Chapter 6 :
โดยปกติเวลาอยู่ในมหาลัยวิทยาลัยกับกลุ่มเพื่อน โจวจะสร้างเสียงหัวเราะให้กลุ่มอยู่เสมออีกทั้งยังมีสาว ๆ เข้ามาตามจีบเขามากมาย หนึ่งในนั้นคือต้าเหนิงซึ่งลือกันว่าเป็นลูกสาวมหาเศรษฐี อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้กลับไม่ให้บรรยากาศของคนรวยเลยแม้แต่น้อย เธอเหมือนคนเดินดินทั่วไปที่ใช้จ่ายแต่กับของถูก ๆ อีกทั้งยังประหยัดอดอ้อมสุด ๆ แม้ต้าเหนิงจะเป็นฝ่ายเข้าหาโจวก่อน แต่โจวก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาในช่องแชทก่อนหลังจากที่แลกคอนแทคกัน และสนิทสนมกันมากขึ้นในระยะเวลาหลายเดือน ทั้งไปเที่ยวต่างจังหวัด ดูหนัง เข้าพิพิธภัณฑ์ ขึ้นเขา ลงทะเล และอื่น ๆ ทั้งคู่ที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมากมายก็ตัดสินใจที่จะเป็นแฟนกันในที่สุด เมื่อวันที่มีอะไรกันครั้งแรกมาถึง ทั้งคู่ก็ต่างได้เป็นครั้งแรกของกันและกัน บรรยากาศต่างเป็นไปอย่างอบอุ่นและมีชีวิตชีวา ต้าเหนิงไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อนตลอดระยะเวลาที่อยู่แต่ภายใน ‘คฤหาสถ์ของเธอ’ ซึ่งเธอทำได้แค่อ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน และเตรียมพร้อมสำหรับการสืบทอดมรดกที่เธอไม่ต้องการ ต้าเหนิงเพียงอยากจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเหมือนอย่างที่คนปกติควรจะได้รับก็เท่านั้น และแล้วการได้สานสัมพันธ์กับโจวเพื่อที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับเขาก็ดำเนินไปในรูปแบบที่ไม่ได้แตกต่างกันนักสำหรับแต่ละวัน ตื่นนอนด้วยกัน กินอาหารด้วยกัน เข้ามหาลัย เรียนหนังสือ ไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน กลับห้องมาเตรียมตัวไปทำงาน ทำงานอย่างหนักและเหน็ดเหนื่อย กลับมาห้องหลังเลิกงาน มีเซ็กส์อย่างเร่าร้อน ก่อนที่จะจบวันด้วยการนอนหลับพักผ่อนด้วยกันอย่างผาสุข วนเวียนไปเช่นนี้ร่วมหลายเดือนจนกระทั่งทั้งคู่คบกันได้1ปี ความฝันของต้าเหนิงกลายเป็นจริง ในชีวิตนี้เธอต้องการเพียงเท่านี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว ทุกอย่างเต็มไปด้วยความพึงพอใจและความสุขที่สงบแล้ว กระทั่งมีบางสิ่งบางอย่างค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ หอพักที่ทั้งคู่แชร์ค่าห้องกันนั้นเป็นห้องเช่าขนาดกะทัดรัด ไม่ถึงกับโทรมจนเกินไป แต่ก็ไม่ใช่ห้องหรูอะไร เป็นหอพักที่ค่อนข้างถูก พื้นกระเบื้องสีขาวขุ่นดูเก่าล้าสมัยเล็กน้อย แต่ยังสะอาดพอใช้ได้ ผนังห้องเป็นสีครีมมีคราบบางจุดจากการใช้งานที่ยาวนาน บานหน้าต่างกระจกติดบานเกล็ดอะลูมิเนียมที่เปิดรับลมได้ แต่ก็ต้องระวังฝนสาดเข้ามาในฤดูฝน ภายในห้องมีเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น