“ไปอาบน้ำ ทานข้าวแล้วแยกกันนอนเถอะนะคะ”
มาร์วินยิ้ม จุ๊บปากอิ่มอีกครั้ง แล้วเดินนำคนตัวเล็กออกจากห้องออกกำลังกาย “เบลจะนั่งเล่นรอพี่ตรงนี้นะคะ” ไม่นานมาร์วินเดินออกมาจากห้องนอน พร้อมกลิ่นหอมของคนเพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ เฌอเบลหันไปมองเขายิ้มให้ พร้อมกับอ้าแขนเข้าไปกอดร่างหนา “พี่หมีวินน่ากอดจังเลย” “เรียกพี่ว่าไงนะ” “พี่หมีวิน” เงยหน้าพูดมองเขาตาแป๋ว “หึ!” มาร์วินถึงกับขำ “ตลกเหรอคะ” “เปล่า เบลเรียกพี่เหมือนคุณแม่พี่น่ะ” “จริงเหรอคะ” “อืม!” เฌอเบลยิ้มยังกอดเขานัวเนียไม่ห่าง จุ๊บแขนแกร่งหลายทีอย่างมันเขี้ยว “จะกินอะไรดี เบลเลือกไหม?” คนตัวโตยื่นโทรศัพท์ให้เธอ เฌอเบลรับโทรศัพท์จากเขา แล้วพากันมานั่ง มาร์วินเปิดทีวีเลื่อนหาหนังดูไปเรื่อยๆ รอคนตัวเล็กเลือกสั่งอาหาร “สั่งเรียบร้อยค่ะ” เฌอเบลส่งโทรศัพท์คืนให้เขา แล้วก็ขยับตัวไปนั่งเบียดซุกตัวกอดคนพี่ไม่ห่าง “เบลดูเรื่องนี้ไหม” “หนังผี เบลกลัว คืนนี้เบลต้องนอนคนเดียวนะคะ” “ถ้ากลัวนอนด้วยกันก็ได้ พี่ห้ามตัวเองได้ แต่เบลก็อย่าซนก็พอ” เฌอเบลยิ้ม แต่ซุกมือเข้าไปในเสื้อเขา ลูบลอนsixpackแน่นๆ เล่น เงยหน้ามองเขาและยิ้มซุกซนใส่ “ใครจะไปอดใจไหวละคะ” “หึ!” มาร์วินหัวเราะ อย่างชอบใจ แล้วก็ปล่อยให้เธอทำไปไม่ได้ห้ามอะไร เลือกหนังที่อยากดูต่อ “พี่วินคะ” สรรพนามที่เรียกเขาเปลี่ยนไปเพราะคิดว่าเรียกสั้นๆ แบบนี้น่ารักดี “หืม!” “เพื่อนๆ พี่เขาไซซ์เดียวกับพี่รึเปล่าคะ” “ถามทำไม?” มาร์วินหันมามองเฌอเบลนิ่ง “เบลแค่อยากรู้ ก็เห็นตัวใหญ่กันทุกคน” “ก็สมกับตัวเขากันทั้งนั้นแหละ” “58ทั้งกลุ่มงั้นเหรอคะ จะบ้าตาย นี่มันกลุ่มลูกรักพระเจ้ากันชัดๆ หล่อ รวย ใหญ่ แถมหุ่นล่ำเกินไปแล้วนะคะ” “หยุดชมคนอื่นสักทีเฌอเบล พี่ไม่ชอบ” “แหม! อะไรกันก็แค่ชมเพื่อนพี่เองค่ะ ไม่ได้ชมผู้ชายคนอื่นสักหน่อย” “ก็ไม่ชอบอยู่ดี” “ขี้หึงชะมัด” มาร์วินยิ้ม กอดคนตัวเล็ก จุ๊บหน้าผากเธอเบาๆ ออด~ออด~ “อาหารมาส่งแล้ว เดี๋ยวพี่ไปรับเอง” สองคนทานอาหารกันเสร็จแล้วชวนกันดูหนังต่อจนจบไปหนึ่งเรื่อง เฌอเบลปิดปากหาวเพราะเริ่มง่วง “ง่วงแล้วเหรอ” คนตัวเล็กพยักหน้า “งั้นไปนอนเถอะพี่ไปส่ง เดี๋ยวพี่นอนอีกห้องเอง” มาร์วินดึงแขนเล็กให้ลุกขึ้นจากโซฟา “อื้อ! เบลขอดูอีกห้องด้วยได้ไหมคะ ยังไม่เคยเข้าไปเลย” “อยากนอนด้วยงั้นเหรอ” คนตัวโตหรี่ตามองเธอต้องการหยอกล้อ “เปล่านะ แค่อยากดูว่าพี่จะนอนได้รึเปล่า” “มาสิ” มาร์วินจูงมือเล็กให้เดินตามเขาไปอีกห้อง เปิดประตูให้เฌอเบลเข้าไปภายในห้อง คนตัวเล็กเดินสำรวจห้องนอนไปเรื่อยๆ “ห้องสวยดีนะคะ” “พี่นอนได้ เบลไปนอนเถอะ รึไม่อยากนอนคนเดียวขึ้นมา” เขาเดินตามคนที่เดินสำรวจห้องดูนั้นดูนี้ไปเรื่อยเปื่อย เพราะคิดว่าคนตัวเล็กน่าจะหาข้ออ้างไม่อยากนอนคนเดียวมากกว่า เฌอเบลเปิดดูห้องน้ำ และเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว “เอ๊ะ! พี่มาร์วินทำไมมีชุดผู้หญิงคะ” เธอหันมามองเขาและถามด้วยน้ำเสียงเอาเรื่องบ่งบอกว่าไม่พอใจชัดเจน “อ๋อ! ชุดพวกนั้นของปันปันน่ะ เบลอย่าเพิ่งเข้าใจผิด มีอยู่ช่วงหนึ่งพี่ไม่อยู่แล้วห้องปันปันต้องซ้อมอะไรสักอย่างพี่จำไม่ได้ ก็เลยขอมาพักที่นี่ พี่ก็ไม่ได้เข้ามาดู ปันปันคงไม่ได้ขนกลับไป เพราะบางครั้งเวลาเมาปันปันขับรถไม่ไหวก็มานอนนี่” มาร์วินรีบอธิบายทันทีก่อนที่ตัวเองจะงานเข้า “ดูสนิทกันเกินไปนะคะ เบลไม่ชอบ” น้ำเสียงที่เธอพูดตรงไปตรงมาบ่งบอกว่าไม่ชอบจริงๆ “เบลปันปันแค่เพื่อนจริงๆ เรื่องนี้เชื่อใจพี่เถอะนะ” “เบลไม่รู้หรอก เบลแค่ไม่ชอบพี่ปันปัน และสาเหตุพี่ก็รู้อยู่แล้วว่าทำไม เอาเป็นว่าเบลขอได้ไหมคะ ว่าตอนนี้เบลอยู่กับพี่ อย่าให้พี่ปันปันมาค้างที่นี่อีก เมื่อก่อนยังไงไม่รู้ แต่ตอนนี้ถือว่าเบลขอ” “ได้ เดี๋ยวเบลตั้งรหัสเข้าบ้านใหม่ได้เลย พี่ให้เบลตั้งเองเลย” “อะไรนะคะ นี่พี่ปันปันถึงขั้นรู้รหัสเข้าบ้านพี่เลยงั้นเหรอคะ คือจะเข้าออกบ้านพี่ตอนไหนก็ได้งั้นเหรอคะ” เฌอเบลรู้สึกว่ามันมากไปและปันปันก็เป็นผู้หญิง มาร์วินให้สิทธิ์เธอมากเกินไป แบบนี้ใครรู้เข้าจะได้เข้าใจผิดไปกันใหญ่ และฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าชายแท้จะเป็นเพื่อนรักกับชะนีได้ โดยที่ไม่แอบคิดอะไรเลยเถิดกัน “ก็ปันมันเพื่อนสนิทพี่ เอาเป็นว่าถ้าเบลไม่ชอบ พี่ก็จะไม่ให้ปันมาอีกก็แล้วกัน พี่ตามใจเบลนะครับ อย่าคิดมากนะ นะครับ” มาร์วินกอดเธอแน่น เพราะเขาไม่อยากให้เธอโกรธ เขากับปันปันเป็นเพื่อนกันจริงๆ เลยปกติมาก ที่จะมาบ้านเขาได้ตลอด รวมถึงเพื่อนๆ ในกลุ่มของเขาด้วย แค่เขาไม่เอาปันปันกับเพื่อนผู้ชายของเขามารวมกัน เพราะกลัวว่าแฟนปันปันจะไม่พอใจ แค่นั้น เลยทำให้กลุ่มเพื่อนเขาคิดว่าปันปันเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อกับเขา แต่พอรู้ว่าปันปันมีแฟนแล้วก็พากันเงียบๆ ไป “ก็ได้ค่ะ เบลไม่โกรธพี่หรอก เบลเชื่อพี่หมีวินของเบลอยู่แล้วค่ะ” เธอหันมาเขย่งปลายเท้า