Share

บทที่ 8

last update Last Updated: 2025-05-02 20:40:06

หลินซีคิดเสมอ ว่าหากเธอสามารถทำหน้าที่ต้นหนที่ดี ผลักดันให้เรือรักของเพื่อนทั้งสองไปถึงฝั่งฝันได้ เธอคงไม่ต้องคอยรับมือกับอาการพาลและเลือดร้อนของคุณใสอีก แต่ดูเหมือนเธอจะคิดผิด...

เช้านี้หลินซีตื่นขึ้นเพราะเสียงข้อความที่เด้งรัวๆ ราวกับมีเหตุด่วนเหตุร้าย ไม่ก็มีใครเสียชีวิต

ทว่าเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เธอก็ต้องพบกับรูปคู่ของเพื่อนทั้งสองที่นอนอยู่ข้างกันบนเตียง ใบหน้าของน้ำมนต์ดูทรมานเหมือนกับว่ากำลังฝันร้าย ส่วนคุณใสก็ยิ้มเยาะใส่กล้องราวกับผู้ชนะ

หลินซีคุ้นชินกับพฤติกรรมคลั่งรักของเพื่อนคนนี้นานแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณใสส่งรูปความน่ารักของน้ำมนต์มาให้เธอดู เหตุที่คุณใสทำเช่นนั้น คงเพราะต้องการอวดคนรักของตน ไม่ก็คงกำลังแสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกนอกหน้า

...เอาที่สบายใจแล้วกัน...

เห็นเพื่อนสองคนมีความสุข หลินซีก็มีความสุขไปด้วย

วันนี้พี่ชายของเธอไม่อยู่ที่ห้อง เธอจึงตัดสินใจลงไปหามื้อเช้าที่ร้านสะดวกซื้อหน้าคอนโด ระหว่างทางบังเอิญเจอกับยูเรพอดิบพอดี

วันนี้เขาแต่งตัวค่อนข้างสบายกว่าปกติ ส่วนมากยูเรจะชอบแต่งกายเรียบร้อย และเซตผมดูดีอยู่เสมอ วันนี้กลับใส่เพียงเสื้อยืดและกางเกงยีนขาดๆ เผ้าผมยุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งสระมาใหม่ๆ ยังมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามปลายผม

ยูเรกำลังคุยสายกับใครบางคน ใบหน้าเคร่งเครียดต่างจากยูเรที่หลินซีรู้จัก

ก่อนวางสายยูเรตวาดบางอย่างใส่โทรศัพท์ก่อนหันกลับมาและพบหลินซียืนอยู่ข้างหลัง

"ไงหลิน ตื่นแต่เช้าเลยนะ" ใบหน้าเคร่งขรึมถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มสดใส

"นายก็เหมือนกัน"

หลินซีเหลือบมองโทรศัพท์ในมือยูเร รู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าหากเพื่อนของเธอต้องการความช่วยเหลือจะทำอย่างไร

"นาย...มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"

ยูเรส่ายศีรษะ "ไม่มีหรอก...ก็แค่เรื่องที่บ้านน่ะ แล้วนี่หลินจะไปไหนเหรอ?"

"หาของกิน...จะไปด้วยกันไหม?"

ยูเรพยักหน้า "เอาสิ"

เดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงร้านสะดวกซื้อ ละแวกคอนโดเต็มไปด้วยร้านอาหารตามสั่งมากมาย หลินซีเลือกที่จะซื้ออาหารกลับไปทานบนห้อง เพราะเธอยังมีงานอีกมากที่ต้องจัดการ บวกกับยูเรเองก็ต้องรีบไปทำงานพิเศษเช่นกัน

ระหว่างนั่งรออาหาร ยูเรหันมองไปยังคู่รักหญิงหญิงที่กำลังทานอาหาร พวกเธอผลัดกันถ่ายรูปอย่างมีความสุข

"น่ารักดีเนอะ" ยูเรพึมพำ

"อืม" หลินซีพยักหน้าเห็นด้วย

ทันใดนั้นแววตายูเรกลับค่อยๆ จืดจาง เขาหันมายิ้มให้หลินซี

"หลินคิดยังไงกับพวกรักเพศเดียวกันเหรอ?"

