Share

3

Author: Plearn9
last update Last Updated: 2024-12-24 13:38:36

ทันทีที่เทียนก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ก็มีบอดี้การ์ดวัยรุ่นคนนึงรีบเดินตรงมาหาเขา 

"คุณท่านรออยู่ข้างบนครับคุณเทียน" พายุพูด

"ทำไมคุณปู่ถึงเรียกให้ฉันมาหาตอนนี้ล่ะ" เทียนถาม

"พอดีคุณท่านกำลังจะบินไปฮ่องกงคืนนี้ครับเลยอยากจะพบคุณเทียนก่อน" พายุตอบ

"บินตอนเนี่ยนะ" เทียนถาม

"อีก 2 ชั่วโมงครับ" พายุตอบ

"บอกฉันมาสิว่านี่มันเรื่องอะไรกัน" เทียนถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะบรรยากาศในบ้านตอนนี้มันดูตึงผิดปกติ

"สายของเรารายงานด่วนเข้ามาครับว่าพบตัวการที่แอบลักลอบขโมยข้อมูลคอนเนคชั่นของเราแล้ว" พายุตอบ

"ก็แค่หนอนบ่อนไส้ตัวเดียวคุณปู่ต้องไปจัดการด้วยตัวเองเลยหรอ" เทียนถาม

"เหมือนว่า...จะไม่ได้เป็นแค่หนอนบ่อนไส้ธรรมดานะครับ" พายุตอบออกมาอย่างไม่เต็มเสียง เทียนมองไปที่พายุด้วยความสับสนแต่ก็ไม่กล้าถามออกไปเพราะสีหน้าของพายุดูลำบากใจที่จะตอบคำถามเขาพอสมควร

"คุณเทียนครับ" จู่ๆ ก็ก็มีเสียงทุ้มต่ำของชายคนนึงเอ่ยเรียกเทียนจากบนบันได พอเขาเงยหน้าขึ้นไปพบกับวิสุทธิ์ชายวัย 50 ปีที่มีหน้าที่ดูแลข้างกายของคุณซ่ง

"คุณท่านรออยู่รีบขึ้นไปเถอะครับ" วิสุทธิ์พูด

"รู้แล้ว" เทียนตอบแล้วก็รีบวิ่งขึ้นไปพบคุณซ่งปู่ของเขาทันที

ก๊อกๆๆ

"คุณปู่ครับ" เทียนพูด

"เข้ามาสิ" คุณซ่งตอบ เทียนเปิดประตูเข้าไปในห้องทันทีที่ได้รับอนุญาตและเขาก็ได้พบกับปู่ที่กำลังนั่งรออยู่พอดี

"มา มานั่งใกล้ปู่นี่" คุณซ่งพูดแล้วใช้มือแตะโซฟาเบาๆ เพื่อบอกให้หลานชายสุดที่รักมานั่งด้วยกัน

"คุณปู่มีเรื่องอะไรสำคัญจะคุยกับผมหรอครับ" เทียนถาม

"ปู่หาตัวคนที่มันขโมยข้อมูลของเราได้แล้วนะ"  คุณซ่งตอบ 

"ใครเหรอครับ" เทียนถามออกไปแล้วนั่งรอลุ้นคำตอบด้วยความตื่นเต้น สีหน้าของคุณซ่งนิ่งไปทันที

