“คุณรู้?”
ในเมื่อเธอกล้าที่จะถาม เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายพอที่จะกล้ายอมรับออกไปตรงๆ เมื่อมันไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ต้องอายกับการตกหลุมรักใครสักคน “อาการออกขนาดนี้ ฉันมองคุณออกตั้งแต่เข้ามาในร้านแล้วค่ะ " ซาร่ากล่าวตอบตามความจริง แค่เห็นสายตาที่เขาคอยมองเจ้านายสาวผู้ซึ่งเธอนับถือเหมือนพี่สาวแท้ๆมาตลอด ก็รู้ได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์มาซื้อเพียงดอกไม้ “งั้นในเมื่อคุณรู้แล้ว ผมขอถามหน่อยก็แล้วกันครับ ว่าคุณวิพอจะมีคนที่ชอบรึยัง " เซบาสเตียนไม่ตระหนักใจที่จะถามออกไปตามที่อยากรู้ เรียกรอยยิ้มจากคนถูกถามที่รู้สึกถึงความเป็นลูกผู้ชายของเขา “ถ้าคุณกล้าถาม ฉันก็กล้าตอบค่ะ ในฐานะที่ฉันอยู่กับพี่วิมานาน พี่วิไม่มีคนที่ชอบหรอกค่ะ จะมีก็แต่….” ซารากล่าว แต่พอมาถึงประโยคสุดท้ายกลับลากเสียงยาว ยักคิ้วขึ้นเล็กน้อยพรางมองหน้าชายที่ดูเหมือนจะตั้งตารอฟังคำต่อไปจากเธออย่างตื่นตันใจ เห็นแบบนั้นก็อยากจะแกล้งให้ลุ้นสะหน่อย จนอีกคนไม่สามารถอดทนรอฟังได้ จึงรีบเปร่งเสียงถามต่อทันที “แต่อะไรครับ?” “จะมีก็แต่คนที่เข้ามาชอบพี่วินั่นแหละค่ะ อย่างเช่นคุณ " " เยอะเลยหรอครับ " ซาร่าขำลอดในลำคอออกมาเบาๆ กับการยักคิ้วถามด้วยสีหน้าจริงจังของชายตรงหน้าผู้ซึ่งมาตกหลุมรักพี่สาวตน "เท่าที่จำได้ ก็แทบจะผู้ชายทุกคนที่เข้ามาซื้อดอกไม้มั้งคะ” ซาร่าตอบ ซึ่งนั่นคือความจริง เธอไม่ได้โอเวอร์หรือแกล้งเล่นให้เซบาสเตียนเป็นกังวลไดๆทั้งสิ้น เมื่อเท่าที่เห็นก็มีแต่ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาหยอดบ้างจีบบ้างโดยหาข้ออ้างว่ามาซื้อดอกไม้กันทั้งนั้น “ขนาดนั้นเลยหรอครับ แล้ว… คุณวิเค้าสนใจกลับบ้างรึเปล่าครับ" เซบาสเตียนยังคงถามต่อไม่หยุด ยิ่งรู้แล้วก็อยากรู้ลึกเข้าไปอีก เมื่อได้ยินถึงความเสน่ห์แรงของวิเวียนก็แทบจะอยากมานั่งเฝ้าทุกช่วงเวลาเป็นหมาหวงเจ้าของจนแทบต้องสั่งเสียงจากในหัวให้คอยเตือนสติตัวเองว่ายังไม่ได้เป็นอะไรกัน "อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกค่ะ เพราะเท่าที่ดูๆ … ก็เห็นพี่วิยิ้มให้แทบทุกคนนั่นแหละค่ะ " ซาร่าตอบตามความจริง แต่ความจริงของเธอช่างแหลมดั่งปลายมีดที่เข้าไปทิ่งแทงหัวใจคนฟัง นี่เขาไม่ได้พิเศษไปกว่าใครๆงั้นหรือ ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ยิ้มและเป็นมิตรแค่กับเขาคนเดียว แต่มันเป็นบุคลิกนิสัยส่วนตัวของเธอที่ปฏิบัติกับทุกคนด้วยความอ่อนโยนนั่น ช่างน่าเจ็บใจสะจริง “แต่ฉันจะบอกให้อย่างหนึ่งก็ได้ เห็นว่าคุณหล่อหรอกนะคะ” ทันไดที่คำพูดนั้นดังผ่านเข้ามาในหู เซบาสเตียนรีบหันควับกลับมามองหน้าคนพูดด้วยแววตามีความหวังขึ้นมา “พี่วิชอบผู้ชายอ่อนโยนค่ะ” ซาร่ากล่าวพร้อมขยิบตาให้ปริ๊บๆ เป็นการเชียร์ เพราะเห็นว่าคนหล่อโครงหน้าฟ้าประทานแถมยังรวยล้นฟ้าอย่างเขายอมเสียการเสียงานแต่เช้าเพื่อมาตามจีบเจ้านายถึงร้านดอกไม้จึงนึกอยากช่วยขึ้นมาเสียดื้อๆ “ขอบคุณนะครับ” เซบาสเตียนได้ยินแบบนั้นก็อดยิ้มดีใจไม่ได้ รีบเอ่ยขอบคุณซาร่าที่ยอมบอกเขาสักข้อเกี่ยวกับวิเวียน แม้ตัวเองพอจะเดาออกอยู่บ้างก็เถอะ ก่อนซาร่าจะขอตัวกลับไปทำธุระที่เหลือของตน เป็นเวลาเดียวกันกับที่วิเวียนเดินกลับเข้ามาด้วยออร่าความผ่องใสผุดประกายไปทั่วรอบๆตัวนั่น ทำเอาเขาตกหลุมรักเธอซํ้าแล้วซํ้าเล่าทุกครั้งที่เห็น “ชาเป็นยังไงบ้างคะ รสชาติพอจะใช้ได้มั้ยคะ” เป็นอีกครั้งที่เธอเข้ามากล่าวถามด้วยรอยยิ้มแสนหวานประกบอยู่บนใบหน้านวล และมันก็มักจะเป็นแบบนั้นอยู่เสมอ ถ้อยคำพูดคำจาทั้งโทนเสียงมันช่างอ่อนหวานน่าฟัง กับรอยยิ้มอ่อนๆ ที่เต็มไปด้วยความสดใสเชิญชวนคนหลงไหล ไม่แปลกหากจะมีชายมากหน้าหลายตาเข้ามาขายขนมจีบให้เธออยู่บ่อยๆ “ยิ่งกว่าพอใช้ได้อีกครับ ผมติดใจจนอยากจะมาดื่มทุกวันแล้วสิ” เซบาสเตียนสวนด้วยรอยยิ้ม แม้ท่าทางเขาจะดูเหมือนมีการหยอกล้อปนนิดๆ ทว่าที่พูดคือเรื่องจริง แทบอยากจะทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังเพื่อที่จะได้มานั่งดื่มชากับเธอทุกวันเลยจริงๆ เมื่อได้ยินคำเอ่ยชมจากชายตรงหน้า วิเวียนยิ้มกว้างด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด แม้เธอจะได้รับคำชมอยู่บ่อยๆ จากหลายๆคน แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่เธอจะรู้สึกเฉยเมื่อมีคำชมเข้ามาเพิ่ม “ว่างๆ ก็มาดื่มได้ตามสบายเลยนะคะ” “ไม่ว่างก็จะมาครับ” "ฮะๆ คุณดูจะชอบชานี่มากเลยนะคะเนี่ย " คำตอบของเซบาสเตียนทำเอาคนฟังอย่างวิเวียนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เมื่อเขาดูจะติดใจชาที่เธอทำมากเป็นพิเศษ " ใช่ครับ ผมติดใจมากเลยล่ะ " เซบาสเตียนตอบทันที เขายอมรับว่าเขาติดใจจริงๆ แค่สิ่งที่เขาหมายถึงกับที่เธอคิดมันต่างกันไปนิดเดียวเท่านั้นเอง เมื่อสิ่งที่เขาติดใจมากที่สุดไม่ใช่ชา แต่กลับเป็นเจ้าของมันเสียมากกว่า สายตาจับจ้องอยู่บนใบหน้านวล ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ยิ้มสวยแล้ว แต่พอหัวเราะก็ยิ่งมีเสน่ห์ขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว สองคนสนทนากันเข้าด้ายเข้าเข็มอีกหลายต่อหลายนาที จนวิเวียนตัดสินใจเอ่ยถามถึงประเด็นที่เซบาสเตียนตั้งใจจะมาทำในวันนี้ ซึ่งก็คือให้เธอเลือกดอกไม้ให้ “งั้นเรามาเลือกดอกไม้กันเลยมั้ยคะ วันนี้คุณจะเอาไปทำอะไรคะ วิจะได้จัดการให้ถูก” “ผมชอบนะครับเวลาคุณแทนตัวเองว่าวิ” คนพูดกล่าวเปลี่ยนบทบาท ดูเหมือนอีกจุดประสงค์หนึ่งจะสำคัญกว่า สายตาพ่อคุณที่มองมาก็ช่างแพรวพราวเหลือเกิน แล้วดูคำพูดคำจานั่น ทำเอาคนฟังทำหน้างงกันไปพักหนึ่ง ก่อนเซบาสเตียนจะเป็นคนตอบอีกครั้ง “มันน่ารักดี” เจ้าของคำพูดยิ้มกรุ่มกริ่ม ในขณะที่คนถูกชมถึงกับนิ่งไป ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาจนเกิดเป็นสีอมชมพูแดง ดวงตาคู่หวานตกอยู่ในภวังค์ ทำเอาพ่อเสือยิ่งได้ใจ “หึ.. ผมอยากจะซื้อดอกไม้ให้เจ้าของร้านจะได้มั้ยครับ” ชายหนุ่มยังคงเอ่ยแซวไม่หยุด ยิ้มกรุ่มกริ่มมองหน้าวิเวียนที่เสียอาการให้เขาอย่างชัดเจนก็ยิ่งได้ใจ แล้วดูเหมือนเธอจะถูกใจกับคำหยอกล้อของเขา นำพาหญิงสาวขำเบาๆ ออกมากับคำพูดปนตลกนั่นปึ้ง! วิเวียนที่นั่งเหม่ออยู่ในภวังค์ความเศร้าถึงกับสดุ้งโหยงเมื่ออยู่ๆซาร่าก็ทุบโต๊ะด้วยแรงโมโหจนเกิดเสียงดังปั้ง หลังจากที่เธอเล่าทุกอย่างให้ลูกน้องสาวฟัง “อะไรกันคะ! จะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว ไอ้คุณชายนั่น!” ไม่ยักรู้ว่าคนที่จะโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟแทนที่จะเป็นตัวเธอเองแต่ตอนนี้กลับเป็นซาร่าสะงั้น “ใจเย็นๆซาร่า” “จะให้ใจเย็นได้ยังไงกันคะ พี่วิรู้มั้ยคะว่าตอนนี้ซาร่าอยากทำอะไรมากที่สุด ซาร่าอยากบุกบ้านไอ้คุณชายนั่นแล้วซัดหมัดนี่เข้าเบ้าหน้าหล่อๆที่มาหลอกคนอื่นเข้าให้จนเละเลยค่ะ!” วิเวียนถึงกับยิ้มแห้งกับอารมณ์โทสะของสาวน้อยที่เธอเอ็นดูเหมือนน้องสาวมาตลอด