หลังจากเรียนคาบสุดท้ายเสร็จ ใบข้าวรีบเดินไปยังอาคารที่เป็นจุดหมายของภารกิจ อาคารเสริมที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ระหว่างตึกเรียนคณะนิเทศน์ศาสตร์ กับคณะวิศวะกรรมศาสตร์ เป็นอาคารที่มีกรณีพิพาทมาตั้งแต่เริ่มสร้าง จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองคณะยังคงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันครอบครองอาคารแห่งนี้ โดยไม่มีข้อสรุปแน่ชัด ว่ามันจะต้องเป็นอาคารหลักของคณะไหน
ตึง ตึง โป๊ะ! เพียงแค่ก้าวเข้าไปใกล้บริเวณของอาคารเสริม ซึ่งเป็นอาคารแบบกระจกใสเกือบทั้งหลัง เสียงจากเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ ก็กระแทกเข้าสู่โสตประสาทจนเส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆ ยิ่งใกล้ เสียงก็ยิ่งดัง จนใบข้าวต้องยกสองมือขึ้นปิดหูไว้ขณะเดิน การครอบครองอาคารเสริมของชมรมดนตรีจะไม่มีปัญหาเลย ถ้าหากพวกเขารู้จักคำว่า ‘ซ้อมดนตรีแบบมีมารยาท’ ชมรมดนตรีที่มีเขตครามเป็นหัวหน้านั้น ไม่เคยสนใจเลยว่า เสียงดนตรีเหล่านั้น จะสร้างปัญหาและความรำคาญใจให้นักศึกษาคนอื่นๆ หรือเปล่า พวกเขาไม่มีเวลาซ้อมที่มันชัดเจน อยากจะซ้อมเมื่อไหร่ก็มา ที่หนักหนากว่านั้นคือ พวกเขาไม่เคยปิดห้องซ้อมเลยสักครั้ง ทั้งๆที่ห้องซ้อม มันถูกออกแบบให้เป็นห้องเก็บเสียง และนั่นคือปัญหาที่แก้ได้ง่ายๆ เพียงแค่ปิดประตูไปซะ แต่ไม่ไง! ไอ้บ้าครามมันออกคำสั่งว่าห้ามปิด! ห้ามปิดโดยเด็ดขาด! ตึง! ใบข้าวยกขาขวาเตะไปที่ถังขยะพลาสติก ซึ่งมันวางอยู่ด้านในห้องใกล้กับประตูทางเข้า ถึงแม้เธอจะยังไม่มั่นใจ ว่าตัวเองคือบุคคลที่ย้อนกลับมายังอดีตจริงไหม แต่อะไรแบบนี้มันคือสิ่งที่เธอเคยทำ ถังขยะใบนี้ยังคงเป็นใบเดิม ที่เธอใช้มันแทนการส่งเสียงเวลาที่มาถึง “โอ้! ดูสิว่าใครอุตส่าห์มาเยี่ยมชม ชมรมอันแสนล้ำค่าของเรา!” ภัทร ลูกคู่คนสนิทของเขตคราม เขาเป็นคนแรกที่มองเห็นใบข้าว เขาพูดพลางหยุดมือที่วางแนบอยู่บนเส้นลวดสี่เส้น ของเครื่องดนตรีอย่างกีตาร์ จากนั้นก็เริ่มเกามือลงบนเส้นลวดเหล่านั้นอีกครั้ง เสียงมันเสียดแทงแก้วหู แต่วันนี้ใบข้าวนิ่งสงบกว่าปกติ ทั้งที่เธอกำลังถูกภัทรยั่วโมโหอยู่ ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่า ทำไมตัวเองถึงได้มั่นใจนัก เรื่องที่ว่าเธอจะสามารถเอาชนะเขตคราม และทำให้เขามีสีหน้าเหยเกได้ นั่นก็เพราะเธอเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วนะสิ บางทีเรื่องที่เธอมาจากอนาคต มันคงจะเป็นเรื่องจริง “ฉันไม่มีธุระกับลิ่วล้อ” ใบข้าวพูดพร้อมกับยักคิ้วขวาขึ้น ท่าทางยียวนกวนประสาทมันเหมือนเธอตอนอายุยี่สิบเอ็ดปีจริงๆ แต่สายตาที่ควรจะนิ่งอยู่บนใบหน้าของคู่สนธนาอย่างภัทร มันกลับกวาดไปรอบๆ เพื่อมองหาเขตคราม ถ้าเป็นเธอตอนอายุยี่สิบเอ็ดปี คงไม่ทำอะไรอย่างนี้แน่ๆ เธอมั่นใจว่าตัวเองในตอนเท่านั้น เกลียดเขตครามยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือนซะอีก นี่เธอยังนึกภาพตอนตัวเองตกหลุมรักคนแบบเขาไม่ออกเลยด้วย แต่เพราะคำว่าเมียที่เขาพูดมา คำว่าย้อนกลับมายังอดีตของเขา มันทำให้เธอเกิดความรู้สึกสนใจในตัวเขามากขึ้น และนั่น! เธอหาเขาเจอแล้ว คนที่มีตำแหน่งในวงเหมือนกันกับภัทร และพ่วงตำแหน่งนักร้องนำมาด้วย กำลังละทิ้งหน้าที่ของตัวเองด้วยการคลอเคลียอยู่กับผู้หญิงสวยรายหนึ่ง มันเป็นภาพที่เคยเกิดขึ้นบ่อยๆ และคุ้นชินต่อสายตา เขตครามเป็นผู้ชายแบบนี้แหละ ไอ้คนเจ้าชู้ ! เขาเป็นผู้ชายที่เปิดใช้งานสกิลความหล่อ รวย ได้ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญคือเขาสามารถใช้มันได้แบบไม่จำกัด “มีธุระกับไอ้ครามเหรอ?” ภัทรมองตามสายตาของใบข้าวไป เหยียดยิ้มเยาะหยันจากนั้นก็พูดต่อ “มันไม่ว่างมาเล่นกับหนูท่อสกปรกแบบเธอหรอกนะใบข้าว” ใบข้าวหน้าชาเล็กน้อย เหมือนเธอจะไม่ได้ยินคำนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่เธอสามารถก้าวเข้าไปเป็นพนักงานของบริษัทชั้นนำระดับประเทศได้ และสามารถพาตัวเองไต่ขึ้นไปจนถึงตำแหน่งเลขาของประธานบริษัท เธอก็ไม่ได้ยินคำว่ายัยหนูท่อสกปรกอีกเลย แต่หลังจากวินาทีนี้เป็นต้นไป เธอจะกลับมาได้ยินมันอีกครั้ง และคงบ่อยขึ้น เพราะที่นี่คือจุดเริ่มต้นของคำเหล่านั้นยังไงล่ะ ถึงแม้เธอจะเป็นนักศึกษาคนพิเศษของมหาวิทยาลัย นั่นก็มีเพียงแค่เหล่าคณะอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเท่านั้นที่รู้ นักศึกษาทั่วไปรู้จักเพียงแค่ชื่อของเธอ รู้แค่ว่าครอบครัวของเธอยากจน ให้ฉายาเธอว่ายัยหนูท่อสกปรก เพียงเพราะสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ เธอไม่โกรธ ไม่สิ! เธอในวัยยี่สิบต้นๆโกรธแทบบ้า แต่เธอที่เผลอหลุดกลับมายังอดีต รู้สึกว่าเรื่องแค่นี้ ไม่ใช่ปัญหาของเธออีกต่อไป “นายอยากเล่นกับฉันไหมล่ะภัทร?” ใบข้าวก้าวเท้าไปข้างหน้า หยุดลงตรงหน้าคนที่ตะลึงงันเพราะประโยคของเธอ ภัทรหยุดมือของเขาราวกับไม่เชื่อสิ่งที่หูได้ยิน ใบข้าวที่มาจากอนาคต และรู้ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผู้ชายคนนี้จะตกหลุมรักตัวเอง เขย่งปลายเท้าขึ้นสูง สูงจนใบหน้าเกือบจะเลยไหล่ของภัทรแล้ว แต่! หมับ! “มีธุระกับฉันไม่ใช่หรือไง ยัยหนูเตี้ยตกท่อ!” น้ำเสียงทุ้มดังอยู่เหนือศีรษะ และคนที่กระชากไหล่เธอกลับจนลำตัวหดลงเท่าเดิม ก็คงจะเป็นฝีมือของเขา ไอ้คนนิสัยเน่าเหม็นพอๆกับฝีปาก เขตคราม “ฉันบอกเหรอว่ามีธุระกับนาย” ห้องซ้อมละคร อยากได้มันคืนกลับมาอยู่หรอก แต่เธอรู้สึกฉุนแปลกๆ ตั้งแต่เห็นเขตครามคลอเคลียกับผู้หญิงสวยที่ได้ฉายาว่าดาวมหาวิทยาลัย ถ้าหากเขาต้องการแก้ไขอนาคตที่มันเกี่ยวข้องกับเธอทั้งหมด เธอก็ควรแก้ไขอนาคตที่มันเกี่ยวข้องกับเขาเหมือนกัน ตามนั้นแหละ! เธอไม่มีความทรงจำของช่วงเวลาตกหลุมรักเขาเลย ยิ่งช่วงเวลาที่เขาตกหลุมรักเธอ ยิ่งนึกภาพมันไม่ออก อนาคตที่มีร่วมกันมันอาจจะเป็นความผิดพลาด ประมาณว่า แต่งงานเพื่อความปรองดองอะไรแบบนี้ ทะเลาะกันมามากกว่าสี่ปี จะให้ตกหลุมรักกันเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง “แต่ฉันมี!” เขตครามเก็บสีหน้าไม่พอใจไว้ ดวงตาเปร่งประกายตอนที่เห็นใบข้าวเมื่อครู่ หลงเหลือทิ้งไว้เพียงความขุ่นมัว ถ้าหากเขาไม่ดึงตัวเธอลงมาอยู่ในองศาเดิม หน้าของเธอคงอยู่ใกล้กับใบหน้าของเพื่อนเขาในระยะปะชิด เธอลืมไปแล้วเหรอ ว่าเขาเองก็ย้อนเวลากลับมาเหมือนกัน แล้วเขาก็รู้ด้วยว่า เพื่อนสนิทของเขาตกหลุมรักเธอ“เอามา!”น้ำเสียงนุ่มทุ้มทรงอำนาจ ทั้งยังเย็นชาและให้ความรู้สึกห่างเหิน ใบข้าวเม้มริมฝีปากลง กดแน่นจนปวดแสบ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เธอก็คลายมันออกจากกัน ในอนาคตเธออาจจะเป็นภรรยาของเขา แต่ตอนนี้ อนาคตนั้นมันค่อยๆเปลี่ยนไปแล้วไง คนตรงหน้าก็แค่เขตคราม ไอ้ตัวปัญหาที่เธอต้องกำจัด “นายกับเพื่อนของนายจะได้มันคืนแน่ แต่ … จะได้มันคืนหลังจากที่ได้รับบทลงโทษจากสภาแล้ว”ใบข้าวสะบัดตัวจนไหล่แทบหลุด เมื่อหลุดพ้นจากเขตครามมาได้แล้ว เธอยังต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนของเขา ภัทรกับเพื่อนชายตัวโตสี่คนขวางทางเธอไว้ ในขณะที่กำลังคิดว่าจะเล่นงานพวกเขาจุดไหน