"เมฆ" คำตอบของปู่เหมือนสายฟ้าผ่าลงกลางใจเทียน 

"มันจะเป็นไปได้ยังไงครับคุณปู่ เมฆเนี่ยนะ" เทียนถามออกไปด้วยสายตาสั่นไหว

"ปู่รับรู้เรื่องนี้มาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ เลยส่งคนไปจับตาดูมันไว้ก่อน...และสุดท้ายปู่ก็ได้รับข่าวด่วนจากสายของเราเรื่องมันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง" คุณซ่งตอบ เทียนทิ้งตัวลงไปผิงที่โซฟาอย่างคนหมดแรง เขารักและเอ็นดูเมฆเหมือนน้องชายแท้ๆ คนนึงเพราะเมฆอายุเท่ากับธูปน้องชายของเขาเลยทำให้เมฆมาเที่ยวเล่นกับธูปที่บ้านของเขาบ่อยๆ พอได้เจอบ่อยก็เกิดความรักความเอ็นดู แม้เมฆจะมีนิสัยดื้อรั้นและไม่เอาอ่าวอยู่บ้างแต่ก็เป็นน้องชายที่น่ารักของเขามาตลอด ใครพูดอะไรก็ไม่ฟังแต่ถ้าเขาเป็นคำออกคำสั่งเมฆก็จะไม่เกี่ยงเลยสักนิด วันนี้การที่ปู่บอกว่าเมฆคือคนร้ายที่ทำลายตระกูลมันเลยกลายเป็นเหมือนไฟที่กำลังแผดเผาหัวใจของเขาอยู่ตอนนี้

"ปู่จะทำยังไงครับ" เทียนถามด้วยความเป็นห่วง

"ก็ต้องดูว่ามันจะตอบคำถามปู่ยังไง" คุณซ่งตอบ

"ไม่ฆ่าใช่ไหมครับ" เทียนถาม คุณซ่งหันไปมองหน้าหลานชายที่กำลังใช้สายตาอ้อนวอนเขาอยู่ ปกคิแล้วเทียนไม่ใช่คนอ่อนไหวง่ายแบบนี้หรอกนะ ไม่ว่าปู่หรือพ่อของเขาจะสั่งเก็บใครเขาก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว

"มันก็เป็นหลายปู่คนนึงนะ ถ้ามันยอมรับผิดทุกอย่างแล้วกลับมาอยู่ที่บ้านขังตัวเองไว้ไม่เข้ามาก้าวก่ายธุรกิจของครอบครัวอีก ปู่ก็จะให้โอกาสมันได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขอีกครั้ง" คุณซ่งตอบ

"งั้นปู่ให้ผมไปด้วยนะครับ ผมเชื่อว่าเมฆต้องฟังที่ผมพูดแน่ๆ" เทียนพูด

"เทียนอยู่ที่นี่แหละ" คุณซ่งตอบ

"แต่ว่า~" เทียนกำลังจะพูดแต่ปู่ก็เขาก็ขัดขึ้นมาซะก่อน

"เดี๋ยวเรื่องนี้ปู่จัดการเอง...และระหว่างนี้ที่ปู่ไม่อยู่ถ้าย่ารองเขาพาไปทำความรู้จักกับใครเราก็ตามย่ารองไปเถอะนะ" คุณซ่งพูด

"ปู่หมายความว่าไงครับ" เทียนถาม

"เทียนอายุเยอะแล้วควรมีครอบครัวเป็นของตัวเองได้แล้ว" คุณซ่งตอบ

"แต่ปู่ก็รู้ว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิงอ่ะ" เทียนพูด

"ปู่รู้ แต่เทียนก็ต้องเข้าใจนะว่าคนเรายังไงซะมันก็ต้องมีครอบครัว ปกติปู่ก็ไม่เคยบังคับหลานคนไหนเลยไม่ว่าเขาจะชอบเพศอะไรแต่เทียนไม่เหมือนกัน...เทียนเป็นหลายชายคนโตของปู่ ต้องสืบทอดธุรกิจของที่บ้านทั้งหมดดังนั้นหลานจำเป็นต้องมีคนอยู่เคียงข้างเป็นคู่คิดที่พร้อมจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน" คุณซ่งตอบ

"แล้วจำเป็นต้องเป็นผู้หญิงด้วยเหรอครับ" เทียนถาม

"ถ้ถ้าไม่เป็นผู้หญิงแล้วเทียนจะมีทายาทได้ยังไงล่ะ" คุณซ่งตอบ เทียนก้มหน้าและเงียบไปทันที 

