LOGIN“มีอะไรก็รีบพูดมา”
เมษากระแทกเสียงใส่ด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าของเธอง้ำงอบ่งบอกถึงความอึดอัดที่ต้องอยู่กับอดีตคนรักสองต่อสอง ทั้งที่ตอนนี้ความรู้สึกของเธอที่มีให้กับอีกฝ่ายนั้นไม่เหมือนเดิม
“ไปถึงร้านอาหารก่อน แล้วค่อยคุยกัน เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ พี่จำได้ว่าเธอชอบกิน…”
สิงหาเอ่ยไม่ทันจบประโยค เมษาก็โพล่งขึ้น
“ก็พาผู้หญิงของพี่ไปสิ อย่าลืมว่าฉันบอกเลิกพี่แล้ว เราไม่ได้เป็นอะไรกันอีก”
“ได้ถามพี่รึยังว่าพี่ยอมเลิกกับเธอไหม ในเมื่อพี่ยังไม่ได้ตอบตกลงก็แปลว่าเรายังเหมือนเดิม”
“น่าด้าน”
เมษาถอนหายใจ ไม่คิดว่าเขาจะไร้ยางอายเช่นนี้ เธอเบี่ยงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรำคาญใจหันไปมองนอกกระจก วิวข้างทางยังน่ามองกว่าใบหน้าของสิงหาเสียอีก อากาศในรถก็เต็มไปด้วยมลพิษ แค่เธอยอมนั่งรถมาฟังเขาพูดพร่ำเรื่องไร้สาระ มันก็มากเกินทนแล้ว
“หึ เราก็สมกันดีนี่ เจอกันครั้งก่อนเธอก็ไปยืนจูบกับใครก็ไม่รู้ พี่ยังไม่ถือสาเลย เธอก็อย่าเก็บเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่ใจเลยนะ แกล้งลืม ๆ มันไป แล้วเราก็มาเริ่มต้นกันใหม่”
เมษาหันไปเผชิญหน้ากับแฟนเก่า เธอเอ่ยเสียงเข้มอย่างหมดความอดทน
“เชิญคิดเองเออเองฝ่ายเดียวเถอะ ถ้ามีเรื่องจะพูดกับฉันแค่นี้ก็จอดรถ ฉันจะลง”
“พี่บอกแล้วไงว่าไปกินข้าวด้วยกันก่อน”
“ถ้าพี่ไม่จอด เพื่อนฉันได้แจ้งความแน่”
เมษายกโทรศัพท์หันหน้าจอที่มีตัวเลขแสดงการโทรปรากฏอยู่บนหน้าจอให้อีกฝ่ายดู
ตอนที่สิงหาพาเธอเข้ามานั่งในรถได้สำเร็จแล้วเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ เธอก็รีบโทรไปหามารีน ซึ่งเป็นชื่อที่ค้นหาเจอในเวลาเร่งด่วน
ทางด้านมารีนรับสายแล้วได้ยินบทสนทนาที่โต้กลับกันไปมา ก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนกำลังอยู่กับแฟนเก่าตามลำพัง เธอจึงกดบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน แล้วฟังอยู่เงียบ ๆ
สิงหากัดกรามแน่นที่เสียรู้ให้กับเมษา จำใจต้องกระพริบไฟเลี้ยวหักพวงมาลัยไปทางซ้ายมือ
พอรถจอดสนิทเมษาก็เลื่อนมือปลดเข็มขัดนิรภัย เปิดประตูก้าวลงไปยืนอยู่บนพื้นถนนลาดยาง สิงหารีบกดปุ่มลดกระจกลงจนสุด
“ก่อนนอนพี่โทรหานะ”
“ไม่ต้อง ยังไงฉันก็ลบพี่ออกไปจากชีวิตแล้ว หวังว่าเราคงไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก”
หญิงสาวเอ่ยประโยคส่งท้ายออกมา ส่งผลให้คิ้วเข้มของคนในรถขมวดเข้าหากันเป็นปม ยิ่งเห็นเมษามีความเด็ดเดี่ยว เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ
“พี่ไม่มีวันปล่อยเธอไปหรอก ยังไงเราก็ต้องกลับมารักกัน”
“หึ ไปนอนฝันเอาเถอะ”
หญิงสาวเอ่ยจบก็รีบเดินหนีออกไป ถ้าอีกฝ่ายอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ มันไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหวได้เลยสักนิด กลับกันมันยิ่งทำให้เธอรำคาญใจและเหม็นขี้หน้าเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
เมษาเดินห่างจากรถของแฟนเก่าได้ประมาณยี่สิบเมตร ขณะที่รถของเขายังจอดนิ่งคล้ายกับรอดูว่าเธอจะปากเก่งไปได้สักกี่น้ำ แต่แล้วก็มีรถหรูสีดำคันหนึ่งแล่นมาหยุดลงตรงที่เธอเดินอยู่พอดิบพอดี
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยมองเข้าไปในกระจกสีดำสนิทของที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง กระจกก็เลื่อนลงจนเห็นใบหน้าหล่อเข้ม เจ้าของรอยบากตรงคิ้วข้างขวาที่หันใบหน้าดุดันจ้องมาทางเธอเช่นกัน
“ขึ้นรถ” น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นอย่างออกคำสั่ง
“ทำไมฉันต้องไปกับคุณ”
“หรือว่าเธออยากจะไปกับรถคันนั้นก็ตามใจ”
คิงส์ตันพยักหน้าขึ้นใช้ปลายคางชี้ไปยังรถของสิงหาที่ยังจอดคล้ายกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยจบมือก็กดปุ่มเลื่อนกระจกขึ้นทันที
เมษาหันมองซ้ายมองขวาอย่างชั่งใจ แถวนี้ไม่มีที่นั่งรอรถโดยสารประจำทาง ไม่มีฟุตบาทให้ก้าวเดิน หากเดินริมถนนไปเรื่อย ๆ คงไม่ปลอดภัย อีกอย่างรถของอดีตคนรักก็ยังไม่ขับออกไปเสียที เธอจึงรีบตัดสินใจก่อนที่กระจกจะปิดสนิท
“ก็ได้ ๆ ฉันจะไปกับคุณ แต่ว่ารอเดี๋ยว”
เธอจ้ำอ้าวไปหยุดอยู่ที่ท้ายรถ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายแผ่นป้ายทะเบียน จากนั้นก็รีบเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านใน ก่อนจะถือวิสาสะถ่ายรูปของคนที่นั่งทำหน้าเคร่งขรึมอยู่ตรงเบาะหลัง แล้วเอ่ยเรียกคนที่นั่งเบาะคนขับ
“พี่คะ หันหน้ามาหน่อยค่ะ”
เพลิงหันใบหน้ามาตามเสียงเรียกของนักศึกษาสาว ก่อนจะถูกบันทึกภาพไปอีกคน สร้างความรำคาญใจให้กับเจ้านายที่นั่งเบาะด้านหลังไม่น้อย
“ทำอะไร”
คิงส์ตันเอ่ยถามหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาส่งรูปถ่ายไปให้ใครบางคน
“ฉันถ่ายป้ายทะเบียนกับใบหน้าของพวกคุณเอาไว้แล้ว ถ้าหากฉันเป็นอะไรขึ้นมาหรือว่าขาดการติดต่อนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เพื่อนของฉันจะได้เอาหลักฐานไปแจ้งความ”
มาเฟียหนุ่มจ้องมองใบหน้าของเธอ ไม่คิดว่าเมษาจะรอบคอบขนาดนี้
