Share

ตอนที่ 8 งานวิวาห์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-30 21:54:28

หลังจากที่ทานอาหารกับแม่และยายเสร็จแล้วเราก็ต้องรีบกลับทันที ถึงแม้ว่ายายฉันจะขอร้องให้อยู่ต่ออีกนิดแต่อีตาบ้านั่นก็ปฏิเสธเสียงแข็งในทันที ในขณะที่ฉันกำลังจะก้าวเท้าขึ้นรถก็มีเสียงตะโกนเรียกมาจากที่ไกลๆ "ริสาเดี๋ยวก่อน! รอพี่ก่อน!" ฉันจึงหันไปมองตามเสียงเรียกนั้น จู่ๆก็มีร่างของผู้ชายคนหนึ่งกระโจนเข้ามากอดฉัน อ้อมกอดที่อบอุ่นและอ่อนโยนแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่หมอก รักแรกและรักเดียวของฉันแต่ฉันก็รู้ว่าเขาคิดกับฉันเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น เขาจึงอยู่ในฐานะพี่ชายที่แสนดีของฉัน "พี่นึกว่าจะไม่ใช่ริสาแล้วเสียอีก นึกว่าทักคนผิด เพราะริสาของพี่โตขึ้นมากและก็สวยมากด้วย" พอพี่หมากพูดจบประโยคก็มีมือมากระชากแขนฉันจนถอยห่างจากพี่หมอก มือนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอีตาประธานนั่น "ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครและกล้าดียังมากอดว่าที่ภรรยาของชาวบ้านเขากันน่ะครับ" โอ้พระเจ้า! น้ำเสียงที่เย็นชาและเชือดเฉือนอารมณ์นี่มันอะไรกัน ถ้าหากว่าเราเป็นคนรักกันจริงๆฉันคงคิดว่าเขาคงจะหึงฉันเป็นแน่ แต่เพราะนี่คือการแสดงฉันเลยไม่รู้สึกอะไร "ต้องขอโทษด้วยครับ ผมเป็นพี่ชายของริสานะครับชื่อเมฆา แต่จะเรียกหมอกก็ได้ครับ บ้านเราอยู่ติดกันเลยเหมือนเป็นพี่น้องกันน่ะครับ และผมก็ไม่ทราบจริงๆว่าน้องพาแฟนมาด้วย" พี่หมอกตอบกลับด้วยใบหน้าที่ตกใจเล็กน้อย ก็ต้องตกใจสิเราไม่เจอกันนานพอได้เจอกันก็ดันเจอฉันมากับผู้ชายที่บอกว่าฉันคือว่าที่ภรรยาอีก "อ๋อเหรอครับ งั้นดีเลย คุณพี่ชายข้างบ้าน อาทิตย์หน้าเราสองคนจะแต่งงานกันคุณก็มาให้ได้นะครับ งั้นผมขอตัวก่อนเรามีงานต้องทำกันอีกเยอะน่ะครับ" อีตานั่นพูดจบก็ลากฉันขึ้นรถทันทีโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ร่ำลาพี่หมอกเลย ฉันได้แต่มองพี่หมอกด้วยสายตาละห้อย "แหม! เธอนี่ก็ร้ายไม่เบานะ ยอมให้ผู้ชายกอดโดยที่ไม่ขัดขืนเลยสักนิด ผู้หญิงนี่ทำตัวง่ายเหมือนกันหมดหรือเปล่านะ?" โอ้โห!คุณพระ! ปีศาจปากสุนัขกลับมาแล้ว คำพูดที่ฟังแล้วเจ็บจี๊ดแบบนี้ถ้าเป็นยัยจินละก็หมอนี่ได้โดนฉีกปากเป็นแน่ แต่เพราะว่าเป็นฉันก็เลยรอดไป "ก็ไม่รู้สิคะ! จะยากหรือจะง่ายมันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าคนนั้นเป็นใครค่ะ" ฉันพูดแบบเชิดๆเริดๆทำเอาหมอนั่นหน้าบูดเป็นตูดลิงไปเลย แอบสะใจอยู่นิดๆนะเนี่ย เมื่อถึงกรุงเทพฯตอนนั้นก็ดึกมากแล้วเราจึงต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับที่พักของตัวเอง เช้าวันต่อมา (กริ๊งงงงงงงงสายเรียกเข้า) ฉันที่ยังตื่นไม่เต็มตาก็กดรับสายด้วยเสียงที่งัวเงีย "สวัสดีครับคุณมาริสา