LOGINAston Martin รถหรูสัญชาติอังกฤษ ขับเคลื่อนออกไปตามอารมณ์ของคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ดวงตาสีเข้มมืดครึ้มอย่างหนัก เมื่อหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ขยันทำลายความอดกลั้นของตัวเอง ใบข้าวลื่นไถลตัวลงไปด้านล่างตรงที่พักเท้า ซบใบหน้าแดงเรื่อเข้าหาเบาะหลับต่อทั้งอย่างนั้น
เขตครามใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ในการขับรถจากอีกฝั่งของเมือง มาถึงบ้านที่ตัวเองอยู่อาศัยมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์หลายสิบชั้น ลูกชายเจ้าของอาคารขับรถวนขึ้นไปจนถึงชั้นสุดท้าย กระชากประตูออกไปเมื่อรถจอดนิ่ง วิ่งไปอีกฝั่งของรถอุ้มตัวคนเมาออกมา ถ้าหากใบข้าวยอมฟังเขาบ้าง เธอจะไม่เจอเหตุการณ์อย่างวันนี้เลย เขาไล่เธอออกจากงานในผับก็จริง แต่ไม่มีความคิดจะทิ้งให้เธอเผชิญกับความยากลำบากสักหน่อย ตั้งใจว่าเมื่อเธอหายโกรธแล้ว จะชวนมาทำงานที่บริษัทด้วยกัน แต่ก็นั่นแหละ ใบข้าวไม่เคยรอฟังสิ่งที่เขาจะพูดเลย และเธอชอบทำให้เขาโมโห “นี่ยัยหนูท่อ อย่าอ้วกใส่โถงทางเดินนะ” เขตครามปรามคนที่พาดตัวห้อยหัวอยู่บนบ่าของตัวเอง เมื่อคนหลับไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ก็ฉวยโอกาสวาดมือลงไปบนความอวบอิ่ม ครั้งแรกแรงพอให้คนบนบ่าสะดุ้ง แต่ครั้งที่สองเบามาก แล้วครั้งที่สาม เขาเปลี่ยนจากตีเป็นขย้ำบั้นท้ายของเธอเบาๆ “อือ” “หึ! ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอนี่แม่ง!” ยั่วยวนสุดๆ คนถูกยั่วยวนโดยร่างกายนุ่มนิ่ม ก้าวเดินไปยังห้องสุดท้ายที่กินอาณาเขตของชั้นนี้เกือบครึ่ง ยกมือขึ้นสแกนลายนิ้วมือจากนั้นก็ใช้เท้าถีบประตูออกไป ร่างสูงใหญ่ก้าวไปข้างหน้า ยกขาข้างเดิมถีบประตูปิด สาวเท้าต่อไปยังห้องนอนส่วนตัว วางตัวคนเมาลงจากบ่าอย่างระมัดระวัง พุ่บ! ร่างเย้ายวนทำเตียงนอนขนาดใหญ่ยวบลงไปเล็กน้อย เขตครามมองผู้หญิงที่เคยเป็นภรรยาของตัวเองนิ่งๆ ถ้อยคำที่เธอเคยบอกไว้หลังจากที่ย้อนกลับมายังชีวิตในอดีต ทำให้ริมฝีปากหยักลึกเม้มเข้าหากันแน่น เธอไม่อยากเป็นเมียของผู้ชายที่ชื่อเขตคราม แล้วเธอจะไปเป็นเมียของใคร เมียของไอ้ภัทร หรือเมียของพี่คริส “เหอะ! ทั้งที่เป็นแค่หนูท่อแท้ๆ ทำไมถึงได้ฮอตนักวะ!” ใบข้าวเป็นตัวเลือกที่แย่สุดๆ สำหรับภัทรที่เป็นลูกชายของเจ้าสัวห้างทอง สำหรับพี่คริสที่เป็นทายาทเจ้าของมหาวิทยาลัยก็ด้วย แต่ทำไมคนพวกนั้นถึงมองตามเธอไม่หยุด เขาควรหยุดความรู้สึกของคนเหล่านั้น หรือควรหยุดความรู้สึกหึงหวงของตัวเองลง เขตครามหนีความรู้สึกเหล่านั้นเข้าไปในห้องน้ำ ออกมาอีกครั้งโดยมีผ้าชุบน้ำอยู่ในมือ ถือมันมาหยุดอยู่ข้างเตียง ชั่งใจอยู่สักพัก ก็ลงมือเช็ดตัวให้คนเมา เริ่มไล่เช็ดที่ใบหน้าก่อน จากนั้นก็เลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเรียวขาขาวเนียนเขาถึงได้หยุดมือลง เพราะไม่สามารถทำมันต่อไปได้อีก “แม่ง! กูต้องอดทนขนาดนี้เลยหรือไง!” เขตครามก่นด่าความขี้ขลาดของตัวเอง ที่ไม่กล้าทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ ทิ้งผ้าชุบน้ำในมือลงบนพื้น ขยับขึ้นไปคร่อมทับคนบนเตียงไว้ กดใบหน้าลงไปจนหน้าผากแนบสนิทบนหน้าผากแดงเรื่อ คิดถึง คิดถึงเธอเหลือเกิน ริมฝีปากหยักสวยแนบลงไปในที่สุด ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองผ่านจูบอ่อนโยน ดูดดึงกลีบปากหวานล้ำช้าๆ เมื่อสามารถแยกมันออกจากกันได้ ก็รีบสอดลิ้นเข้าไปข้างใน กวาดต้อนเอาลิ้นเล็กของใบข้าวเข้ามาดูด “อือ อื้ม” คนที่ถูกเข้าใจว่าเมา ทั้งที่ความจริงนั้นแค่หลับไปเพราะความเหนื่อยล้าสะสม ลืมตาขึ้นเมื่อโดนบุกรุกริมฝีปากจนหายใจติดขัด ดวงตาหยาดเยิ้มเบิกกว้างขึ้น เมื่อสบเข้ากับความลึกล้ำดำมืดมากกว่าในดวงตาของเขา “คะ คราม” ใบข้าวครางเรียกชื่อเขตครามเสียงแผ่ว ไม่เพียงแต่ไม่ผลักเขาออก เธอยังยกมือขึ้นกอดรอบลำคอ รั้งใบหน้าเขาเข้าใกล้มากขึ้น เมื่อโดนมือเล็กยกขึ้นรั้งด้านหลังคอ เขตครามก็เปลี่ยนจูบอ่อนโยนให้เร่าร้อนขึ้นหลายระดับ “อึก อื้อ อืม” “อืม ข้าว! พอ พอก่อน!” เขตครามตัดสินใจผละออกห่างทั้งที่เสียดาย เขาไม่อยากให้มันล้ำลึกลงไปมากกว่านี้ กลัวว่าตัวเองจะถูกดึงลงสู่ความปรารถนา จนไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้อีก ถอนตัวออกไปตอนนี้จะดีต่อใบข้าวที่สุด “อึก! คราม นาย รังเกียจฉันเหรอ?” “เราไม่ควรทำแบบนี้ พักผ่อนเถอะ สร่างเมาเมื่อไหร่ฉันจะไปส่ง” ใบข้าวมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนกระทั่งประตูไม้เนื้อดีปิดลง ดวงตาหยาดเยิ้มเมื่อครู่รวบรวมหยาดน้ำ ไม่นานมันก็ร่วงหล่นลงมาตามพวงแก้ม