ก่อนหน้านี้รถของคิงส์ตันได้ขับผ่านหน้ามหาวิทยาลัยที่เธอเรียน บังเอิญเห็นเมษาเข้าไปนั่งในรถของสิงหา เขาจึงสั่งให้เพลิงขับรถตามจนมาถึงที่นี่ เพราะอยากรู้ว่าคนพวกนั้นจะมาไม้ไหนกันแน่
“พักอยู่ที่ไหน”
“คุณจะไปส่งฉันเหรอ ถ้างั้นส่งฉันลงที่หน้าคลินิกทันตกรรม บีเค เดนทัล สไมล์ ก็พอ”
เธอไม่อยากบอกที่อยู่คอนโดให้คนแปลกหน้าทราบ เขาไม่จำเป็นต้องไปส่งถึงที่ อีกอย่างก็ต้องแวะซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อซึ่งอยู่ติดกับคลินิกทำฟันที่ว่าพอดี ก็ให้ไปส่งตรงนั้นเลยแล้วกัน
เมื่อรถของมาเฟียหนุ่มเริ่มเคลื่อนตัวออกไป อดีตคนรักอย่างสิงหาที่เห็นว่าเมษาขึ้นรถไปกับใครไม่รู้ จึงคิดจะขับรถตามไปดูให้เห็นกับตา ทว่าจู่ ๆ ก็มีรถพุ่งชนท้ายกระโปรงหลังยุบเล็กน้อย ทำให้ต้องเสียเวลาเคลียร์เรื่องอุบัติเหตุแทน
หญิงสาวในชุดนักศึกษานั่งอยู่บนรถหรูไม่นานมือของเธอก็เย็นเฉียบ เริ่มรู้สึกหนาวไปทั้งตัวจนนั่งตัวเกร็ง
ชายที่นั่งข้างเธอเขาดูเหมือนมนุษย์ในคราบแวมไพร์ แม้ใบหน้าของเขาจะหล่อเหลา มาดนิ่งขรึม แต่ก็มีความดุดันในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นสเปกของผู้หญิงหลาย ๆ คน ทว่ากลับมีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าเขาเก็บซ่อนความโหดร้าย ความเจ้าเล่ห์ที่ยากเกินจะคาดเดา ทำให้รู้สึกว่าน่าค้นหาอย่างบอกไม่ถูก
แม้ว่าเธอมีทางเลือกอื่นคือรอเรียกรถแท็กซี หรือเรียกรถรับจ้างในแอปพลิเคชัน แต่ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรรถถึงจะมารับ ไม่แน่ว่าอาจจะถูกสิงหาบังคับให้นั่งไปกับเขาอีก เธอจึงเลือกมากับคนแปลกหน้าดีกว่า
ทว่าก็น่าแปลกกับการตัดสินใจของเธอ เพราะมันแปลว่าไว้ใจเขามากกว่าอดีตแฟนหนุ่มเสียอีก
แต่อย่างน้อยมารีนก็รู้แล้วว่าเธออยู่บนรถคันนี้กับผู้ชายสองคน หากขาดการติดต่อเพื่อนรักของเธอรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร
“คะ คุณจะทำอะไร”
คนที่นั่งข้างกันจู่ ๆ ก็ถอดเสื้อสูตสีดำที่สวมทับเสื้อเชิ้ตสีขาวออก แววตาของเมษาฉายชัดถึงความตกใจ ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเริ่มสั่นคล้ายกับแผ่นดินไหว คงไม่ได้คิดจะทำมิดีมิร้ายกับเธอบนรถหรอกใช่ไหม
เห็นเธอบอบบางแบบนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะยอมคน หากปลุกปล้ำเธอขึ้นมา ยัยเมษาคนนี้ก็จะสู้จนสุดแรงเกิดเลยคอยดู