เพิ่งจะเคยเห็นหญิงสาวตัวเล็กๆอารมณ์พรุ่งพร่านแทนเธอได้ขนาดนี้ “พี่วิไม่ต้องห่วงนะคะ พรุ่งนี้ซาร่าจะจัดการทุกอย่างให้พี่เองค่ะ” “หื้ม?” คิ้วบางขมวดอย่างไม่เข้าใจ ดูจากสีหน้าที่มุ่งมั่นของซาร่าแล้วบ่งบอกว่าเธอไม่ได้พูดเล่นๆ ยัยเด็กคนนี้คิดจะทำอะไรกัน แล้วก็เป็นแบบที่เธอพูด เมื่อซาร่ามากดกริ่งหน้าบ้านเธอแต่เช้าตอนตีสี่ วิเวียนที่เพิ่งจะผลอยหลับไปจากการนั่งคิดมากได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องเดินงัวเงียมาเปิดประตู “มาค่ะพี่วิ
ถ้อยเสียงเบาแผ่วเอ่ยขึ้นดั่งน้อยใจ เรียกรอยยิ้มซุกซนจากอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างได้ใจ ดูเหมือนว่าแผนชั่วที่เพื่อนเขากล่าวจะได้ผลดีเลยล่ะ “คิดถึงผมหรอครับ” คนโตกว่ายกยิ้มเจ้าเล่ห์โน้มหน้าเข้ามาพูดไกล้อีกคนจนลมหายใจอุ่นรดเข้าสัมผัสผิวเนียน นำพาเสียงหัวใจดวงน้อยลุกขึ้นเต้นแข่งกันตุบตับ “ผมมีงานใหญ่ที่ต้องจัดการน่ะครับ พอรีบเคลียร์เสร็จผมก็รีบมาหาคุณนี่แหละอย่าน้อยใจสิครับ หื้ม” ไม่พูดเปล่า นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมอีกคนทัดหูไปด้วยอย่างอ่อนโยน ทำหัวใจดวงน้อยวูบไหวรีบหลบสายตาที่มองมา “ว…วิไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อยค่ะ” “งั้นก็โอเคครับ เรามานั่งคุยกันดีกว่า ผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วยนิดหน่อย” ดวงตาวูบไหวเงยมองเจ้าของคำพูด เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงถ้อยเสียงของเขาที่รู้สึกว่าเปลี่ยนไป หรือว่าจะมีเรื่องใหญ่อะไรรึเปล่า “เรื่องอะไรคะ..” “คือว่า… ผมอยากให้คุณไปจัดสถานที่ให้น่ะครับ สถานที่ขอแต่งงาน…” ดวงตาคนฟังเบิ่กกว้างเหมือนตกอยู่ในภวังค์คำพูดของเซบาสเตียน เขาหมายความยังไงถึงคำว่าสถานที่ขอแต่งงาน คำถามมากมายตีกันในหัวเต็มไปหมด ใครกันที่จะแต่งงานหรือว่าเป็นเขา แล้วถ้าหากเป็นเขาล่ะ ทุกอย่
