Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
Writer : Aile'N
ตอนที่ 13
ต่อกแต่ก.. ต่อกแต่ก..
เสียงปลายนิ้วเรียวยาวทั้งสิบกดน้ำหนักลงบนแป้นคีย์บอร์ดในโน้ตบุ๊กเครื่องบางดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอภายในห้องนอนอันเงียบสงบ คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันนิดๆ ขณะเพ่งสายตาไปยังหน้าจอสี่เหลี่ยมอย่างตั้งอกตั้งใจ สักพักก็หยุดทุกอย่างลงแล้วหันไปมองคนหลับที่เกือบจะบ่ายเข้าไปแล้วก็ยังไม่ยอมตื่นเสียที.. ครั้นจะปล่อยไว้คนเดียวก็ไม่ได้ วันนี้เขาจึงต้องเอางานมาทำที่ห้องแทน
"หึ.." พอได้มองหน้ากันร่างแกร่งก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาและอดขำไม่ได้.. ทั้งที่คนอย่างเขาเคยผ่านผู้หญิงมามากมายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะยากง่ายแค่ไหนก็ไม่เคยต้องมาตกม้าตายด้วยการใช้ยาอย่างที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้เลย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น..
"อืม.. อ๊ะ โอ้ย.." นั่งทำงานต่อไปได้สักพัก เสียงครางฮือแผ่วๆ จากคนนอนก็ดังขึ้นมา เมื่อพลิกตัวแล้วรับรู้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวตามร่างกายอย่างแสนสาหัส เรียกความสนใจจากเจ้าของห้องให้หันมามอง..
"ค่อยๆ " เสียงเตือนจากใครคนนั้นทำร่างบางหันไปมองหน้าเขาก่อนเบิกตากว้างแล้วมองไปรอบๆ ห้องที่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนเพราะไม่คุ้นสายตา..
ร่างกายที่ปวดร้าวบวกกับความวาบหวิวแปลกๆ ทำให้สองมือเล็กเลิกผ้าห่มขึ้นดูในเวลาต่อมา.. เรือนร่างเปลือยเปล่าที่ถูกสวมทับด้วยชุดคลุมอาบน้ำเพียงหลวมๆ บวกรอยจ้ำสีแดงตามร่างกายที่โผล่พ้นออกมาให้เห็นทำอิงเอยหันขวับไปมองหน้าไบรอันด้วยความโกรธจัดทันที
ปึ่ก!
"อะไรเนี่ย? " กำปั้นน้อยๆ ที่มีเรี่ยวแรงเท่ามดตัวจ้อยไม่ได้ทำให้คนตัวใหญ่สะทกสะท้าน แต่สงสัยมากกว่าว่าทำไมต้องมาทุบเขาด้วย
"..มันชักจะเกินไปแล้วนะ! ทำไมคุณทำกับฉันแบบนี้!! ? " เสียงแหบพร่าพยายามตะโกนออกมาสุดเสียงให้สมกับความโกรธที่มี สิ้นคำก็ทุบแขนแกร่งไปอีกหลายที
ปึ่กๆ ๆ
"ใจเย็น.." ท่าทางทุลักทุเลของร่างบางที่พยายามจะประทุษร้ายเขาทั้งที่ร่างกายไม่เอื้ออำนวยทำไบรอันนึกเห็นใจ เลยพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ..
"เย็นบ้านคุณสิ! ฉันไม่คิดเลยนะว่าคุณจะกล้าทำถึงขนาดนี้! ฉันมีพ่อมีแม่นะ! " ต่อให้มีน้ำเย็นเป็นถังในเวลานี้คงจะดับอารมณ์ของอิงเอยไม่อยู่ มือบางกำแน่นจนสั่นระริก เสียงแหบๆ ที่พยายามจะเค้นออกมานั้นฟังดูเกรี้ยวกราดกว่าทุกครั้ง ไหนจะดวงตากลมโตที่เอ่อคลอน้ำตาและมองตัดพ้อมาอย่างไม่ปกปิดนั่นอีก มันมีอิทธิพลต่อคนฟังอย่างไม่น่าเชื่อ..
หมับ!
"โอ้ย! ปล่อยนะ เจ็บ.." โน้ตบุ๊กราคาแพงถูกเคลียร์ออกไปวางไว้บนหัวเตียง ก่อนที่เจ้าของห้องจะขยับมารวบตัวคนโกรธเข้าไปกอดไว้หลวมๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เธอเจ็บจนต้องร้องโอดโอยออกมา
"ก็อย่าโวยวายสิ.. คุยกันดีๆ " เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยบอกดีๆ มือก็ลูบศีรษะเล็กไปด้วยเพื่อหวังจะปลอบให้เธออารมณ์เย็นขึ้น เพราะถ้าขืนยังเกรี้ยวกราดอยู่แบบนี้ไม่มีทางที่จะคุยกันรู้เรื่องแน่
"ฉันควรคุยดีกับคนที่มันข่มขืนฉันหรือไง! ? " เสียงขุ่นดังอู้อี้อยู่กับอกแกร่งพร้อมทุบกำปั้นลงไปอีกหลายทีด้วยความคับแค้นใจ เธอไม่น่าใจเย็นปล่อยให้เขาลวนลามบ่อยจนเขาได้ใจกล้าทำถึงขนาดนี้เลยจริงๆ!
