ROYALS OF RIDGEWOOD

ROYALS OF RIDGEWOOD

last updateDernière mise à jour : 2023-06-25
Par:  Kairal.KComplété
Langue: English
goodnovel18goodnovel
Notes insuffisantes
182Chapitres
3.9KVues
Lire
Ajouter dans ma bibliothèque

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scanner le code pour lire sur l'application

When Storm's whole family was murdered at a young age, she swore that she would avenge their deaths, every single one of the wolves involved, and see to it that they suffered as she did. In the years that follow, she transforms into an unstoppable hunter, with no one standing in her way until she finally finds one of the last on her list: the four pups. The Ridgewood boys are kings themselves, royals, and dangerous and they have mates. Storm's plan to infiltrate the boys, make them choose her, and make her their one and only mate starts to have cracks when she starts to find herself falling for the same men who watched her father being murdered and her life being torn apart. The boys are closer and closer to finding the real reason behind their strange connection and why it has intensified ever since the raven-haired wolf entered their life like a storm. Even after the deaths of their first chosen mates, the ones Storm killed to have the boys all to herself, they don't question the coincidences of events... until Storm starts to slip, her lies slipping out. Will the truth be so close that they will really find out who she is and why she is really in their lives? Will it be too late when storm realizes she can never destroy her lovers as they turn out to be her destined mates? Will true love prevail? **THE BOOK HAS GRAPHIC SEX SCENES, DO NOT READ IF YOU ARE UNDER 18 OR NOT INTO REVERSE HAREM** *i do not take full credit of the book cover as it's not originally mine

Voir plus

Chapitre 1

PROLOGUE

ม่านทองปักมังกรไหวเอนในลมยามค่ำ กลิ่นกำยานหอมละมุนลอยกรุ่นอยู่ทั่วท้องพระโรงจินเต๋อ พระราชวังอันโอฬารแห่งราชวงศ์ต้าหรง ที่ประดับประดาด้วยแสงตะเกียงสีชาด

พิณเจ็ดสายบรรเลงรับจังหวะร่ายรำจากเหล่านางรำ ท่วงท่าชดช้อยเคล้าเสียงหัวเราะและคำเยินยอที่ฟังคล้ายกลุ่มฝูงแมลงหวี่ในยามร้อนระอุ

ทว่าสายตาของบุรุษหนึ่งกลับไม่เหลียวแลใคร…

เขานั่งนิ่งประหนึ่งรูปสลัก ชุดเกราะเงินประดับลายพยัคฆ์เปื้อนฝุ่นศึกไม่มากแต่สะท้อนแสงเปลวเทียนเป็นประกาย นัยน์ตาคมไม่หลบสายตาผู้ใด แต่ก็ไม่เปิดใจรับผู้ใดเช่นกัน

เขาคือ "อ๋องหย่งอัน" หรือ "จ้าวอวี้" แม่ทัพผู้คุมด่านจิงอัน ชายผู้เป็นนักรบที่มีฉายาว่า มัจจุราชแห่งชายแดน นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่เขาได้กลับเข้ามาในเมืองหลวงแห่งนี้

นับตั้งแต่มีคำสั่งย้ายให้เขาไปประจำการที่เมืองชายแดนตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จวบจนตอนนี้ก็เป็นเวลา 15 ปีแล้วที่เขาอยู่ที่นั่นและเติบโตมาพร้อมกับความหวาดกลัวของผู้คน บ้างก็ว่าเขาเป็นมัจจุราช บ้างก็ว่าเขาเป็นปีศาจที่ฆ่าไม่ตาย

ฮ่องเต้ผู้เป็นพระบิดา ทรงพระพักตร์นิ่งเมื่อทอดพระเนตรบุตรชายจากบัลลังก์มังกร ใจหนึ่งปลื้มปีติยิ่ง แต่คำพูดกลับราบเรียบดังลมเหมันต์

"หย่งอัน เจ้าปรารถนาสิ่งใดเป็นรางวัลแห่งชัยชนะครั้งนี้?"