ผ่านไปสามวัน… “พี่วิ” ซาร่าเมื่อเห็นเจ้านายสาวเอาแต่นั่งเหม่อสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ทนดูไม่ได้จึงมานั่งข้างๆ “มีอะไรรึเปล่าซาร่า” “พี่วิโอเคมั้ยคะ หลายวันมานี้ซาร่าเห็นพี่เหม่อเหมือนมีอะไรในใจอยู่ตลอดเลย” “ไม่มีอะไรหรอก…” วิเวียนก้มหน้า ปากบอกไม่มีอะไร แต่สีหน้าเธอมันบ่งบอกชัด ความจริงซาร่าไม่ต้องถามก็รู้ เพียงแต่ไม่อยากให้เธอต้องเอาแต่นั่งหมกมุ่น “เฮ้อ… พี่รอคุณชายนั่นอยู่ใช่มั้ยคะ” วิเวียนเงียบไม่มีคำตอบ แสดงว่าเรื่องจริงน่ะสิ ไม่รู้ว่าไอ้คุณชายนั่นคิดอะไร มาตามติดพี่สาวเธอเหมือนจริงจัง แต่อยู่ๆ กลับมาเล่นหายหัวไปปล่อยให้วิเวียนต้องมานั่งกลุ้ม “ไอ้คุณชายบ้านั่น อย่าให้เห็นโผล่มานะ เดี๋ยวซาร่าจะซัดเข้าให้ มาทำให้คนอื่นมีใจแล้วหายหัวไปไหนไม่รู้” ซาร่าบ่นอุบ มันน่าโมโหจริงๆเลยมั้ยล่ะ “เอาน่าซาร่า เค้าคงจะยุ่งกับงาน” “แต่ก็ควรจะบอกกันสักคำสองคำมั้ยล่ะคะ” ทันทีที่ซาร่าสวนไปแบบนั้น แววตาคู่สวยก็สั่นไหวขึ้นมาทันที ลูกน้องสาวพูดมีเหตุผลพอสมควร สีหน้าวิตกของเธอทำเอาซาร่าแทบกลืนนํ้าลายลงคอด้วยความรู้สึกผิด เธอปากมากจนลืมคำนึงถึงความรู้สึกวิเวียนเลย อยากจะตบผีใน
“ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ คุณลุงสนใจดื่มชาก่อนมั้ยคะ” วิเวียนรีบยิ้มหวานชวนเบรย์เดนนั่งเป็นการไถ่โทษที่ต้องให้เขารอนาน ส่วนชายวัยกลางเมื่อสายตาสบอยู่บนใบหน้าสวยก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา เธอสวยและเรียบง่ายจนสบายตาไม่พอแถมยังเพิ่มความสบายใจให้คนมองเข้าไปทวีคุณ ไม่แปลกใจหากลูกชายจะประทับใจในตัวแม่หนูคนนี้นักหนา “เอาสิ” เบรย์เดนไม่ตราหนักใจที่จะยิ้มตอบพร้อมนั่งลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนตามคำชวนของวิเวียน เขารู้สึกถูกชะตากับแม่หนูคนนี้เสียเหลือเกิน แม้กระทั่งท่าทางการรินชาของเธอยังดูเรียบร้อยสบายตาจนเขาประทับใจไม่น้อย “คุณลุงลองชิมดูนะคะ ชานี่เป็นชนิดพิเศษที่ทางร้านคิดค้นทำขึ้นมาเองค่ะ” “งั้นหรอ…” ชายวัยกลางเกิดนึกสงสัย ยกแก้วชาขึ้นจิบก็ต้องขมวดคิ้มเข้มเข้าหากัน เมื่อเพียงมันแตะถึงลิ้นเขาก็รับรู้ได้ถึงชนิดของชาทันที “ชาดอกไม้?” “ใช่ค่ะ คุณลุงเคยดื่มหรอคะ” “ภรรยาลุงชอบทำให้ดื่มอยู่บ่อยๆน่ะ” แววตาเขาดูมีความหมายเมื่อกล่าวถึงภรรยา แต่ก็แอบมีความเศร้าหมองแฝงอยู่ในนั้น จนวิเวียนที่จับสังเกตได้อดไม่ไหวที่จะพลั้งปากถามออกไป “คุณลุงคงจะรักเธอมากเลยสินะคะ..” “รักสิ รักมากเลยล่