ไหลต่อเนื่องราวกับจะไม่มีจุดสิ้นสุด อับอายเหลือเกินที่กล้าปรารถนาสัมผัสของเขา เขากลายเป็นผู้ชายที่อยู่สูงเกินเอื้อมอีกแล้ว และครั้งนี้เธอไม่รู้เลยว่า ตัวเองจะกล้าคิดอาจเอื้อมอีกหรือเปล่า ร้องไห้อยู่นานใบข้าวก็ตัดสินใจหอบร่างกายเดินเข้าไปในห้องน้ำ ความหรูหราจากวัตถุรอบกาย ยิ่งทำให้ความรู้สึกต้อยต่ำกัดกิน ดวงตาบวมช้ำมองร่างกายตัวเองในกระจก ปลดเปลื้องเดรสสั้นรัดรูปลง ก้าวเข้าไปยืนหลั่งน้ำตาต่อภายใต้ฝักบัว “อึก! ฮือ” สมควรไหมที่ต้องเสียใจอย่างนี้ เป็นเธอเองไม่ใช่หรือไงที่บอกเขาก่อน อวดเก่งปากดีว่าจะไม่เอาสามีอย่างเขา เป็นไงล่ะทีนี้ สามีที่ชื่อเขตครามห่างไกลออกไปแล้วไหม สมใจเธอแล้วไง ยัยงี่เง่าเอ้ย “อึก! อืม” ฝ่ามือที่กำลังลูบไล้ฟองสบู่ล้างคราบความเหนื่อยตามร่างกาย ลูบไล้วนเวียนอยู่เหนือจุดอ่อนไหว จนเผลอส่งเสียงครางต่ำออกมา ตั้งใจทำความสะอาดเพราะอาบน้ำมาตั้งแต่เช้า กลายเป็นว่าตอนนี้ความตั้งใจนั้นถูกโยนทิ้งไป ฝ่ามือสัมผัสจุดอ่อนไหวช้าๆ เมื่อสัมผัสได้ว่ากลีบเนื้ออวบอูม เริ่มเปียกชุ่มน้ำหวานซึ่งขับออกมาจากด้านใน ก็สอดนิ้วชี้เข้าไปเบาๆ “อือ! อึก! อ๊า” ประสบการณ์จากอนาคตไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย เพราะเธอมีมันไม่มากพอ นิ้วมือเรียวยาวขยับเข้าออกเงอะงะ ริมฝีปากบางเม้มแน่น ไม่พอใจกับความรู้สึกจากนิ้วมือของตัวเองเลย ดวงตาหวานปิดลงช้าๆ ใช้จินตนาการในสมองช่วยเหลือ และเขาอยู่ในนั้น อยู่ในจินตนาการแสนวาบหวามของเธอ “อึก อื้อ คราม ช้าๆ อ๊า” สมองของใบข้าวมีแต่ภาพของเขตครามเต็มไปหมด นิ้วมือใหญ่เคลื่อนไหวเข้าออกในความคับแน่น เมื่อเธอครางเรียกชื่อเขาออกไปอีก เขาก็ใจดีเพิ่มจำนวนนิ้วมือเข้ามาติ๊ง! เสียงเตือนการมาถึงของลิฟต์โดยสารดังขึ้น เจ้าของเรือนกายสูงใหญ่ก้าวนำเข้าไปก่อน ดึงคนสติหลุดลอยตามเข้าไป ดันร่างเย้ายวนให้ชิดกับผนัง เพื่อปิดกั้นสายตาคนอื่นในลิฟต์ไม่ให้มองเธอ “คุณนี่ เผลอไม่ได้เลยนะ” “ก็ใส่ชุดแบบนี้ ตั้งใจใส่มาให้คนอื่นมอง หรือตั้งใจใส่มาเพื่อ … ยั่วใคร“ กระซิบเสียงพร่าข้างใบหูเล็ก คนได้ยินเชิ่ดหน้าเล็กน้อย “ฉันใส่มาหาผู้ชายคนใหม่ ไม่ได้ใส่มาเพื่อยั่วใครแถวนี้” “อ้อเหรอ ดูเธอจะชอบเกาะติดมะนาวมากเลยนะ ทำไม เพราะมะนาวเป็นเพื่อนฉันเหรอ เข้าหาเธอเพราะต้องการข้อมูลฉัน?