LOGINเมษาออกแรงต่อต้าน มืออีกข้างที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระทั้งทุบและผลักแผงอกของคนในชุดสูตด้วยความไม่พอใจ เพราะนี่มันเป็นจูบแรกของเธอ เขากล้าขโมยมันไปได้ยังไง
เพียะ!
ทันทีที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายผละออกจากเธอพร้อมขยับตัวถอยหลังไปเล็กน้อย ใบหน้าข้างซ้ายของเขาก็ถูกฟาดด้วยฝ่ามือเล็กเสียงดังฟังชัด
มาเฟียหนุ่มใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม กระตุกยิ้มมุมปากราวกับไม่รู้สึกระแคะระคายผิวหนังเลยแม้แต่น้อย แววตาคมดุเปล่งประกายราวกับชื่นชอบความเจ็บปวดที่ได้รับ ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์กระทันหันคว้าข้อมือของเธอแล้วออกแรงกระชาก ร่างเล็กถลาเข้ามากระแทกกับแผงอกล่ำ
“ตบได้ดีนี่ นี่คือวิธีตอบแทนคนที่ช่วยเหลือเธออย่างนั้นเหรอ”
“ปล่อยฉันนะ”
คิ้วเรียวขมวดชนกัน หญิงสาวพยายามแกะข้อมือออกจากฝ่ามือใหญ่แต่ก็ไม่เป็นผล เปลี่ยนไปช้อนดวงตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจขึ้นมองอีกฝ่าย
“ใครขอให้คุณช่วยไม่ทราบ แล้วไอ้การที่คุณมาทำบ้า ๆ แบบนี้กับฉัน มันเรียกว่าเสียมารยาท ไอ้คนโรคจิต โอ๊ย…”
ข้อมือของเมษาถูกบีบแรงขึ้นอีกระดับ แววตาของคนแปลกหน้านั้นเยือกเย็น มุมปากที่กระตุกขึ้นก็ได้สร้างความรู้สึกหวาดหวั่นให้กับคนถูกกระทำ ทว่าเธอก็ยังทำใจกล้ายกมืออีกข้างขึ้นหมายจะตบเขาอีกสักฉาด
“ตบอีกสิ ถ้าตบฉันก็จะจูบ”
คิงส์ตันเอียงใบหน้าให้ เสียงขู่ของเขาทำให้ฝ่ามือของหญิงสาวชะงักไป เขาปล่อยข้อมือของเธอให้เป็นอิสระ ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างวางทาบกับผนัง ล็อกคนตัวเล็กไว้ระหว่างแขนทั้งสองข้าง
“ลืมไปแล้วเหรอว่าครั้งก่อนเธอเป็นคนขอให้ฉันช่วยเอง”
ประโยคที่ดังออกจากปากของอีกฝ่าย ส่งผลให้เมษายืนนิ่งอย่างใช้ความคิด เกิดความรู้สึกว่าใบหน้าหล่อเหลา มีรอยบากตรงคิ้วข้างขวา อีกทั้งยังสวมชุดสูตสีดำทั้งตัว เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
และในขณะนั้นเองคิงส์ตันก็เลื่อนใบหน้าเข้าไปด้านข้าง ลมหายใจอุ่นเป่ารดพวงแก้มแดงระเรื่อและใบหูของเธอในเวลาเดียวกัน
“วันที่แฟนเธอจูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอเป็นคนดึงฉันเข้าไปบังสองคนนั้น”
คิงส์ตันตอกย้ำภาพความเจ็บปวดนั้นอีกครั้ง ภาพที่คิดว่าคนพวกนั้นร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อดึงเขาเข้ามาอยู่ในเกมทางธุรกิจ โดยใช้ผู้หญิงคนนี้เป็นเหยี่อล่อให้ติดกับ แล้วค่อยหาวิธีทำลายเขาให้ย่อยยับ
“คุณคือ…” เมษานึกออกทันที ภาพเหตุการณ์วันนั้นเธอยังจำฝังใจ
“คืนนั้นฉันก็ขอบคุณและก็ขอโทษคุณไปแล้วไง คุณยังต้องการอะไรอีก ปล่อยฉันไป แล้วฉันจะไม่เอาเรื่องที่คุณมา…” เธอไม่กล้าเอ่ยคำว่าจูบ เพราะมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีที่ควรเอ่ยถึง