เทียนเข้าใจดีว่าปู่หวังดีกับเขาแต่เขาเองไม่สามารถรับมันไว้ได้จริงๆ ครอบครัวของเขาแม้จะเปิดกว้างมากแต่กับเขาที่เป็นหลานคนโตแล้วกับมีข้อผูกมัดไว้เต็มไปหมด เทียนเต็มใจเรียนรู้และรับช่วงดูแลทุกอย่างต่อจากปู่และพ่อของเขาอยู่แล้วเพราะตั้งแต่เด็กมาเขาก็ติดต่อพ่อและปู่ไปทำการค้าอยู่บ่อยๆ แต่เรื่องเดียวที่ทำให้เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตท่องเที่ยวไปวันๆ ก็คือกฎที่ปู่ตั้งไว้ว่าผู้สืบทอดต้องแต่งงานและมีทายาทไว้รับช่วงต่อเท่านั้น 

(กฎนี้ถูกตั้งขึ้นมาทีหลังตอนที่ปู่รู้เรื่องเทียนที่ชอบผู้ชาย) 

ดังนั้นหลังจากที่ตระกูลมีกฎนี้ขึ้นมาเทียนก็รู้ทันทีว่าเขาไม่เหมาะจะรับช่วงต่อก็เลยไม่ได้สนใจที่จะศึกษางานของตระกูลกับทุกคนแล้ว เขาเลือกที่จะไปท่องเที่ยวทั่วโลกหาประสบการณ์ดีๆ ในที่ต่างๆ แล้วให้ญาติพี่น้องคนอื่นทำหน้าที่นั้นแทนเขาต่อไปแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังหนีไม่พ้นเพราะคนที่ปู่ต้องการจริงๆ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถแต่งงานมีทายาทให้เขาได้แต่มันต้องเป็นเทียนเท่านั้น และนั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ปู่ของเขายังไม่ยอมวางมือจากทุกอย่างแม้ว่าตัวเองจะอายุ 70 กว่าปีแล้วก็ตาม

"ปู่มันเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว ชีวิตนี้ไม่ขออะไรมากแค่อยากจะมีโอกาสอุ้มเหลนที่มาจากแกสักครั้ง" คุณซ่งพูดหลังจากเห็นว่าเทียนกำลังคิดไม่ตกอยู่ เทียนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าปู่ด้วยความลำบากใจ

"ให้เวลาผมหน่อยนะครับ" เทียนตอบ

"แสดงว่าเทียนยอมแต่งงานมีทายาทให้ปู่แล้วใช่ไหม" คุณซ่งถามด้วยสายตาที่เป็นประกายดูก็รู้ว่าดีใจแค่ไหน

"ไว้ปู่กลับมาแล้วผมค่อยตอบได้ไหมครับ" เทียนตอบ เขาแค่อยากยื้อเวลาออกไปสักหน่อยเพราะตอนนี้เขาทำให้ปู่ไม่ได้จริงๆ ถ้าตอบความจริงออกไปก็ดูเหมือนจะเป็นคำตอบที่ตัดกำลังใจปู่มากเกินไปแต่ถ้าจะให้โกหกเพื่อความสบายใจก็ดูจะให้ความหวังปู่ของเขาเกินไป

"ได้ แต่ระหว่างที่ปู่ไม่อยู่เทียนต้องไปตามนัดของย่ารองนะ ไม่ว่าย่ารองจะพาหลานไปดูตัวสักกี่ครั้งหลานก็ต้องไปทุกครั้งนะ" คุณซ่งพูด

"ครับ" เทียนตอบ

ก๊อกๆๆ

"คุณซ่งครับ ได้เวลาไปสนามบินแล้วครับ" เสียงวิสุทธิ์ตะโกนเข้ามาขัดจังหวะปู่หลานคุยกันอยู่พอดีแต่สำหรับเทียนแล้วเสียงนี้กับช่วยชีวิตเขาไว้มาก 

"ได้" คุณซ่งตอบ

"ปู่ต้องไปแล้ว" คุณซ่งหันมาบอกกับหบานชายสุดที่รัก

"ครับ" เทียนตอบ

"คิดให้ดีๆ นะเทียน ปู่รอคำตอบนั้นจากหลานอยู่นะ" ก่อนจะไปคุณซ่งก็ยังไม่วายใช้คำพูดเชิงกดดันเทียนเหมือนเป็นการบีบบังคับกลายๆ ว่าเทียนไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว 