วันนี้คุณมีนัดลองชุดแต่งงานกับท่านประธานตอน9โมงนะครับ เตรียมตัวให้พร้อมนะครับอีกครึ่งชั่วโมงท่านจะไปรับคุณด้วยตัวเองครับ" เสียงปลายสายทำเอาฉันตาสว่างทันที ฉันเหลือบดูนาฬิกาตอนนี้เวลา 8.00น. ด้วยความตกใจฉันจึงรีบกระโดดออกจากที่นอนทันที ผ่านไปครึ่งชั่วโมงหมอนั่นก็มารับฉันถึงที่บ้าน ระหว่างทางที่ไปสตูดิโอเราไม่พูดจากันสักคำ ในใจฉันได้แต่คิดว่าหรือเขาจะยังโกรธที่ฉันพูดเมื่อวานไม่หายแต่ฉันก็ไม่สนใจหรอกเพราะเขาพูดไม่ดีกับฉันก่อน เมื่อถึงที่สตูดิโอเราก็ใช้เวลาทั้งวันในการเลือกชุดและถ่ายรูป ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นคนละเอียดรอบคอบหรือเขาอยากจะแกล้งปั่นหัวฉันกันแน่ เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ งานแต่งงานของเราก็มาถึง ในงานเต็มไปด้วยนักธุรกิจชื่อดัง เซเลป ดารา และนักข่าวมากมายที่สนใจในเรื่องนี้ ทั้งที่ในงานมีผู้คนมากมายแต่ฉันกลับรู้สึกเหงา ตื่นเต้น ประหม่า และกลัวในเวลาเดียวกัน ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการแต่งงานแบบหลอกๆแต่ฉันก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ฉันพยามยามมองหาเพื่อนรักทั้งสองคนของฉันเพราะตั้งแต่วันที่สองคนนั้นรู้ความจริงพวกเขาก็หายเงียบไปเลย ฉันรู้สึกเสียใจมากแต่ฉันก็แอบหวังว่าสองคนนั้นจะมา เมื่อถึงเวลาเริ่มงานฉันจึงรีบลุกขึ้นและกำลังจะก้าวขาออกจากห้องแต่งตัวในตอนที่ประตูห้องแต่งตัวเปิดขึ้นมีคนสองคนยืนอยู่หน้าประตูรอฉันอยู่ สองคนนั้นก็คือจินกับเจ็ทนั่นเอง ฉันดีใจมากจึงโผลเข้าไปกอดสองคนนั้นพร้อมกับร้องไห้โฮ "ฉันนึกว่าพวกแกจะไม่มาหาฉันเสียแล้ว ฉันรอพวกแกตั้งนาน รู้ไหมฉันเสียใจมากแค่ไหน" ฉันพูดพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยทำให้ยัยจินต้องร้องไห้ตาม "โถ่เอ๊ย! ถ้าพวกฉันไม่มาใครจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้แกหล่ะยัยโง่ แกมีแค่พวกฉันที่เป็นเพื่อนนี่" ยัยจินพูดพร้อมกับร้องไห้ตามฉัน "นี่พวกเธอหยุดร้องกันเสียที ฉันจะร้องไห้ตามแล้วนะ แล้วก็ริสาวันนี้ฉันจะเป็นคนส่งตัวเจ้าสาวให้เจ้าบ่าวแทนพ่อแกเอง และฉันก็จะบอกกับเขาว่าถึงจะแต่งงานแบบหลอกๆแต่เขาก็ห้ามทำแกเสียใจเด็ดขาด" เราสามคนยืนกอดกันร้องไห้อยู่พักหนึ่งจากนั้นก็รีบเดินเข้าพิธีทันที ในระหว่างทางที่เดินไปนั้นเสียงปรบมือดังสนั่นยิ่งทำเอาฉันตื่นเข้าไปใหญ่แต่ดีที่ได้เจ็ทคอยช่วยให้กำลังใจอยู่ข้างๆฉันจึงผ่อนคลายลง เมื่อถึงหน้าบาทหลวงเพื่อที่จะสาบานตนว่าเป็นสามีภรรยากันเราทั้งสองก็ได้กล่าวคำสาบานตนและเมื่อกล่าวเสร็จก็มีเสียงเชียร์ดังขึ้น "จูบเลย! จูบเลย!" ทันใดนั้นเขาก็เอามือทั้งสองข้างมาจับที่ใบหน้าฉันจากนั้นก็ก้มลงมาเอาริมฝีปากมาประกบริมฝีปากฉัน นี่สินะที่เขาเรียกว่าจูบ คุณพระคุณเจ้าเกิดมาฉันเพิ่งเคยเจอแบบนี้และฉันต้องทำยังไงต่อไปหล่ะเนี่ย!!!!