“หึ น่ากลัวจัง ไหนลองบอกมาสิว่าจะเอาเรื่องฉันยังไง ฉันกำลังช่วยให้เธอได้เอาคืนไอ้หมอนั่น ครั้งก่อนมันจูบกับใครก็ไม่รู้ ครั้งนี้ก็ให้มันได้เห็นภาพแบบนั้นบ้างจะได้รู้ซึ้งกับความรู้สึกที่เธอเคยได้รับ เธอควรจะขอบคุณฉันมากกว่านะ ไม่ใช่มาขู่”
“ฉะ ฉัน ขอบคุณ” เธอเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่น
ถ้อยคำของอีกฝ่ายนั้นทิ่มแทงใจได้อย่างถูกจุด เรื่องนี้เธอขอบคุณจากใจที่ทำให้แฟนเก่ามาเห็นภาพบาดตา แต่การขโมยจูบมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีเลยด้วยซ้ำ ยังนึกโกรธไม่หายที่เสียจูบแรกให้กับคนแปลกหน้าที่แม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้จัก เธอลืมไปด้วยซ้ำว่าครั้งก่อนเคยเจอกัน
“ขอบคุณแบบไม่เต็มใจ ฉันขอไม่รับ”
“แล้วจะเอายังไง” เมษาเอ่ยน้ำเสียงเข้ม ใบหน้าของเธอจริงจังกว่าเมื่อครู่ เพราะอีกฝ่ายเริ่มพูดจายียวน
“ฉันช่วยเธอ เธอก็ควรตอบแทนด้วยการช่วยเหลือฉันสิถึงจะถูก”
“จะให้ช่วยอะไรก็รีบ ๆ บอกมา จะได้ทำให้มันจบ ๆ”
“ตอนนี้ยังนึกไม่ออก ถ้านึกออกแล้วจะบอก”
มุมปากของคิงส์ตันคลี่ยิ้มเล็กน้อยราวกับมีแผนการอยู่ในใจ มือหนาเชยปลายคางของหญิงสาวขึ้นเพื่อให้มองเห็นใบหน้าของเขาชัด ๆ และจำให้ขึ้นใจ
“ฉันชื่อคิงส์ตัน จำชื่อฉันเอาไว้ อีกหน่อยเราได้รู้จักกันดีแน่”
เอ่ยจบเขาก็เดินหนีไป ปล่อยให้เมษาจมอยู่กับความสงสัยกับประโยคส่งท้ายที่ว่าอีกหน่อยจะได้รู้จักกันดี มันหมายความว่ายังไงกันแน่
ดวงตากลมโตจ้องมองแผ่นหลังของคนที่ก้าวไปตามทางเดินมืดสลัว เสียงรองเท้าหนังขัดเงาเหยียบบันไดขึ้นไปยังชั้นสองของผับทีละขั้น ให้ความรู้สึกหนักแน่น ท่วงท่าดุดัน เหมือนคนมีอำนาจอยู่ในมือ จนกระทั่งเขาหายออกไปจากสายตา
คงคิดว่าจะได้เจอเธออีกล่ะสิท่า ต่อไปเธอคงไม่มาเหยียบที่ผับแห่งนี้อีก จะได้ไม่เจอไอ้บ้ากามที่ชอบหาเศษหาเลยกับผู้หญิง
เมษาเข้าไปหาอบเชยที่โต๊ะ กะว่าจะชวนเพื่อนกลับเลย ทว่าอีกฝ่ายยังติดลม จึงถูกรั้งตัวให้อยู่ต่อ
“เป็นคนชวนมาแท้ ๆ มึงจะรีบกลับไปไหน เหล้าเหลือแค่นี้เอง ช่วยกันกินก่อนดิ”
อบเชยเอ่ยพลางคว้าขวดเหล้าเทใส่แก้วของเพื่อนพร้อมกับน้ำแข็งและโซดา ก่อนจะยื่นให้กับเมษาที่หายไปเข้าห้องน้ำตั้งนานสองนาน ปล่อยให้เธอนั่งหงอยเหงาอยู่คนเดียว อีกอย่างเหล้าก็เหลือจากก้นขวดไม่มาก นั่งกันต่อสักครึ่งชั่วโมงก็คงจะหมด
เมษาจำใจต้องนั่งดื่มเหล้าต่ออย่างหวาดระแวง เพราะเกรงว่าจะเจอกับแฟนเก่าอีก และไม่รู้ว่าเมื่อครู่เขาถูกลากตัวออกไปที่ไหน และภาพของเธอที่นั่งอยู่กับอบเชยก็อยู่ในสายตาของมาเฟียเจ้าของผับ
คิงส์ตันยืนจ้องมองลงมาชั้นล่างผ่านกระจกสีดำบนห้องทำงาน ในขณะนั้นเองประตูก็ถูกเปิดเข้ามา เพลิงเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังของผู้เป็นนาย
“ผมทำตามที่นายสั่งเรียบร้อยแล้วครับ”