"ฉันไม่ได้ขืนใจเธอสักหน่อย คิดดีๆ " ร่างสูงแก้ต่างไม่เต็มเสียงนัก เพราะถึงจะไม่ได้ข่มขืนอย่างที่ค้านไป แต่คำว่า 'ใช้ยา' มันค้ำคอเขาอยู่..
"แต่ฉันไม่มีทางยอมคนอย่างคุณแน่! คุณมันเจ้าเล่ห์! ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันจะลาออก! ต่อให้ต้องกลับบ้านไปทำสวนทำไร่ก็ยอม! " ร่างบางไม่ได้เอะใจเรื่องยาที่อีกคนใช้เพราะเธอไม่รู้ ที่รู้และจำได้ก็คือเขาเริ่มลวนลามเธอก่อนจนมันเลยเถิดไปถึงขั้นได้เสียกัน.. เธอโกรธที่เขากล้าทำทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน!
"ชู่วว~ ใจเย็นๆ ก่อน" ไบรอันพยายามปลอบ แต่อิงเอยเหมือนคนสติแตก อุณหภูมิร้อนผ่าวที่แผ่ซ่านมาถึงเขามีส่วนทำให้อารมณ์ของเธอยิ่งเตลิด แปรปรวนจนยากที่จะควบคุมได้
"ไม่! ปล่อยนะ.." ไม่ว่าจะดิ้นรนเท่าไรก็ไม่มีทางที่คนตัวเล็กจะออกไปจากวงแขนแข็งแรงของร่างสูงได้ จนเธอท้อและเริ่มจะหมดเรี่ยวแรง เลยนั่งนิ่ง.. ปล่อยให้น้ำตามันระบายทุกอย่างออกมาแทนคำพูด
"ค่อยคุยกัน.. ตอนนี้กินข้าวกินยาก่อน เธอเหมือนจะมีไข้" ไบรอันรู้เพราะไหล่บางสั่นและเสื้อเขาก็เริ่มเปียก แต่ไม่รู้จะทำยังไงแล้วในตอนนี้เพราะเคยแต่มีผู้หญิงมาร้องห่มร้องไห้บอกให้เขารับผิดชอบ ไม่เคยมาร้องไห้แล้วผลักไสเขาแบบนี้ เลยตัดบทให้คนป่วยลุกไปกินข้าวกินยาและนอนพักให้หายดีก่อน เผื่อจะทำให้คุยกันง่ายขึ้น
"อึ่ก ไม่กิน ออกไปให้พ้นเลย! " ร่างบางปฏิเสธเสียงแข็งและพยายามผลักอกแกร่งออกห่างจากตัว แต่ยิ่งผลักยิ่งดิ้นยิ่งสะเทือนถึงแผลทำน้ำตาร่วงเผาะลงมาอีกครั้ง เจ็บชิบหายเลย.. T^T
"อย่าดื้อ.. แรงลุกยังจะไม่มีอย่าทำอวดเก่ง" ยอมก็แล้วอีกคนก็ยังงอแงไม่เลิก ไบรอันจึงดุขึ้นมาบ้าง ทำคนฟังเหวอไปได้เลยเหมือนกันเพราะเขาทำให้เธอเป็นแบบนี้ เขาไม่ควรมีปากมีเสียงอะไรเลยด้วยซ้ำ!
"แล้วใครมันทำให้ฉันเป็นแบบนี้ล่ะห้ะ! ? ใคร! ? " คำพูดของคนตัวใหญ่ทำอิงเอยโมโหร้ายหนักกว่าเดิมอีก นี่เขาไม่สำนึกผิดบ้างเลยหรือไงทั้งที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหมด!
"ฉันไง.. แต่ไม่ขอโทษหรอกนะ เพราะฉันตั้งใจ! " ไบรอันยอมรับออกมาหน้าตาย ยิ่งทำคนฟังโกรธจนตัวสั่น อยากจะกระโดดข่วนหน้าหล่อๆ นั้นให้หายแค้น แต่ทำได้แค่นั่งกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ..