“มีอะไรก็รีบพูดมา”เมษากระแทกเสียงใส่ด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าของเธอง้ำงอบ่งบอกถึงความอึดอัดที่ต้องอยู่กับอดีตคนรักสองต่อสอง ทั้งที่ตอนนี้ความรู้สึกของเธอที่มีให้กับอีกฝ่ายนั้นไม่เหมือนเดิม“ไปถึงร้านอาหารก่อน แล้วค่อยคุยกัน เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ พี่จำได้ว่าเธอชอบกิน…”สิงหาเอ่ยไม่ทันจบประโยค เมษาก็โพล่งขึ้น“ก็พาผู้หญิงของพี่ไปสิ อย่าลืมว่าฉันบอกเลิกพี่แล้ว เราไม่ได้เป็นอะไรกันอีก”“ได้ถามพี่รึยังว่าพี่ยอมเลิกกับเธอไหม ในเมื่อพี่ยังไม่ได้ตอบตกลงก็แปลว่าเรายังเหมือนเดิม”“น่าด้าน”เมษาถอนหายใจ ไม่คิดว่าเขาจะไร้ยางอายเช่นนี้ เธอเบี่ยงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรำคาญใจหันไปมองนอกกระจก วิวข้างทางยังน่ามองกว่าใบหน้าของสิงหาเสียอีก อากาศในรถก็เต็มไปด้วยมลพิษ แค่เธอยอมนั่งรถมาฟังเขาพูดพร่ำเรื่องไร้สาระ มันก็มากเกินทนแล้ว“หึ เราก็สมกันดีนี่ เจอกันครั้งก่อนเธอก็ไปยืนจูบกับใครก็ไม่รู้ พี่ยังไม่ถือสาเลย เธอก็อย่าเก็บเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่ใจเลยนะ แกล้งลืม ๆ มันไป แล้วเราก็มาเริ่มต้นกันใหม่”เมษาหันไปเผชิญหน้ากับแฟนเก่า เธอเอ่ยเสียงเข้มอย่างหมดความอดทน“เชิญคิดเองเออเองฝ่ายเดียวเถอะ ถ้า
ในคืนต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นเข้ามาเที่ยวที่ผับ ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาหาความสุขในยามค่ำคืน แต่ตั้งใจมาหาเรื่องลูกค้ารายอื่นที่นั่งโต๊ะใกล้กัน หวังก่อความวุ่นวายเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ผับดังในย่านไชนาทาวน์ผู้จัดการผับคนใหม่ที่คิงส์ตันรับเข้ามาทำงาน ได้นำชายหุ่นล่ำในชุดดำสี่ห้าคนซึ่งเป็นลูกน้องที่เขาจ้างมาดูแลความสงบเรียบร้อยเข้าไปเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นและลูกค้าโต๊ะอื่นเริ่มมีปากเสียงตะโกนด่ากันไปมา“เพลิง”“ครับนาย”“มึงลงไปจัดการไอ้เด็กเวรพวกนั้น แล้วอย่าลืมฝากไปบอกลูกพี่ของมันด้วยว่าอย่าส่งคนมาในถิ่นของกูอีก”น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงด้วยความรำคาญใจดังขึ้น ครั้งนี้เขาจะให้โอกาสกลับตัวเพราะเห็นว่าเป็นเด็กที่ยังเรียนไม่จบ อยู่ในวัยคึกคะนอง คงเห็นแก่เงินค่าจ้างไม่กี่บาท เลยทำตามที่ได้รับคำสั่งมา แต่หากยังมีครั้งหน้าคงไม่เหลือแม้แต่ชีวิตรอดออกไปจากที่นี่แน่เพลิงออกจากห้องทำงานของผู้เป็นนาย ก็ได้พาคนลงไปลากตัวกลุ่มวัยรุ่นชายทั้งห้าคนออกไปกระทืบบริเวณด้านหลังผับซึ่งเป็นที่ลับตาคน ก่อนปล่อยตัวก็ฝากถ้อยคำไปบอกลูกพี่ของพวกมันตามที่เจ้านายของตนสั่งการเด็กวัยรุ่น
