LOGINในคืนต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นเข้ามาเที่ยวที่ผับ ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาหาความสุขในยามค่ำคืน แต่ตั้งใจมาหาเรื่องลูกค้ารายอื่นที่นั่งโต๊ะใกล้กัน หวังก่อความวุ่นวายเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ผับดังในย่านไชนาทาวน์
ผู้จัดการผับคนใหม่ที่คิงส์ตันรับเข้ามาทำงาน ได้นำชายหุ่นล่ำในชุดดำสี่ห้าคนซึ่งเป็นลูกน้องที่เขาจ้างมาดูแลความสงบเรียบร้อยเข้าไปเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นและลูกค้าโต๊ะอื่นเริ่มมีปากเสียงตะโกนด่ากันไปมา
“เพลิง”
“ครับนาย”
“มึงลงไปจัดการไอ้เด็กเวรพวกนั้น แล้วอย่าลืมฝากไปบอกลูกพี่ของมันด้วยว่าอย่าส่งคนมาในถิ่นของกูอีก”
น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงด้วยความรำคาญใจดังขึ้น ครั้งนี้เขาจะให้โอกาสกลับตัวเพราะเห็นว่าเป็นเด็กที่ยังเรียนไม่จบ อยู่ในวัยคึกคะนอง คงเห็นแก่เงินค่าจ้างไม่กี่บาท เลยทำตามที่ได้รับคำสั่งมา แต่หากยังมีครั้งหน้าคงไม่เหลือแม้แต่ชีวิตรอดออกไปจากที่นี่แน่
เพลิงออกจากห้องทำงานของผู้เป็นนาย ก็ได้พาคนลงไปลากตัวกลุ่มวัยรุ่นชายทั้งห้าคนออกไปกระทืบบริเวณด้านหลังผับซึ่งเป็นที่ลับตาคน ก่อนปล่อยตัวก็ฝากถ้อยคำไปบอกลูกพี่ของพวกมันตามที่เจ้านายของตนสั่งการ
เด็กวัยรุ่นทั้งห้าคนใบหน้าปูดบวม ร่างกายสะบักสะบอมฝืนยันตัวลุกขึ้น หลังจากทุกอย่างสงบลงก็พากันวิ่งหนีหางจุกตูด ทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บตัว แลกกับเงินแค่สามพันบาท ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะโทรไปรายงานคนที่จ้างพวกเขามา
(หึ ทำงานรวดเร็วดีนี่)
น้ำเสียงของสิงหามีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก วัยรุ่นพวกนี้เพิ่งโทรมาแจ้งว่าไปถึงผับเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ไม่คิดว่างานที่สั่งจะเสร็จเร็วขนาดนี้
“พวกผมทำตามที่คุณสั่งแล้ว ถือว่างานนี้จบ เจ้าของผับก็ฝากมาบอกด้วยว่าอย่าส่งใครไปที่นั่นอีก ไม่อย่างนั้นจะไม่ปล่อยให้มีชีวิตรอดออกมา”
(ไอ้เจ้าของผับนี่มันเป็นใครวะ คิดว่าตัวเองใหญ่นักรึไง)
หัวคิ้วของสิงหาขมวดเข้าหากันเป็นปม เพราะคำถามของเขานั้นไร้คำตอบ แถมไอ้เด็กเวรที่โทรเข้ามายังชิงตัดสายไปเสียก่อนจะคุยกันรู้เรื่อง
“มีอะไร”
น้ำเสียงเข้มของพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสามเดือนดังขึ้นจากทางด้านหลัง พลันทำให้สิงหารีบเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง หมุนตัวหันไปหาอีกฝ่าย
ตุลย์ได้ยินเสียงรถของน้องชายขับเข้ามาจอดที่โรงจอดรถ แต่ยังไม่เข้าบ้านเสียทีจึงเดินออกมาตาม ทว่ามาได้ยินประโยคสุดท้ายที่น้องชายเอ่ยกับปลายสายพอดี
“หน้าไปโดนอะไรมา”
ตุลย์เลื่อนมือเข้าไปจับปลายคางของน้องชายหันใบหน้าไปมาเพื่อสำรวจรอยฟกช้ำดำเขียว มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าไม่ได้เกิดจากการหกล้มหรืออุบัติเหตุอย่างอื่น แต่เป็นร่องรอยจากการถูกทุบตีด้วยฝีมือของคน
