“พี่เพลง! / ว้าย!”
“ฮ่า ๆๆ ตกใจอะไรคะคนสวย” ฉันกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียวแต่น้องพิมน้องรหัสคนสวยพุ่งมาจากทางไหนก็ไม่รู้มาทักฉันเสียงดังจนฉันตกใจ
“พี่กำลังเหม่อ ตกใจหมดเลย”
“เหม่อคิดถึงใครคะ พี่กายรึเปล่าน้า” น้องพิมเป็นน้องรหัสของฉันเองค่ะอยู่ปีสามเราสองคนค่อนข้างสนิทกันมากคุยกันได้แทบจะทุกเรื่อง
“ฮึไม่ใช่ พี่จะคิดถึงพี่กายทำไม แล้วนี่ไม่มีเรียนเหรอเรา” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธตามความจริง คิดถึงเรื่องงานต่างหาก ไม่ใช่งานพริตตี้นะคะแต่หมายถึงงานในอนาคตเนี่ย จะจบแล้วก็เริ่มหวั่น ๆ กับชีวิตการทำงานขึ้นมาทันที
“งื้อ~ พิมอยากให้คิดนี่นา สักนิดก็ไม่มีเลยเหรอคะ” น้องพิมก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ชอบเชียร์ให้ฉันกลับไปคืนดีกับกายเพราะฉันกับเขาคบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งน้องมันเข้ามาก็เห็นเราสองคนคบกันแล้ว มีอะไรเราทั้งคู่ก็คอยดูแลช่วยเหลือน้องเสมอก็คงจะเสียดายแล้วก็ผูกพันกับเราสองคน
“ไม่มีค่ะน้องพิม พี่เพลงกำลังคิดเรื่องงานอยู่”
“เฮ้อ! เซ็ง ถ้างั้นพิมจะหาสาวคนใหม่ให้พี่กาย” น้องพิมยู่หน้าใส่ด้วยท่าทางขัดใจแต่ฉันไม่ได้ใส่ใจมากหรอกค่ะน้องก็แบบนี้แหละอยากให้ฉันกับกายคืนดีกันอยู่ทุกวันซึ่งมันไม่มีทางกลับมาแล้วล่ะกายทำฉันเจ็บหนักเกินไป
“เชิญเลยค่า พี่กายของน้องพิมจะได้เลิกเที่ยวมั่วหญิงเป็นประจำแบบนี้สักที”
“พี่กายเที่ยวบ่อยเหรอคะ ตอนคบกับพี่เพลงไม่เห็นจะเที่ยวเลย”
“ก็ตอนนี้โสดแล้วไงจ้ะ ช่างตานั่นเถอะพิม นี่จะไปไหนต่อรึเปล่าหรือว่ามีเรียน” ฉันตัดบทเพราะไม่อยากพูดถึงแฟนเก่าให้รกสมอง อยู่กันสองสาวพี่น้องสายรหัสสุดสวยมันต้องพูดเรื่องสวย ๆ งาม ๆ สิคะอย่าไปพูดถึงผู้ชายเจ้าชู้ให้เสียอารมณ์เลย
“ไม่มีแล้วค่ะพิมว่าจะไปเดินเล่นหน่อยแต่เห็นพี่เพลงพอดีก็เลยเข้ามาทัก เผื่อจะฟลุ๊คมีคนสวยพาไปเลี้ยงไอติม” น้องน่ารักค่ะ เป็นเด็กขี้อ้อนตีเนียนแบบนี้เสมออยู่ด้วยแล้วแฮปปี้