จุ๊บ! แก้มเขา “เบลไปนอนนะคะ” มาร์วินกอดหอมแก้มนุ่มนัวเนียไม่ยอมปล่อยให้เธอไปง่ายๆ “พี่วินปล่อยเบลได้แล้วค่ะ เดี๋ยวได้เปลี่ยนใจนอนกับพี่แล้วนะคะแบบนี้ แล้วพี่เดือดร้อนตัวเองนะเบลขอเตือนไว้เลย” “เมื่อกี้เรียกพี่ว่าไงนะ” “พี่วิน” เธอมองเขาตาแป๋วเพราะคิดว่าเรียกเขาแบบนี้น่ารักดี “ชอบแฮะ อยากให้เรียกตอนนั้นจัง เรียกปนเสียงครางน่ะ” “พี่เลิกแกล้งได้แล้วค่ะ” “โอเค แยกกันนอนเนอะ” มาร์วินยิ้ม ยอมปล่อยคนตัวเล็กจากอ้อมกอด และเดินไปส่งเธอที่ห้องนอนของเขา “ล็อกประตูด้วยนะ ดึกๆ เพื่อพี่ไม่ไหว” “เบลจะล็อกประตู พี่กลับไปนอนได้แล้วค่ะ” มือเล็กผลักอกแกร่งเบาๆ “ไปแล้วครับ ฝันดีนะครับ” “ฝันดีค่ะ” “จูบหน่อยไหม” คนตัวโตเริ่มงอแงซะเองเพราะไม่อยากห่าง “พี่วินเพราะจูบของพี่ไงคะเมื่อคืนที่ได้เลยเถิดไปไหนต่อไหน เบลไม่หลงกลพี่หรอก เบลยังเจ็บอยู่เลย” “เพราะจูบทำให้เรารักกันต่างหาก พี่ชอบนะ แต่เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ พรุ่งนี้ก็หายแล้ว จะได้เสียวต่อ” คนตัวโตยิ้มกริ่มส่งสายตาเจ้าเล่ห์ “ไปนอนเลยค่ะ พรุ่งนี้พี่โดนแน่เบลรับรองเลย เบลไม่ปล่อยให้พี่นอนคนเดียวหลายคืนหรอก” “หึ! จะรอเลยครับ” มาร์วินยิ้มอย่างขอบใจแล้วปิดประตูให้เธอ เดินกลับมานอนอีกห้อง เฌอเบลโคตรน่ารัก ทำไมเขาถึงได้ชอบเธอขนาดนี้ อาการคนคลั่งรักใช่ไหม คงเป็นแบบนี้สินะ เช้าวันต่อมา “พี่คะ แล้วเบลจะใส่ชุดอะไรไปเรียนละคะ” เธอถามเขาทันที ที่เปิดประตูให้คนตัวโตเดินเข้ามาในห้อง “นี่ไงอีกห้านาที ของใช้เบลแล้วก็เสื้อผ้าจะมาถึง เราไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวพี่เอาชุดเข้ามาให้ พอเราสองคนออกไป แม่บ้านจะได้เข้ามาจัดข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง” “โอเคค่ะ” คนตัวเล็กรีบทำตามอย่างว่าง่าย และพอเธอออกมาชุดนักศึกษาก็วางรออยู่บนเตียง เฌอเบลรีบแต่งตัว และออกไปเรียนพร้อมกับมาร์วิน “โอ๊ะ! นี่พี่วินขนมาหมดเลยเหรอคะ” เธอตกใจกับของใช้และเสื้อผ้าตัวเอง ที่อยู่ด้านนอก เตรียมจะเอาเข้าไปจัดเก็บภายในห้องเขา “อืม! ทำไม ก็เบลต้องอยู่กับพี่ตลอด ก็ขนมาให้หมดนั่นแหละ” “ค่ะตามนั้น” คนตัวเล็กยิ้มเดินมาเกาะแขนเขาและพากันออกไปจากห้อง “เบลเลิกเรียนโทรหาพี่นะ” “ได้ค่ะ”สามปีต่อมา “พี่วินค่ะ” เฌอเบลเดินเข้ากอดคลอเคลียสามีที่นั่งดูหนังอยู่ “หิวเหรอ”เฌอเบลส่ายหน้า มาร์วินยิ้ม “หิวพี่ใช่ไหม”“นี่พี่ เรื่องนี้ตลอดเลยนะคะ”มาร์วินเลิกคิ้ว