“ แกล้งรวนคนในอ้อมกอด ชอบใจใบหน้าตอนโกรธของเธอ ดวงตาหวานคู่นั้นแวววับเต็มไปด้วยความรู้สึก “เลิกหลงตัวเองสักที ฉันเกลียดคุณจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว จะเอาข้อมูลคุณมาให้รกสมองทำไม” “ยังไม่เห็นบ้าเลย สมองก็ดูว่างเปล่า” “นี่! / ชู่ว! คนมองแล้วเห็นไหม เงียบซะ ก่อนที่พี่จะปิดปากเล็กๆของเธอไว้” ‘ด้วยปากของพี่’ คนตัวโตผละออกห่างอย่างรวดเร็ว ยกมือปิดริมฝีปากตัวเองไว้ หวาดกลัวความคิดที่รุนแรงนั่นเหลือเกิน เกือบเผลอตัวทำลงไปจริงๆ เกือบบดริมฝีปากลิ้มลองรสชาติหอมหวานในปากของเธอ
สองวันต่อมา @ M Club รู้ทั้งรู้ว่าไร้ประโยชน์สุดท้ายก็มาจบที่ผับเหมือนอย่างเคย มินตราถูกสาวรุ่นพี่ในที่ทำงานลากมาด้วย กลับรู้สึกผ่อนขึ้นคลายมาก ตอนที่แอลกอฮอล์ไหลผ่านลำคอเข้าไปในร่าง ริมฝีปากหยักสวยแย้มยิ้มตลอดการพูดคุย “คนนั้นก็ดูดีนะมิน เหมือนเขากำลังมองมินอยู่ด้วย” รุ่นพี่ที่บังคับลากมาแนะนำพลางชี้มือให้ดู “เลิกจับคู่ให้คนอื่นได้แล้ว เอาตัวเองให้รอดก่อนไหม” “ชิ!” “มินอยากอยู่คนเดียวค่ะพี่ รู้สึกสบายใจกับตอนนี้มากค่ะ” เพราะไม่อยากให้รุ่นพี่ต้องเป็นห่วง จึงพูดออกไปแบบนั้น เธอลองเปิดใจให้ใครแล้วหลายคน แต่ผลลัพธ์มันมีแต่สร้างบาดแผลให้ตัวเองและคนอื่น อยู่แบบนี้อาจจะดีกว่า เหงาหน่อย แต่เดี๋ยวก็คงชิน “อ่า งั้นมาดื่มให้คนโสด” “ฮ่าๆ” มือเรียวสวยหยิบแก้วเหล้าขึ้นไปชนกับแก้วของรุ่นพี่ต่างแผนก กลืนของเหลวสีอ่อนลงคอไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังดื่มได้ไม่หมดแก้วดี ของเหลวที่กำลังไหล่ผ่านลำคอกลับพุ่งออกมาจากริมฝีปาก เพราะภาพของใครบางคน พรวด! มือเล็กยกขึ้นปิดปากไม่ทัน โชคดีที่รีบหันหน้าไปทางอื่น ผู้ชายหุ่นดีและสูงกว่ามาตรฐาน ไหนจะรูปหน้าดูดีเพราะสายเลือดที่ไหวเวียนอยู่ใน
อีกด้านหนึ่งของอาคาร หมอหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ลูบนิ้ววนบนริมฝีปากตั้งแต่อดีตคนรักเดินจากไป เป็นความสัมพันธ์ที่ตัวเองเป็นคนกำหนดจุดจบไว้แท้ๆ ไม่ได้คบด้วยเพราะรักชอบเธอด้วยซ้ำ คบกับเธอเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ พอหมดประโยชน์ก็เขี่ยทิ้ง แต่ทำไมตอนนี้มานึกเสียดาย ทำไมถึงวุ่นวายกับเธอไม่เลิก “พี่คริส!” เสียงเรียกคุ้นหูดึงสติกลับมาสู่ปัจจุบัน หมอหนุ่มมีสีหน้าตกใจตอนมองเห็นหญิงคนรัก “ขนมผิง มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” “ทำไมพี่หมอต้องลนลานขนาดนั้นด้วยคะ อ้อ! เป็นเพราะแอบมากินของเก่าหรือเปล่า” หญิงสาวหน้าตาสวยเด่นเหยียดริมฝีปากใส่คนรัก ศัลยแพทย์หนุ่มเดินเข้าไปใกล้ อธิบายให้คนรักฟังอย่างใจเย็น “ไม่ใช่อย่างนั้น พี่กับมิน เราไม่เคยทำอะไรแบบนั้น” “กับเด็กนั่นไม่มี แต่กับผู้หญิงคนอื่นมีสินะ ช่างเถอะค่ะ ผิงไม่ได้คาดหวังอะไรจากพี่อยู่แล้ว” ริมฝีปากหยักเม้มแน่น คนที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาไม่ได้มีแค่เด็กที่ชื่อมินตรา ผู้หญิงที่เขาคบหามายาวนานเกือบสองปีอย่างขนมผิงก็เปลี่ยนไปไม่น้อยเลย คนที่เคยอ่อนหวาน และพร่ำบอกว่าเขาสำคัญกว่าสิ่งใด เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม ไม่สิ! บางทีเธออาจจะ
“เราค่อยคุยกันนะคะ มินเวียนหัว คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก” “เดี๋ยวสิมิน!”รั้งเป้าหมายของตัวเองไว้แต่ทำไม่สำเร็จ ครั้นจะก้าวตามไป ก็มีร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาขวาง “อย่าตามเธอไป!” “หมอมาเสือกอะไรด้วยเนี่ย ผมจริงจังกับเธอ ได้ยินไหมว่าคนนี้ผมจริงจัง” ตะโกนใส่หน้าหล่อๆของหมอด้วยความโกรธ วิ่งตามร่างเพรียวระหงออกไป สอดส่ายสายตามองหา แต่ไม่เจอแม้แต่เงา รีบวิ่งไปยังทางออกด้านหลังหวังว่าจะเจอ แต่ผลก็เป็นเหมือนเดิม เธอไปแล้ว เมื่อมั่นใจว่าชายเจ้าของผับไม่อยู่บริเวณนั้นแล้ว มินตราก็ก้าวออกมาจากจุดที่ซ่อนตัว พาร่างกายซวนเซเดินไปหาพนักงานที่ทำหน้าที่ในส่วนของห้องพัก แจ้งความประสงค์ขอเปิดห้องพักด้านบน คนที่กำลังจะเดินออกไปจากผับดังหยุดชะงัก มินตรามองอดีตชายที่ตัวเองรักนิ่งๆ “จะค้างที่นี่เหรอ?” หมอหนุ่มถามด้วยใบหน้าเครียด “อย่ามายุ่งได้ไหม” มินตราตอบกลับ สีหน้าไม่ต่างกับคนถามเลยสักนิด เธอไม่อยากให้ใครรู้โดยเฉพาะเจ้าของสถานที่ แต่เธอเมาขนาดนี้ จะให้ลากสังขารกลับบ้านยังไง “เลิกอวดเก่งสักที เห็นไหมว่าเมื่อกี้เกือบเอาตัวไม่รอด” “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ ฉันจะเป็นตายร้ายดียั