เตียงขนาดกลางที่พวกเขานอนด้วยกันทุกค่ำคืน โต๊ะไม้เล็ก ๆ หนึ่งตัวที่ใช้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือและโต๊ะกินข้าวในเวลาเดียวกัน ข้าง ๆ เตียงเป็นตู้เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่บานประตูฝืดเล็กน้อย ห้องน้ำอยู่ในมุมห้อง ติดกับพื้นที่ครัวเล็ก ๆ ที่มีเพียงเคาน์เตอร์ครัวธรรมดา ๆ กับซิงค์ล้างจาน ไม่ได้มีเตาแก๊สหรือไมโครเวฟ หอพักนี้อาจจะไม่ได้สะดวกสบาย แต่เมื่อแชร์ค่าห้องกันแล้วถือว่าประหยัดและเหมาะกับนักศึกษาที่กำลังหาที่พักชั่วคราว รวมถึงวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างตัว แม้ว่าชีวิตจะไม่หรูหรา แต่ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันในห้องเล็ก ๆ นี้ก็เต็มไปด้วยความหวังและความฝันที่พวกเขาสร้างร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ความรักที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกลับเริ่มสั่นคลอนเมื่อความต้องการบางอย่างของต้าเหนิงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ “ทำอีกไม่ได้งั้นเหรอคะ?” ต้าเหนิงเอ่ยกระซิบข้างหูโจว ขณะที่เธอกอดร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาอย่างแนบแน่น ลมหายใจที่ร้อนแรงของเธอทำให้บรรยากาศในห้องเริ่มเร่าร้อนขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะเพิ่งเสร็จสมกับเธอเป็นรอบที่สาม แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เพียงพอสำหรับเธอ ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาจากการทำงานและการระบายความสุขก่อนหน้านี้ทำให้โจวรู้สึกเหมือนตัวเองจะถอดใจแล้ว “พอแล้ว...พี่เหนื่อยจะแย่” เขาหายใจลึก ๆ ขณะที่เอนหลังพิงกับหัวเตียงอย่างหมดแรง แขนข้างหนึ่งพาดไว้บนหน้าผากในท่าทางที่แสดงถึงความอ่อนล้า แต่ต้าเหนิงไม่ยอมแพ้ เธอยังคงลูบไล้มือของเธอลงบนแผงอกแข็งแรงของเขา ก่อนจะลากนิ้วเรียวบางขึ้นมาที่หน้าท้องแกร่ง ซึ่งตึงเปรี๊ยะเพราะการออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ “เหนื่อยงั้นเหรอคะ?” เธอยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “งั้นก็ปล่อยให้หนูจัดการเองสิ เหมือนทุก ๆ ครั้ง...หนูจะทำให้พี่มีความสุข...ด้วยความรักของหนู” มือของเธอค่อย ๆ เลื่อนลงไปจนถึงใต้เอว ล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของเขาเบา ๆ ขณะที่ดวงตาคมจับจ้องที่ใบหน้าของเขา โจวกัดฟันแน่น พยายามห้ามใจตัวเอง อย่างไรก็ตาม น้องชายของเขากลับซื่อตรงต่อใจมากกว่า มันที่ถึงแม้จะอ่อนปวกเปียกแล้วก็ตาม ยังคงพยายามที่จะลุกขึ้นสู้ จนในที่สุดก็แข็งชูชันคาอุ้มมือเล็กนุ่มของต้าเหนิง