เสียงในท้องพระโรงเงียบลงราวถูกปิดปากด้วยมือเดียว ขุนนางทั้งหมดย่อหัวต่ำมองอ๋องหนุ่มที่ลุกขึ้นคุกเข่าช้า ๆ

"กระหม่อมมีครบทุกอย่างแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอเพียงได้อยู่ชายแดน ทำหน้าที่รับใช้แว่นแคว้นก็เพียงพอแล้ว"

เสียงหนักแน่นจนแม้แต่สายลมยังหยุดไหว ฮ่องเต้ไม่ตรัสตอบทันที ทรงหันไปยังขันทีผู้จดราชโองการ แล้วตรัสเสียงเรียบ

"ด่านจิงอัน นับแต่นี้จะเป็นเขตศักดินาของอ๋องหย่งอัน เจ้าจงปกครอง บริหาร และป้องกันดั่งหนึ่งเจ้าแคว้น ขอเพียงภักดีต่อราชสำนัก"

"เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ที่ฝ่าบาททรงโปรดประทานที่ดินศักดินา ณ เมืองจิงอัน ให้กระหม่อมถือครอง ขอได้โปรดอย่าทรงเป็นกังวลเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม… ไม่มีความปรารถนาต่อบัลลังก์หรืออำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น"

"..."

"ต่อให้ต้องกลายเป็นเพียงวิญญาณเฝ้าอาณาเขต กระหม่อมก็จะไม่ล่วงล้ำแม้เพียงเงาของราชบัลลังก์"

เขาก้มศีรษะลงต่ำ ผืนหินเย็นกระทบหน้าผากของอ๋องหนุ่มโดยไร้ความลังเล เงาร่างที่ก้มอยู่ตรงนั้น… ไม่ใช่เพียงอ๋องผู้หนึ่ง แต่คือบุตรที่ครั้งหนึ่งเคยยิ้มให้พระบิดาอย่างบริสุทธิ์

ทว่าเวลาผ่านไป ยิ้มนั้นกลับเหือดแห้ง พร้อมกับภาพจำทุกอย่างที่เคยร่วมกันก็ค่อย ๆ จางหายไปเช่นกัน

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรบุตรชายที่คุกเข่าอยู่ด้วยใจที่เจ็บปวด ต่อให้ลูกชายจะคิดว่าพ่อต้องการผลักไสเขาให้พ้นจากบัลลังก์ ต่อให้ลูกจะคิดว่าพ่อคือคนที่ฆ่าแม่ คนเป็นพ่อก็ทำได้เพียงยินยอมให้ลูกเข้าใจผิด

สายตาหลายคู่ที่จับจ้อง ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ต้องแบกรับความโกรธเคืองของบุตรชายเอาไว้...

ในยามที่ฮ่องเต้ตรัสถามว่า "เจ้าปรารถนาอะไรเป็นรางวัลแห่งชัยชนะครั้งนี้?" เสียงในท้องพระโรงพลันเงียบงัน

อ๋องจิ้งหยวน จ้าวเฉิง (องค์ชายสาม) ช้อนสายตาขึ้นมองพี่ชายร่วมบิดาผู้นั่งนิ่งไม่พูดจาตั้งแต่ต้นงาน แววตาภายใต้ใบหน้าโดเด่น พลันสะท้อนรอยยิ้มเหยียดบางเบา

นิ้วมือเรียวเคาะถ้วยสุราเบา ๆ ราวกับกลั้นหัวเราะ เขารู้ดีว่า หากจ้าวอวี้ปรารถนาจะกลับเมืองหลวง ตำแหน่งองค์รัชทายาทที่มั่นคงของจ้าวหลิน คงมิใช่เรื่องแน่นอนอีกต่อไป

อ๋องจื่อหนาน จ้าวหาน (องค์ชายสี่) ในขณะที่องค์ชายผู้เลื่องชื่อว่าทรงเมตตาและอ่อนโยนกลับเอียงหน้าฟังคำตอบของพี่ชายคนรองด้วยรอยยิ้มลึก

ดวงตาคู่นั้นราวอาทิตย์ยามช้า อบอุ่นเสียจนทุกคนอยากเข้าใกล้ เขาจดจำความเคลื่อนไหวทุกอย่างไว้เงียบ ๆ เขาไม่พูด ไม่แม้แต่จิบสุรา แต่ทุกคำพูดของจ้าวอวี้ล้วนถูกบันทึกไว้ในใจเขา

อ๋องเกิ่งอี้ จ้าวเหวิน (องค์ชายห้า) จ้าวเหวินมองพี่ชายอย่างภาคภูมิ ถึงเขาจะไม่เคยได้ใช้เวลาร่วมกับพี่ชายคนที่สอง แต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีความสามารถ และเป็นที่น่ากลัวเกรงของขุนนางในราชสำนัก