“ร้านนี้หรอ” เสียงทุ้มจากชายวัยกลางถามขึ้น ในขณะที่สายตาทอดมองไปยันร้านดอกไม้ที่ถูกตกแต่งประดับประดาสวยงามตรงหน้า เห็นลูกน้องมันมาฟ้องนักหนาว่าเจ้าลูกชายมันหลงเจ้าของร้านดอกไม้นี้หัวปักหัวปำ ก็เกิดนึกอยากจะมาดูให้เห็นกับตาสักหน่อย “ใช่ครับท่าน” “อืม…” เบรย์เดนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปเยือนในร้าน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความคุ้นเคยที่ห่างหายมานานหลายปี… “ยินดีต้อนรับค่ะคุณผู้ชาย” ในขณะที่สายตาคมกำลังทอดมองรอบๆ ก็เกิดเสียงหวานจากสาวน้อยแทรกขึ้นมาต้อนรับ “เชิญเดินดูได้ตามสบายเลยนะคะ” ซาร่าพูดซํ้าพร้อมยิ้มแย้มเป็นมิตร “ได้ข่าวว่าเจ้าของร้านนี้ฝีมือการจัดดอกไม้ดีมากและแตกต่างไปจากใครๆ” “จริงแท้แน่นอนค่ะคุณผู้ชาย อยากได้แบบไหนสามารถบอกได้เลยนะคะ ทางเราทำได้ทุกแบบทุกชนิดค่ะ” “อืม… จะเป็นการรบกวนมั้ยครับ ถ้าผมอยากคุยกับเจ้าของร้านหน่อย” “ไม่มีปัญหาค่ะ คุณลูกค้าเชิญนั่งรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวซาร่าไปตามให้ค่ะ” ดวงตาคู่คมหันกลับไปกวาดมองรอบๆ บรรยากาศที่คุ้นเคยนี้นำพาเขาย้อนคิดกลับไปถึงวันวานเก่าๆ ในวันที่แสงแดดอ่อนๆจากท้องฟ้าสาดส่องลงมาแตะยันพื้นหญ้าเข
รอยถึงกับอ้าปากเหวอ พอเวลาธรรมดาก็เอาแต่ร้องเรียกหาแต่ว่าที่เมีย แต่พอมาเวลาแบบนี้ สันดานนักล่าผู้หญิงที่ติดตัวมาแต่เกิดก็ไม่เคยจางหายเลยจริงๆ ดูจากสายตาที่กำลังล่อเหยื่อให้ติดกับนั่นสิ แหม เดี๋ยวจะฟ้องคุณคนสวยซะเข้าให้! “หืม ให้ผมหรอครับ” คิ้วเข้มขมวดขึ้นข้างนึงเบาๆ เชิงมองหญิงตรงหน้าที่กำลังยื่นแก้วไวน์แดงให้กับเขา “รอบๆนี้คงไม่มีใครหล่อเท่าคุณแล้วแหละค่ะ” ก็แหงสิ เขามันเทพบุรุษ เซบาสเตียนเหยียดยิ้มซุกซนพร้อมยื่นมือไปรับแก้วไวน์โดยไม่ปฏิเสธ ก็ไม่ต่างจากการบ่งบอกว่าเขายอมรับข้อเสนอของผู้หญิงตรงหน้า “เห็นว่าคุณทำหน้าเครียดๆ … ก็เลยอยากจะมาเสนอเป็นที่ระบายให้สักหน่อยน่ะค่ะ” ไม่เพียงแต่พูดเปล่า หญิงสาวรีบเซร่างตัวเองเข้าไกล้เขาพรางทาบฝ่ามือบางลงบนอกแกร่งแล้วลูบไล้ไปมา ส่งสายตาอ่อยสุดฤกษ์ วันนี้ไม่ได้ผู้ชายคนนี้ไปอยู่บนเตียงก็ให้มันรู้ไป “ที่ระบาย… หึ น่าสนใจนะครับ” “ฉันไม้พายนะคะ บอกไว้เผื่อคุณติดใจอยากจะรู้จักขึ้นมา” “ไม้พาย… ชักอยากรู้แล้วสิครับ ว่าไม้พายนี้จะพาผมไปถึงฝั่งได้รึเปล่า” “ไม่ลองจะรู้ได้ยังไงกันล่ะคะ” “ผมกะว่าจะรีบกลับห้องไปนอนพัก แต่ดูเหมือนม