“ได้เลยพี่อยากกินอยู่พอดี ไปเดินช็อปปิ้งกันด้วย”
หลังจากนั้นเราสองคนก็มาที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ มหาลัยเดินช็อปปิ้งจนเพลินถึงได้มานั่งกินไอศกรีมแล้วก็เม้าท์อะไรสัพเพเหระไปเรื่อย
“เอ้อพี่เพลงคะ ยัยพี่ซีแนมยังมาหาเรื่องพี่เพลงอยู่รึเปล่า” น้องพิมรู้จักซีแนมค่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าเราคุยกันได้แทบทุกเรื่อง ตอนที่มีปัญหาของซีแนมที่มันหนักที่สุดฉันก็มีเพื่อนแล้วก็น้องพิมนี่แหละที่คอยจับมืออยู่ข้าง ๆ
“เฮ้อ~ พิมพูดชื่อคนที่ทำให้อาหารไม่ย่อยออกมาได้ยังไง” ฉันวางช้อนไอศกรีมลงแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเซ็ง
“แหะ ๆ พิมขอโทษค่ะก็เห็นช่วงนี้เงียบ ๆ ไปเลยถามถึง”
“ก็ตอนนี้ไม่เจอหน้ากันหรอกแต่สองอาทิตย์ก่อนเจอมาเต็ม ๆ”
“หูยคำว่าเต็ม ๆ แสดงว่าชุดใหญ่ใช่ไหมคะ” น้องพิมทำหน้าหวาดหวั่นก็แน่สิคะใครเจออิทธิฤทธิ์ของซีแนมก็หวาดทั้งนั้น แต่ยกเว้นฉันคนหนึ่งนะ ฉันไม่หวั่นหรอกมีแต่สู้ตาย ใครจะซ่าแค่ไหนก็ได้แต่อย่ามาหาเรื่องฉันโดยที่ฉันไม่ผิดเพราะฉันจะไม่มีทางยอมแน่นอน แต่ถ้าฉันทำผิดแล้วมาเอาเรื่องฉันจะยอมยืนให้ตบซึ่ง ๆ หน้าไม่สู้กลับเลยสักนิด
“ก็ใหญ่พอตัวแต่มันผ่านมาแล้วแหละอย่าไปพูดถึงเรื่องเก่าเลย กินไอติมแล้วไปต่อด้วยชาบูดีกว่าจ้ะน้องรัก” ฉันตัดบทแต่ไม่ได้ตัดบทเพราะรำคาญน้องพิมนะคะ ฉันแค่ไม่อยากพูดถึงเรื่องของซีแนม พูดแล้วเดี๋ยวจะขึ้นเพราะเรื่องเมื่อสองอาทิตย์ก่อนมันเป็นอะไรที่ฉันโมโหมาก
“จะกินไอติมจริง ๆ เหรอคะไม่กลัวอ้วนแล้วเหรอ”
“ไม่กลัวค่ะ มิ้นท์อยากกิน” เสียงคู่รักออดอ้อนกันมาแค่ไกล เสียงผู้หญิงก็หวานใสเสียงผู้ชายก็หล้อหล่อจนทั้งคู่เดินมานั่งที่โต๊ะข้าง ๆ ท่าทางจะเป็นคู่รักหน้าตาดีนะคะไม่ได้หันไปมองแต่ออร่าผิวเปล่งประกายทะลุหางตาฉันเลย
“อ้าวมิ้นท์!”