"ฮึ่ก.. คุณมันเลว.. ไม่ตลกเลยนะ คุณแรงเล่นเกินไปแล้ว.." ร่างบางตัดพ้อออกมาเสียงสั่น นั่งสะอื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง.. ครั้งแรกของเธอควรจะเป็นของผู้ชายที่เธอรักสิ ไม่ใช่ตาแก่หัวงูที่เพิ่งจะรู้จักกันแบบนี้ T^T
"แล้วใครบอกเธอว่าฉันเล่น.. ฉันจะรับผิดชอบ" หนุ่มใหญ่หน้าเคร่ง เขาไม่ใช่ผู้หญิงที่หวงเวอร์จิ้นเลยไม่รู้ว่ามันยิ่งใหญ่ขนาดไหนเวลาเสียไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็กะจะรับผิดชอบร่างบางอยู่แล้ว เพราะตั้งใจรวบหัวรวบหางเธอแต่แรก แต่ไม่คิดว่าทั้งที่ได้เสียกันแล้วเรื่องมันจะยุ่งยากวุ่นวายถึงขนาดนี้ มันควรจะจบลงง่ายๆ แค่บอกมาว่าให้เขารับผิดชอบสิ ไม่ใช่นอกจากด่าแล้วก็ไม่เรียกร้องอะไรเลยแบบนี้ =_="
"ไม่เอา.. ฉันจะลาออก" ตากลมมองขวางพร้อมกับปฏิเสธออกมาโดยไม่เสียเวลาหยุดคิดเลยสักนิด
"ได้.. ลาออกจากพี่เลี้ยงเพื่อมาเป็นแม่เลี้ยงของอลัน" คนฟังใจชื้นเมื่อได้ยินคำอนุญาตง่ายๆ ในตอนแรก แต่พอได้ยินประโยคถัดไปกลับฝันสลาย จมดิ่งกลับลงมาอยู่ก้นเหวลึกดังเดิม..
"ใครบอกว่าจะเป็น! ฉันจะกลับบ้าน และจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก" อิงเอยเกรี้ยวกราดใส่อีกคนอย่างหมดความอดทน ก็คนบอกว่าไม่เป็นก็ไม่เป็นสิ ทำไมต้องพยายามบีบบังคับให้เป็นขนาดนี้ด้วย เธอไม่เรียกร้องอะไรมันไม่ดีหรือไง! ?
"จะเอายังไงแน่ฮะ พอจะรับผิดชอบก็ไม่เอา" ไบรอันหมดความอดทนบ้าง เขาไม่เข้าใจคนตรงหน้าเลยจริงๆ ว่าทำไมต้องผลักไสไล่ส่งราวกับรังเกียจกันขนาดนี้ด้วย
"ฉันจะลาออก! และจะไม่เป็นอะไรกับใครทั้งนั้น!! ปล่อย.." ร่างบางตะโกนใส่หน้าคนฟังอย่างไม่กลัวตาย จริงๆ อยากตบให้หน้าหงายไปเลยด้วยซ้ำเพราะไหนๆ ก็จะออกแล้ว แต่ยังไม่มีแรงมากพอ =_="
"หึ ย้ำจังนะ แค่แรงจะเดินออกจากห้องยังไม่มี" คำก็ลาออก สองคำก็ลาออก ฟังมากๆ ก็เริ่มจะหงุดหงิดหัวเสีย เขาใจเย็นก็จริงนะแต่ก็ของขึ้นได้ง่ายเพราะคำพูดของเธอเหมือนกัน
"ก็ปล่อยสิ ฉันจะเดินให้ดู! " คำสบประมาททำคนอวดเก่งท้าทายอีกฝ่ายกลับ ไบรอันจึงยอมปล่อยเพื่อรอดูผลของการอวดดี..
พอได้รับอิสระกลับคืน อิงเอยก็พยายามกัดฟันลุกขึ้นจากเตียงโดยกระชับปมเชือกผูกของชุดคลุมที่สวมอยู่ให้แน่นขึ้นด้วย แม้แค่หยัดยืนจะเจ็บจนน้ำตาร่วงก็ไม่คิดถอยให้อีกคนสมน้ำหน้า พยายามจะเดินให้ได้
ความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างแสนสาหัสส่งผลให้ร่างบางมีสภาพเหมือนเด็กน้อยเพิ่งหัดเดิน แต่ก็ต้องขอบคุณความเกลียดที่มีให้ร่างสูงก็ทำให้เธอมีแรงฮึดสู้ จนเกือบจะเดินถึงประตู เจ้าของห้องกลับลุกมาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มแล้วพาเดินออกจากห้องไปอย่างหน้าตาเฉย
"โอ้ย.. นี่! จะทำอะไร! ปล่อยนะ! " อิงเอยถูกอุ้มไปวางลงบนโซฟานั่งเล่นท่ามกลางเสียงโวยวาย ถ้าถามว่าทำไมต้องโวยวายเหมือนจะเป็นจะตายขนาดนี้ด้วย สั้นๆ เลยก็คือเกลียด.. ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเธอก็เกลียดหมด แค่หน้ายังไม่อยากจะมองเลย!
"กินข้าวกินยา! หายแล้วค่อยคุย! " ไบรอันกดเสียงดุก่อนพยักพเยิดไปยังโต๊ะกระจกที่มีขนมปังทาเนย ไข่ดาว แฮมและไส้กรอกวางโง่ๆ อยู่ในจานมาตั้งแต่เช้า ด้านข้างคือแก้วนมสดอุ่นๆ ที่ป่านนี้คงจะเย็นชืด..
