“คงเย็นๆ วันนี้ผมให้คุณพักผ่อนให้เต็มที่เลย พรุ่งนี้ค่อยเข้าไร่กับผม”
คนตัวโตเอ่ยขณะยกหมวกคาวบอยขึ้นมาสวม ดารารินทร์ที่รู้ตัวว่าจะได้เข้าไร่ก็เริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ วินาทีนี้แดนไทยเริ่มถอยหลังออกจากหญิงสาวสองสามก้าว เข้าใจว่าตัวเองจะต้องแสบแก้วหูเพราะเสียงของเธอแน่นอน
“ใครจะไปทำไร่ ฉันไม่ทำหรอกนะ”
แล้วก็เป็นเช่นนั้น สาวเจ้ายืนเท้าเอวทำหน้ายักษ์ยืนกรานว่ายังไงเธอก็ไม่ยอมเข้าไร่เข้ากงเด็ดขาด คนอย่างดารารินทร์เกิดมาก็ได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูไฮโซมีพี่เลี้ยงรายล้อมคอยทำโน่นทำนี่ให้ทุกอย่างอยู่แล้ว แถมตอนนี้ยังเลือกที่จะมาแต่งงานกับคนรวยมีหรือเธอจะยอมทำสวนทำไร่ให้เหนื่อยเสี่ยงกับผิวพรรณที่จะเสีย ที่มากไปกว่านั้นหากคนรู้จักรู้ว่าเธอต้องมาเป็นชาวไร่ได้ถูกหัวเราะเยาะแน่
“อ้าว เป็นเมียผมก็ต้องทำไร่สิครับ จะมานั่งงอมืองอเท้าได้ยังไง”
แดนไทยยังคงหยอกคนที่กำลังโมโหเล่นไม่เลิก
“ก็บอกแล้วไงว่าเตรียมตัวเป็นแม่ฉันไม่คุยด้วยแล้ว”
ดารารินทร์ยืนกรานก่อนจะหันหลังสะบัดก้นเข้าไปในบ้าน ท่าทีหงุดหงิดของเธอทำแดนไทยยืนสบถขำ ท่าทีไม่สบอารมณ์ของดารารินทร์แดนไทยเห็นหลายครั้งเข้าเขาก็มองภาพนั้นเป็นภาพที่น่าขบขันไปโดยปริยาย ที่จริงเขาได้รับคำสั่งมาจากย่าตนแต่แรกแล้วว่า เมื่อดารารินทร์แต่งเข้ามาต้องดูแลเธอให้ดีที่สุด หากจะให้หญิงสาวช่วยอะไรก็ขอให้เป็นแค่งานบ้านเท่านั้น แต่งงานไร่ไม่ให้เข้าไปช่วยเด็ดขาดนอกเสียอยากหญิงสาวขอไปเอง เพราะไม่อยากให้ทางบ้านของหลานสะใภ้เห็นว่าเธอพาหญิงสาวมาลำบาก
“แหม่ ผมนึกว่าคุณดินจะลุกมาทำงานไม่ไหวซะอีกนะครับ เจ้าสาวสวยสะพรั่งซะขนาดนั้น”
แดนไทยขับรถมาถึงไร่องุ่นได้ก็มีเสียงแว่วจากคนงานไนร่องสวนเอ่ยหยอก และมีเสียงหัวเราะขบขันของคนงานหลายคนไล่เสียงไปตามๆกัน
“หัวถึงหมอนผมก็หลับแล้วครับ รับแขกตั้งแต่เช้ายันเย็นขนาดนั้นไม่มีอารมณ์ทำอะไรหรอกครับ”
แดนไทยอมยิ้มอย่างไม่ถือสา เพราะเขาเป็นกันเองกับคนที่นี่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อันที่จริงอยากจะตอบกลับทุกคนเหลือเกินว่าที่ไม่มีอารมณ์ไม่ใช่เพราะเหนื่อยกับงานเมื่อวาน แต่เหนื่อยใจกับนิสัยของภรรยาหมาดๆของเขามากกว่าที่นิสัยไม่ได้มีความน่ารักเหมือนหน้าตาเอาเสียเลย