“อ้าวพิม พี่เพลงสวัสดีค่ะ” เสียงน้องพิมทักทายผู้หญิงโต๊ะข้าง ๆ เหมือนจะรู้จักฉันก็หันไปมองบ้าง เป็นรุ่นน้องในคณะที่เห็นหน้าบ้างประปรายค่ะ
“จ้าน้องมินท์ มากินไอติมเหรอ” บอกตรง ๆ ว่าไม่อยากทักแบบนี้เลย ก็เดินมานั่งในร้านไอศกรีมจะให้มากินหมูกระทะรึไง แต่ก็นั่นล่ะค่ะมันเป็นคำติดปากพูดไปโดยอัตโนมัติเวลาเจอคนรู้จักแต่ไม่สนิท
“ค่ะ มินท์มาช็อปปิ้งกับแฟน นี่พี่ฟรังซ์แฟนมิ้นท์ค่ะ พี่ฟรังซ์ขานี่พี่เพลงเป็นรุ่นพี่ที่คณะ แล้วก็พิมเป็นเพื่อนมินท์ค่ะ” น้องมิ้นท์พูดจาร่าเริงเหมือนอย่างที่ฉันเคยเห็นปกติทั่วไปแล้วก็แนะนำแฟนที่ชื่อคุ้น ๆ หู เมื่อกี้มัวแต่สนใจมองหน้าน้องมิ้นท์ไม่ทันได้หันไปมองผู้ชายแต่พอเบนสายตาไปมองก็เห็นผู้ชายของน้องมิ้นท์มองฉันด้วยความไม่สบอารมณ์อยู่ก่อนแล้ว
คุณพระ! พรหมลิขิตบันดาลชักพาหรือนรกฟาดเราให้มาเจอกันอีกครั้งกันนะ!
“ค่ะ พิมกินต่อเร็วจะได้ไปที่อื่นต่อ” ฉันพยักหน้ารับคำแนะนำของน้องมิ้นท์แล้วก็หันหน้าไปชวนน้องพิมกินไอศกรีมต่อแต่ยัยน้องพิมของฉันกลับหันไปทำความรู้จักทักทายแฟนเพื่อนสะงั้น
“สวัสดีค่ะพี่ฟรังซ์ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“สวัสดีครับ โลกกลมดีนะ”
“คะ? โลกกลมยังไงคะที่รัก” น้องมิ้นท์กับน้องพิมก็ทำหน้างงนิดหน่อย แต่ฉันนี่สิคะที่เซ็งมาก ไม่ต้องทักไม่ได้รู้จักกัน!
“ก็คุณเพลงขวัญไงครับ พี่รู้จักกันเพราะคุณเพลงขวัญเป็น MC งานเปิดโชว์รูมใหม่ของพี่” จะพูดทำไม จะหาเรื่องเหรอต่างคนต่างอยู่ไม่ได้รึไง ฉันอยากจะพูดใส่หน้าว่าโลกมันไม่ได้กลมหรอกค่ะแต่นรกมันแคบ!
“หือ~ จริงเหรอคะบังเอิญจังเลย” น้องมิ้นท์ก็ทำหน้าตกตะลึงตื่นเต้นได้โอเวอร์มากค่ะ
“จ้ะ เจอกันครั้งนั้นครั้งเดียวแหละ ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะคุณฟรังซ์” ถ้าทุกคนในนี้ไม่ได้ตาบอดก็จะต้องเห็นความเซ็งบนหน้าฉันชัดเจน
“แต่แหมเสียดายนะคะวันนั้นถ้ามิ้นท์ว่างคงได้ไปงานเปิดโชว์รูมของพี่ฟรังซ์ ได้เจอกันที่งานคงเม้าท์สนุกน่าดูนะคะพี่เพลง” อืม~ น้องมิ้นท์เขาดีดเหรอคะ ฉันกับน้องมิ้นท์เราสองคนคุยกันปีละสามประโยคเองมั้งแล้วจะเอาเรื่องที่ไหนมาเม้าท์ไม่ทราบ
