด

"เทียนอยู่ที่นี่แหละ" คุณซ่งตอบ

"แต่ว่า~" เทียนกำลังจะพูดแต่ปู่ก็เขาก็ขัดขึ้นมาซะก่อน

"เดี๋ยวเรื่องนี้ปู่จัดการเอง...และระหว่างนี้ที่ปู่ไม่อยู่ถ้าย่ารองเขาพาไปทำความรู้จักกับใครเราก็ตามย่ารองไปเถอะนะ" คุณซ่งพูด

"ปู่หมายความว่าไงครับ" เทียนถาม

"เทียนอายุเยอะแล้วควรมีครอบครัวเป็นของตัวเองได้แล้ว" คุณซ่งตอบ

"แต่ปู่ก็รู้ว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิงอ่ะ" เทียนพูด

"ปู่รู้ แต่เทียนก็ต้องเข้าใจนะว่าคนเรายังไงซะมันก็ต้องมีครอบครัว ปกติปู่ก็ไม่เคยบังคับหลานคนไหนเลยไม่ว่าเขาจะชอบเพศอะไรแต่เทียนไม่เหมือนกัน...เทียนเป็นหลายชายคนโตของปู่ ต้องสืบทอดธุรกิจของที่บ้านทั้งหมดดังนั้นหลานจำเป็นต้องมีคนอยู่เคียงข้างเป็นคู่คิดที่พร้อมจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน" คุณซ่งตอบ

"แล้วจำเป็นต้องเป็นผู้หญิงด้วยเหรอครับ" เทียนถาม

"ถ้ถ้าไม่เป็นผู้หญิงแล้วเทียนจะมีทายาทได้ยังไงล่ะ" คุณซ่งตอบ เทียนก้มหน้าและเงียบไปทันที 

เทียนเข้าใจดีว่าปู่หวังดีกับเขาแต่เขาเองไม่สามารถรับมันไว้ได้จริงๆ ครอบครัวของเขาแม้จะเปิดกว้างมากแต่กับเขาที่เป็นหลานคนโตแล้วกับมีข้อผูกมัดไว้เต็มไปหมด เทียนเต็มใจเรียนรู้และรับช่วงดูแลทุกอย่างต่อจากปู่และพ่อของเขาอยู่แล้วเพราะตั้งแต่เด็กมาเขาก็ติดต่อพ่อและปู่ไปทำการค้าอยู่บ่อยๆ แต่เรื่องเดียวที่ทำให้เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตท่องเที่ยวไปวันๆ ก็คือกฎที่ปู่ตั้งไว้ว่าผู้สืบทอดต้องแต่งงานและมีทายาทไว้รับช่วงต่อเท่านั้น 

(กฎนี้ถูกตั้งขึ้นมาทีหลังตอนที่ปู่รู้เรื่องเทียนที่ชอบผู้ชาย) 

ดังนั้นหลังจากที่ตระกูลมีกฎนี้ขึ้นมาเทียนก็รู้ทันทีว่าเขาไม่เหมาะจะรับช่วงต่อก็เลยไม่ได้สนใจที่จะศึกษางานของตระกูลกับทุกคนแล้ว เขาเลือกที่จะไปท่องเที่ยวทั่วโลกหาประสบการณ์ดีๆ ในที่ต่างๆ แล้วให้ญาติพี่น้องคนอื่นทำหน้าที่นั้นแทนเขาต่อไปแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังหนีไม่พ้นเพราะคนที่ปู่ต้องการจริงๆ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถแต่งงานมีทายาทให้เขาได้แต่มันต้องเป็นเทียนเท่านั้น และนั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ปู่ของเขายังไม่ยอมวางมือจากทุกอย่างแม้ว่าตัวเองจะอายุ 70 กว่าปีแล้วก็ตาม

"ปู่มันเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว ชีวิตนี้ไม่ขออะไรมากแค่อยากจะมีโอกาสอุ้มเหลนที่มาจากแกสักครั้ง" คุณซ่งพูดหลังจากเห็นว่าเทียนกำลังคิดไม่ตกอยู่ เทียนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าปู่ด้วยความลำบากใจ

"ให้เวลาผมหน่อยนะครับ" เทียนตอบ

"แสดงว่าเทียนยอมแต่งงานมีทายาทให้ปู่แล้วใช่ไหม" คุณซ่งถามด้วยสายตาที่เป็นประกายดูก็รู้ว่าดีใจแค่ไหน