นั่นทำให้แฟนสาวที่จะสุดแสบสันต์คนนี้ดูจะพึงพอใจสุด ๆ “ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ…” เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบพร่า ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำได้มากกว่านี้หรือไม่ แต่เมื่อสัมผัสของเธอทำให้ความอบอุ่นภายในตัวเขากลับมาอีกครั้ง ความเหนื่อยล้ากลับเริ่มจางหายไปทีละน้อย ต้าเหนิงไม่พูดอะไร แต่รอยยิ้มของเธอที่ส่งให้เขานั้นมีทั้งความรัก ความเจ้าเล่ห์ และความปรารถนารวมกันอยู่ในแววตาคู่นั้น เธอลากมือเขามาจับที่หน้าอกนุ่มนวลของเธอ ทำให้เขารู้สึกถึงความเต่งตึงที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในขณะเดียวกัน เธอก็เริ่มเคลื่อนตัวขึ้นมานั่งบนตักของเขา ถอดกางเกงให้เขา ปล่อยให้แท่งเนื้อนั้นได้เฉิดฉายก่อนที่จะกลืนกินมันเข้าไปในร่องรักที่เปียกชื้นของเธอ เมื่อมันเข้ามาในร่างกายจนมิดด้ามแล้วต้าเหนิงก็ทำการขย่มอย่างโหดเหี้ยมจนเวลาล่วงเลยไป “อืม…กี่ครั้งแล้วนะคะพี่โจว หนูจำไม่ได้แล้วว่าเราทำกันมากี่ครั้งในคืนนี้ ฮา...หื๊ด...ฮา~” เธอหัวเราะเบา ๆ ปนกับเสียงครวญครางบนใบหน้าที่แดงซ่านไปหมด ราวกับกำลังเล่นตลกร้ายกับสถานการณ์ที่ทั้งคู่ต่างเหนื่อยล้าแต่ก็ยังคงไม่ยอมพอ โจวเหม่อมองแฟนสาวที่เปลือยกาย ผิวหนังมันวาวจากเหงื่อที่ซึมซาบและกระเส็นไปทั่ว ดูยั่วยวนสุด ๆ โดยเฉพาะสะเอวเล็ก ๆ ของเธอกับหน้าอกที่พอดีมือคู่นี้ “ห้าครั้ง...แล้ว...แต่หนูยังไม่พออีกเหรอ?” เขาถามออกมาเสียงแผ่ว หอบหายใจแรงด้วยใบหน้าที่อ่อนล้าสุด ๆ “ยังหรอกค่ะ...” ต้าเหนิงโน้มใบหน้าลงมาหอมแก้มเขาก่อนที่จะรวบผมมาทัดไว้ข้างใบหู ท่วงท่าเป็นไปอย่างสุขใจและหรรษา รักแร้ที่เผยออกมาดูเร้าใจมีเหงื่อไหลย้อยลงมาตามสีข้างลำตัว ผู้หญิงคนนี้มีอารมณ์มากมายแม้ในร่างกายจะอัดแน่นไปด้วยน้ำกามจนแทบจะล้นทะลักอยู่แล้วก็ตามที “ ...เพราะเวลาที่หนูได้อยู่กับพี่โจวน่ะ หนูรู้สึกเหมือนพี่เป็นทั้งคู่ชีวิต และเป็นโลกทั้งใบของหนู...” ต้าเหนิงยิ้มร่าพลางลูบไล้เขาขณะที่สัมผัสกับน้ำอุ่น ๆ ในร่างกายและแท่งเนื้อของอีกฝ่ายที่กำลังถูกตัวเองบีบอัดอย่างไม่บันยะบันยังเพื่อสนองความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ รอยยิ้มที่น่ารักน่าเอ็นดูและมีเสน่ห์กลายเป็นรอยยิ้มที่ดูน่ากลัว “...หนูรักพี่ที่สุดเลยค่ะ แต่ยิ่งไปกว่ารักแล้ว ไม่ต้องบอกแต่พี่ก็น่าจะรู้ ...ทุกครั้ง...ไม่สิ....แถบจะตลอดเวลา...หนูมีอารมณ์ค่ะ...และมีมากด้วย...” เธอก้มหน้าลงไปเฉียดหูอีกฝ่ายพลางกล่าวกระซิบและแสยะยิ้มชั่วร้าย “...