ริมฝีปากของคิงส์ตันกระตุกขึ้นด้วยแววตาพึงพอใจ ตอนนี้คนที่ถูกซ้อมจนสลบได้ถูกลูกน้องของเขานำตัวไปทิ้งไว้ข้างรถสปอร์ตคันสีน้ำเงินตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย พอน้องชายของคู่อริตื่นขึ้นมาจะได้ไม่เสียเวลามองหาว่ารถของตัวเองนั้นจอดอยู่ตรงไหน
“จับตาดูสองคนนี้ต่อไป”
“ครับ” เพลิงขานรับคำสั่งก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป
เขาเป็นลูกน้องคนสนิท เป็นบอดีการ์ดส่วนตัวให้กับคิงส์ตันมาหลายปี ผู้เป็นนายออกคำสั่งเพียงไม่กี่คำก็เข้าใจได้ทันทีว่าหมายถึงเมษากับคนรักของเธอ
“มีอะไรก็รีบพูดมา”เมษากระแทกเสียงใส่ด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าของเธอง้ำงอบ่งบอกถึงความอึดอัดที่ต้องอยู่กับอดีตคนรักสองต่อสอง ทั้งที่ตอนนี้ความรู้สึกของเธอที่มีให้กับอีกฝ่ายนั้นไม่เหมือนเดิม“ไปถึงร้านอาหารก่อน แล้วค่อยคุยกัน เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ พี่จำได้ว่าเธอชอบกิน…”สิงหาเอ่ยไม่ทันจบประโยค เมษาก็โพล่งขึ้น“ก็พาผู้หญิงของพี่ไปสิ อย่าลืมว่าฉันบอกเลิกพี่แล้ว เราไม่ได้เป็นอะไรกันอีก”“ได้ถามพี่รึยังว่าพี่ยอมเลิกกับเธอไหม ในเมื่อพี่ยังไม่ได้ตอบตกลงก็แปลว่าเรายังเหมือนเดิม”“น่าด้าน”เมษาถอนหายใจ ไม่คิดว่าเขาจะไร้ยางอายเช่นนี้ เธอเบี่ยงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรำคาญใจหันไปมองนอกกระจก วิวข้างทางยังน่ามองกว่าใบหน้าของสิงหาเสียอีก อากาศในรถก็เต็มไปด้วยมลพิษ แค่เธอยอมนั่งรถมาฟังเขาพูดพร่ำเรื่องไร้สาระ มันก็มากเกินทนแล้ว“หึ เราก็สมกันดีนี่ เจอกันครั้งก่อนเธอก็ไปยืนจูบกับใครก็ไม่รู้ พี่ยังไม่ถือสาเลย เธอก็อย่าเก็บเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่ใจเลยนะ แกล้งลืม ๆ มันไป แล้วเราก็มาเริ่มต้นกันใหม่”เมษาหันไปเผชิญหน้ากับแฟนเก่า เธอเอ่ยเสียงเข้มอย่างหมดความอดทน“เชิญคิดเองเออเองฝ่ายเดียวเถอะ ถ้า
ในคืนต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นเข้ามาเที่ยวที่ผับ ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาหาความสุขในยามค่ำคืน แต่ตั้งใจมาหาเรื่องลูกค้ารายอื่นที่นั่งโต๊ะใกล้กัน หวังก่อความวุ่นวายเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ผับดังในย่านไชนาทาวน์ผู้จัดการผับคนใหม่ที่คิงส์ตันรับเข้ามาทำงาน ได้นำชายหุ่นล่ำในชุดดำสี่ห้าคนซึ่งเป็นลูกน้องที่เขาจ้างมาดูแลความสงบเรียบร้อยเข้าไปเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นและลูกค้าโต๊ะอื่นเริ่มมีปากเสียงตะโกนด่ากันไปมา“เพลิง”“ครับนาย”“มึงลงไปจัดการไอ้เด็กเวรพวกนั้น แล้วอย่าลืมฝากไปบอกลูกพี่ของมันด้วยว่าอย่าส่งคนมาในถิ่นของกูอีก”น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงด้วยความรำคาญใจดังขึ้น ครั้งนี้เขาจะให้โอกาสกลับตัวเพราะเห็นว่าเป็นเด็กที่ยังเรียนไม่จบ อยู่ในวัยคึกคะนอง คงเห็นแก่เงินค่าจ้างไม่กี่บาท เลยทำตามที่ได้รับคำสั่งมา แต่หากยังมีครั้งหน้าคงไม่เหลือแม้แต่ชีวิตรอดออกไปจากที่นี่แน่เพลิงออกจากห้องทำงานของผู้เป็นนาย ก็ได้พาคนลงไปลากตัวกลุ่มวัยรุ่นชายทั้งห้าคนออกไปกระทืบบริเวณด้านหลังผับซึ่งเป็นที่ลับตาคน ก่อนปล่อยตัวก็ฝากถ้อยคำไปบอกลูกพี่ของพวกมันตามที่เจ้านายของตนสั่งการเด็กวัยรุ่น