"ไว้ปู่กลับมาแล้วผมค่อยตอบได้ไหมครับ" เทียนตอบ เขาแค่อยากยื้อเวลาออกไปสักหน่อยเพราะตอนนี้เขาทำให้ปู่ไม่ได้จริงๆ ถ้าตอบความจริงออกไปก็ดูเหมือนจะเป็นคำตอบที่ตัดกำลังใจปู่มากเกินไปแต่ถ้าจะให้โกหกเพื่อความสบายใจก็ดูจะให้ความหวังปู่ของเขาเกินไป

"ได้ แต่ระหว่างที่ปู่ไม่อยู่เทียนต้องไปตามนัดของย่ารองนะ ไม่ว่าย่ารองจะพาหลานไปดูตัวสักกี่ครั้งหลานก็ต้องไปทุกครั้งนะ" คุณซ่งพูด

"ครับ" เทียนตอบ

ก๊อกๆๆ

"คุณซ่งครับ ได้เวลาไปสนามบินแล้วครับ" เสียงวิสุทธิ์ตะโกนเข้ามาขัดจังหวะปู่หลานคุยกันอยู่พอดีแต่สำหรับเทียนแล้วเสียงนี้กับช่วยชีวิตเขาไว้มาก 

"ได้" คุณซ่งตอบ

"ปู่ต้องไปแล้ว" คุณซ่งหันมาบอกกับหบานชายสุดที่รัก

"ครับ" เทียนตอบ

"คิดให้ดีๆ นะเทียน ปู่รอคำตอบนั้นจากหลานอยู่นะ" ก่อนจะไปคุณซ่งก็ยังไม่วายใช้คำพูดเชิงกดดันเทียนเหมือนเป็นการบีบบังคับกลายๆ ว่าเทียนไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว 

"ผมไปส่งนะครับ" เทียนพูดแล้วจะช่วยประคองคุณซ่ง

"ไม่เป็นไร ปู่แข็งแรงดีจะตายแข็งแรงกว่าพ่อแกซะอีก" คุณซ่งตอบแล้วลุกขึ้นยืนด้วยตังเอง แม้จะอายุเยอะแกเขากับแข็งแรงมากนอกจากเจ็บตัวจากการใช้กำลังชีวิตนี้ทั้งชีวิตเทียนก็ไม่เคยเห็นปู่ของเขาป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลเลย

แม้ว่าคุณซ่งจะบอกว่าไม่ต้องมาส่งแต่เทียนเดินก็ยังเดินมาส่งปู่ของเขาจนถึงรถ

"เอาล่ะ~พอแล้ว ปู่ไปเองได้" คุณซ่งพูดเพราะเทียนเอาตามเขาอยู่ตลอด

"เดินทางปลอดภัยนะครับปู่" เทียนพูด

"อืม" คุณซ่งตอบ

"แล้วก็...เรื่องเมฆ ปู่ช่วยใจดีกับเขาหน่อยนะครับ" เทียนพูด

"อืม" คุณซ่งถอดหายใจออกมาแล้วก็ตอบ คุณซ่งเองก็เสียใจไม่น้อยที่รู้ว่าคนที่คิดไม่ซื่อกับครอบครัวคือหลานชายตัวเองเพราะงั้นเขาจึงเลือกที่จะไปจัดการด้วยตัวเองเพราะถ้าปล่อยให้พ่อของเทียนหรือคนอื่นไปจัดการเรื่องนี้ ตัวเมฆเองคงเดือดร้อนไปมากกว่านี้หรือไม่ก็อาจจะไม่รอดเลย

เทียนยืนส่งคุณปู่ของขาจนรถขับออกไปแต่หลังจากที่ปู่ออกไปแล้วสีหน้าของเขาก็เศร้าลงไปทันที เเขาถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจเพราะไหนจะเรื่องหมิง เรื่องเมฆและก็เรื่องแต่งงานของเขาอีก ตอนนี้เขาเครียดจนอยากจะหายออกไปจากโลกนี้เลย

"วิสุทธิ์" คุณซ่งเอ่ยเรียกวิสุทธิ์ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ

"ครับคุณซ่ง" วิสุทธิ์ตอบ

"สั่งคนของเราให้จับตาดูเทียนไว้ อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด" คุณซ่งพูด