มองเธอล้อๆ “แล้วมาอ้อนจะเอาอะไรครับที่รัก”“เบลอยากไปเที่ยวบ้านคุณยายพี่เค้ก พี่เดลล่าก็ไป พี่เจ้าน้อยก็ไปค่ะ พี่วินให้เบลไปนะคะ”“ใครจะขับรถไป”“พวกเราขับกันเองสิคะ เอารถไปคันเดียวก็พอค่ะ ไปนอนแค่สองคืน บ้านคุณยายพี่เค้กน่าสนุกออก เบลอยากไป”“พี่ไม่ว่าง”“เบลยังไม่ได้บอกเลยว่าให้พี่ไปด้วย เราจะไปกันเฉพาะสาวๆ ค่ะ”“ไม่ได้แน่ ไอ้ออสตินไม่ยอมหรอก เคเดนก็ไม่ปล่อยเมียมันไปแน่”“ใครบอกละคะ พวกพี่เขาอนุมัติเรียบร้อยแล้วค่ะ เหลือพี่หมีวินคนเดียวนี่แหละนะคะ ให้เบลไปกับพี่ๆ นะคะ แค่ไปบ้านคุณยายเอง นะ นะ”“ทำไมไอ้พวกนั้นมันยอมกันง่ายจังวะ รึว่ามีแผนเมียไม่อยู่หนูร่าเริงกันรึเปล่า” มาร์วินแกล้งพูดให้อีกคนระแวง “อย่าเลยนะ เบลจัดการพี่แน่ๆ”“จัดการยังไงก่อน เราไม่อยู่สักหน่อย จะไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ”“เดี๋ยวเหอะ พี่แต่งงานแล้วนะ”“พี่ล้อเล่น ใครจะไปไหนละ งานยุ่งจะแย่ เมียไม่อยู่ก็นอนบ้านนี่แหละครับ”“พูดแบบนี้แสดงว่าพี่อนุญาตให้เบ
ด้านนนท์ เขาขับรถไปหาปันปันตามที่อยู่ที่มาร์วินให้มา เขาจอดรถเรียบร้อย และพอดีกับที่ปันปันเดินออกมาจากคอนโด นนท์สังเกตเห็นท้องของเธอที่โตมากพอสมควรแล้ว “ปันกำลังจะไปไหน”นนท์เห็นเธอเดินมาที่รถ และขึ้นไปนั่งไม่นานก็ขับออกไป นนท์เลยไม่รอช้ารีบขับรถตามออกไป ปันจะไปไหนกันแน่ ตอนแรกนนท์คิดว่าปันปันจะไปโรงพยาบาล แต่เธอเพิ่งขับรถเลยไปเมื่อกี้ เขาขับรถตามเธอมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปันปันเปิดไฟเลี้ยวเข้าไปในโรงแรม @Cherbelle Grand Hotel“ปันมาทำไมที่นี่” นนท์จอดรอและค่อยขับตามเข้าไปห่างๆ ยังไม่อยากให้ปันปันรู้ว่าเขาแอบตาม ปันปันเดินไปทักทายเพื่อนของเธอ และแยกย้ายกัน เพื่อนเธอโทรมาบอกเธอว่าเฌอเบลอยู่ที่โรงแรม และปันปันก็ขับรถมาที่โรงแรมทันที เพราะเธอรู้ว่ามาร์วินอยู่ที่บริษัท ถ้ามาหาเฌอเบลที่นี่เพื่อก่อกวนเล่นสนุกๆ ก็เป็นอะไรที่ควรทำ เพราะมันซะใจดี เฌอเบลไปนั่งที่ห้องอาหารภายในโรงแรม และเริ่มสั่งอาหาร รอจนอาหารมาเสิร์ฟ“ขอโทษนะคะ” ปันปันเรียกพนักงานของโรงแรม “ครับ คุณลูกค้า” พนักงานเดินมาให้บริการเธอด้วยท่าทางสุภาพ “เมื่อกี้ฉันบอกว่าฉันไม่ทานผักชี แล้วทำไมยังใส่มาค่ะ” ปันปันแกล้งโวยวายใส่พนั