คำถามที่สามารถตอบได้หลายแง่มุมแบบนี้ หลินซีไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ จากที่สังเกตแม้ปากยูเรจะบอกว่าคู่รักสองคนนั้นน่ารัก แต่สีหน้ากลับตรงกันข้าม ต่างคนก็ต่างความคิด คำถามนี้จึงเหมือนการบังคับตอบเสียมากกว่า

หลินซีจะตอบเอาใจเพื่อน หรือตอบตามความคิดตัวเอง

มันแน่นอนอยู่แล้ว...

"ฉันไม่เคยมองเรื่องเพศเป็นเส้นแบ่งแยกความแตกต่างของคู่รักหรอกนะ จะหญิงหรือชาย ทุกคนก็มีข้อดีข้อเสียของตัวเอง และฉันหมายถึงนิสัย ไม่ใช่เพศ ขอแค่คนที่อยู่ด้วยมีความสุข ฉันว่านั่นก็เป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบแล้วล่ะ"

ยูเรยิ้มอย่างพอใจ

"หลินเนี่ยเป็นคนที่ใจกว้างจังเลยนะ"

หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้สนทนาอะไรกันอีก กระทั่งแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน

เมื่อคืนน้ำมนต์ฝันร้าย

สมัยเด็กน้ำมนต์มักฝันถึงเรื่องราวเดิมๆ เป็นภาพที่ไม่ปะติดปะต่อ ถูกฉายสลับไปมาในสมอง ร่างเล็กหมุนคว้างราวกับอยู่ใจกลางพายุลูกใหญ่ สายฝนสาดกระโชก เศษกระจกรถที่แตกเป็นเสี่ยงๆ กระจายรอบตัว ร่างหนึ่งโถมเข้าหาน้ำมนต์ ฝ่ามือขนาดใหญ่บดบังทัศนวิสัยการมองเห็นของเขาจนหมดสิ้น เหลือเพียงความมืดมิดและว่างเปล่า

โดยปกติแล้ว น้ำมนต์จะสะดุ้งตื่นหลังจากถูกทิ้งไว้ในความมืด ทว่าครั้งนี้ต่างออกไป บรรยากาศรอบตัวแปรเปลี่ยนความมืดค่อยๆ สลายกลายเป็นประตูเชื่อมไปยังสถานที่อื่น ระเบียงบ้านอันแสนคุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้า สภาพอากาศย่ำแย่ชวนให้น้ำมนต์นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

แม้จะเป็นในความฝัน น้ำมนต์ก็ยังพยายามก้าวถอยหลัง การขยับขาแต่ละครั้งช่างยากลำบากประหนึ่งขาจมในดินโคลนสูง

และแล้วสิ่งที่น้ำมนต์กลัวที่สุดก็ปรากฏตัว

...หญิงสาวในชุดนอนสีแดง...

ครั้งนี้น้ำมนต์มองเห็นรูปร่างของเธอได้อย่างชัดเจน คำว่าน่ากลัวคงน้อยไปที่จะบรรยายรูปลักษณ์ของเธอ หญิงสาวมีแววตาที่ดุร้าย เธอทั้งดูโกรธแค้น ริษยา และทรมานในเวลาเดียวกัน

เธอยังคงยืนที่เดิม แสยะยิ้มทั้งที่ดวงตาเบิกโพลง มือสีดำค่อยๆ ยกขึ้นจับที่ประตูรั้ว

เธอพยายามจะเข้ามา...

น้ำมนต์กลัวจนอยากจะร้องไห้ ในตอนนี้ขาของเขาขยับไปไหนไม่ได้ราวกับถูกตรึงเอาไว้ด้วยพันธนาการที่มองไม่เห็น ชายหนุ่มตะโกนร้องเรียกชื่อคนรักเพื่อขอความช่วยเหลือ ทว่าไม่มีแม้เสียงตอบรับ

ในตอนที่หันหลังมองหาทางหนี เขาก็พบว่าที่ด้านหลังมีอีกร่างหนึ่งปรากฏอยู่ ชายไร้หน้าคนนั้นที่คอยตามติดน้ำมนต์มาตั้งแต่จำความได้