องค์รัชทายาท จ้าวหลิน บุรุษผู้สงบนิ่งที่สุดในท้องพระโรง ยกสุราขึ้นแนบริมฝีปาก แต่กลับมิได้ดื่ม สายตาจ้องมองน้องชายผู้กลับมาจากสนามรบด้วยแววตาที่ยากจะอ่านออก

"เจ้าปฏิเสธการมีชื่อเสียง...แต่ยิ่งปฏิเสธ ชื่อเสียงของเจ้าก็ยิ่งโด่งดัง" องค์รัชทายาทรำพึงเบา ๆ กับตัวเอง

องค์หญิงจิ้งเหยา แม้นั่งอยู่มุมหญิงในตำแหน่งฝ่ายใน ทว่าสายตาขององค์หญิงผู้ฉลาดและเปี่ยมจินตนาการ กลับไม่อาจละไปจากพี่ชายร่วมบิดา จ้าวอวี้ในยามแต่งเกราะรบสะท้อนแสง ดูสง่างามราววีรบุรุษในตำนาน องค์หญิงจึงได้แต่ชื่นชมพี่ชายอยู่เงียบ ๆ

ฮองเฮาสวี่ สวี่เซี่ยนเจิน พระพักตร์ของนางยังคงเยือกเย็นและสงบนิ่ง ดวงตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความเมตตาและความรัก แม้จ้าวอวี้จะมิใช่โอรสของนางโดยสายเลือด ทว่าคำสัญญาที่ให้กับสตรีผู้จากไปในอดีต ยังคงฝังแน่นในหัวใจ

และนาง…ยังคงเฝ้ามองลูกชายของสหายรักเหมือนแม่แท้ ๆ ที่เฝ้ามองลูกกลับบ้าน

ทว่าในสายตาของขุนนางทั้งราชสำนัก...'ชายผู้นี้มิเคยปรารถนาสิ่งใด...ย่อมเป็นภัยใหญ่ในภายภาคหน้า'

การประกาศให้ด่านจิงอันกลายเป็นพื้นที่ศักดินาของอ๋องหย่งอัน ทำให้ขุนนางบางส่วนเริ่มคิ้วขมวด รู้ดีว่านี่มิใช่แค่รางวัล แต่มันคือ 'การวางหมาก' ของฮ่องเต้ที่พวกเขาไม่เข้าใจเสียทีเดียว

เมื่อจอกสุราถูกเติมซ้ำจนเต็ม จ้าวอวี้ก็ยกดื่มโดยไร้ถ้อยคำ เหล่าขุนนางต่างพาลูกหลานมาแสดงความเคารพ กลับถูกเพียงสายตาเย็นเยียบตวัดตอบแทน

ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้บุรุษเยี่ยงนี้นัก...

จนกระทั่งเขาลุกขึ้นจากที่ประทับและออกจากท้องพระโรงไปโดยไม่มีผู้ใดกล้าทักท้วง

เสียงบรรเลงยังดังต่อเนื่องในท้องพระโรง ทว่าอ๋องหย่งอันกลับเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงสวนหลวงด้านทิศตะวันตกของท้องพระโรง ซึ่งใกล้ตำหนักรับรองที่เขาต้องพักในระยะนี้ กลิ่นดอกชาหอมกรุ่นในอากาศ ศาลาหินเล็กกลางสวนตั้งอยู่ริมสระบัว ที่โต๊ะมีถ้วยชาและขนมวางอยู่ เขามิได้คิดอันใด ดื่มดับกระหายเข้าไปหลายจอก

หารู้ไม่ว่ายาเพิ่งเริ่มออกฤทธิ์...

ณ ตำหนักรับรองของพระราชวัง

ร่างบอบบางของหญิงสาวผู้หนึ่งถูกพาเข้าห้องมาอย่างเร่งร้อน เหยียนเมิ่งซี บุตรีสามจากตระกูลเหยียน ร่างของนางเย็นเฉียบ แต่ผิวกลับแดงเรื่อ ดวงหน้าอ่อนหวานประดับด้วยหยาดเหงื่อ นัยน์ตาปรือก่อนปิดสนิท

ไม่มีผู้ใดรู้ว่านาง…กำลังจะตายไป...