เมษาออกแรงต่อต้าน มืออีกข้างที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระทั้งทุบและผลักแผงอกของคนในชุดสูตด้วยความไม่พอใจ เพราะนี่มันเป็นจูบแรกของเธอ เขากล้าขโมยมันไปได้ยังไงเพียะ!ทันทีที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายผละออกจากเธอพร้อมขยับตัวถอยหลังไปเล็กน้อย ใบหน้าข้างซ้ายของเขาก็ถูกฟาดด้วยฝ่ามือเล็กเสียงดังฟังชัดมาเฟียหนุ่มใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม กระตุกยิ้มมุมปากราวกับไม่รู้สึกระแคะระคายผิวหนังเลยแม้แต่น้อย แววตาคมดุเปล่งประกายราวกับชื่นชอบความเจ็บปวดที่ได้รับ ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์กระทันหันคว้าข้อมือของเธอแล้วออกแรงกระชาก ร่างเล็กถลาเข้ามากระแทกกับแผงอกล่ำ“ตบได้ดีนี่ นี่คือวิธีตอบแทนคนที่ช่วยเหลือเธออย่างนั้นเหรอ”“ปล่อยฉันนะ”คิ้วเรียวขมวดชนกัน หญิงสาวพยายามแกะข้อมือออกจากฝ่ามือใหญ่แต่ก็ไม่เป็นผล เปลี่ยนไปช้อนดวงตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจขึ้นมองอีกฝ่าย“ใครขอให้คุณช่วยไม่ทราบ แล้วไอ้การที่คุณมาทำบ้า ๆ แบบนี้กับฉัน มันเรียกว่าเสียมารยาท ไอ้คนโรคจิต โอ๊ย…”ข้อมือของเมษาถูกบีบแรงขึ้นอีกระดับ แววตาของคนแปลกหน้านั้นเยือกเย็น มุมปากที่กระตุกขึ้นก็ได้สร้างความรู้สึกหวาดหวั่นให้กับคนถูกกระทำ ทว่าเธอก็ยังทำใจกล้ายกมืออีกข้าง
อีกไม่กี่วันมหาวิทยาลัยก็ใกล้จะเปิดภาคเรียนที่สอง เมษาเดินทางกลับมาถึงคอนโดที่กรุงเทพฯ ก็โทรนัดเพื่อนสนิทอีกคนที่เรียนสาขาการออกแบบสื่อดิจิทัลด้วยกันไปเที่ยวคืนนี้สองสาวชวนกันแต่งตัวด้วยชุดเดรสทรงสั้นแนบเรือนร่าง โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งและหน้าอกกลมเด่นเย้ายวนแก่สายตาของชายหนุ่มในคราบนักดื่ม และทั้งคู่ก็มาถึง K.T. Demon Pub ในช่วงสองทุ่มกว่า“เลิกกันแล้วมึงก็อย่าเศร้านักเลย ผ่อนคลายเข้าไว้ แล้วก็ยก”อบเชยว่าพลางจับแก้วเหล้าผสมน้ำแข็งและโซดายัดใส่มือของเมษา ช่วงก่อนเพื่อนได้โทรมาระบายความช้ำใจทั้งหมดให้ฟัง เธอจึงกร่นด่าอดีตแฟนหนุ่มของเมษาไปหลายยกด้วยความเดือดดาลที่กล้าทำเรื่องต่ำทรามอย่างการนอกใจ และทำให้เพื่อนของเธอเสียใจไปหลายอาทิตย์อบเชยเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้ เธอเองก็เช่นกัน แต่จะปล่อยให้เพื่อนจมอยู่กับความทุกข์มันก็ไม่มีประโยชน์ ไม่สู้ใช้น้ำเมาและเสียงเพลงสร้างความสุขในคืนนี้ไม่ดีกว่าหรือในตอนที่เมษากลับบ้านและใช้โอกาสนี้ตัดใจจากผู้ชายไร้ยางอายที่คบกันได้เพียงเก้าเดือน สิงหาเป็นแฟนคนแรกที่เธอมี ด้วยความไร้ประสบการณ์เธอจึงเชื่อใจและไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าโกหก ทั