"ครับ" วิสุทธิ์ตอบแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนเผื่อสั่งงานไว้ในช่วงที่เขากับคุณซ่งไปทำธุระที่ต่างประเทศ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   จบ

    17:45 น.ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์) ปูนปั้นใช้มือเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายทั้งที่ยังไม่ลืมตา"ฮัลโหลลล~""ทำไมเสียงเป็นงั้นอ่ะนี่ยังไม่ตื่นอีกเหรอปูน คนอื่นเขามารวมตัวกันแล้วนะ" เอมม่าพูด"ตื่นแล้ว" "เสียงยังงัวเงียอยู่เลย เนี่ยพี่ให้ทางรีสอร์ทเขาจัดโต๊ะให้หน้าหาดแล้วกำลังจะตั้งเตาเลย รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมากินด้วยกันนะ" "รู้แล้ววว เดี๋ยวตายไปนะ""เร็ว ๆ เข้าล่ะ ช้าหมดอดกินนะ" "คร้าบบบ" ปูนปั้นลุกจากเตียงทั้งที่ยังคงง่วงอยู่เพราะก่อนหน้านี้เขาทานยาแก้เมาเรือไป เขาเดินไปหยิบผ้าขนหนูและขอใช้เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำจากนั้นก็ออกมาใส่เสื้อผ้าด้านนอก เขาหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสั้นสีขาวมาใส่จากนั้นก็ประทินผิวฉีดน้ำหอมนิดหน่อยก็พร้อมออกไปเจอกับทุกคนแล้ว บรรยากาศตอนเย็นเงียบสงบต่างจากตอนกลางวันมากและช่วงดีที่รีสอร์ทมีพื้นที่หน้าหาดเป็นของตัวเองมันเลยพื้นความเป็นส่วนตัวได้เป็นพิเศษ ปูนปั้นก้าวเท้าออกจากบ้านพักเสียงคลื่นทะเลซัดเข้าหาฝั่งดังแผ่ว ๆ ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน มีเพียงแสงจันทร์สลัว ๆ ที่ส่องนำทางให้เขาเดินไปตามหาดทรายขาวนุ่มเท้าในใจได้แต่คิดว่าถ้ามีเทียนอยู่ท

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   87 วาเลนไทน์

    14 กุมภาพันธ์บรรยากาศการเดินทางไปเกาะราชาช่างเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะของเหล่าพนักงานของร้าน Happy Time แม้ว่าวันนี้จะไม่ได้มาครบทุกคนเพราะบางคนอยากใช้เวลากับคนรักของตนแต่บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วดังตลอดทาง บ้างก็พากันชี้นกชี้ไม้เอ่ยชมความงามของท้องทะเลไม่ขาดปาก ความใสของน้ำทะเลที่ไล่เฉดสีฟ้าครามและเขียวมรกตเหมาะกับการถ่ายรูปเก็บไว้มาก ๆ เมื่อมาถึงเกาะทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมที่ตัวเองอยากทำแล้วนั่งรวมตัวกันอีกทีช่วงเย็นเพื่อไปทานอาหารด้วยกันส่วนปูนปั้นขอแยกกับไปนอนพักก่อนเพราะเขาบอกกับทุกคนว่ารู้สึกเมาเรือตอนแรกเอมม่าก็ว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อแต่เขาก็ปฏิเสธเพราะไมาอยสกให้พี่สาวหมดสนุก ปูนพักเดินเข้ามาในห้องพักด้วยความรู้สึกเหงา เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นรูปตัวเองกับเทียนที่ตั้งอยู่บนหน้าจอก็ยิ่งทำให้คิดถึงเข้าไปใหญ่ ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์เข้า)ปูนปั้นยิ้มออกมาทันทีที่เห็นว่าเทียนวิดีโอคอลมาหาเขา เขารีบกดรับด้วยความดีใจ ภาพขอเทียนที่อยู่ในชุดสูทสีดำ background ด้านหลังเป็นห้องสีขาวและชั้นเอกสารมากมาย