“โอ๊ย... จับเบา ๆ ดิเฮีย โดนซ้อมมาเมื่อคืนยังเจ็บไม่หายเลย”
“ใครทำ กูจะส่งคนไปจัดการ”
ตุลย์เอ่ยด้วยสีหน้าถมึงทึง อีกฝ่ายมันเป็นใครถึงได้กล้ามาทำร้ายน้องชายของเขาแบบนี้
“ผมจ้างคนไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าของผับมันใหญ่มาจากไหน ฝากเด็กมาบอกว่าอย่าส่งใครไปอีก ไม่งั้นมันจะเอาถึงตาย”
“ผับนั่นชื่ออะไร”
เมื่อตุลย์ได้รู้ว่าเป็น K.T. Demon Pub เจ้าของก็คือมาเฟียลูกครึ่งไทยฮ่องกง ซึ่งเขาเคยคิดจะล้มธุรกิจท่าเรือของอีกฝ่ายอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงออกคำสั่งกับน้องชายอย่างเด็ดขาด
“ต่อไปอย่าไปที่นั่นอีก ถ้าไอ้คิงส์ตันมันรู้ว่ามึงเป็นน้องชายของเฮีย มันไม่ปล่อยมึงแน่”
“คิงส์ตัน มันเป็นใคร แล้วใหญ่มาจากไหน นี่เฮียกลัวมันด้วยเหรอ”
สิงหาเกิดความสงสัย ตั้งแต่เรียนจบเขาก็ยังไม่เคยมาช่วยงานพี่ชาย เลยไม่รู้เรื่องพวกนี้
ในแต่ละวันน้องชายของตุลย์มักจะเอาแต่ใช้เงินกินเที่ยวและเปย์ผู้หญิง มีแค่เมษาเพียงคนเดียวที่ดูเหมือนว่าสิงหาจริงจังกว่าคนอื่น ๆ
ทว่าสิงหาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนทิ้งมาก่อน ไม่คิดว่าเธอจะกล้าบอกเลิกโดยไม่มีสาเหตุ แถมยังด่าเขาว่าเฮงซวย แล้ววันก่อนยังไปจูบกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตาเขาอีก
“ไอ้คิงส์ตันมันเป็นหนึ่งในหัวหน้าแก๊งมาเฟีย พวกมันคุมธุรกิจหลายอย่างทั้งในไทยและฮ่องกง พวกเราสู้มันซึ่ง ๆ หน้าไม่ได้หรอก เฮียขอเตือนมึงด้วยความหวังดี อย่าไปที่นั่นอีก”
สิงหากัดกรามแน่น มองแผ่นหลังของพี่ชายเดินเข้าบ้านไป หรือว่าคนที่จูบกับเมษาเมื่อคืนก็คือไอ้คิงส์ตัน เจ้าของผับที่สั่งให้คนจับเขาไปซ้อมจนระบมไปทั้งตัว
*****
มหาวิทยาลัยได้ทำการเปิดเรียนเป็นวันแรก หลังเลิกเรียนเมษาก็แยกกับอบเชยที่หน้ามหาวิทยาลัย
ระหว่างยืนรอเรียกรถแท็กซี จู่ ๆ ข้อมือก็ถูกคว้าไปกอบกุมอยู่ในกำมือหนา ถูกรั้งให้เธอหันไปเผชิญหน้ากับคนที่ถือวิสาสะเข้าถึงเนื้อถึงตัว
“พี่สิงหา”
หญิงสาวในชุดนักศึกษาเบิกตาโพลง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตามมาหาเธอถึงที่นี่
สิงหามั่นใจว่าเธอต้องมาเรียนจึงตั้งใจมาดักรอ พอเห็นเมษายืนอยู่ตามลำพังก็รีบเดินเข้ามาหา
“ยังจำชื่อพี่ได้อยู่เหรอ”
เขาถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เวลาผ่านไปเป็นเดือนที่ไม่ได้คุยและไม่ได้เห็นหน้ากัน ไม่คิดเลยว่าเมษาจะใจแข็งตัดเขาออกจากชีวิตได้ลง ทั้งที่เมื่อก่อนต้องคุยกันก่อนนอนทุกคืน
“ปล่อย พี่ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวฉันอีก”
“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่เป็นแฟนของเธอ ให้ทำมากกว่านี้ยังได้เลย”
น้ำเสียงข่มขู่ของอดีตแฟนหนุ่มดังพร้อมกับกระชากข้อมือของเธอ หมายจะพาไปขึ้นรถสปอร์ตที่จอดอยู่ริมถนน
“ปล่อยนะ ฉันไม่ไป”