00 : 45 น. “เห้ยหมอ! ไม่คิดจะไปดูหน่อยเหรอ” ธนาสะกิดไหล่หมอหนุ่มวัยเดียวกัน ที่กำลังคลอเคลียอยู่กับผู้หญิงสวยซึ่งเจ้าตัวหิ้วมาด้วย ดวงตามีสเน่ห์หันกลับมาทิศทางเดิมทันที หลังจากมองไปตามทิศทางนิ้วมือของเพื่อน แล้วพบว่าคนที่เพื่อนเอ่ยถึงคือมินตรา เขาไม่อยากเข้าไป เพราะรู้ดีว่าสุดท้ายก็หนีไม่พ้นโดนไล่ออกมา “เห้ยหมอจะไม่ช่วยหน่อยเหรอ คลับใกล้จะปิดแล้วนะ ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนั้น เดี๋ยวหมาป่าแถวนั้นก็ลากไปกินหรอก” คนพูดแสดงสีหน้าห่วงใยออกมา อยากเป็นฝ่ายเข้าไปให้ความช่วยเหลือเสียเอง แต่ติดตรงที่ว่า ผู้หญิงคนนั้นเคยเป็นคนรักของเพื่อน ถึงมันจะคบกับเธอแบบไม่เต็มใจ แต่เขารู้ว่าไอ้ตัวดีมันต้องรู้สึกอะไรอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นมันคงไม่เข้าไปวุ่นวายกับเธอหรอก ตัวเองเป็นฝ่ายบอกเลิกด้วยซ้ำ เป็นเขา เขาไม่ทำแบบที่มันทำแน่ “ลืมไปแล้วหรือไง ว่าฉันกับเธอเลิกกันไปตั้งนานแล้ว” “เออลืม! ก็นะ เห็นเข้าไปเสือกเรื่องเธอทุกครั้ง สรุปว่าเลิกกันแล้วนะ” ธนาพูดประชดเพื่อนเสียงดัง หวังเตือนสติคนฟังนั่นแหละ มีแฟนใหม่ไปแล้วแท้ๆ ยังมานั่งทำตัวแบบนี้อยู่ได้ แฟนเก่าเอย เที่ยวผู้หญิงเอย มันจะเสียชื่
กึ่ด! “โอ้ย! ปากแตกแล้วมั้ง!” มินตราโวยวายกลบเกลื่อนพลางสะบัดตัวแรงขึ้น หัวใจเต้นโครมครามเสียงดัง รู้สึกกลัวเหลือเกินว่าหมอเฉพาะทางอย่างเขาจะรับรู้และได้ยิน เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอยังอาลัยอาวรณ์เขาอยู่ เธอยังลืมเขาไม่ได้ เขาเป็นผู้ชายคนแรก และยังเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอรัก “ไม่เห็นแตกเลย” หมอหนุ่มทายาทเจ้าของโรงพยาบาลโน้มใบหน้าลงไปดู “จะโน้มตัวลงมาทำไม ออกไป ถอยออกไปเลยนะ ปล่อยฉันด้วย” เสียงโวยวายของเธอทำให้เกิดเหล่าไทยมุง เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกหัวข้อสนธนาเป็นเรื่องของเธอกับเพื่อน ตอนนี้มันเปลี่ยนมาเป็นเรื่องของเขากับเธอ ความใกล้ชิดตอนนี้ ทำให้ใครๆต่างก็คาดเดา ว่าถ่านไฟเก่าอาจจะคุขึ้นมาไม่มีวันหรอก หมอหนุ่มทายาทเจ้าของโรงพยาบาลคนนี้ ไม่มีทางกลับมาคบเธออีกแน่ เพราะอะไรน่ะเหรอ เธอไม่ใกล้เคียงกับสเปกของเขาเลย ที่เขาคบด้วยก็เพราะสงสาร ไม่เคยรัก “สัญญามาก่อนว่าจะไม่พุ่งไปตบคนอื่น” “ตบใคร? อีจินมันเดินไปนู้นแล้ว ทีนี้ปล่อยได้หรือยัง” พรึ่บ! ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงสแลก ก้าวถอยห่างออกไปหลายก้าว ปล่อยให้ความนุ่มน







