ครั้งเดียวชั่วนิรันดร์จบแล้วนะคะ ฝากผลงานของมณีภัทรสรด้วยนะคะ
สามปีต่อมา "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงแสนสวยองค์หนึ่ง อาศัยอยู่ในปราสาทที่สวยงาม..." "คูมพ่อเล่าเรื่องเดิมอีกแล้วค่ะ"คำพูดที่เหลือค้างไว้แค่ริมฝีปาก เมื่อคนตัวเล็กที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มลายการ์ตูนน่ารักขัดขึ้น ตาคมเข้มกะพริบถี่ๆ เมื่อถูกลูกทักท้วง นี่เขาเล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟังบ่อยจนเจ้าตัวเล็กจำได้เลยเหรอ จะฉลาดเกินไปแล้ว เพิ่งจะสามขวบเอง เกื้อนึกอย่างเอ็นดู ก่อนจะหันไปทางว่าที่คุณแม่ลูกสามที่ยืนท้องโย้อยู่ข้างเตียง เพื่อขอความช่วยเหลือ เมริสาส่ายหน้าเป็นคำตอบ เพราะไม่อยากเข้ามายุ่ง สามีเธอเก่งทุกเรื่องอยู่แล้ว เล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังแค่นี้สบายมาก เกื้อย่นคิ้วให้ภรรยาเป็นการตัดพ้อ เมื่อเธอไม่ช่วยเขา คืนนี้เขาอาสาพาน้องแก้มเข้านอน และเล่านิทานให้ลูกฟัง แต่ในหัวของเขาก็มีนิทานเรื่องเจ้าหญิงเมริสาแสนสวยอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้น แต่ดูเอาเถอะแทนที่เจ้าหญิงจะมาช่วยเขาแก้สถานการณ์ กลับเดินหนีไปหน้าตาเฉย ไม่สนใจเขาเลยสักนิด งั้นคืนนี้เขาจะเล่าเรื่องแม่มดเมริสาใจร้ายให้ลูกฟังแทนก็แล้วกัน เพราะคนที่เขาเรียกว่าเจ้าหญิง อยากใจดำกับเขาก่อน "งั้นพ่อเล่าเรื่
"พี่ดีใจที่สุดเลยครับ"เกื้อดีใจจนออกนอกหน้า ในขณะที่เมริสาได้แต่ยิ้มหวานด้วยความงุนงง ท้องสามเดือนกว่าแล้ว ทำไมเธอไม่รู้ตัวเลย ที่เป็นแบบนี้เพราะเธอมีความสุขทุกวัน จึงไม่ได้สังเกตแม้กระทั่งว่าประจำเดือนขาดมาหลายเดือนแล้ว ยิ้มให้กับความสะเพร่าของตัวเอง โชคดีเหลือเกินที่พักนี้เธอไม่ได้ออกกำลังกายหนักแบบที่เคยทำ "เมก็ดีใจค่ะ" "พี่ก่อดีใจไหมครับ พี่ก่อจะมีน้องแล้วนะครับ"บอกกับลูกชายที่นั่งกินขนมบนตักแม่อย่างอารมณ์ดี ก่อเกียรติหันมายิ้มให้คนเป็นพ่อ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินขนมต่อ "เรียกน้องสิครับ พี่ก่อเรียกน้องให้พ่อฟังหน่อยครับ" "น้อนน"เด็กชายก่อเกียรติพูดคำว่าน้อนออกมา เรียกเสียงหัวเราะและความสุขให้กับพ่อและแม่ชุดใหญ่ ก่อเกียรติอายุขวบกว่าๆ เพิ่งจะหัดพูดได้เป็นคำๆ แต่วันนี้ลูกพูดคำว่าน้องได้ แม้จะไม่ชัดก็ตาม "พี่ก่อต้องเป็นพี่ที่ดีของน้องนะคะ รักน้องและเสียสละให้น้อง"เมริสาบอกกับลูกน้อย "น้อน รัก น้อน" "ฮ่าๆๆ"เกื้อหัวเราะออกมาดังลั่น เมื่อลูกพูดออกมาเป็นประโยค "พูดใหญ่เลยค่ะพี่เกื้อ"เมริสาก็ดีใ