คิงส์ตันนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังดำขลับหลังโต๊ะทำงาน ไล่สายตาตรวจดูเอกสารของธุรกิจท่าเรือนำเข้าและส่งออก มือถือที่วางอยู่ใกล้กันก็ปรากฏแสงบนหน้าจอพร้อมกับอาการสั่น โชว์หราชื่อของคนที่โทรเข้ามามาเฟียหนุ่มวางแฟ้มในมือลง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย เลื่อนขึ้นไปทาบข้างหู“ครับม้า”“อาเฉิง นี่งานของลูกยุ่งมากเลยเหรอ หรือลืมไปแล้วว่ายังมีป๊ากับม้าอยู่ที่ฮ่องกง”น้ำเสียงตัดพ้อของผู้เป็นแม่ดังขึ้น หากลูกชายเพียงคนเดียวของบ้านขาดการไปนานกว่าสองสัปดาห์ ก็จะเป็นฝ่ายโทรมาเองเหมือนอย่างครั้งนี้ และเฉิงก็เป็นชื่อเล่นที่มีเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้นที่เรียกแบบนี้ได้“ช่วงนี้งานผมยุ่งมากครับ ท่าเรือกำลังจะมีสินค้าส่งออกล็อตใหญ่ ผมเลยต้องตรวจเช็กให้ละเอียด ม้าอย่าน้อยใจไปเลยนะครับ”“ยุ่งยังไงก็ควรจะหาเวลาโทรมาบ้าง”“ขอโทษครับ ต่อไปผมจะโทรไปหาบ่อย ๆ ม้าไม่ได้แค่จะโทรมาบ่นที่ผมไม่มีเวลาให้ใช่ไหมครับ”คิงส์ตันเอ่ยเข้าเรื่องทันที เขารู้ดีว่าการที่ผู้เป็นแม่โทรมาหาก่อนนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่คิดถึงลูกชาย แต่มีอีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือการดูตัว“สิ้นเดือนนี้ม้าได้นัดคนเอาไว้ที่ภัตตาคารเซียงหยง”“ใครอีกครับม้า”“ชื่อลี
คำเตือน : เนื้อหาในตอนนี้มีฉากความรุนแรง เลือดสาด“ผะ ผมขอโทษครับนาย ผมผิดไปแล้ว ไอ้สิงหามันยัดเงินให้ผม”ผู้จัดการผับน้ำตาคลอเบ้า ยกมือไหว้เรียกร้องการให้อภัย ที่ผ่านมาเขาตั้งใจทำงานอย่างระมัดระวัง อีกทั้งก่อนปล่อยบัตรวีไอพีให้ใครจะต้องเช็กประวัติให้ดี แต่ทว่าความหน้ามืดตามัวเห็นแก่เงินก็ได้ทำให้เขาละเลยหน้าที่ ปล่อยให้ศัตรูเข้ามาเหยียบที่นี่ได้โดยไร้การป้องกัน“อยากได้เงินของมัน แต่ไม่กลัวว่าจะโดนกูจับได้อย่างนั้นเหรอ มึงคิดว่ากูโง่มากหรือไง”คิงส์ตันถลึงตาใส่ มือหนาจับด้ามมีดแหลมคมปักลงบนพื้น อีกแค่นิดเดียวก็จะแทงลงบนหน้าขาของผู้จัดการผับอีกฝ่ายพรั่นพรึงจนหายใจไม่ทั่วท้อง เลื่อนแขนทั้งสองข้างเข้าไปกอดขาของผู้เป็นนายที่ชักมีดกลับไปถือไว้ แล้วหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“ผะ ผมขอโทษครับนาย ผมไม่ได้คิดกับนายแบบนั้น ตะ ตอนนั้นผมมีปัญหาเรื่องเงิน ผมจำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ นายให้โอกาสผมสักครั้งเถอะนะครับ”“หึ ร้อนเงินอย่างนั้นเหรอ งั้นก็แปลว่าถ้าใครยัดเงินให้มึง มึงก็จะปล่อยบัตรให้ใช่ไหม”“ผมผิดไปแล้ว วะ ไว้ชีวิตผมด้วยนะครับ ผมมีลูกเมียที่ต้องดูแล”ผู้จัดการผับส่ายหน้าระรัว เขากลัวมากจร