เสียงทรงอำนาจด้านหลังเธอก็ดังขึ้น “ปล่อยไป! เพราะยังไงยัยนั่น ก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้อยู่แล้ว”เขตครามมองแผ่นหลังที่ค่อยๆเดินหายไป แต่ทว่ากลิ่นเหม็นของน้ำที่มาจากฝีมือของภัทรยังคงอยู่ ดวงตาสีเทาเข้มเหลือบมองคนตัวสูงหนึ่งร้อยแปดสิบสองเซนติเมตร ภัทรที่ถูกจ้องด้วยแววตาแบบนั้น รีบก้มหน้าลงหลบสายตาดุกร้าวของเขตคราม “เล่นอะไรเป็นเด็ก”“ก็ … แกดูที่ยัยข้าวทำดิ แกจะคืนห้องซ้อมให้ยัยนั่นเหรอวะคราม”“ฉันมีวิธีของฉัน ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีแบบที่แกใช้
“ทำไมวันนี้มาช้านักล่ะ”ใบข้าวสลัดความทรงจำยากลำบากทว่าหอมหวานนั้นทิ้ง เผชิญหน้ากับความเป็นจริงตรงหน้า รุ่นพี่ในที่ทำงานทักเธอด้วยใบหน้าบึ้งตึง นอกจากจะไม่ได้ห้องซ้อมกลับคืนมา ยังถูกเขตครามถ่วงเวลาจนเกือบจะเสียงาน ใบข้าวรีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดพนักงานของผับ ใบหน้าสวยหวานของเธอแต่งเข้มขึ้นหลายระดับ เพราะไม่อยากให้คนรู้จักล่วงรู้ว่าเธอทำงานอยู่ที่นี่ กำลังจะเดินออกไปประจำตำแหน่งบริกรอย่างทุกที ผู้จัดการก็เข้ามาบอกให้เธอไปทำหน้าที่ก้นครัว รู้ได้ทันทีเลยว่า วันนี้เจ้าของสถานที่เองก็พาเพื่อนของเขามาสังสรรค์ วันไหนที่เขตครามมา เธอจะหลีกเลี่ยงเขาไปทำงานอยู่ท้ายครัว หลังจากผับปิดงานท้ายครัวหนักหนาสาหัสมาก แถมเงินที่ได้ยังน้อยนิดถ้าเทียบกับงานเสริฟ ใบข้าวในชุดนักศึกษาลากสังขารกลับมาที่หอพักนอกมหาวิทยาลัย ยืนจ้องมองความทรุดโทรมของอาคารอย่างเหนื่อยหน่าย เธออยากเปลี่ยนเส้นทางชีวิตใหม่ ที่ไม่ต้องโคจรไปพบกับอนาคตที่มีสามีชื่อเขตคราม แต่ถ้าเธอเปลี่ยนมัน ความสำเร็จหอมหวานที่เคยฝ่าฟันอย่างยากลำบากจนได้พบกับมัน เธอจะยังได้พบอะไรแบบนั้นอยู่ไหม บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เธอเข้าทำงาน คือบริษัทหลักของตระก
“นี่เขตคราม! ปล่อยฉันนะ!” ใบข้าวร้องลั่น ดิ้นรนให้ตัวเองรอดพ้นจากผ่ามือร้าย“ตามมาเงียบๆได้ไหม จะแหกปากทำไมวะ!” เขตครามไม่ได้หันไปตะคอกอย่างทุกที แต่น้ำเสียงของเขา แม้แต่เจ้าตัวยังรู้ว่ามันแข็งกระด้างสุดๆ“แล้วจะลากทำไม คุยตรงนี้ก็ได้ไหม โอ้ย! คราม!”ปึก! “อ๊ะ!”