"สุขสันต์วันเกิดนะครับคนเก่ง"จมูกโด่งเป็นสันฝังลงที่แก้มเนียนใสของลูก หัวใจของพัลลภเต้นคร่อมจังหวะเมื่อได้สัมผัสกับลูก สองปีแล้วที่เขารู้มาตลอดว่ามีลูก แต่ไม่มีโอกาสได้เข้ามาใกล้ชิด เกษรินทร์ใจแข็งเหลือเกิน ตั้งแต่วันที่หย่าขาดจากกัน เธอไม่ยอมพบเขาอีกเลย เกื้ออุ้มลูกแล้วเดินไปหาเมริสา ที่ยืนมองอยู่เช่นกัน "ผมมาหาลูกครับ"พัลลภบอกเมื่อเกษรินทร์เดินมาหยุดตรงหน้าเขา "ขอบคุณมากนะคะ"เอ่ยขอบคุณเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา ได้มากไปกว่าคำนี้ "สุขสันต์วันเกิดนะครับ"อวยพรวันเกิดลูกอีกครั้งก่อนจะหอมคนตัวเล็กอีกฟอดใหญ่ เมื่อคิดว่าหมดหน้าที่ของเขาแล้ว จังหวะที่จะส่งลูกให้เกษรินทร์ แก้วตาก็กอดคอเขาเอาไว้ "ทานเค้กไหมคะ เค้กอาหย่อย"เด็กหญิงบอกกับเขา พร้อมกับยิ้มอวดฟันกระต่ายน่ารัก "ไว้โอกาสหน้านะครับ"พัลลภบอก ก่อนจะส่งลูกคืนให้เกษรินทร์ เขาพลาดเองที่รักษาครอบครัวเอาไว้ไม่ได้ จึงทำให้ต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานมาจนทุกวันนี้ "อยู่ทานเค้กด้วยกันก่อนไหมคะ"เกษรินทร์บอกกับอดีตสามี ยังไม่รับลูกคืนจากเขา ตากลมโตหันมามองหน้าพี่ชาย เมื่อเห็นพ
เกษรินทร์มองขนมเค้กก้อนใหญ่ ที่เด็กรับใช้บรรจงจัดใส่จานอย่างมีความสุข วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบสองขวบของลูกสาวตัวน้อยของเธอ ตั้งแต่หย่ากับพัลลภในวันนั้นเธอก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัว และเพิ่งจะกลับมาเมืองไทยได้ไม่นาน ถึงแม้จะไม่มีพ่อ แต่ลูกของเธอก็มีความสุขที่สุด นอกจากเธอจะเป็นทั้งแม่และพ่อให้เขาแล้ว ตายายและลุงกับป้าก็รักเธอสุดหัวใจ เด็กหญิงแก้วตา ได้รับความรักความอบอุ่นจากคนรอบข้าง และโตขึ้นมาเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง เหมือนกับเด็กทั่วๆไป หลายครั้งที่พัลลภติดต่อมาเพื่อขอคืนดี แต่เธอก็ไม่ใจอ่อนให้เขา ความเจ็บปวดในครั้งนั้น หล่อหลอมให้เธอเข้มแข็งขึ้น เขาไม่เคยรักเธอและไม่เคยต้องการลูก เหตุผลข้อนี้ทำให้เธอตัดใจจากเขาได้เร็วขึ้น เพราะลูกคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตเธอ "มาแล้วครับ น้องก่อมาหาพี่แก้วตาแล้วครับ"เสียงของพี่ชายที่ดังมาจากหน้าบ้าน ปลุกหญิงสาวให้ออกจากภวังค์ความคิด คุณแม่ยังสาวยิ้มให้ตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาหน้าบ้าน เกื้อและครอบครัวคงมากันแล้ว "สุขสันต์วันเกิดค่ะคนเก่งของป้า"เมริสาส่งของขวัญกล่องใหญ่ให้เด็กหญิง ก่อนจะหอมลงที่แก้มใสฟอดใหญ่ เมื่อสาวน้อยยิ
