مشاركة

บทที่ 3

مؤلف: Phat_sara
last update آخر تحديث: 2025-06-23 15:10:45

"วันนี้อย่าโผล่ไปคอยรับแขกให้ฉันอายคนล่ะ" เข้ามาถึงศาลาคนหน้าบึ้งก็เดินมาขวางหน้าแล้วพูดอะไรก็ไม่รู้น่ารำคาญเป็นบ้า

"เมื่อวานเห็นไหมล่ะคะ เมื่อวันก่อนล่ะ วันก่อนหน้านั้นอีก ก็ไม่เห็นนี่คะ แล้ววันนี้จะเตือนทำไม" ยิ้ม~ คนประเภทนี้ต้องยิ้มใส่ค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชอบพูดจาแย่ ๆ กับคนอื่น แค่ยิ้มกลับไปให้แบบไม่สะท้านเดี๋ยวก็อกแตกตายไปเอง

"อย่ายอกย้อน"

"ถามค่ะ แค่ถามเท่านั้น ขอตัวนะคะจะไปเตรียมปัจจัยไว้ถวายพระ" ฉันยิ้มสวยตบท้ายอีกสักครั้งแล้วก็เดินผ่านอเมริกันบอยคนนี้มาเลย ไม่อยากคุยด้วยหรอกงานศพคุณแม่ของเขาแท้ ๆ ท่านเป็นถึงเจ้าของสายการบินยักษ์ใหญ่มีแขกมาร่วมงานเยอะมากแต่ลูกชายท่านหัวทองปนขาวมางานเชียว

"อ้อ! ที่เมืองไทยมีครีมย้อมผมดำแบบสระขายนะคะ แค่แนะนำค่ะเผื่อไม่มีเวลาไปร้านทำผม"

"ข้าวแกง!"

หึ ๆๆ หัวฟัดหัวเหวี่ยงไปเถอะค่ะคุณแม็ค ส่วนข้าวแกงคนนี้สบายใจแล้ว ถึงช่วงเวลานี้จะเศร้าเพราะผู้มีพระคุณท่านจากไป แล้วคนที่ร้ายกาจที่สุดในชีวิตกลับมารังควาน แต่ฉันก็แค่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการพยายามเอาคำพูดกับการกระทำร้าย ๆ ของเขามาทำให้มันเป็นเรื่องตลก สร้างสีสันในชีวิตไปเพราะยังไงก็อยู่ให้เขาหาเรื่องอีกไม่นานหรอก

#KAOGANG END

#MAX TALK

"กูเสียใจด้วยนะไอ้แม็ค"

"อืมขอบใจมึงมาก"

"เดี๋ยวไอ้คริช ไอ้กราฟ ไอ้ฟรังซ์ตามมา ไอ้กันต์ด้วย" ไอ้พอร์ชเพื่อนสนิทของผมมันมาร่วมงานศพของคุณแม่ คืนนี้สวดคืนสุดท้ายแล้ว

"ไอ้กันต์?"

"เออ"

"มาทำไมวะ ไอ้กราฟจะไม่ต่อยไอ้กันต์ในงานแม่กูนะ" ไอ้สองคนนี้ไม่ถูกกัน แล้วผมเองก็เคยช่วยไอ้กราฟกระทืบไอ้กันต์จนกระดูกซี่โครงแทบหัก มันจะมางานศพแม่ผมทำไม

"เรื่องมันยาวเดี๋ยวค่อยเล่า แล้วนี่เมียมึงไปไหนทำไมมึงยืนรับแขกคนเดียว" หึ! เรื่องนี้มันก็นานมาแล้วเหมือนกันยังอุตส่าห์จำได้แล้วก็กล้าถามถึงอีก

"กูไม่มีเมีย มีแค่ผู้หญิงที่ซวยไปจดทะเบียนสมรสด้วย"

"เออ ๆ ข้าวแกงไปไหนล่ะ"

"คนก้นครัวก็ต้องอยู่ในครัวสิวะเอาออกมาข้างหน้าให้อายคนทำไม"

"ไอ้แม็ค มึงจะอะไรกับน้องเขานักหนา"

"แล้วพวกมึงเป็นเหี้ยอะไรต้องคอยปกป้องผู้หญิงคนนั้น มาฟังสวดก็เข้าไปนั่งรอพระไม่ต้องถามถึงคนอื่น"

"เฮ้อ! มึงแม่ง" ไอ้พอร์ชถอนหายใจเซ็ง ๆ ก่อนที่มันจะยืนอยู่ข้างผมไม่ยอมเข้าไป

"ไม่เข้าไป?"