แดนไทย จิตติวัฒน์สกุล ไฮโซหนุ่มวัย 35 ชายหนุ่มหุ่นหมีกำยำล่ำสันหน้าตาหล่อเหลาตัดผมรองทรงสูง ใบหน้าคมคิ้วเข้มนัยน์ตาหวานมีเสน่ห์ จมูกโด่งเป็นสันคม ริมฝีปากหนาอมชมพูระเรื่อ เขาเป็นคนผิวขาวแต่เมื่อมาทำไร่ทำสวนก็มีรอยกระดำกระด่าง แดนไทยค่อนข้างเป็นชายหนุ่มรักสันโดษ จะเรียกว่าโลกส่วนตัวสูงก็ไม่เชิงเพราะยังมีความอัธยาศัยดีแต่เฉพาะกับคนบางกลุ่มเท่านั้น
ชายหนุ่มจบปริญญาโทด้านการเงินจากอังกฤษ เป็นทายาทคนเดียวของกิตติทัชและกานต์มณี จิตติวัฒน์สกุล เจ้าของห้างดังหลายสาขาในประเทศ แต่เลือกที่จะมาใช้ชีวิตสมถะในไร่กลิ่นฝนต้นฟ้า สืบทอดเจตนารมณ์ของคนเป็นปู่อย่างศาสตรา เขากลับมาจากต่างประเทศได้ก็เอาแต่ขลุกอยู่ที่ไร่ ไม่สนใจสังคมไฮโซและโลกภายนอกเท่าไรนัก กะรัตเพชรย่าของชายหนุ่มเห็นว่าหลานชายหัวแก้วหัวแหวนไม่คิดหาคนมาเป็นคู่ชีวิตเสียทีจึงต้องหามาให้ จนได้แต่งงานกับดารารินทร์ คุณหนูไฮโซเอาแต่ใจที่แดนไทยอยู่ใกล้แล้วต้องปวดหัวแทบจะตลอดเวลา
แดนไทยขับรถกระบะตอนเดียวคันเก่าๆออกไปจากบ้านได้ ดารารินทร์ก็รีบเดินเลาะรอบบ้านมาทางด้านหลัง เธอเห็นต้นเหตุที่ทำให้เธอรำคาญตั้งแต่เช้าตรู่จึงรีบสาวเท้าไปที่เล้าไก่
“พวกแกใช่ไหมที่ขันตอนเช้าจนฉันตื่น ฉันจะปล่อยพวกแกให้เป็นอิสระ แล้วพรุ่งนี้ก็ไปขันที่อื่นเข้าใจไหม”
หญิงสาวมองเจ้าไก่ที่นับได้ประมาณสิบกว่าตัว และก้มลงหาช่องเปิดให้เจ้าไก่พวกนี้ออกมา หวังว่าไก่พวกนี้จะเดินหายเข้าไปในป่าไม่เหลือสักตัว วันต่อๆไปเธอจะได้นอนหลับอย่างสบายใจ
“เป็นไงบ้างลูก อยู่ได้หรือเปล่า”
คำถามจากปลายสายของคนเป็นแม่ทำดารารินทร์เริ่มมีสีหน้าบูดบึ้งกะทันหัน
“คุณแม่คิดว่าดาวจะสบายไหมล่ะคะ แต่คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงดาวนะคะ ตอนนี้คุณแม่ช่วยคุณพ่อแก้วิกฤตให้ได้เร็วๆก็พอค่ะ”
สาวเจ้าตอบกลับด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว พอจะรู้ว่าแม่เธอเดาออกว่าเธออยู่ที่นี่จะมีความสบายหรือไม่ เพราะวันที่ครอบครัวของเธอมาอยู่ที่นี่เพื่อเตรียมพิธีแต่งงานให้เธอก็น่าจะเห็นหมดแล้วว่าสภาพแวดล้อมเป็นยังไง ตอนนี้ดารารินทร์ไม่อยากให้ทางบ้านมาห่วงกับชีวิตของเธอมากนัก หากห่วงเธอจริงๆช่วยทำธุรกิจให้ดีขึ้นโดยเร็วจะดีกว่า เธอจะได้หลุดพ้นจากที่ตรงนี้ไปเสียที