เฌอเบลบิดตัวไปมา คว้ามือหาอีกคนโดยที่ยังไม่ได้ลืมตา “เฌอเบลพี่อยู่นี่”มาร์วินยิ้ม ยืนมองคนตัวเล็กอย่างนึกเอ็นดู เขาตื่นสักพักแล้ว และเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ “พี่ตื่นนานแล้วเหรอคะ”“สักพักแล้ว เราลุกไหวไหม”“เบลหายแล้วค่ะ”“หายเพราะกินน้ำพี่งั้นเหรอ”“พี่เลิกพูด”มาร์วินหัวเราะ เดินเข้าไปดึงคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นจากเตียง “วันนี้เราพักผ่อนอยู่บ้านนะ ยังไม่ต้องไปเรียนหรอก แต่พี่ต้องไปทำงานกลับเย็นๆ อยู่ได้ใช่ไหม” “ไม่ได้ค่ะ” เฌอเบลกอดคนตัวโตซบหน้าบนแผงอกแกร่ง มาร์วินยืนอมยิ้มเขาดีใจที่ได้คนขี้อ้อนกลับมา “งั้นเอาไงดีตามพี่ไปบริษัทด้วยไหม”“หน้าเบลดูเป็นไงบ้างคะวันนี้ ยังโทรมอยู่รึเปล่า ถ้าโทรมเบลไม่ไปดีกว่า”“ไหนดูสิ”เฌอเบลเงยหน้าให้คนตัวโตดู มาร์วินยิ้มจุ๊บจมูกเล็ก “เปล่งปลั่งมากแก้มชมพู ปากแดงน่าจูบ แสดงว่าได้เซ็กซ์บำบัดชุดใหญ่ไป หน้าตาบ่งบอกว่าอิ่มมาก”“หยุดเลยพี่น่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ เบลไปอาบน้ำดีกว่า” เฌอเบลเดินสะบัดก้นเข้าห้องน้ำไป มาร์วินได้ส่ายหัวยิ้มตาม เขาเดินเข้าห้องแต่งตัวไปเปลี่ยนชุด เสร็จแล้วมานั่งรอคนสวยอาบน้ำ เฌอเบลเดินออกมาจากห้องน้ำ แวะหอมแก้มคนตัวโตแล้วเดินเข้าห้องแต่งต
เฌอเบลลืมตา ตะแคงตัวขยับเข้าไปหาร่างหนา มาร์วินดึงผ้าห่มคลุมให้ร่างเล็ก คว้าเอวบาง เข้ามากอดแนบชิด “เบลพี่เห็นข้อความในโทรศัพท์ ที่ปันปันคอยส่งมาให้เบลหมดแล้ว ทำไมเบลไม่บอกพี่ ทนฟังปันปันพูดโกหกทำไม มันไม่จริงเลยนะที่ปันบอกว่าพี่ดีใจที่ได้ลูกชายมันไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนคุณแม่ท่านไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอก ท่านแค่เอ็นดูปันปัน และท่านไม่รู้ด้วยว่าสิ่งที่ท่านใจดีกับปันปันจะโดนปันปันเอาสิ่งเหล่านั้นมาทำร้ายอีกคนอย่างเบล”“เบลอย่าคิดมากเรื่องคุณแม่นะ เรื่องนี้พี่จะคุยกับท่านเอง คุณแม่คงคิดว่าพี่กับเบลเลิกกันไปแล้ว เลยพยายามเชียร์ปันปันเพราะคิดว่าเด็กในท้องปันยังไงก็หลานท่าน”“แต่เบลเชื่อพี่สิ เด็กไม่ใช่ลูกพี่แน่ๆ พี่กับปันไม่เคยมีอะไรกัน พูดรอบที่ล้านพี่ก็จะพูดเหมือนเดิม เบลอดทนหน่อยเถอะนะ รอแค่เด็กคลอดอีกไม่กี่เดือน รอพี่หน่อยได้ไหม พี่อยากดูแลเบลพี่เป็นห่วงมากนะ”“เป็นห่วงอะไรกัน พี่แกล้งเบลสารพัด ให้เบลไปทำงานเยอะแยะ” เฌอเบลต่อว่าพร้อมกับหน้างอใส่เขา “หึ! พี่โกรธเรื่องเคเจ แต่ตอนนี้ไม่ติดใจอะไรแล้ว พี่กับเคเจเจอกัน และเคลียร์กันรู้เรื่องแล้ว”“เจอกันเหรอคะ”“อืม ทำไม”“แล้วมีเรื่องกันรึเ