เมษาออกแรงต่อต้าน มืออีกข้างที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระทั้งทุบและผลักแผงอกของคนในชุดสูตด้วยความไม่พอใจ เพราะนี่มันเป็นจูบแรกของเธอ เขากล้าขโมยมันไปได้ยังไงเพียะ!ทันทีที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายผละออกจากเธอพร้อมขยับตัวถอยหลังไปเล็กน้อย ใบหน้าข้างซ้ายของเขาก็ถูกฟาดด้วยฝ่ามือเล็กเสียงดังฟังชัดมาเฟียหนุ่มใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม กระตุกยิ้มมุมปากราวกับไม่รู้สึกระแคะระคายผิวหนังเลยแม้แต่น้อย แววตาคมดุเปล่งประกายราวกับชื่นชอบความเจ็บปวดที่ได้รับ ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์กระทันหันคว้าข้อมือของเธอแล้วออกแรงกระชาก ร่างเล็กถลาเข้ามากระแทกกับแผงอกล่ำ“ตบได้ดีนี่ นี่คือวิธีตอบแทนคนที่ช่วยเหลือเธออย่างนั้นเหรอ”“ปล่อยฉันนะ”คิ้วเรียวขมวดชนกัน หญิงสาวพยายามแกะข้อมือออกจากฝ่ามือใหญ่แต่ก็ไม่เป็นผล เปลี่ยนไปช้อนดวงตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจขึ้นมองอีกฝ่าย“ใครขอให้คุณช่วยไม่ทราบ แล้วไอ้การที่คุณมาทำบ้า ๆ แบบนี้กับฉัน มันเรียกว่าเสียมารยาท ไอ้คนโรคจิต โอ๊ย…”ข้อมือของเมษาถูกบีบแรงขึ้นอีกระดับ แววตาของคนแปลกหน้านั้นเยือกเย็น มุมปากที่กระตุกขึ้นก็ได้สร้างความรู้สึกหวาดหวั่นให้กับคนถูกกระทำ ทว่าเธอก็ยังทำใจกล้ายกมืออีกข้าง
อีกไม่กี่วันมหาวิทยาลัยก็ใกล้จะเปิดภาคเรียนที่สอง เมษาเดินทางกลับมาถึงคอนโดที่กรุงเทพฯ ก็โทรนัดเพื่อนสนิทอีกคนที่เรียนสาขาการออกแบบสื่อดิจิทัลด้วยกันไปเที่ยวคืนนี้สองสาวชวนกันแต่งตัวด้วยชุดเดรสทรงสั้นแนบเรือนร่าง โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งและหน้าอกกลมเด่นเย้ายวนแก่สายตาของชายหนุ่มในคราบนักดื่ม และทั้งคู่ก็มาถึง K.T. Demon Pub ในช่วงสองทุ่มกว่า“เลิกกันแล้วมึงก็อย่าเศร้านักเลย ผ่อนคลายเข้าไว้ แล้วก็ยก”อบเชยว่าพลางจับแก้วเหล้าผสมน้ำแข็งและโซดายัดใส่มือของเมษา ช่วงก่อนเพื่อนได้โทรมาระบายความช้ำใจทั้งหมดให้ฟัง เธอจึงกร่นด่าอดีตแฟนหนุ่มของเมษาไปหลายยกด้วยความเดือดดาลที่กล้าทำเรื่องต่ำทรามอย่างการนอกใจ และทำให้เพื่อนของเธอเสียใจไปหลายอาทิตย์อบเชยเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้ เธอเองก็เช่นกัน แต่จะปล่อยให้เพื่อนจมอยู่กับความทุกข์มันก็ไม่มีประโยชน์ ไม่สู้ใช้น้ำเมาและเสียงเพลงสร้างความสุขในคืนนี้ไม่ดีกว่าหรือในตอนที่เมษากลับบ้านและใช้โอกาสนี้ตัดใจจากผู้ชายไร้ยางอายที่คบกันได้เพียงเก้าเดือน สิงหาเป็นแฟนคนแรกที่เธอมี ด้วยความไร้ประสบการณ์เธอจึงเชื่อใจและไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าโกหก ทั