“เงียบ แล้วก็ขึ้นรถไปดี ๆ อย่าทำให้พี่โมโห”
อีกฝ่ายกระชากน้ำเสียงด้วยความขุ่นเคืองใจ ทำให้เมษานิ่งเงียบพลันถอนหายใจออกมาแรง ๆ นึกไม่พอใจที่สิงหายังกล้ามาให้เห็นหน้า ทั้งที่เขานอกกายนอกใจไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นลับหลัง ฟังแบบนี้แล้วใครกันแน่ที่ต้องเป็นฝ่ายโมโห
“มีอะไรก็พูดกันตรงนี้เลยดีกว่า ฉันไม่อยากอยู่กับพี่ตามลำพัง”
“ขึ้นรถ แล้วค่อยคุยกัน”
สิงหาดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งด้านใน มือดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดกลางลำตัวของเมษาแม้อีกฝ่ายจะไม่เต็มใจ แล้วรีบเดินอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง แล้วขับรถออกไปด้วยความเร็ว
“มีอะไรก็รีบพูดมา”เมษากระแทกเสียงใส่ด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าของเธอง้ำงอบ่งบอกถึงความอึดอัดที่ต้องอยู่กับอดีตคนรักสองต่อสอง ทั้งที่ตอนนี้ความรู้สึกของเธอที่มีให้กับอีกฝ่ายนั้นไม่เหมือนเดิม“ไปถึงร้านอาหารก่อน แล้วค่อยคุยกัน เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ พี่จำได้ว่าเธอชอบกิน…”สิงหาเอ่ยไม่ทันจบประโยค เมษาก็โพล่งขึ้น“ก็พาผู้หญิงของพี่ไปสิ อย่าลืมว่าฉันบอกเลิกพี่แล้ว เราไม่ได้เป็นอะไรกันอีก”“ได้ถามพี่รึยังว่าพี่ยอมเลิกกับเธอไหม ในเมื่อพี่ยังไม่ได้ตอบตกลงก็แปลว่าเรายังเหมือนเดิม”“น่าด้าน”เมษาถอนหายใจ ไม่คิดว่าเขาจะไร้ยางอายเช่นนี้ เธอเบี่ยงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรำคาญใจหันไปมองนอกกระจก วิวข้างทางยังน่ามองกว่าใบหน้าของสิงหาเสียอีก อากาศในรถก็เต็มไปด้วยมลพิษ แค่เธอยอมนั่งรถมาฟังเขาพูดพร่ำเรื่องไร้สาระ มันก็มากเกินทนแล้ว“หึ เราก็สมกันดีนี่ เจอกันครั้งก่อนเธอก็ไปยืนจูบกับใครก็ไม่รู้ พี่ยังไม่ถือสาเลย เธอก็อย่าเก็บเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่ใจเลยนะ แกล้งลืม ๆ มันไป แล้วเราก็มาเริ่มต้นกันใหม่”เมษาหันไปเผชิญหน้ากับแฟนเก่า เธอเอ่ยเสียงเข้มอย่างหมดความอดทน“เชิญคิดเองเออเองฝ่ายเดียวเถอะ ถ้า
ในคืนต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นเข้ามาเที่ยวที่ผับ ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาหาความสุขในยามค่ำคืน แต่ตั้งใจมาหาเรื่องลูกค้ารายอื่นที่นั่งโต๊ะใกล้กัน หวังก่อความวุ่นวายเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ผับดังในย่านไชนาทาวน์ผู้จัดการผับคนใหม่ที่คิงส์ตันรับเข้ามาทำงาน ได้นำชายหุ่นล่ำในชุดดำสี่ห้าคนซึ่งเป็นลูกน้องที่เขาจ้างมาดูแลความสงบเรียบร้อยเข้าไปเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นและลูกค้าโต๊ะอื่นเริ่มมีปากเสียงตะโกนด่ากันไปมา“เพลิง”“ครับนาย”“มึงลงไปจัดการไอ้เด็กเวรพวกนั้น แล้วอย่าลืมฝากไปบอกลูกพี่ของมันด้วยว่าอย่าส่งคนมาในถิ่นของกูอีก”น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงด้วยความรำคาญใจดังขึ้น