“จ้า~” ฉันพยักหน้ารับแล้วก็หันกลับมาโฟกัสไอศกรีมต่อ ปล่อยให้น้องพิมของพี่เพลงลั้นลาคุยกับสองคนนั้นต่อไปเถอะ
เฮ้อ! คิดแล้วก็สงสารน้องมิ้นท์ แฟนหนูในวันนี้เป็นผัวคนอื่นในวันนั้นน้องเขาจะรู้รึเปล่านะ ยิ่งบอกว่าถ้าว่างคงได้ไปงานฟังแล้วก็ยิ่งสงสารเพราะวันนั้นพี่ฟรังซ์ของหนูเขาจะให้เมียเขาเป็นMC ในงานค่ะลูก เพราะฉะนั้นต่อให้หนูว่างหนูก็ไปไม่ได้อยู่ดี
#PLENGKWAN END
#FRUNG TALK
ดูท่าทางเธอคงเกลียดขี้หน้าผมมากพอตัวเลยล่ะครับรีบกินแถมเร่งน้องอีกคนที่มาด้วยทางสายตาให้รีบกินเหมือนเธออีกต่างหาก พอกินเสร็จก็รีบกลับไปเลย
“เพลงขวัญเขาเป็นคนยังไง” ผมถามมิ้นท์หลังจากทิ้งระยะห่างไปสักพัก แต่ผู้หญิงก็คือผู้หญิงอยู่วันยังค่ำ สัญชาตญาณไวยิ่งกว่าสิงโต ต่อให้ทิ้งระยะห่างเป็นวันเป็นเดือนเธอก็สงสัยได้เหมือนเดิมว่าผมถามถึงผู้หญิงคนอื่นทำไม
“ทำไมคะพี่ฟรังซ์สนใจเหรอ” มิ้นท์ละสายตาจากการถ่ายรูปตัวเองแล้วก็ถามผมเสียงใสแต่แววตาไม่ได้ใสเหมือนเสียงสักนิด
“ครับ สนใจแต่ไม่ได้สนใจอย่างที่มิ้นท์คิดหรอก พอดีเขามีเรื่องกับเพื่อนของพี่นิดหน่อยก็เลยอยากรู้ว่าเป็นคนยังไง”
“อ้อ ก็ปกติธรรมดาทั่วไปค่ะ มิ้นท์ไม่ค่อยสนิท”
“หึงเหรอครับ” ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็แบบนี้ล่ะครับ ผมไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ แต่ถามถึงคนสวยแบบเพลงขวัญใครจะไม่หึงล่ะจริงไหม ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้รู้สึกพิศวาสเพลงขวัญเลยสักนิดแค่เผลอมองหน้าเธอบ้างเป็นบางครั้งเพราะความสวยก็เท่านั้นเอง
“แล้วพี่ฟรังซ์คิดว่ายังไงคะ” ฮึ ๆๆ ผมนึกว่ามิ้นท์จะถนัดแค่แบ๊วแต่เปล่าเลยครับเธอฉลาดพอตัว ฉลาดพูดฉลาดยอกย้อนสะด้วย
“อืม~ ถ้าเป็นพี่พี่จะไม่หึงครับ เพราะถึงยังไงสุดท้ายตอนนี้พี่ก็อยู่กับมิ้นท์”
“แค่ตอนนี้รึเปล่าคะ” เจองานยากแล้วไอ้ฟรังซ์ ฮึ ๆๆ
“รอดูต่อไปดีกว่า สนใจลงรูปคู่ไหมคะ” ผมตับบทดีกว่าครับเดี๋ยวมีปัญหาบานปลาย
“ปกติไม่เห็นให้สาว ๆ คนไหนลงรูปคู่นี่คะพี่ฟรังซ์” มิ้นท์มองหน้าผมแล้วก็ถามด้วยความแปลกใจ ใช่ครับผมไม่ถ่ายรูปคู่ใครและไม่ให้ใครลงรูปผมด้วย พวกเธอทุกคนรู้หมดนั่นแหละว่าผมไม่จริงจังแต่หลายคนก็หวังว่าจะเปลี่ยนใจผมได้