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   86

    กุ๊กไก่และธูปเดินเที่ยวภายในงานอย่างตื่นเต้น พวกเขาพากันแวะซื้อของอร่อยกินนตลอด ผลัดกันป้อนไปมาจนตอนพุงกางกันไปแล้ว "ไม่เคยมาเลยอ่ะ ตอนแรกนึกว่าจะเงียบไม่คึกครื้นแบบในกรุงเทพแต่ที่ไหนได้คนเยอะแยะไปหมดเลย ของกินก็อร่อยมากด้วย" กุ๊กไก่มองไปรอบ ๆ งานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"ผมถึงได้บอกไงว่าพี่ควรออกจากกรุงเทพมาเที่ยวที่อื่นบ้าง จะได้รู้ว่าที่ประเทศไทยอ่ะไม่ได้มีดีแค่ในกรุงเทพนะ" "จ้า รู้แล้วจ้าพ่อคูณณณ~" สีหน้าติดรำคาญของกุ๊กไก่เป็นสิ่งที่ธูปได้เห็นเป็นประจำทุกวันแต่เขากลับไม่เคยรู้สึกไม่โอเคเลยกลับกันเขาดันรู้สึกชอบมันด้วยซ้ำเพราะมันทำให้กุ๊กไก่ดูน่ารักขึ้นมากต่างจากตอนทำงานที่เขามันจะชอบทำหน้าบึ้งตึงเหมือนไร้อารมณ์จนดูน่ากลัวอยู่ตลอดเวลา นี่ถ้าไม่ได้มาลองสัมผัสกับตัวเองเขาคงไม่มีทางเชื่อหรอกว่าคนอย่างกุ๊กไก่จะมีมุมน่ารัก ๆ แบบนี้ด้วยเหมือนกัน "เฮ้ย! เสื้อผ้าร้านนู้นสวยมากเลยอ่ะ ไปดูกันไหม" กุ๊กไก่ชี้ไปที่ร้านเสื้อม่อฮ่อม"เอาสิ" กุ๊กไก่เดินนำธูปไปที่ร้านเสื้อผ้า"สวัสดีเจ้า บะฮู้ว่าลูกค้าเป๋นตี้สนใจ๋ชุดไหนเจ้า" แม่ค้าสอบถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะมาก ๆ"อันนี้คือชุดม่อฮ่อมใช่ไหมครับ" กุ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   85

    มาถึงห้องพักทั้งคู่ก็รีบอาบน้ำชำระร่างกายแล้วขึ้นนอนบนเตียงพักผ่อนจากความเหนื่อยล้ากันอย่างจริงจัง รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ดึกมาแล้ว ธูปค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนมีคนกำลังทำอะไรกับร่างกายเขาอยู่และภาพตรงหน้าที่เขาเห็นก็คือกุ๊กไก่กำลังทายาและนวดขาให้เขา"พี่ทำอะไรอ่ะ" "ตื่นแล้วเหรอ""อืม""ฉันเห็นนายเดินมาตั้งไกลแถมยังแบกของหนัก ๆ อีกด้วยเลยคิดว่านายคงปวดร้าวไปทั้งตัว""พี่เองก็เดินมาไกลเท่ากับผมนั้นแหละ""แต่ฉันก็ยังสบายกว่านายเยอะ...ทายาเสร็จแล้วก็ไปล้างหน้าเถอะ ฉันสั่งข้าวเอาไว้ให้แล้วจะได้มากินพร้อมกัน" กุ๊กไก่ตอบแล้วก็ลุกออกไป ธูปสังเกตเห็นสีหน้าของกุ๊กไก่แปลกไปไม่ค่อยสดใสร่าเริงเลยรู้สึกเป็นห่วง"ไม่สบายหรือเปล่า" กุ๊กไก่ส่ายหัวตอบแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำใส่แก้ว ธูปไม่ถามอะไรมากเขาลุกไปล้างหน้าแล้วมานั่งที่โต๊ะเพื่อทานอาหารพร้อมกันกับกุ๊กไก่"อร่อยนะเนี่ย" ธูปพูดเสียงแจ๋วแต่กุ๊กไก่กลับไม่ตอบอะไรเลย เขาก้มหน้าก้มตาทานข้าวของตัวเองอย่างเงียบ ๆ จนธูปไม่สบายใจ เขาวางช้อนลงแล้วมองไปที่กุ๊กไป่ชัด ๆ"พี่เป็นอะไร""เปล่า""เปล่าแล้วทำไมไม่คุยกับผม""ฉันแค่เหนื่อยเฉย ๆ""งั