ตากลมมองตามนิ่งๆ ตั้งใจว่าจะไม่กิน แต่ฉุกคิดได้เสียก่อนว่าถ้าไม่กินข้าวกินยาเธอก็จะไม่หายง่ายๆ และทีนี้การหนีออกไปจากที่นี่ก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นเพราะร่างกายไม่เอื้ออำนวย สุดท้ายก็เลยต้องยัดทุกอย่างตรงหน้าลงท้อง ตามด้วยยาแก้ปวดลดไข้และยาแก้อักเสบที่เจ้าของห้องไปหามาให้โดยมีเขานั่งมองอยู่ตลอด
"กินยาแล้วก็นอนพักอีก จะได้หายไวๆ " ใครคนนั้นบอกก่อนจะช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มอีก แล้วพาเดินกลับเข้าห้องวางลงบนเตียงอย่างเบามือ.. คนที่เคยโวยวายบ้านแตกในตอนก่อนหน้าเวลานี้กลับไม่พูดอะไรเลยสักคำ เหมือนอยู่ดีๆ ก็เครื่องช็อตไปเสียอย่างนั้น =_="
"ฉันอยากอยู่คนเดียว.." เสียงหวานเอ่ยบอกนิ่งๆ ก่อนพลิกตัวนอนหันหลังให้คนฟัง.. ไบรอันถอนหายใจหนักๆ ออกมาแต่ก็ยอมเดินไปหยิบโน้ตบุ๊กแล้วออกจากห้องไป
"ฮื่ิออ.. อี่ป้ออี่แม่ น้องเอยกึ้ดเติง.." ไล่หลังเขาไปคนอวดเก่งก็เบะปากร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆ เพราะทั้งเจ็บตัวโดยเฉพาะตรงนั้น.. ซ้ำมีไข้และปวดหัวรุมเร้าจนต้องแสดงความอ่อนแอออกมาทั้งที่ต่อหน้าคนตัวใหญ่ทำเป็นเข้มแข็งแทบตาย..
คนป่วยร้องไห้จนหลับไปเพราะฤทธิ์ยา เจ้าของห้องที่ถูกไล่ออกไปก็เดินเข้ามาดูเป็นระยะ เห็นสีหน้าไม่ดีขึ้นจึงใช้มืออังหน้าผากดูก่อนพบว่าร้อนจัดจึงผละไปหาน้ำกับผ้ามาเช็ดตัวให้.. สงสารอยู่หรอกแต่ถ้ายอมว่าง่ายทุกอย่างมันคงจะดีกว่านี้
..
..
หลับไปนานอิงเอยก็ตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนเย็น อาการปวดตามร่างกายและช่องทางเริ่มดีขึ้นพอที่จะลุกเดินได้โดยไม่น้ำตาไหล แต่ไข้ยังมีอยู่.. ตากลมกวาดมองไปรอบห้องที่เพิ่งจะได้สังเกตอย่างจริงจัง ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแต่คิดว่ามันน่าจะเป็นคอนโด..ประเมินจากดีไซน์และของตกแต่งก็พอจะรู้ว่าแพงหูฉี่ เกิดเป็นคนรวยนี่มันสุขสบายจริงๆ เลยเนอะ..
"เฮ้อ~" ร่างบางสะบัดศีรษะขับไล่ความน้อยใจในโชคชะตาออกไป ก่อนจะค่อยๆ เดินออกไปข้างนอก พอใครอีกคนเห็นเขาก็เดินเข้ามาหาเหมือนจะช่วยพยุงแต่เธอรีบปัดออก ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่ยอมล้าถอย ก้มลงอุ้มเธอตัวลอยมาปล่อยลงบนโซฟาตัวเดิม.. ด้วยยังโกรธอยู่คนป่วยจึงทำหน้าบึ้ง นั่งนิ่งไม่ยอมพูดยอมจาราวกับจงใจจะทำสงครามความเงียบใส่กัน
"ฉันจะรับผิดชอบ.. มาเป็นแม่ของอลันซะ.." คนตัวใหญ่ทิ้งตัวนั่งลงข้างกัน ก่อนพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง
"หึ.. นี่คือวิธีการขอความรักจากผู้หญิงของคุณสินะ" คนฟังแค่นหัวเราะในคอฝืดๆ คิดดูเถอะว่าเธอควรจะยอมคบกับเขาไหม ขอโทษสักคำก็ไม่มีแล้วยังมาบีบบังคับกันหน้าตายแบบนี้อีก ไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลย กับภรรยาที่เสียไปเขาเป็นแบบนี้ไหมนะ ชักจะสงสัย!
"ใช่.. ก็ฉันไม่เคยขอใครหนิ เธอคนแรก.." เสียงทุ้มบอกต่อมาอีกพร้อมมองสบตากันนิ่ง แต่คนฟังเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อนเพราะอยู่ๆ ก้อนเนื้อน้ำหนักสามร้อยกรัมในอกที่เต้นสม่ำเสมอมาตลอดก็เต้นแรงขึ้น และส่งผลเสียต่อการควบคุมตัวเอง.. เพียงแค่เขาบอกว่า 'ไม่เคยขอความรักจากใคร'
"อย่างคุณเนี่ยนะ เหอะ.. เชื่อก็ควายแล้ว" ร่างบางแค่นเสียงเยาะกลบเกลื่อนไปอย่างไม่ใส่ใจ เพราะยังไงก็เป็นไปไม่ได้ในเมื่อเขาเคยมีภรรยามาก่อนแล้ว หึ.. อย่ามาหลอกกันให้ยาก!