ขณะที่กลุ่มคนงานในไร่องุ่นกำลังจะเดินกลับที่พักกันในช่วงเย็น ก็ต้องจ้องมองไปยังสวนทับทิมฝั่งตรงข้ามเพราะเห็นไก่ตัวใหญ่ที่สองสามตัวเดินไล่หากินอยู่ในนั้น
“นั่นมันไอ้โต้งนี่ครับคุณดิน”
ผาดผู้จัดการสวนองุ่นรีบชี้ให้แดนไทยที่กำลังเก็บอุปกรณ์ทำไร่ขึ้นท้ายกระบะคันเก่าได้มองไปยังฝั่งตรงข้าม เพราะไก่ในแถบท้ายไร่มีเพียงของถิ่นแดนไทยเจ้านายของพวกเขาคนเดียวเท่านั้น
“ใช่ครับ มันมาได้ไง”
เกษมยืนเกาหัวแกรกๆเพราะรู้ว่าปกติแล้วเจ้านายตนจะปล่อยเจ้าไก่พวกนี้ในวันที่เขาหยุดงานเท่านั้น เพราะต้องคอยดูว่ามันจะไปทางไหนบ้างแม้นมันจะกลับเล้าเองได้ก็เถอะ
“วันนี้เปิดเล้าให้มันออกมาเหรอครับ”
ผาดหันมาถามเจ้านายตนอีกรอบ
“เดี๋ยวผมรีบกลับไปดูก่อนครับ”
แดนไทยเริ่มหน้าเสียและพอจะรู้แล้วว่าไก่ของเขามันออกมาเดินเพ่นพ่านได่อย่างไร จึงรีบเร่งมือเก็บอุปกรณ์และขับรถกลับไปที่บ้านทันที อารมณ์ในตอนนี้เริ่มมีโทสะขึ้นมาพอสมควร เดาได้เลยว่าคนที่ปล่อยไก่ไม่พ้นเป็นยัยคุณหนูไฮโซภรรยาหมาดๆของเขาแน่นอน เพราะจำได้ว่าเธอโมโหที่ได้ยินเสียงไก่ขันตั้งแต่เช้ามืดแล้ว
“แกสองคนไปบวชแล้วปลงได้จริงหรือเปล่าเนี่ย”ณัฐวดีเดินออกมาที่ลานจอดรถก็เดินใช้หัวไหล่กระแทกมนชิดาและเปรมสินีเบาๆ เพราะเมื่อครู่ทั้งสองพูดขู่เจ็บแสบกับพิริสาพอสมควร“โอ้ย มันก็ไม่ได้ปลงจนเป็นแม่พระขนาดนั้น ใครดีมาก็ดีกลับร้ายมาก็ต้องถูกร้ายกลับเหมือนกัน”มนชิดาเอ่ยด้วยท่าทีขบขัน“ใช่ นี่ยังน้อยไป ถ้าไม่ติดว่าแขกในงานยังกลับไปไม่หมด ได้ฟาดหน้ายัยนั่นสักทีสองทีแล้ว”เปรมสินียังรู้สึกคันไม้คันมือไม่หาย เพราะมีผู้หญิงพวกที่คิดอยากจะยุ่งกับสามีชาวบ้านอยู่เยอะ มนชิดาถึงได้เจอเรื่องแย่ๆแถมผู้หญิงพวกนั้นก็เป็นคนทำให้พ่อและแม่ของเธอฟ้องหย่ากันอยู่ตอนนี้“พวกแกมันเริ่ด”ณัฐวดียกมือนิ้วโป้งสองข้างตรงหน้ามนชิดาและเปรมสินี“ฉันติดต่อยัยดาวไม่ได้เลยอะ”พิชชาอรเริ่มยิ้มไม่ออกเมื่อลองโทรหาดารารินทร์หลายสายแล้วแต่เพื่อนเธอก็ยังไม่รับ“ป่านนี้ดีกับคุณดินสวีทหวานแหววกันไปแล้วมั้ง อย่าไปกวนนางเลย”มนชิดาเดาว่าสองสามีภรรยาน่าจะเข้าใจกันแล้ว“อืม ไปเตรียมตัวจัดงานเซอร์ไพรซ์คุณดินคืนนี้ดีกว่า”“งานไรอะ”เปรมสินีเริ่มมีสีหน้าฉงนหลังจากได้ยินณัฐวดีพูดเรื่องคืนนี้“ไปกับพวกฉันเดี๋ยวก็รู้เอง”ณัฐวดีรวบทุกคนขึ้นร