"ค้างที่โรงแรมไหมครับ"ถามเมื่อรู้สึกสงสารที่ทำให้เธอหมดแรง จนแทบจะเดินไม่ไหว "ไม่ค่ะเมเป็นห่วงลูก"แม้จะรู้ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ป่านนี้พ่อกับแม่คงพาลูกเข้านอนแล้ว แต่ก็อดคิดถึงไม่ได้ วันนี้เธอเกเรเพราะถูกพ่อของลูกหลอกลวงออกมานอกบ้าน "ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ป่านนี้คงหลับปุ๋ยไปแล้ว" "เพราะพี่เกื้อนั่นแหละที่มัวแต่ชักช้า เมเลยกลับไปให้นมลูกไม่ทันเลย" "ไม่ต้องห่วงครับ พี่จัดการเมื้อเย็นของลูกให้แล้ว เมจะได้ไม่ปวดไงครับ" "บ้า..." "ลงไปพักข้างล่างก่อนนะ หายเหนื่อยค่อยกลับบ้าน"พูดจบเกื้อก็ขยับตัวลุกขึ้น ช้อนคนตัวเล็กเข้าสู่วงแขน ก่อนจะพาเดินเข้าลิฟต์ไป ในสภาพที่เปล่าเปลือยด้วยกันทั้งคู่ บนนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา ไม่มีใครขึ้นมาถ้าเขาไม่อนุญาต เกษรินทร์เป็นน้องสาวแท้ๆยังไม่เคยขึ้นมาบนนี้สักครั้ง ร่างสูงว่างภรรยาลงบนเตียง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ กลับออกมาในสภาพที่ดีกว่าตอนเข้าไป เพราะมีผ้าขนหนูพันเอวสอบออกมาด้วย มีกะละมังน้ำใบเขื่องติดมือออกมาด้วย เมริสาปรือตาขึ้นมอง เมื่อผ้าขนหนูผืนนุ่มถูไปมากับผิวเนื้อของ
เกื้อมองคนที่ยกสะโพกขึ้นจากพื้นอย่างนึกเอ็นดู เธอคงเสียวมากที่ถูกจู่โจมอย่างหนัก มือเล็กที่สอดเข้ามาในเส้นผมของเขาจิกเกร็ง ก่อนจะกดศีรษะของเขาเอาไว้ เมื่อซ่านเสียวจนสุดจะทน "อ๊ายยย! พี่เกื้อเมจะเสร็จแล้วค่ะ"ร้องบอกอย่างลืมอาย เมื่อลิ้นร้ายตวัดรัวเร็ว ก่อนจะห่อเกร็งแล้วสอดแทรกเข้าไปในช่องทางรักที่คับแน่น ชักเข้าชักออกเป็นจังหวะ แล้วขยี้ลงบนติ่งเสียวรัวๆ นิ้วร้ายทำงานสอดประสาน เมื่อเกื้อดันมันเข้าไปในร่องรัก ขยับเข้าออกรัวเร็ว ก่อนจะเพิ่มจำนวนนิ้วจากหนึ่งเป็นสอง น้ำหวานสีใสหลั่งออกมาจนชุ่มมือ เมื่อเขาส่งเธอไปจนสุดทาง ด้วยปากและลิ้นของเขา ร่างสูงขยับลุกขึ้นยืน เพื่อจัดการกับเสื้อผ้าตัวเอง คนที่ทำท่าเหมือนจะหมดแรงขยับตัวลุกขึ้น ตากลมโตมองเขาด้วยสายตายั่วยวน ร่างบางขยับเปลี่ยนเป็นท่าคลานเข่า ตาคู่สวยจับจ้องอยู่ที่เป้ากางเกงคับตึงของเขา เกื้อกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อนางยั่วที่คลานเข่าอยู่บนโต๊ะ กระดิกนิ้วชี้เรียกให้เขาเข้าไปหา เมริสากัดปากพยายามข่มกลั้นความอายเอาไว้ เมื่อเลียนแบบท่าทางของนางเอกหนังเอวี ที่เคยดูตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานกับเขา มาถึงขนาดนี้ก็คงไม่ต้องอายกันอีกแล้ว เ