"อย่าเพิ่งเกรี้ยวกราดได้มั้ยล่ะ คุยกันดีๆ " เสียงต่ำเอ่ยบอกอย่างจริงจัง เขาอยากตกลงกับอีกฝ่ายดีๆ เรื่องวุ่นๆ มันจะได้จบๆ ไปเสียที ไม่ใช่พูดคำไหนก็โวยวายหรือหาเรื่องกันตลอดแบบนี้
"คุณพูดไม่รู้เรื่องเองหนิ ฉันบอกจะลาออก.." อิงเอยเข้าโหมดจริงจังบ้าง ไม่ใช่เขาหรอที่พูดไม่รู้เรื่อง เธอบอกสิ่งที่ต้องการไปหมดแล้วว่าจะลาออกและจะไม่เป็นอะไรกับเขาทั้งนั้น เธอพอแล้วกับการดิ้นรนหาเงินในเมืองใหญ่.. เธอจะกลับเชียงใหม่ จะเลิกคาดหวังกับเมืองนี้และกลับไปเป็นสาวชาวไร่ชาวสวนอย่างที่พ่อกับแม่เป็น.. ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสามคน ไม่ต้องแยกจาก ไม่ต้องโหยหา แบบนั้นคงจะมีความสุขกว่าเยอะ..
"ฉันไม่ให้ออก! ผู้ชายต้องการรับผิดชอบทำไมถึงไม่ชอบฮะ? " คนฟังของขึ้นอีกครั้ง ดึงดันจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำอย่างเอาแต่ใจ
"เพราะเป็นผู้ชายแบบคุณไงฉันถึงไม่ชอบ" ร่างบางถอนหายใจออกมาอย่างเครียดๆ เมื่อเขาพูดไม่รู้เรื่องมันเลยไม่ได้ข้อสรุปที่ต่างฝ่ายต่างยอมรับกันสักที ได้แต่เถียงกันอยู่แบบนี้
"งั้นต้องทำยังไงล่ะเธอถึงจะชอบ" ไม่เคยมีใครว่าไบรอันได้อย่างผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้า นั่นทำให้เขาไม่พอใจลึกๆ แต่ยิ่งร่างบางผลักไสเขาก็ยิ่งไม่อยากจะยอมแพ้ง่ายๆ
"หึหึ มันสายไปแล้วล่ะ.. ทางที่ดีปล่อยฉันไปจะดีกว่า" เสียงหวานหัวเราะขำเบาๆ ในลำคอเมื่อเห็นชายหนุ่มรูปงามผู้เพียบพร้อมนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เนื่องจากพยายามจะขอความรักจากเธอแต่ไม่เป็นผล.. เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะชอบเธอจริงๆ คนอย่างเขาผู้หญิงมากมายต่างพร้อมใจกันตบเท้าเดินเข้าหา เขามีตัวเลือกมากมายที่ดีกว่าลูกสาวชาวไร่ชาวสวนอย่างเธอ แล้วทำไมเขาถึงเลือกเธอ.. ถ้าไม่ใช่ว่าเธอใจแข็งกว่าผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากจะเอาชนะ!
"ไม่.. คบกันมั้ย? " ไบรอันปฏิเสธที่จะปล่อยอิงเอยไป และตีมึนขอเธอคบอย่างหน้าไม่อาย ไม่เคยเสียฟอร์มขนาดนี้เลยให้ตายสิ!
"เหอะ.. ฟันก่อนแล้วค่อยขอคบ? " คนฟังแค่นเสียงเยาะออกมาอีก ไม่ว่าคนตัวใหญ่จะพยายามพูดหรือทำอะไรในตอนนี้มันก็ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้น
"ฉันก็เคยบอกไปแล้วนะว่าฉันชอบเธอ" เขาแย้งกลับหน้านิ่ง ตามองตาเรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครเลยในตอนนี้
"เฮ้อ~ ฉันต้องทำยังไง คุณถึงจะปล่อยฉันไปคุณไบรอัน" ร่างบางอ่อนใจ เปลี่ยนมาถามเขาตรงๆ เผื่อเรื่องทั้งหมดมันจะจบเร็วขึ้น
"ไม่ยุติธรรม.. ทำไมเธอไม่ให้โอกาสฉันบ้างล่ะ" คนฟังร้องขอโอกาส แต่คนตัวเล็กก็ช่างใจร้ายที่ไม่มีให้..