“งานจะเริ่มแล้วตาดินไปไหนล่ะลูก”อดิเทพเห็นว่างานจะเริ่มแล้วคนในครอบครัวก็อยู่กับครบแต่ไม่ยักจะเห็นแดนไทยจึงสะกิดถามลูกสาว เพราะอยากจะให้คนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าตอนแถลงข่าวกับสื่อ“เห็นว่าจะไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวดาวไปตามให้นะคะคุณพ่อ”ดารารินทร์รีบเดินจ้ำอ้าวผ่านห้องแต่งตัวด้านหลังแล้วสายตาของเธอก็ไปสะดุดกับคนสองคนที่กำลังยืนกอดกัน หญิงสาวกลืนน้ำลายอึกใหญ่กำมือแน่นเพราะจำได้ว่าเป็นสามีของเธอแม้จะเห็นเพียงด้านหลัง“พี่ดิน!”“ดาว”แดนไทยหันหลังมาได้ดารารินทร์ก็เห็นว่าผู้หญิงคนที่สามีเธอกอดอยู่นั้นคือพิริสา มิน่าตอนเข้างานมาเขาจึงมีท่าทีแปลกไปตั้งแต่แนะนำตัวทำความรู้จักกับพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของสายการบินแล้ว ที่แท้ก็เคยรู้จักกันเป็นอย่างดีมาก่อน หญิงสาวไม่ได้อยู่สืบสาวความอะไรให้มากเรื่อง เธอเลือกที่จะวิ่งหนีออกไปจากงาน ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมาเกิดกับตัวเพราะเพิ่งจะหดหู่ใจกับเรื่องของมนชิดาไปหยกๆ ขึ้นชื่อว่าผู้ชายน่าจะไว้ใจยากกันทุกคนไม่เว้นแม้แต่สามีที่เธอคิดว่าเขาดีนักดีหนา“ตาดิน ทำไมน้องวิ่งออกจากงานไปแบบนั้นล่ะ”กานต์มณีเดินมาดักหน้าลูกชายเธอเอาไว้หลังจากเห็นดารารินทร์วิ่งออกจากงานไป
“ป้าม้วนทอผ้าสวยมากเลยนะคะพี่ดิน ดาวว่าจะส่งไปตัดเป็นเดรสใส่วันงานของสายการบินคุณพ่อค่ะ เผื่อจะมีใครอยากได้ชุดแบบดาวบ้าง คนทอผ้าที่นี่จะได้มีรายได้ด้วย”ดารารินทร์คลี่ผ้ายกมุกสีดำน้ำตาลยกมุกด้วยสีครีมลายกระดุมทองมาอวดคนเป็นสามีขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะล้มตัวนอน เธอไปอุดหนุนผ้าทอจากคนในชุมชนเห็นว่าสวยเลยคิดว่าจะเอาไปตัดเป็นชุดใส่ในวันงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์สายการบินคนใหม่ของพ่อเธอ“อืม ก็ดีนะ แล้วพ่อดาวบอกหรือยังว่าใครจะมาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่”“ยังค่ะ คุณพ่ออยากให้เงียบที่สุดเท่าที่จะเงียบได้ ดาวรู้แค่ว่าเป็นนางแบบที่เป็นคนไทยแล้วก็มีชื่อเสียงในต่างประเทศด้วยค่ะ”ดารารินทร์ส่ายหัวพยายามเค้นถามจากหลายๆคนแล้วก็ไม่ได้คำตอบอะไรเลย“วันที่เราเข้ากรุงเทพไปปรึกษาหมอด้วยเลยดีไหม พี่อยากรู้ว่าเราทำไมไม่มีลูกกันสักที”“เครียดมากเหรอคะที่ดาวไม่ท้องสักที”หญิงสาวพับผ้าเก็บในตู้ก่อนจะเดินเข้ามานอนกอดสามีซุกหน้าพูดอู้อี้กับแผงอกกว้าง มือเรียววาดกอดลูบหลังให้กำลังใจชายหนุ่ม“เปล่าหรอก พี่ก็ไม่ได้รีบขนาดนั้น แต่แค่อยากไปตรวจร่างกายให้แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่”“ก็ได้ค่ะ”แดนไทยก้มพรมจูบกระหม่อมภรรยาตัวเล
"อือ อืมมม"ดารารินทร์โอบรัดต้นคอคนตัวโตเอาไว้แน่น เมื่อลิ้นร้ายของชายหนุ่มสอดส่ายเข้ามาในโพรงปากคนที่เริ่มเป็นงานก็เริ่มตวัดรัดดูดดึงสร้างความวาบหวามให้สามีได้เป็นทวีคูณมือหนาดึงสายผูกเอวชุดนอนซาตินออกได้ร่างบางขาวนวลเนียนก็เผยล่อลวงสายตาคมได้เป็นอย่างดี ยอดอกอูมอวบอิ่มชมพูระเรื่อตั้งชูชันประจันหน้าชายหนุ่มที่พึ่งละการเล่นลิ้นอยู่ในโพรงปากหวาน"อ อ้ะ"เขาก้มลงดูดดึงยอดถันมูมมามจนคนตัวเล็กร้องลั่นแอ่นเร่าตาปรือเยิ้มระบายความเสียวกระสัน มือหนาเลื่อนลงต่ำลูบไล้ไปจนกลีบกุหลาบงาม เขาเลื่อนยกนิ้วโป้งคลึงเม็ดทับทิมสีหวานเรียกอารมณ์รักอย่างเบามือ"อ้ะ อื้อออ ส เสียวค่ะ"ความเสียวซ่านช่วงล่างบวกกับถูกละเลงลิ้นดูดดึงยอดอกทำคนตัวเล็กครางไม่ค่อยจะเป็นคำ มือเรียวสอดผ่านเสื้อยืดวาดจิกแผ่นหลังกว้างถลกเสื้อคนตัวโตขว้างออกไปข้างเตียงหลังจากที่เขาผละออกจากทรวงอกอิ่ม ชายหนุ่มรีบถอดกางเกงเหวี่ยงทิ้งไม่รีรอ สองแขนแกร่งรวบคนตัวเล็กยกกอดถลกชุดคลุมออกให้พ้นตัวจนล่อนจ้อนเหมือนกันกับตน ก่อนจะโน้มตัวนอนลงทาบทับแนบเนื้อกันอีกรอบ"อื้อ"ใบหน้าหวานเหยเกเล็กน้อยขณะคนเป็นสามีดันเจ้ามังกรยักษ์เข้าร่องสวาทคราเดียวจน
"ไม่เอาก็เอามา""เอาก็ได้ แต่คุณไม่กลัวฉันใช้ฟุ่มเฟือยเหรอ""ผมว่าตอนนี้ภรรยาผมน่าจะเอาเงินไปลงกับพวกหนังสือแล้วก็ขนมนมเนยให้เด็กๆกับคนในไร่มากกว่า"แดนไทยเชื่อใจดารารินทร์ว่าคงเอาเงินที่เขาให้ไปใช้ในทางที่มันเป็นประโยชน์ เพราะพักหลังมานี้เธอได้เงินเท่าไรก็เร้าแต่จะให้เขาพาไปซื้อโน่นซื้อนี่ทำประโยชน์ให้โรงเรียนบ้างให้คนในไร่บ้าง