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 25 ตอนจบ

    ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ จากคนที่เคยคิดว่าไม่น่าจะมารักกันได้ ก็กลับกลายเป็นว่าได้มารักกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วหลังจากวันที่ฉันและคุณศรันย์ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ในทุกๆวันที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสามีและภรรยาเรามีความสุขกันมาก คุณศรันย์เคยขอฉันแต่งงานใหม่ แต่ฉันก็ปฏิเสธไป เพราะเราได้แต่งงานกันไปครั้งนึงแล้ว ถึงแม้ว่าการแต่งงานในตอนนั้นมันจะเป็นงานแต่งงานหลอกๆก็ตาม แต่ความรู้สึกที่เรามีให้กันในตอนนี้มันคือของจริง ฉันจึงคิดว่ามันไม่จำเป็นที่เราจะต้องจัดงานแต่งงานขึ้นมาอีก ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วนี่ก็ใกล้จะถึงวันครบรอบ 30 ปีที่ก่อตั้งบริษัท เดอะวันแล้ว ฉันและคุณศรันย์เรายุ่งกับการเตรียมงานกันอย่างมาก เพราะเราตั้งใจว่าจะทำให้ทุกคนที่มางานได้รับความสุขกลับไป ธีมส์ของงานในครั้งนี้คือ "วันพิเศษ แด่คนที่พิเศษ" รายละเอียดของงานคืออยากให้คนที่มาร่วมงานได้บอกความรู้สึกที่มีให้อีกฝ่ายได้รับรู้ หากอีกฝ่ายตอบรับความรู้สึกนั้น เรามีของรางวัลให้ไปเที่ยวพักรีสอร์ท 2วัน 1คืน (ซึ่งแน่นอนว่ารีสอร์ทนั้นเป็นของบ้านฉันเอง) ในขณะที่เรากำลังเตรียมง

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 24 สิ้นสุดสัญญา

    ช่วงเวลาในตอนนี้มันช่างพิเศษเสียเหลือเกิน ฉันได้อยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของชายที่ฉันไม่คิดว่าจะได้มารักกัน ใบหน้าของฉันแนบกับหน้าอกของเขาและได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับว่าหัวใจดวงนั้นจะระเบิดออกมาใส่หน้าฉันเสียให้ได้ เรายืนกอดกันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็พูดกับฉันว่า "ฉันว่าเรามาจบสัญญานี่กันดีกว่านะ" เมื่อฉันได้ยินแบบนั้นก็หน้าซีดและใจสั่น น้ำตาก็ไหลมาคลอๆที่เบ้าตา ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอตอบกลับเขาไปว่า "ที่คุณทำมาทั้งหมดนี้เพียงเพื่ออยากจะจบสัญญานี่หรือคะ ได้ค่ะ! งั้นเรามาจบสัญญากันเถอะ!" ฉันพูดจบก็หันหลังเพื่อที่จะเดินหนีออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด เพราะไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาของฉันในขณะที่ฉันกำลังหันหลังเพื่อก้าวเดินหนีไปนั้น เขาก็คว้าแขนของฉันแล้วดึงกลับไปกอดอีกครั้งแล้วพูดว่า "นี่! ฟังฉันพูดให้จบก่อนสิ! เธอจะรีบไปไหน ทำตัวเป็นนางเอกละครไปได้ ที่ฉันหมายถึงก็คือให้เรายุติสัญญาจอมปลอมนี่ แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ต่างหาก ยัยบื้อเอ๊ย!" เมื่อได้ยินแบบนั้นฉันก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก โอ้ย!ทำไมฉันถึงได้ทำอะไรน่าอายแบบนั้นกันนะ! ยัยมาริสายัยโง่เอ๊ย! "ขอโทษนะคะ ที่ฉันด่ว