มาร์วินปล่อยให้คนตัวเล็กนอน ปรับแอร์ในห้องไม่ให้หนาวจนเกิดไป มองคนป่วยอย่างนึกเอ็นดู เขาเดินออกไปด้านนอกลงไปด้านล่างเพื่อหาอะไรดื่ม เขานั่งลงที่บาร์เครื่องดื่มจิบไวน์ ติ้ง!ติ้ง!เสียงดังมาจากโทรศัพท์ในกระเป๋าของเฌอเบล มาร์วินหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาดู ปันปัน : ส่งรูปชุดเด็กปันปัน : ดูสิเฌอเบล ว่าคุณย่าเขาเห่อหลานเขาแค่ไหน ซื้อชุดให้หลานอีกแล้ว มาร์วินมองข้อความที่ปันปันส่งมาหาเฌอเบลอย่างรู้สึกอึ้งไป ไม่คิดว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย เขากดรหัสเพราะเขารู้รหัสโทรศัพท์เฌอเบล และเฌอเบลก็รู้เครื่องของเขาด้วยเพราะเราไม่มีอะไรปิดบังกัน แล้วเข้าไปอ่านข้อความทั้งหมด ที่ปันปันคอยส่งมาหาเฌอเบลตลอด เหมือนเป็นการเยาะเย้ย ต่างๆ นานา มาร์วินไล่อ่านข้อความ และพอรู้ว่ารูปเขา บางรูปมาจากคุณแม่เขา ที่คอยถ่ายส่งให้ปันปัน ท่านคงไม่รู้ว่าปันปัน เอารูปพวกนั้นคอยส่งมาเยาะเย้ยเฌอเบล เฌอเบลต้องเจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ความเป็นจริงเลย และเขาอ่านจนมาถึงข้อความของวันที่ เฌอเบลหนีเขาออกมาจากเพนต์เฮาส์ของเช้าวันที่เขาทะเลาะกับเธอและมีอะไรกัน ปันปัน: ส่งรูปอัลตราซาวด์ปันปัน : วินเขาดีใจมา
ครืดดด ครืดดด เสียงสายเรียกเข้าโทรศัพท์เขา พี่มาร์กี้โทรเข้ามา เขารีบกดรับสาย “ฮัลโหลครับ”“มาร์วินพวกกระเป๋าแล้วก็ของใช้ ของน้องเบลจะให้พี่เอาไปเก็บไว้ที่ไหน”“อืม…” มาร์วินหันมามองคนตัวเล็กนิดหนึ่ง แล้วลุกขึ้นเดินไปคุยกับพี่สาวที่ระเบียง เฌอเบลมองตามคนตัวสูง ที่ยืนหันหลังถอดเสื้อคุยโทรศัพท์อยู่ เขาหล่อและดูดีที่สุดในสายตาเธอเสมอ เฌอเบลยิ้มกับตัวเอง เอนตัวซบแก้มหนุนแขนตัวเองลงบนโซฟาตะแคงหน้ามองเขาเพลินๆ อยากเดินเข้าไปกอดเขาทางด้านหลังแบบนั้นจัง พอเลยคิดอะไรเนี่ย เฌอเบลรีบขจัดความคิดของตัวเองออกไปและหลับตาลงจนเผลอหลับไป มาร์วินคุยกับพี่สาวนานพอสมควร เพราะต้องเล่าทุกอย่างให้พี่มาร์กี้ฟัง พอคุยเสร็จหันมามองทางเฌอเบล คนตัวเล็กนอนหนุนแขนตัวเองอยู่ ตาสวยหลับพริ้ม “หลับแล้วเหรอ”มาร์วินเดินเข้ามานั่งลงใกล้ๆ มองแก้มใสที่ซูบผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด มือเรียวนุ่มตอนนี้เล็บที่เคยถูกต้องแต่งสวยงามอยู่ตลอดที่เขาเคยเห็น แต่ตอนนี้ตัดสั้น ไม่ได้แต่งเติมทาสีใดๆ เขารู้สึกสงสารเธอขึ้นมา มือหนายกขึ้นลูบหัวเล็กเบาๆ ไม่อยากให้เธอลำบากอีก มาร์วินขยับเข้าหาเขาคิดถึง ยังคิดถึงเธอตลอด โน้มหน้าเข้าไปหอมแก้