ครั้งนี้เขาจะให้โอกาสกลับตัวเพราะเห็นว่าเป็นเด็กที่ยังเรียนไม่จบ อยู่ในวัยคึกคะนอง คงเห็นแก่เงินค่าจ้างไม่กี่บาท เลยทำตามที่ได้รับคำสั่งมา แต่หากยังมีครั้งหน้าคงไม่เหลือแม้แต่ชีวิตรอดออกไปจากที่นี่แน่เพลิงออกจากห้องทำงานของผู้เป็นนาย ก็ได้พาคนลงไปลากตัวกลุ่มวัยรุ่นชายทั้งห้าคนออกไปกระทืบบริเวณด้านหลังผับซึ่งเป็นที่ลับตาคน ก่อนปล่อยตัวก็ฝากถ้อยคำไปบอกลูกพี่ของพวกมันตามที่เจ้านายของตนสั่งการเด็กวัยรุ่น
เมษาออกแรงต่อต้าน มืออีกข้างที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระทั้งทุบและผลักแผงอกของคนในชุดสูตด้วยความไม่พอใจ เพราะนี่มันเป็นจูบแรกของเธอ เขากล้าขโมยมันไปได้ยังไงเพียะ!ทันทีที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายผละออกจากเธอพร้อมขยับตัวถอยหลังไปเล็กน้อย ใบหน้าข้างซ้ายของเขาก็ถูกฟาดด้วยฝ่ามือเล็กเสียงดังฟังชัดมาเฟียหนุ่มใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม กระตุกยิ้มมุมปากราวกับไม่รู้สึกระแคะระคายผิวหนังเลยแม้แต่น้อย แววตาคมดุเปล่งประกายราวกับชื่นชอบความเจ็บปวดที่ได้รับ ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์กระทันหันคว้าข้อมือของเธอแล้วออกแรงกระชาก ร่างเล็กถลาเข้ามากระแทกกับแผงอกล่ำ“ตบได้ดีนี่ นี่คือวิธีตอบแทนคนที่ช่วยเหลือเธออย่างนั้นเหรอ”“ปล่อยฉันนะ”คิ้วเรียวขมวดชนกัน หญิงสาวพยายามแกะข้อมือออกจากฝ่ามือใหญ่แต่ก็ไม่เป็นผล เปลี่ยนไปช้อนดวงตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจขึ้นมองอีกฝ่าย“ใครขอให้คุณช่วยไม่ทราบ แล้วไอ้การที่คุณมาทำบ้า ๆ แบบนี้กับฉัน มันเรียกว่าเสียมารยาท ไอ้คนโรคจิต โอ๊ย…”ข้อมือของเมษาถูกบีบแรงขึ้นอีกระดับ แววตาของคนแปลกหน้านั้นเยือกเย็น มุมปากที่กระตุกขึ้นก็ได้สร้างความรู้สึกหวาดหวั่นให้กับคนถูกกระทำ ทว่าเธอก็ยังทำใจกล้ายกมืออีกข้าง
อีกไม่กี่วันมหาวิทยาลัยก็ใกล้จะเปิดภาคเรียนที่สอง เมษาเดินทางกลับมาถึงคอนโดที่กรุงเทพฯ ก็โทรนัดเพื่อนสนิทอีกคนที่เรียนสาขาการออกแบบสื่อดิจิทัลด้วยกันไปเที่ยวคืนนี้สองสาวชวนกันแต่งตัวด้วยชุดเดรสทรงสั้นแนบเรือนร่าง โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งและหน้าอกกลมเด่นเย้ายวนแก่สายตาของชายหนุ่มในคราบนักดื่ม และทั้งคู่ก็มาถึง K.T. Demon Pub ในช่วงสองทุ่มกว่า“เลิกกันแล้วมึงก็อย่าเศร้านักเลย ผ่อนคลายเข้าไว้ แล้วก็ยก”อบเชยว่าพลางจับแก้วเหล้าผสมน้ำแข็งและโซดายัดใส่มือของเมษา ช่วงก่อนเพื่อนได้โทรมาระบายความช้ำใจทั้งหมดให้ฟัง เธอจึงกร่นด่าอดีตแฟนหนุ่มของเมษาไปหลายยกด้วยความเดือดดาลที่กล้าทำเรื่องต่ำทรามอย่างการนอกใจ และทำให้เพื่อนของเธอเสียใจไปหลายอาทิตย์อบเชยเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้ เธอเองก็เช่นกัน แต่จะปล่อยให้เพื่อนจมอยู่กับความทุกข์มันก็ไม่มีประโยชน์ ไม่สู้ใช้น้ำเมาและเสียงเพลงสร้างความสุขในคืนนี้ไม่ดีกว่าหรือในตอนที่เมษากลับบ้านและใช้โอกาสนี้ตัดใจจากผู้ชายไร้ยางอายที่คบกันได้เพียงเก้าเดือน สิงหาเป็นแฟนคนแรกที่เธอมี ด้วยความไร้ประสบการณ์เธอจึงเชื่อใจและไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าโกหก ทั