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 23 คำอธิฐานที่อยากให้เป็นจริง

    ในชีวิตฉันเคยหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีคนมาทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ แล้วในวันนั้นฉันคงจะมีความสุขมากๆ แต่ไม่คิดว่าวันนั้นที่ฉันหวังเอาไว้จะมาถึง เพราะเขาคนนี้ทำให้ความหวังของฉันเป็นจริง ความสุขที่คิดไว้ก็เกิดขึ้นจริง และมากกว่าที่คาดคิดไว้เสียอีกในตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจว่าเขาทำทั้งหมดนี้เพื่ออะไร จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ฉันก็มีความสุขมากกับสิ่งที่เขาทำให้ ไม่ว่าเขาจะทำไปเพื่ออะไรก็ตาม ขอแค่ให้เขาอยู่ข้างฉันแบบนี้ก็พอ คำอธิฐานในวันเกิดปีนี้ที่ฉันอยากจะขอก็คือ ฉันอยากให้เราได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปตลอดกาล และไม่อยากให้สัญญาจอมปลอมนั้นต้องจบลง เพราะตอนนี้ใจของฉันไม่ใช่ของฉันอีกต่อไปแล้วฉันยืนหลับตาและอธิฐานอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงพูดขึ้นมาว่า "นี่เธอ! จะขออะไรหนักหนา เธอขอนานไปแล้วนะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงให้เธอไม่ไหวหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า" เสียงนั้นทำเอาฉันต้องรีบลืมตาขึ้นมาทันที เพราะกลัวว่าหากฉันหลับตานานกว่านี้เขาอาจจะพูดแซวฉันอีกก็เป็นได้ "ก็คุณเป็นคนบอกให้ฉันอธิฐานเองนี่คะ ฉันก็เลยขอเยอะหน่อย เผื่อว่าจะสมหวังกับเขาบ้าง" ฉันพูดตอบกลับเขา และเขาก็ถามฉันกลับมาว่า "แล้วเธอขออะไร

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 22 ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    หลังจากงานเลี้ยงจบลง ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ วันเวลาผ่านไปได้สองเดือนครึ่งแล้วหลังจากที่เราแต่งงานกัน เหลือเวลาอีก15วันเท่านั้น สัญญาของเราสองคนก็จะจบลงวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันตื่นมาตามปกติ แต่ที่แปลกไปจากเดิมก็คือ ฉันลืมตามมาเจอเขานอนอยู่ข้างๆพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้และพูดทักทายฉันว่า "อรุณสวัสดิ์ ตื่นเสียทีนะยัยขี้เซา ฉันมานอนอยู่ข้างๆตั้งนานยังไม่รู้สึกตัวอีก ถ้าเกิดว่ามีใครทำมิดีมิร้ายกับเธอจะทำยังไง" มันก็จริงอย่างที่เขาว่า เพราะฉันไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตอนไหน แล้วทำไมเขาถึงได้มานอนอยู่ข้างๆฉันได้หล่ะ? พอคิดได้อย่างนั้นฉันเลยถามออกไป "แล้วคุณเข้ามาห้องฉันได้ยังไงคะ แถมยังมานอนข้างๆฉันอีก นี่คุณคิดจะทำอะไรฉันคะ ไม่ได้นะคุณ! ถึงเราจะเป็นสามีภรรยากันก็จริง แต่มันก็แค่ในนาม คุณไม่มีสิทธิทำอะไรฉันนะคะ" พอฉันพูดจบเขาก็หัวเราะลั่นและพูดว่า "นี่เธอ! เพี้ยนหรือเปล่า? นี่บ้านฉัน ฉันก็ต้องมีกุญแจไขเข้ามาอยู่แล้ว ที่ฉันเข้ามาเพราะฉันเคาะประตูเรียกเธอตั้งนานแล้วไม่มีเสียงตอบรับ ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรเลยรีบเข้ามาดู แต่เห็นเธอยังนอนกรนอยู่แถมละเมอด้วย และฉันขอบอกตรงนี้เล