“ให้มิ้นท์เป็นกรณีพิเศษไงคะ” ผมตอบยิ้ม ๆ มิ้นท์ก็เลยยิ้มอายพร้อมกับยกกล้องขึ้นมากดถ่ายรูปคู่ของผมกับเธอ
“พี่เพลงนิสัยดีค่ะ เป็นคนนิสัยดีมาก” พอถ่ายรูปประมาณเกือบห้าสิบรูปได้มั้งครับมิ้นท์ก็ก้มหน้าก้มตาแต่งรูปเตรียมอัพลงโซเชียลตามประสาของเธอแล้วก็พูดขึ้น อยู่ดี ๆ ก็พูดทำผมเผลอยกคิ้วด้วยความงงว่าทำไมถึงยอมบอก
“นิสัยดี?” ทำไมที่เจอผมไม่เห็นจะรู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด เด็กเสี่ย ขี้เหวี่ยง ขี้วีน แถมเป็นมือตบระดับตัวแม่ จะเอาตรงไหนมานิสัยดีวะ
“ค่ะ นิสัยดี มิ้นท์ไม่ได้สนิทหรอกแต่สามปีที่รู้จักกันมามิ้นท์ก็เห็นแทบจะทุกคนในคณะชอบพี่เพลงกันทั้งนั้น”
“ที่พี่เจอมาไม่ใช่แบบนั้นนะ”
“เจอตอนไหนล่ะคะ เจอตอนพี่เขาโดนใครมาเหยียบหางรึเปล่า ถ้าเป็นเวลานั้นก็นางร้ายดี ๆ นี่ล่ะค่ะ ด่าได้ไม่มีเหนื่อยแล้วก็พร้อมตบเพื่อจบปัญหา” มิ้นท์หันมาบอกผมแล้วก็ยิ้มให้ด้วยรอยยิ้ม อืม~ จะบอกว่ายังไงดีล่ะครับ เธอฉลาดพอตัวแต่แบ๊วแค่ภายนอก
“คงใช่มั้ง” คงจะอย่างนั้นมั้งครับเพราะผมจำได้ว่าเพลงขวัญพูดว่าซีแนมส่งข้อความไปด่าถึงได้บุกเข้าไปตบซีแนมถึงในห้อง แต่พื้นฐานนิสัยดีมากจนใคร ๆ ก็ชอบอันนี้ผมยังห้าสิบห้าสิบ
“แล้วทำไมถึงยอมบอกพี่ล่ะคะ” ผมหยุดเรื่องเพลงขวัญไว้ก่อนแล้วถามคนข้าง ๆ ที่เริ่มน่ากลัวเข้ามาทุกที
“ก็พี่ฟรังซ์อุตส่าห์ยอมแลกกับการให้มิ้นท์ลงรูปคู่นี่คะมิ้นท์ก็เลยยอมบอก” มิ้นท์หันมามองผมด้วยสายตารู้ทัน เธอทำผมอึ้งไปเลย
“พี่แค่ชวนถ่ายรูปเพราะไม่อยากให้มิ้นท์คิดมากว่าพี่สนใจผู้หญิงคนอื่นมากกว่าก็แค่นั้น” ผมไม่โกหกให้จำคำพูดตัวเองไม่ได้หรอกครับ พูดความจริงไปเลยดีกว่า
“แล้วสนใจรึเปล่าล่ะคะ?”
“อืม~ ไม่ครับ ถึงมิ้นท์จะบอกว่าเพลงขวัญนิสัยดีแต่ที่พี่เจอมาไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด ถึงมิ้นท์ยอมให้พี่นั่งซักประวัติเพลงขวัญทั้งวันพี่ก็ไม่หลงเสน่ห์หรอก” ผมยังยืนยันคำเดิมครับ ปากกับนิสัยของเพลงขวัญไม่ใช่สเปคผม ไม่เฉียดเลยสักนิด
“ค่ะ แต่ระวังตัวหน่อยนะคะถ้าบังเอิญเจอก็อย่าไปอยู่ใกล้พี่เพลงมาก”
“ทำไมครับ?”
“เดี๋ยวจะหลงเสน่ห์พี่เพลงเข้าน่ะสิคะ ขนาดมิ้นท์นึกขัดใจที่พี่ฟรังซ์มองพี่เพลงตาเยิ้มเมื่อกี้มิ้นท์ก็ยังเกลียดพี่เพลงไม่ลงเลย”