"ผมไปส่งนะครับ" เทียนพูดแล้วจะช่วยประคองคุณซ่ง

"ไม่เป็นไร ปู่แข็งแรงดีจะตายแข็งแรงกว่าพ่อแกซะอีก" คุณซ่งตอบแล้วลุกขึ้นยืนด้วยตังเอง แม้จะอายุเยอะแกเขากับแข็งแรงมากนอกจากเจ็บตัวจากการใช้กำลังชีวิตนี้ทั้งชีวิตเทียนก็ไม่เคยเห็นปู่ของเขาป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลเลย

แม้ว่าคุณซ่งจะบอกว่าไม่ต้องมาส่งแต่เทียนเดินก็ยังเดินมาส่งปู่ของเขาจนถึงรถ

"เอาล่ะ~พอแล้ว ปู่ไปเองได้" คุณซ่งพูดเพราะเทียนเอาตามเขาอยู่ตลอด

"เดินทางปลอดภัยนะครับปู่" เทียนพูด

"อืม" คุณซ่งตอบ

"แล้วก็...เรื่องเมฆ ปู่ช่วยใจดีกับเขาหน่อยนะครับ" เทียนพูด

"อืม" คุณซ่งถอดหายใจออกมาแล้วก็ตอบ คุณซ่งเองก็เสียใจไม่น้อยที่รู้ว่าคนที่คิดไม่ซื่อกับครอบครัวคือหลานชายตัวเองเพราะงั้นเขาจึงเลือกที่จะไปจัดการด้วยตัวเองเพราะถ้าปล่อยให้พ่อของเทียนหรือคนอื่นไปจัดการเรื่องนี้ ตัวเมฆเองคงเดือดร้อนไปมากกว่านี้หรือไม่ก็อาจจะไม่รอดเลย

เทียนยืนส่งคุณปู่ของขาจนรถขับออกไปแต่หลังจากที่ปู่ออกไปแล้วสีหน้าของเขาก็เศร้าลงไปทันที เเขาถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจเพราะไหนจะเรื่องหมิง เรื่องเมฆและก็เรื่องแต่งงานของเขาอีก ตอนนี้เขาเครียดจนอยากจะหายออกไปจากโลกนี้เลย

"วิสุทธิ์" คุณซ่งเอ่ยเรียกวิสุทธิ์ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ

"ครับคุณซ่ง" วิสุทธิ์ตอบ

"สั่งคนของเราให้จับตาดูเทียนไว้ อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด" คุณซ่งพูด

"ครับ" วิสุทธิ์ตอบแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนเผื่อสั่งงานไว้ในช่วงที่เขากับคุณซ่งไปทำธุระที่ต่างประเทศ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   72

    เทียนทิ้งตัวลงบนโซฟายกแขนขึันมาก่าวหน้าผากไว้ ้ขาหลับตาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ปูนปั้นที่เติมตามเข้ามาก็แยกไปในครัวเทน้ำเย็น ๆ ใส่แก้วมาให้เขา"กินน้ำก่อนครับ" "ขอบใจนะ" เทียนรับน้ำมาดื่มจนหมดแก้วแล้วเงยหน้ามองปูนปั้นที่ยืนดูเขาอยู่ เขาเอาแก้ววางลงบนโต๊ะกระจกแล้วจับมือปูนปั้นพาเขาให้เข้ามานั่งลงบนตักของตัวเองก่อนจะกอดกอดแล้วเอียงหัวไปพิงที่หน้าอกของปูนปั้น ปูนปั้นเองก็ยกมือขึ้นมาลูกที่ต้นแขนของเทียนเป็นการให้กำลังใจ"เหนื่อยมากเลยใช่ไหมครับ""วันนี้พี่ทำให้คนมากมายต้องตาย พวกเขาเอาทั้งชีวิตของตัวเองมาแลกเพื่อพี่และคนในครอบครัว สำหรับพี่แล้วพวกเขาไม่ใช่แค่บอดี้การ์ดแต่พวกเขาเป็นเหมือนคนในครอบครัวของพี่จริง ๆ บางคนก็เคยเห็นพี่มาตั้งแต่เด็ก ๆ บางคนก็เคยเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่ พอ...พอพี่ต้องมาเห็นพวกเขาตายไปต่อหน้าต่อตามันก็อดโทษตัวเองไม่ได้" เทียนเริ่มมีน้ำตาคลอออกมาแต่เขาก็พยายามอดทนฝืนเอาไว้เพราะไม่อยากให้ปูนปั้นมาเห็นมุมที่อ่อนแอของเขา"ลุงทำดีที่สุดแล้ว""ถ้าตอนนั้นพี่ไม่คิดวางแผนให้มันซับซ้อนแล้วจัดการพวกมันตรง ๆ ไปเลยตั้งแต่แรกวันนี้ครอบครัวพี่คงไม่โดนพวกมันเล่นกลับหนักขนาดนี้หรอก ถ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   71

    (ร้าน happy time) ธูป หมิงและปูนปั้นปลีกตัวออกมาคุยกันด้านหลังร้านเพราะปล่อยให้เอมม่าทำบัญชีอยู่ที่เคาน์เตอร์และกุ๊กไก่กับพนักงานคนอื่น ๆ เก็บร้านไปก่อน"แล้วนี่เราโอเคใช่ไหม" ธูปถามปูนปั้นด้วยความเป็นห่วง เขาเข้าใจว่าปูนปั้นคงตกใจมากเพราะตั้งแต่กลับมาจนถึงตอนนี้สีหน้าของปูนปั้นก็ยังไม่ดีขึ้นเลยแถมตัวก็ยังสั่นเล็กน้อย "ผม...ผมกลัวมากจริง ๆ เกิดมาผมไม่เคยเห็นปืนหรือคนยิงกันมาก่อน ตอนนั้นในหัวผมคิดแต่ว่าผมต้องตายแน่ ๆ แต่...อึก...""ใจเย็น ๆ พวกพี่เข้าใจ" หมิงเดินเข้ามาลูบที่หลังของปูนปั้นเพราะตอนนี้เขาแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว"พวกพี่อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่เอมม่านะ ผมไม่อยากให้พี่เขาเป็นห่วง""อืม ได้สิ" ธูปตอบ จนถึงตอนนี้ธูปก็เข้าใจแค่ว่าเทียนโดนโอมจับตัวไปเพราะเป็นสายให้กับเกรทและเขาก็ถูกจัดการไปแล้วโดยมีคนของเทียนและเทียนไปช่วยออกมาแต่ยังไม่รู้เลยว่าครอบครัวเพิ่งเกิดปัญหาครั้งใหญ่ พ่อโดนปองร้ายจนเกือบตาย คุณย่าโดนตามล่าจนต้องหนีไปซ่อน "แต่ว่าทำไมพี่เทียนถึงมาส่งปูนปั้นที่นี่แทนที่จะพากลับคอนโดไปปลอบขวัญล่ะ""ไม่รู้ครับ ลุงบอกต้องไปช่วยคนอื่นอีกเลยอยู่กับผมไม่ได้และคิดว่าที่นี่