ในอีกกาลเวลาหนึ่ง

เมิ่งซี ครูสอนศิลปะป้องกันตัวสาววัยยี่สิบแปดกำลังปีนผาเพื่อสอนนักเรียน เธอพลาดท่าตกลงมา หัวกระแทกอย่างรุนแรง โลกทั้งใบดับวูบ ก่อนทุกสิ่งทุกอย่างจะเปิดขึ้นอีกครั้ง…

นัยน์ตาพร่าเบลอ ร่างกายเร่าร้อนอย่างไม่เคยเป็น ลมหายใจขาดเป็นห้วง

'ที่นี่…ที่ไหน…'

เสียงในใจดังขึ้น แต่ริมฝีปากกลับมิอาจขยับ เรี่ยวแรงไม่มี แม้แต่จะลืมตายังเป็นไปได้ยาก

กลิ่นชา…กลิ่นกำยาน…อากาศที่ร้อนระอุราวจะลุกเป็นไฟ

เสียงเสื้อคลุมหลุดร่วงลงกับพื้นเย็นเยียบของตำหนักรับรอง เงาของบุรุษสูงใหญ่ปกคลุมร่างบางซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงผ้าแพรหรู กลิ่นชาหอมจางลอยอบอวลเจือกลิ่นกำยานอุ่นร้อน ราวกับเร่งเร้าเพลิงปรารถนาในอกให้โหมกระพือ

จ้าวอวี้(อ๋องหย่งอัน)กำลังคร่ำครวญด้วยความทรมานจากฤทธิ์ยา

ร่างของเขาเปียกชื้นเหงื่อจากความร้อนรุ่ม สายตาคมปลาบเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวผสานความปรารถนา เมื่อเห็นสตรีบนเตียงปรือตา ลมหายใจถี่ระรัว ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย

"เจ้าคิดจะปีนเตียงข้าอย่างนั้นหรือ?" เขากระซิบเสียงพร่า ขณะก้มลงใกล้ใบหูของนาง

"..."

"กล้าดีนัก!..."

แขนแกร่งเกี่ยวร่างของหญิงสาวเข้าหาตัว ขณะที่ริมฝีปากกดลงบนซอกคอ ลากไล้ราวสัตว์นักล่าที่รอปลดปล่อยตัวตนดิบเถื่อน

"หึ...เรือนร่างแบบนี้ เจ้าเตรียมมาล่อลวงข้าใช่หรือไม่"

"อื้อ..."

เสียงครางเบาหวิวหลุดจากริมฝีปากหญิงสาว ใบหน้าแดงระเรื่อ ดวงตาที่มองเห็นเพียงเงาร่างพร่ามัวสั่นระริก

เมิ่งซีในจิตสำนึกสุดท้ายที่ยังหลงเหลือจากกาลเวลาเดิม ตกตะลึงกับสัมผัสวาบหวามที่เข้าครอบงำนางอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างกายกลับตอบสนองต่อทุกแรงสัมผัสราวกับเป็นเจ้าของที่แท้จริง

จ้าวอวี้กัดฟันแน่น มือใหญ่ลากเลื่อนแถบผ้าออกจากเรือนกายบางเบาอย่างไร้ความปรานี

"เจ้าทำให้ข้าร้อนรุ่มได้ขนาดนี้...ก็ควรรับผิดชอบให้ถึงที่สุด"

เสียงฟืดฟาดของผ้าไหมถูกฉีกดังสะท้อนในห้อง ก่อนเขาจะฝังตัวลงเหนือกายบางที่สั่นสะท้าน ใบหน้าเขาแนบชิดแทบประชิดต้นคอของนาง กลิ่นกายผสมกลิ่นเหงื่อร้อนผ่าวทำให้โลกทั้งใบคล้ายหมุนคว้าง

"บอกข้าสิ ว่าเจ้าต้องการ..."

"ขะ...ข้า..." เมิ่งซีพยายามพูด ทว่าความรู้สึกแปลกประหลาดในร่าง ทำให้ทุกคำกลืนหายไปพร้อมเสียงหอบ

เขาไม่รอฟัง...

ท่วงท่าของเขาร้อนแรง รุนแรง และไม่เปิดช่องให้ตั้งหลัก ความอดกลั้นพังทลายลงตั้งแต่ริมฝีปากหยักทาบทับ และสะโพกกระแทกแน่นเข้าหาร่างกายอ่อนนุ่ม

"อาาาา..."

เสียงครางจากหญิงสาวทำให้ดวงตาของเขาวาววับ ร่างกายตอบสนองรุนแรงยิ่งขึ้น

"อย่าหลบตาข้า..." เขากระซิบชิดริมฝีปาก

"..."