สถานการณ์ที่ถูกล้อมหน้าล้อมหลังทำให้น้ำมนต์แทบสติแตก

หญิงสาวในชุดนอนสีแดงเขย่าประตูรั้วถี่ ส่วนชายไร้หน้าก็เอื้อมมือมาหาน้ำมนต์

เด็กหนุ่มทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ทรุดลงกับพื้น หลับตา ยกมือขึ้นปิดหู ไม่ต้องการรับรู้อะไรอีกต่อไป ปลายนิ้วของชายไร้หน้าเกือบจะสัมผัสไหล่ของร่างเล็กที่กำลังหวาดกลัว โชคดีที่คุณใสปลุกน้ำมนต์ให้ตื่นจากความฝันเสียก่อน

"ตื่นเถอะ! น้ำมนต์เป็นอะไรไป!"

หลังจากที่คุณใสถ่ายรูปคู่รักของตนส่งไปอวดเพื่อนสาวเป็นที่เรียบร้อย เขาก็พบว่าคนในอ้อมกอดกำลังตัวสั่น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ใบหน้าดูทรมานเกินจะบรรยาย ทว่าดวงตากลับยังปิดสนิท

คุณใสพยายามเขย่าตัวคนรักแต่ก็ไม่เป็นผล น้ำมนต์ส่งเสียงครางด้วยความหวาดกลัวราวกับกำลังฝันร้าย

สุดท้ายเขาจึงต้องตะโกนเสียงดัง

ในที่สุดร่างเล็กก็สะดุ้งตื่น

น้ำมนต์หอบหายใจถี่เพื่อโกยอากาศเข้าปอดอย่างยากลำบาก นัยน์ตาสั่นไหวเพราะความกลัว บนใบหน้าและร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อ

"คะ คุณใส คุณใส"

น้ำมนต์โผเข้ากอดชายตรงหน้า

"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้"

ฝ่ามือหนาลูบปลอบขวัญคนรักของตน

ไม่บ่อยที่น้ำมนต์จะมีปฏิกิริยารุนแรงกับความฝัน แต่ครั้งนี้มันบั่นทอนจิตใจของเขาพอสมควร

"โอ๋ๆ นะคนดี ไม่มีอะไรแล้ว...นายปลอดภัยแล้ว"

ผ่านไปหลายนาทีกว่าน้ำมนต์จะได้สติ คุณใสยังคงไม่คลายอ้อมกอดของตน คนตัวเล็กค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ขอบตาของเขาเป็นสีแดงก่ำประหนึ่งร้องไห้มาทั้งวัน

"ดีขึ้นไหม?"

คุณใสเอ่ยถามขณะใช้นิ้วมือปาดเส้นผมและเม็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของร่างเล็ก แล้วจึงก้มลงจุมพิตที่หน้าผากขาว ในใจภาวนา หากสามารถแบ่งความกล้า และความโชคดีของตนให้คนรักที่กำลังหวาดกลัวได้ เขาขอยกให้ทั้งหมด...ทำเช่นไรก็ได้ ให้เด็กคนนี้ไม่ต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายหรือสิ่งน่ากลัวอีกต่อไป

"ดีขึ้นแล้ว..." ใบหน้าเล็กดูผ่อนคลาย "ขอบคุณนะ..."

"อยากเล่าไหมว่าเกิดอะไรขึ้น" คุณใสถามอย่างระมัดระวัง รู้ดีว่าการคาดคั้นเอาคำตอบจากคนที่เพิ่งพบเจอสถานการณ์เลวร้าย อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของอีกฝ่าย

ผ่านไปสักพักน้ำมนต์ก็ยอมเล่าเรื่องราวในความฝันให้คุณใสฟัง

ไม่แปลกใจที่น้ำมนต์จะแสดงท่าทีตื่นกลัว คุณใสพยายามนึกเรื่องราวก่อนหน้านี้ ทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดผู้หญิงคนนั้นถึงตามติดน้ำมนต์ และทำไมตัวเขาไม่เคยเห็นเธอเลยสักครั้ง หากว่าพวกเขาไม่ได้มีความสามารถในการสื่อสารกับวิญญาณ เขาคงมองว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงความเครียดที่ก่อร่างขึ้นมาเป็นตัวตน ทว่าในฝันนั้นไม่ได้มีเพียงหญิงในชุดนอนสีแดง แต่ยังมีชายไร้หน้าซึ่งคุณใสเคยเห็นมาก่อน แม้จะไม่บ่อยนัก แต่นั่นก็ทำให้เขาเชื่อสนิทใจว่าคนรักของเขาไม่ได้กำลังโกหกหรือคิดไปเองอย่างแน่นอน