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   70

    เทียนวิ่งหน้าตั้งมาที่ห้องนอนของคุณปู่ในใจได้แต่ภาวนาว่าขอให้ทันเพราะถ้าเขาไปไม่ทันในใจคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ ๆ "วิสุทธิ์!" เทียนวิ่งเข้าไปประคองร่างของวิสุทธิ์ที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่ขึ้นมา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือดไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะยกมือขึ้นมา เจ๋งกับเจสันที่วิ่งตามขึ้นมาก็หยุดนิ่งทันทีเมื่อเห็นว่าเทียนขึ้นมาทำอะไร พวกเขาเดินเข้าไปนั่งล้อมอยู่ข้างกายของวิสุทธิ์"อดทนไว้นะรถโรงพยาบาลกำลังมาแล้ว" เทียนให้กำลังใจวิสุทธิ์พร้อมกำมือของเขาไว้แน่น"คุณเทียนครับ...อึก! คุณท่านรักคุณเทียนมากเลยนะครับ...ยะ อย่า...ทำ...ให้คุณท่าน...ผิดหวัง...อ่า...นะครับ" วิสุทธิ์พยายามเปล่งเสียงออกมาอย่างเต็มที่ ชีวิตนี้ของเขามีเพียงแค่สิริยากรมาตลอดไม่เคยคิดทรยศเลยแม้แต่เสี่ยววินาทีเดียวหลังจากปู่ของเทียนตายไปชีวิตของเขาก็มีอยู่เพื่อช่วยปกป้องเทียนตามคำสั่งเสียของเจ้านายเก่าเท่านั้น "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดแล้วทำใจให้ดี ๆ รอรถพยาบาลมารับพวกเราจะไปหาหมอด้วยกัน พ่อผมยังรอพวกเราทุกคนอยู่ที่นั้น วิสุทธิ์ต้องใจเย็น ๆ นะยังมีพวกคุณย่าอีกถ้าวิสุทธิ์ไม่อยู่ใครจะดูแลพวกคุณย่าแทนปู่ล่ะ ใช่ไหม" เทียนเห็นสีหน้า

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   69

    ทั้งสามคนวิ่งลงมาจนถึงชั้นถึงก่อนพายุจะทเจ๋งกับเทียนต้องหยุดวิ่งเพื่อหันมาดูเขา"อ๊าาาาา" ลูกน้องของเหรียญชี้ปืนมาทางทั้งสามคนแล้วเดินลงบันไดมา เทียนจ้องมองคนเหล่านั้นด้วยความโกรธจนหน้าสั่นน้ำตาแห่งความเครียดแค้นค่อย ๆ ไหลออกมา"ฮ่า ๆ ๆ" เหรียญเดินหัวเราะลงมาจากข้างบนตรงเข้ามาหาเทียนทำให้ทั้งพายุและเจ๋งต้องพยายามขยับตัวเข้ามากันเหรียญไว้"หลบไปไอ้ขี้ข้า" เหรียญใช้เท้าถีบแขนข้างที่ถูกยิงของพายุจนเขากระเด็นไปฟุบอีกฝั่ง"อ้าาาา! อืมมมมม" พายุพยายามกดแผลของตัวเองไว้ด้วยความเจ็บปวด"มึงจะเอาด้วยอีกคนใช่ไหม" เหรียญถามเจ๋งที่ยังคงยืนอ้าแขนกันเทียนเอาไว้"ผมจำเป็นต้องปกป้องคุณเทียน" "ต่อให้มึงต้องตายอ่ะเหรอ""ครับ" "ได้ดิ" เหรียญยกปืนขึ้นมาจ่อที่หน้าของเจ๋งแต่เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่กลัวเลยของเจ๋งก็ยิ่งทำให้เขาได้ใจเลื่อนปืนขึ้นไปจนมันติดกับหน้าผากของเจ๋งเลย"อย่านะ!" เทียนพูดพร้อมกับผลักไหล่ของเจ๋งให้หลบไปแต่เจ๋งก็ฝืนเกรงตัวเองไว้เพื่อบังเทียนเหมือนเดิม"เจ๋ง!" เทียนไม่พอใจที่เจ๋งขืนเขา"ผมบอกคุณเทียนแล้วว่าพวกเราแค่สามคนทำอะไรเขาไม่ได้หรอกแต่คุณเทียนก็ไม่เชื่อผมเพราะงั้นถ้าวันนี้คุณเทียนมีโ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   68