"เออ ยืนเป็นเพื่อนมึงก่อน มึงรู้จักทุกคนรึไง หายหัวไปเกือบแปดปี หน้าญาติตัวเองมึงจำได้รึเปล่าเหอะ" ก็ดีเหมือนกันที่มันยืนเป็นเพื่อนเพราะผมก็จำใครแทบไม่ได้ ทั้งญาติทั้งแขกที่มาร่วมงาน

-21.30 น.-

"เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกกูรีบมา มึงโอเคนะ" หลังจากที่สวดพระอภิธรรมคืนสุดท้ายของแม่เสร็จเรียบร้อยไอ้พวกเพื่อนในกลุ่มของผมมันก็ยังนั่งอยู่เป็นเพื่อนต่อ พูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันหลายอย่าง มีอะไรหลายเรื่องที่ผมเพิ่งรู้ แต่ละเรื่องทำผมอึ้งไม่เป็นท่า แต่ก็อย่างว่าล่ะเกือบแปดปีที่ผมไปอยู่อเมริกามันก็คงมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นมากมาย

"เออขอบใจพวกมึงมาก"

"แล้วข้าวแกงไปไหนวะ กูยังไม่ได้ทักเลยไม่เจอกันตั้งนาน " ไอ้คริชถามแล้วก็มองซ้ายมองขวา ไม่เข้าใจเลยว่าพวกมันจะอยากทักทายผู้หญิงคนนั้นกันทำไม

"กลับไปตั้งแต่พระสวดเสร็จแล้วมั้ง" ผมตอบแบบไม่ใส่ใจ แต่ในใจกำลังเริ่มมีอารมณ์ สำหรับผู้หญิงคนนั้นแค่ได้ยินชื่อก็ทำผมหงุดหงิดได้แล้ว

"เหรอ เออ ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทัก มึงก็อย่าร้ายใส่น้องเขามากนัก เมียนะมึงไม่ใช่คนใช้"​

"หึ! คนใช้ที่ทะเยอทะยานมาเป็นเมียกูต่างหาก"

"ทำหน้าโกรธอย่างกับน้องเขาข่มขืนจนมึงเสียความบริสุทธิ์ไปได้ไอ้แม็ค หรือใช่?"

"อย่ากวนตีนกูไอ้กราฟ พวกมึงกลับกันได้แล้ว ขอบใจมากที่มางาน" ผมตัดบทเพราะพวกมันชอบทำตัวเหมือนเป็นพี่ชายบังเกิดเกล้าของผู้หญิงคนนั้น คอยพูดจาปกป้องตลอด ผมรำคาญขี้เกียจพูดถึง

"เออ ๆ พรุ่งนี้เจอกัน อย่าโมโหร้ายให้มากล่ะ ทำใจให้สบายด้วยแม่ท่านไปสบายแล้ว" ไอ้ฟรังซ์ตบไหล่ให้กำลังใจผม คนอื่นก็เหมือนกันหลังจากนั้นพวกมันก็แยกย้ายกันกลับ

หลังจากที่เพื่อนกลับกันหมดแล้วผมก็เดินกลับเข้าไปในศาลาอีกครั้ง ตอนนี้ข้างในศาลาเปิดแค่ไฟสลัว ไม่มีใครอยู่ข้างในแล้วล่ะ มีแค่ใครคนหนึ่งที่...นอนหลับตามลำพังข้างในนั้น

ผมมาหยุดอยู่หน้าโลงศพที่ถูกประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวสะอาดตาอย่างที่แม่ชอบ ดอกไม้เป็นพันเป็นหมื่นดอกถูกประดับตกแต่งจนสวยงาม แต่ต่อให้มันสวยเท่าไหร่หรือสวยกว่านี้สักล้านเท่าก็ไม่ได้ทำให้ผมมองแล้วรู้สึกดีเลยสักนิด ถ้าความสวยพวกนี้มันถูกจัดไว้พร้อมกับการที่ต้องมีใครสักคนจากไป