"ฉันไม่อยากถูกตราหน้าว่าเข้ามาเพื่อหวังจับคุณเหมือนคนอื่นหรอกนะ คบกับฉันคุณก็มีแต่จะขายหน้าคนอื่นเขาเปล่าๆ ฉันจน หน้าตาก็บ้านๆ แค่พอไปวัดไปวาได้เท่านั้น ไม่มีอะไรคู่ควรกับคนระดับคุณหรอก.." อิงเอยบอกเขาไปตามตรง เธอมองเห็นอนาคตได้ไม่ยากเลยถ้าคิดจะรักคนอย่างเขา ถ้าพูดโดยไม่อคติก็คือเขาเพียบพร้อมทุกอย่าง ทั้งรูปร่าง หน้าตาและฐานะ ไหนจะมีหน้ามีตาในสังคมอีก ในขณะที่เธอไม่มีอะไรแบบนั้นเลยสักอย่าง แล้วคิดดูว่าถ้าเกิดคบกันผู้คนรอบตัวเขาจะครหาเธอแค่ไหน แค่คิดชีวิตก็วุ่นวายแล้ว..
"ยิ่งเธอพูดแบบนี้ฉันก็ยิ่งต้องการเธอมากขึ้น ฉันเพียบพร้อมทุกอย่างก็จริง แต่ฉันไม่ได้ต้องการคนที่มีเหมือนกันกับฉัน กลับกันฉันต้องการคนที่ไม่มีมากกว่า เพราะฉันจะเป็นทุกอย่างให้กับเขา" ใจดวงน้อยๆ สั่นระรัวเพราะคำพูดหวานหูของคนตัวใหญ่อีกครั้ง แต่ปิดหูปิดตาตัวเองทำเป็นไม่รู้สึกอะไร
"...คารมพวกผู้ชายหัวงูนี่น่ากลัวเนอะ ที่พูดมาไม่รู้จริงแท้แค่ไหน ถูกใจใครก็หยอดไปทั่ว.." เธอแค่นยิ้มหยันๆ และพยายามดึงตัวเองกลับมาอยู่กับร่องกับรอย ไม่ให้อ่อนไหวไปกับคำพูดแค่ลมปากของเขา
"ฉันถึงบอกให้มาคบกันดูไง.. เดือนเดียว! แค่เดือนเดียวก็ยังดี.. ถ้าเธอไม่รู้สึกอะไรกับฉันจริงๆ ฉันจะยอมปล่อยเธอไป และจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ด้วย ตกลงมั้ย? " ยิ่งอิงเอยพยายามปฏิเสธ ไบรอันก็ยิ่งหาทางมาโน้มน้าวใจเธอ เขาไม่เคยพยายามกับผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือความรักหรือยัง.. แต่สัญชาตญาณลึกๆ มันบอกว่าถ้าปล่อยคนตรงหน้าไป เขาจะต้องเสียใจ!
..
..
..
..
มันก็จะวุ่นวายหน่อยๆ น้องอิงนางก็หวั่นไหวแหละ แต่นางกลัวที่จะรักคนอย่างอิป๋า กลัวเสียใจ กลัวถูกทิ้ง เพราะมันคนละระดับกัน อิป๋ามันทั้งหล่อทั้งรวยและมีตัวเลือกเยอะ เลยกลัวมันจะมาหลอกให้ช้ำใจ แต่สุดท้ายก็ทนความตื้อของอิลุงมันไม่ไหวหรอก เจ้าเล่ห์ซะขนาดนั้น5555
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 30 (ตอนจบ) "ท้องแฝดหรอคะ! ? "อายุครรภ์ราวสองเดือน อิงเอยก็เริ่มแพ้ท้องอย่างหนัก ถึงขนาดกินอะไรไม่ค่อยได้จนน้ำหนักลดฮวบ.. กลัวว่าถ้าเป็นแบบนั้นต่อไปจะส่งผลถึงพัฒนาการของลูกในท้องเธอก็เลยให้สามีพามาหาคุณหมอ กระทั่งมีโอกาสได้อัลตราซาวด์ดูคนในท้องคุณหมอก็บอกว่าเธอท้องลูกถึงสองคน!"ครับ นี่คนแรก ส่วนตรงนี้ก็อีกคน" คุณหมอบอกพลางเลื่อนอุปกรณ์ที่ใช้อัลตราซาวด์ไปบนท้องนูนๆ ของเธอในขณะที่มือชี้ไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ที่ปรากฏภาพแปลกๆ ดูไม่คุ้นตาสำหรับคุณแม่มือใหม่ เธอมองไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไรแต่รู้สึกตื่นเต้นจนมือสั่น และมีเหงื่อผุดซึมทั้งที่ภายในห้องแอร์เย็นเฉียบ.."แบบนี้ก็ดีน่ะสิ! โคตรโชคดีเลย ท้องครั้งเดียวได้มาตั้งสองคน" คุณพ่อลูกสอง.. ไม่สิ ลูกสามแล้วต่างหากพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ตาคมยังไม่ละไปจากหน้าจอมอนิเตอร์เลยสักวินาทีเดียว"ครับ.. คนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนั้น.. แต่หมอก็ให้คำแนะนำไปหลายรายแล้วว่าการท้องแฝดไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอย่างที่คิด.." คุณหมอบอกเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งงันไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาเลยจนคนฟังแอบกลัวในสิ่งที่เขากำลังจะพูด