คิงส์ตันนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังดำขลับหลังโต๊ะทำงาน ไล่สายตาตรวจดูเอกสารของธุรกิจท่าเรือนำเข้าและส่งออก มือถือที่วางอยู่ใกล้กันก็ปรากฏแสงบนหน้าจอพร้อมกับอาการสั่น โชว์หราชื่อของคนที่โทรเข้ามามาเฟียหนุ่มวางแฟ้มในมือลง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย เลื่อนขึ้นไปทาบข้างหู“ครับม้า”“อาเฉิง นี่งานของลูกยุ่งมากเลยเหรอ หรือลืมไปแล้วว่ายังมีป๊ากับม้าอยู่ที่ฮ่องกง”น้ำเสียงตัดพ้อของผู้เป็นแม่ดังขึ้น หากลูกชายเพียงคนเดียวของบ้านขาดการไปนานกว่าสองสัปดาห์ ก็จะเป็นฝ่ายโทรมาเองเหมือนอย่างครั้งนี้ และเฉิงก็เป็นชื่อเล่นที่มีเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้นที่เรียกแบบนี้ได้“ช่วงนี้งานผมยุ่งมากครับ ท่าเรือกำลังจะมีสินค้าส่งออกล็อตใหญ่ ผมเลยต้องตรวจเช็กให้ละเอียด ม้าอย่าน้อยใจไปเลยนะครับ”“ยุ่งยังไงก็ควรจะหาเวลาโทรมาบ้าง”“ขอโทษครับ ต่อไปผมจะโทรไปหาบ่อย ๆ ม้าไม่ได้แค่จะโทรมาบ่นที่ผมไม่มีเวลาให้ใช่ไหมครับ”คิงส์ตันเอ่ยเข้าเรื่องทันที เขารู้ดีว่าการที่ผู้เป็นแม่โทรมาหาก่อนนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่คิดถึงลูกชาย แต่มีอีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือการดูตัว“สิ้นเดือนนี้ม้าได้นัดคนเอาไว้ที่ภัตตาคารเซียงหยง”“ใครอีกครับม้า”“ชื่อลี
คำเตือน : เนื้อหาในตอนนี้มีฉากความรุนแรง เลือดสาด“ผะ ผมขอโทษครับนาย ผมผิดไปแล้ว ไอ้สิงหามันยัดเงินให้ผม”ผู้จัดการผับน้ำตาคลอเบ้า ยกมือไหว้เรียกร้องการให้อภัย ที่ผ่านมาเขาตั้งใจทำงานอย่างระมัดระวัง อีกทั้งก่อนปล่อยบัตรวีไอพีให้ใครจะต้องเช็กประวัติให้ดี แต่ทว่าความหน้ามืดตามัวเห็นแก่เงินก็ได้ทำให้เขาละเลยหน้าที่ ปล่อยให้ศัตรูเข้ามาเหยียบที่นี่ได้โดยไร้การป้องกัน“อยากได้เงินของมัน แต่ไม่กลัวว่าจะโดนกูจับได้อย่างนั้นเหรอ มึงคิดว่ากูโง่มากหรือไง”คิงส์ตันถลึงตาใส่ มือหนาจับด้ามมีดแหลมคมปักลงบนพื้น อีกแค่นิดเดียวก็จะแทงลงบนหน้าขาของผู้จัดการผับอีกฝ่ายพรั่นพรึงจนหายใจไม่ทั่วท้อง เลื่อนแขนทั้งสองข้างเข้าไปกอดขาของผู้เป็นนายที่ชักมีดกลับไปถือไว้ แล้วหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“ผะ ผมขอโทษครับนาย ผมไม่ได้คิดกับนายแบบนั้น ตะ ตอนนั้นผมมีปัญหาเรื่องเงิน ผมจำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ นายให้โอกาสผมสักครั้งเถอะนะครับ”“หึ ร้อนเงินอย่างนั้นเหรอ งั้นก็แปลว่าถ้าใครยัดเงินให้มึง มึงก็จะปล่อยบัตรให้ใช่ไหม”“ผมผิดไปแล้ว วะ ไว้ชีวิตผมด้วยนะครับ ผมมีลูกเมียที่ต้องดูแล”ผู้จัดการผับส่ายหน้าระรัว เขากลัวมากจร