เมื่อเดินมาจนถึงมุมอับด้านหลังอาคาร เขตครามก็เหวี่ยงร่างบอบบางแสนดื้อรั้นใส่กำแพง ไม่ได้แรงมากนัก แล้วหลังจากนั้นร่างกำยำก็รีบก้าวเข้าไปประชิดตัว ยกสองแขนขึ้นกักขังคนจะหนีไว้ กดใบหน้าต่ำลงจนคนตกใจตัวแข็งทื่อ ดวงตาหวานปรือลงช้าๆ เมื่อคิดได้ว่า ‘เขากำลังจะจูบ’ “ลืมไปแล้วหรือไงว่าเรามาจากอนาคต”คนที่เผลอคิดไปว่าจะโดนจู่โจมจูบลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นแววขบขันในดวงตาคมกล้า ใบหน้าจึงเรียบตึงขึ้น แค่เผลอไปเถอะ ใครมันจะอยากเอาปากไปแนบกับโถส้วม! “ยังไม่มีอะไรพิสูจน์ด้วยซ้ำ ว่านายกับฉันมาจากอนาคต บางทีเราอาจจะแค่ฝัน ฝันเรื่องเดียวกัน”“แบบเป็นตุเป็นตะ?”เขตครามพยายามซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ เขาไม่มั่นใจเพราะคนตรงหน้า เขาอยากซ่อนมันให้แนบเนียนที่สุด แม้บางครั้งจะเผลอหลุดแสดงมันออกมาตามความเคยชินของร่างกายก็ตาม “อือ! ประมาณนั้นแ
หลังจากเรียนคาบสุดท้ายเสร็จ ใบข้าวรีบเดินไปยังอาคารที่เป็นจุดหมายของภารกิจ อาคารเสริมที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ระหว่างตึกเรียนคณะนิเทศน์ศาสตร์ กับคณะวิศวะกรรมศาสตร์ เป็นอาคารที่มีกรณีพิพาทมาตั้งแต่เริ่มสร้าง จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองคณะยังคงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันครอบครองอาคารแห่งนี้ โดยไม่มีข้อสรุปแน่ชัด ว่ามันจะต้องเป็นอาคารหลักของคณะไหนตึง ตึง โป๊ะ! เพียงแค่ก้าวเข้าไปใกล้บริเวณของอาคารเสริม ซึ่งเป็นอาคารแบบกระจกใสเกือบทั้งหลัง เสียงจากเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ ก็กระแทกเข้าสู่โสตประสาทจนเส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆ ยิ่งใกล้ เสียงก็ยิ่งดัง จนใบข้าวต้องยกสองมือขึ้นปิดหูไว้ขณะเดิน การครอบครองอาคารเสริมของชมรมดนตรีจะไม่มีปัญหาเลย ถ้าหากพวกเขารู้จักคำว่า ‘ซ้อมดนตรีแบบมีมารยาท’ชมรมดนตรีที่มีเขตครามเป็นหัวหน้านั้น ไม่เคยสนใจเลยว่า เสียงดนตรีเหล่านั้น จะสร้างปัญหาและความรำคาญใจให้นักศึกษาคนอื่นๆ หรือเปล่า พวกเขาไม่มีเวลาซ้อมที่มันชัดเจน อยากจะซ้อมเมื่อไหร่ก็มา ที่หนักหนากว่านั้นคือ พวกเขาไม่เคยปิดห้องซ้อมเลยสักครั้ง ทั้งๆที่ห้องซ้อม มันถูกออกแบบให้เป็นห้องเก็บเสียง และนั่นคือปัญหาที่แก้ได้ง่ายๆ เพี