คิงส์ตันนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังดำขลับหลังโต๊ะทำงาน ไล่สายตาตรวจดูเอกสารของธุรกิจท่าเรือนำเข้าและส่งออก มือถือที่วางอยู่ใกล้กันก็ปรากฏแสงบนหน้าจอพร้อมกับอาการสั่น โชว์หราชื่อของคนที่โทรเข้ามามาเฟียหนุ่มวางแฟ้มในมือลง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย เลื่อนขึ้นไปทาบข้างหู“ครับม้า”“อาเฉิง นี่งานของลูกยุ่งมากเลยเหรอ หรือลืมไปแล้วว่ายังมีป๊ากับม้าอยู่ที่ฮ่องกง”น้ำเสียงตัดพ้อของผู้เป็นแม่ดังขึ้น หากลูกชายเพียงคนเดียวของบ้านขาดการไปนานกว่าสองสัปดาห์ ก็จะเป็นฝ่ายโทรมาเองเหมือนอย่างครั้งนี้ และเฉิงก็เป็นชื่อเล่นที่มีเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้นที่เรียกแบบนี้ได้“ช่วงนี้งานผมยุ่งมากครับ ท่าเรือกำลังจะมีสินค้าส่งออกล็อตใหญ่ ผมเลยต้องตรวจเช็กให้ละเอียด ม้าอย่าน้อยใจไปเลยนะครับ”“ยุ่งยังไงก็ควรจะหาเวลาโทรมาบ้าง”“ขอโทษครับ ต่อไปผมจะโทรไปหาบ่อย ๆ ม้าไม่ได้แค่จะโทรมาบ่นที่ผมไม่มีเวลาให้ใช่ไหมครับ”คิงส์ตันเอ่ยเข้าเรื่องทันที เขารู้ดีว่าการที่ผู้เป็นแม่โทรมาหาก่อนนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่คิดถึงลูกชาย แต่มีอีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือการดูตัว“สิ้นเดือนนี้ม้าได้นัดคนเอาไว้ที่ภัตตาคารเซียงหยง”“ใครอีกครับม้า”“ชื่อลี
คำเตือน : เนื้อหาในตอนนี้มีฉากความรุนแรง เลือดสาด“ผะ ผมขอโทษครับนาย ผมผิดไปแล้ว ไอ้สิงหามันยัดเงินให้ผม”ผู้จัดการผับน้ำตาคลอเบ้า ยกมือไหว้เรียกร้องการให้อภัย ที่ผ่านมาเขาตั้งใจทำงานอย่างระมัดระวัง อีกทั้งก่อนปล่อยบัตรวีไอพีให้ใครจะต้องเช็กประวัติให้ดี แต่ทว่าความหน้ามืดตามัวเห็นแก่เงินก็ได้ทำให้เขาละเลยหน้าที่ ปล่อยให้ศัตรูเข้ามาเหยียบที่นี่ได้โดยไร้การป้องกัน“อยากได้เงินของมัน แต่ไม่กลัวว่าจะโดนกูจับได้อย่างนั้นเหรอ มึงคิดว่ากูโง่มากหรือไง”คิงส์ตันถลึงตาใส่ มือหนาจับด้ามมีดแหลมคมปักลงบนพื้น อีกแค่นิดเดียวก็จะแทงลงบนหน้าขาของผู้จัดการผับอีกฝ่ายพรั่นพรึงจนหายใจไม่ทั่วท้อง เลื่อนแขนทั้งสองข้างเข้าไปกอดขาของผู้เป็นนายที่ชักมีดกลับไปถือไว้ แล้วหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“ผะ ผมขอโทษครับนาย ผมไม่ได้คิดกับนายแบบนั้น ตะ ตอนนั้นผมมีปัญหาเรื่องเงิน ผมจำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ นายให้โอกาสผมสักครั้งเถอะนะครับ”“หึ ร้อนเงินอย่างนั้นเหรอ งั้นก็แปลว่าถ้าใครยัดเงินให้มึง มึงก็จะปล่อยบัตรให้ใช่ไหม”“ผมผิดไปแล้ว วะ ไว้ชีวิตผมด้วยนะครับ ผมมีลูกเมียที่ต้องดูแล”ผู้จัดการผับส่ายหน้าระรัว เขากลัวมากจร





![สิงขร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