    เทียนช้อนร่างของวิสุทธิ์ขึ้นมาซึ่งวิสุทธิ์เองก็รู้สึกเจ็บจนแทบเจียนตาย "อ๊าาา~" "พวกมันทำอะไรคุณ" เทียนถามด้วยความเป็นห่วงแต่วิสุทธิ์ไม่สามารถตอบออกมาเป็นคำได้เลย เทียนรู้สึกโกรธมากเขากัดฟันแน่นแล้วเงยหน้าไปมองเหรียญที่กำลังยิ้มให้เขาอยู่แล้วค่อย ๆ วางวิสุทธิ์ลงนอนที่เดิม"ดูท่าคุณเทียนจะโกรธพวกเราแล้วว่ะ ฮ่า ๆ ๆ" เหรียญหันไปพูดแล้วหัวเราะคิกคักกับลูกน้องของตัวเอง เหรียญลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้เหรียญเรื่อย ๆ"กูไม่เคยมีความแค้นกับมึงทำไมมึงต้องมาทำร้ายคนของกูด้วย วิสุทธิ์เขาอายุมากกว่าพ่อมึงอีกด้วยซ้ำ ไอ้เหี้ย!" เทียนพูด"มึงไม่เคยแต่ใช่ว่าตระกูลของมึงไม่เคยไง" เหรียญตอบ"ฮึ~ มึงคงหมายถึงตอนที่พ่อมึงหักหลังตระกูลกูจนปู่จับได้เลยลบชื่อพ่อมึงออกจากหุ้นส่วนบริษัทสินะ กูจำได้ดีตอนนั้นพวกมึงไม่มีสิริยากรหนุนหลังแล้วก็เลยทำให้ธุรกิจของครอบครัวมึงขาดความน่าเชื่อถือจนเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ พ่อมึงเป็นหนี้รอบด้านแก้ไขปัญหาไม่ได้สุดท้ายก็คลานกลับมาหาตระกูลกูแต่ก็อย่าว่าแหละคนแบบนั้นใครจะอยากช่วยเหลือพอพ่อมึงมืดแปดด้านก็เลยลมควันตัวเองตาย เรื่องนี้ใช่ไหมที่มึงแค้นเข้ากระดูกจนถึงขั้นบุกมาทำลายครอบ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   67

    "พวกเราจะไปไหนกันอ่ะลุง" ปูนปั้นถาม เขากลัวมากจนต้องกอดเทียนเอาไว้ตลอดส่วนเทียนก็คอยลูบหลังเขาเบา ๆ เพื่อไม่ให้ปูนปั้นสติแตกไปมากกว่านี้"หนูไปอยู่ที่ร้านก่อนตอนนี้ที่นั่นน่าจะปลอดภัยที่สุด" เทียนตอบ"แต่ว่าคุณเกรทก็ส่งคนไปจับผมมาจากที่นั่นนะ" ปูนปั้นพูด"มีแค่เกรทกับโอมที่รู้จักหนูแต่ตอนนี้สองคนนั้นไม่อยู่แล้วดังนั้นที่นั้นจึงปลอดภัยที่สุดอีกอย่างธูปกับหมิงก็อยู่ด้วย เชื่อพี่เถอะนะ" เทียนพูด"ครับ" ปูนปั้นตอบเอี๊ยดดดดด! (เสียงเบรกรถ)เสียงเบรกรถดังมากจนเอมม่าตกใจจนต้องหันหน้าออกมาดูเพราะคิดว่าเกิดอุบัติเหตุที่หน้าร้านโชคดีที่ตอนนี้ในร้านไม่มีลูกค้าเลยไม่งั้นคงทำให้ลูกค้าตกใจขวัญกระเจิงเป็นแน่ หลังจากเห็นเทียนกับปูนปั้นลงมาจากรถท่าทางอาลัยอาวรณ์กันเอมม่าก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจว่าทั้งคู่เป็นอะไรไปเพราะเธอไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรกับทั้งสองคนไม่งั้นป่านนี้เธอคงไม่สามารถนั่งเฝ้าร้านได้อย่างสบายใจหรอก"แค่แยกกันไปทำงานต้องกอดอะไรกันขนาดนั้นอ่ะ ทำอย่างกับจะตายจากกันอย่างงั้นแหละ" เอมม่าพูดด้วยความสงสัยเพราะสีหน้าแววตาของทั้งคู่ดูเศร้าและหวาดกลัวมาก จากนั้นไม่นานเทียนก็กลับขึ้นรถแล้วก็ออกจากร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status