"ถ้าเจ้าจะปีนเตียงข้า เจ้าก็ต้องมองข้าทุกครั้งที่ข้าขยับ"

มือข้างหนึ่งยึดเรียวคางของนางไว้ สายตาอันเร่าร้อนประสานตรงเข้ากับดวงตาปรือมัวของนาง ขณะที่สะโพกของเขาเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดยั้ง

"อื้อ...มัน...มันแปลก..." เธอกระซิบเสียงสะอื้น ทว่าแววตากลับสั่นไหวด้วยความปรารถนา

"เจ้าจะต้องจำคืนนี้ไปชั่วชีวิต...เจ้าจะไม่มีวันลืมสัมผัสของข้าได้เลย"

ร่างกายกำลังถูกสัมผัสจากมือใหญ่และหยาบกร้าน ลมหายใจอุ่นจัดเป่ารินตรงซอกคอ ริมฝีปากแข็งกระด้างทาบลงมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย

"เจ้าวางยา ข้าจะให้เจ้ารับผิดชอบ…อ๊าา" เสียงกระซิบแหบพร่ากระซิบข้างหู

เมิ่งซีที่อยู่ในร่างเหยียนเมิ่งซีอยากจะกรีดร้อง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมาอยู่ในร่างใคร เกิดอะไรขึ้น และเพราะเหตุใดถึงร้อนรุ่มจนแทบจะคลั่ง

เงาของบุรุษใหญ่โตคร่อมร่างเธอไว้ มือสากกระชากเสื้อผ้าจนหลุดลุ่ย ร่างกายเธอกลับตอบสนองทุกสัมผัสด้วยความร้อนแรง ราวกับร่างนี้มีชีวิตเป็นของมันเอง

นอกประตู องครักษ์เงาทั้งสี่กำลังจะรายงานเรื่องสตรีที่อยู่ในห้องทว่า...

"ท่านอ๋อง"

"ชู่…"

เหวินลั่วยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ ดวงตาเขามองผ่านช่องไม้ เห็นเงาร่างนายเหนือหัวกำลัง…

"ถ้าไม่อยากตายก็อย่าเข้าไปขัด!"

ขณะในห้อง เสียงสะท้อนแห่งบทรักแว่วอยู่เคล้าเสียงหอบเหนื่อย เมิ่งซีพยายามต่อต้าน แต่แรงเธอไม่พอแม้แต่จะผลักอกเขาออก

ก่อนสติจะดับวูบลงอีกครั้ง หญิงสาวคนใหม่ในร่างนี้รู้เพียงว่า…ชีวิตของนางจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

"ว่ากันว่ามีหญิงลึกลับขึ้นเตียงกับอ๋องหย่งอัน ท่านอ๋องเรียกน้ำตั้งหลายครั้ง"

"สตรีนางใดถึงหาญกล้าเพียงนั้น หากมิใช่ในวังหลวง มีหวังนางคงถูกฆ่าทิ้งแล้ว"

เสียงกระซิบกระซาบของบรรดาสาวใช้ดังไปทั่ววัง เพียงไม่นานเรื่องราวก็ลุกลามบานปลาย

📌 คำเตือนเนื้อหาและข้อชี้แจงสำคัญ 📌

นิยายเรื่องนี้เป็นงานเขียนแนวจินตนาการ ที่ผสมผสานระหว่างโลกอดีตกับองค์ประกอบจากโลกปัจจุบัน ตัวละครบางส่วนมีต้นกำเนิดจากยุคสมัยใหม่และย้อนกลับไปยังยุคโบราณ ด้วยเหตุนี้ อาจปรากฏถ้อยคำ สิ่งของ หรือแนวคิดบางประการที่ไม่สอดคล้องกับบริบทของยุคโบราณในทางประวัติศาสตร์ ขอความกรุณาอ่านเพื่อความบันเทิง ไม่ดราม่านะคะที่รัก...

Déplier
Chapitre suivant
Télécharger

Latest chapter

Plus de chapitres

To Readers

Welcome to GoodNovel world of fiction. If you like this novel, or you are an idealist hoping to explore a perfect world, and also want to become an original novel author online to increase income, you can join our family to read or create various types of books, such as romance novel, epic reading, werewolf novel, fantasy novel, history novel and so on. If you are a reader, high quality novels can be selected here. If you are an author, you can obtain more inspiration from others to create more brilliant works, what's more, your works on our platform will catch more attention and win more admiration from readers.

Commentaires

Pas de commentaire
182
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status