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 29"เอ๋ น้องอลันคุณพี่เลี้ยงมารับกลับไปแล้วนะคะ" คุณครูประจำชั้นทำหน้าตามึนงงเมื่อเห็นคนตัวใหญ่มาถามหาลูกชายทั้งที่ก่อนหน้าไม่กี่นาทีเด็กชายถูกพี่เลี้ยงมารับกลับไปแล้ว"อ่า.. หรอครับ สงสัยเธอลืมโทรบอกผมน่ะครับ" ร่างสูงบอกก่อนยิ้มให้แล้วขอตัวกลับ ไม่ใช่แค่คุณครูที่งงเขาเองก็งงเหมือนกันว่าทำไมอิงเอยถึงมารับอลันโดยไม่บอกเขาก่อน เพราะตั้งแต่กลับมาจากเชียงใหม่เขาก็ทำหน้าที่ปลุก พาอาบน้ำแต่งตัวและไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะคิดอะไรมาก คาดว่าร่างบางคงอยากจะมารับอลันด้วยตัวเองและลืมโทรบอกเขาก็เลยตรงกลับบ้านเลย"มีอะไรหรือเปล่า" สองเท้าที่กำลังก้าวเดินอย่างสม่ำเสมอหยุดชะงัก ก่อนยืนถามหัวหน้าสาวใช้ประจำบ้านด้วยความสงสัย เพราะบังเอิญเจอกันตรงทางเข้าพอดีและใครคนนั้นก็มีท่าทางแปลกๆ จ้องมองเขาด้วยรอยยิ้มเย็นๆ เหมือนมีอะไรในใจ"มีค่ะ.." เพลงบอกเพียงเท่านั้นก็หยุดเพื่อให้อีกคนถามมาก่อนถึงจะเล่าต่อ ซึ่งนิสัยแบบนี้ที่เธอชอบทำไบรอันไม่เคยชอบเลยสักที เพราะถ้าเป็นเรื่องสำคัญกว่าจะรู้เรื่องคงทำเอาหงุดหงิดน่าดู"มี
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 28ตกกลางดึกในคืนนั้น.. คนท้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะอาการปวดท้องพ่วงด้วยปวดปัสสาวะจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับมา แต่อาการปวดทำให้นอนไม่ได้ ต้องดันหมอนไปชิดหัวเตียงและนั่งพิงเพื่อรอดูอาการไปก่อน ใจหนึ่งก็อยากจะปลุกสามีให้ตื่นมาอยู่เป็นเพื่อนแต่มันก็ดึกมากแล้วเลยไม่อยากรบกวนไม่รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่มันอันตรายแค่ไหน แต่มันปวดหน่วงๆ เหมือนตอนเป็นประจำเดือน ซึ่งก็ทรมานอยู่ไม่น้อย ครั้นนั่งคิดไปคิดมาก็นึกขึ้นได้ว่าตอนไปห้างฯ ได้ซื้อหนังสือคุณแม่มือใหม่กลับมาด้วย เลยลุกไปหยิบมาอ่านโดยเปิดแค่โคมไฟหัวเตียง เป็นหนังสือที่เธอคาดหวังและตั้งใจจะฝากชีวิตของลูกไว้กับมัน เพราะในนี้มีบอกทุกอย่างทั้งอาการ สาเหตุและวิธีดูแลตัวเองตั้งแต่เริ่มท้องจนถึงตอนคลอด..'การปวดท้องจากการหดรัดตัวของมดลูก.. จะมีอาการคล้ายๆ ปวดประจำเดือนเพราะมดลูกมีการบีบรัดตัว แต่ปวดไม่บ่อยนัก ไม่นานก็หาย และไม่เป็นอันตราย แต่ต้องระวังสำหรับคุณแม่ท้องแก่ ถ้าปวดบ่อยๆ และถี่จนผิดปกติต้องรีบไปพบแพทย์'ดวงตากลมไล่อ่านทุกข้อความในหนังสือหน้าที่พิจารณาแล้วว่าตรงกับอาการของตัวเอง เ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 27วันต่อมา..ไบรอันกับอิงเอยบินกลับกรุงเทพฯ ในตอนเกือบเที่ยง ก่อนจะถึงวันงานแต่งอย่างเป็นทางการพ่อกับแม่ของเธอถึงจะบินตามมาร่วมงานพอกลับมาถึงบ้านทั้งคู่ก็ต้องตกใจเพราะว่าอลันไม่ได้ไปโรงเรียนอย่างที่คิดและควรจะเป็น เพลงบอกว่าเจ้าตัวเล็กคิดถึงพ่อกับแม่เลยงอแงไม่อยากไปเรียน เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาตั้งแต่เช้า ทั้งที่เมื่อวานก็ยังปกติดีแต่เหมือนวันนี้จะทนไม่ไหวงอแงออกมา แต่เพลงก็ไม่ได้ละเลยคอยไปดูอยู่ตลอดและเพิ่งจะกลับลงมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี่เอง"หม่ามี้! ฮื่ออออ อลัน ฮื่อ คิดถึง" เมื่อรู้ข่าวอิงเอยก็รีบตรงขึ้นไปหาเด็กชายบนห้องโดยมีคนตัวใหญ่เดินตามมาติดๆ ทันทีที่เจอหน้ากันอลันก็ปล่อยโฮออกมาแล้ววิ่งเข้ามากอดเธอไว้แน่น"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง มี้กลับมาแล้วครับ ชู่ว~" เสียงหวานเอ่ยปลอบขณะโอบกอดร่างเล็กๆ นั้นไว้ด้วยความรัก ก่อนจะอุ้มขึ้นเพื่อพาไปนั่งบนโซฟาดีๆ"ฮื่อๆ หม่ามี้.. อึก ไปไหนมา ฮื่อออ" เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กชายทำอิงเอยสงสารจับใจ แต่คนเป็นพ่อกลับนั่งมองยิ้มๆ เพราะอยู่ด้วยกันมาเพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้นอลันก็ติดร่างบาง
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 26เมื่อผ่านด่านพ่อตาขาโหดมาได้ (อย่างทุลักทุเล) งานแต่งงานแบบเรียบง่ายก็ถูกจัดขึ้นที่แรกยังบ้านเกิดของฝ่ายเจ้าสาว ก่อนที่จะจัดงานใหญ่อีกครั้งที่กรุงเทพฯ โดยแขกที่มาร่วมงานในวันนี้ก็เชิญแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงคนสนิทกันเท่านั้น เป็นงานผูกแขนสวมแหวนกันธรรมดาๆ แต่ที่ไม่ธรรมดาเห็นทีจะเป็น 'สินสอด' ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องล่ำลือกันไปทั่วทั้งตำบล!เงินสดจำนวนร้อยล้านบาทที่ต้องวางใส่พานใบใหญ่ถึงสิบใบถึงจะพอบวกทองคำแท่งหนักเท่าน้ำหนักตัวเจ้าสาวและรถยนต์ขนาดครอบครัวอีกหนึ่งคัน แค่นั้นก็มากเกินพอที่จะกลบคำครหานินทาและทำให้คนเป็นพ่อแม่ถึงกับยิ้มหน้าบานตลอดงานเพราะได้ยินแต่คำสรรเสริญเยินยอไม่ขาดสาย แม้จะเหมือนเป็นงานเล็กๆ แต่เจ้าของบ้านก็ถึงขั้นลงทุนปิดบ้านเลี้ยงฉลองทั้งแขกที่มาร่วมงานและบรรดาคนงานในไร่ตลอดทั้งวัน"ไปพักกันเถอะลูก เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวพวกนี้แม่กับเด็กๆ เก็บกวาดเอง" คนเป็นแม่เดินมาบอกคู่บ่าวสาวในตอนงานเลิก แม้สามีกับพวกคนงานในไร่จะยังตั้งวงสังสรรค์กันอยู่ อิงเอยพยักหน้ารับคำก่อนพาไบรอันขึ้นห้องไปพักผ่อนเพราะเหนื่อยกันมาท
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 25"คุณ! ปะ เป็นยังไงบ้างอ่ะ เจ็บมากหรือเปล่า แล้วทำไมเดินออกมาแบบนี้! ? " คนที่รออยู่หน้าห้องฉุกเฉินรีบพุ่งเข้าไปหาคนเจ็บที่เดินออกมาด้วยท่าทางอิดโรย เสื้อผ้าหลุดลุ่ยอาบไปด้วยเลือดจากบาดแผลเพราะไม่ยอมให้หมอเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้และนอนค้างที่นี่เพื่อรอดูอาการ"ฉันไม่เป็นไร กลับกันเถอะ" ไบรอันบอกก่อนเดินนำไปก่อนอย่างไม่สนใจอะไร เขาอาจจะบ้าที่บอกให้หมอใช้แค่ยาชาช่วยในการผ่าเอากระสุนออก พอทำแผลเสร็จก็ปฏิเสธที่จะแอ็ดมิทและเดินโทงๆ ออกมา เหตุผลก็แค่ว่าเขาไม่ชอบโรงพยาบาล.."กะ กลับเลยหรอ? แต่หน้าคุณซีดๆ นะ" อิงเอยเลิกลั่ก เร่งฝีเท้าเดินตามอีกคนมาจนทันและพยายามจะแย้งด้วยความเป็นห่วง เลือดไหลเยอะขนาดนั้นเขาควรจะถูกเข็ญออกมาด้วยรถเข็นแบบนั่งหรือไม่ก็เตียงแล้วพาไปที่ห้องพักฟื้นสิ ไม่ใช่แบบนี้!"จัดการเรื่องยากับค่ารักษา ฉันจะไปรอที่รถ" คนตัวใหญ่ไม่ได้พูดอะไรกับร่างบางอีก เพียงหันไปบอกคินที่เดินตามมา แล้วจูงมือเล็กพาเดินกลับไปที่รถท่ามกลางสายตาผู้คนรอบข้างที่มองมาอย่างสนใจ เพราะเลือดสีแดงสดมันแปดเปื้อนตามตัวและเสื้อผ้าของทั้งคู่จนแยกไม่ออกว่าใคร