น้ำมนต์จ้องมองใบหน้าเคร่งเครียดจริงจังของคุณใส รู้สึกตัวเองโชคดีเหลือเกินที่มีชายคนนี้อยู่ข้างๆ ทุกครั้งที่น้ำมนต์ฝันร้าย เขาจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาและนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวนานสองนานกว่าจะได้สติ วันนี้ที่เขาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของคนรัก ได้รับคำปลอบโยน และความเชื่อใจอย่างเต็มเปี่ยม แม้ลึกๆ แล้วเขาไม่อยากเอาความกังวลของตนเองไปยัดเยียดให้คุณใส แต่ครึ่งหนึ่งของจิตใจก็ต้องการให้ชายคนนี้ได้รับรู้ เข้าใจ และช่วยหาทางแก้ปัญหาไปด้วยกัน

น้ำมนต์ขยับเข้ามาใกล้และโอบต้นคอของคุณใสลง ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกันอย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา

คนถูกร่างเล็กจู่โจม ปรับจูนสมองแทบไม่ทัน นิ่งค้างไปสักพัก เป็นครั้งแรกที่น้ำมนต์เป็นฝ่ายรุกเข้าหาก่อน ถ้าไม่นับรวมกับก่อนหน้านี้ที่คุณใสบังคับให้เป็นคนเริ่ม มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง ให้ความรู้สึกหวานซึ้งและดูดดื่มมากกว่ากันหลายสิบเท่า

แน่นอนว่าคุณใสให้ความร่วมมือแต่โดยดี เขาโอบกอดคนรักอย่างทะนุถนอม ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามร่างกายนุ่มนิ่มของอีกฝ่าย โดยที่ริมฝีปากก็ยังคงรุกล้ำเข้าไป แนบชิดขึ้นทีละน้อย หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงมาได้ไกลสุดเพียงเท่านี้ น้ำมนต์มักจะผละออกเมื่อสัมผัสได้ว่ากำลังจะถูกคุกคามจากความกระหายของคุณใส

...ครั้งนี้ต่างออกไป...

ไม่เพียงไม่ต่อต้าน น้ำมนต์โอนอ่อนตามการเคลื่อนไหว ไม่ว่าคุณใสกอดจูบลูบคลำเพียงใด มีเพียงเสียงหอบหายใจ และเสียงครางต่ำๆ ตอบรับกลับมาอย่างเย้ายวน

คุณใสค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกมาเพื่อพักหายใจหายคอ ใบหน้ารูปไข่ของคนตัวเล็กกลายเป็นสีแดง เปลือกตาโค้งมนและสีหน้าท่าทางที่แสดงออกทำให้คุณใสแทบคลั่ง

...เผลอคิดว่าเป็นคนใสซื่อมาตั้งนาน...

"ถ้ามากกว่านี้ ฉันจะหยุดไม่ได้แล้วนะ..." คุณใสกระซิบ

คำเตือนสุดท้ายนี้ ไม่ได้มีผลต่อความมุ่งมั่นในสายตาร่างเล็กเลยแม้แต่น้อย น้ำมนต์ถูไถใบหน้าไปกับฝ่ามือของคุณใส

เส้นความอดทนของร่างสูงขาดสะบั้น

คุณใสทวีการสัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย และรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง เขาโอบร่างเล็กเข้ามาแนบชิด พรมจูบไปทั่วผิวกายเย็นเยียบ ทุกครั้งที่ริมฝีปากของเขาสัมผัสผิวกายคนตรงหน้า ร่างเล็กจะกระตุกเล็กน้อย แม้จะดูเก้ๆ กังๆ อยู่บ้าง แต่น้ำมนต์ก็ยังคงกอดคุณใสเอาไว้ ยอมรับในทุกๆ การกระทำของคนรักอย่างสนิทใจ

...ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบร้อน...