จนเขาแทบอยากจะเปิดมูลนิธิให้เธอแล้ว"ก็จริงค่ะ ฉันเอาเงินไปลงกับพวกเค้ามีความสุขกว่าตอนที่ซื้อชุดแพงๆใส่เยอะเลย""คุณน่ารักขึ้นมากขึ้นทุกวันรู้ตัวหรือเปล่า แล้วตอนนี้ผมก็อยากจะฟัดคุณจะแย่แล้วด้วย"แดนไทยเริ่มก้มหน้าซุกไซร้ลำคอระหงส์จนสาวเจ้าต้องรีบผละตัวหนี เพราะยังรู้สึกเหนื่อยจากการขับรถไม่หาย หากให้เขาหาความสุขกับเธอตอนนี้คงสลบเหมือดคาเตียงในไม่กี่นาทีแน่"ฉันเหนื่อยมากเลยค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ"แดนไทยยืนเท้าเอวมองตามหลังคนตัวเล็กด้วยสายตาเว้าวอน เขายอมปล่อยเธอไปก่อนก็ได้แต่คืนนี้ยังไงเธอก็ไม่รอดเงื้อมมือของเขาแน่สามวันต่อมาวันนี้ที่บ้านเล็กท้ายไร่ดูจะครึกครื้นเอามากๆ เพราะทั้งสองครอบครัวมารวมตัวกันที่นี่เนื่องในวันเกิดของกะรัตเพชร"คิดถึงทุกคนจังเลยค่ะ"ดาราริ
"เรียกว่ารัก"เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยกระซิบข้างหูคนตัวเล็ก แต่หญิงสาวก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าเธอจะรู้สึกแบบนั้นกับชายหนุ่มจริงๆ เพราะเธอยังอยู่กับเขาไม่ถึงสองเดือนเลยด้วยซ้ำ"ฉันสามารถรักคุณได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ""การที่เราจะตกหลุมรักใครสักคนไม่ต้องใช้เวลาหรอก แล้วมันก็ไม่ค่อยมีเหตุผลด้วย ขนาดคุณพยศทำตัวดื้อกับผมตั้งหลายครั้งผมยังมองว่าคุณน่ารักเลย""หืม คุณคิดแบบเดียวกับฉันเหรอ""ถ้าผมไม่รู้สึกดีกับคุณ คงไล่คุณออกจากบ้านไปตั้งนานแล้ว"แดนไทยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปเผลอใจให้เธอตอนไหน พอจะรู้ตัวจริงจังก็เมื่อวันที่สาวเจ้ากลับมาและเขาก็ใจอ่อนยวบยกโทษให้เธอเพียงแค่หญิงสาวพูดขอโทษไม่กี่คำ พอเห็นเธอเศร้าเขาก็พลอยใจเสีย ยิ่งเห็นเธออยากจะทำความดีอย่างตั้งใจก็ชื่นชมและคอยเอาใจช่วยเธอตลอดเวลา อยากให้หญิงสาวเป็นคนดีขึ้นไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อตัวของเธอเอง สำหรับเขาตอนนี้ดารารินทร์คือความสุขของเขาไปแล้ว"จริงอ๋อ"ดารารินทร์อมยิ้มเขินก้มหน้างุดซุกเข้ากับอกอุ่น รู้สึกเขินเกินกว่าจะเงยหน้ามองชายหนุ่ม"ถ้าคุณไม่อยากเหนื่อย อย่าเอาหน้ามาถูหัวนมผม"แดนไทยเริ่มมีเสียงกระเส่าแค่กอดก่ายหญิงสาวคราแรกก็เริ่มกลืนน