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   84

    ธูปกับกุ๊กไก่นั่งกันอยู่คนละฝั่ง ซึ่งระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกันกุ๊กไก่ยังคงทำหน้าบูดบึ้งไม่คุยกับธูปสักคำส่วนธูปก็เอาแต่จ้องเขาเหมือนอยากจะชวนคุยแต่ก็ไม่กล้า "เลิกจ้องฉันสักทีได้ป่ะ" กุ๊กไก่ทนไม่ไหวหันมาดุธูป "นี่พี่โกรธผมเหรอ" "ฉันไม่ได้โกรธ" "เห็นอยู่ว่าโกรธ" กุ๊กไก่ถอนหายใจแล้วกอดอกหันหน้าไปมองทางวิวทางด้านนอกแทน "ผมขอโทษ...ผมไม่ได้อยากให้เราทะเลาะกันจริง ๆ แต่ที่ผมพูดแบบนั้นก็เพราะว่า-" "เพราะว่านายเบื่อที่ฉันเรื่องมากและก็ขี้งกใช่ไหมล่ะ...ขอโทษนะที่ฉันทำให้ทริปของนายมันพังแบบเนี่ย" "ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผมแค่อยากให้เราได้มาถึงที่พักไว ๆ จะได้พักผ่อนแล้วก็หาอะไรอร่อย ๆ กินกัน ตั้งแต่เช้าพวกเรายังไม่ได้กินอะไรกันเลยแถมตอนที่พวกเราเดินหารถมันก็ร้อนมาก ๆ ผมเห็นเหงื่อพี่แตกเต็มตัวไปหมดเกินพี่เป็นลมขึ้นมาผมคงรู้สึกผิดที่พาพี่มาลำบากแบบนี้" น้ำเสียงที่ฟังดูเสียใจของธูปทำให้กุ๊กไก่เย็นลงทันที เขาหันกลับมาหาธูปมองดูใบหน้าที่กำลังฉายแววเศร้าอยู่ "ช่างมันเถอะ ฉันเอง...ฉันเองก็เรื่องมากจริง ๆ นั่นแหละ" "ผมรู้นะว่าพี่ไม่ได้เรื่องมากหรอกแต่พี่แค่เกรงใจผม พี่กลัวว่าผมจะต้องจ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   83

    ปูนปั้นตื่นขึ้นมาหลังได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ตัวเองตั้งไว้ก่อนนอนเพราะกลัวว่าจะลุกไม่ทันนัดของดาริน เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาปิดเสียงกลัวมันจะดังรบกวนเทียน เขามองดูเทียนที่นอนถอดเสื้อแล้วก้มลงไปจุ๊บที่แก้มของเขาจากนั้นก็ลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขอลงจากเตียงเทียนก็ดึงเขาลงมากอดไว้ในอกซะแล้ว"แกล้งหลับเหรอ" "เปล่าซะหน่อยแต่พอดีมีคนมาขโมยจุ๊บเลยตื่น""ตื่นแล้วก็ปล่อยผมต้องไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำบุญกับแม่อีก""ไปตั้ง 7 โมงค่อยอาบก็ได้หรอก""ไม่ได้เดี๋ยวไม่ทัน""ก็พี่อยากกอดหนูหนิหน่า" "พอเลย! จะมาอยากกอดอะไร" ปูนปั้นว่าแล้วเอามือไปจับที่เป้าของเทียน"เนี่ย! แข็งแต่เช้าเลยไม่ต้องมาอ้างว่าอยากกอดหรอก""เอ้า~ อ้างที่ไหนก็พี่อยากจริง ๆ""พอ ๆ ๆ ปล่อยเลยจะไปอาบน้ำ" ปูนปั้นว่าแล้วแกะมือของเทียนออกจากตัวเองจากนั้นก็ลุกขึ้นออกจากเตียง"นอนไปเลยแล้วก็เก็บกระเป๋าผมไปใส่รถด้วยหลังจากทำบุญเสร็จจะได้กลับคอนโดกัน""สั่งเป็นแม่เลยนะ รู้เปล่าทุกคนที่นี่ไม่มีใครกล้าออกคำสั่งพี่เลยนะ""ก็ลองดู! ถ้าผมกลับมาแล้วลุงยังไม่จัดการให้เสร็จวันนี้ก็เตรียมกลับไปส่งผมที่บ้านได้เลย""โห่~ ดุจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status