"เรา...ยังไม่ได้ลากันเลยนะครับแม่" ผมมองรูปผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังดูสวยสง่าสลับกับมองโลงสี่เหลี่ยมตรงหน้า สิ่งที่ผมเจ็บที่สุดนอกจากการที่แม่จากผมไปก็คือการที่ผมไม่เคยรับรู้เลยว่าท่านป่วยหนัก ไม่เคยรู้มาก่อนไม่เคยมีใครบอกให้เตรียมใจ ผมใช้ชีวิตปกติมีความสุขเที่ยวเสเพลอยู่ทุกวัน คิดว่าแม่ก็คงทำงานแล้วก็สนุกกับการออกงานสมาคมของท่าน แต่แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีคนโทรมาบอกว่าคุณแม่เสียแล้ว

"ทำไมไม่บอกผมครับแม่ แม่ไม่คิดว่าผมจะอยากอยู่กับแม่ในวันสุดท้ายบ้างเหรอ" น้ำตาที่ไม่เคยให้ใครเห็นเลยสักหยดตั้งแต่รู้ข่าวว่าท่านเสียไหลออกมาช้า ๆ เจ็บว่ะ เจ็บที่เป็นลูกชายคนเดียวแต่รู้ว่าแม่ตัวเองเสียช้ากว่าคนอื่น วันที่มาถึงก็คือวันที่สวดศพคืนที่สามแล้วด้วยซ้ำ

"ผมคิดถึงแม่ ผมไม่ได้แม้แต่กอดแม่ครั้งสุดท้ายเลยนะครับ ทำไมถึงได้ใจร้ายกับผมขนาดนี้" ผมทรุดลงข้างหน้าโลงศพของท่าน ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร แค่จับมือท่านสักครั้งก่อนจากกันหรือรดน้ำศพท่านผมยังไม่มีโอกาสได้ทำเลย วันพรุ่งนี้ก็จะไม่มีร่างของท่านอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ไม่มีแม่ของผมอีกต่อไป คงมีแค่เถ้ากระดูกของท่านที่ให้มองเป็นภาพสุดท้าย

...พรุ่งนี้ผมจะทำใจได้ไหมถ้าต้องมีไฟมาเผาร่างของแม่ ผมจะทำใจได้ไหมถ้าร่างกายที่ผมเคยกอดเคยนอนหนุนตักมาตั้งแต่เด็ก ร่างกายที่คอยปกป้องผมจากทุก ๆ อย่างต้องแหลกสลายไป ผมจะต้องทำใจด้วยวิธีไหนถึงจะทนให้เขาเอาไฟมาเผาแม่ผมได้

ตึก ตึก ตึก...

"ยังไม่กลับอีกเหรอคะ" ผมได้ยินเสียงคนเดินเข้าแล้วแล้วล่ะก็เลยรีบเช็ดน้ำตา นึกว่าสัปเหร่อหรือเด็กวัดซะอีก แต่ที่ไหนได้ หึ!

"ไม่เห็นเหรอวะว่ายังอยู่​" ผมถามแต่ก็ไม่ได้หันไปมองหน้าเธอ ไม่อยากให้ใครเห็นสายตาที่มีแต่ความเจ็บปวดของผม โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้

"...เห็นค่ะ เพราะเห็นนี่ล่ะก็เลยถาม"

"ออกไปฉันจะอยู่กับแม่ฉัน" ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเข้ามาทำไมแล้วทำไมถึงยังไม่กลับ แต่เวลานี้ต่อให้ใครเข้ามาผมก็อยากไล่ออกไปทั้งนั้น คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของท่านผมอยากอยู่กับท่านให้นานที่สุด

"ค่ะ ฉันแค่เข้ามาเอาของ ตามสบายนะคะ" เธอบอกผมแล้วก็เดินเลี่ยงไปหยิบของ ผมไม่ได้สนใจเธอแล้วเวลานี้ เพราะแม่คือคนที่ผมควรสนใจมากที่สุด

"คือ..."

"อะไร?" ผมหันไปถามเธอที่เดินมายืนอยู่ไม่ไกลด้วยความรำคาญ ยืนทำท่าทางอ้ำอึ้งอยู่ได้

"คุณ..."