ชั่วโมงต่อมา รถหรูหลายร้อยคันขับเคลื่อนผ่านประตูด้านหน้า เข้าไปในอาณาเขตของมหาวิทยาลัยสุดเลื่องชื่อ แม้จะรู้สึกอิจฉาเจ้าของรถหรูเหล่านั้น ใบข้าวก็ไม่เคยแสดงมันออกมาให้ใครเห็น เด็กสาววัยยี่สิบเอ็ดปีที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วยการคว้าทุน เชิ่ดใบหน้าจิ้มลิ้มขึ้นสูง ดวงตาคู่หวานฉายเพียงความมุ่งมั่นออกมาคนอื่นอาจจะเหยียบย่ำความจนของเธอได้ แต่เธอจะไม่มีวันเหยียบย่ำมันด้วยเท้าของตัวเองเด็ดขาด ใบข้าวเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเอกชนค่าเทอมแพงลิบแห่งนี้ ด้วยการสอบชิงทุนเข้ามา และตอนสอบเข้าเธอทำคะแนนได้อันดับที่หนึ่ง และสามารถรักษาอันดับของตัวเองไว้ได้ทุกปี เธอจึงกลายเป็นนักศึกษาพิเศษของมหาวิทยาลัย เพราะไม่มีใครสามารถรักษาอันดับได้อย่างเธอ “มาแล้วเหรอใบข้าว”ร่างสมส่วนในชุดนักศึกษาขนาดพอดีตัวหยุดฝีเท้าลง ใบหน้าจิ้มลิ้มปราศจากเครื่องสำอางแหงนเงยขึ้นมากกว่าหกสิบองศา เพื่อมองคนพูดที่มีส่วนสูงมากถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร หนุ่มหล่อตรงหน้าเธอตอนนี้คือเขตคราม ผู้ชายที่คอยกวนประสาทเธออยู่ทุกวี่วัน แต่คำทักทายที่แปลกไปนั้นทำให้เธอหยุดคิดทบทวน มากกว่าจะสวนกลับไปด้วยถ้อยคำเจ็บแสบอย่างทุกที
‘ฉันรักเธอนะใบข้าว’สิ้นสุดคำบอกรักแสนหวาน ใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ก็โน้มต่ำลงมา ดวงตาสีเทาเข้มตราตรึงจนเผลอยืนนิ่ง ปล่อยให้ริมฝีปากหยักร้ายที่มีจิวสีดำประดับอยู่มุมขวา กดแนบลงมาบนความอวบอิ่ม ลิ้นใหญ่กวาดลากไปมาช้าๆ ไม่นานก็แทรกผ่านเข้ามาข้างในได้สำเร็จ ไล่ต้อนลิ้นเล็กของเธอไปทั่วโพลงปาก และไม่นาน เขาก็สามารถเกี่ยวเอาลิ้นของเธอไปดูดได้สำเร็จ จ๊วบ!“กะ กรี๊ด!”เสียงกรีดร้องดังระงมลั่นห้องนอนสี่เหลี่ยม ขนาดสามคูณสี่เมตร ดวงตาคู่หวานปิดทับด้วยแพรขนตาหนา เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจเพราะความฝันที่เสมือนจริงเมื่อครู่ เอื้อมมือขวาไปหยิกแขนด้านซ้ายเพื่อเช็คให้แน่ใจว่ามันเป็นแค่ฝันจริงๆ ความเจ็บปวดลามจากจุดที่ลงน้ำหนัก แผ่ซ่านไปถึงกลางแผ่นหลังรวมกันเป็นความสยดสยอง หนังผีที่เปิดดูเมื่อคืน ยังเทียบไม่ได้กับความสยองของฉากจูบเมื่อครู่นี้เลย“บรื้อ! ฉะ ฉันจูบกับ อะ ไอ้ ไอ้บ้าครามเนี่ยนะ! ฮือ โลกคงจะถึงกาลอวสานแล้วแน่ๆ”ใบข้าว นักศึกษาสาวชั้นปีสุดท้ายของคณะนิเทศศาตร์ สาขาการสื่อสารการตลาด ที่พ่วงตำแหน่งประธานสภานักศึกษาของมหาวิทยาลัยมาด้วย ทำท่าขนลุกขนพองประกอบคำพูดของตัวเอง เมื่อนึกถึงใบหน้าของ