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 21 งานเลี้ยงเต้นรำ

    เมื่อเราสองคนได้ของขวัญและชุดที่จะใส่ไปออกงานแล้ว เราก็เดินทางไปสถานที่จัดงานทันที เราเดินทางมาถึงสถานที่หนึ่ง ที่เหมือนกับคฤหาสน์ที่ดูหรูหราเหมือนกับในละคร ทางเข้าสองข้างทางมีดอกไม้หลากสียาวไปจนถึงตัวคฤหาสน์ ข้างหน้าก่อนเข้าไปในตัวอาคารมีน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ทุกอย่างมันเหมือนกับเราอยู่ในฉากละครฉากหนึ่ง ที่เป็นฉากของพวกไฮโซมางานเลี้ยงกัน ทุกคนแต่งตัวจัดเต็มไม่มีใครยอมใคร ทั้งหญิงและชายแต่งตัวดูดีกันทุกคน เมื่อเราสองคนเดินเข้าไปในงาน สิ่งที่ฉันเห็นคือ ความสวยงามอลังการงานสร้าง ยิ่งกว่าอยู่ในละครเสียอีก ทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่ของแพงๆ จะหยิบจะจับอะไรทีต้องระวังอย่างมาก เพราะกลัวว่าถ้าทำพังจะไม่มีปัญญาจ่าย ในขณะที่ฉันกำลังยืนอึ้งอยู่นั้น เขาก็จับมือฉันและพูดว่า "อย่ายืนอึ้งนาน ถึงเธอจะทำอะไรพังก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันชดใช้ให้ เราไปหาคุณปู่กันเถอะ" เขาพูดพร้อมยิ้มเยาะฉัน และเราก็เดินไปหาคุณปู่เพื่อมอบของขวัญให้ "คุณปู่สวัสดีค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณปู่ ริสาขอให้คุณปู่มีอายุยืนนานอยู่กับหลานๆไปนานๆนะคะ" ฉันกล่าวสวัสสดีพร้อมอวยพรท่าน และท่านก็หัวเราะชอบใจและ

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 20 ดั่งความฝัน

    ตอนเป็นเด็ก ฉันเคยฝันอยากเป็นเจ้าหญิงที่ได้แต่งงานกับเจ้าชายรูปงามและครองรักกันอย่างมีความสุขตราบนานเท่านาน แต่พอฉันเติบโตขึ้น จึงทำให้ได้รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ความฝัน ในชีวิตจริงการที่เราได้พบเจอคนดีๆสักคน คนที่เขารักเราจริงไม่ทิ้งเราไปไหนไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็ตาม เขาก็จะอยู่เคียงข้างเราเสมอ ถ้าฉันได้เจอกับคนๆนั้นฉันจะรักษาเขาไว้ให้ดีที่สุดในขณะที่ฉันกำลังฝันถึงเจ้าชายรูปงามที่กำลังจะได้จุมพิตกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งตื่นจากฝัน "กริ๊งงงงงงงงง" มันเป็นเสียงโทรศัพท์นั่นเอง แล้วฉันก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันอยู่ใกล้ๆฉัน ฉันจึงลืมตาขึ้นดู แล้วฉันก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมแขนของใครสักคน ฉันจึงนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ ฉันจึงได้รู้ว่าอ้อมแขนนี้เป็นของใครและนั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า ฉันจึงค่อยๆขยับตัวลุกออกมาจากตรงนั้น แต่ก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า "ตื่นแล้วหรือ หลับสบายไหมยัยขี้เซา" ครั้งนี้เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เห็นแล้วละลาย ทำให้ฉันเคลิ้มไปอยู่ครู่หนึ่ง "ขอโทษนะคะ ที่ฉันมานอนตรงนี้ คุณคงจะอึดอันน่าดู ฉันจะรีบกลับห้องตัวเองเด

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status