"มีอะไรก็พูดมาอย่าให้ฉันรำคาญไปมากกว่านี้ได้ไหม!"​

"...คุณแม็คโอเครึเปล่าคะ ให้ข้าวนั่งเป็นเพื่อนไหม"
استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 115

    “ตกลง อื้อ~ จะเร่งกับขยันอะไรคะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!” เพราะยังไม่ได้คำตอบฉันก็เลยวกกลับมาถามเขาอีกครั้ง“หึ ๆๆ อยากรู้เหรอคะ” พี่แม็คหัวเราะในลำคอแล้วก็ขยับตัวนั่งคุกเข่าเอาแขนมาเกี่ยวขาทั้งสองข้างของฉันไว้อีกครั้งแล้วก็กดกระแทกท่อนเอ็นใหญ่เข้ามารัวเร็วพั่บ พั่บ พั่บ!“ค่ะ อ๊ะ!” ​“พี่จะเสร็จ โอ้ว~ โคตรมัน

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 114

    “ข้าว อื้อ~ ข้าวเสียว~” จากหนึ่งนิ้วถูกสอดเพิ่มเข้าไปเป็นสองนิ้วทำให้ฉันเสียวจนเผลอยกสะโพกขึ้นส่ายร่อนรับนิ้วร้อนของเขา แต่มันอึดอัดเพาะเขาสอดเข้าไปในกางเกงและมันก็ค่อนข้างจะเข้ารูปพอสมควร“พี่ชอบเวลาข้าวเสียวที่สุด”​“อื้อ~ ถอดกางเกงให้หน่อยข้าวอึดอัด” ฉันหลับตาพริ้มกับคำพูดของเขาเมื่อกี้ ก่อนที่จะ

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 113

    “พี่ขอโทษนะครับข้าวแกง เกิดมาพี่ก็ไม่เคยคิดจะลักหลับใครเลยสักครั้งแต่ข้าวก็ยั่วพี่เหมือนกันจะให้พี่ทำยังไง” เขาขอโทษเสียงหงอยแต่ประโยคสุดท้ายกลับบ่นอุบอิบเหมือนจะโทษฉัน“ยั่วอะไรคะ ข้าวหลับไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ พี่แม็คแอบทำอะไรข้าวยังไม่รู้ตัวเลยแล้วข้าวจะยั่วพี่ได้ยังไง พูดดี ๆ นะ”“หึ! ไม่ยั่วอะไรพี

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 112

    -วันต่อมา-“พี่แม็คคะตื่นได้แล้วค่ะ”“พี่แม็คมันจะเย็นแล้วนะคะ” ฉันพยายามเขย่าตัวคนขี้เซาที่นอนหลับสนิทชนิดที่ว่าไม่แม้แต่จะขยับตัว เมื่อช่วงสายฉันตื่นขึ้นมาเห็นพี่แม็คนอนท่าไหนผ่านมาเกือบสี่ชั่วโมงเขาก็ยังคงนอนอยู่ท่าเดิม บอกตรง ๆ ว่าตอนแรกตอนฉันเดินเข้ามาเมื่อห้านาทีที่แล้วฉันขาสั่นมากเพราะคิดว่าพ

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 111

    #KWOGANG END#MAX TALKพุทโธ พุทโธ พุทโธ...ผมต้องพยายามท่องคำนี้ในสมองอยู่ตลอดเวลาที่จับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กชุ่มน้ำค่อย ๆ เช็ดหน้าอกให้ข้าวแกง“อ่าส์~ ปลุกเมียมาอาบน้ำเองมันจะดูเหี้ยไหมวะ” ผมบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แล้วพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองด้วยการหันหน้าหนีข้าวแกงที่หลับสนิทไปแล้วผมเล่นสงครามสวา

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 110

    “หึ ๆๆ พี่ชอบเวลาที่รักร้องขอที่สุด” พี่แม็คยิ้มออกมาด้วยความพอใจก่อนที่จะถอนท่อนเอ็นออกจนหมดทั้งลำ“อื้อ!” ฉันร้องประท้วงด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่เขาออกไปแต่เขาก็จับฉันนอนคว่ำทันที“เปลี่ยนท่าที่รัก” เขาโน้มลงมากระซิบบอกข้างหูแล้วก็จับสะโพกฉันยกขึ้นฉันเองก็พอจะเข้าใจว่าเขาต้องการทำอะไรก็เลยรีบขยับตั

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status