ถ้าเป็นไปได้หนูอยากจะทำกับพี่ทั้งวันทั้งคืนเลย” To be continued...Last Chapterเรื่องราวเริ่มต้นด้วยข่าวดีที่มาเยือนต้าเหนิงและธเนศ ในวันที่ผลการตรวจครรภ์ออกมาเป็นบวก พร้อมกับการเปิดเผยว่าทารกในท้องเป็นลูกแฝดชายหญิง ความยินดีปรีดาท่วมท้นใจจนทำให้พวกเขาแทบจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ทั้งคู่ต่างตั้งชื่อให้กับลูกน้อยของพวกเขา คนหนึ่งเป็นชายตั้งชื่อว่า เฟิงเหมียน และอีกคนหนึ่งเป็นหญิงชื่อว่า ลลิล ความสุขนี้ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ในห้วงแห่งความฝันที่ไม่มีวันสิ้นสุดเมื่อเวลาผ่านไป ต้าเหนิงได้คลอดลูกแฝดที่น่ารัก ทั้งสองต่างมีเสน่ห์และคุณสมบัติที่โดดเด่น เฟิงเหมียนมีใบหน้าหล่อเหลาที่มาจากธเนศ ส่วนลลิลนั้นมีความน่ารักสดใสที่มาจากแม่ของเธอ ขณะเดียวกันปาร์มที่เคยเฝ้าลูบท้องต้าเหนิงมาตลอดก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่ธรรมดา ราวกับว่าเธอได้เป็นแม่ของเด็ก ๆ ด้วยตัวเองเวลาผ่านไปอีกปี ต้าเหนิงได้คลอดลูกคนที่สามเป็นเด็กชายชื่อ อิน ชื่อนี้ได้มาจากความรักที่พ่อแม่ของต้าเหนิงมีให้กับหลานชาย และอีกสองปีต่อมา ต้าเหนิงก็ได้คลอดลูกสาวคนที่สี่ชื่อ เปา ซึ่งต้าหมิงพี่สาวของเธอได้ตั้งชื่อให้อีก 16 ปีต่อมา เฟิงเหมียนและลลิลเติบโตเป็นวัยรุ่นอายุ 19 ปี เฟิงเหมียนมีทักษะทางดนตรีมา
Chapter : 44คนแรกที่ตระหนักถึงการตั้งครรภ์ของเธอคือธเนศ เขาไม่แสดงออกด้วยความตื่นตระหนกหรือความกังวล แต่เขากลับยิ้มรับอย่างอบอุ่น ราวกับว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่เขารอคอยอยู่แล้ว ความอบอุ่นและความสุขที่แฝงอยู่ในสายตาของเขาทำให้ต้าเหนิงรู้สึกมั่นใจในอนาคตของพวกเขา หลังจากนั้นไม่นานเธอก็แจ้งข่าวนี้ให้กับปาร์ม เพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งตื่นเต้นและดีใจอย่างมากไม่นานหลังจากที่ต้าเหนิงตั้งครรภ์ เธอก็ได้พบกับต้าหมิง พี่สาวที่ห่างหายกันไปหลายปี ต้าหมิงมาเยี่ยมเยียนเธอที่คอนโดซึ่งเธอยังคงอาศัยอยู่กับปาร์มเหมือนเดิม มันเป็นการพบกันที่เต็มไปด้วยความสุข ต้าหมิงดีใจที่ได้เห็นชีวิตใหม่ของต้าเหนิง ซึ่งเติบโตและประสบความสำเร็จในเส้นทางที่แตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิงการพบกันอีกครั้งระหว่างธเนศและต้าหมิงเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งแต่มอปลาย บรรยากาศในช่วงแรกเต็มไปด้วยความตึงเครียด ความทรงจำในอดีตที่ไม่เคยถูกสะสางยังคงแฝงอยู่ในสายตาของทั้งคู่ การสนทนาเริ่มต้นด้วยความระมัดระวัง ราวกับทั้งสองกำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายที่บางเบา แต่ด้วยการที่ต้าเหนิงคั่นกลางระหว่างเขาและพี่สาว ความสัมพันธ์ที่เค