...วันนี้พวกเขายังมีเวลาอีกทั้งวัน...
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 48

    หลังจากวันนั้น ชายไร้หน้าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ใจจริงน้ำมนต์อยากเอ่ยขอบคุณสักครั้ง ที่ผ่านมาเขาเข้าใจวิญญาณตนนั้นผิดมาตลอด แม้เมื่อก่อนจะหวาดกลัวและอยากให้ชายคนนั้นหายไป มาบัดนี้ พอเขาหายไปจริงๆ น้ำมนต์กลับรู้สึกโหวงๆ อย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าสูญเสียคนในครอบครัวไปอย่างไรอย่างนั้น“ทำอะไรอยู่ลูกชายแม

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 47

    “หลิน! ฟังก่อนได้ไหม เพราะเธอเอาแต่ปฏิเสธฉันแบบนี้ไงฉันถึงได้ไปมีคนอื่น”คำพูดของคนหน้าด้านหน้าทนทำให้หลินซีเดือดปุดๆทีแรกก็ว่าจะรวมพลังไปหาถึงที่ ใครจะคิดว่าแค่ส่งข้อความพร้อมคลิปหลักฐานไป หมอนี่ก็โผล่มาทันที แล้วยังเอาแต่พ่นคำแก้ตัวปัญญาอ่อนนี่ต่อหน้าเธอไม่หยุด“ได้ งั้นในเมื่อเป็นแบบนี้ก็จบกัน แ

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 46

    “คิดว่าผู้หญิงคนนั้น จะยังอยากมองหน้าพวกนายต่องั้นเหรอ หลังจากที่โดนคนประเภทนั้นแย่งคนรักไป”“แน่นอน” คุณใสพูดอย่างมั่นใจ “ถึงยัยนั่นจะน่าหงุดหงิดไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดที่แยกแยะไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร ถ้านายคิดว่าตัวเองยั่วยุให้ยัยนั่นแตกคอกับพวกเราได้สำเร็จแล้วละก็...หึ นายคิดผิดถนัด”นิ้วมือแล

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 45

    “เธอคือแม่ของนาย...ใช่หรือเปล่า?” คุณใสชูภาพให้ยูเรเห็นชัดๆ “ผู้หญิงคนนั้นที่น้ำมนต์เห็น คือแม่ของนายใช่มั้ย?”“นี่นายสงสัยฉันงั้นเหรอ เอาจริงดิคุณใส”“ฉันไม่ได้สงสัย แต่มั่นใจว่าเป็นนายเลยต่างหาก”น้ำเสียงดุดันของร่างสูงทำให้ยูเรเริ่มเผยพิรุธ“นายเชื่อเรื่องโกหกของหมอนั่นจริงๆ งั้นเหรอ นายเคยเห็นผู

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 44

    คลิปวิดีโอของชายหนุ่มสองคนที่กำลังกอดจูบลูบคลำกันใต้แสงไฟสลัวในสถานเริงรมย์ ทำเอาใบหน้าของหญิงสาวที่ปกติแทบไม่แสดงอารมณ์ บัดนี้กลับบิดเบี้ยวเพราะความเศร้าโศกเสียใจเหตุเพราะยูเรเลือกที่จะเปิดคลิปที่เขาบังเอิญเจอธีร์กำลังมีสัมพันธ์กับชายอื่น ซึ่งเป็นการนอกใจ และนอกกายอย่างไม่น่าให้อภัย“ขอโทษนะหลิน ไ

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 43

    “ขอโทษที่ทำให้บรรยากาศเสียนะ เดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง” น้ำมนต์บอกลาเพื่อนทั้งสอง แล้วฉวยเอาใบสั่งอาหารตรงไปยังจุดชำระเงินพร้อมกับคุณใสยูเรพ่นลมหายใจแรงอย่างหัวเสีย ก่อนหันไปหาเพื่อนสาว“เธอเชื่อที่เขาพูดเหรอ เรื่องไร้สาระแบบนั้น...”“มันก็ไม่มีเหตุผลให้ไม่เชื่อนี่” หลินซีกล่าวเสียงเรียบ “ฉันเคารพค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status