Chapter : 43คืนหนึ่ง ต้าเหนิงขับรถหรูของธเนศไปกับปาร์มเพื่อนสนิท ขณะที่พวกเธอกำลังเพลิดเพลินกับการขับขี่ เสียงหัวเราะและความสนุกกลับถูกตัดขาดเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุอย่างไม่คาดคิด ช่วงเวลาแห่งความหวาดเสียวทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่โชคดีที่ทั้งสองคนรอดมาได้ ปาร์มร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ ขณะที่ธเนศได้ยินข่าวก็ตกใจไม่น้อยเช่นกัน แต่เมื่อเขามาถึงและเห็นต้าเหนิงไม่เป็นอะไรมาก ก็ได้แค่ส่ายหน้าไปมา ทิ้งรถราคาแพงนั้นไปโดยไม่รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย นั่นทำให้ปาร์มรู้สึกขอบคุณธเนศเป็นอย่างมากและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เพื่อนสนิทของต้าเหนิงและว่าที่แฟนของต้าเหนิงสนิทกันในช่วงเวลาแห่งความสุขและความรู้สึกที่ร้อนแรงนั้น ต้าเหนิงก็ใช้เงินของธเนศไปกับของแบรนด์เนมต่าง ๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของเขา ธเนศยังคงเปิดโอกาสให้ต้าเหนิงได้เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน ทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ และเหรียญคลิปโต ต้าเหนิงดูดซับข้อมูลเหล่านั้นอย่างกระตือรือร้น โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนในตลาดที่เป็นที่นิยมขณะเดียวกัน ต้าเหนิงได้ค้นพบความสนุกใหม่ ๆ ด้วยการใช้เงินของธเนศไปซื้อของเล่นผู้ใหญ่ (Se
Chapter : 42เมื่อจูบอันเร่าร้อนสิ้นสุดลง ต้าเหนิงถอนริมฝีปากออกช้า ๆ น้ำลายใส ๆ ไหลเยิ้มเชื่อมต่อระหว่างริมฝีปากของทั้งสอง ราวกับสายใยแห่งความปรารถนาที่ผูกพันไว้ พวกเขาจ้องตากัน สายตาที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาและความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ มือเรียวเล็กของต้าเหนิงคล้องรอบคอธเนศอย่างแนบแน่น ขณะที่ธเนศประคองร่างบางของเธอไว้แนบชิด ความรู้สึกที่ซึมซาบจากรสจูบยังคงหลงเหลืออยู่ที่ปลายลิ้น รสชาติหวานหอมของไวน์ผสมกับความร้อนแรงของอารมณ์ทำให้ทุกสิ่งรอบตัวเงียบสงบ มีเพียงลมหายใจหนัก ๆ ที่เปล่งออกมาเป็นเสียงเดียวกันธเนศเป็นฝ่ายพูดก่อน เขาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “หนูเนี่ยไม่เบาเลยจริง ๆ สมแล้วที่เป็นคนที่พี่เลือก” น้ำเสียงของเขาหนักแน่นเต็มไปด้วยความชื่นชมและปรารถนา ไม่รอช้า มือใหญ่ของเขาก็จับร่างต้าเหนิงลงอย่างดุดัน จากนั้นเขากระชากเดรสสีดำที่เธอสวมใส่จนขาดกระจุยโดยไม่สนใจความละเอียดอ่อนของเนื้อผ้า ต้าเหนิงหลุดหัวเราะเบา ๆ ขณะมองไปยังธเนศที่มีสีหน้าหื่นกระหาย “ชุดนี้มันแพงนะคะ หึหึ” เธอเอ่ยขึ้นอย่างเย้าแหย่ สายตาของเธอเต็มไปด้วยแววท้าทายธเนศไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ เขามองเธอด้วยสายตาคมกริบและ
Chapter : 41ปาร์มในชุดบันนี่เกิร์ลยั่วเย้านั่งคลอเคลียอยู่บนโซฟาข้างอายิซ สุลต่านผู้ทรงอำนาจ ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายของอำนาจและความมั่งคั่ง ทั้งคู่ตกอยู่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนอายิซเอนตัวพิงพนักโซฟาด้วยท่วงท่าผ่อนคลายขณะที่ปาร์มค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้ ปลายนิ้วเรียวบางของเธอไล้ไปตามหน้าอกแข็งแรงของเขาอย่างเย้ายวน เสียงหัวเราะเบา ๆ ของเธอเจือด้วยความร้อนแรงและเจตนาที่ชัดเจน“พี่อายิซคะ วันนี้อยากได้ท่าไหนเป็นพิเศษไหมคะ?” ปาร์มเอ่ยถามเสียงหวาน พลางแกล้งบิดตัวเล็กน้อย เผยให้เห็นสัดส่วนเว้าโค้งที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้อายิซมองตามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอายิซหันไปมองเธอ แววตาเขาเต็มไปด้วยความพอใจ “เราจะทำกันทุกท่าในคืนนี้”ปาร์มหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับลูบไล้หน้าอกอายิซต่ออย่างไม่เร่งรีบ ความเนียนนุ่มของผิวมือเธอสัมผัสกับผิวของเขา ราวกับการเต้นรำแห่งการยั่วยวนที่ไม่มีวันสิ้นสุด “ถ้าแบบนั้น หนูคงจะขาลากแน่เลยนะคะพี่”อายิซยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “ถ้าน้องปาร์มของพี่ทนไหว มันคงจะเป็นอะไรที่สนุกสุด ๆ ไปเลย”ปาร์มยิ้มตอบ รอยยิ้มของเธอมีความชำนาญในศิลปะแห่งการยั่วยวน เธอเอื้อมมื
Chapter : 40ขณะที่ต้าเหนิงกำลังนั่งพูดคุยกับปาร์มใต้แสงไฟอ่อน ๆ ของร้านสะดวกซื้อที่พวกเขานั่งอยู่ เสียงบทสนทนาของทั้งคู่ที่เดิมทีเป็นแค่เสียงสนทนาธรรมดา เริ่มเข้าสู่ประเด็นที่เข้มข้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ต้าเหนิงสูบบุหรี่แล้วพ่นควันเบา ๆ ออกมา ละสายตาไปทางอื่น ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ “เมื่อกี้ที่ห้องน้ำ...มีคนเห็นกูกับพี่ธเนศด้วย”ปาร์มที่กำลังถือแก้วเบียร์อยู่หันมามองเพื่อนสนิทของเธอด้วยความสนใจ “แล้วแบบนี้มันจะไม่เป็นไรเหรอวะ?”ต้าเหนิงถอนหายใจเงียบ ๆ ก่อนจะพูดต่อ “พี่ธเนศเขาจ่ายเงินปิดปากไปแล้วห้าพัน ทั้ง ๆ ที่พวกนั้นขอแค่สองสามพันเอง”ปาร์มฟังแล้วถึงกับเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัยปนตื่นเต้น “เดี๋ยวนะ... อาจารย์ธเนศรวยขนาดนั้นเลยเหรอวะ?” แววตาของปาร์มเริ่มฉายประกายอยากรู้ เธอพอจะจำได้ว่าธเนศเคยมากับคนที่มีฐานะอย่างสุลต่าน แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเขาจะมีเงินถึงขั้นใช้จ่ายแบบนี้ต้าเหนิงหัวเราะแผ่ว ๆ “ชีวิตเขาซับซ้อนกว่านั้นอีก แต่เอาแบบง่าย ๆ นะ... เขารวยพอที่จะใช้เงินวันละแสนได้แบบสบาย ๆ ”ปาร์มตาโตแทบสำลักเบียร์ “เหี้ย... อาจารย์แม่งโคตรรวย!” น้ำเสียงของเธอออกมาดังจนคนที่กำลังเดิน